วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 0 - 0 เวสต์แฮม (เอฟเอคัพ)


...โอกาสที่หลุดลอย….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1

-----------------------เบนเทเก้-----------------------
----อัลเลน-----------เทเซร่า-------------ไอบ์-----
-------------บรานาแกน---------สจ๊วต-------------
สมิธ------ลอฟเรน-------คอลเกอร์-------ไคลน์
-----------------------มินโยเล่-----------------------

_______ เกมเอฟเอคัพกับโจทย์เก่าอย่างเวสต์แฮมที่ฤดูนี้ชนะลิเวอร์พูลไป-กลับได้ในลีค ด้วยความที่โปรแกรมชุกชุมยิ่งกว่ายุงหน้าฝน คล็อปเลยโรเตชั่นหันมาใช้เด็กเล่นซะเยอะ แถมตัวสำรองก็วัยละอ่อนทั้งนั้น
-------------------------------------------------------

________ เริ่มเกมมาเวสต์แฮมก็ว่ิ่งไล่อัดก่อนเลย ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่พวกเค้าใช้เล่นงานลิเวอร์พูลอย่างได้ผลมาก่อน ส่วนลิเวอร์พูลเน้นไล่บริเวณวงกลมกลางสนาม จังหวะรุกเอาแผงกลางยืนรองบอลสูง เกมทางซ้ายทำได้ลื่นในช่วงต้น

________ ช่วง 20 นาทีแรกของเกมแม้จะเปิดเกมเร็วแลกกันแต่ไม่ค่อยได้ลุ้นประตูทั้งคู่ เวสต์แฮมเก็บบอลเล่นดีกว่า ลิเวอร์พูลเอาบอลขึ้นหน้าได้น้อย แต่พอผ่าน 20 นาทีของเกมไปเป็นลิเวอร์พูลที่เริ่มทำเร็ว พลิกหนีตัวไล่จ่ายบอลขึ้นหน้าได้ดีขึ้น เกมทางซ้ายเริ่มได้เปิด

_______  เวสต์แฮมเริ่มไล่ไม่ถึงบอลและไล่กันน้อยลง แถมมีนักเตะเจ็บต้องเปลี่ยนออกสองคนในนาที 35 โอไบรอันแทนทอมกิ้น และ 37 เจลาวิชแทนคูยาเต้(อันนี้เจ็บมั้ง ไม่งั้นไม่น่าเปลี่ยนออก ตัวสำคัญ) และเกมของเวสต์แฮมก็ดูมั่วๆ ชอบกล ส่วนลิเวอร์พูลได้บอลมากกว่าแล้ว เอาขึ้นหน้าได้สะดวกขึ้น แต่จังหวะะเข้าทำยังมีน้อย และที่มีก็แทบไม่ได้ลุ้น จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง เวสต์แฮมลงมาเร่งเกมได้ดุเดือดมาก วิ่งไล่ตั้งแต่แดนหน้า กดดันลิเวอร์พูลได้ดีเอาบอลมาป้วนเปี้ยนใกล้เขตโทษได้ตลอด ส่วนลิเวอร์พูลยังพยายามพาบอลขึ้นหน้าด้วยบอลสั้น แม้ว่าจะโดนตัดและบอลไปไม่ได้รัวๆ ก็ตาม

_______ สิบนาทีของครึ่งหลังผ่านไป เวสต์แฮมเริ่มเพลาการวิ่งไล่ลง ประกอบกับบอลสั้นของลิเวอร์พูลเริ่มแงะงัดกันขึ้นไปข้างหน้าได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แถมยังหันมาวิ่งไล่ในแดนหน้าให้บ้าง พลิกกลับเป็นฝ่ายกดดันเวสต์แฮมจนถึงได้ลุ้นยิงลุ้นเปิดบ้าง

_______ เวสต์แฮมเริ่มเล่นเกมรุกไม่ออก บอลไม่ถึงหน้า แนวรับก็คุมพื้นที่สุดท้ายไม่ดี ลิเวอร์พูลเจาะได้บ้าง มีโอกาสในกรอบเขตโทษนิดๆ หน่อยๆ อยู่เรื่อย นาที 70 เวสต์แฮมเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายเอาอันโตนิโอลงแทนโมเสส แต่เกมไม่เปลี่ยน ลิเวอร์พูลยังคงวิ่งไล่ ทำเร็ว กดดันแนวรับได้ต่อเนื่องและได้ลุ้นถึงยิงด้วย เกมดีกว่าชัดเจนแล้ว

_______ นาที 80 โอโจ้ได้ลงแทนไอบ์ ทีมขยับมาเล่น 4-4-2 มีโอโจ้ยืนเป็นหน้าเพิ่มอีกคน เกมยังไม่เปลี่ยน นาที 86 ซินแคลร์ได้ลงแทนบรานาแกน ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลยังพาบอลไปวนหน้าเขตโทษคู่ต่อสู้ได้ต่อเนื่อง แต่เวสต์แฮมเริ่มมีฮึดบุกกลับมาได้บ้างแล้วหลังโดนบี้อยู่ในแดนตัวเองมานาน

_______ นาที 89 เอนริเก้ลงมาแทนเทเซร่า แล้วก็ทำงามไส้ด้วยการเปิดฟรีคิกไม่ขึ้น ทีมโดนโต้เกือบเป็นเรื่อง ท้ายเกมและทดเจ็บ ลิเวอร์พูลหาโอกาสลุ้นไม่ได้ ส่วนเวสต์แฮมคุมเกมได้ดีขึ้นแต่เกมรุกก็ไม่ได้มีอะไร ดีสุดคืออันโตนิโอผลักเอนริเก้จนได้โหม่งชนเสาแค่นั้น จบเกม 0-0 ต้องไปเตะรีเพลย์กันต่อ
-----------------------------------------

_______ โชคดีนิดๆ ที่ไม่เสียจุดโทษทั้งๆ ที่แฮนด์บอลไปสองครั้ง ครั้งที่สองของคอลเกอร์น่าโดนมาก, ไม่โดนตั้งเตะสองจังหวะในเขตโทษ ในตอนนี้มินโยเล่คว้าบอลคืนหลัง ดูแล้วไม่น่าใช่การสกัด

_______ บอกตามตรง ตอนเห็นรายชื่อตัวจริงตัวสำรองกะว่าไปแล้วค้าบ

_______ ไม่ได้คิดว่าคล็อปพลาด เพราะเกมมันเตะถี่จริงๆ เดือนเดียว 9 นัดบ้าไปแล้ว แถมกลางสัปดาห์ยังมีจ่ออยู่อีกนัด จะให้เอาตัวหลักลงมาอีกเกรงว่าอย่าว่าแต่วิ่ง เดินจะไม่ไหวกันเอา

_______ แต่สุดท้ายของเป็นความสดนี่ล่ะครับที่ช่วยทีมได้เยอะ

_______ เวสต์แฮมเคยวิ่งไล่บี้จนลิเวอร์พูลเละมาสองนัดแล้ว แต่นัดนี้พวกเขาไล่ได้ดีมากๆ อยู่เพียงแค่ราว 10 นาทีของแต่ละครึ่งเท่านั้น ยิ่งพอช่วงกลางครึ่งหลังเป็นต้นไปนี่ยุบชัดเลย วิ่งตามบอลน้อยลง ทำทางน้อยลง ในทางกลับกันลิเวอร์พูลกลายเป็นฝ่ายวิ่งไล่ได้ดีในช่วงเวลานั้น คือเกมช่วงนาที 55-85 ประมาณสามสิบนาทีนี้กดเวสต์แฮมได้อยู่หมัดเลย ได้ลุ้นเปิดลุ้นยิงในกรอบเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่คมกันไปเอง ถ้าเอาตัวหลักลง ดูเทียบกับเกมที่ผ่านๆ มาสงสัยว่าพวก ลูคัส ชาน เฟอมิโน่ ลัลลาน่า จะเดินเล่นหนักกว่าพวกเวสต์แฮมในนัดนี้อีกมั้งครับ

_______ ก็ต้องให้เครดิตว่าคล็อปซื้อสดแล้วเวิร์คครับ ถ้าซื้อเก๋าไม่รู้ป่านนี้จะเป็นไง

_______ นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องฟอร์มผู้เล่น ทางฝั่งเวสต์แฮมต้องบอกว่าตัวรุกวันนี้ดับหมด โดยเฉพาะปาเย่นี่ฟอร์มสะเทือนซางไม่แพ้ไอบ์เลย  แถมซวยต้องเปลี่ยนทีมตั้งสองตำแหน่งตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกต้องเสียเวลาจูนกันอีก กลับกันทางฝั่งลิเวอร์พูล บรานาแกนกับสจ๊วตเล่นได้ดีมากๆ ในเรื่องการเก็บบอล เล่นบอลสั้น และพลิกบอลขึ้นหน้า เป็นส่วนสำคัญมากที่ทำให้เวสต์แฮมไล่แล้วเหนื่อยฟรี ประตูก็ไม่ได้ แรงหมดอีกต่างหาก

_______ เด็กสองคนนี้คือคีย์แมน -คนสำคัญ- ที่ทำให้นัดนี้ทีมเล่นดีกว่าเวสต์แฮมครับ

_______ มันน่าเสียดายมากๆ ที่เล่นในบ้าน เล่นดีกว่า มีโอกาสแต่ไม่ชนะ และการเตะรีเพลย์ก็เหมือนนับ 1 ใหม่ เวสต์แฮมจะกลับมารับมือการพลิกบอลเล่นของเด็กสองคนนี้ได้ดีกว่าเดิมแน่ นัดนี้จึงเป็นโอกาสที่หลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย

_______ แต่โอกาสที่เสียไปก็แลกมาด้วยการที่ตัวหลักได้พักบ้าง, เด็กดาวรุ่งได้เพิ่มประสบการณ์มากขึ้น ในสถานการณ์ที่ทีมดูท่าจะไม่ได้เสริมทีมอะไรจริงจังแล้ว

_______ โอกาสที่เสียไป...ก็นับว่าไม่เสียเปล่าเสียทีเดียว
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ค่อนไปทางดี

มินโยเล่ - ออกมาเล่นกลางอากาศไม่ดีเลย เปิดบอลยาวแย่ แต่กับบอลสั้น บอลคืนหลัง การแตะหนีตัวไล่ เขาทำได้ดีมาก มีส่วนช่วยในการเอาบอลขึ้นหน้าได้โดยไม่ต้องโยนมั่วซัวได้ในระดับนึง (ไม่ใช่ทีมจะไม่โยนยาวเลยนะ แต่มันน้อยลงกว่าที่ควร-ที่เคยเป็น)

สมิธ - อ่านเกมดีขึ้น เกมรับดีขึ้น คู่ต่อสู้เปิดได้ลำบากแล้ว ยังมีหลุดพื้นที่อยู่บ้างแต่ยังตามมาบังทันไม่ปล่อยเซ็นเตอร์ตายเดี่ยวแบบนัดก่อนๆ เกมรุกเติมไม่มากนักแต่การเชื่อมเกมถือว่าดีทีเดียว

ลอฟเรน - เล่นเป็นตัวชน โฉ่งฉ่างได้โล่ เสียฟาล์วง่าย เสียบชวนไล่ออก ครึ่งแรกที่โหม่งวืดนี่เรียกว่าอายนักเตะไทยลีคเลยก็แล้วกัน(หาดูในไฮไลท์ รับรองว่ารู้แน่ว่าหมายถึงลูกไหน) แต่ๆๆ ถึงอย่างนั้นวันนี้ลอฟเรนเข้าสกัดหยุดคู่ต่อสู้ได้ดี ไม่มีไหม้ ลูกกลางอากาศก็ช่วยได้เยอะทีเดียว

คอลเกอร์ - เข้าบอลดูดีกว่าลอฟเรน แต่ในทางกลับกันคือเล่นเพลย์เซฟกว่าด้วย จังหวะ 50/50 ไม่เสี่ยงเสียบ ยืนบังรอบล็อครอเพื่อนอย่างเดียว ซึ่งบางจังหวะน่าจะอัดไปเลยมากกว่า ตำแหน่งยืนดีทีเดียว...ดีกว่าตอนอยู่ทีมเก่า ผ่านบอลสั้นขึ้นหน้าไม่ค่อยได้แต่จ่ายไม่เสียก็โอเคอยู่

ไคลน์ - เป็นเกมที่ทำได้ดีทั้งรุกทั้งรับ เกมรับรักษาพื้นที่ได้หมด บังทางเปิดบอลได้เยี่ยม ฝืนเปิดหนีบล็อคไคลน์นี่ล้นออกหลังหมด วิ่งทำทางช่วยเชื่อมเกมได้ตลอด พื้นที่มุมธงไม่เติมไปเล่นก็จริงแต่ตัดเข้าในสลับจ่ายเรียดไปให้เพื่อนเล่นต่อได้ดีหลายครั้ง

บรานาแกน - พลิกบอลเล่นได้ดีมาก โดนไล่เอาตัวรอดได้ เชื่อมเกมหลังไปหน้าได้ดี เติมขึ้นไปเล่นเกมรุกมากกว่าสจ๊วต ทำได้ดีในเรื่องเก็บบอล(เกมรุก) และหาพื้นที่เล่น เป็นตัวเปิดฟรีคิกที่พอใช้ได้ คือยังพอได้ลุ้นบ้างแม้จะไม่เด็ดขาดเท่าไหร่ แย่หน่อยก็เรื่องการเข้าปะทะที่แย่งบอลได้น้อย และบอลวางยาวไม่ดี/ไม่มี

สจ๊วต - เหมือนบรานาแกน เหมือนไปยันเรื่องเข้าปะทะและวางบอลยาว เป็นเวอร์ชั่นยืนต่ำบ่อยกว่า

ไอบ์ - เป็นน้องชาน

เทเซร่า - พลิกบอลขึ้นหน้าได้ดี บอลชิ่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่มีจังหวะจับ/พลิกแล้วจ่ายที่ดีหลายครั้ง เปิดบอลเกมรุกได้ลื่่นไหล ด้อยไปหน่อยในเรื่องการบังบอลที่บังได้โคตรแย่ และการจบสกอร์ที่ไม่เด็ดขาด แต่โดยรวมก็ต้องนับว่าเล่นได้ดีทีเดียว ดีกว่าฟอร์มพวกตัวหลักในบางนัดด้วยซ้ำ

อัลเลน - ครึ่งแรกเล่นได้ดีมาก ถ้าใครอยากรู้ว่ากองกลางต้อง “วิ่งทำทางรับบอล” กับ “อ่านเกม” ยังไงดูอัลเลนในครึ่งแรกนัดนี้แล้วทำตามได้เลย ครึ่งหลังก็ยังโอเคอยู่แต่เริ่มวิ่งได้น้อยลงก็เลยพลอยหายไปจากเกมด้วย และทั้งเกมถ้าใครอยากรู้ว่ากองกลางต้อง “เข้าปะทะ” กับ “ให้บอลเร็ว” ยังไงก็สามารถดูอัลเลนเล่นนัดนี้ได้...แล้วอย่าทำตาม

เบนเทเก้ - ถ้ามองในฐานะตัวจบสกอร์(ST-สไตร์เกอร์) … ฟอร์มแหลกเหลวมาก หาตำแหน่งในเขตโทษแทบไม่ได้เลย สปีดต้น สปีดกลาง สปีดปลาย สปีดไหนก็เอาชนะเซ็นเตอร์อย่างรีดที่ก็ไม่ได้เร็วอะไรนักไม่ได้เลย วิ่งทำทางรอชาร์จรอโหม่งไม่เห็นดีสักลูก แต่ถ้ามองในฐานะกองหน้า(CF-เซ็นเตอร์ฟอร์เวิร์ด) เขาค้ำแนวรับได้ดี เก็บบอลใช้ได้เลย เพื่อนจ่ายยัดไปยังพอค้ำบอลคืนเพื่อนได้ บอลโด่งโหม่งชงได้มั่งไม่ได้มั่ง อย่างน้อยก็ไม่ถึงกับเสียหมด และบอลเร็วจังหวะเดียว/บอลให้ตัววิ่งสอดถือว่าทำได้พอใช้

ตัวสำรอง

โอโจ้ - ได้บอลน้อย มีส่วนร่วมกับเกมน้อย ไม่สร้างความแตกต่าง

ซินแคลร์ - ได้บอลน้อย มีส่วนร่วมกับเกมน้อย สร้างความแตกต่าง...คือเกมรุกแย่ลง

เอนริเก้ - ดีแล้วที่ไม่ได้บอล มีส่วนร่วมกับเกมรุกคู่ต่อสู้ดี สร้างความแตกต่าง...เกือบโดนโต้ไส้แตก 1 เกือบโดนโหม่งไส้แตก 1

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...บรานาแกน&สจ๊วต…ถ้าเล่นแค่ครึ่งแรก อัลเลน ไม่ต้องสืบ ถ้าดู 90 นาทีและต้องเลือกคนเดียวก็จะเป็นไคลน์หรือเทเซร่า แต่การประสานงานของบรานาแกนกับสจ๊วตนับนี้ทำได้ดีมากจริง ทีมชนะในเรื่องรูปเกมเพราะการเล่นร่วมกันของสองคนนี้
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น