วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559

นอริช 4-5 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...เปลี่ยนจาก อวสานโลกสวย เป็น The 5th wave ได้สำเร็จ….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-2-1

-----------------------เฟอมิโน่-----------------------
มิลเนอร์-----------------------------------------ไอบ์
-------------ชาน---------------เฮนเดอร์สัน--------
--------------------------ลูคัส-------------------------
โมเรโน่--------ซาโก้---------ตูเร่-----------ไคลน์
-----------------------มินโยเล่-----------------------

_______ หลังจากเล่นแอนฟิลด์มา 3 นัดติด วันนี้ลิเวอร์พูลได้ออกนอกบ้านสักที ไปเยือนนอริชที่ออกอาการคิดถึงแชมเปี้ยนชิพ คะแนนอยู่เหนือโซนตกชั้นแค่สองคะแนน นัดนี้คล็อปกลับมาใช้ทีมชุดที่ดีที่สุด(ได้แค่นี้ล่ะ) มีเปลี่ยนนิดหน่อยคือไอบ์ได้เป็นตัวจริงแทนลัลลาน่า
-------------------------------------------------------

________ เริ่มเกมมาเป็นนอริชที่ทำได้ดีกว่า ขึ้นมาคุมพื้นที่สูง ไล่บอลเร็วได้ดีตั้งแต่แดนหน้า ลิเวอร์พูลตั้งเกมไม่ได้เก็บบอลไม่ได้โต้แทบไม่ได้ ได้แต่สาดบอลทิ้งให้นอริชเอามาบุกใส่ต่อ ยังดีว่านอริชยังเจาะเข้าพื้นที่สุดท้ายไม่ค่อยได้ แม้ว่า 15 นาทีแรกเกมจะดีกว่ามาก

________ ผ่าน 15 นาทีแรกไป ลิเวอร์พูลเริ่มโงหัวขึ้นจากหน้าเขตโทษตัวเองบ้าง เกมทางซ้ายเริ่มขยับได้ด้วยไอบ์กับโมเรโน่ นาที 18 ก็ออกนำได้สำเร็จจากการพลิกบอลของไอบ์ให้โมเรโน่ หลอกจะโยนแต่จ่ายเรียดให้มิลเนอร์ออกบอลทะลุช่องให้เฟอมิโน่ทะลุเข้าไปยิงมุมแคบแฉลบขาผู้รักษาประตูเข้าไปได้ 1-0

_______ หลังจากสกอร์ขยับ ลิเวอร์พูลเล่นกันได้คึกคักขึ้น ส่วนนอริชเกมสะดุดไปพักใหญ่ ออกบอลพลาดกันไปเอง เกมกลับมาสูสี แต่ยิ่งเล่นนานเข้านอริชก็เริ่มกลับมาทำได้ดีในการหยุดเกมของลิเวอร์พูล รวมไปถึงเอมโบกานี่ที่เล่นได้ต่อเนื่อง เอาบอลลงสลับหาที่รับบอลได้ตลอด

_______ นาที 29 เข้าสูตร จังหวะต่อเนื่องจากเตะมุมที่ลิเวอร์พูลสกัดไม่ขาด บอลลอยกลับเข้าเขตโทษ เอมโบกานี่เอาบอลลงก่อนตอกส้นผ่านซาโก้กับมินโยเล่เข้าไปได้ 1-1 ถึงตรงนี้เกมเปลี่ยนทันที ไอ้ที่แค่สูสีอยู่กลายเป็นนอริชทำได้ดีกว่า เอมโบกานี่ยิ่งเล่นยิ่งดี แถมนาที 41 ลิเวอร์พูลยังมาโดนอีกลูก จากจังหวะฮูลาแฮนด์ให้บอลตามช่อง แนวรับลิเวอร์พูลขาตายกันหมด ปล่อยให้เนย์สมิทวิ่งไปรับบอลก่อนยิงมุมแคบ 2-1 และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลลงมาขยับแผงกลางให้ยืนสูงขึ้นแต่ดูเหมือนรูปเกมยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ส่วนนอริชเริ่มไล่ในแดนหน้าน้อยลงบ้าง แต่การหยุดการขึ้นเกมรุกของลิเวอร์พูลยังทำได้ดีอยู่ นาที 53 โมเรโน่ก็โชว์เทพ ด้วยการอัดเนย์สมิทจากด้านหลัง 2 ดอกติดๆ ในเขตโทษ จะเหลือเหรอ จุดโทษสิครับ ฮูลาแฮนยิงไม่ดีเท่าไหร่แต่ดีพอจะเป็นประตู 3-1

_______ พอสกอร์ขยับ คล็อปที่นัดนี้นั่งดูอยู่นานลุกขึ้นมาโวยวายทันที ส่วนลูกทีมก็เหมือนรู้สึกตัวว่าฟุตบอลมันต้องยิงคู่ต่อสู้นี่หว่า ขยับวิ่งกันมากขึ้น เร่งเกมมากขึ้น แล้วก็ได้ประตูไล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วในนาที 55 ไคลน์เติมขึ้นมาเปิดบอลเข้ากลาง เฟอมิโน่ไม่เก็บบอลหรือเข้าไม่ทันก็ไม่แน่ใจ บอลเลยมาถึงเฮนเดอร์สันกลางประตูหวดตูมหาย 3-2

_______ ลิเวอร์พูลยังเล่นได้คึกคักต่อเนื่อง นาที 59 ลัลลาน่าได้ลงมาแทนไอบ์ ทีมปรับมาเล่น 4-2-3-1 โดยเอาลัลลาน่ามายืนหน้าต่ำใกล้เฟอมิโน่ซึ่งทำให้เกมดีขึ้นมาก ทีมเริ่มเก็บบอลสองจังหวะรุกได้มากขึ้น เอาบอลขึ้นหน้าได้มากขึ้น ส่วนนอริชนอกจากจะไล่บอลกันน้อยลงแล้วดูเหมือนการตั้งเกมก็เริ่มจะมีปัญหา เอาบอลขึ้นหน้าได้น้อยลง

_______ นาที 63 ลิเวอร์พูลโต้เร็วได้สุดยอด จากกลางสนาม เฟอมิโน่ให้บอลไปที่มิลเนอร์ ต่อไปที่ลัลลาน่า ตวัดเร็วเข้ากลางให้เฟอมิโน่ได้ยิงในเขตโทษ 3-3 ลูกนี้เป็นจังหวะการทำประตูแบบทีมเวิร์คที่ดีที่สุดในรอบหลายนัดเลยทีเดียว

_______ สกอร์กลับมาเท่าแต่ใจไม่เท่าแล้ว นอริชยิ่งเล่นยิ่งหงอย บอลมาไม่ถึงหน้า บอลก็ไล่น้อยลง กลับกันทางลิเวอร์พูลยิ่งเล่นยิ่งคึก ในที่สุดนาที 75 ลิเวอร์พูลก็แซงนำจนได้ จากความผิดพลาดของนอริชเอง มาร์ตินเก็บบอลได้กลางสนามแล้วแต่เลือกจ่ายย้อนกลับหลัง มิลเนอร์วิ่งไปเอาได้ก่อนลากเข้าเขตโทษไปแต่งหนึ่งจังหวะยิงเข้าไปไม่พลาด 4-3

_______ จังหวะเดียวกันหลังจากได้ประตู เบนเทเก้ได้ลงแทนเฮนเดอร์สัน ลิเวอร์พูลหันมาดึงจังหวะเล่นช้าลง พอเข้าสิบนาทีสุดท้าย นอริชเริ่มกลับมาเร่งเกมรุกได้มากขึ้น บอลมาถึงข้างหน้าได้บอลขึ้นแต่ยังเปิดบอลได้น้อย ส่วนลิเวอร์พูลโต้ได้น้อยแต่ปิดพื้นที่สุดท้ายไว้ได้หมด ไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ได้ยิงหรือเปิดบอลมาลุ้นได้เท่าไหร่

_______ นาที 89 คอลเกอร์ลงมาแทนโมเรโน่ รูปเกมยังไม่เปลี่ยน นอริชพยายามจะรุกแต่กดดันแนวรับได้น้อย ลิเวอร์พูลโต้หรือทำเกมรุกลุ้นเพิ่มไม่เป็นชิ้นเป็นอันแต่เกมรับยังดี แฟนบอลในสนามก็ร้องเพลงกันเฮฮา ทั้งผู้จัดการทีมทั้งตัวสำรองก็ยิ้มรับสามแต้มกันหมดแล้ว

_______ นาที 90+2 จากฟรีคิกในแดนนอริช บอลวางยาวมาแนวรับลิเวอร์พูลเคลียร์ไม่ขาดบอลไปเข้าทางบาสซง แล้วบาสซงก็ซัดเต็มข้อเข้าประตูไปหน้าตาเฉย 4-4 เล่นเอาเพลงที่กำลังร้องๆ กันอยู่กริบกันไปทั้งสนาม

_______ คล็อปกลับไปนั่งหน้าเครียด คนดูก็เซ็งกันหมดแล้ว เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่แล้วทดเจ็บนาทีสุดท้าย บอลเปิดเข้าเขตโทษ คอลเกอร์เอาบอลลงแล้วยิงไปติดบล็อค บอลเด้งออกมาเข้าทางลัลลาน่ายิงสวนเข้าไปได้ 5-4

_______ ….เล่นเอาคลั่งกันไปทั้งคนยิง ทั้งผู้จัดการทีม ทั้งคนดู ดีใจจนแทบคลั่ง และจบเกมด้วย 3 แต้มสุดทรมานใจ
-----------------------------------------

_______ ยิงกัน 9 ลูกนี่คงไม่ต้องสืบนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นในสนาม เกมรับวันนี้แย่มาก ยิงเป็นเข้า อยากจะถามว่ามีกองหลังกับผู้รักษาประตูไว้ทำไม แค่ยิงตรงกรอบก็เป็นประตูแล้ว เวรกรรม ฝั่งนอริชอ่ะช่างเข้าเถอะ แต่ของทีมเราเนี่ย...จะพัฒนากว่านี้มั่งได้มั้ย

_______ การเตะถี่แล้วขนาดทีมเล็กเริ่มส่งผลแล้วนะ คล็อปคงต้องโรเตชั่นดีๆ นัดนี้เวลาส่วนใหญ่ในสนามที่เกมเป็นรองก็เพราะวิ่งไม่ออก วันนี้ผู้เล่นลิเวอร์พูลดูเนือยมากๆ วิ่งน้อย ขนาดคนที่วิ่งมากแล้วอย่างเฮนเดอร์สันหรือมิลเนอร์ดูแล้วก็ยังรู้สึกว่าวิ่งน้อยกว่าทุกวันจนทำให้เกมเป็นรองชัด

_______ จุดเปลี่ยนของเกมอยู่ที่หลังจากโดน 3-1 แล้ว อีท่าไหนไม่รู้ล่ะ อย่างกับเปลี่ยนถ่านตุ๊กตา ขยันวิ่งกันมากขึ้นทุกคน กระตือรือร้นมากกว่า 50 กว่านาทีก่อนหน้านั้นชัดเจน แล้วยังมาเห็นผลเร็วเพราะได้ประตูตี้ตื้นแค่สองนาทีถัดมา ถ้าตอนนั้นไม่เร่ง หรือเร่งแล้วไม่ได้ประตูเร็ว 4-1 อาจจะมาก่อน 3-2 ก็เป็นได้

_______ แท็คติคต้นเกมของคล็อปวันนี้ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ ทีมโดนไล่บี้แล้วเล่นไม่ได้เลย เฟอมิโน่ก็โดดเดี่ยวไปจนโดนรุมกินโต๊ะ เก็บบอลเล่นไม่ค่อยได้ ถ้าต้นเกมไม่ได้ประตูนำก่อนครึ่งแรกจะเป็นเกมที่ดูแย่กว่านี้อีก

_______ แต่ในขณะเดียวกัน วันนี้คล็อปแก้เกมได้ดีมาก ด้วยการส่งลัลลาน่าลงมา เกมดีขึ้นจริงๆ การมีคนไปเล่นใกล้เฟอมิโน่มากขึ้นทำให้เกมโต้กลับก็ดี การเก็บบอลแดนหน้าก็ดี ดีขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้ามาก รวมไปถึงการเปลี่ยนเบนเทเก้และคอลเกอร์ลงมา เข้าใจว่าเอาลงมาช่วยเกมตั้งเตะนั่นแหล่ะ

_______ ผู้จัดการทีมทำได้ดีแล้ว ก็ได้แต่หวังลูกทีมจะเร่งฟอร์มขึ้นมาให้มันใกล้เคียงกับฟอร์มผู้จัดการทีมบ้างนะ
-----------------------------------------

นัดนี้หลังเล่นไม่ค่อยดี หน้าเล่นได้โอเค

มินโยเล่ - ได้ลงด้วยเหรอ ..คือในความหมายว่าพี่จะไม่เซฟมั่งเหรอครับ เข้าใจว่าแต่ละลูกเนี่ยมันยาก ตอกส้นงี้ โดนกองหลังบังงี้ จุดโทษงี้ แต่ผู้รักษาประตูที่ดีมันต้องมีบ้างนะครับพี่ การเซฟลูกที่ไม่น่าจะเซฟได้เนี่ย ไม่งั้นเค้าจะเรียกเซฟเหรอ

โมเรโน่ - เล่นซะกองเชียร์สะท้านเลย เกมรับหลุดตำแหน่งบ่อย อ่านเกมรับไม่ดี มีทีเด็ดกับการทำเสียจุดโทษชนิดที่ต่อให้ ฯจารย์แกรับงานมาก็ยังต้องเป่า อะไรมันจะชัดเจนตำตาได้ขนาดนั้น ในขณะที่จังหวะขึ้นมาช่วยเล่นเกมรุกดูเป็นผู้เป็นคนกว่า...เล่นปีกเลยมั้ย

ซาโก้ - มีปัญหากับเอมโบคานี่ตลอดเกม หยุดไม่ได้ จังหวะประกบก็ไม่เหนียวแน่น ซ้อนแบ็คก็ไม่ช่วย ปล่อยให้มิลเนอร์วิ่งซ้อนอยู่คนเดียว วันนี้มีพลาดกับการเอาบอลขึ้นหน้าด้วย คือไม่ได้จ่ายพลาด แต่เล็งนานเหลือเกิน

ตูเร่ - มีปัญหากับเอมโบคานี่เช่นกัน ตูเร่ยังดูดีกว่าในเรื่องวิ่งเข้ามาหาบอล ปั้มบอล โดยรวมไม่ใช่วันที่เขาเล่นดีเท่าไหร่

ไคลน์ - วันนี้เติมเกมรุกเยอะแต่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้น้อย กระชากไปเองโดนเก็บกินเรียบ แต่ลูกเปิดยังทำแอสซิสได้หนนึง ส่วนเกมรับโดนเจาะไม่มากและรักษาพื้นที่ตัวเองได้ดี

ลูคัส - จังหวะปะทะทำได้เยี่ยม ปั๊กเดียวบอลหลุด แต่การวิ่งเข้าหาจุดปะทะเนี่ยทำได้แย่ คือถ้าคู่ต่อสู้ไม่วิ่งเข้ามาให้อัดลูคัสก็ช่วยได้น้อยเหลือเกิน เกมรับยังไม่เท่าไหร่ ที่แย่สุดของลูคัสวันนี้คือการเชื่อมเกม เขาขยับหาที่รับบอลน้อย เพื่อนจ่ายให้ยาก

ชาน - ทำให้ทีมมีครบ 11 คนในสนาม

เฮนเดอร์สัน - วิ่งน้อยกว่าทุกวันโดยเฉพาะวิ่งทำทางรับบอล ออกบอลไปที่ว่างได้ดีกว่าทุกคน แต่บอลเกมรุก บอลจังหวะโต้เร็วอะไรก็ไม่มีหรอก ไล่บอลหรือปะทะก็ทำได้ไม่ดีนัก แต่เฮนโด้เป็นหนึ่งในคนที่ฮึดได้มากที่สุดของทีมในช่วงที่พึ่งโดน 3-1 วิ่งเป็นม้า ยิงให้ทีมได้ด้วย ...แล้วก็โดนเปลี่ยนออก ทำไมไม่เป็นชานหว่า?

ไอบ์ - เกมมี 90 นาทีไอบ์เล่นดีอยู่ราว 5 นาที (ช่วงประมาณนาที 15-20) และมีส่วนร่วมกับประตูแรกเยอะอยู่ นอกจากนั้นก็ไปสบทบกับชานในการทำให้ทีมมีครบ 11 คนในสนาม

มิลเนอร์ - มีส่วนร่วมกับจังหวะเข้าทำเยอะผิดหูผิดตา แม้ไม่ใช่คนที่เริ่มต้นเกมรุก คือถ้าเพื่อนไม่วิ่งทำทางให้ก่อน มิลเนอร์ครีเอทจังหวะเองไม่ได้ แต่วันนี้่ให้บอลจังหวะเดียวได้เด่นหลายครั้ง โฉบไปเอาลูกคืนหลังมายิงได้ดีด้วย ส่วนเกมรับวันนี้ถือว่าทำได้น้อย ช่วยโมเรโน่ได้น้อยกว่าที่ควรด้วย ...ส่วนนึงคือโมเรโน่ก็ไม่ค่อยเน้นจะช่วยตัวเองสักเท่าไหร่

เฟอมิโน่ - มีส่วนร่วมกับทีมเยอะขึ้น ทั้งเชื่อมเกมและเกมรุก ทำได้ 2ประตูด้วย เริ่มปรับตัวให้เข้าทีม(ที่ไม่มีคูตินโย่)ได้ดีมากแล้ว ดูจะมีปัญหากับสภาพความฟิตอยู่บ้าง 15 นาทีท้ายทีไรเห็นวิ่งไม่ออกทุกที

ตัวสำรอง

ลัลลาน่า - ลงมาเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง คือส่วนนึงต้องบอกว่ามันเป็นการแก้ที่แทคติคมากกว่าจะเป็นลัลลาน่าลงมาเล่นดีมากๆ ด้วย แต่ถ้ามองฟอร์มเจ้าตัวอย่างเดียว ก็ต้องบอกว่าเขาวิ่งช่วยเชื่อมเกมได้ดีมากๆ ทำให้แดนหน้าเก็บบอลเล่นได้ โต้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้พื้นที่ตรงนั้นมันบอดอยู่ ยิ่งประตูสำคัญช่วยเปลี่ยนจาก อวสานโลกสวย เป็น the 5th wave ได้นี่เข้าตามาก

เบนเทเก้ - ตำแหน่งดี ขยับวิ่งได้โอเค เก็บบอลเล่นได้บ้าง เชื่อมกับเพื่อนยังไม่ค่อยดีนัก

คอลเกอร์ - คือตอนลงมาคงลงมาเน้นจะช่วยเคลียร์ลูกโยนเข้าเขตโทษ/ลูกตั้งเตะ แต่กลายเป็นว่าคอลเกอร์ได้เล่นและทำได้เด่นจนอยากแห่รอบเมืองกับจังหวะที่เอาบอลลงแล้วได้ยิงติดบล็อคจนลัลลาน่าได้ซ้ำนั้นแหล่ะ

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เจอร์เก้น คล็อป…เฟอมิโน่มีสองลูก ลัลลาน่ากับมิลเนอร์มี 1ยิง1จ่ายทั้งคู่ แต่การตัดสินใจเอาลัลลาน่าลงมา, กระตุ้นลูกทีมให้คึกขึ้นในช่วงตามหลัง 3-1,3-2 รวมไปถึงการเอาเบนเทเก้กับคอลเกอร์มาช่วยโหม่งก็ดูว่าคิดได้ละเอียดดี
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น