วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 0-1 สโต๊ค (รวมสองนัด 1-1,จุดโทษ 5-4) (แคปปิตอลวันคัพ)


...Joe Allen send Liverpool to Wembly!!!….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-2-1

-----------------------เฟอมิโน่-----------------------
----------ลัลลาน่า---------------มิลเนอร์----------
-------------ชาน---------------เฮนเดอร์สัน--------
--------------------------ลูคัส-------------------------
โมเรโน่--------ซาโก้-------ตูเร่------ฟลานาแกน
-----------------------มินโยเล่-----------------------

_______ เกมลีคคัพรอบรองนัดที่สองกับสโต๊ค นัดแรกลิเวอร์พูลชนะมาก่อน 1-0 นัดนี้แค่เสมอก็เข้าชิงหล่อๆ แล้ว คล็อปปรับทีมเล็กน้อยด้วยการส่งฟลานาแกนกับลัลลาน่าลงตัวจริง นอกนั้นยังเหมือนทีมนัดล่าสุด
-------------------------------------------------------

________ สโต๊คเริ่มเกมนี้ด้วยการยืนสูงพยาบามเปิดเกมบุก แบ็คลอยช่วยเชื่อมเกม ส่วนลิเวอร์พูลเลือกเล่นรับในแดน เน้นหาจังหวะวางยาวข้ามหัวกองหลังไปพื้นที่ว่าง ลิเวอร์พูลทำได้ดีในเกมรับเพราะคู่ต่อสู้พาบอลขึ้นมาใกล้เขตโทษไม่ได้เลย แต่เกมรุกตัวเองก็วังเวงโหวงเหวงไม่แพ้คู่ต่อสู้เหมือนกัน

________ แม้ลิเวอร์พูลจะหยุดไม่ให้สโต๊คเอาบอลขึ้นหน้าได้ดีเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีจังหวะผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะบอลฉวยโอกาสวางข้ามแผงกองหลังที่ลิเวอร์พูลยังพลาดอยู่ และทำให้สโต๊คได้ลุ้นยิงจากมุมแคบบ้าง โดนเร่งบ้าง ยังไม่ได้ประตูแต่ดูได้ลุ้นกว่าลิเวอร์พูลเยอะ เพราะลิเวอร์พูลเน้นเกมโต้อย่างเดียว ไม่เติมเกม ไม่เปิดเกมรุก ไม่ตามไปเก็บบอลจังหวะสองเกมรุก ซึ่งบอลไปไม่ถึงข้างหน้าเลย ได้ลุ้นก็แค่ฉาบฉวยนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้ใกล้เคียง

_______  เกมครึ่งแรกเล่นกันไปแบบเอื่อยๆ จนกระทั่งทดเจ็บนาทีแรก จังหวะบอลอยู่กลางสนาม โมเรโน่จะไปปั้มแต่พลาด โดนคู่ต่อสู้เอาบอลมาได้ก่อนจ่ายออกมาพื้นที่มุมเขตโทษด้านนั้น ซาโก้ตามเข้าไปซ้อนแต่ยืนห่าง คู่ต่อสู้เปิดเร็วเข้ากลาง ตูเร่ก็ประกบอนาโตวิชที่เข้าชาร์จไม่ดี โดนไปไม่เหลือ 1-0 ...จังหวะนี้จริงๆ แล้วอนาโตวิชล้ำหน้านะ แต่ไลน์แมนไม่ยกธง

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลกลับลงมารุก ไล่บอลมากขึ้น บอลไปถึงข้างหน้าได้มาก ในขณะที่พื้นที่ตัวเองก็เริ่มว่าง สโต๊คเริ่มโยนมาให้กองหน้าพักเล่นได้ต่อเนื่องเพราะเหลือดวลอยู่แค่เซ็นเตอร์ ไม่มีกองกลางมาเกะกะเท่าไหร่ ทำให้เกมครึ่งหลังเร็วและเปิดแลกกันมากขึ้น แต่ศักยภาพเกมรุกของทั้งคู่คงทำให้ทีมทีมที่ตกรอบไปแล้วได้แต่รำพึงว่า...นี่พวกพี่จะเข้าไปชิงจริงๆ เหรอ

_______ นาที 58 เบนเทเก้ได้ลงแทนเฮนเดอร์สันที่คาดว่าน่าจะมีอาการบาดเจ็บ..เพราะถ้าไม่เจ็บก็ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนออกทำไม ทีมปรับมาเล่น 4-2-3-1 กลางเกม(อีกแล้ว) เอาเฟอมิโน่ถอยไปยืนหลังเบนเทเก้ ถอยชานลงไปเท่าลูคัส ถึงตรงนี้สโต๊คเริ่มโยนยาวลึกได้ผลถึงขั้นได้ลุ้นเปิดลุ้นยิงแล้ว ในขณะที่ลิเวอร์พูลเข้าทำได้แบบเดียวคือโยนเข้าไปรัวๆ บอลตกทุกที่ในกรอบเขตโทษคู่ต่อสู้ยกเว้นหัวพวกเดียวกัน

_______กลางครึ่งหลังเริ่มเห็นผู้เล่นลิเวอร์พูลทะยอยหมดแรงกันไปตามๆ กัน ฟลานาแกนนี่หนักสุดเลยเพราะความฟิตคงยังไม่เต็มร้อย เฟอมิโน่ใกล้หมดแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ก็เริ่มวิ่งได้น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังดีว่าสโต๊คเองก็เริ่มหมดเหมือนกัน เอาบอลมาถึงหน้าได้แต่เปิดบอลเข้าทำไม่แม่น จะกระชากก็ไม่ไหว เกมเลยออกมาแนวปีกทีมหนึ่งโยนไปให้เซ็นเตอร์อีกทีมหนึ่งโหม่ง สลับกันอยู่อย่างนั้น

_______ เข้านาที 85 อัลเลนลงมาแทนตูเร่ ถอยลูคัสไปเป็นเซ็นเตอร์ คล็อปกะจะปิดเกมใน 90 นาทีกันไปเลย แต่ผลที่ได้คือชวนให้ปิดทีวีมากกว่า เพราะยังได้แต่โยนไปไหนไม่รู้กับโยนทำไมไม่รู้ ส่วนสโต๊คเองก็มาไม่ค่อยถึงสุดเส้น ได้เปิดน้อยกว่า แต่อัตราความเสียวไส้ไม่ต่างกัน คือไม่เสียวเลย

_______ จบเกม 90 นาที สโต๊คชนะ 1-0 ผลรวม 1-1 ต่อเวลาอีก 30 นาที

_______ต่อเวลาครึ่งแรก เกมเหมือนท้ายครึ่งหลังเป๊ะ

_______ ต่อเวลาครึ่งหลัง ไอบ์ได้ลงแทนฟลานาแกน มิลเนอร์ถอยไปเป็นแบ็คให้ ไอบ์ได้เล่นตัวลุก..ลี้ลุกลน แต่ก็ต้องถือว่าเป็นกำลังหลักในเกมรุกเพราะยังมีแรงเลี้ยงบอลอยู่ ลิเวอร์พูลขึ้นเกมเอาไว้เกือบ 10 นาที แต่ผลลัพธ์สุดท้ายยังไม่ต่างจากเดิม บอลไปทุกที่ที่ไม่มีพวกเดียวกันอยู่ ท้ายๆ เกมสโต๊คได้ขึ้นมาบุกบ้างนิดหน่อยก็ยังหาสาระอะไรไม่ได้เช่นเดิม สุดท้ายต้องลากไปดวลกันถึงจุดโทษ

_______ ช่วงดวลจุดโทษ สโต๊คได้ยิงก่อน ส่วนลิเวอร์พูลยิงตาม คนยิงให้ลิเวอร์พูล 5 คนแรกมี ลัลลาน่า ชาน เบนเทเก้ เฟอมิโน่ ลูคัส ตามลำดับ ซึ่งมีชานพลาดไปคนเดียว ส่วนทางสโต๊คก็มีเคร้าช์พลาดไปคนเดียวเช่นกัน (คนที่สองทั้งคู่)

_______ สุดท้าย คนที่หก ใครยิงให้สโต๊คไม่แน่ใจแต่ประเด็นคือติดเซฟ ส่วนทางลิเวอร์พูลอัลเลนยิงไม่พลาด พาทีมไปเวมบลี่ย์ได้สำเร็จ

_______ สรุป แพ้ในเวลา 1-0, ผลรวมสองนัด 1-1, ต่อเวลา 1-1, จุดโทษ 5-4 ลิเวอร์พูลเข้าไปชิงลีคคัพ บอลถ้วยโปรดได้สำเร็จ
-----------------------------------------

_______ นัดนี้เปลี่ยนทีมนิดหน่อย แต่แทคติคมีเปลี่ยนบ้างเหมือนกันคือตัวรุกสองคนคือลัลลาน่ากับมิลเนอร์ยืนใกล้กันมาก ทีมเน้นเจาะตรงกลางเยอะ เกมด้านขวานี่เลิกเล่นไปเลย ทางซ้ายมีบ้าง และเน้นเกมโต้เร็วเต็มสูบ ไม่ตั้งเกมเลย

_______ ผลคือเจ๊ง~

_______ ประสานงานกันไม่ได้เลย ทั้งกองกลางส่งบอลขึ้นหน้าแย่ ไม่ต้องพูดถึงบอลทะลุช่องหรือบอลผ่านให้ยิง เอาแค่บอลไปที่ว่างดีๆ ก็ไม่มีแล้ว ส่วนแนวรุกเองก็ประสานงานกันไม่ได้ ขนาดเน้นให้มายืนใกล้กันก็ยังเล่นด้วยกันไม่ค่อยได้ ชิ่งเป็นเสีย ทำให้เกมรุกวันนี้ดูแย่มาก ไร้จินตนาการสุดๆ และการเข้าทำแต่เพียงอย่างเดียวคือโยนเข้าไป...แบบมั่วๆ

_______ อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลนัดนี้ดูแล้วสงสารคนเล่นมาก ทั้งสองทีมเลยด้วยนะ เพราะทั้งคู่เริ่มหมดแรกตั้งแต่นาทีห้าสิบกว่าๆ แล้วนึกภาพดูว่าต้องเล่นมันอยู่อย่างนั้นอีกเกือบชั่วโมง(เพราะมีต่อเวลาอีก) รูปเกมตั้งแต่นาที 75+ นี่แทบอยากให้ข้ามไปยิงจุดโทษเลย เพราะทั้งสองฝ่ายไม่เหลือเรี่ยวแรงจะทำเกมรุกแบบเอาชนะคู่ต่อสู้ได้แล้ว คือต้องรออีกฝ่ายพลาดมันอย่างเดียวนั่นแหล่ะ

_______ นัดนี้ผมละคาใจกับการเปลี่ยนตัวของคล็อปจริงๆ คือเฮนโด้ถ้าไม่เจ็บเปลี่ยนออกนี่คงโกรธกันตาย แต่ก็ยังคิดว่าน่าจะเจ็บหรือไม่พร้อมเล่นต่อจริงๆ เพราะเกมหลังจากนั้นทีมก็โยนตูมๆ คล็อปคงไม่เปลี่ยนคนโยนดี(กว่าเพื่อนร่วมทีม)ออก แต่ที่คาใจมากคืออัลลัยทำให้คล็อปตัดสินใจถอดตูเร่ออกตอนส่งอัลเลนลง

_______ อัลเลนลงน่ะถูกแล้ว ทีมต้องการความสดและเกมบีบแบบนั้นจะใช้เด็กก็ไม่ใช่เรื่อง แต่นึงยังงัยยยเอาตูเร่ออกแล้วถอยลูคัสลงไปเซ็นเตอร์ เพราะเคร้าช์ก็ยังอยู่ในสนาม คือถ้าเกิดซวยโดนฟรีคิกใกล้หน่อย หรือว่าลูกเตะมุมสักสามสี่ลูกติดๆ มิตายหรอ

_______ ทีลัลลาน่าหรือเฟอมิโน่ที่หมดแล้วหมดอีกนี่ไม่เปลี่ยนออก อย่าว่าแต่….อีกคน เล่นมันยัน 120 นาทีนั่นแหล่ะ

_______ อ้อ แต่การเอาไอบ์ลงช่วงพักครึ่งของการต่อเวลานั่นผมเห็นด้วยนะ ฟลานาแกนหมดแล้วเหลืองแล้ว อยู่ต่อก็ช่วยอะไรไม่ได้ คือไม่ใช่แค่หมดแรงวิ่ง แต่แกแทบจะหมดแรงเดิน ขาอ่อนแล้ว แถมไอบ์ก็ยังป้วนเปี้ยนๆ ใกล้ๆ เขตโทษคู่ต่อสู้ได้บ้าง อย่างน้อยก็มีอะไรให้ลุ้นกว่าโยนมั่วๆ ให้คู่ต่อสู้สกัดทิ้งล่ะ

_______ สุดท้าย ไม่พูดถึงไม่ได้ มินโยเล่เจ๋งนะครับ จุดโทษ 6 ลูก แกพุ่งถูกทาง 4 ครั้ง และเซฟได้ถึง 2 ครั้ง (สโต๊คยิงตรงกรอบหมดนะ) และอีก 1 ครั้งที่มือโดนบอลแต่ปัดไม่ออก ถ้าจะเซฟได้แบบนี้นัดหน้ากองหลังอย่าปล่อยให้คู่ต่อสู้ยิงในกรอบ รวบแม่งเลยครัชช แล้วให้มินโยเล่เซฟลูกโทษเอา ดูจะได้ลุ้นกว่าเซฟลูกปกติ

_______ ผ่านนัดนี้ไปได้อย่างทุลักทุเล เดี๋ยวมีเอฟเอคัพอีก วิ่งเนี่ยไม่ต้องพูดถึงแล้ว แรงเดินจะมีกันมั้ยเนี่ย?
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้แบบอ่อนเปลี้ยเพลียแรง

มินโยเล่ - ไม่เจอลูกยาก ยากสุดคือต้องออกมาเล่นไกลนอกเขตก็ทำได้ดีมากหนึ่งครั้ง ขึ้นชกบอลกลางอากาศไม่ดีเท่าไหร่แต่ก็ยังปัดบอลออกหลังได้อยู่ นัดนี้ทำดีมีทีเด็ดกับช่วงดวลจุดโทษ

โมเรโน่ - ครึ่งแรกเน้นเกมรับ เวลาส่วนใหญ่ก็ทำได้ดีอยู่โดยเฉพาะการขึ้นมาช่วยไล่บอล แต่การไล่มั่วซั่วก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทีมเสียประตูสำคัญในเวลาเช่นกัน เกมรุกวันนี้ดับ เปิดแย่ ทำทางงั้นๆ ขึ้นไปได้ไม่สุดด้วย การเชื่อมเกมก็ถือว่าทำได้ไม่ค่อยดีนัก หนักไปทางเคาะคืน

ซาโก้ - ทั้งเกมสิ่งที่เขาทำได้ดีต่อเนื่องคือจังหวะบล็่อกลูกยิง ครึ่งแรกเล่นได้ดี แย่งโหม่งก่อนกองหน้าได้ แต่ครึ่งหลังพอทีมบุกมากขึ้นเริ่มมีปัญหา ยิ่งเล่นยิ่งหลอน มีโชว์โหม่งวืดในเขตโทษ มีโหม่งไม่ขาดอีกหลายครั้ง เอาบอลขึ้นหน้าช้า คิดนาน ดีว่าไม่จ่ายให้พานให้คู่ต่อสู้

ตูเร่ - ครึ่งแรกยังโอเค แต่โดยรวมเป็นวันที่เล่นไม่ดีเลย ลูกกลางอากาศมีปัญหากว่าซาโก้ จังหวะวิ่งตามตัววิ่งสอดก็ทำไม่ได้เลย ซ้อนเพื่อนไม่ต้องพูดถึง

ฟลานาแกน - ราวหนึ่งชั่วโมงแรกของเกมทำได้ดีโดยเฉพาะเกมรับ ส่วนการเติมขึ้นไปช่วยเกมก็ยังอยู่ในขั้นหน้าพอใจ แม้จะเปิดบอลได้แย่มากแต่บอลเชื่อมกับทำทางไม่แย่ แต่พอผ่านหนึ่งชั่วโมงไปแล้ว หมดแรงอย่างเห็นได้ชัด ขาอ่อน, หมดแรงวิ่ง, หมดแรงปะทะ ดีว่าสโต๊คเร่งไม่ขึ้นไม่งั้นทีมจะโดน 2-0 ไม่ก็เหลือ 10 คนก่อนหมด 90 นาทีแน่

ลูคัส - ครึ่งแรกเล่นได้เท่มาก มีวิ่งขึ้นมาอัดสูงหลายจังหวะด้วย แต่เชื่อมเกมไม่เท่เลย แค่แปะๆ ยังช้า ยิ่งพอเข้าครึ่งหลังยิ่งช่วยทีมได้น้อยลง เก็บบอลสองได้น้อยลง พอเฮนเดอร์สันไม่อยู่ลูคัสยังต้องเติมขึ้นมารองบอลเกมรุกในบางจังหวะก็ทำได้ไม่ดีนัก ช่วงเล่นเซนเตอร์ดูดีขึ้นกว่านัดนู๊นที่ได้เล่น แต่ก็ยังห่างไกลจากเซนเตอร์อาชีพอยู่

เฮนเดอร์สัน - บอลขึ้นหน้าไม่ดีเลย ได้แต่ขวางสนามไปที่ว่าง เกมรับและการวิ่งไล่ช่วยได้ดีตลอดครึ่งแรก ก่อนที่จะมาโดนเปลี่ยนออกในครึ่งหลัง

ลูกเทพ - คล็อปคงเก็บไว้เรียกโชคลาภมั้งครับ โบราณว่าไว้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะขนาดยิงจุดโทษไม่เข้าทีมยังได้ชิงเลยนะ ของเค้าแรงจริง

ลัลลาน่า - ครึ่งแรกก็วิ่งพริ้วดี อาจจะทำเกมรุกได้ไม่ดีนักแต่การวิ่งทำทางและการไล่บอลถือว่าช่วยทีมได้ไม่น้อย แต่พอครึ่งหลังยิ่งเล่นยิ่งยุบ ท้ายเกมนี่เดินเล่นแล้ว

มิลเนอร์ - ช่วยอะไรทีมไม่ได้มากไปกว่าวิ่งไล่บอลกับขยับรับบอลเชื่อมเกม เขาทำได้ดีมากในเรื่องนั้น มีช่วงต้นครึ่งหลังที่กลายเป็นตัวโยนเข้าเขตโทษตัวหลักแต่ก็โยนได้ไม่ดี

เฟอมิโน่ - คล้ายลัลลาน่า ในเวอร์ชั่นที่ช่วยเกมรับได้น้อยกว่าและหมดแรงก่อน

ตัวสำรอง

เบนเทเก้ - ยืนห่างกรอบบ่อยไป อันนี้ไม่รู้ว่าโดนสั่งมาหรือไง แต่วิธีเล่นออกมาคล้ายตอนเฟอมิโน่ยืนหน้าเลย ซึ่งไม่ค่อยเวิร์คสำหรับเจ้าตัว ช่วยเก็บบอลและเชื่อมเกมได้ประมาณนึง หลายจังหวะว่างแล้วเพื่อนก็ไม่จ่าย แต่บางจังหวะก็เน้นจะไปรอจังเลยทางซ้ายน่ะ โดนดักอยู่เต็มเพื่อนจะให้ยังไง

อัลเลน - เชื่อมเกมได้ดีกว่าลูคัสในช่วงก่อนหน้า (ที่เฮนโด้ออกไปแล้ว) แต่กับเกมรุกก็ไม่มีอะไร และเกมรับก็ได้แค่วิ่งไล่ปิดพื้นที่ ตัดกลับไม่ได้

ไอบ์ - ยังคงเล่นสไตล์แมงหวี่อยู่ งุ้งงิ้งๆ อะไรอยู่หน้าเขตโทษคู่ต่อสู้ก่อนจะยิงไปไหนไม่รู้ สลับกับเปิดทำไมไม่รู้เช่นเดิม ...แต่ย้ำอีกทีว่า อย่างน้อยนัดนี้เขาก็ลงมาเพิ่มมิติเกมรุกจากที่ทีมโยนมันอย่างเดียวเป็นเลี้ยงจี้เข้ามากดดันได้บ้าง

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ซิมง มินโยเล่…ถ้าเกมจบ 90 นาที ผมจะเลือกมิลเนอร์ที่ดูอึดกว่าชาวบ้านหน่อย ถึงไม่มีทีเด็ดทีขาดแต่ก็ช่วยทีมได้เรื่อยๆ ไม่มีผลุบๆ โผล่ๆ แบบคนอื่น แต่พอเกมลากมาถึงดวลจุดโทษก็ต้องเลือกมินโยเล่ไม่ต้องสืบครับ เซฟได้ 2 ลูกก็โคตรเท่แล้ว พุ่งถูกทางถึง 4 จาก 6 ครั้งนี่ถือว่าเป็นผู้รักษาประตูที่โหดมากๆ สำหรับการดวลจุดโทษ
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น