วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

สโต๊ค 0-1 ลิเวอร์พูล (CC รอบรองนัดแรก)


...ถึงจะปู่แต่ก็สู้นะเฟ้ย...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-3

-----------------------เฟอมิโน่-----------------------
----------คูตินโย่----------------ลัลลาน่า----------
------------ชาน-------ลูคัส---------อัลเลน--------
โมเรโน่-------ลอฟเรน---------ตูเร่---------ไคลน์
-----------------------มินโยเล่-----------------------

_______ ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมแคปปิตอล วัน คัพรอบรองชนะเลิศนัดแรกกับสโต๊ค นัดนี้คล็อปส่งเบนเทเก้ลงเป็นตัวหลักในม้านั่งสำรอง แล้วส่งเฟอมิโน่ลงไปยืนเป็นหน้าเป้าจำเป็นอีกครั้ง นอกนั้นก็มีชื่อของอัลเลนกับตูเร่โผล่มาเป็นตัวจริงกับเค้าด้วย
-------------------------------------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเร่งเกมเร็วตั้งแต่ต้น แผงหลังดันสูง แผงกลางเติมขึ้นไปเล่นเกมรุกหน้า-ในเขตโทษตลอด รวมถึงวิ่งไล่บอลในแดนหน้าอย่างต่อเนื่อง เกมรุกทางด้านซ้ายลื่นไหลเพราะมีทั้งคูตินโย่ ชาน โมเรโน่ชวนกันเล่น สโต๊คเก็บบอลไม่ได้ โต้ไม่ได้ เสียบอลตั้งแต่กลางสนาม 10 นาทีแรกเป็นเกมของลิเวอร์พูลแทบจะฝ่ายเดียว

________ ผ่าน 10 นาทีแรกไป เกมเริ่มช้าลง สโต๊คเก็บบอลได้มากขึ้นแต่ยังเอาบอลขึ้นหน้าไม่ค่อยได้ ลิเวอร์พูลแม้เกมรุกจะดูผ่อนไปบ้างแต่เกมยังดูดีกว่าชัดเจน เกมรุกด้านซ้ายและตรงกลางยังกดดันแนวรับได้ตลอด

_______ นาที 19 คล็อปก็ได้กุมขมับครั้งแรก คูตินโย่เจ็บเองเล่นต่อไม่ได้ ไอบ์ได้ลงสนามมาแทน ซึ่งเกมของลิเวอร์พูลก็เริ่มสะดุดไปตามคาด โดยเฉพาะเกมฝั่งซ้าย

_______ เข้าครึ่งชั่วโมงของเกม สโต๊คเร่ิ่มต่อบอลดีขึ้นมาถึงด้านหน้ามากขึ้น แต่ยังคงไม่ได้เปิดบอลเข้าไปกดดัน ส่วนลิเวอร์พูลหันไปขึ้นเกมด้านขวาด้วยลัลลาน่ามากขึ้นเพราะเกมทางซ้ายเริ่มหวังไม่ได้แล้ว

_______ นาที 34 เกมทำท่าจะบันเทิงมากขึ้นเพราะลอฟเรนเจ็บเล่นต่อไม่ไหวไปอีกคน คล็อปส่งมิลเนอร์ที่พึ่งหายเจ็บลงมาแทน แล้วถอยลูคัสไปยืนเซ็นเตอร์ เกมของลิเวอร์พูลเริ่มรวนและต้องมาปรับจังหวะการขึ้นบอลกันใหม่

_______ แต่แล้วนาที 37 จากจังหวะทำเร็วของมิลเนอร์ ให้บอลทางริมเส้นขวาไปที่ลัลลาน่า ลากไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนหักเรียดเข้ากลาง อัลเลนเข้าถึงบอลก่อนแต่หลอกจ่ายไปเสาสองให้ไอบ์จับบอลยิงย้อนกลับไปเสาแรกได้สำเร็จ 1-0 บอล 3-4 จังหวะที่เล่นกันจนได้ประตูครั้งนี้แนวรับสโต๊คยืนห่างตลอด ดูสมาธิไม่ดีเอามากๆ

_______ หลังได้ประตูนำ ผู้เล่นลิเวอร์พูลดูมั่นใจขึ้น ออกบอลจับบอลได้ดูดีขึ้น ในขณะที่สโต๊คเองพยายามฮึดเล่นเกมรุกมากกว่าเดิม ได้ลุ้นจากเตะมุมและลูกโยนจากริมเส้นด้วย แต่จบสกอร์ไม่ดีกันเอง จบครึ่งแรกที่ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง สโต๊คกลับมาเปิดหน้าลุยเต็มที่ แผงหลังดันสูง แบ็คลอยขึ้นมาช่วยต่อบอล เกมรุกไม่รอต่อบอลจนถึงมุมธงแล้ว โยนใส่หน้าเขตโทษตั้งแต่บอลอยู่กลางสนามเลย ส่วนลิเวอร์พูลเล่นเกมรับในแดนมากขึ้น สกัดบอลโด่งได้อยู่ แต่เก็บบอลเล่นไม่ได้ เกมโต้โต้ได้บ้างแต่ไม่ต่อเนื่อง

_______ ลิเวอร์พูลถ้าโต้จังหวะแรกไม่ได้(ซึ่งทำไม่ค่อยได้จริงๆ) ก็จะหันมาดึงช้าเต็มที่ เกมไม่ค่อยไปไหน แต่ที่แย่กว่าคือสโต๊คที่เล่นกันผิดฟอร์ม ไล่บอลน้อย เกมรุกไม่ดุดันแถมเกมรับยังเข้าบอลหลวมๆ อีก ทำให้ลิเวอร์พูลยังเป็นฝ่ายคุมเกมได้ดีกว่า

_______ ยิ่งเล่นสโต๊คยิ่งหมดมุข โยนเข้าไปมั่วๆ ก็อาศัยเก็บบอลสองเอามากดดันได้บ้างแต่ไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพาย ส่วนลิเวอร์พูลยิ่งเล่นยิ่งรับ ทั้งลัลลาน่าและไอบ์ลงไปช่วยเกมริมเส้นแบบสุดลิ่มทิ่มประตูมาก ไม่ใช่แค่คอยวิ่งตามแบ็คที่วิ่งสอดเท่านั้น หลายครั้งยืนกันเป็นแบ็คตัวแรกเลยด้วยซ้ำแล้วแบ็คตัวจริงถอยไปช่วยซ้อนช่วยสกัดในเขตโทษ เกมโต้เน้นฉาบฉวยเอา เปิดไปได้ก็เอา ไม่ได้ก็ไม่ขึ้นไปเก็บบอลสองกันแล้ว

_______ นาที 79 เบนเทเก้ได้ลงแทนอัลเลน บอลสาดทิ้งขึ้นหน้าจากที่เก็บไม่ได้เลยเปลี่ยนเป็นเก็บได้นิดหน่อยแต่ก็ยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่าดี อย่างไรก็ตามเกมรับของลิเวอร์พูลยังกัดฟันรับมือลูกโยนใส่เขตโทษได้ดีอยู่ ที่เรียกว่ากัดฟันเพราะมีหลายครั้งที่ต้องโหนโหม่งกันสุดตัว, ทิ้งตัวสไตล์กันสุดขา แต่ที่ว่าดีก็เพราะสโต๊คยังไม่ได้จบสกอร์จะๆ แบบล่อเป้าเลย

_______ ช่วงทดเจ็บ ตูเร่เองก็เริ่มกระเผลกแต่เปลี่ยนไม่ได้แล้ว นาทีสุดท้ายช่วงทดเจ็บวอลเตอร์รับลูกโหม่งชงหลุดเข้าไปได้ยิงมุมแคบในเขตโทษ ดีว่าบอลหลุดเสาสองออกไป ลิเวอร์พูลเลยเอาตัวรอดมาได้แบบหวุดหวิด 1-0
-----------------------------------------

_______ ตารางแข่งแน่นเอี้ยด ดีว่ามีมิลเนอร์กลับมาเพิ่มเป็นทางเลือกอีกคน และคล็อปตัดสินใจดรอปเบนเทเก้อีกครั้ง หันกลับมาใช้เฟอมิโน่แล้วเน้นเกมเจาะตรงกลางเหมือนช่วงก่อนหน้า

_______ นัดนี้ถือว่าโชคดีมากๆ ที่ชนะมาได้ ไม่ใช่ว่าคล็อปจัดทีมไม่ดีหรือนักเตะเล่นไม่ออก แต่เป็นเพราะอาการบาดเจ็บและสภาพทีมที่ดูกระปลกกระเปลี้ยมากกว่า ทีมต้องเปลี่ยนตัวถึง 2 คนตั้งแต่ครึ่งแรกเพราะคูตินโย่และลอฟเรนเล่นต่อไม่ได้ ซึ่งในรายแรกนั้นส่งผลต่อทีมมากๆ จากที่บุกกดสโต๊คจนแบนอยู่หน้าเขตโทษ กลายเป็นต้องมาเล่นฉาบฉวยเอาเป็นครั้งๆ ไป ขึ้นไปขึงแบบต้นเกมไม่ได้แล้ว แถมกลางครึ่งหลังหลายคนในทีมก็เริ่มวิ่งไม่ออก ทั้งวิ่งไล่น้อยลง และบอลห่างตัวหน่อยตามไม่ทัน+หมดแรงปะทะให้เห็นหลายจังหวะทีเดียว

_______ นี่ยังไม่นับตูเร่ที่ต้องกัดฟันวิ่งอยู่ทั้งเกมด้วยนะ คือแกไม่ได้พลาดเรื่องอ่านเกมเลย แต่สปีดไม่ไหวแล้วจริงๆ แล้วยังต้องมาเจอเซ็นเตอร์จำเป็นอย่างลูคัสเข้าให้อีก ทำให้การสกัดบอลโด่ง ทั้งที่บอมบ์เข้าเขตโทษและวางยาวให้กองหน้าพักเป็นหน้าที่ของตูเร่อยู่คนเดียว ก้มหน้าวิ่งทั้งเกมล่ะ ดีว่าไม่เจ็บจนเล่นไม่ไหวไปอีกคน ไม่งั้นมีเละ!

_______ ในส่วนของคล็อป ทำได้ดีสำหรับแทคติคเริ่มเกม ในช่วงครึ่งหลัง การถอยลัลลาน่ากับไอบ์ลงไปช่วยเกมรับมากก็ถือว่าช่วยผ่อนหนักเป็นเบา เพราะสโต๊คหาโอกาสโยนบอลจากเส้นข้าง/เส้นหลังได้ยาก กองหลังเลยเอาอยู่ และการส่งเบนเทเก้ลงมาในท้ายเกม เข้าใจว่าส่งมาช่วยเล่นลูกตั้งเตะเสียมากกว่า คงไม่ได้จะเอามาโต้เต้ออะไรหรอก

_______ แต่ที่ไม่ค่อยเห็นด้วยก็เรื่องถอยลูคัสลงไปแทนที่จะเป็นชานที่น่าจะดีกว่า เข้าใจว่าเพราะไม่อยากเสียตัวออกบอลแดนกลางไป ซึ่งมันก็ได้ตามนั้นจริง คือการเชื่อมเกมแดนกลางยังไม่เสีย แต่ลูคัสก็ช่วยตูเร่ได้น้อยไปโดยเฉพาะลูกกลางอากาศ ถ้าแนวรุกสโต๊คทำได้ดีกว่านี้ คือโยนได้จากตำแหน่งที่ดีกว่านี้/บ่อยกว่านี้ งานงอกแน่ครับ

_______  ตัวแปรสำคัญของเกมยังคล้ายกับที่เจอกันในลีค คือสโต๊คเองเล่นไม่ดีเลย ในช่วง 10 นาทีแรกนั้นยังพูดได้ว่าเป็นแทคติคของคล็อปที่เล่นงานพวกเขาได้อยู่หมัด แต่หลังจากคูตินโย่เล่นต่อไม่ได้ และสโต๊คเองก็กดดันแนวรับได้จากลูกกลางอากาศ แต่พวกเขาไม่มีปัญญาเอาบอลไปเปิดที่สุดเส้น บอลง่ายๆ ก็ให้กันพลาด ตัวรุกที่เป็นความหวังอย่างโบยาน ชากิรี่ อนาโตวิชได้บอลแล้วก็ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ที่สำคัญคือเกมรับที่สติหลุดบ่อย รักษาตำแหน่งและประกบตัวรุกไม่ดี เสียประตูนั่นก็ใช่

_______ จบเกมนี้ ผู้เล่นลิเวอร์พูลล่อแฮมสตริงไปอีกสามคน ถ้าทีมยังดึงดันจะไปซื้อใครเพิ่มก็ตัวใครตัวมันละครับ เพราะจะได้เห็นเด็กๆ วิ่งกันให้ว่อนแน่ จากดูฟุตบอลจะกลายเป็นดูเดอะเฟซแอนฟิลด์กันแทนละ
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นค่อนไปทางดี

มินโยเล่ - วันนี้ออกมานอกเส้นเยอะ ช่วยตัดลูกกลางอากาศได้ดีกว่า 3-4 นัดที่ผ่านมา ตำแหน่งยืนก็ดี ช่วยเซฟลูกสำคัญเอาไว้ได้ด้วย ที่ไม่ดีก็เป็นเรื่องเปิดเกมไม่ดีเอามากๆ และจังหวะโต้กลับที่น่าจะพอช่วยได้บ้างเพราะสโต๊คลอยหมดแล้วก็ดันเปิดบอลเหมือนให้เค้ามาบุกใหม่ซะงั้น

โมเรโน่ - ต้นเกมขึ้นไปช่วยเล่นเกมรุกกับคูตินโย่ได้ดี พอคูตินโย่เจ็บก็แทบไม่ขึ้นไปอีกเลย ยิ่งพอได้ประตูแล้วโมเรโน่เฝ้าเส้นอย่างเดียว เกมรับไม่ถึงกับดีนัก ตัวต่อตัวโดนโยกหนีง่ายไป แต่พอมีเพื่อนมาช่วยซ้อนโมเรโน่ก็รักษาพื้นที่และคอยวิ่งไปบล็อคก่อนคู่ต่อสู้จะเปิดได้ดี

ลอฟเรน - เล่นลูกกลางอากาศได้ดี เก็บบอลเล่นใช้ได้ไม่ค่อยสาดทิ้ง ...แล้วก็ดันเจ็บไป

ตูเร่ - สปีดไม่เหลือแล้ว แรงปะทะก็ป้อแป้ สกัดไม่ขาดก็จัดว่าบ่อย แต่ตูเร่คือคนที่สกัดบอลได้มากที่สุดของทีมวันนี้แล้ว ทีเด็ดอยู่ตรงการเล่นแบบเจียมสังขารสุดๆ บอลห่างตัวนิดหรือมีตัวเร่งเข้ามาหน่อยพวกหวดทิ้งทันที แม้จะทำให้ทีมต้องโดนบุกต่อ แต่อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้ได้เล่นในพื้นที่สุดท้ายง่ายนัก

ไคลน์ - เชื่อมเกมได้ดี แต่เกมรุกไม่รู้ทำไมไม่ค่อยขึ้นไปถึงสุดเส้นทั้งๆ ที่มีพื้นที่ให้เล่นอยู่หลายครั้ง ส่วนเกมรับโดนกดดันน้อยกว่าโมเรโน่และทำได้น่าพอใจ สโต๊คแทบไม่ได้เปิดจากฝั่งนี้เลย

ลูคัส - ช่วงเล่นกลางก็ดักบอลได้ดี เก็บบอลเล่นได้ เชื่อมเกมใกล้ๆ ไม่มีปัญหา แต่พยายามจะออกบอลยาวๆ หรือบอลแนวลึกก็พลาดหมด พอถอยไปเล่นเซ็นเตอร์ ตำแหน่งยืนแย่มาก ประกบก็ห่าง คือจังหวะเข้าไปอัดหรือคู่ต่อสู้พาบอลเลี้ยงจี้เนี่ยลูคัสเก็บกินหมดไม่มีปัญหา แต่บอลโด่งหรือบอลตามช่องลูคัสทำผลงานสู้ตูเร่ไม่ได้เลย

ชาน - แซะได้ ถึงบอลเร็ว แต่แย่งบอลได้น้อยไป ต้องมีเพื่อนมาช่วยไม่ก็สโต๊คทำบอลลั่นออกไปเอง แต่การเก็บบอลทำได้ดี สโต๊คแย่งยาก จ่ายบอลสั้นเชื่อมเกมได้ดี แนวรุกข้างหน้าได้บอลเล่นง่ายหลายครั้ง แต่บอลยาวอย่าถามถึง

อัลเลน - เล่นได้ดี เชื่อมเกมได้ดีกว่าชาน ในขณะที่เกมรับก็วิ่งไล่ได้ดีอยู่หนึ่งชั่วโมงเต็ม เข้าแย่งบอลไม่ค่อยดี แต่ดักบอลจ่ายเก็บบอลสองได้ เติมขึ้นไปต่อบอลแดนหน้าได้บ้าง แถมมีส่วนร่วมกับประตูชัยเป็นอย่างยิ่ง (ไม่แน่ใจว่ายิงผิดเหลี่ยมรึเปล่า แต่คิดว่าน่าจะตั้งใจหลอกแนวรับมากกว่า) แต่กลางครึ่งหลังหมดแรง(ไม่ค่อยได้เล่นทำไมหมดก่อนเพื่อนล่ะเนี่ย) ไล่ไม่ถึงบอล ทำทางรับบอลก็ไม่ค่อยได้

คูตินโย่ - เล่นได้กระฉับกระเฉงดีมาก ขยันไล่ขยันทำทาง พลิกบอลดี มีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะ ...เจ็บ ...เวรกรรม

ลัลลาน่า - ครึ่งชั่วโมงเล่นได้ดุเดือดดี แตะบอลไปข้างหน้าตลอด จ่ายบอลเข้าทำกดดันแนวรับได้มากกว่าคนอื่นด้วย แต่พอหลังจากทีมขึ้นนำ ผีม้าน้ำก็เข้าสิง ได้บอลก็วนมันอยู่นั่น คือดีตรงไม่เสียบอลแต่เกมรุกไม่ดีเท่าเดิมแล้ว ส่วนเกมรับทำได้ดีมากตลอดเกม ทั้งวิ่งไล่แดนหน้าในช่วงหนึ่งชั่วโมงแรก และช่วยเกมรับริมเส้นในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย

เฟอมิโน่ - มีส่วนร่วมกับเกมเยอะทีเดียว เชื่อมเกมได้ ถอยลงมาต่อบอลกับแดนกลางได้ดีตลอด และที่ทำได้เจ๋งสุดๆ คือการแตะบอลหาพื้นที่ยิง แต่พอยิงออกไปแล้วเจ๊งสุดๆ รวมไปถึงไม่ค่อยค้ำหรือวิ่งทำทางตรงกลาง จังหวะจะโต้บางครั้งเลยต้องชะลอลงเพราะไม่มีตัวให้จ่ายข้างหน้า

ตัวสำรอง

ไอบ์ - ยิงประตูชัยได้ก็จริง แต่นอกนั้นก็ยังต้องปรับปรุงอีกเยอะ เล่นบอลมากจังหวะ ไม่ค่อยเสียบอลก็จริงแต่เกมรุกทั้งๆ ที่มีพื้นทีให้เล่นแต่กดดันแนวรับได้น้อยกว่าที่ควร ส่วนเกมรับที่ลงไปช่วยก็เล่นยากเกินควรหลายครั้ง

มิลเนอร์ - ลงมาช่วยเกมแดนกลางแทนลูคัสได้ดี เป็นคนเริ่มจังหวะที่ได้ประตูด้วย นอกนั้นก็ช่วยปิดพื้นที่หน้าเขตโทษไม่ให้คู่ต่อสู้ได้ยิงไกลหรือเก็บบอลเล่นได้ แต่กับเกมรุกก็แทบไม่ได้เลยเลย บอลวางยาวหรือจ่ายเร็วเพื่อโต้ก็ไม่มีเลย

เบนเทเก้ - ลงมากันเหนียวเผื่อโดนตั้งเตะ นอกนั้นก็หาสาระอะไรไม่ได้

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...โคโล่ ตูเร่… อัลเลนเล่นได้ดี ไอบ์ยิงประตูชัย มินโยเล่มีเซฟสำคัญและตัดบอลโด่งได้เรื่อยๆ แต่นัดนี้ต้องยกให้ตูเร่จริงๆ สกัดได้เยอะกว่าชาวบ้าน สปีดไม่มีแรงปะทะไม่เหลือก็ยังอุตส่าห์ทิ้งตัวสกัด โหนโหม่งเอาตัวรอดไปได้เรื่อยๆ ท้ายเกมเจ็บแล้วก็ยังพอกัดฟันเล่นต่อจนจบได้ด้วย
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

ป.ล. อยากได้รูปตูเร่มาประกอบมาก แต่หารูปจากนัดนี้ไม่เจอ เจอแต่ไอบ์เต็มไปหมด

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น