วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 2-0 เวสต์แฮม(พรีเมียร์ลีค)




...เปิดฟลอร์...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอลิ่ง-------------------------
-----------คูตินโย่-------------------ลัลลาน่า----------
โมเรโน่-------ลูคัส-------เฮนเดอร์สัน-------มาโควิช
--------ซาโก้----------สเคอเทล------------ชาน------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเล่นในแอนฟิลด์รับมือเวสต์แฮม นัดนี้เจอราร์ดไม่มีชื่อทั้งตัวจริงตัวสำรอง, 11 ตัวจริงยังคงเป็นผู้เล่นชุดเดิม แต่มีสเตอริดจ์กลับมาพร้อมลงสนามแล้ว ทางเวสต์แฮมวางคาโรลเป็นหน้าเป้า โดยมีวาเลนเซียกับอัลมาฟิตาโน่คอยทำเกมรุกให้
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาเวสต์แฮมก็วิ่งไล่สูงทันที ตัดบอลกลางสนามได้พอบ้างแต่ยังหยุดเกมของลิเวอร์พูลได้ไม่ดีนัก เกมรุกเน้นขึ้นริมเส้นทางฝั่งซาโก้ ทางลิเวอร์พูลออกบอลหนีตัวไล่กันได้ดีพอควร บอลยังไปข้างหน้าได้บ้างและไม่ทำเสียหน้าเขตโทษตัวเอง เน้นขึ้นบอลทางซ้าย 15 นาทีแรกเป็นช่วงที่เล่นกันเร็วแต่พาบอลไปถึงเขตโทษกันไม่ค่อยได้ทั้งสองทีม

________ แต่เมื่อ 15 นาทีผ่านไป เกมเล่นกันช้าลง ลิเวอร์พูลครองบอลได้ดีกว่าชัดเจน คุมเกมได้ เกมรุกได้ลุ้นจากจังหวะโต้เร็ว - ทำเร็วเป็นระยะ โดยเฉพาะการเล่นของคูตินโย่กับสเตอลิ่ง ส่วนทางเวสต์แฮมไล่ข้างหน้าไม่ค่อยจน หันมาตั้งรับลึกในแดนมากขึ้น เกมรับแน่นแต่เปลี่ยนรับเป็นรุกไม่ได้ พาบอลขึ้นหน้าได้น้อยกว่าช่วง 15 นาทีแรกที่ก็เอาขึ้นไปไม่ค่อยจะได้อยู่แล้ว

_______ ช่วง 10 นาทีท้าย เวสต์แฮมใช้บอลยาวให้กองหน้าพักเล่นมากขึ้น ยังเจาะแนวรับไม่ได้ เปิดเข้าไปไม่ถึงเขตโทษแต่ยังทำให้ได้เตะมุมและตั้งเตะเป็นระยะ กดดันพอได้แต่เก็บบอลสองไม่ได้ เกมรุกไม่ต่อเนื่อง ส่วนทางลิเวอร์พูลยังเล่นได้เหมือนเดิม คุมเกมได้ดีกว่า ได้ลุ้นจังหวะโต้เร็วเป็นหลัก แต่ยังทำประตูไม่สำเร็จ จบครึ่งแรกที่ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลสลับตำแหน่งเอาสเคอเทลไปยืนเซ็นเตอร์ขวา, ชานยืนตัวกลาง ส่วนทางเวสต์แฮมกลับลงมาวิ่งไล่ในแดนกลางมากขึ้นกว่าช่วงท้ายครึ่งแรกแต่ก็เข้าไม่ค่อยถึงบอล ลิเวอร์พูลผ่านบอลหนีกันได้ค่อนข้างดีและเอาบอลขึ้นหน้าได้ด้วย

_______ ลิเวอร์พูลใช้เวลาไม่นานนักก็ทำประตูขึ้นนำได้ นาที 51 จากจังหวะที่โมเรโน่ได้บอลเลี้ยงไต่เส้นขึ้นมาแล้วจ่ายฝากยัดใส่ตัวสเตอลิ่ง สเตอลิ่งพักอกให้คูตินโย่แถวหน้าเขตโทษ แล้วคูตินโย่กระดกบอลชิ่งกลับจังหวะเดียวให้สเตอลิ่งพลิกหลุดเข้าไปได้ยิงในเขตโทษไม่พลาด 1-0

_______ สกอร์ขยับปุ๊ป เวสต์แฮมก็ขยับเล่นเกมรุกมากขึ้น บอลทางริมเส้นขึ้นมาได้เยอะขึ้นแต่เปิดบอลเข้ากลางได้น้อยเหมือนเดิม นาที 55 อัลลาไดซ์ต้องเปลี่ยนเอาโนแลนลงมาแทนอัลมาฟิตาโน่ที่เล่นไม่ออกเลย ต่อด้วยโคลแทนคาโรลในนาที 63 ซึ่งช่วงราว 10 นาทีนี้ เกมรุกเวสต์แฮมดีขึ้นนิดนึงในเรื่องการเอาบอลขึ้นหน้าแต่ยังเปิดบอลเข้าทำแทบไม่ได้ ได้ลุ้นนิดหน่อยจากตั้งเตะ ส่วนทางลิเวอร์พูลไม่ได้ถอยไปอุด ยังคงเล่นได้ตามจังหวะเดิม บอลเร็วยังคงกดดันแนวรับได้เป็นระยะ รูปเกมยังคงดีกว่า

_______ นาที 68 สเตอริดจ์ได้ลงมาแทนมาโควิช ลัลลาสลับลงไปเล่นวิงขวา สเตอลิ่งถอยมายืนตัวรุกแล้วใช้สเตอริดจ์เป็นหน้าเป้า

_______ เวสต์แฮมพยายามเร่งเกมรุก ทำได้บ้างแต่ขาดความต่อเนื่องโดยเฉพาะการเก็บบอลจังหวะสองในเกมรุกทำได้น้อยมาก บอลไปถึงริมเส้นได้ก็เปิดเข้าไปไม่ถึงเขตโทษ ไม่โดนตัดไปก่อนก็ติดบล็อคออกหลัง ต้องไปลุ้นเอาจากเตะมุมซึ่งยังไม่ถึงกับกดดันแนวรับได้มากนัก

_______ ทางลิเวอร์พูลหลังจากสเตอริดจ์ลงมา ประกอบกับเวสต์แฮมเน้นเกมรุกมากขึ้น ทำให้เกมโต้เร็ว - รุกเร็วดูไหลลื่นกว่าเดิมอีก ในขณะที่เกมรับก็ไม่ได้ดูมีปัญหาอะไร เกมเปิดนี่แทบไม่ระคายเคืองอะไรเลย ลูกตั้งเตะก็ยังเบียดคู่ต่อสู้เอาไว้ ได้อยู่ และในที่สุดยังมาได้ประตูเพิ่มอีก นาที 80 คูตินโย่พาบอลเลี้ยงจี้เข้ากลางมา แนวรับเวสต์แฮมถอยหลังประคองกันหมดไม่มีใครเข้าบอล คูตินโย่จ่ายบอลตามช่องให้สเตอริดจ์ได้หลุดเข้าไปยิงมุมแคบในเขตโทษ ซึ่งสเตอริดจ์ก็ยิงยัดเสาแรกเข้าไปไม่มีพลาด 2-0

_______ เซิ้งสิครับ จะรออะไรล่ะ

_______ ลิเวอร์พูลเปลี่ยนไอบ์ลงมาแทนคูตินโย่ทันที เวลาที่เหลืออยู่เวสต์แฮมเกมสะดุดไปเลย แถมช่วงท้ายๆ ยังต้องเหลือ 10 คนเพราะรีดเจ็บและเปลี่ยนตัวครบแล้ว กลายเป็นลิเวอร์พูลทำเกมรุกกดดันได้ต่อเนื่องและได้ลุ้นประตูอีกพอควรแต่ทำเพิ่มไม่ได้ จบเกมด้วยสกอร์ 2-0
-----------------------------------------

_______ ที่ดีที่สุดของเกมนี้คือการควบคุมเกมครับ เล่นได้ในเกมของตัวเองหมดเลยตลอดเกม

_______ สำหรับเวสต์แฮม ดูแล้วพวกเขาก็ตั้งใจมาเล่นเหมือนที่เจอกันนัดแรกนั่นแหล่ะ คือวิ่งไล่แดนหน้าเอาบอลคืนมาให้เร็ว แต่วันนี้พวกเขาไล่ไม่จน ลิเวอร์พูลเสียบอลในแดนตัวเองน้อยมาก แย่สุดก็แถววงกลมกลางสนาม ซึ่งทำให้เวสต์แฮมรุกเร็วไม่ได้เลย ในขณะที่การวางบอลให้คาโรลพักเล่น หรือจะเป็นคาร์ตัน โคลที่ลงมาแทนก็ตาม เอาชนะแนวรับไม่ค่อยได้ ถ้าดูแค่ว่าโหม่งชงเข้าไปในกรอบหรือโหม่งสร้างโอกาสยิงนี่คือทำไม่ได้เลย อาวุธอย่างเดียวของเวสต์แฮมที่ยังพอทำงานอยู่คือลูกเตะตั้งเตะก็เอาชนะได้ไม่เด็ดขาด จังหวะได้โหม่งคนเดียวโล่งๆ ไร้คนเบียดนี่หาแทบไม่ได้เลย

_______ จะด้วยทรัพยากรจำกัดหรืออะไรก็แล้วแต่ อัลลาไดซ์ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ด้วยไม่ว่าจะเปลี่ยนตัวจนครบ 3 แล้วก็ตาม

_______ ส่วนทางลิเวอร์พูล ดูเฉพาะแท็คติคของร็อดเจอร์ก่อน ผมคิดว่าครึ่งแรกเขาทำได้ดีในเรื่องจังหวะการเข้าทำ ลิเวอร์พูลไม่ครองบอลในแดนคู่ต่อสู้นานๆ สักเท่าไหร่ พอบอลข้ามวงกลมไปปุ๊ปจะทำอะไรก็ทำทันที เกมรุกอาจไม่ต่อเนื่อง ไม่ได้ขึงคู่ต่อสู้ทีนึง 5 นาที 10 นาที แต่จังหวะเข้าทำมันได้ลุ้นกว่า

_______ ถ้าจะมีอะไรไม่เห็นด้วยก็คงเป็นเกมรับริมเส้นที่วิงแบ็คลงมาช่วยน้อยมากทั้งสองฝั่ง เวสต์แฮมนั้นใช้คาโรลไปค้ำไว้ด้านเซ็นเตอร์ตัวริม เพื่อให้ไปเล่นกับตัวริมเส้นเร็วๆ อย่างวาเลนเซียหรืออัลมาฟิตาโน่เป็นหลัก ซึ่งทำให้จังหวะที่คาโรลเอาบอลลงได้ หรือบอลเบียดโหม่งกันแล้วไม่ไปไหน เซ็นเตอร์แบ็คฝั่งนั้นรับเละกันเป็นส่วนใหญ่ วิงแบ็คลงมาช่วยไม่ดีนัก ทางฝั่งซ้าย โมเรโน่แทบหายไปจากตำแหน่งแต่ซาโก้เบียดกับคาโรลได้ดี แต่ทางฝั่งขวาชานมีปัญหากับเกมรับโดยเฉพาะการเบียดปะทะพอสมควร

_______ แต่พอครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีครับ เอาสเคอเทลสลับกับชานมันดื้อๆ อย่างนั้นแหล่ะ ด้วยความที่เวสต์แฮมไม่ได้เน้นเจาะตรงกลาง - เรียกว่าไม่ได้พยายามเลยก็ได้ - บอลเปิดจากริมเส้นก็ยังไม่มีคุณภาพนัก เอาสเคอเทลขยับออกไปช่วยตัดไฟแต่ต้นลม (คือก่อนเปิดบอล) ดูจะมีประโยชน์กว่ายืนตรงกลาง

_______ แดนกลางวันนี้คุมเกมได้ดีมากครับ ลูคัส เฮนเดอร์สัน ประสานงานกันได้ดีในเรื่องเกมรับ, ผ่านบอลหนีตัวไล่ และเก็บบอลจังหวะสองโดยเฉพาะในเกมรับ ในขณะที่คูตินโย่ก็เล่นจังหวะโต้ได้ดี วิ่งหาที่ว่างรับบอลได้ตลอด ที่สำคัญคือไม่ฝืนจนทำเสีย ทำให้ทีมเอาชนะเวสต์แฮมในแดนกลางได้ทั้งเกมรุกเกมรับตั้งแต่ต้นยันจบเลย

_______ เกือบลืม เรื่องนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ จังหวะเกมเร็ว มีคูตินโย่เลี้ยงบอลขึ้นมา ฝั่งนึงมีสเตอริดจ์ทำทาง อีกฝั่งมีสเตอลิ่งทำทาง นัดนี้ได้เห็นแล้วกันแล้วนะครับ ไม่เห็นมาร่วมครึ่งปีแล้ว น้ำตาจะไหล

_______ ชานยังมีปัญหาในเกมรับอยู่บ้าง, มาโควิชกับลัลลาน่าฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ แต่การได้สเตอริดจ์กลับมาแล้ว ประกอบกับฟอร์มที่อยู่กับร่องกับรอยมากขึ้นของผู้เล่นชุดนี้โดยรวม ก็ดูว่าทีมยังพอได้ลุ้น top4 กันไปอีกยาวๆ ครับ

_______ ...แม้จะต้องลุ้นไม่ให้ใครเจ็บไปอีกหรือและไม่ได้ตัวใหม่เลยก็ตาม T_T (ทำไมไม่ซื้อฟร๊ะ)
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดี

มินโยเล่ - ออกมาตัดบอลโด่งไม่ดีนัก วืดบ้าง ชกไม่ค่อยไปไหนบ้าง ไม่ออกในลูกควรออกบ้าง แต่ถ้านับเฉพาะลูกตั้งเตะ เพื่อนก็ช่วยสกรีนให้น้อยไปหน่อย และในจังหวะเกมเปิด อันที่จริงผมว่าเขาออกไปเล่นนอกเส้น (วิ่งไปรับบอลคืนหลังหรือวิ่งมาเก็บบอลทะลัก) ได้ดีขึ้นนะ

ซาโก้ - เบียดโหม่งกับคาโรลได้ดี คาโรลเล่นต่อลำบากมากและสร้างโอกาสให้เพื่อนแทบไม่ได้เลย ซ้อนพื้นที่วิงแบ็คได้ตลอด จังหวะเอาบอลขึ้นหน้าไม่ถึงกับดีนัก แต่ไม่โดนตัดกลางทาง

สเคอเทล - ครึ่งแรกเหงามาก บอลมาแทบไม่ถึง จังหวะที่ถึงก็เคลียร์ออกไปได้ไม่ยาก ส่วนครึ่งหลังเปลี่ยนตำแหน่งแล้วมีงานให้ทำเยอะขึ้น ปิดเกมริมเส้นดี (หรือจะเรียกว่ายืนออกไปห่างจากเขตโทษมากไปก็ไม่แน่ใจ) วันนี้กะจังหวะบอลดีมาก ไม่ฟาล์ว ไม่วืด

ชาน - ครึ่งแรกมีปัญหากับการเบียดโหม่งพอควร ปิดพื้นที่ริมเส้นที่มาโควิชเปิดไว้เยอะพอควรก็ไม่ดีนัก ครึ่งหลังยืนกลางแล้วเริ่มสบายขึ้น ซ้อนบอลเก็บบอลได้ไม่พลาด จังหวะเอาบอลขึ้นหน้าทำได้ดีตราบเท่าที่ออกบอลเรียด

โมเรโน่ - ครึ่งแรกเด่นมากกับการเติมขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมในแดนคู่ต่อสู้ ขึ้นตลอด รับบอลและไปต่อได้ดีด้วย ส่วนเกมรับเป็นเรื่องของซาโก้ไป ครึ่งหลังมีส่วนไม่น้อยกับการได้ประตูแรก หลังจากนั้นก็เติมน้อยลง ช่วยคุมพื้นที่ริมเส้นได้ดีกว่าช่วงก่อนหน้า

มาโควิช - ไม่รู้ว่าพะวงเกมรับ หรือว่าทีมไปเน้นขึ้นเกมรุกอีกฝั่ง หรือว่าทีมเน้นเล่นเร็วจนมาโควิชไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะเติมขึ้นไปเล่นเกมรุกได้ทัน ที่แน่ๆ คือนัดนี้มาโควิชวินวอล์คอีกแล้วครัช ขนาดตอนเปลี่ยนตัวยังเห็นแต่สเตอริดจ์เลย

ลูคัส - เล่นเกมรับได้ดี เข้าไปปั้มแย่งถึงบอลตลอด เสียฟาล์วน้อย มีทีเด็ดอยู่ที่บอลจังหวะสองที่เก็บได้เยอะ ลูคัสกับเฮนเดอร์สันเป็นสาเหตุหลักเลยที่ทำให้เวสต์แฮมโต้เร็วแทบไม่ได้เพราะโดนคู่นี้วิ่งเข้าไปปั้มบอลทันทีในจังหวะที่จะเปลี่ยนรับเป็นรุก แต่จุดด้อยก็ยังอยู่ที่การเชื่อมเกมที่หลายครั้งให้บอลช้าไปหรือเก็บบอลไว้นานไป

เฮนเดอร์สัน - เช่นเดียวกับลูคัส ในเวอร์ชั่นวิ่งขึ้นลงได้มากกว่าเยอะ มีส่วนในการช่วยเชื่อมเกมในแดนหน้ามากกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ออกบอลเกมรุกอะไรเท่าไหร่

คูตินโย่ - บอลเกมรุกมาอยู่ที่คนนี้ เปลี่ยนรับเป็นรุกได้ดี เล่นบอลจังหวะเดียวได้น่ากลัวกว่าเพื่อนร่วมทีม เลี้ยงพลาดจ่ายพลาดก็ไม่น้อยล่ะ แต่จังหวะที่หลุดไปได้ สร้างโอกาสได้นัดนี้มีเยอะ ที่สำคัญคือเป็นคนแอสซิสทั้งสองประตู และเป็นลูกแอสซิสระดับคุณภาพด้วย เพื่อนหลุดแบบไม่มีใครขวางหน้าทั้งสองลูก

ลัลลาน่า - โดนวิญญาณเค้าท์เข้าสิง ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมในแบบที่ได้บอลเท่าไหร่ หนักไปทางวิ่งปุเลงๆ ไล่บอลหรือทำทางไปเรื่อย ซึ่งก็ช่วยทีมได้พอสมควรทั้งสองเรื่อง

สเตอลิ่ง - พักบอลให้เพื่อนเล่นได้พอควร วิ่งสลัดหนีตัวประกบได้ไม่ถึงกับดีนัก โดนตามติดได้ตลอด วันนี้เล่นไม่ฝืนและยิงขึ้นนำให้ทีมได้ด้วย

ตัวสำรอง

สเตอริดจ์ - คงต้องจับจังหวะการเล่นอีกเล็กน้อย การขยับทำทางและออกบอลยังดูไม่ค่อยเข้าที่ แต่การจบสกอร์นี่ได้โปรดอย่าไปปรับอะไรอีกเลย จับบอลพร้อมแต่งให้ยิงได้ในจังหวะถัดไป ยิงได้ทิศทางและน้ำหนักด้วย

ไอบ์ - กล้าเล่น กล้าไปหน่อย คงต้องเพิ่มประสบการณ์กันต่อไป

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ฟิลิปเป้ คูตินโย่…สเตอลิ่งยิงได้ สเตอริดจ์ก็ยังคมอยู่ แต่ทั้งสองลูกคูตินโย่มีส่วนกับประตูมากพอๆ กับคนยิง ยิ่งลูกแรกนี่เยอะกว่าด้วยมั้ง
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 0-0 โบลตัน (เอฟเอคัพรอบ4)


...สนับมือเลยมั้ยจารย์...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอลิ่ง-------------------------
-----------คูตินโย่-------------------ลัลลาน่า----------
เอนริเก้-------อัลเลน-------เฮนเดอร์สัน----มานกีโย่
--------ซาโก้-------------ชาน---------จอห์นสัน------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ เกมเอฟเอคัพรอบ 4 ลิเวอร์พูลได้เล่นในบ้านเจอทีมจากแชมเปี้ยนชิพอย่างโบลตันที่นำทัพมาโดยเทพบิดรเฮสกี้(ใครทันดูคงจำได้ 555+) กุ๊ดยอนเซ่น (ไอเดอร์ กุ๊ดยอนเซ่นคนเดียวกับที่เคยเล่นให้เชลซีสมัยเคน เบตยังเป็นประธานสโมสรอ่ะครับ) นี่มันทีมฟุตบอลหรือพิพิธภัณฑ์
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลเน้นเกมรุก เร่งเกมเต็มที่ เติมกันขึ้นมาช่วยกันเล่นในแดนหน้า แต่โดนโบลตันวิ่งไล่เข้าบอลหนักจนหน้าหงาย ต่อบอลหนีไม่ทัน ครองบอลไม่อยู่คุมเกมไม่ได้ 10 นาทีแรกเป็นโบลตันที่ทำได้ดีกว่าพอควร เน้นขึ้นเกมทางริมเส้นและได้เปิดอยู่บอลเข้ากลางอยู่บ้าง

________ ผ่าน 10 นาทีแรกของเกมไป(โดยประมาณ) การต่อบอลในแดนกลางของลิเวอร์พูลยังมีปัญหาอยู่บ้างแต่ออกบอลกันได้เร็วขึ้น และมีบอลยาวไปที่ว่างที่ดีหลายลูกทำให้บอลจังหวะโต้ขึ้นไปหาโอกาสเข้าทำได้แล้วและกดดันให้โบลตันต้องถอยไปรับมากขึ้น โอกาสพาบอลขึ้นมาใกล้เขตโทษแบบ 10 นาทีแรกทำไม่ค่อยได้แล้ว ได้บอลก็วางยาวให้เฮสกี้ขึ้นพักบอลก็ไม่มีใครเข้าไปช่วย

_______ ช่วงประมาณนาที 10-20 เป็นช่วงที่ลิเวอร์พูลได้ลุ้นประตูเป็นระยะ เกมริมเส้นขึ้นถึงสุดเส้นทั้งสองฝั่ง แต่จบสกอร์ไม่เด็ดขาด พอผ่านครึี่งชั่วโมงแรกไป โบลตันยิ่งเล่นยิ่งเลิกรุก หันมารับลึก ดึงเกมให้ช้าลง จนทำให้ลิเวอร์พูลขึ้นเกมรุกได้ลำบากขึ้น บอลยาวไม่ที่ว่างแทบไม่มีช่องให้เล่นแล้ว เกมริมเส้นขึ้นไปได้ เปิดบอลเข้าเขตโทษได้ แต่ชาร์จแทบไม่ได้เพราะมีตัวรับยืนเกะกะเต็มไปหมด จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง มาโควิชได้ลงแทนเอนริเก้ตามตำแหน่ง โบลตันกลับลงมาไล่บอลในแดนหน้ามากขึ้นกว่าช่วงท้ายครึ่งแรกแต่ลิเวอร์พูลผ่านบอลหนีกันได้ค่อนข้างดี กลายเป็นได้โอกาสจ่ายบอลสุดท้ายและหาได้ยิงบ้างแต่ยังติดบล็อคหมด

_______ นาที 56 โบลตันเปลี่ยนตัว ส่งวิลกินสันลงมาแทนเฮสกี้ ซึ่งส่งผลทำให้เกมรุกของพวกเขากระเตื้องขึ้นมาอยู่พักใหญ่ โดนช่วงก่อนหน้าเฮสกี้แม้จะขึ้นถึงบอลและโหม่งได้เยอะแต่ไม่มีคนช่วยทำให้เสียบอลกลับไปเร็วอยู่ดี พอวิลกินสันลงมาเร็วกว่าคล่องกว่า อาศัยวิ่งไล่จี้ตามบอลไปก็พอกดดันทางซาโก้ได้ต่อเนื่องและทำให้โบลตันขยับบอลขึ้นไปใกล้เขตโทษ ได้ลุ้นจากลูกโยนเข้ากลางแบบเล็งมั่งไม่เล็งสลับกับลูกตั้งเตะเป็นระยะ

_______ ช่วงประมาณ 10 นาทีตั้งแต่วิลกินสันลงมา เกมเปิดแลกกันและได้โอกาสเปิดบอลเข้าทำกันทั้งคู่ ลิเวอร์พูลยังดูดีกว่าก็จริงแต่ไม่ได้ขึงอยู่ฝ่ายเดียว นาที 67 ร็อดเจอร์ก็เปลี่ยนตัวอีกครั้ง ส่งลูคัสกับบอรินี่ลงมาแทนอัลเลนกับมานกีโย่ ขยับมายืนหลัง 4 อีกครั้ง ซึ่งหลังจากเปลี่ยนตัว ลิเวอร์พูลก็ดันกันขึ้นไปช่วยเล่นเกมรุกมากขึ้น ข้างหลังทิ้งไว้แค่ซาโก้กับชาน ทำให้ครองบอลในแดนหน้าและทำเกมรุกกดดันได้ต่อเนื่อง

_______ ช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกม ลิเวอร์พูลกลับมาคุมเกมและครองบอลได้แล้ว จังหวะได้ลุ้นของโบลตันแบบในช่วง 56-67 แทบไม่มีให้เห็นเลย ตกเป็นฝ่ายตั้งรับอย่างเดียวแต่ก็รับลึกกันได้ดี ในเขตโทษนี่แทบจะไม่เห็นหญ้า คือเห็นแต่เสื้อสีขาวของโบลตันเต็มไปหมด

_______ ลิเวอร์พูลแม้จะพาบอลไปถึงสุดเส้นและเก็บบอลจังหวะสองได้ต่อเนื่องแต่เจาะแนวรับเข้าไปลำบากมาก โอกาสยิงที่พอหาได้ก็ติดบล็อคติดเซฟหมด จบเกมโบลตันดึงเสมอได้สำเร็จ 0-0 ต้องไปเตะรีเพลย์กันอีกนัด
-----------------------------------------

_______ ถ้าดูจากที่คู่ต่อสู้รับลึกขนาดนี้ หาโอกาสยิงได้ประมาณนี้เกมรุกไม่แย่เลย การจบสกอร์ต่างหากที่ไม่ดี

_______ 11 ตัวจริงวันนี้ร็อดเจอร์ให้โอกาสตัวสำรองลงเยอะ แถมลองปรับตำแหน่งผู้เล่นเพิ่มด้วย คือการสลับเอาชานเข้าไปเล่นตรงกลางกับจอห์นสันหุบเข้าไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็คฝั่งขวา ซึ่งเคยเล่นมาบ้างแล้วช่วงก่อนเจ็บ

_______ แม้จะยังเข้าใจว่านัดนี้มันเหมาะกับการส่งตัวสำรองมาเคาะสนิมที่สุดแล้ว แต่ผมก็ยังไม่เห็นด้วยกับ 11 ตัวจริงนี้เท่าไหร่ เอนริเก้ไม่ควรได้ลงพร้อมมานกีโย่เพราะฟอร์มยังไม่ดีทั้งคู่ ลงแค่สักทีละคนก่อนดีไหม

_______ สำหรับชานถ้าเป็นเซ็นเตอร์ตัวริมก็ว่าไปอย่าง แต่กับตำแหน่งเซ็นเตอร์ตัวกลางในหลัง 3 นี่จำเป็นหรือ เพราะโอกาสที่เขาจะได้เล่นตรงนี้ยาวๆ มันแทบไม่มีเลย เนื่องจากตำแหน่งนี้ยังไงก็ต้องโหม่งและต้องเบียดกับกองหน้า ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นของชาน สเคอเทลขาไม่หักยืนตำแหน่งตรงกลางนี้ดีกว่าชานแน่นอน รวมไปถึงซาโก้และลอฟเรน(ตอนสติกลับมาแล้ว)ด้วย

_______ ส่วนในรายอัลเลน...คิดยังไงส่งอัลเลนมาเล่นในเกมที่เจอกับทีมเล่นหนักแบบนี้

_______ ทางด้านแทคติค ทีมเล่นไม่หลากหลายเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่น่าจะพอมีทางเลือกแต่กลับเลือกเล่นบอลตามช่องทั้งเกม จะส่งบอรินี่มาแทนสเตอลิ่งทำไมเพราะมันแทบไม่ได้เปลี่ยนวิธีเข้าทำเลย อัลเลนไม่ควรได้อยู่ในสนามก็จริงแต่ในขณะที่ทีมต้องการเกมรุก นึกยังไงส่งลูคัสลงมา

_______ อย่างไรก็ตาม ถ้าดูจากเกมรุกที่หาโอกาสยิงได้ไม่น้อย ยิ่งถ้าดูจากการที่เวลาส่วนใหญ่ของโบลตันลงไปปิคนิคกันในเขตโทษตัวเอง หาโอกาสยิงได้ระดับนี้เกมรุกของทีมไม่แย่แล้วครับ เกมรับก็จัดการกับเกมรุกที่เล่นตามมีตามเกิดของโบลตันได้หมด ต้องถือว่าการจัดตัวผู้เล่นและแทคติคการเล่นของร็อดเจอร์อาจไม่ยอดเยี่ยมแต่ไม่แย่ และดีพอที่จะเอาชนะโบลตันได้แล้วแน่นอน ย้ำว่า “ดีพอแน่นอน”

_______ ดูทางฝั่งโบลตัน บุกแค่สองช่วงคือ 10 นาทีแรกของเกม กับ 10 นาทีแรกหลังการเปลี่ยนวิลกินสันแทนเฮสกี้(นาที 57-67) ในช่วง 10 นาทีแรกพวกเขาบุกได้ทางแต่โดนเกมสวนด้วยบอลยาวและสเตอลิ่งอัดซะเกือบตายจนต้องถอยไปอุด ในขณะที่ช่วง 57-67 โบลตันช่วยกันไล่จนตัดบอลกลางทางและขึ้นไปเปิดบอลได้ แต่ทั้งสองช่วงแนวรุกโบลตันยืนกันห่าง ไม่ค่อยมีจังหวะเล่นด้วยกัน และเก็บบอลจังหวะสองได้น้อย ทำให้ช่วงแรก(รวมไปถึงจังหวะที่พาบอลขึ้นไปได้นอกจาก 10 นาทีแรกนั้น) ที่เฮสกี้ขึ้นถึงบอลแล้วแต่ไม่ตัววิ่งไปรับบอลต่อ = เล่นไม่ได้, ช่วง 57-67 ไล่จนเอาบอลมาได้แล้ว แต่ไม่เติมกันขึ้นมาข้างหน้า ทางเลือกก็เหลือแค่โยนส่งๆ เข้าไปในเขตโทษ = ไม่ได้ลุ้น

_______ เกมรับโบลตันดีครับ แน่นปั๊กเลยล่ะ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เปิดช่องให้ยิง ถ้าไม่ได้บ็อกดานช่วยเซฟไว้ 3-4 ลูกก็เน่าเหมือนกัน

_______ แต่รูปเกมทั้งหมดทั้งปวงนั้น การวางแผนของผู้จัดการทีมทั้งสองทีม ฟอร์มผู้เล่นทั้ง 28 คนที่ได้ลงสนาม ต้องยอมรับว่าทุกคนเป็นแค่ตัวประกอบครับ คนที่ฟอร์มเด่นเป็นประกายต้องคนนี้เลยยยยยยย

_______ เควิน เฟรนนนนนนนน

_______ คือจารย์แหม่มมจะปล่อยเกมอะไรนักหนาครัช คือไม่ใช่แค่เข้าหนักแล้วไม่ให้ไปเหลืองนะ แต่จังหวะน่าจะเป็นใบเหลืองแกยังไม่เป่าให้ด้วยซ้ำ หลายครั้งด้วยไม่ใช่ครั้งสองครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นกับทั้งสองทีม ผมไม่มองว่าเขาเป่าเข้าข้างโบลตัน เพราะมีจังหวะโบลตันโดนเข้าหนักแต่จารย์เป่าให้ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกซะงั้น แต่ผมว่าเข้าเป่าเข้าทางโบลตันมากกว่า เล่นหนักต่อหนัก ลิเวอร์พูลมี...อัลเลน ส่วนโบลตันมีกอริล่าหลายคนเลย จะเหลือเร๊อะ

_______ ถ้าเป่าอย่างที่ควรจะเป็น โบลตันจะไม่หยุดอยู่แค่ 4 ใบเหลืองครับ น่าจะมี 5-6 ใบโน่น ดีไม่ดีมีเหลืองแดงด้วย เกมจะเปลี่ยนแน่นอน

_______ นัดรีเพลย์ขอกรรมการไม่ซาดิสม์ได้มั้ยเนี่ย
-------------------------------

นัดนี้เล่นแค่พอใช้ได้

มินโยเล่ - ได้ลงนะ รู้ยัง?

ซาโก้ - ครึ่งแรกออกไปซ้อนวิงแบ็คทางริมเส้นได้ดีพอควร ปิดพื้นที่ได้ แต่จังหวะประกบคู่ต่อสู้ยังไม่เด็ดขาดเท่าไหร่ ครึ่งหลังมีปัญหาในช่วง 57-67 ให้เห็นหนักกว่าเพื่อนเลย แต่ก็ยังไม่ถึงรั่วไหม้พังอะไร เอาตัวรอดมาได้

ชาน - เล่นลูกกลางอากาศไม่ดีเลย ประกบตัวไม่แย่แต่ถ้าต้องกระโดดเบียดเมื่อไหร่เอาไม่ค่อยอยู่ ทำได้ดีในเรื่องการดักบอลที่เปิดเข้ามาในเขตโทษและผ่านบอลขึ้นหน้า

จอห์นสัน - ครึ่งแรกปิดพื้นที่ในเกมรับพอใช้ได้ เชื่อมเกมธรรมดามาก ครึ่งหลังช่วงที่เปลี่ยนตัวครบแล้วขยับขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมสูงในแดนคู่ต่อสู้อย่างที่คุ้นตาได้ดี...หมายถึงเชื่อมเกมนะ ไม่ใช่เล่นเกมรุก

เอนริเก้ - เกมรับไม่ค่อยเล่น คู่ต่อสู้บุกมาน้อยก็เรื่องนึงแต่ตัวเอนริเก้เองก็ไม่ค่อยวิ่งลงด้วย (วิ่งขึ้นอย่างเดียว) เชื่อมเกมใช้ได้ เกมรุกไม่วือหวาแต่เติมขึ้นไปรับบอลและเปิดบอลเข้าเขตโทษได้ตลอด

มานกีโย่ - เกมรับลงมารักษาพื้นที่ตัวเองดีกว่าเอนริเก้ ส่วนเกมรุกเติมขึ้นไปรับบอลได้ดีแต่เล่นต่อจากนั้นไม่ค่อยได้เรื่อง มีจังหวะขยันจนมีโอกาสได้ยิงมุม(ไม่)แคบในเขตโทษ อัดเต็มข้อหลุดเสาสองซะงั้น

อัลเลน - วิ่งเข้าหาบอลใช้ได้แต่ปะทะแย่งบอลมาได้ไม่มากนัก ขยับตัวหาที่ว่างรับบอลได้ไม่ดีเท่าไหร่ เชื่อมเกมไม่แย่แต่ถ้าจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวยังทำได้แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าจะให้ลงมาทำไม

เฮนเดอร์สัน - เชื่อมเกมไม่ค่อยดีนัก โดนไล่จนออกบอลขึ้นหน้าได้ลำบาก จังหวะโบลตันรับต่ำเติมขึ้นไปช่วยรองบอลและเล่นบอลหน้าเขตโทษคู่ต่อสู้ได้ดี...ถ้าไม่ดูจนถึงจังหวะสุดท้าย

คูตินโย่ - โดนไล่เตะจนเล่นไม่ออก ยังลงมาช่วยเชื่อมเกมขึ้นหน้าได้โอเค แต่จังหวะพลิกบอลแล้วพาไปเองที่เคยทำได้วันนี้โดนเตะกลิ้งหมด มีส่วนร่วมกับจังหวะเข้าทำพอสมควร ทำได้ดีในจังหวะจ่ายมากกว่ายิง

ลัลลาน่า - นี่ก็โดนไล่เตะจนไปไม่เป็น สร้างเกมรุกได้ไม่มากนักแต่การวิ่งหาพื้นที่ช่วยเชื่อมเกมในแดนหน้ายังพอใช้ หาโอกาสยิงได้น้อยกว่าเพื่อนแต่ยิงได้ดีกว่าเพื่อน แต่ก็ยังไม่เป็นประตูอยู่ดี

สเตอลิ่ง - ชิ่งบอลกลับให้เพื่อนได้พอใช้ไม่ถึงกับดี ทำดีกับการวิ่งไปรับบอลที่ว่าง ทั้งในจังหวะที่เพื่อนวางยาวมาให้และในจังหวะที่เพื่อนชิ่งให้หลุดไปถึงสุดเส้นหลัง มีโอกาสยิงไม่น้อยไม่จะแจ้งนักก็ทำพลาดหมด

ตัวสำรอง

มาโควิช - เกมรุกวูบวาบกว่าเอนริเก้ พาบอลไปเองและออกบอลสั้นได้ดีกว่าชัดเจน แต่ก็หลงตำแหน่งทั้งในเกมรุกเกมรับชัดเจนเช่นกัน

บอรินี่ - คู่ต่อสู้รับลึกมากก็ไม่ค่อยมีช่องให้เล่น ชิ่งบอลเก็บบอลได้ไม่ดีเท่าสเตอลิ่ง หาช่องยิงเองได้บ้างก็ไม่ดีพอจะเป็นประตู

ลูคัส - ลงมาในช่วงที่โบลตันรับลึกโคตรๆ และไม่โต้แล้ว เชื่อมเกมไปรอบๆ ไม่ได้ทำอะไรมาก

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เควิน เฟรนด์… เปลี่ยนแนวไปเป่ารักบี้หรืออเมริกันฟุตบอลเหอะจารย์
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

ป.ล.1 ทำไมนัดนี้มีวงเล็บเยอะจังฟระ~
ป.ล.2 ตอนเฮสกี้กับกุ๊ดยอนเซ่นเล่นฟุตบอลอาชีพปีแรก มาโควิชกับสเตอลิ่งพึ่งลืมตาดูโลกครับ :P

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.


วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 1-1 เชลซี (ลีคคัพรอบรองฯนัดแรก)


...ซ้ายผ่านตลอด...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอลิ่ง-------------------------
-----------คูตินโย่-------------------เจอราร์ด----------
โมเรโน่-------ลูคัส-------เฮนเดอร์สัน-------มาโควิช
--------ซาโก้---------สเคอเทล------------ชาน------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูเปิดบ้านเจอเกมหนักในการรับมือเชลซีในเกมลีคคัพรอบรองฯนัดแรก วันนี้เจอราร์ดได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ทำให้สเตอลิ่งถูกดันขึ้นไปเป็นกองหน้าตามเดิม นอกนั้นยังเป็นผู้เล่นชุดเดิมทั้งหมด
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายเล่นกันอย่างระมัดระวัง ฝั่งเชลซีตั้งเกมช้าๆ ไม่เร่ง ไม่ดันสูง เน้นขึ้นเกมทางฝั่งชาน เกมรับบีบพื้นที่ให้ลิเวอร์พูลตั้งเกมลำบาก ทางด้านลิเวอร์พูลแดนกลางไล่บอลกันได้ดีหยุดเกมไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ ส่วนบอลเกมรุกพอพาบอลครึ่งสนามไปได้จะเล่นเร็วฉาบฉวยทันทีซึ่งได้ผลไม่มากนัก 10 นาทีแทบไม่มีโอกาสทำอะไรกันเลยทั้งสองฝ่าย

________ แต่พอเข้าช่วงนาที 10-15 ลิเวอร์พูลเริ่มตัดบอลจังหวะขึ้นเกมของเชลซีได้เร็วตั้งแต่ในแดนหน้า ทำให้ได้โอกาสเข้าทำเร็วและได้ลุ้นถึงประตูอยู่สองสามจังหวะซึ่งยังไม่ได้ กลายเป็นเชลซีที่เกมเริ่มเป็นรองกลับได้ประตูก่อนในนาที 17 จากจังหวะโต้เร็วขึ้นมาทางริมเส้น ฟาเบรกัสสลัดชานหลุดไปได้แล้วหักบอลกลับให้อาซาร์ ชานพยายามเข้าไปดักบอลแต่ผิดจังหวะไปดักเอาข้อเท้าอาซาร์เข้า เสียจุดโทษและอาซาร์รับหน้าที่ยิงไม่พลาด 1-0

_______ หลังจากขึ้นนำได้แล้ว เชลซีจากที่เป็นรองพลิกกลับมาคุมเกมได้ดีกว่า จังหวะรับรับในแดน จังหวะโต้เน้นขึ้นบอลไปทางริมเส้นฝั่งชาน พาบอลมาถึงเขตโทษได้พอควร เสียบอลจังหวะรุกจะรีบช่วยกันไล่ไม่เปิดโอกาสให้ลิเวอร์พูลได้โต้หรือตั้งเกมได้สะดวกนัก วิ่งขึ้นลงกันได้ดีทั้งทีม ส่วนลิเวอร์พูลรูปเกมเป็นรองก็จริงแต่ครองบอลได้เยอะ เกมริมเส้นฝั่งซ้ายยังพอทำเกมได้ลุ้นโดยเฉพาะการเติมขึ้นไปเปิดบอลของโมเรโน่ ส่วนทางขวาดับสนิทขึ้นไม่ได้เลย จบครึ่งแรกยังทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ สกอร์อยู่ที่ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลลงมาเร่งเกมรุกมากขึ้น หลังดันสูง, กล้าครองบอลในแดนคู่ต่อสู้นานขึ้นและเร่งจังหวะออกบอลมากขึ้น กดดันแนวรับเชลซีได้ตั้งแต่ต้นเกม ส่วนทางเชลซีเองกลับลงสนามมานี่ไม่ได้เดินลงมาแต่นั่งรถบัสกันออกมาเลย ข้างหน้าทิ้งคอสต้าไว้คนเดียว คนขึ้นไปช่วยน้อย

_______ ลิเวอร์พูลเร่งเกมทุกทิศทาง จังหวะเล่นเกมรุกยืนเป็นหลัง 4 ดันชานขึ้นไปเล่นเหมือนแบ็คขวา แต่ทางซ้ายยังดูต่อเนื่องกว่าอยู่ดี ช่วงประมาณ 15  นาทีแรกของครึ่งหลังนี้ลิเวอร์พูลได้เปิดบอลเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายต่อเนื่อง ได้ยิงบ้างก็ติดบล็อคติดเซฟเป็นส่วนใหญ่ ส่วนในเกมรับสเคอเทลกับซาโก้ยังช่วยกันเก็บกินคอสต้าได้เอร็ดอร่อยดี ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลทำได้ค่อนข้างต่อเนื่อง

_______ ในที่สุดลิเวอร์พูลก็มาทำประตูชัยคว้าแช...เดี๋ยวๆๆ...ในที่สุดก็ตีเสมอได้ นาที 59 เฮนเดอร์สันจ่ายบอลขึ้นหน้าตรงๆ ไปให้สเตอลิ่ง สเตอลิ่งพลิกบอลเลี้ยงขึ้นหน้าดื้อๆ แบบที่มาติคพลาดขยับขวางไม่ทันและเคฮิลก็ยืนห่างไปไม่เข้าบอล ปล่อยให้สเตอลิ่งแตะจนหาจังหวะได้ยิงแถวเส้นเขตโทษหักข้อไปเสาสอง ผ่านมือกูร์ตัวเข้าไปได้เป็น 1-1

_______ พอสกอร์ขยับ ลิเวอร์พูลยังเดินหน้าบุกต่อแต่ระวังเกมรับมากขึ้น ชานไม่ดันสูงตลอดเวลาเหมือนต้นครึ่งหลังแล้วและมาโควิชงานหลักกลายเป็นการถอยมาช่วยเกมรับเสียมากกว่า เริ่มกลับมาตัดบอลแดนกลางได้บ่อยเหมือนต้นเกมแล้ว ส่วนทางเชลซียังเล่นทรงเดิม แต่หาจังหวะครองบอลเล่นเกมรุกมากกว่าเดิมหน่อย...หน่อยเดียวจริงๆ และก็ยังคงเน้นขึ้นเกมทางฝั่งชานฝั่งเดียวเหมือนเดิม

_______ นาที 70 เรื่องไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น ร็อดเจอร์ส่งลัลลาน่าลงไปแทนเจอราร์ด แทนเจอราร์ด แทนเจอราร์ด จำไม่ได้ว่าร็อดเจอร์เปลี่ยนเจอราร์ดออกแบบที่เกมยังไม่ขาด(ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ)แบบนี้ครั้งสุดท้ายนี่เมื่อไหร่ แต่วันนี้เขาทำแล้วครับ

_______ นาที 75 เชลซีเริ่มสลับมาไล่สูงมากขึ้นหลังจากวิ่งถอยหลังซะจนแทบจะหลุดออกนอกสนามกันอยู่แล้วตลอดครึ่งหลัง แต่ลิเวอร์พูลก็ยังเดินหน้าเล่นเกมรุกได้ต่อเนื่อง ตัดบอลได้ จ่ายบอลเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายได้ และได้จบสกอร์อยู่บ้างแต่ไม่ดีพอจะเอาชนะกูร์ตัว

_______ทางด้านเชลซีมาแอบเร่งเกมรุกในช่วง 10 นาทีสุดท้ายแต่แนวรับลิเวอร์พูลยังช่วยกันบล็อคจังหวะสุดท้ายไว้ได้ พอใกล้หมดเวลาต่อเนื่องทดเจ็บเชลซีก็หันไปอุดอีกและลิเวอร์พูลเองก็เน้นเคาะเก็บบอลแล้ว ทำให้จบเกมไปที่สกอร์ 1-1
-----------------------------------------

_______ เล่นซะเอียงเลย ขึ้นซ้ายอย่างเดียวทั้งสองทีม

_______ 11 ตัวจริงและแท็คติคเริ่มเกมของร็อดเจอร์ไม่ได้แก้ไขปัญหาเกมรับริมเส้นฝั่งขวาเลย ยังคงปล่อยให้มาโควิชกับชานลุยถั่วกันไปเอง แล้วพื้นที่ตรงนี้ก็เป็นจุดที่มูรินโย่ใช้เล่นงานอยู่ตลอดเกม ย้ำว่าตลอดเกม คือเชลซีเล่นแหม่มอยู่ฝั่งเดียวนี่ล่ะ ไม่ว่าจะตั้งเกมขึ้นมาหรือจะโต้ก็จี้เข้าไปแต่ตรงนี้ ซึ่งเจาะได้เยอะอยู่ ครึ่งแรกพาบอลไปถึงสุดเส้นได้หลายครั้ง รวมไปถึงจุดโทษและประตูขึ้นนำด้วย ช่วง ประมาณนาที 80 มูรินโย่ยังเก็บทุกเม็ดด้วยการแอบขึ้นมาไล่สูงเล่นเกมรุกอยู่ราวๆ เกือบ 10 นาทีพอเห็นไม่ได้ยังอุตส่าห์ส่งตัวรับมาปิดเกมช่วงท้ายๆ

_______ ยิ่งเข้าครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ยังดันเกมสูงแบบเสี่ยงเป็นเสี่ยงกันอีก 15 นาทีแรกก่อนได้ประตูเกมรุกลิเวอร์พูลต่อเนื่องก็จริง แต่ใช่ว่าเชลซีจะเอาบอลโต้ขึ้นหน้าไม่ได้เลย ยังดีว่าลิเวอร์พูลตีเสมอได้ค่อนข้างเร็ว (นาที 59) ไม่งั้นรอบรองอาจจบตั้งแต่นัดนี้เลยก็ได้

_______ แต่ร็อดเจอร์มีผู้เล่นในสนามช่วยไว้ครับ

_______ จะได้แรงฮึดแรงเชียร์จากการเล่นในบ้านหรือยังไงไม่รู้ล่ะ วันนี้ฟอร์มการเล่นของผู้เล่นลิเวอร์พูลดูดีกว่ามาตรฐานมากอยู่หลายคน มากจริงๆ ในขณะที่ผู้เล่นเชลซีดรอปจากมาตรฐานไปหลายคน

_______ อย่างลูกตีเสมอของสเตอลิ่ง เจ้าตัวทำได้ดีครับ ลุยเดี่ยวไปยิงผ่านมือตุ๊กแกได้มันยอดเยี่ยมแน่ๆ แต่จังหวะนี้เกิดอะไรขึ้นกับเกมรับของเชลซี กองกลางสองตัว เซ็นเตอร์อีกสองตัว ล้อมกรอบสเตอลิ่งไว้หมดแต่ดันไม่มีคนเข้าบอล ไม่มีคนเบียด หรืออย่างอีวาโนวิชที่เคยเล่นเกมรับได้เหนียวแน่น กลายเป็นวันนี้ปล่อยให้โมเรโน่เปิดบอลจนข้อเท้าแทบเคล็ด หรือสเตอลิ่ง คูตินโย่ ใครไปเป็นผ่านไปถึงเส้นหลังได้แทบตลอด (ฟอร์มผู้เล่นลิเวอร์พูลยกไปตอนท้ายทีเดียวดีกว่า) ถ้าไม่มีจุดเปลี่ยนสำคัญนี้ ลิเวอร์พูลจะได้ไล่ทุบตลอดครึ่งหลังแบบที่เห็นหรือปล่าวยังไม่แน่ใจ

_______ ถ้ามูรินโย่จะพลาดก็พลาดที่ครึ่งหลังให้ลูกทีมถอยหลังมากเกินไป ถ้ามีคนขึ้นไปช่วยคอสต้าให้มากกว่านี้ อย่างที่ทำในช่วงที่พึ่งโดนยิงหมาดๆ หรือช่วงนาที 80 ลิเวอร์พูลต้องลำบากกว่านี้แน่ ในขณะที่ร็อดเจอร์เองไม่ใช่ว่าพลาดหมด เขาทำได้ดีมากๆ ที่พอตีเสมอได้แล้วไม่โหมรุกต่อจนหน้ามืด แต่ดึงชานกับมาโควิชกลับมาเล่นเกมรับตามเดิมด้วย(ก่อนหน้าตีเสมอได้ 2 คนนี้ตะลุยขึ้นหน้าอย่างเดียวแล้ว)

_______ ที่สำคัญคือกล้าเปลี่ยนลัลลาน่าแทนเจอราร์ดด้วย เจอราร์ดไม่ใช่เล่นไม่ดีครับ แต่นาทีนั้นต้องการคนวิ่ง ซึ่งลัลลาน่าวิ่งได้ดีกว่าเจอราร์ดที่วิ่งมาตั้งชั่วโมงแน่ๆ เกมรุกลัลลาน่าอาจไม่เด่นเท่าไหร่แต่ก็ยังหาจังหวะยิงได้ลุ้น แต่เขาช่วยได้ดีในเรื่องการไล่บอลเป็นตัวแรกในแดนกลางที่ทำให้ลูคัสกับเฮนเดอร์สันไม่ต้องถลำขึ้นมาไล่สูงมากจนเสี่ยงหลุดตำแหน่ง (ไม่ใช่ไม่หลุดเลย แต่เสี่ยงน้อยลงหลุดน้อยลง) ช่วยให้ทีมครองเกมกลางสนามได้

_______ จบนัดนี้ที่สกอร์นี้ไม่ถึงกับเสียหายเพราะกฎอเวย์โกลเปลี่ยนไปใช้หลังช่วงต่อเวลาแล้ว อาจจะน่าเสียดายบ้างที่มีโอกาสแล้วทำไม่ได้ นัดหน้าไปเล่นเกมเยือนฟอร์มผู้เล่นจะเปล่งปลั่งได้แบบนี้อีกหรือปล่าว แล้วเชลซีจะเล่นบู่ๆ แบบนี้ในบ้านเหรอ?

_______ นัดหน้าถ้าจะผ่านเข้าชิงได้ เหนื่อยยันนาทีสุดท้ายแน่นอนครับ
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอได้ดีเป็นส่วนใหญ่

มินโยเล่ - ไม่มีข้อผิดพลาด ออกมานอกเส้นได้เร็วพอ ปิดมุมและเซฟได้ดี เตะบอลขึ้นหน้าพอใช้ได้อย่างน้อยเพื่อนก็ได้ลุ้นเล่นบอลมั่ง

ซาโก้ - เล่นจังหวะประกบได้ดี เข้าบอลได้แม่นยำ แต่ไม่แข็งแกร่งเท่านัดก่อน

สเคอเทล - เล่นจังหวะประกบได้ดีมาก รับมือคอสต้าได้เยี่ยม เคลียร์บอลในเขตโทษได้เด็ดขาด

ชาน - พลาดเสียจุดโทษ และจากนัั้นก็ยังพลาดโดนเผาโดนตัดหลังอีกเป็นระยะ การเล่นเกมรับไม่ได้น่าพอใจเลย แต่ถ้ามองว่านี่เป็นการดวลกับนักเตะระดับฟาเบรกัส คอสต้า อาซาร์ เล่นได้ประมาณนี้คือแค่ดีไม่พอไม่ใช่ทุเรศ … ถ้าไปเล่นแบบนี้กับพวกแดนนี่ อิงค์ก็ว่าไปอย่าง

มาโควิช - เกมรุกช่วยได้น้อย สู้โมเรโน่ไม่ได้เลย แต่การเชื่อมเกมเอาบอลขึ้นหน้ายังไปวัดไปวาได้อยู่ ครึ่งแรกช่วยเกมรับแย่มาก ครึ่งหลังเริ่มช่วยเกมรับได้ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ตีเสมอได้แล้วมาโควิชช่วยเกมรับได้มากทีเดียว

โมเรโน่ - เติมขึ้นไปเปิดบอลได้ดีตลอดเกม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเชลซีแทบไม่ขึ้นฝั่งนี้ทำให้เจ้าตัวเติมได้สะดวกไม่ต้องพะวงเกมรับ  เปิดบอลสุดท้ายแค่พอใช้ได้ไม่ถึงขั้นเด็ดขาดเท่าไหร่ แต่ดีตรงที่ช่วยถ่างเกมรับได้มากจนมีช่องให้เพื่อนเล่น

ลูคัส - มีปัญหาพอควรในช่วงหลังจากเสียประตูแรกจนกระทั่งจบครึ่งแรก แต่นอกนั้นก็อ่านเกมได้ดีและตัดบอลได้เยอะ ส่วนการผ่านบอลเชื่อมเกมไม่ค่อยดีนักต้องให้เพื่อนลงมาช่วยเยอะ

เฮนเดอร์สัน - เชื่อมเกมไม่ดีเท่าไหร่ ยิ่งครึ่งแรกต้องเรียกว่าแย่มากเอาแต่เคาะกลับหลัง มาทำได้ดีในเรื่องการวิ่งไล่และคุมพื้นที่ในเกมรับ เข้าถึงบอลได้ตลอดเช่นเดียวกับลูคัส

เจอราร์ด - เชื่อมเกมได้ธรรมดาไม่โดดเด่น(ซึ่งยังดูดีกว่าลูคัสกับเฮนเดอร์สัน) แต่มาเด่นกับการเล่นบอลจังหวะเดียวในแดนหน้า สร้างโอกาสได้หลายครั้ง ได้ยิงชนเสาไปครั้งนึงก่อนโดนเปลี่ยนออกด้วย

คูตินโย่ - ยังคงเก็บบอลไว้กับตัวนานไปนิด แต่พลิกบอลขึ้นหน้าได้ดี เชื่อมบอลจากกลางไปหน้าได้ดูดีที่สุดในแดนกลางแล้ว จ่ายบอลตามช่องให้เพื่อนได้เปิดบอลเข้าทำหลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายที่มีส่วนร่วมซะเองไม่ว่ายิงหรือจ่ายไม่ค่อยจะดีนัก

สเตอลิ่ง - เก็บบอลได้มากกว่าที่คิด เล่นชิ่งกับเพื่อนได้ดีหลายครั้ง ฝืนเล่นเองน้อย หาโอกาสยิงได้พอสมควรซึ่งทั้งหมดทำได้น่าเกลียดมาก ยกเว้นลูกตีเสมอ...ที่ทำได้ยอดเยี่ยมไม่น่าเชื่อทั้งการพลิก - เลี้ยง - แตะหาที่ว่าง - ยิงหักข้อ

ตัวสำรอง

ลัลลาน่า - เกมรุกมีส่วนร่วมนิดหน่อยและยิงได้ดีมากครั้งนึง ทำได้ดีในเรื่องการช่วยไล่บอลที่มีส่วนทำให้ทีมได้บอลกลับมาครองเร็ว

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ธิโบ กูร์ตัว… เจิดจ้าเกินไปแล้ว ผู้เล่นลิเวอร์พูลเล่นดีเลือกได้หลายคนครับ ทั้งสเตอลิ่ง คูตินโย่ โมเรโน่ สเคอเทล แต่กูร์ตัวนี่มันตัวโกงชัดๆ ไอ้เซฟเนี่ยไม่เท่าไหร่ ตำแหน่งยืนกับการอ่านเกมนี่สิ เนียนมาก
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

หลังสาม สามช่าหรือสามแต้ม

_______ อยากจะเขียนให้ละเอียดกว่านี้แต่กลัวว่าจะไม่ทันก่อนเตะกับเชลซี เลยเอาแค่ดราฟต์แรกมาโพสต์ไว้ก่อนแล้วกัน สั้นๆ ห้วนๆ มีแต่หัวข้อเลยทีเดียว

ทำไมร็อดเจอร์ถึงหันมาเล่นหลัง 3
1. เกมริมเส้นไม่ดีนัก แบ็คเติมเป็นโดนสวนตาย แบ็คถอยอุดก็บุกไม่ขึ้น พอเล่นหลัง 3 วิงแบ็คจะรั่วบ้างก็จะมีเซ็นเตอร์แบ็คช่วยซ้อนอีกที โดยที่ข้างในเซ็นเตอร์ก็ยังอยู่อีก 2
2. เซ็นเตอร์รั่ว ก็เลยเพิ่มเข้าไปช่วยอีกคน
3. แบ็คช่วยเกมรุกได้น้อย เลยใช้มาร์โควิชแหม่มเลย~ โดยที่ลัลลาน่ากับคูตินโย่ยังอยู่ในสนาม
ไม่เห็นด้วยกับการเล่นหลัง 3 เพราะ
1. ต้องพึ่งวิงแบ็คที่วิ่งได้ตลอดและเก่งทั้งรุกรับ ทั้งทีมตอนนี้ไม่มีสักคน
2. หนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คต้องขยับขึ้นมาสูงเพื่อช่วยต่อบอลจังหวะจะตั้งเกมรุก ซึ่งตอนนี้มีชานคนเดียวที่ทำได้ก็ดันเล่นเกมรับไม่แน่นอีก คนอื่นช่วยเรื่องนี้ได้ไม่ดีพอ
3. ระยะยาวมันไม่น่าเวิร์คเพราะผู้เล่นในยุคนี้ส่วนใหญ่โตมากับระบบหลัง 4, เซ็นเตอร์กับแบ็คมันยืนต่างกันมาก ซื้อหรือสร้างใครมาต้องเอามาปรับใหม่หมด

ทำไมที่ผ่านมามันเวิร์ค1. เล่นแล้วทำให้ 11 ตัวจริงนิ่ง ซึ่งทำให้ทีมเวิร์คดีขึ้น
2. ถอดเจอราร์ดจากตำแหน่งกลางตัวต่ำ ***ผมคิดว่านี่เป็นสาเหตุสำคัญพอๆ กับหลัง 3 ที่ทำให้ทีมผลงานดีขึ้น***
3. เจอแต่คู่ต่อสู้ไม่แกร่งนัก ใช้หลัง 3 มา 9 นัด ที่ดูว่าแข็งหน่อยคือแมนยูกับอาร์เซนอล(ซึ่งก็ไม่ชนะทั้งสองนัด) นอกนั้นเจอแต่ทีมไม่แข็งนัก (แมนยู, บอร์นมัท, อาร์เซนอล, เบิร์นลี่ย์, สวอนซี, เลสเตอร์, วิมเบิลดัน, ซันเดอร์แลนด์, วิลล่า ตามลำดับ) บางทีมอาจเล่นเกมรับดี แต่ไม่มีทีมไหนสมดุล และไม่มีทีมไหนเกมรุกจัดจ้านเลย

ปัญหาที่จะตามมา
1. เกมรับริมเส้นยังไม่แน่นโดยเฉพาะฝั่งขวาของชาน ถ้าใช้คนอื่นนอกจากเฮนเดอร์สัน(ซึ่งปัจจุบันอยู่ตรงกลางดีกว่าชัดเจน)เล่นวิงขวา เกมรับฝั่งนี้มีปัญหาทุกนัด
2. ใช้ทีมเวิร์คกับความขยันวิ่งเป็นอาวุธหลักในการเอาชนะ เล่นปิดเกมถนอมแรงเอาไม่เคยอยู่ หมายความว่าสภาพความฟิตตกเมื่อไหร่มีปัญหาแน่
3. การรับมือลูกตั้งเตะกับลูกกลางอากาศก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่

แล้วทีมควรกลับไปเล่นหลัง 4?
1. ยัง จนกว่าฟอร์มของแบ็คกับเซ็นเตอร์จะดีขึ้น อย่างน้อยในสนามซ้อม
2. ยัง จนกว่าสเตอริดจ์จะฟิตสมบูรณ์ ถึงตอนนั้นน่าจะลองกลับไปเล่นหน้าคู่ หรือ 4-2-3-1 แบบมีสเตอลิ่งทำเกมริมเส้นได้
3. ยัง จนกว่าจะได้ผู้เล่นใหม่ (ถ้าได้)

_______ ทั้งหมดนี้เป็นแค่ความเห็นผม - แฟนบอลคนนึง - แล้วความเห็นคุณล่ะ? คิดว่ายังไงกันบ้างครับ?

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

แอสตัน วิลล่า 0-2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...เริ่มตั้งหลักได้...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

--------------------------บอรินี่-------------------------
-----------คูตินโย่-------------------สเตอลิ่ง----------
โมเรโน่-------ลูคัส-------เฮนเดอร์สัน-------มาโควิช
--------ซาโก้---------สเคอเทล------------ชาน------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ หลังจากเฉือนซันเดอร์แลนด์มาได้ในนัดก่อน ลิเวอร์พูลออกไปเยือนทีมหนีตกชั้นอย่างวิลล่าต่อ นัดนี้ร็อดเจอร์ปรับแค่ตำแหน่งเดียวคือสเตอลิ่งที่กลับมาจากช่วงพักได้ลงตัวจริงแทนตำแหน่งเจอราร์ดที่บาดเจ็บ นอกนั้นยังใช้ผู้เล่นชุดเดิม
-------------------------------------------------------

_______ เกมเริ่มอย่างช้าๆ ทั้งสองฝ่ายไม่ค่อยได้เร่งเกมสักเท่าไหร่ ลิเวอร์พูลเคาะครองบอลหนีตัวไล่ซึ่งก็ไม่ค่อยจะไล่กันจริงจังนักได้ดี เจาะตรงกลางได้พอสมควร, ครองบอลได้ดีกว่า จังหวะเข้าทำเน้นตักข้ามแผงเซ็นเตอร์เป็นส่วนใหญ่ ส่วนวิลล่าขึ้นบอลไม่ได้ ต้องโยนจากหลังขึ้นมาให้เบนเทเก้เก็บเล่น ซึ่งยังไม่ค่อยได้ผลนัก ในเกมรับทำได้เด่นในการดักล้ำหน้ากดดันแนวรุกลิเวอร์พูลไม่ให้จ่ายบอลได้ถนัด

________ จากรูปเกมที่ดีกว่า ในที่สุดลิเวอร์พูลก็ขึ้นนำได้สำเร็จ นาที 24 จังหวะลูกทุ่มที่เร็วและต่อบอลกันเข้ามาให้เฮนเดอร์สันได้เปิดบอลในเขตโทษทางด้านฝั่งขวา บอรินี่ขยับหนีตัวประกบเข้าไปชาร์จจ่อๆ ได้สำเร็จ 1-0 จังหวะนี้แนวรับวิลล่าเหมือนเสียสมาธิ ยืนขาตายกันไปหมดด้วย

_______ หลังจากนำแล้วลิเวอร์พูลถอยลงมารับต่ำกว่าเดิมเล็กน้อย ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกของเกมไป วิลล่าเริ่มเน้นเกมริมเส้นเจาะทางฝั่งมาโควิชมากขึ้น เริ่มจับบอลเล่นในเขตโทษได้บ้างแล้วแต่ยังหันหน้ายิงไม่ค่อยได้ และเกมรุกไม่ต่อเนื่อง

_______ ลิเวอร์พูลรับมากขึ้นแต่ยังหาจังหวะเข้าทำได้(แค่ไม่ต่อเนื่อง) เกมริมเส้นด้านขวาเริ่มเล่นได้ นาที 36 สเลอลิ่งได้ลูกส้มหล่นหลุดเดี่ยวไปส่งคืนหลังให้ผู้รักษาประตูมันซะงั้น เวลาที่เหลืออยู่ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายคุมเกมได้ดีกว่าแต่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ ส่วนวิลล่าเกมรุกมาไม่ค่อยถึงสุดเส้น โดนบีบให้ต้องโยนจากแนวลึกเป็นส่วนใหญ่ กดดันแนวรับลิเวอร์พูลได้ไม่มากนัก จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง วิลล่าหันมาไล่ข้างหน้ามากกว่าครึ่งแรกพอสมควร ดันแบ็คขึ้นมาช่วยเกมรุกเต็มที่ หันไปเน้นขึ้นเกมทางฝั่งโมเรโน่ด้วยการเติมขึ้นมาเล่นของฮัตตันเป็นหลัก ส่วนลิเวอร์พูลหันมาเน้นเกมโต้กลับมากกว่าในครึ่งแรก

_______ 15 นาทีแรกของครึ่งหลัง วิลล่าเริ่มพาบอลมาใกล้เส้นหลังได้มากขึ้นโดยเฉพาะเกมรุกทางฝั่งฮัตตันที่เริ่มได้เปิดบอลแบบได้ลุ้นเข้ามาบ้างแล้ว แต่โอกาสได้ลุ้นส่วนใหญ่ยังมาจากลูกตั้งเตะโดยเฉพาะเตะมุม ส่วนลิเวอร์พูลแย่งบอลมาได้ช้าลง ครองบอลได้น้อยลง แต่ยังพอหาโอกาสโต้ได้ดีถึงเขตโทษคู่ต่อสู้เช่นกัน รูปเกมยังสูสี

_______ แต่เกมมาเปลี่ยนเมื่อมีการเปลี่ยนตัว นาที 60 วิลล่าส่งกิลกับไวมันน์ลงสนาม เกมของวิลล่าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเกมกลางสนามที่รับส่งบอลกันได้เร็วขึ้นมากจนแดนกลางลิเวอร์พูลเริ่มขยับไล่ไม่ทัน บอลริมเส้นก็ได้เปิดจากตำแหน่งที่ดีอย่างต่อเนื่อง, หน้าเขตโทษก็หาพื้นที่เล่นได้บ้างแล้ว และที่กดดันแนวรับได้มากที่สุดคือลูกเตะมุม(รวมถึงจังหวะต่อเนื่อง) ช่วงนาที 60-70 นี้วิลล่าหาโอกาสจบสกอร์ในเขตโทษได้ต่อเนื่องและหลายครั้งเป็นโอกาส “จะๆ” ด้วย แต่ตีเสมอไม่สำเร็จ

_______ ลิเวอร์พูลโดนทุบจนเป๋ไปเป๋มาอยู่ราว 10 นาทีก็มีการเปลี่ยนตัว นาที 71 แลมเบิร์ตกับเอนริเก้ได้ลงมาแทนโมเรโน่กับบอรินี่ตามตำแหน่ง ซึ่งทำให้รูปเกมค่อยๆ ดีขึ้น (คือแย่น้อยลง) โดยเฉพาะเกมรับริมเส้นที่เอนริเก้ลงมาทำหน้าที่ได้ดีกว่าโมเรโน่ในช่วงครึ่งหลัง

_______ วิลล่ายังคงบุกได้แต่ความต่อเนื่องลดลง ลิเวอร์พูลเริ่มกลับมาโต้ได้ รูปเกมดีขึ้นแต่ยังไม่ดีกว่า เกมสูสีอยู่พักใหญ่ในที่สุดก็เป็นลิเวอร์พูลที่ตอกฝาโลงได้ก่อนโดนตีเสมอ นาที 79 จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม สเตอลิ่งดักบอลจังหวะวิลล่าจะโต้กลับได้ก่อนจ่ายให้แลมเบิร์ตที่หน้าเส้นเขตโทษเยื้องไปทางขวา สเตอลิ่งให้แล้ววิ่งทำทางเข้าเขตโทษไป และทางฝั่งขวามีตัววิ่งเติมขึ้นมาโล่งๆ ทำให้ตัว(ที่ควร)ประกบแลมเบิร์ตขยับเข้าหาช้า แลมเบิร์ตเลยฉวยโอกาสยิงเรียดเล่นทางหนีมือผู้รักษาประตู บอลเสียบโคนเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม 2-0

_______ พอสกอร์ขยับห่าง วิลล่าเล่นผิดพลาดกันมากขึ้น แม้จะยังพาบอลขึ้นมาเปิดได้แต่ความต่อเนื่องและความแม่นยำลดลงมาก ส่วนลิเวอร์พูลเน้นครองบอลและครองได้นานขึ้นโดยที่ยังเอาบอลขึ้นหน้าได้อยู่(แค่ช้า) นาที 85 ไอบ์ได้ลงมาแทนสเตอลิ่ง ลิเวอร์พูลยังหาโอกาสเข้าทำได้ลุ้นอยู่บ้างแต่สุดท้ายทำอะไรเพิ่มไม่ได้ ในขณะที่วิลล่าทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่าแค่ลุ้น ทำให้จบเกมลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 2-0
-----------------------------------------

_______ นัดนี้ดูดีขึ้นทั้งเกมรุกเกมรับ ยังไม่ถึงขั้นยอดเยี่ยมแต่ดูดีขึ้นแล้วแบบเห็นได้ชัด

_______ ปัญหาของทีมในวันนี้ยังมีให้เห็นอยู่บ้าง คือการรับมือลูกตั้งเตะโดยเฉพาะเตะมุมยังมีปัญหาอยู่ ในแง่ดีคือการขึ้นโหม่งเบียดโหม่งสกัดดูดีขึ้นมาบ้าง ขึ้นถึงบอลก่อนคู่ต่อสู้ได้บ่อย แต่ที่แย่มากเลยสำหรับวันนี้คือบอลจังหวะสองในลูกตั้งเตะที่เก็บแทบจะไม่ได้เลย ทุกคนกรูกันเข้าไปอยู่ในเขตโทษหมด ไม่มีตัวรอเก็บบอลนอกเขตโทษ บางจังหวะไม่ได้ห้อยใครไว้ข้างหน้าเลยด้วยซ้ำ วิลล่าได้ยิงหรือได้เปิดบอล “ที่เป็นจังหวะจะแจ้ง” แทบทั้งหมดมาจากการเล่นจังหวะสองแบบนี้สวนกลับเข้าไปทั้งนั้นเลย นาที 60-70 อาจจะเป็นไฮไลท์ที่เห็นได้ชัดก็จริงอยู่ แต่ถ้าดูจังหวะลูกตั้งเตะอย่างเดียว ทีมเก็บบอลจังหวะสองแทบไม่ได้อยู่ตลอดเกมนั่นละครับ อันนี้ต้องพยายามแก้ไขกันต่อไป

_______ ส่วนทางวิลล่า ถ้าดูเฉพาะแทคติคพวกเขาทำได้ดีมาก เผลอๆ จะดีกว่าลิเวอร์พูลด้วยซ้ำ ครึ่งแรกการดักล้ำหน้าเล่นงานแนวรุกลิเวอร์พูลได้เยอะ ครึ่งหลังการดันฮัตตันไปเล่นรุกสูงตลอดก็สร้างโอกาสได้เยอะ การเปลี่ยน 2 คนในนาที 60 ก็เปลี่ยนเกมได้จริง แก้ได้ถูกจุดคือปรับความเร็วในการผ่านบอลแดนกลางได้ดี แต่ผู้เล่นของวิลล่าฟอร์มตกหลายคน เบนเทเก้เอาชนะสเคอเทลแทบไม่ได้เลย, อัคบาลาฮอหายไปจากเกม, เดลฟ์ก็ธรรมดามาก คนอื่นนอกจากนี้แทบไม่ต้องพูดถึงแล้ว และจังหวะจบสกอร์ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ยิงไปไหนไม่รู้กันอีกนับครั้งไม่ถ้วนอีกต่างหาก

_______ วิธีการเล่นดี แต่คุณภาพผู้เล่นไม่เอื้อ ก็เอวังด้วยประการฉะนี้ แล

_______ วันนี้เรื่องที่น่าพูดถึงคือเรื่องที่ลิเวอร์พูลทำได้ดีครับ (เลยยกมาไว้ข้างหลังนี่ไง) ที่น่าประทับใจที่สุดของเกมอยู่ที่ทีมเวิร์คและความมั่นใจในการเล่น สำหรับทีมเวิร์คคงไม่ต้องสืบ เพราะ 11 ตัวจริง, แทคติคการเล่น, ตำแหน่งการเล่นนิ่งสนิทมาหลายนัดแล้ว มีเปลี่ยนก็แค่ 1-2 ตำแหน่งและทีมไม่ได้เปลี่ยนแทคติคตามผู้เล่นด้วย ก็ไม่แปลกว่าการประสานงานกันในทีมมันจะดีขึ้น เกมรับมีการวิ่งซ้อนวิ่งบีบพื้นที่, แบ่งหน้าที่ใครเข้าก่อนหลังได้เนียนตาขึ้น ส่วนเกมรุก ไอ้เจ้าตัวบ้าพลังที่เก็บบอลไว้นานๆ หรือบ้าเลี้ยงตลอดเวลาวันนี้ก็แทบไม่มีให้เห็น และทุกคนช่วยกันวิ่งรับส่งต่อบอลหรือทำทางได้ดีตลอดเกม นับเป็นจำนวนครั้งในการง้างเท้ายิงวันนี้อาจไม่ได้เยอะไปกว่านัดอื่นๆ แต่การทำเกมรุกดูดีขึ้นแล้วเช่นกัน

_______ บอลเล่นกัน 11 คน ดังนั้นทีมเวิร์คสำคัญกว่าความสามารถเฉพาะตัวเสมอ

_______ ส่วนเรื่องความมั่นใจในการเล่น วันนี้ผู้เล่นกล้าเล่นขึ้นเยอะ ในเกมรุกอาจเห็นไม่ชัดนักเพราะตัวรุกปกติก็กล้าเล่นกันอยู่แล้ว...กล้าไปด้วย แต่มันเห็นได้ชัดในเกมรับ แม้แต่ในช่วงที่กดดันหนักๆ อย่างนาที 60-70 อาการลนลานก็มีให้เห็นน้อย เข้าบอลพรวดพราดหรือกะจังหวะบอลผิดนี่ไม่มีให้เห็นเลย และตลอดเกมจังหวะที่สกัดได้แล้วเก็บบอลได้แล้ว มีการสาดทิ้งให้เห็นน้อยลง ซึ่งก็ทำให้ทีมครองบอลได้นานขึ้นและมีโอกาสเล่นเกมโต้กลับได้มากขึ้นเช่นกัน

_______ ความมั่นใจส่งผลต่อฟอร์มส่วนตัวของผู้เล่นโดยตรงครับ ไม่เชื่อไปดูฟอร์มซาโก้ 2-3 นัดแรกที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงเทียบกับฟอร์มนัดนี้ดูสิ

_______ ทีมเวิร์คและความมั่นใจ ผมฟันธงเลยว่ามาจากการเล่นหลัง 3 แต่เรื่องนี้น่าจะยาว(และมีคำว่า แต่ อีกหลายแต่ครับ บอกเลย 555) และอยากพูดถึงให้ละเอียด ขอแยกไปเขียนเป็นอีกบทความเลยดีกว่า ถ้าไม่มีอะไรพลาดน่าจะเสร็จในวันสองวันนี้ครับ

_______ ตอนนี้ขอมีความสุขกับ 3 แต้มและรูปเกมที่ดีขึ้นของทีมไปพลางๆ ก่อนเจอของแข็งนัดหน้าลีคคัพรอบรอง...กับเชลซี
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้ ค่อนไปทางดี

มินโยเล่ - ยืนตำแหน่งได้ดีขึ้น ออกมาตัดลูกกลางอากาศได้ดีทีเดียว เซฟได้ดีระดับนึง บอลไม่นิ่งแต่ไม่โดนซ้ำ ส่วนการเตะเปิดเกมยังคง “น่าประทับใจ” เหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย~ แหม่มเอ้ยยยย~

ซาโก้ - เล่นค่อยสมกับดีกรีทีมชาติฝรั่งเศส+อดีตกัปตันทีม PSG หน่อย เล่นดีกว่าสเคอเทลอีก

สเคอเทล - ประกบเบนเทเก้ได้ดี สกัดลูกโด่งเข้ากลางได้เยอะมาก ทิ้งตัวบล็อคลูกยิงได้อีกด้วย ความผิดพลาดส่วนตัวแทบไม่มีให้เห็นเลย (อ่านถึงตรงนี้ลองย้อนกลับไปอ่านซาโก้อีกรอบ)

ชาน - อ่อนหัดที่สุดในแผงเซ็นเตอร์ แต่เล่นเกมรับดีขึ้นแล้ว ตำแหน่งยืนและการคุมพื้นที่ดูเป็นสัปปะรดขึ้นมาก จังหวะพลาดจังหวะหลุดเยอะกว่าเพื่อน ที่ฮาคือไอ้ที่เคยทำได้ดีอย่างการผ่านบอลขึ้นหน้ากลับแผ่วลงไป

มาโควิช - เชื่อมเกมดี เกมรุกมีส่วนร่วมน้อย แต่เด่นกับการเปลี่ยนรับเป็นรุก และไม่น่าเชื่อว่าเล่นเกมรับได้ดีขึ้นผิดหูผิดตา โดยเฉพาะการดักตัดบอล

โมเรโน่ - เติมขึ้นไปเปิดบอลพอใช้ได้ กดดันแนวรับและสร้างโอกาสได้บ้าง เชื่อมเกมก็โอเค แต่วันนี้โดยเฉพาะในครึ่งหลัง มีปัญหากับเกมรับในพื้นที่ตัวเองเยอะอยู่ คู่ต่อสู้ขึ้นมาได้เปิดบอลในพื้นที่นั้นเยอะมาก

ลูคัส - วิ่งไล่บอลได้เต็มครึ่งสนาม เข้าถึงบอลเร็ว ตัดบอลได้เยอะ ครึ่งหลังถอยต่ำมากไปสักนิด แต่ วันนี้มีทีเด็ดในเรื่องการเชื่อมเกมที่เคาะบอลขึ้นหน้าหนีตัวไล่ได้ดีตลอด (ก็อปมาจากนัดที่แล้ว ไม่ได้ลืมเปลี่ยน)

เฮนเดอร์สัน - วิ่งไล่บอลได้เต็มสนาม ขึ้นไปช่วยเกมรุกได้ดีเป็นระยะ เปิดบอลไปให้บอรินี่ยิงลูกแรกได้ดีมากด้วย ท้ายๆ เกมมีหมดแรงวิ่งให้เห็นบ้างแต่ไม่แย่นัก

สเตอลิ่ง - น่าจะเป็นนัดที่สเตอลิ่งเลี้ยงบอลน้อยที่สุดในรอบหลายเดือนเลย ออกบอลเร็วไม่เก็บไว้นาน ไม่ค่อยวิ่งทำทางเท่าไหร่(ไม่ใช่ไม่ทำแต่น้อยลง) หนักไปทางยืนรอชิ่งให้เพื่อนมากกว่าซึ่งไม่ค่อยคุ้นตาเลย มีส่วนร่วมกับเกมพอสมควรแต่ไม่เด่น ทำดีมากจังหวะ 2-0 ถ้าไม่วิ่งเติมเข้าไปในเขตโทษ แลมเบิร์ตอาจไม่มีเวลาขนาดนั้น

คูตินโย่ - ยังวิ่งไล่ได้ดีอยู่แต่น้อยลงกว่า 2-3 นัดหลัง เชื่อมเกมได้ดี เอาบอลขึ้นหน้าได้โอเค การให้บอลจังหวะเดียวหรือให้บอลเร็วในจังหวะโต้กลับทำได้ดีหลายครั้ง แต่ส่วนร่วมในจังหวะสุดท้ายมีไม่มากนักและครั้งที่มีก็ไม่มีซะดีกว่า

บอรินี่ - ขยันวิ่ง ทำทางและหาที่รับบอลได้ดี จังหวะ 1-0 เข้าไปยิงได้ระดับอินซากี้(ตอนพีค) แต่นอกจากจังหวะนั้นยิงได้ระดับบาโลเตลลี่(ตอนนี้) ช่วงครึ่งหลังค่อยๆ หายไปจากเกม

ตัวสำรอง

เอนริเก้ - คุมพื้นที่ได้ดีกว่าโมเรโน่ช่วงก่อนหน้า จังหวะสปีดต้นดูมีปัญหา ขึ้นไปเติมเกมรุกได้พอใช้

แลมเบิร์ต - ดูเฉพาะการยิงลูก 2-0 เขาควรได้เป็นตัวจริงถ้าขาไม่หัก แต่ฟอร์มการเล่นตลอด 20 นาทีในนัดนี้เขาควรเป็นตัวสำรองถ้าคนอื่นขาไม่หัก (เชียร์ใครไม่เคยขึ้นเลยว๊อยยยย~ T_T)

ไอบ์ - พาบอลเข้าไปจนได้โอกาสเปิดบอลเข้าทำแบบจะๆ หนนึง ทำได้ดีด้วยเพราะดูน้ำหนักบอลน่าจะตั้งใจเปิดเข้าไปตรงกลางให้เอนริเก้ที่วิ่งหุบเข้ามารอยิงโล่งๆ จ่อๆ มากกว่าจะเปิดไปให้ตัวแรกอย่างคูตินโย่ที่เป็นคนโดนบอลก่อน

ร็อดเจอร์ - จัด 11 ตัวจริงและตำแหน่งได้ดี (คือไม่เอาสเตอลิ่งขึ้นไปข้างหน้า) ตัดสินใจเปลี่ยนเอนริเก้ลงมาแทนโมเรโน่ที่กำลังแย่ได้ดี ส่วนแลมเบิร์ตนี่คงตั้งใจส่งมาช่วยป้องกันลูกเตะมุมมั้ง

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...มามาดู ซาโก้… เฮนโด้กับลูคัสยังเล่นได้ดีต่อเนื่อง แนวรุก 3 คนก็เล่นได้โอเค แต่วันนี้ผมประทับใจฟอร์มกองหลังคนนี้ที่สุดแล้วครับ แล้วท่านคิดว่าใครควรได้ MOM? (มั่นใจว่านัดนี้เสียงแตกครับ เล่นได้พอๆ กันหลายคน)
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.