วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556

แอสตัน วิลล่า 1 - 2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


สู้กันที่แผงหลัง
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

-----------------------ซัวเรส------------------------
คูตินโย่-------------เฮนเดอร์สัน--------------ดาวนิ่ง
-------------ลูคัส----------------เจอราร์ด----------
เอนริเก้-----แอกเกอร์------คาราเกอร์-----จอห์นสัน
------------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลออกไปเยือนทีมหนีตกชั้น(อีกแล้ว) อย่างวิลล่าที่โดนยิงมาทุกนัดในช่วงหลัง ร็อดเจอร์เลือกใช้ซัวเรสเป็นหน้าเป้า แดนกลางใช้เฮนเดอร์สันและผู้รักษาประตูได้เรน่ากลับมา นอกนั้นก็ขาเก่าเจ้าประจำลงตามตำแหน่ง
-------------------------------------------------------

               ช่วงต้นเกมทั้งสองฝ่ายขยันไล่และสู้กันในแดนกลางเป็นส่วนใหญ่ ลิเวอร์พูลครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อย ใช้คูตินโย่คอยสลับตำแหน่งกับซัวเรสเป็นระยะ ขึ้นบอลบุกได้ค่อนข้างช้า และดูจะเน้นการคุมพื้นที่ในแดนตัวเองให้ได้มากกว่าจะเปิดเกมรุก ส่วนวิลล่าทำได้ดีจากลูกตั้งเตะรวมไปถึงจังหวะต่อเนื่อง เกมออกมาสูสีไม่มีใครได้เปรียบ

               ผ่านไปเกือบ 20 นาที วิลล่าเริ่มครองบอลได้มากขึ้น ทำเกมได้ต่อเนื่อง จัีงหวะเกมเปิดเริ่มทำได้ีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเกมริมเส้นและลูกกลางอากาศ ส่วนลิเวอร์พูลเก็บบอลจังหวะสกัดไม่ค่อยได้ทำให้ครองบอลน้อยลงและทำเกมรุก ได้น้อยลงตามไปด้วย ยังได้ลุ้นบ้างจากลูกโต้เร็ว แต่เกมโดยรวมวิลล่าทำได้ดีกว่าแล้ว

               ในที่สุดวิลล่าก็ทำสำเร็จ นาที 31 จากลูกวางยาวกว่าครึ่งสนามข้ามแนวรับ กองหลังลิเวอร์พูลไปไม่ถึงบอล เป็นอักบาลาฮอล์ที่เอาบอลลงให้เบนเทเก้กดยิงจังหวะแรกเข้าไปได้สำเร็จ 1-0 ซึ่งทำให้ลิเวอร์พูลหันมาโหมเกมรุกมากขึ้น เจอราร์ดที่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกยังเงียบๆ อยู่เริ่มดันสูงบ้างและมีส่วนร่วมกับเกมรุกมากขึ้น ช่วงท้ายครึ่งแรกลิเวอร์พูลเลยยกระดับเกมขึ้นมาจนกลับมาสูสีแต่ยังไม่ถึงขั้นดีกว่า จบครึี่งแรกที่สกอร์ 1-0

                เข้าครึ่งหลัง เพียงแค่นาที 47 ลิเวอร์พูลก็ตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว ในจังหวะที่วิลล่ายังขึ้นไปไล่สูงกันอยู่ดีๆ แต่บอลมาถึงเท้าเจอราร์ดพลิกบอลวางยาวที่เดียวครึ่งสนามถึงคูตินโย่ ก่อนที่เจ้าตัวจะจ่ายบอลตัดแนวรับให้เฮนเดอร์สันได้ลุ้นเดี่ยวและจบสกอร์ได้ ไม่พลาด 1-1

               พอสกอร์กลับมาเสมอ ลิเวอร์พูลดูมีกำลังใจและกระตือรือร้นมากขึ้น ไล่สูงบีบเร็วได้ดี ส่วนทางวิลล่าโดนแล้วแต่ก็ไม่ถอยไปอุดยังพยายามเปิดเกมรุกแลก ทำให้เกมเปิดมากกว่าครึ่งแรกและเป็นลิเวอร์พูลที่ยังทำเกมของตัวเองได้ดีต่อ เนื่องนับจากตีเสมอได้ นาที 59 แนวรับวิลล่ายังมาพลาดอีกครั้งเมื่อเบเกอร์เข้าพรวดรวบซัวเรสในเขตโทษแบบ จะ จะ ไม่ต้องแอคติ้งช่วย ลี เมสันเป่าให้ทันที และเจอราร์ดรับหน้าที่ยิงไม่พลาด ลิเวอร์พูลพลิกแซง 2-1

               วิลล่ารีบเปลี่ยนตัวสำรองลงมาทีเดียวสองคนและดาหน้าบุกใส่ เน้นเกมริมเส้นและลูกโด่งเข้ากลางเต็มที่และกดดันลิเวอร์พูลจนแทบแบนแต๋ดแต๋ ในเขตโทษ แม้จะสกัดได้อยู่แต่สกัดไม่ขาดและเก็บบอลไว้ไม่ได้ วิลล่ากดดันได้เป็นชุดๆ ต่อเนื่อง นาที 65 เจอราร์ดต้องช่วยโหม่งเคลียร์ให้จากเส้นประตู รอดจากการโดนตีเสมอไปหวุดหวิด

               ลิเวอร์พูลโต้ขึ้นไปได้ลุ้นบ้างแต่น้อยครั้ง ผ่านบอลกันได้ไม่ดีนักทำให้ครองบอลน้อยและกดดันมากกว่าที่ควรจะเป็น แต่ที่ำทำได้ดีคือการคุมพื้นที่ที่ทำให้เกมรุกของวิลล่าที่โหมได้น่ากลัว ค่อยๆ แผ่วไปเอง บอลริมเส้นเริ่มเปิดได้ลำบากมากขึ้นและลูกกลางอากาศเริ่มกดดันได้น้อยลงๆ ทำให้ยิ่งเล่นไปลิเวอร์พูลยิ่งดูปลอดภัยมากขึ้นเรื่อยๆ

               นาที 77 สเตอริ่งได้ลงแทนคูตินโย่ คล้อยหลังจากที่วิลล่าเปลี่ยนตัวสำรองคนสุดท้ายไม่นาน ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลเน้นเกมรับแล้วโต้เต็มที่ แดนหน้าแทบจะเหลือซัวเรสคนเดียวและเพื่อนๆ ก็ไม่ค่อยจะตามขึ้นไปช่วย แต่วิลล่าเองก็เจาะไม่เข้าแล้ว แม้จะได้ลุ้นบ้างเป็นระยะจากลูกเก็บตกที่ลิเวอร์พูลสกัดไม่ขาดหรือผ่าน บอลพลาดบ้างแต่ก็ยิงได้ไม่ถนัดนัก

               ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูลสกัดบอลไม่ขาด บอลทะลักมาถึงเบนเทเก้ยิงเร็วเข้าไปได้แต่โดนจับล้ำหน้าไปเสียก่อน(ซึ่งล้ำ ไปเยอะจริงๆ) ลิเวอร์พูลเลยสามารถเก็บสามแต้มเต็มกลับมาได้ แบบที่เรียกว่าไม่ง่ายนัก 2-1
 -----------------------------------------

               ร็อดเจอร์จัดทีมมาวันนี้ค่อนข้างระวังตัว ด้วยตัวผู้เล่นอาจจะไม่เท่าไหร่เพราะก็ชุดเดิมๆ แต่แทคติคที่เล่นนั้นเน้นผลเอามากๆ เพราะครึ่งแรกแบคขึ้นน้อย แผงกลางก็อยู่แค่ครึ่งสนามเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ดันเกมสูงมากนัก แต่ยังอุตส่าห์โดนยิงไปก่อนจากความผิดพลาด(ของสภาพร่างกาย)ของกองหลังทำเอา เกือบแย่

               แต่ฝ่ายวิลล่าเองก็พิสูจน์ตัวเองเป็นที่เรียบร้อยว่าการลงไปป้วนเปี้ยนอยู่ ท้ายตารางไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย เกมรับพลาดกันง่ายและเกมรุกก็ไม่ได้มีอะไรพลิกแพลงมากนัก ทั้งตัวสำรองก็ขาดคุณภาพ ลงท้ายก็เลยโดนแซงนำพลิกกลับมาแพ้ไปซะอย่างนั้น

               เกมนี้แทบไม่ได้สู้กันที่แทคติคเลย ลิเวอร์พูลถ้าไม่นับช่วงท้ายครึ่งแรกประมาณ 10 นาที พวกเขาก็ไม่ได้เร่งเกมเน้นรุกอะไรมากนัก แค่คุมพื้นที่และรอจังหวะ การกลับมาเสมอและแซงนำก็ไม่ได้เปลี่ยนวิธีเล่นอะไรมากมาย เพียงแต่วิลล่าเปิดช่องให้ ในขณะเดียวกันวิลล่ามีแต่ช่วงบุกมากกับบุกน้อยซึ่งบุกอยู่รูปแบบเดียวด้วย คือพาบอลไปริมเส้น ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง พอเจอทางตันปุ๊ปก็จบที่การเปิดโด่งเข้ากลางมา ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนของเกมก็ตาม ทำให้เกมนี้วัดกันที่แนวรับเพียวๆ ซึ่งลิเวอร์พูลยังคงมีปัญหากับกองหน้าสไตล์เบนเทเก้อยู่ร่ำไป รวมไปถึงการปิดบอลเปิดจากริมเส้นที่ทำได้ไม่ดีนัก

               สุดท้ายแนวรับลิเวอร์พูลยังแย่น้อยกว่าวิลล่า เลยเอาชนะมาได้ครับ
 -------------------------------

นัดนี้ส่วนใหญ่เล่นกันพอใช้ได้ บางคนเล่นได้ดี

เรน่า - ออกมาตัดบอลกลางอากาศได้ดี แต่ออกมาเล่นน้อยลงกว่าที่เคย หลายครั้งน่าจะออกมาช่วยกองหลังได้ดีกว่านี้ จังหวะเซฟไ่ม่ค่อยมี ทำดีมากตอนต้นเกมที่บล๊อคลูกยิงจ่้อๆ ของอักบาลาฮอล์ได้ (ซึ่งก็ยิงตรงตัวด้วยส่วนหนึ่ง) ลูกที่เสียไปเกินความสามารถจริงๆ

จอห์นสัน - ครึ่งแรกเล่นได้น่าอนาถมาก หลุดตำแหน่งตลอดเวลา ประกบห่างและปล่อยให้คู่ต่อสู้เปิดเข้ากลางง่าย แต่ครึ่งหลังก็เล่นได้ดีขึ้น และช่วงครึ่งหลังนี้ช่วยเชื่อมเกมได้ดีมากด้วย

แอกเกอร์ - สกัดบอลไม่ค่อยขาดและเก็บบอลเล่นไม่ค่อยได้ั จังหวะประกบคู่ต่อสู้มีพลาดให้เห็นบ้างแต่ฟอร์มโดยรวมก็ไม่แย่นัก โดยเฉพาะถ้าดูจากการที่เป็นคนเคลียร์บอลในเขตโทษน่าจะบ่อยที่สุดแล้วใน วันนี้

คาราเกอร์ - แรงปะทะและความเร็วสู้กองหน้าไม่ได้ แต่งัดลูกเก๋ามาใช้ได้ดี เป็นกองหลังที่ใช้มือเล่นได้ดีสุดๆ เดี๋ยวดึงเดี๋ยวขวาง มือไม้เปะปะไปหมดแต่ไม่แรงพอจะโดนจับฟาลว์ คำว่า เอาตัวรอด สะท้อนฟอร์มในวันนี้ได้ตรงสุดๆ แล้ว (ไม่เหนือชั้นแต่ไม่บรรลัยนะจ๊ะ)

เอนริเก้ - ไม่ได้เติมเกมมากนัก แม้แต่ช่วงที่ทีมตามหลังหรือพึ่ง 1-1 ก็ยังนานๆ ขึ้นไปทีและขึ้นไม่ค่อยสุดด้วย เกมรับเปิดให้คู่ต่อสู้เปิดบอลเข้ากลางง่ายเหลือเกิน หลายครั้งที่ยืนห่างเป็นโยชน์ทั้งๆ ที่ไม่มีใครวิ่งอ้อมหลัง แต่โดยรวมก็เล่นเกมรับได้ดูมีสติสตังค์ดีกว่าจอห์นสัน(เวอร์ชั่้นครึ่งแรก) และเป็นแนวรับที่เก็บบอลเล่นได้เยอะกว่าคนอื่น

ลูคัส - ครึ่งแรกฟอร์มเละเทะเช่นกัน อ่านจังหวะบอลผิด จ่ายพลาดบ้าง เก็บบอลไว้กับตัวไม่อยู่บ้าง จังหวะสกัดก็ขาดๆ เกินๆ เข้าช้าไปบ้าง เสียฟาลว์ก็บ่อย แต่ครึ่งหลังเริ่มกลับมาเล่นเข้าที่เข้าทางมากขึ้น

เจอราร์ด - ช่วยเเกมแดนกลางได้มาก เกมรับดูจะช่วยไล่น้อยลงกว่าที่ผ่านมา แต่การเชื่อมเกมทำได้ดีอยู่และการวางบอลไปที่ว่างทำได้สุดยอด คือจ่ายไปแล้วมันว่างจริงๆ ไม่ใช่จ่ายไปแล้วเพื่อนต้องไปยืนงงอยู่ในดงสตั๊ด

คูตินโย่ - การจ่ายบอลตัดแนวรับยังคมอยู่ นอกจากลูกที่จ่ายให้เฮนเดอร์สันตีเสมอแล้วยังมีอีกหลายครั้งที่ออกบอลสวยๆ ได้ จับและแต่งบอลเล่นได้ดี ความฟิตดูดีขึ้นเมื่อดูจะวิ่งได้มากขึ้นแล้ว (แต่ยังครบ 90 นาทีไม่ไหว) เกมรับพยายามจะช่วยวิ่งไล่มากขึ้นแต่เห็นแล้วอยากบอกว่า "ยืนเฉยๆ เห๊อะ" เพราะพรวดพราดโดนพลิกหลบไปได้ทุกครั้ง แต่อย่างน้อยก็เห็นความพยายามละนะ

ดาวนิ่ง - ต้นเกมช่วยทำเกมรุกด้วยบอลจากริมเส้นได้ดีหลายครั้ง กดดันได้ดีทีเดียว หลังจากนั้นบอลเกมรุกก็ค่อยๆ หายไป เหลือแต่การเชื่อมเกมที่ยังทำได้ดีอยู่ ช่วยไปรับบอลจากกองหลังที่ตั้งท่าสาดทิ้งได้มากพอสมควรเลยทีเดียว

เฮนเดอร์สัน - ช่วยไล่แดนกลางได้พอสมควร แรงปะทะพอใช้ได้ อย่างน้อยเข้าไปประกบใครคู่ต่อสู้ก็ยังต้องพยายามเต็มที่กว่าจะพาบอลผ่านไป ได้และหลายครั้งที่ชลอเกมคู่ต่อสู้ให้ช้าลงได้ บอลเกมรุกแทบไม่มี เชื่อมเกมพอใช้ได้แม้จะช้าไปหน่อยและต้องมองค่อนข้างนาน โดยรวมแล้วช่วยลดภาระของทั้งลูคัสและเจอราร์ดค่อนข้างดีทีเดียว จบสกอร์ได้ดีด้วย

ซัวเรส - เคลื่อนที่เยอะมากจนไม่น่าเชื่อว่าพึ่งบินข้ามโลกไปเตะเกมทีมชาติมา ช่วยทำเกมรุกได้เยอะแม้ทีเด็ดทีขาดนัดนี้จะน้อยไปหน่อย ได้ยิงก็พลาดและทำบอลเสียก็เยอะพอสมควร ครึ่งแรกและหลังจากที่ทีมนำแล้วเล่นฝืนมากไปหน่อย แต่ช่วงต้นครึ่งหลังจนกระทั่งทีมนำมีส่วนมากๆ กับการเจาะแนวรับคู่ต่อสู้

ตัวสำรอง

สเตอริ่ง - ลงมานั่งผูกเชือกรองเท้า สงสัยมากว่าจะผูกอะไรบ่อยขนาดนั้น ความเร็วมีแต่กระชากบอลไปไม่ค่อยดีนัก
 
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...สตีเว่น เจอราร์ด... ลูกแรกก็เป็นคนเปลี่ยนจากรับเป็นรุก ลูกที่สองก็ยิงจุดโทษให้ โหม่งเคลียร์บนเส้นประตูอีกต่างหาก ตั้งเกมรุกก็เริ่มจากเจอราร์ด คุมจังหวะเกมก็เจอราร์ด เป็นหัวใจของทีมเลยทีเดียว
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

ลิเวอร์พูล 3 - 2 สเปอร์ (พรีเมียร์ลีค)

ตกแล้วเก็บได้
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

---------------------สเตอริดจ์-----------------------
คูตินโย่---------------ซัวเรส------------------ดาวนิ่ง
-------------ลูคัส----------------เจอราร์ด----------
เอนริเก้-----แอกเกอร์------คาราเกอร์-----จอห์นสัน
-----------------------โจนส์-------------------------

               ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับมือสเปอร์ที่ฟอร์มกำลังแรงในเกมพรีเมียร์ลีค(ก็ต้อง พรีเมียร์ลีคละครับ ถ้วยอื่นไม่ได้เล่นแล้ว) นัดนี้ได้สเตอริดจ์กลับมาเป็นหน้าเป้า ทำให้ซัวเรสถอยลงไปเล่นหน้าต่ำเหมือนเดิม รวมไปถึงโจนส์ที่ได้ลงเป็นตัวจริง นอกนั้นยังเป็นผู้เล่นชุดเดิมที่ใช้มาในช่วงหลังๆ
-------------------------------------------------------

               ช่วงต้นเกมยังค่อนข้างสูสี สเปอร์ครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อย แต่ขึ้นเกมรุกค่อนข้างช้า เล่นกันระวังตัวทำให้เกมรุกไปไม่ค่อยสุด ส่วนลิเวอร์พูลเล่นจังหวะทำเกมรุกได้เร็ว ครองบอลได้ไม่มากนักแต่มีจังหวะบุกไปป้วนเปี้ยนแถวเขตโทษได้มากกว่า โอกาสจบสกอร์ยังมีไม่มากนักทั้งสองฝ่าย

               ลิเวอร์พูลที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวเขตโทษได้มากกว่า ในที่สุดก็ทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จในนาที 21 คูตินโย่จ่ายตัดแนวรับให้เอนริเก้หลุดไปจ่ายให้ซัวเรสยิงจังหวะแรกมุมแคบ ผ่านยอริสเข้าไปได้ 1-0 หลังจากนั้นลิเวอร์พูลก็พลิกกลับมาเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าอยู่ราวๆ 10 นาทีแต่ยังยิงเพิ่มไม่ได้ สกอร์ยังอยู่ที่ 1-0

               เข้า 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก สเปอร์เริ่มเน้นเกมรุกมากขึ้นและทำได้ดีขึ้น บอลที่มาไม่ค่อยถึงเขตโทษในช่วงแรกเริ่มพามาถึงได้ต่อเนื่องและ เริ่มกดดันแนวรับได้มากขึ้น จนกระทั่งตีเสมอได้สำเร็จก่อนจบครึ่งแรก นาที 45 เบลโยนจากริมเส้นให้แวนตองเก้นขึ้นโหม่งเข้าไปได้เป็น 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

               เข้าครึ่งหลัง รูปเกมโดยรวมยังคล้ายครึ่งแรก ที่ต่างไปนิดหน่อยคือยิ่งเล่นสเปอร์ยิ่งดีขึ้นส่วนลิเวอร์พูลยิ่งแย่ลง เรื่อยๆ ครองบอลได้น้อยลงและบุกไปไม่ถึงข้างหน้า ถ้าไม่ถูกตัดได้ที่กลางสนามก็จะพลาดตอนวางบอลไปให้ตัวรุก ทำให้สเปอร์ทำเกมกดดันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ประตูขึ้นนำในที่สุดในนาที 53 เบลโยนฟรีคิกจากเกือบกลางสนาม กองหลังเคลียร์ไม่ขาด บอลเข้าทางแวนตองเก้น(อีกแล้ว) ยิงเข้าไปได้ 2-1

               หลังจากโดนแซงนำ ลิเวอร์พูลยิ่งดูแย่ลงไปอีกเมื่อต้องดันแผงหลังสูงขึ้นแต่เกมรุกยังกดดันแนว รับไม่ค่อยได้ กลายเป็นสเปอร์ที่มีพื้นที่เล่นมากขึ้นได้ลุ้นประตูมากกว่า แต่ก่อนที่จะโดนเพิ่มอีกลูก ร็อดเจอร์ส่งอัลเลนลงมาแทนคูตินโย่ในนาที 59 ซึ่งไม่ได้ช่วยหยุดเกมรุกสเปอร์แล้วก็ไม่ได้ช่วยให้เกมรุกลิเวอร์พูลดุดัน ขึ้น แต่ที่เปลี่ยนไปคือลิเวอร์พูลเริ่มครองบอลได้นานขึ้นและบอลจากหลังไปหน้า เริ่มมีความต่อเนื่องมากขึ้นกว่าในช่วงก่อนหน้า

               แม้เกมของลิเวอร์พูลจะเริ่มกระเตื้องขึ้น แต่รูปเกมโดยรวมสเปอร์ยังเหนือกว่า จนกระทั่งสเปอร์ดันมาพลาดเอง นาที 66 วอล์คเกอร์จ่ายกลับหลังผิดน้ำหนัก ยอริสต้องออกไปเตะบอลหน้าเขตโทษแล้วเตะวืด ทำให้ดาวนิ่งเก็บบอลไปยิงตีเสมอได้สำเร็จ 2-2

               ถึงตรงนี้เกมกลับมาสูสี สเปอร์ยังครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อยแต่พื้นที่เล่นมีน้อยลงทำให้เกมรุกไปถึง เขตโทษและได้ลุ้นจบสกอร์น้อยลงตามไปด้วย ส่วนลิเวอร์พูลยังไม่ค่อยได้ลุ้นประตูแต่บอลเริ่มไปถึงข้างหน้าได้มากขึ้น เรื่อยๆ พอเข้าถึงช่วง 15 นาทีสุดท้ายเกมก็เริ่มเปิดแลกกันมากขึ้น ไม่มีใครถอยลงไปตั้งรับ

                แต่แล้วก็เป็นสเปอร์ที่พลาดอีกครั้ง นาที 82 เดโฟเตะสกัดคืนหลังเข้าไปในเขตโทษตัวเอง บอลไปเข้าเหลี่ยมซัวเรสจะเอาบอลลงยิงแต่โดนเอนกอตโตมาเบียดปะทะเอาไว้และผู้ ตัดสินเป่าให้จุดโทษ เจอราร์ดรับหน้าที่ยิงไม่พลาด ลิเวอร์พูลแซงนำอีกครั้งได้สำเร็จ 3-2

               เวลาที่เหลืออยู่สเปอร์ยังพยายามบุก แต่ลิเวอร์พูลปิดพื้นที่กันได้ดีขึ้น หยุดเกมรุกเอาไว้ได้ตั้งแต่กลางสนามเป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึงพอจะครองบอลได้และพาบอลไปครองในแดนหน้าได้เป็นระยะ ทำให้สเปอร์ไม่ได้ลุ้นจบสกอร์มากนัก นาที 88 เฮนเดอร์สันได้ลงมาแทนสเตอริดจ์ ก่อนจะจบเกมไปด้วยชัยชนะของลิเวอร์พูล 3-2
 -----------------------------------------

               เมื่อได้สเตอริดจ์กลับมา 11 ตัวจริงก็กลับมาเป็นชุดเดิมอีกครั้ง อันนี้ถือเป็นจุดหนึ่งที่ผมชอบร็อดเจอร์ เพราะทีมชุดไหนที่เล่นกันค่อนข้างลงตัวแล้ว ร็อดเจอร์จะไม่สลับทีมไปมา เปลี่ยนให้น้อยที่สุด และตำแหน่งไหนที่เิริ่มหลุดฟอร์มถึงจะโดนถอดออก (แม้หลายครั้งจะช้า และทีมต้องเจ็บไปนัดสองนัดถึงจะถอดออก ซึ่งเป็นจุดที่ผมไม่ชอบก็ตาม) ที่แปลกตาไปเล็กน้อยก็เห็นจะมีแค่โจนส์ที่ได้ลงตัวจริง ไม่รู้ว่าเรน่าไปไหน ไม่ทันได้ตามข่าว

               ส่วนรูปเกมในวันนี้เป็นอีกนัดหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าร็อดเจอร์อยากให้ทีม เล่นเกมรุก มากกว่าจะเน้นความแน่นอน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะมั่นใจในทีมมากหรือแค่ความชอบส่วนบุคคล แทคติคเริ่มเกมแม้จะไม่ได้เปิดหน้าแลกสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ก็แสดงให้เห็นตั้งใจมาสู้ด้วยเกมรุก ไม่ใช่ปิดพื้นที่แล้วรอโต้ ยันไม่ให้โดนไปเรื่อยๆ แล้วหวังเอาลูกเดียวน๊อค

               การเปลี่ยนตัวของร็อดเจอร์เล่นเอาใจหายเหมือนกัน เมื่อตัดสินใจส่งอัลเลนแทนที่จะเป็นเฮนเดอร์สัน คือสถานการณ์ขณะนั้นลิเวอร์พูลมีปัญหาทั้งหยุดเกมรุกไม่อยู่และตั้งเกมรุก ไม่ได้ ถ้าส่งเฮนเดอร์สันลงมาน่าจะทำให้เกมสมดุลย์มากขึ้นเพราะเฮนเดอร์สันเล่นเกม รับได้ดีกว่า ไม่ว่าจะปะทะหรือวิ่งไล่ปิดพื้นที่ แต่ร็อดเจอร์เลือกส่งอัลเลนลงมา เลือกที่จะแก้เรื่องการขึ้นตั้งเกมรุกมากกว่า เพราะอัลเลนถ้าพูดถึงเรื่องเคาะเชื่อมเกมประคับประคองบอลจากกลางขึ้นไปหน้า เจ้าตัวก็ไม่เป็นรองใครในทีมเหมือนกัน แม้สุดท้ายผลลัพธ์สองประตูหลังจะได้มาจากความผิดพลาดของสเปอร์เอง แต่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าอัลเลนลงมาแล้วทำให้บอลมันไปถึงข้างหน้าได้มาก ขึ้นจริงๆ สรุปแล้วแม้จะค่อนข้างขัดใจกับการเปลี่ยนตัวครั้งนี้แต่ก็ถือว่าร็อดเจอร์ทำได้ดีละครับ

               ดูโดยรวมทั้งเกมแล้ว อันที่จริงนัดนี้เกมแดนกลางลิเวอร์พูลสู้สเปอร์ไม่ได้ ครองบอลได้น้อยกว่าและการเก็บบอลจังหวะสองในเกมรุกมีน้อยมากๆ ทำให้ไม่ค่อยมีจังหวะกดดันต่อเนื่องในแดนสเปอร์สักเท่าไหร่ กลายเป็นฝั่งที่แพ้อย่างสเปอร์ที่ทำได้ดีกว่า แม้จะไม่ได้เหนือกว่ามากนักแต่อย่างน้อยก็น่าจะมีสักแต้มติดมือกลับไปได้ ถ้ากองหลังไม่พลาดให้ ลิเวอร์พูลไม่น่ารอด

               อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนั้น ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าคู่ต่อสู้จะไม่เคยพลาดให้ แต่ลิเวอร์พูลดันเก็บของตกไม่ได้แบบนัดนี้ทำให้อันดับในตารางยังไม่สามารถ เบียดเข้าไปในพื้นที่ UCL พอมานัดนี้ลิเวอร์พูลทำได้ ทั้งจากเกมเปิดซึ่งทำเกมเจาะเข้าไปด้วยตัวเอง และเก็บตกความผิดพลาดได้ทั้งสองครั้ง ก็ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยเฉพาะเกมรุกครับ

               ส่วนเกมรับ...คงต้องแก้กันอีกสักพัก

-------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้ และเล่นได้ดีมากในช่วงต้นเกมกับท้ายเกม

โจนส์ - เซฟได้ดีหลายครั้ง แม้จะปัดไม่ค่อยพ้นกรอบแต่อย่างน้อยก็ปัดได้และไม่โดนซ้ำ ผลงานค่อนข้างดีทีเดียว

จอห์นสัน - เล่นได้ไม่ดีนัก พลาดในเกมรับเยอะทีเดียว เกมรุกยังเชื่อมเกมได้ดีอยู่แต่ก็ขึ้นไปได้ไม่สุด

แอกเกอร์ - สกัดลูกกลางอากาศไม่ค่อยขาด แต่ตามประกบตัวรุกได้ดี กัดไม่ปล่อยทำเอาคู่ต่อสู้พลิกบอลไม่ค่อยได้

คาราเกอร์ - อ่านเกมใช้ได้แต่ตัวไปไม่ค่อยทัน เข้าสกัดถึงบอลน้อยไปหน่อยแต่ดักบอลได้ค่อนข้างดี เล่นพอใช้ได้

เอนริเก้ - เล่นเกมรับได้ดีทีเดียว จังหวะตัวต่อตัวเอาอยู่และบังทางเปิดบอลได้ดี ส่วนเกมรุกขึ้นไปเติมเกมได้ดีมากในช่วงต้นเกม หลังจากนั้นก็เติมเกมน้อยลงแต่ยังช่วยเชื่อมเกมได้ดี

ลูคัส - จ่ายบอลขึ้นหน้าเมื่อไหร่บรรลัยเมื่อนั้น พลาดเยอะมาก แต่ถ้าเอาแค่เคาะหนีตัวไล่เชื่อมเกมไปก็ยังพอทำได้อยู่ ในส่วนเกมรับทำได้ค่อนข้างดี เข้าสกัดถึงบอลและหยุดเกมรุกหน้าเขตโทษได้

เจอราร์ด - ช่วยเกมรับได้เยอะ กลายเป็นตัววิ่งไล่บอลในแดนกลางมันซะอย่างนั้นและทำได้ค่อนข้างดีด้วย เกมรุกจังหวะสุดท้ายไม่ได้มีส่วนร่วมเลยตลอดเกม แต่ผ่านบอลไปพื้นที่ว่างได้ดี

ซัวเรส - ซัวเรสตัวจริงกลับมาแล้ว(วิ่งไม่หยุดและหงุดหงิดเป็นระยะ) จบสกอร์ลูกแรกได้เยี่ยมมาก และมีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะมาก คุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่กับลูกตอดลูกแถมของผู้เล่นสเปอร์ แต่ทีทำได้ดีมากคือไม่หยุดวิ่ง ไม่ว่าจะทำทางหรือวิ่งไล่ ไม่ว่าจะนำหรือตามอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าประทับเอามากๆ นอกจากจำนวนประตูที่ทำให้ทีมได้

คูตินโย่ - เป็นสาย int early game เต็มตัว(คิดคำนี้ขึ้นมาแล้วนึกถึงอดีตเมื่อ 10 กว่าปีก่อน 555+) ออกบอลได้อย่างฉลาด คิดเร็วทำเร็วทำได้ดีด้วย จ่ายบอลในเกมรุกได้สุดยอด แต่พอเข้ากลางเกมก็ค่อยๆ หายไป ได้บอลก็เริ่มโดนเบียดแซะไปบ่อยขึ้น จนกระทั่งหายไปจากเกมในที่สุด

ดาวนิ่ง - เล่นไปตามจังหวะจืดๆ นิ่งๆ มาเกือบทั้งเกม สิ่งที่ทำได้ดีคือลงมาช่วยจอห์นสันที่จ่ออยู่ที่ท่าเรือตลอดเกมได้อยู่ตลอด ลงมาบังทางและชลอเกมได้น่าประทับใจมาก (ซึ่งคูตินโย่ทำแบบนี้ไม่ได้) ดาวนิ่งมาเด่นจริงๆ เอาหลังจากที่ทีมพลิกนำได้แล้ว เกมรับช่วยได้มากทั้งสกัด, บังทางบอลและตัดฟาลว์ เกมรุกเลือกช็อตเล่นได้สุดยอด ครองบอลไว้กับตัวดี มีจังหวะกระชากเพื่อให้บอลมันไปตายในแดนหน้าได้ดี ถ้ามีเพื่อนเติมมาช่วยก็ตาดีพอที่จะจ่ายให้ กว่าสเปอร์จะเอาบอลกลับมารุกได้ก็นานพอสมควร นับเฉพาะ 8 นาทีสุดท้ายนั้นดาวนิ่งเป็นแมนออฟเดอะแมทช์ได้เลย

สเตอริดจ์ - เคลื่อนที่น้อย เก็บบอลไม่ได้มากนักและต่อเกมทำเกมได้แค่พอใช้ไม่ถึงขั้นดี มาทำได้ดีขึ้นเอาตอนที่ทีมตีเสมอ 2-2 ได้แล้วที่เคลื่อนที่มากขึ้นและทำเกมรุกได้ดีขึ้น ความฟิตดูจะยังไม่เต็มที่นัก

ตัวสำรอง

อัลเลน - ทำให้บอลอยู่กับทีมนานขึ้นและเชื่อมเกมไปข้างหน้าได้ดีมาก

เฮนเดอร์สัน - อย่างน้อยก็ได้ลงละฟระ

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...สตีเว่น เจอราร์ด... เกมรุกแทบไม่ได้ไปยุ่งกะเค้าเลย แต่ถ้าไม่มีคนนี้นัดนี้เน่าแน่ ช่วยประคับประคองเกมกลางสนามที่ตกเป็นรองตลอดเกมได้ดีไม่ว่าจะในเกมรับหรือ การตั้งเกมรุก ในวัยสามสิบกว่ายังวิ่งไล่เข้าปะทะได้ดี รวมไปถึงยิงจุดโทษให้ทีมเฉือนชนะได้ด้วย
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

วีแกน 0 - 4 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


คมนะครับ แหม่~
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

----------------------ซัวเรส------------------------
คูตินโย่--------------อัลเลน-----------------ดาวนิ่ง
-------------ลูคัส----------------เจอราร์ด----------
เอนริเก้-----แอกเกอร์------คาราเกอร์-----จอห์นสัน
-----------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลออกไปเยือนทีมที่กำลังหนีตกชั้นอย่างวีแกน นัดนี้ไม่มีสเตอริดจ์ที่ มีอาการบาดเจ็บ นอกนั้นร็อดเจอร์ยังเลือกทีมชุดเดิม โดยมีซัวเรสเล่นหน้าเป้า คูตินโย่เล่นทางริมเส้นซ้ายและอัลเลนที่ยืนสูงเป็นตัวรุก
-------------------------------------------------------

               เปิดเกมมาลิเวอร์พูลก็ยิงได้ทันที แค่นาที 2 จากการวางยาวของเรน่าให้คูตินโย่แตะบอลหาจังหวะเปิดเข้ากลางให้ดาวนิ่งได้ โหม่งโล่งๆ เข้าไปได้ 1-0 วีแกนทำท่าเหมือนจะตั้งเกมรุกสู้ทันทีแต่ลิเวอร์พูลยังเข้าถึงบอลกันได้เร็ว ทำให้วีแกนตั้งเกมได้ค่อนช้า แม้จะได้ลุ้นบ้าง(อันที่จริงได้ลุ้นตั้งแต่นาทีแรกด้วยซ้ำ) แต่ยังทำอะไรไม่ได้ ส่วนลิเวอร์พูลพอขึ้นนำแล้วก็ไม่ได้ดันเกมขึ้นสูงมากนัก เน้นคุมพื้นที่แดนกลางให้แน่นไว้ก่อน

               ลิเวอร์พูลพยายามเน้นจังหวะโต้เร็วไม่ค่อยตั้งเกมขึ้นมาเป็นแผงมากนัก แม้จะดูเหมือนไม่ค่อยได้บุกขึ้นมาสักเท่าไหร่ถ้าเทียบกับเกมที่ผ่านๆ มา แต่ยังดูดีได้ลุ้ันกว่าวีแกนที่ได้ครองบอลค่อนข้งเยอะแต่เจาะไม่เข้า ก่อนที่นาที 18 ลิเวอร์พูลจะหนีห่างไปอีกครั้งเมื่อคูตินโย่โชว์สเต็ปเดิมด้วยการรับบอลมา แตะหาจังหวะเปิดทะลุช่องให้ซัวเรสหลุดเข้าไปยิงได้สำเร็จ 2-0

               เกมยังคงเล่นกันในจังหวะเดิม วีแกนครองบอลค่อนข้างเยอะแต่เจาะไม่เข้า จังหวะได้ลุ้นส่วนใหญ่มาจากการทำเกมรุกใส่ทีมตัวเองของแนวรับลิเวอร์พูลที่ เล่นกันหวาดเสียวและสกัดบอลไม่ขาด แต่วีแกนก็หนักไปทางทำได้แค่ลุ้น รวมไปถึงเรน่าที่เซฟได้ไม่พลาดด้วย ทำให้ลิเวอร์พูลไม่ค่อยเจอความกดดันทั้งยังมาได้ประตูเพิ่มอีกในนาที 34 จากฟรีคิกหน้าเขตโทษ ซัวเรสยิงไปแฉลบหัวกองหลังเบียดเสาเข้าไป 3-0 เวลาที่เหลือรูปเกมไม่มีอะไรเปลี่ยนจนกระทั่งจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

               เข้าครึ่งหลังต่อบอลกันได้ไม่นาน แค่นาที 49 ซัวเรสก็มาทำแฮททริคได้สำเร็จเมื่อวิ่งไปรับบอลจากจอห์นสัน(ถ้าดูไม่ผิดนะ ก้มหน้ากินข้าวอยู่พอดี) ไปยิงลอดขาอัลฮัฟซี่เข้าไปได้ 4-0 และเกมจบแบบไม่เป็นทางการไปเรียบร้อย

               วีแกนยังพยายามบุกต่อและดันกันขึ้นมาช่วยหน้าเป้าที่โดดเดี่ยว เปลี่ยวเหงาในครึ่งแรกอย่างโคเน่กันเยอะขึ้น แต่ดูเหมือนจะหนักไปทางช่วยลูคัสตัดเกมรุกซะมากกว่าเพราะแม้จะพาบอลมาป้วน เปี้ยนใกล้เขตโทษได้ต่อเนื่องแต่จ่ายบอลเข้าทำได้เข้าขากับกองหลังเอามากๆ ทำเอาโคเน่เล่นไปส่ายหัวไปเป็นระยะๆ

               ลิเวอร์พูลเล่นกันแค่ประคองไปตามจังหวะและเกมแดนกลางค่อนข้างหลวม รวมไปถึงลูกกลางอากาศที่มีปัญหากันพอสมควรแต่ตัวรุกวีแกนก็ผนึกกำลังกับเร น่าช่วยกันเซฟประตูไว้ได้ตลอดและไม่ถูกกดดันมากนัก ก่อนที่นาที 70 เฮนเดอร์สันจะได้ลงมาแทนคูตินโย่ที่เริ่มออกอากาศวิ่งไปหัวทิ่มไป ดูง่อยเปลี้ยเพลียแรงหนักกว่าเพื่อน

               เวลาที่เหลือ วีแกนยังคงเล่นกันแบบชวนให้โคเน่ย้ายทีมต่อไป ส่วนลิเวอร์พูลยังคงคอนเซ็ปต์ พอแล้วนะแต่ถ้าให้ก็ไม่ขัด เกมเลยออกมาค่อนข้างติงนังเตร่งเตร๊งไปเรื่อยๆ ขนาดกรรมการยังขี้เกียจเป่าต่อ ทดเจ็บแค่สองนาทีก่อนจะจบเกมไปด้วยชัยชนะสวยหรูของลิเวอร์พูล 4-0
 -----------------------------------------

               11 ตัวจริงเมื่อไม่สเตอริดจ์ก็แทบจะเดาได้ว่าจะออกมาเป็นรูปนี้ ตัวที่น่าลุ้นอย่างคูตินโย่ยังได้โอกาสอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงตัวที่น่าลุ้น(ในอีกความหมาย)อย่างอัลเลนก็ยังได้เล่นตัวรุกต่อไป แทคติคก่อนเกมคงไม่มีใครรู้เพราะลิเวอร์พูลดันได้ประตูออกนำเร็วทำให้เล่น ได้ง่ายและไม่ต้องเน้นเกมรุกหรือดันกันขึ้นไปสูงมากนัก ปิดจุดอ่อนสำคัญที่สุดอย่างการโดนโต้กลับไปได้เกือบหมด

               สิ่งที่ตัดสินเกมในวันนี้ก็อยู่ที่สองประตูที่ได้มาเร็วตามเหตุผลข้างต้น ที่ดูจะด้อยอยู่หน่อยก็คือผู้เล่นลิเวอร์พูลหลายคนเล่นกันไม่ค่อยมีสมาธิ เท่าไหร่ในบางจังหวะ ผ่อนเกมมากไปนิด ในครึ่งแรกจังหวะสกัดและจังหวะที่ตัดบอลได้แล้วในแดนหลังเล่นกันได้สยดสยอง มาก และทั้งเกมมีปัญหากับลูกโหม่งเยอะกว่าที่ควรจะเป็น ถ้าไม่ได้เรน่าปัดไว้ให้ 3-4 ลูกก็คงไม่ชนะขาดแบบนี้

               อย่างไรก็ตาม วันนี้ลิเวอร์พูลทำได้โดดเด่นมากในเรื่องการเข้าทำ มีโอกาสยิงน้อยกว่าวีแกนและพาบอลไปถึงหน้าเขตโทษได้ไม่น่าจะเยอะกว่าวีแกน ด้วยซ้ำแต่ใช้โอกาสที่สร้างได้ได้ดี ยิงเข้่ากรอบเกือบทุกลูกและได้ถึง 4 ประตู ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการสร้างโอกาสที่ทำได้ดีมากๆ ด้วย ไม่ใช่เปิดบอลให้กองหน้าโดนบีบต้องไปยิงยากๆ แบบที่ผ่านมา จ่ายแต่ละลูกนี่เรียกได้ว่า "หลุด" เลยทีเดียว

               คนที่แฮปปี้ที่สุดคงเป็นซัวเรสละครับ มีบุญทำงานแค่วิ่งไปยิงแบบกองหน้าทีมอื่นเขามั่งแล้ว ไม่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองแบบที่ผ่านๆ มา ...แฮททริคซะเลย...

-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ค่อนข้างดี

เรน่า - เซฟลูกโหม่งได้ดีทั้งเกม ส่วนหนึ่งวีแกนเองก็โหม่งไม่ค่อยหนักด้วย แต่เซฟได้ทุกลูกๆ แบบนั้นก็ถือว่าทำได้สุดยอดมาก

จอห์นสัน - ฟอร์มหลุดไปเยอะทีเดียว เกมนำห่างและไม่จำเป็นต้องเติมขึ้นไปสูงมากนักแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเล่นเกม รับได้ไม่ดี ปล่อยให้คู่ต่อสู้เปิดบอลเข้ากลางค่อนข้างง่ายโดยเฉพาะครึ่งแรก และประกบตัวรุกในเขตโทษได้ไม่ดีเท่าไหร่ เรื่องเชื่อมเกมวันนี้ก็ทำได้ไม่ดีด้วย

แอกเกอร์ - มีปัญหาเล็กน้อยกับลูกกลางอากาศ ไม่ใช่ว่าพลาดทุกลูกแต่ก็พลาดบ่อยเกินไป แต่จังหวะประกบคู่ต่อสู้ทำได้ดีมากและพาบอลเปิดบอลขึ้นหน้าได้ค่อนข้างดี

คาราเกอร์ - ฟอร์มดรอปลงไปจากช่วงก่อนหน้านี้ จังหวะประกบทำได้ไม่ดีนักและจ่ายบอลในแดนตัวเองให้เพื่อนต้องแก้บ่อยพอควร แต่ฟอร์มโดยรวมก็พอใช้ได้

เอนริเก้ - เล่นเกมรับได้ดีโดยเฉพาะจังหวะที่วิ่งเบียดตัดบอลลูกที่คู่ต่อสู้จ่ายทะลุ ช่องมา มียืนหลุดให้คู่ต่อสู้ทำเกมริมเส้นได้ให้เห็นบ้าง เชื่อมเกมได้ค่อนข้างดีแต่โดยรวมแล้วยืนค่อนข้างต่ำไปสักหน่อยทำให้กองกลาง ต้องเล่นกันเองเป็นส่วนมาก ส่วนเกมรุกขึ้นไปนับครั้งได้

ลูคัส - ก่อนโดนใบเหลืองเข้าตัดเกมได้ดีแต่เสียฟาลว์ง่ายไปนิด พอโดนใบเหลืองไปแล้วเลยเล่นเซฟตัวเองจนแดนกลางค่อนข้างหลวม ทำได้ดีในเรื่องเชื่อมเกมที่เคลื่อนที่รับบอลได้ดีมาก

เจอราร์ด - คุมจังหวะช้าเร็วของทีมได้ดี ทำงานทั้งในเกมรุกและเกมรับ แต่วันนี้เล่นเกมรับค่อนข้างน้อยทำให้แดนกลางมีพื้นที่ว่างให้คู่ต่อสู้พอ สมควร ในเกมรุกหนักไปทางเป็นตัวเปลี่ยนจังหวะมากกว่าจะขึ้นไปออกบอลในแดนหน้าหรือ ทำเกมทะลุทะลวงในพื้นที่สุดท้าย

อัลเลน - เล่นได้ดุขึ้น แต่โดยรวมก็ดูจะพึ่งคนอื่นมาช่วยชิ่งบอลมากไปนิดทำให้การเล่นในพื้นที่หน้า เขตโทษทำกันหลายจังหวะเกินไปในบางครั้ง ไม่ต้องนับลูกจ่ายได้เสียที่มีน้อยมาก แต่ยังออกบอลพลาดค่อนข้างน้อยและเอาตัวรอดจากการโดนเบียดปะทะได้ดีขึ้น

คูตินโย่ - เล่นได้โดดเด่นโดยเฉพาะครึ่งแรก ควบคุมบอลได้ยอดเยี่ยมมากและจ่ายบอลตัดแนวรับได้ดี ทำได้ถึงสองแอสซิสซ์ที่ต้องเรียกว่าแอสซิสซ์จริงๆ เพราะคนจบหลุดกระจายไม่มีใครเบียดทั้งสองจังหวะ มีความเร็วและทักษะบอลที่ดีพอจะหลบการโดนเบียดปะทะ ที่ยังดูด้อยคือฟอร์มไม่สม่ำเสมอไปตลอดเกม ปลายครึ่งแรกกับต้นครึ่งหลัง(ก่อนโดนเปลี่ยนออกนาที 70) แทบหายไปเลย รวมไปถึงความฟิตที่ยังดูจะมีปัญหา

ดาวนิ่ง - โหม่งลูกแรก...เฮ~ เจอกันอีกทีตอนกอดดีใจกับซัวเรสหลังจบเกมโน่น เล่นไปตามจังหวะไม่มีอะไรโดดเด่น

ซัวเรส - แทบไม่เห็นจังหวะมุดๆๆ ไปเองเลย เพราะเพื่อนจ่ายมาให้ได้ดี วันนี้จบสกอร์ได้เด็ดขาด(เป็นวันๆ นะฮะ วันอื่นไม่รู้แต่วันนี้คมจริง) ดึงตัวเองอยู่ในไลน์ไม่ให้ล้ำหน้าได้ไม่ดีนัก โดนดักล้ำหน้ากระจาย ทั้งๆ ที่ตัวเองมีสปีดน่าจะดีกว่ากองหลังอยู่แล้วไม่น่าต้องเสี่ยงวิ่งออกตัวเร็ว ขนาดนั้น นอกนั้นก็ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้่ค่อนข้างดี จะมีช่วงที่ 3-0 ที่เจ้าตัวยิงได้ 2 ลูกไปแล้วนั่นแหล่ะที่ดูจะฝืนๆ จะเอาแฮททริคมากไปนิด แต่พอทำได้แล้วก็เลิกฝืน

ตัวสำรอง

เฮนเดอร์สัน - ยังไม่เปลี่ยนทรงผม

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...หลุยส์ ซัวเรส... คมจริงอะไรจริง ทั้งจำนวนประตูและการยิงเข้ากรอบ เกมนี้วีแกนมีโอกาสลุ้นประตูบ่อยครั้งกว่าอีกแต่ซัวเรส(วันนี้)แสดงให้เห็น ว่าความเด็ดขาดมันเป็นยังไง (ส่วนบางวันแสดงให้เห็นในทางตรงกันข้าม 555+)
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.