วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 1-2 แมนฯยู (พรีเมียร์ลีค)



...48 วินาที...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอริดจ์-----------------------
--------------คูตินโย่-------------ลัลลาน่า-------------
โมเรโน่-------อัลเลน-------เฮนเดอร์สัน-----สเตอลิ่ง
--------ซาโก้---------สเคอเทล----------ชาน---------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ เกมแดงเดือดที่แอนฟิลด์และนัด(น่าจะ)สุดท้ายของเจอราร์ด ร็อดเจอร์ยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมอยู่ เจอราร์ดทำได้แค่นั่งรอที่ม้านั่ง ส่วนตำแหน่งแบ็คขวาวันนี้เลือกใช้สเตอลิ่งก่อน ลัลลาน่ายังได้เล่นตัวรุกเหมือนเดิม
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาเป็นแมนฯยูที่ทำได้ดีกว่า ขยับขึ้นมาบีบสูงทั้งทีม ทำให้ลิเวอร์พูลเก็บบอลไม่อยู่ตั้งบอลไม่ได้ เสียบอลกลับไปเร็ว แมนฯยูเน้นเกมริมเส้นทางฝั่งชานบ่อยอยู่ ได้เปิดบอลเข้ามาลุ้นบ้างแล้วด้วย

________ ลิเวอร์พูลตกเป็นรองมิดไมล์อยู่ราวๆ เกือบ 10 นาทีถึงได้เริ่มทำได้ดีขึ้นในการเก็บบอลเล่น แต่รูปเกมโดยรวมก็ยังเป็นรองอยู่ แถมยังมาพลาดจนเสียประตูอย่างรวดเร็วในนาที 14 เฟอไลนี่พลิกพาบอลขึ้นมาได้กลางสนามก่อนวางบอลไปทางขวาให้มาต้าที่วิ่งสอดขึ้นมา โมเรโน่ลงไม่ทันและซาโก้ก็อยู่ตรงกลางมากไปถ่างมาปิดไม่ทัน มาต้าได้ยิงมุมแคบหนีมือมินโยเล่เช็ดเข้าเสาสองไปได้ 1-0

_______ หลังจากได้ประตูขึ้นนำแล้วเกมยังเป็นของแมนฯยู แดนกลางต่อบอลกันได้ไหลลื่น บอลยาวไปที่ว่างริมเส้นทั้งสองฝั่งจ่ายออกไปได้แม่นมาก ส่วนลิเวอร์พูลแม้จะเก็บบอลเล่นได้มากขึ้นแต่บอลขึ้นหน้าช้า คู่กลางอย่างเฮนเดอร์สันกับอัลเลนก็ยืนต่ำมากจนไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกม

_______ นาที 34 เฮนเดอร์สันวางบอลยาวลึกเข้าไปในเขตโทษให้สเตอริดจ์แตะต่อให้ลัลลาน่าได้วิ่งเข้ามาแปแบบไม่มีคนขวาง แต่เจ้าตัวยิงหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย หลังจากจังหวะนี้ลิเวอร์พูลเร่งเกมรุกต่อได้ดีอยู่พักนึงแต่เจาะแนวรับอีกไม่ได้ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ความหวังทั้งมวลของเหล่าแฟนบอลลิเวอร์พูลตั้งแต่รุ่นปู่ยันรุ่นหลานก็มายืนรอข้างสนาม ร็อดเจอร์ตัดสินใจส่งเจอราร์ดลงมาแทนลัลลาน่า คาดว่าน่าจะลงมาเล่นต่ำแล้วขยับเฮนเดอร์สันกับอัลเลนไปเล่นสูงเหมือนนัดที่ผ่านมา

_______ ...48 วินาทีหลังจากเร่ิ่มเกม เจอราร์ดโดนใบแดง...

_______ ..ขอร่วมไว้อาลัย 1 ย่อหน้า...

_______ อ่ะ ต่อ ตลกร้ายครับ หลังจากเหลือ 10 คน ลิเวอร์พูลเร่งเกมรุกได้ดีขึ้น ก้าวร้าวขึ้น ขยับมายืนหลัง 4 เอาชานไปแบ็คขวา เกมรุกของลิเวอร์พูลขยับได้โดยเฉพาะคูตินโย่กับสเตอลิ่งที่เริ่มพาบอลไปถึงสุดเส้นได้ เริ่มได้เปิดบอลเข้าทำแล้ว แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้เท่าไหร่

_______ ช่วงประมาณนาที 45-55 เป็นช่วงเวลาที่ลิเวอร์พูลทำได้ดีที่สุดในเกมนี้ กดดันได้ เกมรุกได้ลุ้น เอาบอลขึ้นหน้าได้เร็ว แต่บุกกดดันได้อยู่ราวๆ 10 นาทีก็เริ่มแผ่วลงไป แถมยังพาพลาดซ้ำเสียประตูที่สอง นาที 57 ดิ มาเรียที่พึ่งลงมาเป็นตัวสำรองได้ไม่นาน ตักบอลข้ามแนวรับให้มาต้าวิ่งสอดหลุดเข้าไปในเขตโทษ บอลย้อนหลังแล้วแต่มาต้าเอี้ยวตัววอลเล่ย์สุดสวยเข้าเสาสองไปได้ 2-0

_______ พอได้ประตูที่สอง แมนฯยูผ่อนเกมลงไป เล่นกันตามจังหวะมากขึ้น การขยับไล่บีบบอลหรือวิ่งทำทางขึ้นหน้ามีให้เห็นน้อยลง แต่ทำได้ดีกับการคุมเกม ลิเวอร์พูลบุกขึ้นมาไม่ค่อยต่อเนื่องแล้ว

_______ นาที 65 บาโลเตลลี่ได้ลงมาแทนโมเรโน่ เอาสเตอลิ่งไปแบ็คซ้าย รูปเกมยังไม่เปลี่ยนมากนักแต่ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีตื้นจนได้ในนาที 69 คาริคเก็บบอลไว้กับตัวนานโดนคูตินโย่กับอัลเลน(หรือเฮนเดอร์สันไม่แน่ใจ) คุมบีบแย่งบอลไปได้ ก่อนที่คูตินโย่จะจ่ายให้สเตอริดจ์ได้บอลหลุดเข้าไปยิงมุมแคบเสาแรกในเขตโทษเข้าไปได้ 2-1

_______ ลิเวอร์พูลพอได้ประตูก็เร่งเกมต่อได้ดีขึ้น เกมรุกมาถึงสุดเส้นได้ลุ้นเปิดบ้าง แต่กดดันได้ไม่ดีเท่าตอน 45-55 และทำได้ไม่ต่อเนื่อง เก็บบอลสองเอามาบุกต่อไม่ได้ และการบุกเข้าทำก็ไม่มีจังหวะไหนเอาชนะแนวรับได้เลย

_______ แมนฯยูเล่นไปตามจังหวะและทำท่าจบปิดเกมได้แล้ว ท้ายเกมช่วงทดเจ็บนาที 93 บลินด์พาบอลเข้าเขตโทษไปได้ก่อนโดนชานกระแทกจากด้านหลังล้มลงได้จุดโทษ รูนิี่ย์รับหน้าที่ยิง...พลาด ทำให้จบเกมลิเวอร์พูลพ่ายไปแค่สกอร์ 2-1
-----------------------------------------

_______ ครึ่งแรกเกมเป็นรองชัดเจน ครึ่งหลังก็ยังเป็นรองอยู่ แต่พอจะบุกตอบโต้ไปได้ลุ้นบ้าง

_______ ...เจอราร์ดครับ ไม่ต้องสืบ...

_______ จังหวะความเห็นผมคิดว่าใบแดงชัดเจน เพราะพี่แกยกขาแล้วก็ย่ำลงไปจริงๆ ไม่ใช่ลูกตามน้ำ ไม่ใช่แรงเฉื่อย ไม่ได้จะสกัดบอล ตั้งใจทำร้ายคู่ต่อสู้ก็ต้องแดงละครับ ไม่รู้จะมองเป็นมุมไหนจริงๆ อารมณ์ร่วมเยอะก็ใช่ แต่กับสถานการณ์แบบนี้ เจอราร์ดควรจะมีสมาธิกับเกมให้มากกว่านี้หน่อย เค้าควรจะลงมาช่วยทีมไม่ใช่ทำให้แย่ลงแบบนี้

_______ เจอราร์ดทำอะไรเพื่อทีมมาเยอะครับ และผมก็ดีใจมากด้วยที่เห็นเค้าได้ลงในนัดนี้ ให้ย้อนเวลาไปได้ก็อยากให้เค้าลงเล่นอยู่ดี ผ่านเกมนี้ไปเค้าก็จะเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ผมชื่นชอบที่สุดในทีมลิเวอร์พูล และมั่นใจว่าเค้าจะติดทีมดีที่สุดตลอดกาลในใจผมไปอีกนาน

_______ ...แต่นัดนี้เค้าพลาดครับ

_______ ถัดจากเรื่องเจอราร์ด นัดนี้นับเฉพาะแทคติคเริ่มเกมฟาลกัลทำได้ดีกว่าร็อดเจอร์ชัดเจน ในขณะที่ร็อดเจอร์ถอยไปรับ เน้นชัวร์เข้าว่า ฟาลกันดันทีมขึ้นมาบีบสูงเลย ไม่ใช่แค่ไล่บอลสูง แต่แมนฯยูครึ่งแรกคือขึ้นมายืนคุมพื้นที่ในแดนลิเวอร์พูลเลย ทำเอาลิเวอร์พูลไปไม่เป็น ทำอะไรไม่ได้เลย และถึงแม้ว่าแนวรับแมนฯยูจะยืนสูงมาก แต่ลิเวอร์พูลออกบอลสวนยาวไม่ได้เพราะได้บอลในตำแหน่งต่ำมาก และโดนไล่ตลอด

_______ ครึ่งหลังยังไม่ทันจะอะไรก็ดันมาเกิดเรื่องซะก่อน ในแง่ว่าเปลี่ยนลัลลาน่าออกผมว่าก็โอเค นาทีนั้นยังไงก็ต้องเอาเจอราร์ดลงเพราะครึ่งแรกทีมเล่นไม่ได้จริงๆ และถ้าจะเปลี่ยนใครโดยที่ไม่ต้องปรับตำแหน่งอะไรมากนัก ก็มีให้เลือกแค่ลัลลาน่ากับสเตอลิ่ง จากฟอร์มครึ่งแรก เลือกใครก็ไม่ต่าง

_______ ส่วนการเปลี่ยนบาโลเตลลี่ลงมาผมเห็นด้วยครึ่งเดียว คือผมเห็นด้วยว่าต้องส่งกองหน้าลงมาเพิ่ม ไม่งั้นสเตอริดจ์ก็โดนรุมตายไม่ได้ทำอะไร ทางเลือกในม้านั่งสำรองคือไม่แลมเบิร์ตก็โอ้ ใจผมอยากให้เป็นแลมเบิร์ต แต่สุดท้ายเราๆ ท่านๆ ไม่ได้อยู่ในสนามซ้อมกับเค้าด้วย ไม่รู้ว่าแลมเบิร์ตตอนนี้จะดีกว่าโอ้จริงรึเปล่า แต่ที่จริงแท้แน่นอนคือโอ้ลงมาเล่นได้บรรลัยมากครับ

_______ ลิเวอร์พูลเร่งเกมรุกได้ดีในช่วงต้นครึ่งหลัง และหลังจากที่ได้ 2-1 ก็ยังพาบอลมาถึงเขตโทษได้ค่อนข้างดี แต่เอาจริงๆ เจาะไม่ได้นะครับ จังหวะที่ได้ยิงโดนไม่มีคนขวางเกมนี้มีแค่สองครั้งเท่านั้นเอง ครั้งแรกคือลัลลาน่าในครึ่งแรก ครั้งที่สองคือสเตอริดจ์ในครึ่งหลังทีเป็นประตู ซึ่งจังหวะได้ประตูแนวรับแมนฯยูเล่นพลาดกันเยอะเลย

_______ ...เดี๋ยวยังต้องเจออาเซนอลอีก ลุ้นกันหนักหน่อยครับสำหรับ Top4

-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ไม่ดีนัก

มินโยเล่ - ฟอร์มส่วนตัวเล่นได้ดี ตัดลูกกลางอากาศได้ ออกมานอกเส้นเร็ว เซฟลูกโทษได้อีกต่างหาก จะมีก็แค่ออกบอลสั้นยาวไม่ดีเท่าไหร่ ส่วนจังหวะผีเมสซี่เข้าสิงพยายามจะไปโยกหลอกรูนี่ย์นี่เราเบลอๆ ลืมๆ กันไปดีกว่า

ซาโก้ - เล่นได้ดีเช่นกัน มีส่วนพลาดเล็กๆ กับสองประตูที่เสียไป แต่กับการสกัด เข้าบอล อ่านเกม(นอกเหนือจากจังหวะเสียประตู) ผ่านบอลขึ้นหน้า เขาทำได้ดี

สเคอเทล - ครึ่งแรกยืนรอดักเป็นตัวสุดท้าย ผลงานส่วนตัวไม่พลาดแต่ช่วยทีมได้น้อยไปหน่อย พอครึ่งขยับขึ้นมาคอยชนกับเฟอไลนี่ได้ดี ดักตัดบอลก่อนถึงกองหน้าได้เยอะมาก

ชาน - โดยรวมแล้วเกมรับของชานใช้ได้ อ่านเกมพอได้ ปิดทางไปต่อได้ดี บังทางไม่ให้คู่ต่อสู้เปิดได้ด้วย แต่ปัญหาของชานคือหวงบอลมากไป จังหวะควรเตะทิ้งดันไปเลี้ยงบอลในเขตโทษตัวเอง หรือบางทีก็จ่ายใส่เพื่อนที่ยังไม่พร้อมจนเสียบอลโดนตัดกลับมาอีก ส่วนจังหวะที่ทำเสียจุดโทษ...อันนั้นก็พลาดจริง

โมเรโน่ - เป็นวันที่เล่นได้แย่มาก ตื่นเต้น เกร็ง เล่นไม่ได้เลย ทั้งสองประตูที่เสียไปโมเรโน่เป็นสาเหตุหลักทั้งนั้น ลูกแรกขยับตามมาต้ามาช้าไป มาต้าเริ่มสปีด เขาต้องมาตามมาแล้ว แต่นีี่พึ่งมาสปีดตอนมาต้าหลุด ลูกที่สองยิ่งไปกันใหญ่ ไม่ตามให้สุดทั้งๆ ที่เป็นตำแหน่งตัวเอง นอกจากนั้นยังมีอีกหลายครั้งที่เขาคุมพื้นทืี่ริมเส้นได้หลวมมากๆ ด้วย

อัลเลน - ยืนต่ำมาก เน้นคุมพื้นที่มากกว่าไล่บอลซึ่งก็ดักได้พอควรแต่พอได้บอลก็เอาขึ้นหน้าไม่ได้, ขึ้นช้า เก็บบอลจังหวะสองในเกมรับได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น

เฮนเดอร์สัน - ครึ่งแรกยืนต่ำมากเช่นกัน เชื่อมเกมไม่ค่อยได้แต่ยังมีบอลยาวที่ดูดีกว่าอัลเลน ครึ่งหลังเล่นสูงขึ้น เน้นเกมรุกมากขึ้นก็ทำได้พอใช้ ไล่บอลได้โอเค(ถ้ามองในแง่ว่าทีมเหลือ 10 คน) ไม่ทำเสียบอล แต่จังหวะเจาะแนวรับก็หาช่องไม่ได้เหมือนกัน

สเตอลิ่ง - ตอนเล่นวิงขวาดับสนิท ได้บอลน้อย ได้บอลก็โดนแซะออกข้างหมด ตอนขยับขึ้นมาเล่นปีก (45-69) ทำเกมได้บ้าง แต่หนักไปทางได้แค่เรียกเตะมุม หรือได้ลุ้นเปิดยัดๆ เข้าไป เอาชนะแนวรับไม่ได้ พอเป็นแบ็คซ้ายก็ได้บอลเล่นน้อยมาก ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกม

คูตินโย่ - เป็นแดนกลางที่เล่นดีที่สุดของทีมวันนี้แล้ว พลิกบอลได้ จ่ายบอลกดดันแนวรับได้หลายครั้ง แต่คูตินโย่ต้องถอยลงไปช่วยเชื่อมเกมเยอะกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ตำแหน่งที่ได้บอลห่างจากประตูมาก คูตินโย่อยู่ห่างประตูมีประโยชน์พอๆ กับโดราเอม่อนที่ไม่มีกระเป๋าสี่มิติ

ลัลลาน่า - ยังขยันวิ่งไล่อยู่แต่วิ่งไม่ค่อยถึงบอล วิ่งทำทางรับบอลได้ดีทีเดียว แต่พอได้บอลแล้วทำอะไรต่อไม่ได้เลย พลาดโอกาสทองในช่วงครึ่งแรกด้วย

สเตอริจด์ - ทำทางพอใช้ได้ ที่หายไปเลยคือจังหวะถอยลงมาช่วยรับบอลเก็บบอลรอเพื่อนเติมที่วันนี้ไม่มีให้เห็น หาจังหวะยิงได้น่าพอใจถ้าดูจากบอลแย่ๆ แต่ละลูกที่เพื่อนเปิดมา ทำประตูได้ด้วย

ตัวสำรอง

เจอราร์ด -

บาโลเตลลี่ - ประโยชน์อย่างเดียวที่ทำได้คือทำให้สเตอริดจ์มีพื้่นที่เล่นมากขึ้น สิ่งเดียวที่ทำได้ดีคืออยู่ในตำแหน่งที่ควรอยู่ ไม่ได้วิ่งมั่ว แต่ถ้าพูดถึงฟอร์มโดยรวม...โอ้เล่นนัดนี้ได้หายนะมาก ทีมมี 10 คน ตัวเองลงมาที่หลัง แต่ไม่วิ่งไล่บอล ไม่ไล่เลย แถมยังเล่นสไตล์ใบเหลืองจ๋าพี่มาแล้วมันทุกจังหวะ เก็บบอลได้น้อย จ่ายบอลก็ไม่รู้จะปั่นไซร้อะไรหนักหนา ไม่ได้จำเป็นเลย ทำให้บอลมันช้าผิดจังหวะเข้าไปอีก

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...สตีเว่น เจอราร์ด…
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

สวอนซี 0-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...โชคเป็นสิ่งที่ต้องสร้าง...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอริดจ์-----------------------
--------------คูตินโย่-------------สเตอลิ่ง-------------
โมเรโน่-------ชาน--------เฮนเดอร์สัน------ลัลลาน่า
--------ซาโก้---------สเคอเทล--------จอห์นสัน-----
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนสวอนซีในเกมพรีเมียร์ลีค นัดนี้ร็อดเจอร์กลับมาใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่ใช้มาตลอด โดยวิงขวาช่วงเริ่มเกมเลือกใช้ลัลลาน่าก่อน
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลหลอกให้กองเชียร์ดีใจด้วยการวิ่งไล่อย่างคึกคัก แต่เจอสวอนซีที่ประทับทรง “สวอนซีโลน่า” เข้าไปก็ไล่ไม่ถึงบอล สวอนซีครองบอลได้ตั้งแต่เริ่ม, คุมเกมได้หมด และตัดบอลกลับไปได้เร็วมาก

________ ลิเวอร์พูลไล่ไม่เจอบอลก็ค่อยๆ ถอยกันไปกองรวมกันในแดนตัวเอง 10 นาทีก็แล้ว 15 นาทีก็แล้ว ก็ได้แต่มองหญ้าฝั่งสวอนซีอยู่ไกลๆ พาบอลไปไม่ได้ เล่นแบบไม่มีสมาธิ เต็มไปด้วยความกดดัน และอาการเกร็งจนพลาดเองกันไปหมด ส่วนทางฝั่งสวอนซีเองบุกมาได้ถึงเขตโทษ ได้เปิดบอลเข้าทำด้วย แต่ยังติดสเคอเทลที่ยังเล่นได้ดีมีสติอยู่  

_______ พอเข้านาที 20 ร็อดเจอร์คงทนดูไม่ไหว สลับตำแหน่งสเตอลิ่งกับลัลลาน่า เกมรุกด้านขวาของลิเวอร์พูลชักขึ้นมาดิ้นแด่วๆ ได้แป็บนึงราวๆ 3-5 นาทีก่อนที่จะแน่นิ่งสิ้นใจไปอีกครั้ง ส่วนเกมทางซ้ายก็มีแต่คูตินโย่ที่ทำอะไรได้บ้างแต่บอลก็ยังไม่ไปไหนอยู่ดี เกมส่วนใหญ่ยังคงเป็นของสวอนซีอย่างต่อเนื่อง และเริ่มได้ยิงแบบไม่มีคนขวาง, ได้ยิงในเขตโทษแล้ว แต่มินโยเล่เซฟเอาไว้ได้ถึง 2 ครั้งอย่างเหลือเชื่อ - อย่างเหลือเชื่อจริงๆ ไม่ใช่บรรยายไปงั้น

_______ ท้ายๆ ครึ่งแรก ลิเวอร์พูลขยับกันขึ้นมาเล่นเกมรุกกันได้ดูดีขึ้นอยู่พักนึง แต่ก็ยังไม่ได้กดดันอะไรเท่าไหร่ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0 ด้วยรูปเกมชนิดที่กองเชียร์ลิเวอร์พูลน้ำตาจะไหล ดีใจที่ไม่เสียประตู

_______ เข้าครึ่งหลัง ลัลลาน่าสลับไปเล่นทางฝั่งซ้าย เอาคูตินโย่ไปขวา ทีมพยายามจะเน้นเกมฝั่งซ้ายให้มากกว่าในครึ่งแรก รวมไปถึงขยับเติมกันขึ้นมาเล่นเกมรุกมากกว่าเดิมด้วย จังหวะเสียบอลในเกมรุกก็วิ่งเข้าไปไล่ต่อ ไม่วิ่งถอยหลัง โดยรวมแล้วคือการ “วิ่งขึ้นไปข้างหน้า” นั่นแหล่ะ

_______ จากการเปลี่ยนวิธีการเล่น ลิเวอร์พูลขยับฟอร์มของตัวเองขึ้นมาได้จากแย่มากเป็นใช้ได้ บอลเข้าใกล้เขตโทษคู่ต่อสู้มากขึ้นและเริ่มได้เปิดบอลเข้าไปลุ้นบ้าง ส่วนทางสวอนซีได้บอลน้อยลง จังหวะโต้ทำได้ช้าลง แต่โดยรวมยังเล่นในเกมของตัวเองได้ ต่อบอลแดนกลางได้ลื่นไหลดี

_______ ลิเวอร์พูลเริ่มเล่นดุขึ้นเรื่อยๆ กล้าวิ่งขึ้นมาไล่, วิ่งทำทางขึ้นหน้ามากขึ้น นาที 64 เจอราร์ดได้ลงมาแทนโมเรโน่ เอาลัลลาน่าไปเล่นทางซ้าย เจอราร์ดไปตั้งบอลจากแดนหลัง ขยับทั้งเฮนเดอร์สันและอัลเลนขึ้นมาเล่นเกมรุกมากขึ้น ถึงตรงนี้เกมรุกกดดันแนวรับสวอนซีได้ต่อเนื่องแล้ว

_______ ในที่สุดความพยายามของลิเวอร์พูลก็เป็นผล...แบบโชคช่วยนิดๆ นาที 68 สเคอเทลแตะบอลขึ้นมากลางสนามก่อนจ่ายยัดใส่ตัวสเตอริดจ์ สเตอริดจ์ชิ่งจังหวะเดียวทะลุช่องให้เฮนเดอร์สันวิ่งหลุดขึ้นไปข้างหน้า กองหลังสวอนซี(อาหมัด) ทิ้งตัวสกัดในจังหวะเฮนเดอร์สันเข้าไปปั้มถึงบอลพอดี บอลเด้งแข้งเฮนเดอร์สันย้อนข้ามหัวผู้รักษาประตูเข้าไปได้ 1-0

_______ ช่วงนาที 60-70 เป็นช่วงที่ลิเวอร์พูลทำเกมรุกได้ดีที่สุดในนัดนี้  เกมรุกดุขึ้นเร็วขึ้นและได้ลุ้นถึงประตู ในขณะที่เมื่อผ่านนาที 70 (ได้ประตูนำแล้ว) ลิเวอร์พูลเน้นครองบอลมากขึ้น ยังคุมเกมไม่ค่อยได้ สวอนซียังพอบุกได้ถึงเขตโทษอยู่ แต่ก็เป็นเกมที่ลิเวอร์พูลทำดีกว่าได้เปรียบกว่าอย่างชัดเจนแล้ว รวมไปถึงมีโอกาสได้ทำเร็วขึ้นไปลุ้นประตูเป็นระยะเช่นกัน

_______ นาที 87 ลิเวอร์พูลก็ชนะแน่นอนแล้วเมื่อจอห์นสันได้ลงมาแทนลัลลาน่า ไม่เชื่อลองไปถามเซาแธมป์ตัน เบิร์นลี่และแบล็คเบิร์นดูว่าการทำเกมรุกในขณะที่จอห์นสันอยู่ในสนามมันยากแค่ไหน และในช่วงทดเจ็บ ก็ถึงคราวอัลเลนแสดงอภินิหารให้พวกเราได้ชมกัน ด้วยการจ่ายบอลติดหน้าตัวเอง...ทำได้ไงครัช ลิเวอร์พูลปิดเกมไปได้ด้วยสกอร์ 1-0
-----------------------------------------

_______ ครึ่งแรกเล่นแบบได้แต้มเดียวยังเขิน แต่ครึ่งหลังก็เล่นสมควรเป็นผู้ชนะแล้วจริงๆ

_______ ตัวจริงและตำแหน่งการเล่นไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป แต่วันนี้ผู้เล่นลิเวอร์พูลกดดันตัวเองมากจริงๆ ก่อนแข่งเห็นข่าวแว่บๆ ร็อดเจอร์บอกว่าทีมรับมือความกดดันได้ แต่ที่เห็นนี้มันตรงกันข้ามเลย วิ่งถอยหลังกันตลอด จ่ายบอลง่ายๆ พลาด จ่ายบอลยากๆ ก็เข้าเท้าไลน์แมนหมด รูปเกมในช่วงครึ่งแรกเป็นรูปเกมที่แย่ที่สุดตั้งแต่เริ่มปีนี้ (2015) มาเลย คือมันมีเกมที่ทีมแพ้(ยิงลูกโทษนะ) มีเกมที่ทีมบุกแล้วเจาะไม่ได้ แต่ไม่มีเกมไหนที่ถึงขั้นสู้ไม่ได้แบบในครึ่งแรกของเกมนี้

_______ ถ้าไม่มีสเคอเทลกับมินโยเล่ช่วยไว้ ลิเวอร์พูลสิ้นใจไปตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว

_______ แต่พอครึ่งหลังกลับลงมา ร็อดเจอร์สั่งลูกทีมมาดีครับ ไอ้เรื่องสลับตำแหน่งนักเตะนั่นเอาจริงๆ ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่หรอก แต่ที่ช่วยมากๆ เลยคือการสั่งให้ดันกันขึ้นมาสูงขึ้น แล้วก็เป็นจุดเริ่มที่หาทางกลับมาได้ในเกมนี้

_______ แต่จุดเปลี่ยนจริงๆ คือการลงสนามของเจอราร์ด

________เจอราร์ดลงมายืนต่ำคอยเชื่อมเกมจากหลังไปหน้า เอาจริงๆ เขาก็ไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่ แต่ที่ทีมได้มาคือการตั้งบอลจากแนวหลังที่ดูดีขึ้น และการเปิดโอกาสให้ทั้งเฮนเดอร์สันและอัลเลนขึ้นไปช่วยเกมรุกได้มากขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า รวมไปถึงความกล้า ความมั่นใจของทีมก็ดูดีขึ้นด้วย (อันหลังนี่ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟังด้วย)

_______ ประตูที่ได้มาก็เพราะเฮนเดอร์สันวิ่งทะลุขึ้นไปถึงข้างหน้า ซึ่งช่วงก่อนหน้านั้นอย่าว่าแต่เขตโทษ แค่วงกลมกลางสนามเฮนเดอร์สันยังแทบวิ่งไปไม่ถึงเลย ถ้าจังหวะนั้นเฮนเดอร์สันไม่ทำทางขึ้นไป สเตอริดจ์ก็ชิ่งเสียของ หรือถ้าเฮนเดอร์สันไปหยุดวิ่งเพราะเห็นบอลไกลตัวก็จบข่าวเหมือนกัน

_______ โชคเป็นสิ่งที่ต้องสร้าง ยืนรอเฉยๆ บอลไม่มาหาหรอก

_______ ถึงตรงนี้ของฤดูกาล ทีมต้องรับมือความกดดันให้ได้ดีกว่านี้หน่อย เพราะตอนนี้ถึงจะเรียกว่าโค้งสุดท้าย (10 นัดสุดท้าย) แต่ก็ต้องเรียกว่าเป็นแค่ต้นโค้งเอง

_______ ...อย่าพึ่งทำท่าจะสะดุดล้มกันแบบนี่สิ

-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดี...ถ้าไม่ดูครึ่งแรก

มินโยเล่ - เซฟสำคัญช่วยทีมไว้ได้ถึงสองครั้ง ซึ่งถ้าเป็นฟอร์มสมัยก่อนโดนดรอปเป็นตัวสำรองคงเข้ามันทั้งสองลูก ออกมาตัดลูกกลางอากาศได้ดีมาก และวิ่งออกมาเล่นนอกเส้นได้เร็วดีด้วย

ซาโก้ - ครึ่งแรกมีปัญหากับการจ่ายบอลขึ้นหน้ามากๆ แต่กับเกมรับเขาเล่นได้ดี ถึงตัวก็สกัดได้ ไม่ถึงตัวก็ยังบังทางได้ ครึ่งหลังจังหวะดักบอลก่อนถึงกองหน้าทำได้ดีมากเลยทีเดียว

สเคอเทล - เล่นได้เหนียวแน่นดี ตำแหน่งการยืนและการซ้อนเพื่อนทำได้ดีมาก ตัดบอลเปิดเข้ามาในเขตโทษได้เด็ดขาดตลอดเกม ครึ่งหลังที่ต้องมีจังหวะประกบกองหน้ามากขึ้นก็หยุดไม่ให้คู่ต่อสู้พลิกได้

ชาน - เล่นซะจอห์นสันตอนพีคยังต้องอาย คาราเกอร์วัยหนุ่มยังต้องคารวะ ลอฟเรนเมื่อต้นฤดูยังต้องสยิวกายด้วยความหนาวเหน็บว่าแย่กว่ากรูยังมีอีกเหรอ นัดนี้เป็นนัดที่ชานเล่นได้ไม่ดีเอามากๆ และคำว่า “ไม่ดีเอามากๆ” นี่ถือว่ารักษาน้ำใจกันสุดๆ แล้ว

โมเรโน่ - วิ่งได้น้อยมาก ทำทางไม่ค่อยดี อ่านเกมเข้าขั้นดีเลยแต่ขยับไปบังทางหรือขยับเข้าไปหาบอลช้าไปหนึ่งจังหวะตลอด ยังเป็นอีกหนึ่งนัดที่ผมตั้งคำถามกับสภาพร่างกายของโมเรโน่ว่ามันมีอะไรผิดปกติตรงไหนรึปล่าว

ลัลลาน่า - ก็เหมือนเดิม...โดนร็อดเจอร์พาทัวร์ทั่วสนาม บรรลัยทุกครั้งที่พาบอลไปเอง หาที่ว่างรับบอลก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีส่วนร่วมกับเกมรุกน้อยไม่ว่าจะตอนอยู่ตรงไหน แต่ทำได้ดีในการวิ่งไล่บอล วิ่งปิดพื้นที่ และช่วยเชื่อมเกมในแดนกลาง

อัลเลน - เป็นหนึ่งในไม่กี่นัดที่เล่นดีกว่าเฮนเดอร์สัน นัดนี้เหมือนจะถูกสั่งมาให้ยืนสูงกว่าเฮนเดอร์สัน ครึ่งแรกผลงานแย่น้อยกว่าคนอื่น ขยับหาทีว่างพอใช้ได้ เชื่อมเกมก็พอไว้แม้จะไม่ไปข้างหน้า ครึ่งหลังวิ่งทำทางและมีส่วนร่วมกับการต่อบอลในพื้นที่หน้าเขตโทษคู่ต่อสู้เยอะทีเดียว

เฮนเดอร์สัน - โดนใบเหลืองเร็วมากตั้งแต่ต้นเกม และตำแหน่งยืนต่ำกว่าอัลเลน แต่ไม่ว่าจะเหลืองหรือไม่เหลือง ยืนสูงหรือยืนต่ำ นัดนี้เฮนเดอร์สันทำผลงานได้แย่ ต่ำกว่ามาตรฐานฤดูกาลนี้ของตัวเองมาก เชื่อมได้ไม่ดีเท่าไหร่ บอลยาวตายหมด เกมรับก็งั้นๆ ครึ่งแรกไม่ค่อยถึงบอลอีกต่างหาก ครึ่งหลังที่ขยับเล่นเกมรุกมากขึ้นก็ยังทำได้แค่พอใช้ คือเชื่อมเกมได้ดีแล้ว หาที่รับบอลได้ดีแล้ว แต่ก็ไม่ได้โดดเด่น ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ประตูชัยของทีมก็เป็นเครดิตเฮนเดอร์สันเกินครึ่งที่วิ่งทำทางได้ดีและไม่หยุดวิ่งจนปั้มถึงบอล

คูตินโย่ - เก็บบอลได้ดี พลิกบอลได้ตลอด แต่ครึ่งแรกไม่มีเพื่อนมาช่วยประคอง และครึ่งหลังที่มีแล้วก็ยังประสานงานกันไม่ค่อยได้ นัดนี้ค่อนข้างโดดเดี่ยว

สเตอริดจ์ - เก็บบอลใช้ได้ วิ่งทำทางได้น่าพอใจแต่ไม่เด็ดขาดเท่าไหร่ หาพื้นที่เล่นในเขตโทษได้ดีถ้าเทียบกับการโดนแผงหลังรุมประกบซะขนาดนั้น

ตัวสำรอง

เจอราร์ด - ลงมาช่วยเชื่อมเกมจากแดนหลังได้ดี ...ดีมากๆ ตรงที่ไม่ต้องไปพึ่งชานกับซาโก้ในการจ่ายบอลขึ้นหน้ามากนัก รวมไปถึงเฮนเดอร์สันกับอัลเลนได้ขึ้นไปเติมเกมรุกสะดวกด้วย

จอห์นสัน - เก็บบอลดี ฆ่าเวลาดึงเช็งดึงช้าเรียกหาฟาล์วได้น่ากระโดดถีบ อันนี้ชมจริงๆ นะเพราะเป็นประโยชน์กับทีมมาก พวกวัยรุ่นขาดประสบการณ์เล่นจังหวะแบบนี้ไม่เนียนเท่า

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ซิมง มินโยเล่…บอกตรงๆ ว่าใจอยากจะเลือกชาน เพราะเกมนี้นี่ MOM จริงๆ (ในอีกความหมายนึง) แต่ไหนๆ ก็ทีมชนะแล้ว จะมามัวงุ้งงิ้งกับข้อผิดพลาดก็ใช่ที่ ขอเลือกไปตามเนื้อผ้าคือมินโยเล่ที่เซฟสำคัญมากๆ ถึงสองครั้งในครึ่งแรกก็แล้วกัน
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 0-0 แบล็คเบิร์น (เอฟเอคัพ)


...สงสัยจะกลัวว่ามีเกมให้เล่นน้อยเกินไปแล้วแฟนบอลจะเหงา...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอริดจ์-----------------------
--------------คูตินโย่-------------ลัลลาน่า------------
สเตอลิ่ง-------ชาน-------เฮนเดอร์สัน------มาโควิช
-------ลอฟเรน-------สเคอเทล--------จอห์นสัน-----
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเล่นเกมเอฟเอคัพในบ้านเจอกับแบล็คเบิร์น นัดนี้ 11 ตัวจริงปรับไม่มาก มีแค่จอห์นสันคนเดียวที่กลับมาจากการเป็นสำรองยาว แต่ตำแหน่งการยืนในทีมเปลี่ยนไปพอควรตามผังด้านบน
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาแค่นาที 2 สเคอเทลเบียดโหม่งกับเกสเตด(กองหน้าแบล็คเบิร์น)แล้วตัวเองหัวน๊อคพื้น ต้องปฐมพยาบาลและดูอาการกันในสนามยาวร่วม 8 นาทีก่อนที่ตูเร่จะต้องลงมาแทนและเกมเริ่มเล่นต่ออีกครั้ง

________ ลิเวอร์พูลครองบอลได้มากกว่าเยอะ บอลเข้าทำก็รวดเร็วดี เกมรุกทางฝั่งซ้ายไปได้ถึงสุดเส้นบ่อย ส่วนทางขวาก็ขึ้นได้บ้างเป็นระยะ แต่โอกาสยิงยังโดนเร่งโดนบล็อค หาโอกาสยิงแบบจะจะไม่ได้เลย

_______ ..แต่..

_______ ลิเวอร์พูลคุมเกมไม่ได้ เก็บบอลจังหวะสองได้แย่มาก มีความผิดพลาดในแดนกลางบ่อยเกินไป แบล็คเบิร์นโต้ขึ้นมาได้น่ากลัวเป็นระยะๆ โดยเฉพาะลูกกลางอากาศของเกสเตดกดดันแนวรับได้ตลอด แดนกลางของลิเวอร์พูลวันนี้ขยับวิ่งไล่วิ่งทำทางกันน้อย โดนแบล็คเบิร์นที่วิ่งไล่บอลเร็ววิ่งเข้ามาแซะได้ถึงตัวบ่อยครั้ง และหลายครั้งตัด-ทำเร็วจนได้ลุ้นประตูด้วย แม้จะครองบอลน้อยกว่า แต่รูปเกมไม่ได้เป็นรองแต่อย่างใด

_______ ท้ายครึ่งแรก บอลทำเร็วและเกมรุกด้านขวาโดยมาโควิชเริ่มทำได้ดีต่อเนื่อง แต่ยังแทบไม่ได้ยิง จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง นาที 49 มินโยเล่ก็ต้องออกแรงเซฟลูกยากปัดลูกโหม่งจากจังหวะเตะมุม ลิเวอร์พูลรอดตัวไปได้หวุดหวิด ทีมยังคงมีปัญหาต่อเนื่องมาจากในครึ่งแรก คือพาบอลไปถึงเขตโทษได้แต่ไม่ค่อยได้จบสกอร์ แต่สำหรับการหยุดเกมโต้กลับและหยุดเกสเตดถือว่าทำได้ดีขึ้นมาก

_______ นาที 59 บาโลเตลลี่ได้ลงมาแทนมาโควิช ลัลลาน่าถูกถอยลงมาเล่นวิงขวา ลิเวอร์พูลเริ่มขึงเกมรุกได้ดีขึ้น บอลมาถึงเขตโทษได้บ่อยและเร็วขึ้น แต่จังหวะจ่ายบอลเข้าทำหาช่องได้ลำบาก เจาะตรงกลางลืมไปได้เลย เกมริมเส้นไปได้สุดเส้นก็จริงแต่เปิดบอลเข้ามาเสียหมด

_______ แม้รูปเกมของลิเวอร์พูลจะดูดีขึ้นจากการปิดเกมของแบล็คเบิร์นได้หมดจด คุมเกมเอาไว้ได้หมดแล้ว เกมริมเส้นขึ้นได้สองฝั่งแต่สุดท้ายเกมรุกลิเวอร์พูลได้เปิดไม่ได้จบ ส่วนแบล็คเบิร์นโต้ไม่ได้ เก็บบอลสองก็ไม่ได้ ครองบอลได้น้อย แต่เกมรับทำได้ดีมาก แดนหน้ากับกลางไล่บอลทำลายจังหวะของลิเวอร์พูลได้เป็นระยะ หน้าเขตโทษตัวเองไม่เปิดพื้นที่ให้เล่น เกมริมเส้นบล็อคบังทางตัวเปิดได้ดี และพื้นที่ในเขตโทษถ้าขุดสนามเอากลับบ้านได้คงทำไปแล้ว

_______ ท้ายเกมแบล็คเบิร์นพึ่งจะมาได้ครองบอลบุกเป็นเรื่องเป็นราวสัก 5 นาทีแต่ก็ไม่ได้สร้างประโยชน์หรือได้ลุ้นอะไรนัก ส่วนลิเวอร์พูลยังคงเน้นหวาดเสียวไม่เน้นสกอร์ต่อไปจนหมดเวลาเสมอกันไป 0-0 ต้องรีเพลย์จนได้
-----------------------------------------

_______ วิ่งสู้ไม่ได้และเกมรุกเจาะไม่เข้า

_______ ตำแหน่งการเล่นหน้าเวียนหัวมากครับนัดนี้ จอห์นสันได้กลับมาเป็นตัวจริง สเตอลิ่งลงไปวิงแบ็คขวา ชานขยับขึ้นมาตรงกลาง ยิ่งต้องเปลี่ยนเอาตูเร่ลงมาแทนสเคอเทลเข้าไปอีกทำให้แนวกลางหลังเปลี่ยนมาเป็นหน้าตาแบบนี้

สเตอลิ่ง-------ชาน-------เฮนเดอร์สัน------มาโควิช
-------ลอฟเรน---------ตูเร่----------จอห์นสัน-------

แต่ผู้เล่นชุดที่พาลิเวอร์พูลกลับฝั่งมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่คือชุดนี้

โมเรโน่----อัลเลน----เฮนเดอร์สัน----มาโควิช
-------ซาโก้-------สเคอเทล-------ชาน--------

_______ เปลี่ยนเยอะนะครับ ส่วนใหญ่ก็มาจากความจำเป็นนั่นแหล่ะ

_______ ผมเห็นด้วยกับการใช้ชานคู่เฮนเดอร์สันเพราะจะได้ไม่ต้องไปลากคูตินโย่ลงมาจากข้างบนซึ่งเป็นที่ที่เขาควรอยู่ สำหรับจอห์นสันจริงๆ แล้วใช้ซาโก้หรือตูเร่น่าจะดีกว่า แต่อันนี้น่าจะเป็นสภาพความฟิตมากกว่า เพราะถ้าสองคนนั่นฟิตเต็มที่ จอห์นสันก็ไม่น่าจะได้ลงอยู่แล้ว

_______ ที่ไม่เห็นด้วยเลยคือสเตอลิ่งกับตำแหน่งวิงซ้าย ดูจะผิดธรรมชาติเจ้าตัวไปหน่อย ถ้าจะให้เล่นวิงจริงๆ ก็อยู่ฝั่งขวาเถอะ ยิ่งถ้าดูจากฝั่งขวาเป็นมาโควิชด้วยแล้วยิ่งน่าเสียดาย สลับฝั่งกันเล่นไปเลยก็ได้

________ สำหรับเกมครึ่งแรก การเสียสเคอเทลไปเร็วตั้งแต่ต้นเกมเกือบทำทีมตกรอบแล้วครับ ตูเร่ลงมาแบบฉุกละหุกและมีปัญหากับเกสเตดตลอดเวลา และผู้เล่นทั้งทีมวิ่งสู้แบล็คเบิร์นไม่ได้เลย ขยับกันช้า วิ่งหาที่ว่างว่าแย่แล้วที่เข้าขั้นโคม่าหรือคือการวิ่งเข้าไปเร่งบอลจากคู่ค่อสู้...ไม่มีเลย เกมรุกพยายามเล่นเร็วก็ดีในแง่ว่าเอาบอลไปถึงเขตโทษได้ตลอด แต่ปัญหาคือแบล็คเบิร์นปล่อยให้ลิเวอร์พูลเล่นได้แค่ริมเส้น ข้างในยืนแน่นไม่ปล่อยให้ทำอะไรได้ ซึ่งลิเวอร์พูลแก้ปัญหานี้ไม่ได้ เจาะไม่เข้า เปิดไม่แม่น และกดดันแนวรับให้เล่นพลาดไม่ได้เลย

_______ ครึ่งหลังผมคิดว่าร็อดเจอร์แก้เกมมาดีมาก ไม่ได้สลับตำแหน่งตูเร่แต่เอาลอฟเรนไปช่วยชนเกสเตดให้ก่อนซึ่งลอฟเรนหยุดเกสเตดได้ (ไม่เหมือนครึ่งแรกที่ปล่อยตูเร่ไปประกบเลย) ในขณะที่การตั้งเกมขึ้นหน้าถอยเอาคูตินโย่ลงมาช่วยเชื่อมเกม (ครึ่งแรกใช้แค่ชานกับเฮนเดอร์สัน) ก็ทำให้การเอาบอลจากหลังไปหน้าลื่นไหลขึ้น

_______ รวมไปถึงการส่งบาโลเตลลี่ลงมาก็ช่วยกดดันแนวรับได้ดีขึ้นด้วย

_______ แต่ที่สุดแล้วก็ยังเป็นแบล็คเบิร์นที่เล่นได้ดีกว่า เกมรุกดับสนิทแล้วแต่คุณภาพเกมรับไม่ตกลงเลยแม้แต่น้อย วิ่งไล่ได้ดีมากๆ และสมาธิดีสุดๆ ไม่มีข้อผิดพลาดอะไรให้เห็นเลย

_______ ที่น่าพูดถึงที่สุดของเกมวันนี้คงอยู่ที่ชานกับการเล่นกองกลาง ถ้าดูจากฟอร์มนัดนี้อย่างเดียว การเล่นกองกลางของเขาวันนี้...แย่มาก และฟอร์มช่วงที่เล่นเซ็นเตอร์ช่วง 3-4 นัดที่ผ่านมาได้ดีกว่านี้มาก แต่ผมยังคิดว่านี่ควรเป็นตำแหน่งของเขามากกว่า คือเซ็นเตอร์เนี่ยเอาเซ็นเตอร์แท้ๆ เล่นไปเถอะ ชานถ้าจะเล่นควรมาเล่นตรงกลาง ที่เจ้าตัวต้องปรับปรุง(มากๆ)คือต้องวิ่งมากกว่านี้ และจะให้ดีก็ควรเข้าบอลให้มากกว่านีด้วย

_______ อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เข้าใจผิดกัน ทีมชุดนี้แผนนี้ผมยังอยากเห็นลูคัสเป็นตัวจริงอยู่ดีนั่นแหล่ะ แล้วอีกคนค่อยแย่งกันระหว่างเฮนเดอร์สัน เจอราร์ด อัลเลน ชาน

_______ ...เสียดายที่ไม่ชนะ แต่ถ้านึกย้อนไปถึงนาที 49 ที่มินโยเล่ปัดลูกโหม่งนั่นได้ ดีใจกันเถอะครับที่ยังไม่ตกรอบน่ะ T_T
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันไม่ดีเท่าไหร่

มินโยเล่ - เป็นคนเดียวในทีมที่เล่นได้ดีตลอดเกม ออกมาเล่นนอกเส้นได้เร็วและไม่พลาด ลูกเปิดเข้าเขตโทษก็ออกมารับได้เยอะ เล่นบอลกับเท้าก็ไม่ทำเสียด้วย เซฟลูกสำคัญได้อีกต่างหาก

ลอฟเรน - ครึ่งแรกเล่นได้พอใช้ เกมรับและการเข้าสกัดทำได้ดี แต่การดักตัดบอลก่อนกองหน้าทำพลาดพอควรและผ่านขึ้นหน้าไม่ดีเท่าไหร่ ครึ่งหลังทำได้ดีมากกับการช่วยเก็บเกสเตด

สเคอเทล - ได้อยู่ในสนามแค่ 2 นาที

จอห์นสัน - ออกไปช่วยปิดพื้นที่ริมเส้นได้เร็วดีแต่ดันปิดไม่ค่อยจะมิด ทำดีจังหวะดักตัดบอลและเข้าสกัด ผ่านบอลขึ้นหน้าดีกว่าลอฟเรน ขยับหาที่รับบอลได้ดี

สเตอลิ่ง - เติมขึ้นไปรับบอลได้เยี่ยม เลี้ยงจี้ได้ค่อนไปทางดี แต่พอถึงจังหวะสุดท้ายเมื่อไหร่ เสียงสปอตโฆษณา “หมดกัน สร้างมากับมือ” มันเด้งเข้ามาในหัวเลยครัช

มาโควิช  - เล่นเหมือนปุ่มวิ่งเร็วค้าง เขาทำได้ดีกับการเติมขึ้นไปเอาบอลแล้วพาไปถึงเขตโทษในช่วงปลายครึ่งแรกต่อต้นครึ่งหลัง แต่ก็นั่นแหล่ะ เค้าทำแค่นั้นจริงๆ เพราะพอถึงเขตโทษถ้าไม่จ่ายเสียก็เลี้ยงบอลไปคืนคู่ต่อสู้

ชาน - จับบอลได้ดี พลิกบอลไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ก็ทำได้บ้าง ผ่านบอลขึ้นหน้าได้ดีมีจังหวะพาบอลขึ้นไปเองที่ดีให้เห็นบ้างด้วย ...แต่ที่ไม่ดีและผมไม่ชอบมากๆ เลยคือชานวิ่งน้อย น้อยไป ในเกมรุกเขาเอาแต่ยืนชูมือเรียกบอลแทนที่จะว่ิ่งไปรับหรือวิ่งไปหาที่ว่าง ทำให้เพื่อนจ่ายยากแล้วตัวเขาเองก็ได้บอลน้อยกว่าที่ควร ในเกมรับเขาไม่ค่อยวิ่งไล่อีกต่างหาก

เฮนเดอร์สัน - วิ่งไม่ออกและฟอร์มหดหายไปเยอะ วิ่งหาที่รับบอลเยอะกว่าชานก็จริงอยู่ แต่ถ้าเทียบกับมาตรฐานเจ้าตัวแล้วยังถือว่าน้อยโคตรๆ ในเกมรับก็วิ่งน้อยและไม่ค่อยถึงบอลด้วย

คูตินโย่ - ครึ่งแรกได้บอลน้อย ไม่ได้ทำอะไรเท่าไหร่ ครึ่งหลังลงมาล้วงบอลต่ำ และช่วยเชื่อมเกมได้ดีที่สุดในทีมแล้ว แต่ด้วยความที่ถอยลงมาต่ำทำให้ตำแหน่งได้บอลก็ห่างจากประตูไปด้วย กดดันอะไรคู่ต่อสู้ไม่ได้มากนัก

ลัลลาน่า - มีส่วนร่วมกับเกมไม่มากนัก เกมรุกจังหวะพาบอลไปเองทำลงเหวหมด ส่วนการวิ่งทำทางยังดูใช้ได้อยู่ ส่วนเกมรับที่เคยช่วยวิ่งไล่ได้วันนี้ก็วิ่งไม่ออก

สเตอริดจ์ - ขยับหาที่รับบอลและหาพื้นที่เล่นในเขตโทษได้ดี ยิ่งถ้าเทียบกับการโดนปิดพื้นที่แน่นขนาดนั้นต้องถือว่าทำได้ดีมาก จังหวะยิงทำได้พอใช้คือมันตรงกรอบและพอจะมีน้ำหนัก แต่ก็ไม่ดีพอจะเป็นประตู ช่วงกลาง-ท้ายครึ่งหลังหายๆ ไปจากเกมด้วย

ตัวสำรอง

ตูเร่ - ครึ่งแรกประกบกองหน้าไม่ดีเลย หยุดไม่อยู่โหม่งสู้ก็ไม่ได้ แต่ครึ่งหลังพอได้เล่นออกแนวตัวซ้อนก็ทำได้ดีขึ้น

บาโลเตลลี่ - ลงมาเล่นตามตำแหน่งได้ดี ไม่ได้วิ่งไปไหนมั่วซั่ว แต่ฟอร์มส่วนตัวไม่ได้น่าประทับใจ

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ซิมง มินโยเล่…ไม่งั้นแพ้ไปแล้วครับ มีแค่ครั้งเดียวที่คู่ต่อสู้โหม่งถึงบอลก่อนถึงมือเค้า ซึ่งส่วนตัวแล้วผมว่าลูกนั้นมันฟาล์วด้วยซ้ำ
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 2-0 เบิร์นลี่ย์ (พรีเมียร์ลีค)


...ปลอกแขนกัปตันทีมช่วยเสริมพลังสินะ...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอริดจ์-----------------------
--------------คูตินโย่-------------ลัลลาน่า------------
โมเรโน่-------อัลเลน-------เฮนเดอร์สัน----สเตอลิ่ง
-------ลอฟเรน-------สเคอเทล------------ชาน-------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลได้เล่นในบ้านต่ออีกนัด คราวนี้รับมือทีมหนีตกชั้นอย่างเบิร์นลี่ย์ 11 ตัวจริงมีเปลี่ยนแค่คนเดียวคือสเตอริดจ์แทนมาโควิช แต่คนเล่นวิงขวากลายเป็นสเตอลิ่งไป นอกนั้นก็ยืนกันตามตำแหน่งเดิม
-------------------------------------------------------

_______ 10 นาทีแรกของเกมลิเวอร์พูลบี้เบิร์นลี่ย์ซะไส้แทบทะลัก วิงเติมสูงทั้งสองข้าง เกมริมเส้นขึ้นได้หมด กองกลางพลิกบอลผ่านบอลขึ้นหน้าได้อย่างกับไม่มีคนพยายามขวาง เปิดบอลเข้าทำได้ ได้ลุ้นประตูบ้าง แต่ยังทำประตูไม่สำเร็จ

________ ผ่าน 10 นาทีแรกไป เบิร์นลี่ย์เริ่มหายมึนตั้งสติได้บ้าง หันมาไล่สูงมากขึ้นและทำได้ดีต่อเนื่อง ทำให้ลิเวอร์พูลเริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ยากขึ้นกว่าเดิมมาก ส่วนในเกมรุกเบิร์นลี่ย์เน้นการโยนจากริมเส้นเข้ามา กดดันได้พอควร รวมไปถึงหาจังหวะยิงไกลหน้าเขตโทษได้บ้าง

_______ อย่างไรก็ตาม แม้เบิร์นลี่ย์จะขยับเกมของตัวเองขึ้นมาได้ดีกว่าในช่วง 10 นาทีแรก เกมโดยรวมก็ยังเป็นลิเวอร์พูลที่ดูดีกว่าอยู่ดี โดนไล่จนขึ้นบอลช้าไปบ้างแต่ก็ขึ้นไปถึงเขตโทษคคู่ต่อสู้ได้อยู่ และจังหวะที่ทำเร็วได้เบิร์นลี่ย์ก็เปิดพื้นที่ในแดนตัวเองไว้ให้เล่นเพียบเพราะใช้คนขึ้นมาไล่ข้างหน้าเยอะ

_______ ในที่สุดลิเวอร์พูลก็ทำได้สำเร็จ นาที 29 คูตินโย่ผ่านบอลฝาไปให้ลัลลาน่าก่อนคืนกลับไปให้คูตินโย่แถวมุมเขตโทษฝั่งซ้าย คูตินโย่ลากตัดเข้ามายิงตรงกลางประตูติดบล็อค บอลเด้งมาเข้าทางเฮนเดอร์สันที่เติมขึ้นวอลเล่ย์สวนตูมเดียวจากหน้าเขตโทษตรงกลาง บอลไซร้เสียบโคนเสาสองเข้าไปได้อย่างสะใจทั้งคนยิงคนเชียร์ 1-0

_______ ตกเป็นฝ่ายตามหลังแล้วแต่เบิร์นลี่ย์ยังวิ่งไล่ต่อได้ดี เพียงแต่ยังตัดบอลกลับมาได้ไม่เร็วและไม่มากนักเพราะลิเวอร์พูลผ่านบอลหนีตัวไล่กันได้ดีกว่า กล้าเคาะบอลแดนหลังมากกว่าช่วงก่อนได้ประตูด้วย ส่วนเกมรุกของลิเวอร์พูลเองก็ยังทำได้ดีต่อเนื่อง ไม่ได้ถอยไปรับ ทั้งเกมริมเส้นทั้งบอลยาวแนวลึกทำได้หมด หาจังหวะยิงได้พอควรแต่ทำประตูเพิ่มไม่ได้สักที

_______ ช่วงท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเริ่มผ่อนเกมรุกลงไปบ้างแต่เบิร์นลี่ย์ก็เร่งเกมของตัวเองไม่ขึ้น จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง เบิร์นลี่ย์ไล่สูงหนักยิ่งกว่าครึ่งแรกอีก เร่งเกมรุกได้ดีพอควรและได้เปิดบอลเข้าไปกดดันในเขตโทษบ้าง แต่ลิเวอร์พูลก็ยังปิดพื้นที่เขตโทษของตัวเองได้ดี รวมไปถึงยังเก็บบอลเล่นได้เหมือนเดิม

_______ เท่านั้นยังไม่พอ ลิเวอร์พูลมาได้ประตูหนีห่างอย่างรวดเร็ว นาที 51 ลัลลาน่าได้บอลแถวมุมเขตโทษฝั่งขวา ม้วนรอคนเติมอยู่อึดใจก่อนจะมีเฮนเดอร์สันวิ่งมารับบอล เฮนเดอร์สันได้บอลแล้วเงยหน้ามองก่อนตักบอลเข้าเขตโทษให้สเตอริดจ์ได้โหม่งเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกเข้าไปได้ 2-0 (หลังจากครึ่งแรกโอกาสเพียบแต่ทำไม่สำเร็จ)

_______ หลังสกอร์ขยับอีกครั้ง ลิเวอร์พูลรับมากขึ้นนิดหน่อยแต่ไม่ได้ถอยมารับลึก อาศัยวิ่งไล่บอลแดนกลางเป็นหลัก ส่วนเบิร์นลี่ย์เปลี่ยนตัววอลเลซลงมาแทนไคลี่ย์ทันที เร่งเกมรุกต่อแต่ผลลัพธ์ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ คือเกมรุกไม่ต่อเนื่อง เกมริมเส้นเปิดได้บ้างแต่ไปไม่สุดเส้น และไม่ได้จบสกอร์จะๆ เลย

_______ ลิเวอร์พูลไม่ได้เร่งอะไรมาก แค่โจมตีพื้นที่ที่เบิร์นลี่ย์เปิดไว้ก็เหลือแหล่ ยิ่งเล่นเกมฝั่งขวาก็ยิ่งลื่น บอลไปถึงเขตโทษได้เร็วและต่อเนื่อง โอกาสยิงก็มีมาเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่จะแจ้งนัก มุมแคบบ้าง โดนเร่งบ้าง ยังทำประตูที่สามไม่สำเร็จ

_______ นาที 72 การเดินทางของสเตอลิ่งก็เริ่มต้นขึ้น ตูเร่ได้ลงมาแทนโมเรโน่ โดยเอาตูเร่เล่นเซ็นเตอร์ขวา ชานขยับไปเล่นวิงขวา สเตอลิ่งถูกโยกไปเล่นวิงซ้าย แล้วกลายเป็นว่าเกมรุกของทีมก็ยังคงขึ้นทางขวาได้ดีต่อเนื่อง ชานทำได้ดีกว่าสเตอลิ่งช่วงก่อนหน้าเสียอีก

_______ ทางด้านเบิร์นลี่ย์ยิ่งเล่นยิ่งฝ่อ เกมรุกไม่คืบ ครองบอลก็ไม่ต่อเนื่อง การวิ่งไล่ในแดนหน้ากดดันได้มากกว่าเกมรุกเสียอีก ได้ลุ้นแบบลมๆ แล้งๆ บ้างในจังหวะเตะมุมแต่ก็ไม่ได้มีอะไร

_______ นาที 83 จอห์นสันได้ลงแทนสเตอริดจ์อีกคน และแน่นอนว่าสเตอลิ่งก็โดนโยกอีกครั้ง ขึ้นไปเป็นหน้าเป้า จอห์นสันยืนวิงซ้าย ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลก็เล่นไปตามจังหวะเฉยๆ ไม่ได้เร่งไม่ได้อุด แต่โดยรวมแล้วก็ยังมีโอกาสยิงมากกว่าเบิร์นลี่ย์อยู่ดี ส่วนทางเบิร์นลี่ย์เริ่มเล่นสไตล์ “กรูอยากกลับบ้าน” แล้ว

_______ นาที 90 สเตอลิ่งชีพจรลงเท้าอีกครั้ง แต่คราวนี้สบายหน่อยตรงที่ถูกเปลี่ยนตัวออกเลย แลมเบิร์ตได้ลงมาทำไมตอนนี้ เจ้าตัวคงอยากถาม ก่อนจะจบเกมที่สกอร์ 2-0
-----------------------------------------

_______ ครึ่งแรกโอกาสยิงเพียบครับ แต่ผมชอบครึ่งหลังที่คุมเกมได้มากกว่า

_______ นัดนี้เบิร์นลี่ย์...ซวยครัช ดันมาเจอลิเวอร์พูล+ที่แอนฟิลด์+มีแรงวิ่ง+มีกำลังใจ แพ้ 2-0 นี่ถือว่าโชคดีมากแล้วด้วยซ้ำ แทคติคพวกเขาก็ทำได้ดีที่สุดเท่านี้ จะบอกว่าพวกเขาไล่บนมากไปจนกลางโล่งก็ไม่ใช่ เพราะ 10 นาทีแรกของเกมแสดงให้เห็นแล้วว่า ถ้าถอยไปรับในแดนหรือรับต่ำไม่ไล่บนได้กลายเป็นโจ๊กคนอร์อิ่มอร่อยรับอรุณตอนจบเกมแน่ จะบอกว่าพวกเขาเล่นเกมรุกซ้ำซากก็ถูกครึ่งเดียว ก็ตัวมันมีแบบนี้นี่หว่า คือมีตัวเปิดบอลริมเส้น กับตัวชาร์จบอลดี จะให้เล่นบอลสั้นเจาะกลางเหรอ สุดท้ายก็เลยเป็นอย่างที่เห็นทั้งรูปเกม ทั้งผลลัพธ์

_______ ทางด้านลิเวอร์พูล 11 ตัวจริงดีสุดเท่าที่จัดได้ เห็นว่าซาโก้กับไอบ์ยังเจ็บอยู่ ส่วนในรายมานกีโย่ใครเห็นข่าวช่วยบอกด้วยครับ สำหรับตัวจริงนั้นตอนเห็นรายชื่อผมยังคิดว่าลัลลาน่าจะเล่นวิงขวาแต่กลายเป็นสเตอลิ่งก็แปลกใจนิดหน่อย ไม่คิดว่าร็อดเจอร์จะถอยสเตอลิ่งห่างจากประตูแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ ฟอร์มลัลลาน่าในตำแหน่งตัวรุกกำลังดี แค่แปลกใจแต่ไม่รู้สึกว่าร็อดเจอร์พลาดอะไรกับการจัดตำแหน่งแบบนี้

_______ สำหรับแทคติคเริ่มเกม มันไม่มีทางอื่นให้เลือกอยู่แล้วครับกับการเล่นในบ้านเจอทีมหนีตกชั้น จะยังไงก็ต้องลุยใส่ล่ะ ร็อดเจอร์ก็จัดให้ตามนั้นคือวิงนี่ลอยสูงกระพือกันพั่บๆๆ ทั้งสองฝั่ง นัดนี้เป็นนัดที่เกมรุกริมเส้นทำผลงานได้ดีมากครับโดยเฉพาะเกมฝั่งขวา

_______ อย่างไรก็ตาม ถ้าดูเฉพาะเกมรุกล้วนๆ ร็อดเจอร์ไม่ได้ทำอะไรมากครับ ที่ทำคือผู้เล่นมากกว่าที่ฟอร์มกระฉูดไปตามๆ กัน คูตินโย่ เฮนเดอร์สัน ลัลลาน่า ฟอร์มไม่ตกลงจากนัดก่อนเลย ในขณะที่สเตอริดจ์จังหวะการเล่นดีขึ้นเยอะมาก(ยกเว้นตอนยิง) ส่วนอัลเลนก็มีบอลเกมรุกที่ดีเพิ่มมากกว่านัดก่อนอีก

_______ ผลคือได้ล่อเป้ารัวๆ ร่วม 20 ครั้งเห็นจะได้ ถ้าสเตอริดจ์สนิมไม่กินและจบคมกว่านี้มีสี่ส๊าห้าศูนย์โน่นล่ะ

_______ ที่ผมให้เครดิตร็อดเจอร์มากกว่าคือเกมรับ ผมคิดว่าวันนี้ทีมเล่นเกมรับได้ดีมาก แน่นอนว่าความขยันวิ่งไล่ และวิ่งกันได้เป็นทีมก็ช่วยเอาไว้เยอะล่ะ แต่ที่ว่าร็อดเจอร์ทำได้ดีคือแกไม่เอาวิงลงมาเล่นรับมุมธงสักเท่าไหร่แต่เอาไปวิ่งไล่ในแดนกลางมากกว่า ถ่างเอาเซ็นเตอร์ตัวริมไปจับตัวริมเส้นแทน ด้วยความที่ตัวริมเส้นเบิร์นลี่ย์ไม่ได้เร็วหรือคล่องมากนัก(ไม่ช้าครับ แต่ไม่ใช่ระดับนาบาสหรือซานเชสแน่) รวมไปถึงตัวเติมก็ไม่ค่อยขึ้น/ขึ้นมาช้า จึงทำให้เห็นภาพตัวริมเส้นเบิร์นลี่ย์ได้บอลปุ๊บโดนแซะปั๊บ เล่นต่อไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง นัดนี้เบิร์นลี่ย์ไม่ได้เปิดบอลจากตำแหน่งที่ดีเลย ไปไม่ถึงมุมธง และแทบไม่ได้เปิดจากสุดเส้นหลัง

_______ เกมรุกเบิร์นลี่ย์ทีเด็ดอยู่ที่ลูกเปิดจากด้านข้าง เปิดไม่ได้ก็ไม่เหลืออะไรมาบุกแล้วครับ ซึ่งเรื่องนี้ผมว่าร็อดเจอร์เตรียมทีมมารับมือได้ดีมากทีเดียว

_______ อย่างไรก็ตาม ผมไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนตัวแบบพาลูกทีมออกธุดงค์ทั่วสนามของร็อดเจอร์เลย คือหลายนัดแกก็เปลี่ยนแบบนี้ล่ะ ไม่ใชเรื่องแปลกตา แต่ยังไง๊ยังไงก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี กับการเปลี่ยนตูเร่แทนโมเรโน่ ถ้าโมเรโน่ไม่เจ็บนี่ไม่รู้จะเปลี่ยนทำไมเพราะทำให้ต้องเปลี่ยนตำแหน่งผู้เล่นในสนามรวดเดียว 3 คน

_______ ในรายโมเรโน่นี่ขอตั้งขอสังเกตนิดนึงครับ คือโมเรโน่ไม่ฟิตหรือปล่าว? วันนี้จังหวะวิ่ง, ออกตัว, จับบอลมันดูทะแม่งๆ ชอบกล เพียงแต่ว่าวิงซ้ายไม่มีตัว(ควร)เลือกแล้ว เลยเอาโมเรโน่ที่ไม่ฟิตแต่พอเล่นได้ลงเล่นไปก่อน? นำห่างเลยรีบเอาออก หรือผมเพ้อเจ้อเองฟระ?

_______ การเปลี่ยนจอห์นสันลงนี่ก็เหมือนกัน คือถ้าจะให้สัมผัสเกมบ้างก็เข้าใจ แต่ประเด็นคือทำไมต้องเปลี่ยนแบบต้องปรับตำแหน่งอะไรกันให้วุ่นขนาดนั้น ไหนจะสเตอลิ่งต้องเปลี่ยนตำแหน่งเป็นครั้งที่สอง ตัวจอห์นสันเองก็ดันลงมายืนซ้าย จริงอยู่ว่าเบิร์นลี่ย์ตอนนั้นบุกไม่ขึ้นแล้ว แต่ 2-0 กับเวลาเกือบ 10 นาทีนี้เกมยังไม่ขาดนะครับ พลาดโดนผีจับยัดเข้าไปสักลูกละเป็นเรื่อง ซึ่ง ณ จุดนั้นจะกลายเป็นว่าเรามีทั้ง จอห์นสัน ที่พึ่งฟิตไม่นานอยู่ขวา ตูเร่ที่ได้เล่นไม่มากนักในช่วงหลังอยู่ซ้าย ข้างหน้าสเตอลิ่งก็เออเร่อไปเรียบร้อยแล้วเพราะจับจังหวะอะไรไม่ได้เลยทั้งเกมแถมเหนื่อยด้วย มันดูเป็นการเปลี่ยนตัวที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ครับ

_______ แต่ย้ำอีกครั้งจะได้ไม่เข้าใจผิดกัน โดยรวมผมยังคิดว่านัดนี้ร็อดเจอร์ทำได้ดีมากนะ

_______ ทีมกำลังฟอร์มดีต่อเนื่อง และผู้เล่นหลายคนที่ฟอร์มต้นฤดูเรียกมัน ตอนนี้ต้องเรียกท่านกันไปตามๆ กันแล้ว ถ้าจะมีอะไรที่ไม่เข้าตาอยู่บ้างก็เห็นจะเป็นพื้นที่หน้าเขตโทษของทีมครับ ต่อให้เป็นวันที่เล่นได้ดีแค่ไหน พื้นที่ตรงนั้นก็มีปัญหาให้เห็นอยู่ได้เรื่อยๆ มันไม่แปลกที่จะโดนยิงไกลหรือจ่ายทะลุจากตรงนั้น ทีมไหนมันก็โดนทั้งนั้นแหล่ะ แต่ประเด็นคือมันมีหลายครั้งเลยที่ “ไม่มีคนเบียด” หรือ “ไม่มีใครขวาง” และบางครั้งฝั่งตรงข้ามวิ่งอยู่ได้ตั้งนานสองนานในพื้นที่นั้น...ก็ยังไม่มีใครเข้าบอล

_______ ในฐานะคนที่ชอบวิจารณ์ ผมเชื่อว่าเราหาข้อดีข้อด้อยได้เรื่อยละครับ ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเห็นมันดีไปหมดหรือมันแย่ไปหมด ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเราเองนั่นล่ะที่พลาดอะไรไปสักอย่าง แต่ถ้าในฐานะ “เด็กหงส์” อย่างเดียว ขอบอกเลยว่า...

_______ ...กลางรับช่างมัน~ วิงแบ็คช่างแหม่ม~ เปลี่ยนตัวยังไงตามใจพี่เลย แค่ชนะ 2-0 , เก็บคลีนชีตได้, ชนะสี่นัดติดในลีค ไม่แพ้ใครมา 12 นัดในลีค โคตรแฮปปี้ครัชชชช
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดีเกือบทุกคน

มินโยเล่ - เล่นได้ดี ออกนอกเส้นได้เร็ว ตัดบอลครอสได้เยี่ยม โดนเพื่อนจ่ายคืนจังหวะไม่ควรคืนบ่อยก็เอาตัวรอดได้ดีระดับนึง ฟอร์มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ลอฟเรน - เกมรับเล่นได้ดีมาก อ่านเกมดี ที่เจ๋งคือจังหวะแซะบอลที่เข้าเมื่อไหร่ตัดได้ตลอด ที่เจ๊งคือ...จะคืนหลังกันไปถึงไหนครัชชชช จ่ายขวาง-จ่ายคืนบ่อยไป แถมจังหวะจ่ายขึ้นหน้าก็ใช่ว่าจะดีด้วย

สเคอเทล - ยังตัดบอลได้ดีอยู่โดยเฉพาะลูกกลางอากาศ แต่โดยรวมแล้ววันนี้เป็นวันที่สเคอเทล เล่นไม่ค่อยดี แม้จะไม่เห็นความผิดพลาดแบบคอขาดบาดตาย แต่มีจังหวะพลาดเล็กๆ น้อยๆ เยอะมากกกกก สื่อสารกับเพื่อนไม่ดีบ้างล่ะ ปล่อยบอลตกบ้างล่ะ บังคู่ต่อสู้ไม่มิดบ้างล่ะ สกัดไม่ขาดก็นิดหน่อย

ชาน - เป็นวันที่เราพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าชานเล่นเกมรับได้ดี คุมพื้นที่ เบียด ปะทะ ดักตัดบอล น่าพอใจทั้งหมด รวมไปถึงฟอร์มช่วงที่เล่นวิงขวาก็ทำได้ดีกว่าสเตอลิ่งช่วงก่อนหน้าด้วย

โมเรโน่ - มันต้องมีอะไรสักอย่างกับน้องโมครัช ผมสัมผัสได้ คือถ้าไม่ใช่อาการบาดเจ็บเล่นงานก็ต้องมีปัญหาอย่างอื่นล่ะ สมาธิไม่ค่อยอยู่กับเกม เล่นเหมือน ping 300+ms (จะมีใครเก็ตมุขนี้มั้ยนี่)

สเตอลิ่ง  - เริ่มเกมด้วยตำแหน่งที่ไม่ค่อยได้เล่นอย่างวิงแบ็คก็ไปไม่ค่อยเป็นแล้ว ทำได้แค่วิ่งทำทางไปรับบอลแล้วเชื่อมเกม แต่เกมรุกด้วยตัวเองไม่มีเลย ไม่ว่าจะเลี้ยงจี้หรือจ่ายให้เพื่อน ยิ่งพอออนทัวร์ย้ายตำแหน่งไปมาในช่วง 20 นาทีสุดท้ายก็ยิ่งไปกันใหญ่ คราวนี้แม้แต่เชื่อมเกมหรือเก็บบอลก็ทำไม่ได้แล้ว

อัลเลน - เชื่อมเกมได้ดี ส่วนตัวแล้วผมชอบมากกับการเห็นอัลเลนออกบอลเกมรุกมากขึ้น ซึ่งช่วยทำให้บอลไปข้างหน้าได้ดีขึ้นไม่ต้องไปพึ่งคูตินโย่มากนัก แต่เกมรับอัลเลนก็ยังคงเป็นอัลเลน อ่านเกมดี ถึงบอลบ่อย (มีหลุดๆ พื้นที่หน้าเขตโทษไปบ้าง แต่เรื่องนี้เค้าไม่ได้ผิดคนเดียว) แต่หยุดคู่ต่อสู้ไม่ค่อยได้ คือมาแต่บอลเสร็จกรู คนมาด้วยเสร็จมัน บางทีก็ยังสงสัย ไม่ต้องนักเตะหุ่นแบบอิ้งค์หรือกุนหรอก เอาแค่หุ่นสักชนาธิปนี่อัลเลนมันจะเบียดชนะได้มั้ย ถามจริง ถ้าเล่นแบบนี้แต่ยืนสูงกว่านี้จะถือโอเคเข้าขั้นดีเลยล่ะ แต่ประเด็นคือเค้ายืนต่ำกว่าเฮนเดอร์สัน ต้องเล่นเกมรับเยอะกว่าไง

เฮนเดอร์สัน - ฟอร์มยังดีต่อเนื่อง นัดนี้ดีกว่านัดก่อนด้วยซ้ำเมื่อมีบอลยาวดีๆ หลายลูก ทั้งไปที่ว่างมุมธง ทั้งบอลแนวลึกทะลุช่องหรือข้ามกองหลัง ยิง 1 จ่าย 1 ด้วย

คูตินโย่ - วิ่งไล่วิ่งทำทางได้ดี นัดนี้ไม่มีภาระต้องเชื่อมเกมมากนักเพราะเพื่อนช่วยเชื่อมจากหลังมาให้ได้ดี ตำแหน่งรับบอลของคูตินโย่ก็เลยดีไปด้วย เหมือนมีส่วนร่วมกับเกมน้อยลงแต่การออกบอลเรียกได้ว่าโหดสัส ทะลุช่องรัวๆ ดีทั้งทิศทางทั้งน้ำหนัก การยิงไกลก็ใกล้เคียงมากๆ ทุกลูก

ลัลลาน่า - มีส่วนร่วมกับเกมเยอะและทำได้ดี วิ่งทำทางรับบอลได้โดดเด่น นับเฉพาะเรื่องนี้เป็นรองแค่สเตอริดจ์คนเดียวเท่านั้น ผ่านบอลง่ายๆ ไม่ฝืน

สเตอริดจ์ - สนิมหลุดไปบ้างเมื่อจังหวะการเล่นกลับมาเข้าที่เข้าทางมากขึ้น การวิ่งทำทางทำได้ใกล้เคียงกับช่วงพีคแล้ว การจับบอลครองบอลก็ดีขึ้นมาด้วย เหลือจังหวะยิงที่ยังแย่อยู่ ครึ่งแรกมีโอกาสยิงในกรอบถึง 3 ครั้ง 1 ในนั้นเป็นลูกหลุดเดี่ยวด้วยกลับยิงไม่ได้สักลูก ยังดีว่าครึ่งหลังมาโหม่งได้ลูกนึง

ตัวสำรอง

ตูเร่ - ก็ยังคงไม่โดนกดดันอะไร ไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็น ...เอาจริงๆ หน้าก็แทบไม่เห็น

จอห์นสัน - ลงมาในช่วงที่เกมไม่มีอะไรเท่าไหร่แล้ว

แลมเบิร์ต - เปลี่ยนกันแบบนี้ พี่ขายผมเถอะครัช
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...จอร์แดน เฮนเดอร์สัน…เด่นมากทั้งฟอร์มในสนาม ทั้งมีส่วนร่วมกับประตู ยิง 1 จ่าย 1 นัดนี้น่าจะมติเอกฉันท์สำหรับ MOM
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.