วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 0-1 แมนฯยู (พรีเมียร์ลีค)



...กรอบจ๋า บอลลาก่อน...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-2-1

-----------------------เฟอมิโน่-----------------------
ลัลลาน่า------------------------------------มิลเนอร์
-----------ชาน---------ลูคัส------เฮนเดอร์สัน----
โมเรโน่-------ซาโก้----------ตูเร่-----------ไคลน์
-----------------------มินโยเล่-----------------------

_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านต่ออีกนัด เปิดศึกแดงอุ่นๆ กับแมนยูโดยนัดนี้คล็อปปรับทีมเล็กน้อยตามผังด้านบน เบนเทเก้ก็นั่งต่อไป
-------------------------------------------------------

________ ช่วงต้นเกม แมนยูเลือกเล่นเกมรุก รวมถึงไล่บอลตั้งแต่แดนหน้า กลางสนามเข้าถึงบอลเร็วมาก ลิเวอร์พูลพยายามจะเน้นเล่นบอลสั้นก็เอาบอลขึ้นหน้ายังไม่ได้ แต่การไล่บอลแดนหน้าและกลางยังทำได้ดี เกมแมนยูดูดีกว่าแต่ทั้งสองทีมยังไม่ได้ลุ้นประตู

________ บอลสั้นเล่นไม่ได้ลิเวอร์พูลเริ่มหันมาใช้บอลยาวฉาบฉวย นาที 10 ลูคัสวางยาวให้ลัลลาน่าได้โหม่งหน้าเขตโทษ ดวลกับเดเคอาที่ออกไปไกลเส้น แต่บอลยังติดเซฟ เฟอมิโน่ได้ยิงซ้ำก็ไม่เข้ากรอบ และหลังจากนั้นบอลยาวเร็วก็ยังทำงานเรื่อยๆ ส่วนแมนยูเกมริมเส้นทั้งสองฝั่งที่ทำได้ดีช่วงต้นเกมเริ่มหายไป

________ ผ่าน 20 นาทีของเกมไป เริ่มเล่นหนักขึ้นทั้งสองฝ่าย เกมกลางสนามลิเวอร์พูลเริ่มทำได้ดีกว่าชัดเจน หยุดเกมแมนยูไม่ให้เอาบอลขึ้นหน้าได้ เกมรุกตัวเองเอาไปเปิดและยิงรอบๆ เขตโทษได้ แต่ประตูน่ะไม่ได้

_______ ลิเวอร์พูลยังพาบอลไปยิงทิ้งยิงขว้าง หวดแต่ละทีอย่าว่าแต่กรอบประตู ขนาดอัฒจรรย์บอลยังแทบลอยข้ามเลยมั้ง ส่วนทางแมนยูเกมรับดับสนิทแล้ว เอาบอลขึ้นหน้าไม่ได้ มีเพียงบอลยาวจังหวะโต้ให้มาซิอัลลากตั้งแต่เส้นข้างเข้าไปลุ้นยิงในเขตโทษ ซึ่งก็ได้ลุ้นบ้าง เกมเล่นในลักษณะนี้ตลอดจนกระทั่งจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ช่วงต้น เกมยังเหมือนครึ่งแรก ลิเวอร์พูลยังไล่เร็ว ตัดบอลเร็ว บุกกดดันทางริมเส้นได้ดีโดยเฉพาะฝั่งซ้าย แต่ที่เหมือนเดิมด้วยคือจังหวะสุดท้ายที่ใครยิงก็ให้ผลเหมือนกัน ส่วนทางแมนยูดูจะแย่กว่าเดิมเล็กน้อยด้วยซ้ำเพราะเก็บบอลเล่นได้น้อยลง

_______ จุดพีคสุดของเกมรุกลิเวอร์พูลอยู่ในนาที 50 ที่ชานกระชากเข้าไปจนได้ยิงในเขตโทษติดเซฟเดเคอา แล้วหลังจากนั้นเกมก็เริ่มเปลี่ยน...

_______ หน้าและกลางของลิเวอร์พูลเริ่มหมดแรงไล่ เข้าถึงบอลได้ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้แมนยูเริ่มต่อบอลขึ้นหน้าได้ง่ายขึ้น เก็บบอลสองกลางสนามได้ดีขึ้น นาที 55 รูนี่ย์ได้ยิงติดบล็อค มาซิลอัลเก็บบอลได้ซ้ำก็หลุดกรอบ แต่จากตรงนี้ไป เกมของแมนยูประชิดได้ถึงหน้าเขตโทษลิเวอร์พูลแล้ว

_______ ลิเวอร์พูลยิ่งเล่นยิ่งยุบ นอกจากจะไล่ถึงบอลช้าแล้ว การวิ่งทำทาง แรงปะทะ การวิ่งไล่ตามไปเก็บบอลสองก็เริ่มช้าลงๆ บอลไปถึงข้างหน้าได้บ้างก็จริง แต่คุณภาพและปริมาณด้อยกว่าครึ่งแรก สวนทางกับแมนยูที่เกมรุกก็ไม่ได้กดดันอะไรนักหรอก แต่การเอาบอลขึ้นหน้าดีกว่าครึ่งแรกอย่างชัดเจน แต่ทั้งสองทีมยังมีมาตรฐานการเล่นบอลจังหวะสุดท้ายเท่ากันเป๊ะ~ คือยิง/เปิดไปไหนไม่รู้

_______ นาที 76 ไอบ์ได้ลงแทนลัลลาน่า คล็อปคงหวังจะเอามาเล่นกับพื้นที่ที่มีมากขึ้่นละมั้ง แต่นาที 78 ทีมดันโดนไปก่อน จากลูกเตะมุมสั้นเปลี่ยนจุด ก่อนโยนบอลเข้ามาแถวๆ จุดโทษ ผู้เล่นลิเวอร์พูล 4 ตัวเทคตัวขึ้นโหม่ง แต่เฟอไลนี่ที่อยู่กลางวงแค่คนเดียวเทคได้สูงกว่า โหม่งบนไปตกใส่คาน ไอ้เราก็นึกว่ารอดแล้ว แต่บอลไปเข้าทางรูนี่ย์ยิงเต็มข้อแสกหน้ามินโยเล่เข้าไป 1-0

_______ นาที 81 เบนเทเก้ได้ลงแทนตูเร่ แต่ต้องบอกว่าตั้งแต่เสียประตู ผู้เล่นลิเวอร์พูลช็อคไปถนัดตา จังหวะการเล่นเสีย สมาธิเสีย แถมแรงหมด โดยเฉพาะเฟอมิโน่นี่ก้าวขาแทบไม่ออกแล้ว ลิเวอร์พูลเริ่มหันมาบอบม์ขึ้นหน้ามากขึ้น ในขณะที่แมนยูก็รับ-โต้เต็มตัว โต้ได้พอใช้แต่ไม่ได้ลุ้นอะไรเพิ่ม ยังดีที่เกมรับก็ไม่ได้ผิดพลาดอะไรนัก

_______ นาที 90 คอลเกอร์ได้ลงสนามแทนมิลเนอร์ แล้วก็เหมือนเกมก่อนยืนข้างหน้าเพราะยังเห็นลูคัสยืนเซ็นเตอร์อยู่ ลิเวอร์พูลยืนหลังสามแล้วโยนลูกเดียว เก็บบอลได้ก็พยายามเอาไปโยนจากริมเส้นถ้าทำได้ ทำไม่ได้ก็โยนทื่อๆ จากแนวหลัง

_______ ...แต่โชคไม่มี และปาฏิหารย์ก็ดูจะใช้หมดแล้ว

_______ จบเกม แมนยูบุกมาเฉือนชนะลิเวอร์พูลไปได้ 1-0 ทั้งๆ ที่แมนยูได้ยิงน้อยกว่าร่วม 3 เท่าตัวและยิงเข้ากรอบแค่ครั้งเดียว!
-----------------------------------------

_______ “แมนยูทำไมมันหมูแบบนี้” ก่อนลุกละจากหน้าจอไปตอนพักครึ่ง ได้ยินใครสักคน(ผมไม่รู้จัก เข้าใจว่าเชิญมาเป็นตัวโจ๊กมั้ง) ที่ CTH เชิญมาคุยพร้อมโค๊ชตุ้มในช่วงวิเคราะห์เกมพักครึ่ง หล่นวาทะนี้ไว้ เข้าใจว่าเอาฮา เอาสนุก ซึ่งจบเกมแล้วผมก็สนุกกับประโยคนี้จริงๆ นะ แต่คนละความหมายกับที่เจ้าตัวตั้งใจไว้

_______ 11 ตัวจริงและแทคติคที่คล็อปใช้ในช่วงต้น ผมเห็นด้วยและคิิดว่าเค้าทำได้ดีมากด้วยการเลือกวิ่งไล่และบุกกดตั้งแต่ต้น มันใช้แรงเยอะมากจริง แต่ผลลัพธ์ก็อย่างที่เห็น ทีมชนะในเรื่องรูปเกมอย่างเห็นได้ชัด วิธีการเล่นแบบนี้มันไม่มีอะไรมากไปกว่าเร่งจนยิงนำแล้วตัวเองก็ได้เล่นเกมง่าย ปัญหาคือ

_______ ยิงไม่ได้

_______ พอครึ่งหลังหมดแรงก็เจ๊งครับ หมดเร็วด้วยสิเพราะเริ่มวิ่งไม่ออกกันตั้งแต่ก่อนนาที 60 ด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นจะบอกว่าคล็อปเร่งไป ประมาทไปก็พูดได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่ ก็นึกภาพว่ายิงเกือบ 20 ครั้งยังไม่ได้ประตู ถ้าเล่นเน้นเอาชัวร์ ได้ยิงแค่สัก 7-8 ครั้ง โอกาสที่จะได้สักลูกมันจะมีเท่าไหร่กัน อย่าว่าแต่เกมรับในพื้นที่สุดท้ายของแมนยูไม่แย่ด้วยนะ

_______ สิ่งเดียวที่ผมขัดใจคล็อปในนี้คือการส่งไอบ์ลงมาแทนลัลลาน่า คือปัญหาตอนนั้นคือแดนกลางทั้งแดนมันยุบ เอาบอลขึ้นหน้าได้ไม่ดีแถมมีปัญหาเกมรับด้วย เค้าน่าจะเปลี่ยนอัลเลนแทนใครสักคนที่ในแดนกลาง หรือไม่อีกทีก็ส่งเบนเทเก้มาเลยแล้วถอยเฟอมิโน่ไปเล่นตรงกลางแทน พอมาเป็นไอบ์แทนลัลลาน่า เกมรุกก็ไม่ได้ เกมรับก็แย่ลงอีก คล็อปจะมั่นใจอะไรกับไอบ์ถึงปานนั้น

_______ ส่วนการเปลี่ยนตัวค่อนข้างช้า อันนี้ผมไม่คิดว่าเค้าพลาด ตัวมีแค่นี้เปลี่ยนไปอาจช่วยอะไรไม่ได้มาก ไม่เชื่อก็ดูในรายไอบ์นั่นสิ แล้วนั่นคือกลางตัวรุกแท้ๆ คนเดียวในม้านั่งนะ

_______ กลับกัน ฟานกัล วางแทคติคเกมนี้แบบรัดกุมมาก เน้นชัวร์ไว้ก่อนชนิดที่ว่าแทบไม่สนเรื่องเกมบุกหรือยิงประตูเลย ครึ่งแรกแค่วางบอลให้มาซิอัลไปลุยเอง คนอื่นไม่เล่น กลางก็วางตัวรับมาสองคน ไม่มีตัวรุก เฟอไลนี่เองก็ช่วยเกมรับได้เยอะมากชนิดที่ถ้าเป็นมาต้าลงแทนตั้งแต่ต้นเกม ครึ่งแรกเดเคอามีเหนื่อยกว่านี้แน่ แถมครึ่งหลังที่ลิเวอร์พูลยุบแล้ว ฟานกัลเองก็ยังไม่ได้จะบุกเต็มตัว แค่หุบมาชิอัลมาตรงกลาง แล้วส่งมาต้าไปช่วยพลิกบอลแค่นั้นเอง ถือว่าบุกแบบยั้งๆ มากสำหรับจังหวะเกมแบบนั้น ถ้าเป็นผู้จัดการทีมอีกหลายคน สั่งลุยเต็มแม็กซ์แน่นอนในช่วง 60+

_______ ฟานกัลเน้นความรัดกุมมากไป เกมรุกแย่ ได้ยิงน้อยมากไม่น่าถึง 10 ครั้ง และเข้ากรอบก็น่าเกลียดมากคือครั้งเดียว(ที่ได้ประตู) พอย้อนคิดถึงเจ้าหมวกฮู๊ดแดงใน CTH กับมหาวาทะ “แมนยูทำไมมันหมูแบบนี้” เออ ก็จริงของเค้านะ ประเด็นคือ…

_______ ...เกมรุกแบบไหนที่แพ้ได้กระทั่งหมูน่ะ...

_______ คิดถึงตรงนี้ผมก็หัวเราะกับตัวเองเบาๆ
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นได้ดี...ถ้าบอลมีแค่ 50 นาทีอ่ะนะ

มินโยเล่ - เฝ้าเส้นมากไปนิด แต่การรักษาตำแหน่งก็ถือว่าดี เตะเปิดเกมค่อนข้างดี บอลตรงเพื่อน ส่วนลูกโดนยิงก็เอาเถอะไม่ใช่ลูกควรเซฟได้

โมเรโน่ - หน้าที่หลักวันนี้คือเชื่อมเกมและไล่บอล ครึ่งแรกทำผลงานได้ดี เกมรับเก็บกินไม่ได้ก็ยังพอบล็อคจังหวะเปิดได้ พอครึ่งหลังเริ่มเชื่อมเกมได้แย่ลง ในขณะที่เกมรับก็ยังเก็บกินไม่ได้เหมือนเดิม ต้องให้เพื่อนช่วยซ้อนเยอะไป

ซาโก้ - เป็นวันที่เล่นได้ดีโดยเฉพาะการบล็อคจังหวะยิงหรือยืนดักคนที่ครองบอลอยู่ เกมรับในเกมเปิดไม่มีปัญหา แต่ลูกตั้งเตะทำได้ไม่ดีทั้งรับทั้งรุกมีพลาดให้เห็นบ่อย

ตูเร่ - ประกบตัวรูนี่ย์ได้ดี มีปัญหากับมาซิอัลเยอะหนอ่ยเพราะกว่าจะหยุดอยู่ต้องรอจนถึงพื้นที่สุดท้ายที่มาซิอัลไม่มีทางไปต่อแล้ว โดยรวมบังได้แซะได้ อย่างแย่สุดก็ยังบล็อคลูกยิงลูกเปิดได้ อ่านเกมดีมาก แต่ความเร็วกับแรงปะทะและความสามารถในการเก็บบอลนี่แทบไม่เหลือแล้ว

ไคลน์ - เชื่อมเกมได้ดีอยู่ตลอดเกม แม้แต่ช่วงกลางครึ่งหลังเป็นต้นไปที่คนอื่นเริ่มพลาดเริ่มไม่วิ่งแล้วไคลน์ยังวิ่งทำทางและผ่านบอลสั้นได้ดีอยู่ เกมรับปล่อยพื้นที่หลุดเยอะไปนิดถ้าเทียบกับมาตรฐานของตัวเอง

ชาน - พ่อเมสซี่แห่งแอนฟิลด์วันนี้ร่ายมนต์สะกดทุกสายตา ด้วยการเก็บบอลไว้กับตัวแทบจะทุกจังหวะ เพื่อนวิ่งไปเถอะ ไม่ได้หรอกบอล ให้พลาดก็บ่อย โดนแซะก็เป็นระยะ จะบอกว่ามีดีกับการกระชากไปเล่นเองข้างหน้าตลอดเกมก็ทำดีแค่ 2 ครั้งเองมั้ง ครึ่งแรกยังไม่เท่าไหร่เพราะการช่วยไล่และเก็บบอลทำได้ดีอยู่ แต่ครึ่งหลังที่ไล่ก็ถึงบอลช้าแล้ว บอลก็เก็บได้น้อยลงแล้ว แกก็ยังสะกดคล็อปให้เก็บไว้ครบ 90 นาทีจนได้

เฮนเดอร์สัน - วิ่งเหมือนเตเบซ ไล่บอลเหมือนกัตตูโซ่ เชื่อมเกมแบบชาบี้ มุ่งมั่นแบบเจอราร์ด ยิงแบบเบนเนอร์

ลูคัส - ครึ่งแรกผลงานดีมาก ดักอยู่ตั้งแต่กลางสนาม จังหวะทีมโดนเจาะตรงริมเส้นก็ช่วยเก็บกวาดบอลเปิดหรือบอลหักเข้ากลางได้ เชื่อมเกมสั้นๆ ไปให้คนอื่นเล่นต่อได้เร็ว ครึ่งหลังเริ่มวิ่งน้อยลง เริ่มไปยืนกองอยู่หน้าเขตโทษ

ลัลาน่า - ครึ่งแรกเล่นได้ดีโดยเฉพาะการวิ่ง คือดีทั้งวิ่งทำทางที่ทำให้บอลขึ้นหน้าได้ง่าย และดีทั้งวิ่งไล่ที่ไล่ได้ถึงเนื้อถึงตัวทุกจังหวะ บอลสั้นต่อกับเพื่อนได้โอเค บอลเกมรุกน้อยไปหน่อย พอเข้าครึ่งหลังนี่หายไปก่อนเพื่อนเลย

มิลเนอร์ - เหมือนลัลลาน่าในเวอร์ชั่นที่พยายามออกบอลเกมรุกมากกว่า กดดันแนวรับได้เยอะกว่าแต่ก็ไม่ถึงขั้นฉีกกระชากอะไร ทางบอลระดับยุโรปแต่บอลออกไประดับเซิ่นเจิ้น

เฟอมิโน่ - ก่อนจะหมดแรง เป็นเกมที่เล่นได้ดีมาก มีส่วนร่วมกับเกมตลอด ช่วยเชื่อมเกมจากหลังไปหน้า(ให้ตัววิ่งสอด) และเชื่อมเกมในแดนหน้า(ให้แบ็คให้กลางที่เติมมารับบอล) หาจังหวะเปิดและยิงก็ถือว่าโอเคถ้ามองจากแนวรับเรียงกันเป็นตับของคู่ต่อสู้ แต่ยิงได้ระดับเดียวเฮนเดอร์สัน และหมดแรงเร็วเพราะวิ่งเยอะ

ตัวสำรอง

ไอบ์ - ลงมาเล่นแบ็คขวาได้เด่นกว่าดาเมี่ยนของแมนยู

เบนเทเก้ - เก็บบอลได้บ้าง ลูกกลางอากาศพอชงได้ เคลื่อนที่ถึงบอลดี ในฐานะตัวค้ำกองหลังจัดว่าใช้ได้ ในฐานะตัวจบสกอร์ถือว่าได้ใช้

คอลเกอร์ - ...มาถึงขั้นนี้แล้ว เอาลงกองหน้าตัวจริงเลยมั้ย?

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...โคโล่ ตูเร่…ถ้าบอลเล่นแค่ 50 นาที เฟอมิโน่เท่านั้น ถ้าเฮนโด้ยิงตรงกรอบบ้างก็ต้องเป็นเขาเช่นกัน แต่สำหรับผลลัพธ์ตลอด 90 นาที ผมยกให้ตูเร่เป็นคนช่วยทีมได้มากที่สุด เขาเป็นคนจัดการแทคติคเกมรุก “เอาบอลให้มาซิอัลแล้วภาวนา” ของฟานกัลได้ตลอดครึ่งแรก และครึ่งหลังก็ยังประกบรูนี่ย์ได้ดีเกินอายุและความเร็วที่มี ช่วยให้ทีมได้เล่นเกมรุกอย่างเมามันเป็นชั่วโมงๆ
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น