วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 0 - 0 เวสต์แฮม (เอฟเอคัพ)


...โอกาสที่หลุดลอย….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1

-----------------------เบนเทเก้-----------------------
----อัลเลน-----------เทเซร่า-------------ไอบ์-----
-------------บรานาแกน---------สจ๊วต-------------
สมิธ------ลอฟเรน-------คอลเกอร์-------ไคลน์
-----------------------มินโยเล่-----------------------

_______ เกมเอฟเอคัพกับโจทย์เก่าอย่างเวสต์แฮมที่ฤดูนี้ชนะลิเวอร์พูลไป-กลับได้ในลีค ด้วยความที่โปรแกรมชุกชุมยิ่งกว่ายุงหน้าฝน คล็อปเลยโรเตชั่นหันมาใช้เด็กเล่นซะเยอะ แถมตัวสำรองก็วัยละอ่อนทั้งนั้น
-------------------------------------------------------

________ เริ่มเกมมาเวสต์แฮมก็ว่ิ่งไล่อัดก่อนเลย ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่พวกเค้าใช้เล่นงานลิเวอร์พูลอย่างได้ผลมาก่อน ส่วนลิเวอร์พูลเน้นไล่บริเวณวงกลมกลางสนาม จังหวะรุกเอาแผงกลางยืนรองบอลสูง เกมทางซ้ายทำได้ลื่นในช่วงต้น

________ ช่วง 20 นาทีแรกของเกมแม้จะเปิดเกมเร็วแลกกันแต่ไม่ค่อยได้ลุ้นประตูทั้งคู่ เวสต์แฮมเก็บบอลเล่นดีกว่า ลิเวอร์พูลเอาบอลขึ้นหน้าได้น้อย แต่พอผ่าน 20 นาทีของเกมไปเป็นลิเวอร์พูลที่เริ่มทำเร็ว พลิกหนีตัวไล่จ่ายบอลขึ้นหน้าได้ดีขึ้น เกมทางซ้ายเริ่มได้เปิด

_______  เวสต์แฮมเริ่มไล่ไม่ถึงบอลและไล่กันน้อยลง แถมมีนักเตะเจ็บต้องเปลี่ยนออกสองคนในนาที 35 โอไบรอันแทนทอมกิ้น และ 37 เจลาวิชแทนคูยาเต้(อันนี้เจ็บมั้ง ไม่งั้นไม่น่าเปลี่ยนออก ตัวสำคัญ) และเกมของเวสต์แฮมก็ดูมั่วๆ ชอบกล ส่วนลิเวอร์พูลได้บอลมากกว่าแล้ว เอาขึ้นหน้าได้สะดวกขึ้น แต่จังหวะะเข้าทำยังมีน้อย และที่มีก็แทบไม่ได้ลุ้น จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง เวสต์แฮมลงมาเร่งเกมได้ดุเดือดมาก วิ่งไล่ตั้งแต่แดนหน้า กดดันลิเวอร์พูลได้ดีเอาบอลมาป้วนเปี้ยนใกล้เขตโทษได้ตลอด ส่วนลิเวอร์พูลยังพยายามพาบอลขึ้นหน้าด้วยบอลสั้น แม้ว่าจะโดนตัดและบอลไปไม่ได้รัวๆ ก็ตาม

_______ สิบนาทีของครึ่งหลังผ่านไป เวสต์แฮมเริ่มเพลาการวิ่งไล่ลง ประกอบกับบอลสั้นของลิเวอร์พูลเริ่มแงะงัดกันขึ้นไปข้างหน้าได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แถมยังหันมาวิ่งไล่ในแดนหน้าให้บ้าง พลิกกลับเป็นฝ่ายกดดันเวสต์แฮมจนถึงได้ลุ้นยิงลุ้นเปิดบ้าง

_______ เวสต์แฮมเริ่มเล่นเกมรุกไม่ออก บอลไม่ถึงหน้า แนวรับก็คุมพื้นที่สุดท้ายไม่ดี ลิเวอร์พูลเจาะได้บ้าง มีโอกาสในกรอบเขตโทษนิดๆ หน่อยๆ อยู่เรื่อย นาที 70 เวสต์แฮมเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายเอาอันโตนิโอลงแทนโมเสส แต่เกมไม่เปลี่ยน ลิเวอร์พูลยังคงวิ่งไล่ ทำเร็ว กดดันแนวรับได้ต่อเนื่องและได้ลุ้นถึงยิงด้วย เกมดีกว่าชัดเจนแล้ว

_______ นาที 80 โอโจ้ได้ลงแทนไอบ์ ทีมขยับมาเล่น 4-4-2 มีโอโจ้ยืนเป็นหน้าเพิ่มอีกคน เกมยังไม่เปลี่ยน นาที 86 ซินแคลร์ได้ลงแทนบรานาแกน ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลยังพาบอลไปวนหน้าเขตโทษคู่ต่อสู้ได้ต่อเนื่อง แต่เวสต์แฮมเริ่มมีฮึดบุกกลับมาได้บ้างแล้วหลังโดนบี้อยู่ในแดนตัวเองมานาน

_______ นาที 89 เอนริเก้ลงมาแทนเทเซร่า แล้วก็ทำงามไส้ด้วยการเปิดฟรีคิกไม่ขึ้น ทีมโดนโต้เกือบเป็นเรื่อง ท้ายเกมและทดเจ็บ ลิเวอร์พูลหาโอกาสลุ้นไม่ได้ ส่วนเวสต์แฮมคุมเกมได้ดีขึ้นแต่เกมรุกก็ไม่ได้มีอะไร ดีสุดคืออันโตนิโอผลักเอนริเก้จนได้โหม่งชนเสาแค่นั้น จบเกม 0-0 ต้องไปเตะรีเพลย์กันต่อ
-----------------------------------------

_______ โชคดีนิดๆ ที่ไม่เสียจุดโทษทั้งๆ ที่แฮนด์บอลไปสองครั้ง ครั้งที่สองของคอลเกอร์น่าโดนมาก, ไม่โดนตั้งเตะสองจังหวะในเขตโทษ ในตอนนี้มินโยเล่คว้าบอลคืนหลัง ดูแล้วไม่น่าใช่การสกัด

_______ บอกตามตรง ตอนเห็นรายชื่อตัวจริงตัวสำรองกะว่าไปแล้วค้าบ

_______ ไม่ได้คิดว่าคล็อปพลาด เพราะเกมมันเตะถี่จริงๆ เดือนเดียว 9 นัดบ้าไปแล้ว แถมกลางสัปดาห์ยังมีจ่ออยู่อีกนัด จะให้เอาตัวหลักลงมาอีกเกรงว่าอย่าว่าแต่วิ่ง เดินจะไม่ไหวกันเอา

_______ แต่สุดท้ายของเป็นความสดนี่ล่ะครับที่ช่วยทีมได้เยอะ

_______ เวสต์แฮมเคยวิ่งไล่บี้จนลิเวอร์พูลเละมาสองนัดแล้ว แต่นัดนี้พวกเขาไล่ได้ดีมากๆ อยู่เพียงแค่ราว 10 นาทีของแต่ละครึ่งเท่านั้น ยิ่งพอช่วงกลางครึ่งหลังเป็นต้นไปนี่ยุบชัดเลย วิ่งตามบอลน้อยลง ทำทางน้อยลง ในทางกลับกันลิเวอร์พูลกลายเป็นฝ่ายวิ่งไล่ได้ดีในช่วงเวลานั้น คือเกมช่วงนาที 55-85 ประมาณสามสิบนาทีนี้กดเวสต์แฮมได้อยู่หมัดเลย ได้ลุ้นเปิดลุ้นยิงในกรอบเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่คมกันไปเอง ถ้าเอาตัวหลักลง ดูเทียบกับเกมที่ผ่านๆ มาสงสัยว่าพวก ลูคัส ชาน เฟอมิโน่ ลัลลาน่า จะเดินเล่นหนักกว่าพวกเวสต์แฮมในนัดนี้อีกมั้งครับ

_______ ก็ต้องให้เครดิตว่าคล็อปซื้อสดแล้วเวิร์คครับ ถ้าซื้อเก๋าไม่รู้ป่านนี้จะเป็นไง

_______ นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องฟอร์มผู้เล่น ทางฝั่งเวสต์แฮมต้องบอกว่าตัวรุกวันนี้ดับหมด โดยเฉพาะปาเย่นี่ฟอร์มสะเทือนซางไม่แพ้ไอบ์เลย  แถมซวยต้องเปลี่ยนทีมตั้งสองตำแหน่งตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกต้องเสียเวลาจูนกันอีก กลับกันทางฝั่งลิเวอร์พูล บรานาแกนกับสจ๊วตเล่นได้ดีมากๆ ในเรื่องการเก็บบอล เล่นบอลสั้น และพลิกบอลขึ้นหน้า เป็นส่วนสำคัญมากที่ทำให้เวสต์แฮมไล่แล้วเหนื่อยฟรี ประตูก็ไม่ได้ แรงหมดอีกต่างหาก

_______ เด็กสองคนนี้คือคีย์แมน -คนสำคัญ- ที่ทำให้นัดนี้ทีมเล่นดีกว่าเวสต์แฮมครับ

_______ มันน่าเสียดายมากๆ ที่เล่นในบ้าน เล่นดีกว่า มีโอกาสแต่ไม่ชนะ และการเตะรีเพลย์ก็เหมือนนับ 1 ใหม่ เวสต์แฮมจะกลับมารับมือการพลิกบอลเล่นของเด็กสองคนนี้ได้ดีกว่าเดิมแน่ นัดนี้จึงเป็นโอกาสที่หลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย

_______ แต่โอกาสที่เสียไปก็แลกมาด้วยการที่ตัวหลักได้พักบ้าง, เด็กดาวรุ่งได้เพิ่มประสบการณ์มากขึ้น ในสถานการณ์ที่ทีมดูท่าจะไม่ได้เสริมทีมอะไรจริงจังแล้ว

_______ โอกาสที่เสียไป...ก็นับว่าไม่เสียเปล่าเสียทีเดียว
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ค่อนไปทางดี

มินโยเล่ - ออกมาเล่นกลางอากาศไม่ดีเลย เปิดบอลยาวแย่ แต่กับบอลสั้น บอลคืนหลัง การแตะหนีตัวไล่ เขาทำได้ดีมาก มีส่วนช่วยในการเอาบอลขึ้นหน้าได้โดยไม่ต้องโยนมั่วซัวได้ในระดับนึง (ไม่ใช่ทีมจะไม่โยนยาวเลยนะ แต่มันน้อยลงกว่าที่ควร-ที่เคยเป็น)

สมิธ - อ่านเกมดีขึ้น เกมรับดีขึ้น คู่ต่อสู้เปิดได้ลำบากแล้ว ยังมีหลุดพื้นที่อยู่บ้างแต่ยังตามมาบังทันไม่ปล่อยเซ็นเตอร์ตายเดี่ยวแบบนัดก่อนๆ เกมรุกเติมไม่มากนักแต่การเชื่อมเกมถือว่าดีทีเดียว

ลอฟเรน - เล่นเป็นตัวชน โฉ่งฉ่างได้โล่ เสียฟาล์วง่าย เสียบชวนไล่ออก ครึ่งแรกที่โหม่งวืดนี่เรียกว่าอายนักเตะไทยลีคเลยก็แล้วกัน(หาดูในไฮไลท์ รับรองว่ารู้แน่ว่าหมายถึงลูกไหน) แต่ๆๆ ถึงอย่างนั้นวันนี้ลอฟเรนเข้าสกัดหยุดคู่ต่อสู้ได้ดี ไม่มีไหม้ ลูกกลางอากาศก็ช่วยได้เยอะทีเดียว

คอลเกอร์ - เข้าบอลดูดีกว่าลอฟเรน แต่ในทางกลับกันคือเล่นเพลย์เซฟกว่าด้วย จังหวะ 50/50 ไม่เสี่ยงเสียบ ยืนบังรอบล็อครอเพื่อนอย่างเดียว ซึ่งบางจังหวะน่าจะอัดไปเลยมากกว่า ตำแหน่งยืนดีทีเดียว...ดีกว่าตอนอยู่ทีมเก่า ผ่านบอลสั้นขึ้นหน้าไม่ค่อยได้แต่จ่ายไม่เสียก็โอเคอยู่

ไคลน์ - เป็นเกมที่ทำได้ดีทั้งรุกทั้งรับ เกมรับรักษาพื้นที่ได้หมด บังทางเปิดบอลได้เยี่ยม ฝืนเปิดหนีบล็อคไคลน์นี่ล้นออกหลังหมด วิ่งทำทางช่วยเชื่อมเกมได้ตลอด พื้นที่มุมธงไม่เติมไปเล่นก็จริงแต่ตัดเข้าในสลับจ่ายเรียดไปให้เพื่อนเล่นต่อได้ดีหลายครั้ง

บรานาแกน - พลิกบอลเล่นได้ดีมาก โดนไล่เอาตัวรอดได้ เชื่อมเกมหลังไปหน้าได้ดี เติมขึ้นไปเล่นเกมรุกมากกว่าสจ๊วต ทำได้ดีในเรื่องเก็บบอล(เกมรุก) และหาพื้นที่เล่น เป็นตัวเปิดฟรีคิกที่พอใช้ได้ คือยังพอได้ลุ้นบ้างแม้จะไม่เด็ดขาดเท่าไหร่ แย่หน่อยก็เรื่องการเข้าปะทะที่แย่งบอลได้น้อย และบอลวางยาวไม่ดี/ไม่มี

สจ๊วต - เหมือนบรานาแกน เหมือนไปยันเรื่องเข้าปะทะและวางบอลยาว เป็นเวอร์ชั่นยืนต่ำบ่อยกว่า

ไอบ์ - เป็นน้องชาน

เทเซร่า - พลิกบอลขึ้นหน้าได้ดี บอลชิ่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่มีจังหวะจับ/พลิกแล้วจ่ายที่ดีหลายครั้ง เปิดบอลเกมรุกได้ลื่่นไหล ด้อยไปหน่อยในเรื่องการบังบอลที่บังได้โคตรแย่ และการจบสกอร์ที่ไม่เด็ดขาด แต่โดยรวมก็ต้องนับว่าเล่นได้ดีทีเดียว ดีกว่าฟอร์มพวกตัวหลักในบางนัดด้วยซ้ำ

อัลเลน - ครึ่งแรกเล่นได้ดีมาก ถ้าใครอยากรู้ว่ากองกลางต้อง “วิ่งทำทางรับบอล” กับ “อ่านเกม” ยังไงดูอัลเลนในครึ่งแรกนัดนี้แล้วทำตามได้เลย ครึ่งหลังก็ยังโอเคอยู่แต่เริ่มวิ่งได้น้อยลงก็เลยพลอยหายไปจากเกมด้วย และทั้งเกมถ้าใครอยากรู้ว่ากองกลางต้อง “เข้าปะทะ” กับ “ให้บอลเร็ว” ยังไงก็สามารถดูอัลเลนเล่นนัดนี้ได้...แล้วอย่าทำตาม

เบนเทเก้ - ถ้ามองในฐานะตัวจบสกอร์(ST-สไตร์เกอร์) … ฟอร์มแหลกเหลวมาก หาตำแหน่งในเขตโทษแทบไม่ได้เลย สปีดต้น สปีดกลาง สปีดปลาย สปีดไหนก็เอาชนะเซ็นเตอร์อย่างรีดที่ก็ไม่ได้เร็วอะไรนักไม่ได้เลย วิ่งทำทางรอชาร์จรอโหม่งไม่เห็นดีสักลูก แต่ถ้ามองในฐานะกองหน้า(CF-เซ็นเตอร์ฟอร์เวิร์ด) เขาค้ำแนวรับได้ดี เก็บบอลใช้ได้เลย เพื่อนจ่ายยัดไปยังพอค้ำบอลคืนเพื่อนได้ บอลโด่งโหม่งชงได้มั่งไม่ได้มั่ง อย่างน้อยก็ไม่ถึงกับเสียหมด และบอลเร็วจังหวะเดียว/บอลให้ตัววิ่งสอดถือว่าทำได้พอใช้

ตัวสำรอง

โอโจ้ - ได้บอลน้อย มีส่วนร่วมกับเกมน้อย ไม่สร้างความแตกต่าง

ซินแคลร์ - ได้บอลน้อย มีส่วนร่วมกับเกมน้อย สร้างความแตกต่าง...คือเกมรุกแย่ลง

เอนริเก้ - ดีแล้วที่ไม่ได้บอล มีส่วนร่วมกับเกมรุกคู่ต่อสู้ดี สร้างความแตกต่าง...เกือบโดนโต้ไส้แตก 1 เกือบโดนโหม่งไส้แตก 1

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...บรานาแกน&สจ๊วต…ถ้าเล่นแค่ครึ่งแรก อัลเลน ไม่ต้องสืบ ถ้าดู 90 นาทีและต้องเลือกคนเดียวก็จะเป็นไคลน์หรือเทเซร่า แต่การประสานงานของบรานาแกนกับสจ๊วตนับนี้ทำได้ดีมากจริง ทีมชนะในเรื่องรูปเกมเพราะการเล่นร่วมกันของสองคนนี้
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 0-1 สโต๊ค (รวมสองนัด 1-1,จุดโทษ 5-4) (แคปปิตอลวันคัพ)


...Joe Allen send Liverpool to Wembly!!!….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-2-1

-----------------------เฟอมิโน่-----------------------
----------ลัลลาน่า---------------มิลเนอร์----------
-------------ชาน---------------เฮนเดอร์สัน--------
--------------------------ลูคัส-------------------------
โมเรโน่--------ซาโก้-------ตูเร่------ฟลานาแกน
-----------------------มินโยเล่-----------------------

_______ เกมลีคคัพรอบรองนัดที่สองกับสโต๊ค นัดแรกลิเวอร์พูลชนะมาก่อน 1-0 นัดนี้แค่เสมอก็เข้าชิงหล่อๆ แล้ว คล็อปปรับทีมเล็กน้อยด้วยการส่งฟลานาแกนกับลัลลาน่าลงตัวจริง นอกนั้นยังเหมือนทีมนัดล่าสุด
-------------------------------------------------------

________ สโต๊คเริ่มเกมนี้ด้วยการยืนสูงพยาบามเปิดเกมบุก แบ็คลอยช่วยเชื่อมเกม ส่วนลิเวอร์พูลเลือกเล่นรับในแดน เน้นหาจังหวะวางยาวข้ามหัวกองหลังไปพื้นที่ว่าง ลิเวอร์พูลทำได้ดีในเกมรับเพราะคู่ต่อสู้พาบอลขึ้นมาใกล้เขตโทษไม่ได้เลย แต่เกมรุกตัวเองก็วังเวงโหวงเหวงไม่แพ้คู่ต่อสู้เหมือนกัน

________ แม้ลิเวอร์พูลจะหยุดไม่ให้สโต๊คเอาบอลขึ้นหน้าได้ดีเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีจังหวะผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะบอลฉวยโอกาสวางข้ามแผงกองหลังที่ลิเวอร์พูลยังพลาดอยู่ และทำให้สโต๊คได้ลุ้นยิงจากมุมแคบบ้าง โดนเร่งบ้าง ยังไม่ได้ประตูแต่ดูได้ลุ้นกว่าลิเวอร์พูลเยอะ เพราะลิเวอร์พูลเน้นเกมโต้อย่างเดียว ไม่เติมเกม ไม่เปิดเกมรุก ไม่ตามไปเก็บบอลจังหวะสองเกมรุก ซึ่งบอลไปไม่ถึงข้างหน้าเลย ได้ลุ้นก็แค่ฉาบฉวยนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้ใกล้เคียง

_______  เกมครึ่งแรกเล่นกันไปแบบเอื่อยๆ จนกระทั่งทดเจ็บนาทีแรก จังหวะบอลอยู่กลางสนาม โมเรโน่จะไปปั้มแต่พลาด โดนคู่ต่อสู้เอาบอลมาได้ก่อนจ่ายออกมาพื้นที่มุมเขตโทษด้านนั้น ซาโก้ตามเข้าไปซ้อนแต่ยืนห่าง คู่ต่อสู้เปิดเร็วเข้ากลาง ตูเร่ก็ประกบอนาโตวิชที่เข้าชาร์จไม่ดี โดนไปไม่เหลือ 1-0 ...จังหวะนี้จริงๆ แล้วอนาโตวิชล้ำหน้านะ แต่ไลน์แมนไม่ยกธง

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลกลับลงมารุก ไล่บอลมากขึ้น บอลไปถึงข้างหน้าได้มาก ในขณะที่พื้นที่ตัวเองก็เริ่มว่าง สโต๊คเริ่มโยนมาให้กองหน้าพักเล่นได้ต่อเนื่องเพราะเหลือดวลอยู่แค่เซ็นเตอร์ ไม่มีกองกลางมาเกะกะเท่าไหร่ ทำให้เกมครึ่งหลังเร็วและเปิดแลกกันมากขึ้น แต่ศักยภาพเกมรุกของทั้งคู่คงทำให้ทีมทีมที่ตกรอบไปแล้วได้แต่รำพึงว่า...นี่พวกพี่จะเข้าไปชิงจริงๆ เหรอ

_______ นาที 58 เบนเทเก้ได้ลงแทนเฮนเดอร์สันที่คาดว่าน่าจะมีอาการบาดเจ็บ..เพราะถ้าไม่เจ็บก็ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนออกทำไม ทีมปรับมาเล่น 4-2-3-1 กลางเกม(อีกแล้ว) เอาเฟอมิโน่ถอยไปยืนหลังเบนเทเก้ ถอยชานลงไปเท่าลูคัส ถึงตรงนี้สโต๊คเริ่มโยนยาวลึกได้ผลถึงขั้นได้ลุ้นเปิดลุ้นยิงแล้ว ในขณะที่ลิเวอร์พูลเข้าทำได้แบบเดียวคือโยนเข้าไปรัวๆ บอลตกทุกที่ในกรอบเขตโทษคู่ต่อสู้ยกเว้นหัวพวกเดียวกัน

_______กลางครึ่งหลังเริ่มเห็นผู้เล่นลิเวอร์พูลทะยอยหมดแรงกันไปตามๆ กัน ฟลานาแกนนี่หนักสุดเลยเพราะความฟิตคงยังไม่เต็มร้อย เฟอมิโน่ใกล้หมดแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ก็เริ่มวิ่งได้น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังดีว่าสโต๊คเองก็เริ่มหมดเหมือนกัน เอาบอลมาถึงหน้าได้แต่เปิดบอลเข้าทำไม่แม่น จะกระชากก็ไม่ไหว เกมเลยออกมาแนวปีกทีมหนึ่งโยนไปให้เซ็นเตอร์อีกทีมหนึ่งโหม่ง สลับกันอยู่อย่างนั้น

_______ เข้านาที 85 อัลเลนลงมาแทนตูเร่ ถอยลูคัสไปเป็นเซ็นเตอร์ คล็อปกะจะปิดเกมใน 90 นาทีกันไปเลย แต่ผลที่ได้คือชวนให้ปิดทีวีมากกว่า เพราะยังได้แต่โยนไปไหนไม่รู้กับโยนทำไมไม่รู้ ส่วนสโต๊คเองก็มาไม่ค่อยถึงสุดเส้น ได้เปิดน้อยกว่า แต่อัตราความเสียวไส้ไม่ต่างกัน คือไม่เสียวเลย

_______ จบเกม 90 นาที สโต๊คชนะ 1-0 ผลรวม 1-1 ต่อเวลาอีก 30 นาที

_______ต่อเวลาครึ่งแรก เกมเหมือนท้ายครึ่งหลังเป๊ะ

_______ ต่อเวลาครึ่งหลัง ไอบ์ได้ลงแทนฟลานาแกน มิลเนอร์ถอยไปเป็นแบ็คให้ ไอบ์ได้เล่นตัวลุก..ลี้ลุกลน แต่ก็ต้องถือว่าเป็นกำลังหลักในเกมรุกเพราะยังมีแรงเลี้ยงบอลอยู่ ลิเวอร์พูลขึ้นเกมเอาไว้เกือบ 10 นาที แต่ผลลัพธ์สุดท้ายยังไม่ต่างจากเดิม บอลไปทุกที่ที่ไม่มีพวกเดียวกันอยู่ ท้ายๆ เกมสโต๊คได้ขึ้นมาบุกบ้างนิดหน่อยก็ยังหาสาระอะไรไม่ได้เช่นเดิม สุดท้ายต้องลากไปดวลกันถึงจุดโทษ

_______ ช่วงดวลจุดโทษ สโต๊คได้ยิงก่อน ส่วนลิเวอร์พูลยิงตาม คนยิงให้ลิเวอร์พูล 5 คนแรกมี ลัลลาน่า ชาน เบนเทเก้ เฟอมิโน่ ลูคัส ตามลำดับ ซึ่งมีชานพลาดไปคนเดียว ส่วนทางสโต๊คก็มีเคร้าช์พลาดไปคนเดียวเช่นกัน (คนที่สองทั้งคู่)

_______ สุดท้าย คนที่หก ใครยิงให้สโต๊คไม่แน่ใจแต่ประเด็นคือติดเซฟ ส่วนทางลิเวอร์พูลอัลเลนยิงไม่พลาด พาทีมไปเวมบลี่ย์ได้สำเร็จ

_______ สรุป แพ้ในเวลา 1-0, ผลรวมสองนัด 1-1, ต่อเวลา 1-1, จุดโทษ 5-4 ลิเวอร์พูลเข้าไปชิงลีคคัพ บอลถ้วยโปรดได้สำเร็จ
-----------------------------------------

_______ นัดนี้เปลี่ยนทีมนิดหน่อย แต่แทคติคมีเปลี่ยนบ้างเหมือนกันคือตัวรุกสองคนคือลัลลาน่ากับมิลเนอร์ยืนใกล้กันมาก ทีมเน้นเจาะตรงกลางเยอะ เกมด้านขวานี่เลิกเล่นไปเลย ทางซ้ายมีบ้าง และเน้นเกมโต้เร็วเต็มสูบ ไม่ตั้งเกมเลย

_______ ผลคือเจ๊ง~

_______ ประสานงานกันไม่ได้เลย ทั้งกองกลางส่งบอลขึ้นหน้าแย่ ไม่ต้องพูดถึงบอลทะลุช่องหรือบอลผ่านให้ยิง เอาแค่บอลไปที่ว่างดีๆ ก็ไม่มีแล้ว ส่วนแนวรุกเองก็ประสานงานกันไม่ได้ ขนาดเน้นให้มายืนใกล้กันก็ยังเล่นด้วยกันไม่ค่อยได้ ชิ่งเป็นเสีย ทำให้เกมรุกวันนี้ดูแย่มาก ไร้จินตนาการสุดๆ และการเข้าทำแต่เพียงอย่างเดียวคือโยนเข้าไป...แบบมั่วๆ

_______ อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลนัดนี้ดูแล้วสงสารคนเล่นมาก ทั้งสองทีมเลยด้วยนะ เพราะทั้งคู่เริ่มหมดแรกตั้งแต่นาทีห้าสิบกว่าๆ แล้วนึกภาพดูว่าต้องเล่นมันอยู่อย่างนั้นอีกเกือบชั่วโมง(เพราะมีต่อเวลาอีก) รูปเกมตั้งแต่นาที 75+ นี่แทบอยากให้ข้ามไปยิงจุดโทษเลย เพราะทั้งสองฝ่ายไม่เหลือเรี่ยวแรงจะทำเกมรุกแบบเอาชนะคู่ต่อสู้ได้แล้ว คือต้องรออีกฝ่ายพลาดมันอย่างเดียวนั่นแหล่ะ

_______ นัดนี้ผมละคาใจกับการเปลี่ยนตัวของคล็อปจริงๆ คือเฮนโด้ถ้าไม่เจ็บเปลี่ยนออกนี่คงโกรธกันตาย แต่ก็ยังคิดว่าน่าจะเจ็บหรือไม่พร้อมเล่นต่อจริงๆ เพราะเกมหลังจากนั้นทีมก็โยนตูมๆ คล็อปคงไม่เปลี่ยนคนโยนดี(กว่าเพื่อนร่วมทีม)ออก แต่ที่คาใจมากคืออัลลัยทำให้คล็อปตัดสินใจถอดตูเร่ออกตอนส่งอัลเลนลง

_______ อัลเลนลงน่ะถูกแล้ว ทีมต้องการความสดและเกมบีบแบบนั้นจะใช้เด็กก็ไม่ใช่เรื่อง แต่นึงยังงัยยยเอาตูเร่ออกแล้วถอยลูคัสลงไปเซ็นเตอร์ เพราะเคร้าช์ก็ยังอยู่ในสนาม คือถ้าเกิดซวยโดนฟรีคิกใกล้หน่อย หรือว่าลูกเตะมุมสักสามสี่ลูกติดๆ มิตายหรอ

_______ ทีลัลลาน่าหรือเฟอมิโน่ที่หมดแล้วหมดอีกนี่ไม่เปลี่ยนออก อย่าว่าแต่….อีกคน เล่นมันยัน 120 นาทีนั่นแหล่ะ

_______ อ้อ แต่การเอาไอบ์ลงช่วงพักครึ่งของการต่อเวลานั่นผมเห็นด้วยนะ ฟลานาแกนหมดแล้วเหลืองแล้ว อยู่ต่อก็ช่วยอะไรไม่ได้ คือไม่ใช่แค่หมดแรงวิ่ง แต่แกแทบจะหมดแรงเดิน ขาอ่อนแล้ว แถมไอบ์ก็ยังป้วนเปี้ยนๆ ใกล้ๆ เขตโทษคู่ต่อสู้ได้บ้าง อย่างน้อยก็มีอะไรให้ลุ้นกว่าโยนมั่วๆ ให้คู่ต่อสู้สกัดทิ้งล่ะ

_______ สุดท้าย ไม่พูดถึงไม่ได้ มินโยเล่เจ๋งนะครับ จุดโทษ 6 ลูก แกพุ่งถูกทาง 4 ครั้ง และเซฟได้ถึง 2 ครั้ง (สโต๊คยิงตรงกรอบหมดนะ) และอีก 1 ครั้งที่มือโดนบอลแต่ปัดไม่ออก ถ้าจะเซฟได้แบบนี้นัดหน้ากองหลังอย่าปล่อยให้คู่ต่อสู้ยิงในกรอบ รวบแม่งเลยครัชช แล้วให้มินโยเล่เซฟลูกโทษเอา ดูจะได้ลุ้นกว่าเซฟลูกปกติ

_______ ผ่านนัดนี้ไปได้อย่างทุลักทุเล เดี๋ยวมีเอฟเอคัพอีก วิ่งเนี่ยไม่ต้องพูดถึงแล้ว แรงเดินจะมีกันมั้ยเนี่ย?
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้แบบอ่อนเปลี้ยเพลียแรง

มินโยเล่ - ไม่เจอลูกยาก ยากสุดคือต้องออกมาเล่นไกลนอกเขตก็ทำได้ดีมากหนึ่งครั้ง ขึ้นชกบอลกลางอากาศไม่ดีเท่าไหร่แต่ก็ยังปัดบอลออกหลังได้อยู่ นัดนี้ทำดีมีทีเด็ดกับช่วงดวลจุดโทษ

โมเรโน่ - ครึ่งแรกเน้นเกมรับ เวลาส่วนใหญ่ก็ทำได้ดีอยู่โดยเฉพาะการขึ้นมาช่วยไล่บอล แต่การไล่มั่วซั่วก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทีมเสียประตูสำคัญในเวลาเช่นกัน เกมรุกวันนี้ดับ เปิดแย่ ทำทางงั้นๆ ขึ้นไปได้ไม่สุดด้วย การเชื่อมเกมก็ถือว่าทำได้ไม่ค่อยดีนัก หนักไปทางเคาะคืน

ซาโก้ - ทั้งเกมสิ่งที่เขาทำได้ดีต่อเนื่องคือจังหวะบล็่อกลูกยิง ครึ่งแรกเล่นได้ดี แย่งโหม่งก่อนกองหน้าได้ แต่ครึ่งหลังพอทีมบุกมากขึ้นเริ่มมีปัญหา ยิ่งเล่นยิ่งหลอน มีโชว์โหม่งวืดในเขตโทษ มีโหม่งไม่ขาดอีกหลายครั้ง เอาบอลขึ้นหน้าช้า คิดนาน ดีว่าไม่จ่ายให้พานให้คู่ต่อสู้

ตูเร่ - ครึ่งแรกยังโอเค แต่โดยรวมเป็นวันที่เล่นไม่ดีเลย ลูกกลางอากาศมีปัญหากว่าซาโก้ จังหวะวิ่งตามตัววิ่งสอดก็ทำไม่ได้เลย ซ้อนเพื่อนไม่ต้องพูดถึง

ฟลานาแกน - ราวหนึ่งชั่วโมงแรกของเกมทำได้ดีโดยเฉพาะเกมรับ ส่วนการเติมขึ้นไปช่วยเกมก็ยังอยู่ในขั้นหน้าพอใจ แม้จะเปิดบอลได้แย่มากแต่บอลเชื่อมกับทำทางไม่แย่ แต่พอผ่านหนึ่งชั่วโมงไปแล้ว หมดแรงอย่างเห็นได้ชัด ขาอ่อน, หมดแรงวิ่ง, หมดแรงปะทะ ดีว่าสโต๊คเร่งไม่ขึ้นไม่งั้นทีมจะโดน 2-0 ไม่ก็เหลือ 10 คนก่อนหมด 90 นาทีแน่

ลูคัส - ครึ่งแรกเล่นได้เท่มาก มีวิ่งขึ้นมาอัดสูงหลายจังหวะด้วย แต่เชื่อมเกมไม่เท่เลย แค่แปะๆ ยังช้า ยิ่งพอเข้าครึ่งหลังยิ่งช่วยทีมได้น้อยลง เก็บบอลสองได้น้อยลง พอเฮนเดอร์สันไม่อยู่ลูคัสยังต้องเติมขึ้นมารองบอลเกมรุกในบางจังหวะก็ทำได้ไม่ดีนัก ช่วงเล่นเซนเตอร์ดูดีขึ้นกว่านัดนู๊นที่ได้เล่น แต่ก็ยังห่างไกลจากเซนเตอร์อาชีพอยู่

เฮนเดอร์สัน - บอลขึ้นหน้าไม่ดีเลย ได้แต่ขวางสนามไปที่ว่าง เกมรับและการวิ่งไล่ช่วยได้ดีตลอดครึ่งแรก ก่อนที่จะมาโดนเปลี่ยนออกในครึ่งหลัง

ลูกเทพ - คล็อปคงเก็บไว้เรียกโชคลาภมั้งครับ โบราณว่าไว้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะขนาดยิงจุดโทษไม่เข้าทีมยังได้ชิงเลยนะ ของเค้าแรงจริง

ลัลลาน่า - ครึ่งแรกก็วิ่งพริ้วดี อาจจะทำเกมรุกได้ไม่ดีนักแต่การวิ่งทำทางและการไล่บอลถือว่าช่วยทีมได้ไม่น้อย แต่พอครึ่งหลังยิ่งเล่นยิ่งยุบ ท้ายเกมนี่เดินเล่นแล้ว

มิลเนอร์ - ช่วยอะไรทีมไม่ได้มากไปกว่าวิ่งไล่บอลกับขยับรับบอลเชื่อมเกม เขาทำได้ดีมากในเรื่องนั้น มีช่วงต้นครึ่งหลังที่กลายเป็นตัวโยนเข้าเขตโทษตัวหลักแต่ก็โยนได้ไม่ดี

เฟอมิโน่ - คล้ายลัลลาน่า ในเวอร์ชั่นที่ช่วยเกมรับได้น้อยกว่าและหมดแรงก่อน

ตัวสำรอง

เบนเทเก้ - ยืนห่างกรอบบ่อยไป อันนี้ไม่รู้ว่าโดนสั่งมาหรือไง แต่วิธีเล่นออกมาคล้ายตอนเฟอมิโน่ยืนหน้าเลย ซึ่งไม่ค่อยเวิร์คสำหรับเจ้าตัว ช่วยเก็บบอลและเชื่อมเกมได้ประมาณนึง หลายจังหวะว่างแล้วเพื่อนก็ไม่จ่าย แต่บางจังหวะก็เน้นจะไปรอจังเลยทางซ้ายน่ะ โดนดักอยู่เต็มเพื่อนจะให้ยังไง

อัลเลน - เชื่อมเกมได้ดีกว่าลูคัสในช่วงก่อนหน้า (ที่เฮนโด้ออกไปแล้ว) แต่กับเกมรุกก็ไม่มีอะไร และเกมรับก็ได้แค่วิ่งไล่ปิดพื้นที่ ตัดกลับไม่ได้

ไอบ์ - ยังคงเล่นสไตล์แมงหวี่อยู่ งุ้งงิ้งๆ อะไรอยู่หน้าเขตโทษคู่ต่อสู้ก่อนจะยิงไปไหนไม่รู้ สลับกับเปิดทำไมไม่รู้เช่นเดิม ...แต่ย้ำอีกทีว่า อย่างน้อยนัดนี้เขาก็ลงมาเพิ่มมิติเกมรุกจากที่ทีมโยนมันอย่างเดียวเป็นเลี้ยงจี้เข้ามากดดันได้บ้าง

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ซิมง มินโยเล่…ถ้าเกมจบ 90 นาที ผมจะเลือกมิลเนอร์ที่ดูอึดกว่าชาวบ้านหน่อย ถึงไม่มีทีเด็ดทีขาดแต่ก็ช่วยทีมได้เรื่อยๆ ไม่มีผลุบๆ โผล่ๆ แบบคนอื่น แต่พอเกมลากมาถึงดวลจุดโทษก็ต้องเลือกมินโยเล่ไม่ต้องสืบครับ เซฟได้ 2 ลูกก็โคตรเท่แล้ว พุ่งถูกทางถึง 4 จาก 6 ครั้งนี่ถือว่าเป็นผู้รักษาประตูที่โหดมากๆ สำหรับการดวลจุดโทษ
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559

นอริช 4-5 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...เปลี่ยนจาก อวสานโลกสวย เป็น The 5th wave ได้สำเร็จ….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-2-1

-----------------------เฟอมิโน่-----------------------
มิลเนอร์-----------------------------------------ไอบ์
-------------ชาน---------------เฮนเดอร์สัน--------
--------------------------ลูคัส-------------------------
โมเรโน่--------ซาโก้---------ตูเร่-----------ไคลน์
-----------------------มินโยเล่-----------------------

_______ หลังจากเล่นแอนฟิลด์มา 3 นัดติด วันนี้ลิเวอร์พูลได้ออกนอกบ้านสักที ไปเยือนนอริชที่ออกอาการคิดถึงแชมเปี้ยนชิพ คะแนนอยู่เหนือโซนตกชั้นแค่สองคะแนน นัดนี้คล็อปกลับมาใช้ทีมชุดที่ดีที่สุด(ได้แค่นี้ล่ะ) มีเปลี่ยนนิดหน่อยคือไอบ์ได้เป็นตัวจริงแทนลัลลาน่า
-------------------------------------------------------

________ เริ่มเกมมาเป็นนอริชที่ทำได้ดีกว่า ขึ้นมาคุมพื้นที่สูง ไล่บอลเร็วได้ดีตั้งแต่แดนหน้า ลิเวอร์พูลตั้งเกมไม่ได้เก็บบอลไม่ได้โต้แทบไม่ได้ ได้แต่สาดบอลทิ้งให้นอริชเอามาบุกใส่ต่อ ยังดีว่านอริชยังเจาะเข้าพื้นที่สุดท้ายไม่ค่อยได้ แม้ว่า 15 นาทีแรกเกมจะดีกว่ามาก

________ ผ่าน 15 นาทีแรกไป ลิเวอร์พูลเริ่มโงหัวขึ้นจากหน้าเขตโทษตัวเองบ้าง เกมทางซ้ายเริ่มขยับได้ด้วยไอบ์กับโมเรโน่ นาที 18 ก็ออกนำได้สำเร็จจากการพลิกบอลของไอบ์ให้โมเรโน่ หลอกจะโยนแต่จ่ายเรียดให้มิลเนอร์ออกบอลทะลุช่องให้เฟอมิโน่ทะลุเข้าไปยิงมุมแคบแฉลบขาผู้รักษาประตูเข้าไปได้ 1-0

_______ หลังจากสกอร์ขยับ ลิเวอร์พูลเล่นกันได้คึกคักขึ้น ส่วนนอริชเกมสะดุดไปพักใหญ่ ออกบอลพลาดกันไปเอง เกมกลับมาสูสี แต่ยิ่งเล่นนานเข้านอริชก็เริ่มกลับมาทำได้ดีในการหยุดเกมของลิเวอร์พูล รวมไปถึงเอมโบกานี่ที่เล่นได้ต่อเนื่อง เอาบอลลงสลับหาที่รับบอลได้ตลอด

_______ นาที 29 เข้าสูตร จังหวะต่อเนื่องจากเตะมุมที่ลิเวอร์พูลสกัดไม่ขาด บอลลอยกลับเข้าเขตโทษ เอมโบกานี่เอาบอลลงก่อนตอกส้นผ่านซาโก้กับมินโยเล่เข้าไปได้ 1-1 ถึงตรงนี้เกมเปลี่ยนทันที ไอ้ที่แค่สูสีอยู่กลายเป็นนอริชทำได้ดีกว่า เอมโบกานี่ยิ่งเล่นยิ่งดี แถมนาที 41 ลิเวอร์พูลยังมาโดนอีกลูก จากจังหวะฮูลาแฮนด์ให้บอลตามช่อง แนวรับลิเวอร์พูลขาตายกันหมด ปล่อยให้เนย์สมิทวิ่งไปรับบอลก่อนยิงมุมแคบ 2-1 และจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลลงมาขยับแผงกลางให้ยืนสูงขึ้นแต่ดูเหมือนรูปเกมยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ส่วนนอริชเริ่มไล่ในแดนหน้าน้อยลงบ้าง แต่การหยุดการขึ้นเกมรุกของลิเวอร์พูลยังทำได้ดีอยู่ นาที 53 โมเรโน่ก็โชว์เทพ ด้วยการอัดเนย์สมิทจากด้านหลัง 2 ดอกติดๆ ในเขตโทษ จะเหลือเหรอ จุดโทษสิครับ ฮูลาแฮนยิงไม่ดีเท่าไหร่แต่ดีพอจะเป็นประตู 3-1

_______ พอสกอร์ขยับ คล็อปที่นัดนี้นั่งดูอยู่นานลุกขึ้นมาโวยวายทันที ส่วนลูกทีมก็เหมือนรู้สึกตัวว่าฟุตบอลมันต้องยิงคู่ต่อสู้นี่หว่า ขยับวิ่งกันมากขึ้น เร่งเกมมากขึ้น แล้วก็ได้ประตูไล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วในนาที 55 ไคลน์เติมขึ้นมาเปิดบอลเข้ากลาง เฟอมิโน่ไม่เก็บบอลหรือเข้าไม่ทันก็ไม่แน่ใจ บอลเลยมาถึงเฮนเดอร์สันกลางประตูหวดตูมหาย 3-2

_______ ลิเวอร์พูลยังเล่นได้คึกคักต่อเนื่อง นาที 59 ลัลลาน่าได้ลงมาแทนไอบ์ ทีมปรับมาเล่น 4-2-3-1 โดยเอาลัลลาน่ามายืนหน้าต่ำใกล้เฟอมิโน่ซึ่งทำให้เกมดีขึ้นมาก ทีมเริ่มเก็บบอลสองจังหวะรุกได้มากขึ้น เอาบอลขึ้นหน้าได้มากขึ้น ส่วนนอริชนอกจากจะไล่บอลกันน้อยลงแล้วดูเหมือนการตั้งเกมก็เริ่มจะมีปัญหา เอาบอลขึ้นหน้าได้น้อยลง

_______ นาที 63 ลิเวอร์พูลโต้เร็วได้สุดยอด จากกลางสนาม เฟอมิโน่ให้บอลไปที่มิลเนอร์ ต่อไปที่ลัลลาน่า ตวัดเร็วเข้ากลางให้เฟอมิโน่ได้ยิงในเขตโทษ 3-3 ลูกนี้เป็นจังหวะการทำประตูแบบทีมเวิร์คที่ดีที่สุดในรอบหลายนัดเลยทีเดียว

_______ สกอร์กลับมาเท่าแต่ใจไม่เท่าแล้ว นอริชยิ่งเล่นยิ่งหงอย บอลมาไม่ถึงหน้า บอลก็ไล่น้อยลง กลับกันทางลิเวอร์พูลยิ่งเล่นยิ่งคึก ในที่สุดนาที 75 ลิเวอร์พูลก็แซงนำจนได้ จากความผิดพลาดของนอริชเอง มาร์ตินเก็บบอลได้กลางสนามแล้วแต่เลือกจ่ายย้อนกลับหลัง มิลเนอร์วิ่งไปเอาได้ก่อนลากเข้าเขตโทษไปแต่งหนึ่งจังหวะยิงเข้าไปไม่พลาด 4-3

_______ จังหวะเดียวกันหลังจากได้ประตู เบนเทเก้ได้ลงแทนเฮนเดอร์สัน ลิเวอร์พูลหันมาดึงจังหวะเล่นช้าลง พอเข้าสิบนาทีสุดท้าย นอริชเริ่มกลับมาเร่งเกมรุกได้มากขึ้น บอลมาถึงข้างหน้าได้บอลขึ้นแต่ยังเปิดบอลได้น้อย ส่วนลิเวอร์พูลโต้ได้น้อยแต่ปิดพื้นที่สุดท้ายไว้ได้หมด ไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ได้ยิงหรือเปิดบอลมาลุ้นได้เท่าไหร่

_______ นาที 89 คอลเกอร์ลงมาแทนโมเรโน่ รูปเกมยังไม่เปลี่ยน นอริชพยายามจะรุกแต่กดดันแนวรับได้น้อย ลิเวอร์พูลโต้หรือทำเกมรุกลุ้นเพิ่มไม่เป็นชิ้นเป็นอันแต่เกมรับยังดี แฟนบอลในสนามก็ร้องเพลงกันเฮฮา ทั้งผู้จัดการทีมทั้งตัวสำรองก็ยิ้มรับสามแต้มกันหมดแล้ว

_______ นาที 90+2 จากฟรีคิกในแดนนอริช บอลวางยาวมาแนวรับลิเวอร์พูลเคลียร์ไม่ขาดบอลไปเข้าทางบาสซง แล้วบาสซงก็ซัดเต็มข้อเข้าประตูไปหน้าตาเฉย 4-4 เล่นเอาเพลงที่กำลังร้องๆ กันอยู่กริบกันไปทั้งสนาม

_______ คล็อปกลับไปนั่งหน้าเครียด คนดูก็เซ็งกันหมดแล้ว เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่แล้วทดเจ็บนาทีสุดท้าย บอลเปิดเข้าเขตโทษ คอลเกอร์เอาบอลลงแล้วยิงไปติดบล็อค บอลเด้งออกมาเข้าทางลัลลาน่ายิงสวนเข้าไปได้ 5-4

_______ ….เล่นเอาคลั่งกันไปทั้งคนยิง ทั้งผู้จัดการทีม ทั้งคนดู ดีใจจนแทบคลั่ง และจบเกมด้วย 3 แต้มสุดทรมานใจ
-----------------------------------------

_______ ยิงกัน 9 ลูกนี่คงไม่ต้องสืบนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นในสนาม เกมรับวันนี้แย่มาก ยิงเป็นเข้า อยากจะถามว่ามีกองหลังกับผู้รักษาประตูไว้ทำไม แค่ยิงตรงกรอบก็เป็นประตูแล้ว เวรกรรม ฝั่งนอริชอ่ะช่างเข้าเถอะ แต่ของทีมเราเนี่ย...จะพัฒนากว่านี้มั่งได้มั้ย

_______ การเตะถี่แล้วขนาดทีมเล็กเริ่มส่งผลแล้วนะ คล็อปคงต้องโรเตชั่นดีๆ นัดนี้เวลาส่วนใหญ่ในสนามที่เกมเป็นรองก็เพราะวิ่งไม่ออก วันนี้ผู้เล่นลิเวอร์พูลดูเนือยมากๆ วิ่งน้อย ขนาดคนที่วิ่งมากแล้วอย่างเฮนเดอร์สันหรือมิลเนอร์ดูแล้วก็ยังรู้สึกว่าวิ่งน้อยกว่าทุกวันจนทำให้เกมเป็นรองชัด

_______ จุดเปลี่ยนของเกมอยู่ที่หลังจากโดน 3-1 แล้ว อีท่าไหนไม่รู้ล่ะ อย่างกับเปลี่ยนถ่านตุ๊กตา ขยันวิ่งกันมากขึ้นทุกคน กระตือรือร้นมากกว่า 50 กว่านาทีก่อนหน้านั้นชัดเจน แล้วยังมาเห็นผลเร็วเพราะได้ประตูตี้ตื้นแค่สองนาทีถัดมา ถ้าตอนนั้นไม่เร่ง หรือเร่งแล้วไม่ได้ประตูเร็ว 4-1 อาจจะมาก่อน 3-2 ก็เป็นได้

_______ แท็คติคต้นเกมของคล็อปวันนี้ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ ทีมโดนไล่บี้แล้วเล่นไม่ได้เลย เฟอมิโน่ก็โดดเดี่ยวไปจนโดนรุมกินโต๊ะ เก็บบอลเล่นไม่ค่อยได้ ถ้าต้นเกมไม่ได้ประตูนำก่อนครึ่งแรกจะเป็นเกมที่ดูแย่กว่านี้อีก

_______ แต่ในขณะเดียวกัน วันนี้คล็อปแก้เกมได้ดีมาก ด้วยการส่งลัลลาน่าลงมา เกมดีขึ้นจริงๆ การมีคนไปเล่นใกล้เฟอมิโน่มากขึ้นทำให้เกมโต้กลับก็ดี การเก็บบอลแดนหน้าก็ดี ดีขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้ามาก รวมไปถึงการเปลี่ยนเบนเทเก้และคอลเกอร์ลงมา เข้าใจว่าเอาลงมาช่วยเกมตั้งเตะนั่นแหล่ะ

_______ ผู้จัดการทีมทำได้ดีแล้ว ก็ได้แต่หวังลูกทีมจะเร่งฟอร์มขึ้นมาให้มันใกล้เคียงกับฟอร์มผู้จัดการทีมบ้างนะ
-----------------------------------------

นัดนี้หลังเล่นไม่ค่อยดี หน้าเล่นได้โอเค

มินโยเล่ - ได้ลงด้วยเหรอ ..คือในความหมายว่าพี่จะไม่เซฟมั่งเหรอครับ เข้าใจว่าแต่ละลูกเนี่ยมันยาก ตอกส้นงี้ โดนกองหลังบังงี้ จุดโทษงี้ แต่ผู้รักษาประตูที่ดีมันต้องมีบ้างนะครับพี่ การเซฟลูกที่ไม่น่าจะเซฟได้เนี่ย ไม่งั้นเค้าจะเรียกเซฟเหรอ

โมเรโน่ - เล่นซะกองเชียร์สะท้านเลย เกมรับหลุดตำแหน่งบ่อย อ่านเกมรับไม่ดี มีทีเด็ดกับการทำเสียจุดโทษชนิดที่ต่อให้ ฯจารย์แกรับงานมาก็ยังต้องเป่า อะไรมันจะชัดเจนตำตาได้ขนาดนั้น ในขณะที่จังหวะขึ้นมาช่วยเล่นเกมรุกดูเป็นผู้เป็นคนกว่า...เล่นปีกเลยมั้ย

ซาโก้ - มีปัญหากับเอมโบคานี่ตลอดเกม หยุดไม่ได้ จังหวะประกบก็ไม่เหนียวแน่น ซ้อนแบ็คก็ไม่ช่วย ปล่อยให้มิลเนอร์วิ่งซ้อนอยู่คนเดียว วันนี้มีพลาดกับการเอาบอลขึ้นหน้าด้วย คือไม่ได้จ่ายพลาด แต่เล็งนานเหลือเกิน

ตูเร่ - มีปัญหากับเอมโบคานี่เช่นกัน ตูเร่ยังดูดีกว่าในเรื่องวิ่งเข้ามาหาบอล ปั้มบอล โดยรวมไม่ใช่วันที่เขาเล่นดีเท่าไหร่

ไคลน์ - วันนี้เติมเกมรุกเยอะแต่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้น้อย กระชากไปเองโดนเก็บกินเรียบ แต่ลูกเปิดยังทำแอสซิสได้หนนึง ส่วนเกมรับโดนเจาะไม่มากและรักษาพื้นที่ตัวเองได้ดี

ลูคัส - จังหวะปะทะทำได้เยี่ยม ปั๊กเดียวบอลหลุด แต่การวิ่งเข้าหาจุดปะทะเนี่ยทำได้แย่ คือถ้าคู่ต่อสู้ไม่วิ่งเข้ามาให้อัดลูคัสก็ช่วยได้น้อยเหลือเกิน เกมรับยังไม่เท่าไหร่ ที่แย่สุดของลูคัสวันนี้คือการเชื่อมเกม เขาขยับหาที่รับบอลน้อย เพื่อนจ่ายให้ยาก

ชาน - ทำให้ทีมมีครบ 11 คนในสนาม

เฮนเดอร์สัน - วิ่งน้อยกว่าทุกวันโดยเฉพาะวิ่งทำทางรับบอล ออกบอลไปที่ว่างได้ดีกว่าทุกคน แต่บอลเกมรุก บอลจังหวะโต้เร็วอะไรก็ไม่มีหรอก ไล่บอลหรือปะทะก็ทำได้ไม่ดีนัก แต่เฮนโด้เป็นหนึ่งในคนที่ฮึดได้มากที่สุดของทีมในช่วงที่พึ่งโดน 3-1 วิ่งเป็นม้า ยิงให้ทีมได้ด้วย ...แล้วก็โดนเปลี่ยนออก ทำไมไม่เป็นชานหว่า?

ไอบ์ - เกมมี 90 นาทีไอบ์เล่นดีอยู่ราว 5 นาที (ช่วงประมาณนาที 15-20) และมีส่วนร่วมกับประตูแรกเยอะอยู่ นอกจากนั้นก็ไปสบทบกับชานในการทำให้ทีมมีครบ 11 คนในสนาม

มิลเนอร์ - มีส่วนร่วมกับจังหวะเข้าทำเยอะผิดหูผิดตา แม้ไม่ใช่คนที่เริ่มต้นเกมรุก คือถ้าเพื่อนไม่วิ่งทำทางให้ก่อน มิลเนอร์ครีเอทจังหวะเองไม่ได้ แต่วันนี้่ให้บอลจังหวะเดียวได้เด่นหลายครั้ง โฉบไปเอาลูกคืนหลังมายิงได้ดีด้วย ส่วนเกมรับวันนี้ถือว่าทำได้น้อย ช่วยโมเรโน่ได้น้อยกว่าที่ควรด้วย ...ส่วนนึงคือโมเรโน่ก็ไม่ค่อยเน้นจะช่วยตัวเองสักเท่าไหร่

เฟอมิโน่ - มีส่วนร่วมกับทีมเยอะขึ้น ทั้งเชื่อมเกมและเกมรุก ทำได้ 2ประตูด้วย เริ่มปรับตัวให้เข้าทีม(ที่ไม่มีคูตินโย่)ได้ดีมากแล้ว ดูจะมีปัญหากับสภาพความฟิตอยู่บ้าง 15 นาทีท้ายทีไรเห็นวิ่งไม่ออกทุกที

ตัวสำรอง

ลัลลาน่า - ลงมาเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง คือส่วนนึงต้องบอกว่ามันเป็นการแก้ที่แทคติคมากกว่าจะเป็นลัลลาน่าลงมาเล่นดีมากๆ ด้วย แต่ถ้ามองฟอร์มเจ้าตัวอย่างเดียว ก็ต้องบอกว่าเขาวิ่งช่วยเชื่อมเกมได้ดีมากๆ ทำให้แดนหน้าเก็บบอลเล่นได้ โต้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้พื้นที่ตรงนั้นมันบอดอยู่ ยิ่งประตูสำคัญช่วยเปลี่ยนจาก อวสานโลกสวย เป็น the 5th wave ได้นี่เข้าตามาก

เบนเทเก้ - ตำแหน่งดี ขยับวิ่งได้โอเค เก็บบอลเล่นได้บ้าง เชื่อมกับเพื่อนยังไม่ค่อยดีนัก

คอลเกอร์ - คือตอนลงมาคงลงมาเน้นจะช่วยเคลียร์ลูกโยนเข้าเขตโทษ/ลูกตั้งเตะ แต่กลายเป็นว่าคอลเกอร์ได้เล่นและทำได้เด่นจนอยากแห่รอบเมืองกับจังหวะที่เอาบอลลงแล้วได้ยิงติดบล็อคจนลัลลาน่าได้ซ้ำนั้นแหล่ะ

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เจอร์เก้น คล็อป…เฟอมิโน่มีสองลูก ลัลลาน่ากับมิลเนอร์มี 1ยิง1จ่ายทั้งคู่ แต่การตัดสินใจเอาลัลลาน่าลงมา, กระตุ้นลูกทีมให้คึกขึ้นในช่วงตามหลัง 3-1,3-2 รวมไปถึงการเอาเบนเทเก้กับคอลเกอร์มาช่วยโหม่งก็ดูว่าคิดได้ละเอียดดี
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 3-0 เอ็กเซเตอร์ (เอฟเอคัพ)


...ดูแล้วไม่เครียด ครั้งสุดท้ายนี่นัดไหนนะ….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-2-1

-----------------------เบนเทเก้-----------------------
เทเซร่า------------------------------------------ไอบ์
-------อัลเลน-----บรานาแกน------สจ็วต--------
สมิธ--------เอนริเก้---------อิยอริ-------แรนเดล
-----------------------มินโยเล่-----------------------

_______ ลิเวอร์พูลเล่นเกมเอฟเอคัพ เปิดบ้านรับมือมหาทีมอย่างเอ็กเซเตอร์ผู้มาจากโคตรลีคสุดหินอย่างลีคทู ที่นัดแรกทีมต้องตามตีเสมอถึงสองครั้งสองครากว่าจะพากลับแอนฟิลด์มาได้ โดยนัดนี้คล็อปส่งอัลเลนลงมาช่วยในแดนกลางด้วย นอกนั้นยังเป็นชุดจากนัดแรกที่เจอกัน
-------------------------------------------------------

________ ต้นเกมช่วง 5 นาทีแรกเกมยังสะเปะสะปะทั้งคู่ เกมไม่ต่อเนื่อง แต่ลิเวอร์พูลจับจังหวะได้เร็วกว่า แถมไล่บอลแดนหน้าแดนกลางได้ดีต่อเนื่อง ส่วนเอ็กเซเตอร์ดูจะตั้งใจมารับในแดนเต็มที่ ไม่ค่อยขึ้นมาไล่บอลเท่าไหร่ ทำให้ลิเวอร์พูลค่อยๆ คุมเกมได้ กว่าจะถึงนาที 10 บอลก็ขึงอยู่ครึ่งสนามแล้ว

________ พอนาที 10 ลิเวอร์พูลยังมาได้ประตูนำเร็วจากจังหวะขึ้นเกมทางซ้าย สมิธพาบอลขึ้นมา ทำชิ่งกับเบนเทเก้ได้หลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลัง หักเรียดเข้ากลางให้อัลเลนจบสกอร์ไม่พลาด 1-0

_______ หลังสกอร์ขยับ เกมก็เป็นของลิเวอร์พูลฝ่ายเดียว ไล่บอลต่อเนื่อง เก็บบอลสองได้หมด เล่นบอลกันวัยรุ่นมากคือเพื่อนได้บอลปุ๊บ วิ่งกรูทำทางอยากได้บอลมาเล่นบ้าง หลุดตำแหน่งบ้าง ทับตำแหน่งบ้าง แต่พลาดแล้วก็ยังช่วยกันไล่ต่อเก็บบอลมาได้อยู่ดี บอลไปถึงเขตโทษได้ตลอด ได้เปิดและได้ยิงเยอะแต่คุณภาพยังไม่ได้ ส่วนเอ็กเซเตอร์ก็รับ สกัด สาดทิ้ง เล่นแค่นี้

_______ ช่วงราว 10 นาทีท้ายของครึ่งแรก เอ็กเซเตอร์พึ่งรู้ตัวว่าไม่ควรถอย หันมาวิ่งไล่แดนกลางมากขึ้น เปลี่ยนเกมจากที่แย่มากเป็นแย่ธรรมดา และลูกหวาดเสียวที่สุดของเกมรุกพวกเขาคือการเอาบอลมาถึงมุมธงได้ ...คือยังไม่ได้เปิดเป็นกิจลักษณะด้วยนะ ดีสุดได้แค่นั้นแหล่ะ จบครึ่งแรกที่ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง เอ็กเซเตอร์ลงมาเติมเกมรุกมากขึ้น แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมคือเสียบอลปุ๊บวิ่งถอยไปรับในแดนไว้ก่อน ส่วนลิเวอร์พูลตอนนี้ขึ้นเกมริมเส้นได้หมดทั้งสองข้าง เล่นยังไงบอลก็ไปถึงมุมธงตลอด แต่จังหวะเข้าทำยังย่ำอยู่กับที่

_______ นาที 51 ฟลานาแกนได้ลงแทนแรนเดล เล่นไปเล่นมาเกมรุกฝั่งขวาของลิเวอร์พูลดูจะดีกว่าฝั่งซ้ายแล้ว บอลก็ป้วนเปี้ยนอยู่หน้าเขตโทษตลอด แต่ส่วนใหญ่จบลงที่การจับลั่น ชิ่งพลาด จ่ายติด ส่วนเอ็กเซเตอร์ทำได้ดีที่สุดคือการเอาบอลขึ้นมาใกล้เขตโทษได้มากขึ้น แต่ยังคงแทบไม่ได้เปิดบอลอยู่ดี และบอลสองเกมรุกเก็บไม่ได้เลย

_______ นาที 65 โอโจได้ลงแทนอัลเลน เล่นฝั่งขวา โยกไอบ์ไปซ้าย ทีมเน้นเล่นเร็ว เล่นกับพื้นที่โดยฝากบอลไปที่ตัวริมเส้นสองตัวให้เร็วเข้าไว้ ในขณะที่เอ็กเซเตอร์ก็เปิดหน้าแลกมากขึ้น และดูเหมือนพื้นที่ริมเส้นพร้อมจะโดนเล่นงานได้ง่ายมากตลอดเวลา

_______ นาที 74 โอโจรับบอลในเขตโทษ แล้วจัดการปั่นเข้าเสาสองดื้อๆ โกล์ก็ไม่พุ่งเข้าใจว่าโดนกองหลังบัง ที่แน่ๆ คือมันเข้า 2-0

_______ สกอร์ห่างเกมขาด เอ็กเซเตอร์พยายามจะฮึดฮัดขัดขืนแต่ดูยังไงก็ลุ้นไม่ขึ้น บอลมาข้างหน้าน้อย บอลสองก็เก็บไม่ได้ บอลเปิดเข้าทำก็ได้แต่เปิดวัดดวงเข้าไป ส่วนลิเวอร์พูลก็ยังรับส่งต่อบอลกันสบายพาบอลไปตายอย่างสงบที่เขตโทษคู่ต่อสู้ได้ต่อเนื่อง นาที 79 ชิริเบย่าได้ลงแทนไอบ์ เทเซร่าได้ขยับกลับขึ้นไปยืนสูงอีกรอบ

_______ นาที 82 จากจังหวะโต้ เบนเทเก้รับบอลกลางสนามแล้วเลี้ยงจี้ยาวมาถึงหน้าเขตโทษก่อนจ่ายตัดแบ็คให้เทเซร่ารับบอลแล้วยิงจากมุมแคบ 3-0 อู้หูถล่ม

_______ ทดเจ็บนาทีสุดท้าย เบนเทเก้(หรือโอโจไม่แน่ใจ) ได้โอกาสพาบอลเข้าไปในเขตโทษโล่งแล้ว แต่ดันล็อคหลบโกล์ห่างตัวไปหน่อย อดยิง เกมเลยจบที่ 3-0 เข้ารอบไปเจอกับเวสต์แฮมได้ในที่สุด
-----------------------------------------

_______ นี่เป็นรูปเกมที่น่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่นัดแรกที่เจอกันครับ ช้าไปหน่อยแต่ก็ถือว่ายังดีที่วันนี้ทีมไม่ต้องเจอความกดดันอะไรเลย

_______ 11 ตัวจริงผมถูกใจมากกับการส่งอัลเลนลงมาช่วยแดนกลาง แต่ในขณะเดียวกันก็ช็อคมากที่คล็อปยังอุตส่าห์กล้าๆ ส่งเอนริเก้กับอิยอริลงเป็นคู่เซ็นเตอร์ต่อ ทำไมไม่ใช้คอลเกอร์?

_______ ส่วนในด้านแทคติค อันที่จริงแทคติคเริ่มเกมนัดนี้เหมือนนัดแมนฯยูเป๊ะเลยคือวิ่งไล่บดตั้งแต่แดนหน้าตั้งแต่ต้นเกม แต่นัดนี้ทำแล้วได้ไม่เหนื่อยฟรี แถมคู่ต่อสู้ไม่มีอะไรมาสู้ด้วยเลยยิ่งเข้าทำใหญ่

_______ ในแง่ฟุตบอล ค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยกับเอ็กเซเตอร์ วันนี้พวกเขาไม่ไล่ ไม่เข้าปะทะ หนักไปทางวิ่งถอยหลัง ทำให้ลิเวอร์พูลได้เล่นในเกมที่ง่ายมากๆ แต่สำหรับฐานะแฟนบอลแล้ว ต้องบอกว่านัดนี้เป็นนัดที่ดูแล้วสบายใจที่สุดตั้งแต่เปิดปีใหม่มาเลยทีเดียว เกมรับไม่กดดัน เอาบอลขึ้นหน้าได้ตลอด บอลสองเก็บได้ ขึงได้ ได้ลุ้นประตูและได้ประตูเร็วอีกต่างหาก

_______ คล็อปทำงานของเขาได้ดี กล้าส่งเด็กลงและแทคติคของเขาก็นำมาซึ่งชัยชนะ ทั้งแทคติคต้นเกมก็นำมาซึ่งการได้ประตูเร็ว ทีมได้เล่นง่าย การเปลี่ยนมาเน้นเกมเร็วจากไอบ์และโอโจก็ทำให้ได้ประตูปิดเกม ถ้าจะมีอะไรคาใจอยู่บ้างก็เรื่องเปลี่ยนอัลเลนออกนั่นแหล่ะ ผมเห็นด้วยกับการส่งโอโจลงมาเล่นกับพื้นที่ แต่คนที่เปลี่ยนออกน่าจะเป็นเทเซร่ามากกว่า เพราะอัลเลนผลงานดีกว่าชัดเจนและยังไม่ได้มีทีท่าหมดแรง จะบอกว่าให้โอกาสดาวรุ่ง อัลเลนนี่ก็ดาวนั่งนะครับ ไม่ให้โอกาศเขาลงเต็มๆ ในนัดที่เล่นดีแบบนี้จะให้เค้าไปเล่นตอนไหน สิบนาทีท้ายตอนโดนนำอยู่ 1-0 เหรอ

_______ ในทางกลับกัน คล็อปดันกล้าๆ ใช้เอนริเก้คู่อิยอริเป็นเซ็นเตอร์ อิยอรินี่ไม่เท่าไหร่คือยังไงก็ยังเด็ก จะขายต่อ จะปล่อยยืม จะปั้นเองก็ยังพอมองดูลู่ทางกันได้ แต่เอนริเก้เนี่ย ในระยะยาวต่อให้แกกลับมาฟิตเล่นได้ก็ต้องไม่ใช่ตำแหน่งนี้แน่ ให้แกลงเซ็นเตอร์ทำไม ไม่ใช้คอลเกอร์ไปละ เพื่อเวิร์คจะได้ซื้อ

_______ ได้แต่หวังว่าอัลเลนจะได้โอกาสมากกว่านี้ โดยเฉพาะในช่วงที่ชานยังฟอร์มแกว่งๆ ดีแปปนึงแย่หลายแปปแบบนี้
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นได้ดี

มินโยเล่ - ได้ลงด้วยเหรอ

สมิธ - เร็ว ทำทางดี เปิดบอลได้ลุ้นทุกลูก มี 1 แอสซิสต์ อ่านเกมปรับปรุงอีกนิด ส่วนเกมรับไม่ต้องปรับปรุงแล้ว ทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่เลยเถอะแค่ปรับปรุงคงไม่ทันกิน กับทีมระดับนี้ในวันที่ไม่ได้เล่นดีด้วย ยังปล่อยให้เขาเจาะเอาๆ

เอนริเก้ - ไม่โดนกดดันจากคู่ต่อสู้ แต่โดนพวกเดียวกันโดยเฉพาะสจ๊วตกดดันเป็นระยะ ด้วยการส่งบอลสั้นให้คู่ต่อสู้รัวๆ ออกบอลพลาดบ้างนิดหน่อยแต่เกมรับจริงๆ ก็แทบไม่ได้เล่นและไม่ได้พลาด

อิยอริ - เช่นเดียวกับเอนริเก้ มีความเร็วความปราดเปรียวมาให้ดูมากกว่าหน่อย จังหวะทิ่มบอลก่อนกองหน้าเล่นมีให้เห็นเป็นระยะ แต่ก็ยังไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดี หลายจังหวะก็ปล่อยให้คู่ต่อสู้เก็บบอลเล่นได้ต่อได้ง่ายไปนิดทั้งๆ ที่น่าจะเอาอยู่

แรนเดล - ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกม ส่วนนึงเพราะให้บอลไอบ์แล้วไม่เคยได้คืนด้วย เก็บรับก็แทบไม่ได้เล่นเพราะทีมตัดบอลกลับได้ตั้งแต่กลางสนามแล้ว

บรานาแกน - เก็บบอลสองได้ดีมาก ขยับหาที่รับบอลก็ดี แต่ออกบอลเชื่อมเกมงั้นๆ ได้แค่สั้นๆ แปะๆ บอลไปข้างหน้าไม่ค่อยดี ที่แปลกตาหน่อยกลับกลายเป็นการเปิดลูกเตะมุมและการยิงไกลที่ทำได้โอเคเลยทีเดียว

สจ็วต - อีกนิดเดียวก็จะกลายเป็นตัวรุกให้คู่ต่อสู้แล้ว มีส่วนร่วมกับเกมน้อยยังไม่แย่เท่ามีส่วนร่วมกับความผิดพลาดบ่อยถ้าเทียบกับคนอื่น เชื่อมเกมได้พอๆ กับบรานาแกน แต่ขยับรับบอลได้ไม่ดีเท่า เกมรับก็ได้แค่วิ่งไล่ แย่งบอลไม่ค่อยได้

อัลเลน - เป็นวันที่เล่นได้ดี ขยันวิ่งทำทางตลอด หาที่ว่างเล่นได้มากกว่าคนอื่น ทำประตูได้ด้วย และอีกหลายครั้งก็อยู่ในตำแหน่งที่ดีแต่บอลมาไม่ถึง ถ้าจะมีอะไรไม่ดีก็คงเป็นเรื่องและปะทะที่ล้มกลิ้งล้มหงายบ่อยไปหน่อย และการวิ่งที่บางที่วิ่งไปทับตำแหน่งเพื่อนแล้วเพื่อนไม่สลับตำแหน่ง ตัวเลยไปกองๆ ในจุดเดียวกันในบางจังหวะ

เทเซร่า - เชื่อมเกมดี พลิกบอลขึ้นหน้าได้ดี แต่จังหวะเข้าทำนี่แทบไม่มีส่วนร่วมเลย โชคดีที่ได้อยู่ครบ 90 นาทีและอย่างน้อยก็จบสกอร์ได้เด็ดขาดกว่าเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่น

ไอบ์ - หาที่ว่างรับบอลได้ดีมาก เลี้ยงจี้ได้ยอดเยี่ยม แต่จะเก็บบอลไว้ทำไมนักหนา จ่ายไปเพื่อนมันก็ยิงได้เห็นมั้ย แล้วตัวเองยิงอ่ะมันเข้ามั้ยห๊ะ มันเข้ามั้ย พี่ไม่เข้าใจไอบ์ พี่ไม่เข้าใจ

เบนเทเก้ - ขยันวิ่งผิดหูผิดตา ที่เท่คือไม่ได้วิ่งมั่ว จังหวะวิ่งไล่นี่เห็นชัดเลยว่าตั้งใจบีบให้บอลไปทางไหน ซึ่งไปในทิศทางเดียวกับเพื่อนที่วิ่งไล่ตำแหน่งอื่น ในเกมรุกก็ขยับวิ่งตัดกองหลังบ้าง ดึงตัวมารับบอลหน้าเขตโทษบ้าง ไม่เป็นเป้านิ่ง มีส่วนร่วมกับเกมรุกและการเข้าทำมากขึ้นอย่างชัดเจน

ตัวสำรอง

ฟลานาแกน - อ่านเกมดีกว่าแรนเดล จังหวะเติมเกมรุกดีกว่าชัด ทุกครั้งที่บอลมาก็เห็นฟลานาแกนไปรับบอลได้ตลอด แต่รวมๆ แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่าเคาะสนิม

โอโจ้ - ลงมาเล่นคล้ายๆ ไอบ์ แต่ได้บอลน้อยกว่า เลี้ยงจี้แย่กว่า ปล่อยบอลเร็วกว่า ยิงได้ดีกว่า

ชิริเบย่า - จุดเด่นคืออะไรยังดูไม่ออก

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...คริสเตียน เบนเทเก้…ถ้าอัลเลนอยู่ครบ 90 นาทีต้องเลือกแน่นอน ถ้าไอบ์ปล่อยบอลให้มันเร็วกว่านี้ได้ก็น่าเลือกเหมือนกัน แต่พอไม่เป็นแบบนั้น ขอเลือกคนที่แม้ไม่ได้ยิงประตู แต่มีส่วนร่วมกับเกมรุกตลอด ทำทางได้ดีขึ้น อยู่ในตำแหน่งที่ดีก็บ่อย รวมถึงมี 1 แอสซิสต์และมีส่วนสำคัญมากกับประตูแรก
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.