วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ลิเวอร์พูล 4-1 สวอนซี(พรีเมียร์ลีค)



...คิดน้อยๆ ก็เวิร์คได้นะ ไม่ต้องซับซ้อนมากก็ได้...
___________________________

ลิเวอร์พูลยังคงเล่น 3-4-1-2

------------------------สเตอลิ่ง-------------------------
-----------ลัลลาน่า--------------คูตินโย่---------------
โมเรโน่-------ลูคัส-------เฮนเดอร์สัน-------มานกีโย่
--------ซาโก้--------สเคอเทล-------ชาน-------------
-------------------------มินโยเล่---------------------------

_______ ลิเวอร์พูลได้เล่นในบ้านรับมือสวอนซี นัดนี้ร็อดเจอร์ปรับ 11 ตัวจริงนิดหน่อย แต่ที่น่าสนใจอยู่ตัววิงแบ็คสองข้างหันกลับมาใช้แบ็คแท้ๆ ทั้งสองตัว ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ก็ตามที่เห็น
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายเล่นเหมือนกันเป๊ะด้วยการวิ่งเข้าหาบอลเร็วตั้งแต่แดนหน้าและพยายามออกบอลเร็วขึ้นหน้าทันทีที่ตัดได้ เข้าบอลกันค่อนข้างหนักทั้งคู่แต่กรรมการก็ปล่อยเกมไม่ค่อยเป่าฟาล์ว ยิ่งเล่นลิเวอร์พูลยิ่งดูดีกว่าขึ้นเรื่อยๆ

_______ ลิเวอร์พูลช่วยกันวิ่งไล่กันได้ดี ตัดบอลกลับมาได้เร็วกว่า เกมรุกเน้นขึ้นบอลริมเส้นโดยวิงแบ็คทั้งสองฝั่งเติมเล่นเกมรุกเต็มที่ บอลไปถึงเขตโทษและได้ลุ้นเปิดเข้าทำบ้างแล้ว ส่วนทางสวอนซีโดนไล่จี้จนครองบอลได้ไม่มากนักและบอลมาไม่ถึงเขตโทษ

_______ กว่าครึ่งชั่วโมงที่สวอนซีวิ่งไล่ไม่เจอบอลและเก็บบอลแดนหน้าไม่ค่อยได้ ทำให้ได้ครองบอลน้อยลง บุกไม่ได้ ต้องเล่นช้าลงเมื่อได้บอล เป็นลิเวอร์พูลที่ครองเกมได้ดีกว่าชัดเจน เกมรุกทางซ้ายโดยเฉพาะการเติมของโมเรโน่กดดันได้อย่างต่อเนื่อง

_______ ในที่สุดลิเวอร์พูลก็ขึ้นนำได้สำเร็จ นาที 33 โมเรโน่วิ่งเติมขึ้นมาสูงก่อนจะวิ่งตัดเข้ากลางแล้วฝากบอลให้ลัลลาน่าที่หน้าเขตโทษ ลัลลาน่าจ่ายตามช่องให้เฮนเดอร์สันที่วิ่งเติมเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาก่อนจะหักเรียดกลับเข้ามาให้โมเรโน่ที่วิ่งเข้าไปในเขตโทษได้ชาร์จจ่อๆ บอลตรงตัวผู้รักษาประตูแต่แรงพอที่จะปลิ้นเข้าไปให้ทีมนำ 1-0

_______ หลังจากขึ้นนำได้ เกมของลิเวอร์พูลยังดีต่อเนื่อง เกมรุกพาบอลไปถึงเขตโทษได้บอล ได้ลุ้นเปิดบอลและจบสกอร์แบบโดนเร่งเป็นระยะ ส่วนสวอนซีเกมรุกริมเส้นดับสนิท จะวางบอลให้โบนี่พักก็เก็บบอลเล่นไม่ค่อยได้ นานๆ จะได้ลุ้นเปิดบอลจากริมเส้นสักทีก็ยังกดดันได้ไม่มากเท่าไหร่ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง สวอนซีส่งแรงเคลลงมาแทนริชาร์ดตามตำแหน่งแบ็คขวา กลับลงมาเน้นการวิ่งไล่ตั้งแต่ในแดนหน้ามากขึ้นกว่าในครึ่งแรกซึ่งก็ได้ผลพอควร เกมรุกของสวอนซีพาบอลขยับเข้าใกล้เขตโทษได้มากขึ้นแต่ยังหาโอกาสลุ้นเข้าทำได้น้อย ส่วนลิเวอร์พูลยังเล่นได้เหมือนในครึ่งแรก

_______ นาที 51 จากจังหวะไม่น่าจะมีอะไร สวอนซี(ถ้าดูไม่ผิดน่าจะเป็นเชลวี่ย์)จ่ายบอลคืนหลังให้ฟาเบียงสกี้ผู้รักษาประตู ลัลลาน่าวิ่งตามเข้าไป ฟาเบียงสกี้เปิดบอลไม่ละเอียดพอโดนลัลลาน่ากระโดดบล็อคเอาไว้ได้ บอลกระดอนตรงกรอบเป็นประตูไปซะอย่างนั้น 2-0

_______ แต่เพียงแค่นาทีถัดมา สวอนซีก็ได้ประตูตีตื้นอย่างรวดเร็วเมื่อมีโอกาสได้เปิดบอลจากริมเส้น กองหลังลิเวอร์พูลสกัดถึงบอลแต่ไม่ขาด และอ่านจังหวะบอลตกได้ไม่ดีพอ สุดท้ายโดนซิกูสันเก็บตกบอลที่ซาโก้ขึ้นเบียดโหม่งกับโบนี่เอาไว้ได้ ยิงจ่อๆ เข้าไปไม่เหลือ 2-1

_______ หลังจากแลกกันคนละแผล เกมก็เปลี่ยนทันที สวอนซีเริ่มมั่นใจและขยับเกมรุกได้ดีขึ้นผิดหูผิดตา ในขณะที่ลิเวอร์พูลเริ่มไล่ให้จนในแดนกลางได้น้อยลง ต้องถอยลงมาช่วยกันรับมากขึ้นแต่จังหวะขึ้นเกมรุกของตัวเองยังทำได้ดีต่อเนื่อง ไม่ว่าจะวางสั้นวางยาวหรือเปลี่ยนรับเป็นรุกยังทำได้อยู่ รูปเกมเลยออกมาสูสีและและเกมรุกเร็วเข้าใส่กัน

_______ เกมสูสีอยู่แค่เกือบๆ 5 นาที พอเล่นเร็วต่อเร็วแล้วลิเวอร์พูลกลับมาได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีความผิดพลาดน้อยกว่าและวิ่งไล่แถววงกลมกลางสนามได้ดีกว่า สวอนซีโดนวิ่งไล่กดดันจนออกบอลขึ้นหน้าได้ยากขึ้นๆ และมีความผิดพลาดกันเองมากขึ้นโดยเฉพาะเชลวี่ย์ที่เล่นไปเล่นมาทำเกมรุกใส่สวอนซีได้น่ากลัวๆ พอๆ กับตัวรุกลิเวอร์พูลเองเลยด้วยซ้ำ

_______ นาที 61 จากจังหวะทำเร็ว คูตินโย่ให้บอลไปที่ลัลลาน่าแถวหน้าเขตโทษ มีสเตอลิ่งวิ่งตัดเข้ากลางดึงตัวประกบไปให้ ลัลลาน่าได้โอกาสกระชากออกด้านข้างหลุดเข้าไปได้ยิงในเขตโทษไม่พลาด หนีห่างเป็น 3-1

_______ ถึงตรงนี้สวอนซียังพอบุกได้อยู่และได้ลุ้นยิงแบบโดนเร่งบ้าง แต่ความเร็วและความต่อเนื่องในเกมรุกเหมือนในช่วงประมาณนาที 55-60 แทบไม่มีให้เห็นแล้ว แทบการตั้งเกมยังโดนวิ่งไล่จนออกบอลพลาดเป็นระยะอีกต่างหาก ลิเวอร์พูลกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมเอาไว้หมด

_______ นาที 69 ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุม เฮนเดอร์สันเปิดมาที่หัวเสาแรกมีลัลลาน่าเบียดกับเชลวี่ย์อยู่แล้วก็เป็นเชลวี่ย์ที่ขึ้นโหม่งถึงบอลเช็ดมุมแคบเสียบเสาสองชนิดตั้งใจโหม่งก็ยังไม่มีปัญญาทำได้เข้าไปอย่างสุดสวย 4-1ถึงตรงนี้เกมก็ขาดสนิทแล้ว ทั้งสกอร์และรูปเกมที่สวอนซีไม่มีอะไรจะสู้แล้ว

_______ นาที 76 มัลโควิชได้ลงแทนลัลลาน่า นาที 83 บาโลเตลลี่แทนสเตอลิ่ง นาที 90 บอรินี่แทนคูตินโย่ ตลอดช่วง 15 นาทีท้ายนี้เป็นลิเวอร์พูลที่คุมเกมได้ดีกว่า พาบอลมาถึงหน้าเขตโทษได้แบบไม่มีปัญหา เล่นเกมรุกกดดันหาโอกาสจบสกอร์ได้ต่อเนื่อง ส่วนสวอนซีทำอะไรไม่ได้ ตั้งเกมลำบาก เกมริมเส้นก็ไปไม่สุดเปิดบอลแทบไม่ได้ ได้หวังลมๆ แล้งๆ อยู่หน่อยกับจังหวะเล่นลูกยากของโกมิส(ลงมาแทนโบนี่ตั้งแต่นาที 62) อยู่บ้างแต่ก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน จบเกมลิเวอร์พูลชนะขาด 4-1
-----------------------------------------

_______ เป็นเกมที่เล่นได้ดีเอามากๆ ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือกับนัดที่แล้วเลย

_______ เหนือสิ่งอื่นใด เกมนี้ “วิ่ง” กันได้ยอดเยี่ยมทุกคนครับ ในเกมรับ วิ่งไล่กันทุกคนและไล่ตั้งแต่แดนหน้า แผงกลาง 4 คน(ยังไม่ต้องนับวิงแบ็คสองข้างซึ่งก็วิ่งไม่แพ้กัน) วิ่งไล่เข้าหาบอลตั้งแต่เส้นกลางสนาม ทำเอาสวอนซีตั้งเกมของตัวเองแทบไม่ได้เลยตลอดเกม แนวรับที่เคยโดนกดดันอย่างหนักอยู่บ่อยๆ วันนี้หนักไปทางยืนยิ้มเพราะคู่ต่อสู้พาบอลมาถึงเขตโทษได้ไม่มากนัก บอลส่วนใหญ่มาแบบทะลักๆ ไม่ก็โยนลึกมาจากแนวหลังซึ่งเก็บกินไม่ยาก ในเกมรุกที่นัดก่อนเดินเล่นกัน นัดนี้วิ่งเป็นม้าครับ ช่วยกันทำทางตลอด จังหวะใครพาบอลขึ้นหน้า มีตัวเลือกเพียบทั้งซ้าย ขวา และข้างหน้า (ลองดูลูกแรกกับลูกสามได้) ไม่ใช่ต่างคนต่างเล่นแล้ว

_______ ที่สำคัญคือวิ่งได้ทั้งเกม นำห่างก็ยังวิ่งอยู่ เกมรับเกมรุกวิ่งกันตลอด ชนะได้สวยทั้งสกอร์และรูปเกมก็เพราะวิ่งนี่ล่ะครับ

_______ วันนี้ต้องขอชื่นชมร็อดเจอร์จากใจที่เค้าจัด 11 ตัวจริงมาได้ดีกว่านัดที่ผ่านๆ มา สำคัญสุดก็จิ้มไปที่วิงแบ็คสองข้างที่ใช้แบ็คธรรมชาติจริงๆ แล้ว(สักที) ทั้งโมเรโน่และมานกีโย่ ไม่ต้องปรับต้องเปลี่ยนเอาตำแหน่งอื่นมาเล่นให้วุ่นวายแล้ว ซึ่งทั้งคู่เล่นในบทบาทนี้ได้ดีกว่าแบ็คจำเป็นที่ใช้มาก่อนหน้านี้ วิ่งขึ้นลงได้ตลอด ยิ่งในกรณีโมเรโน่ อ่านเกมและเข้าใจการเล่นเกมรับในฐานะตัวริมเส้นได้ดีกว่ามาร์โควิชเยอะ(แหงล่ะ) ซึ่งทำให้ซาโก้แทบจะไม่ต้องออกไปไล่ใครริมเส้นเลยตลอดเกม พอใช้แบ็คธรรมชาติดันขึ้นไปช่วยเกมรุกแบบนี้ เกมรุกของทีมเลยถ่างแนวรับได้ดีขึ้นเยอะครับ ไม่แออัดยัดเยียดกันอยู่ตรงกลางแบบที่ผ่านมาแล้ว

_______ ถัดจากแบ็คก็คงเป็นเรื่อง...เอ้อ...เจอราร์ด พอไม่มีเจอราร์ดแล้วเฮนเดอร์สันกล้าเล่นขึ้นเยอะเลยครับ มีส่วนกับเกมตลอดด้วย ในเกมรับที่เน้นการวิ่งไล่หนักๆ ในแดนกลาง (เกือบ)ทุกคนวิ่งไล่ได้ตลอดครับ ถ้าใช้เจอราร์ดจะไล่แบบนี้ไม่ไหวแน่ ในเกมรุก ทีมก็ไม่ต้องขึ้นบอลที่เจอราร์ดเป็นหลักแล้ว ให้ขึ้นหน้าไปได้เลย และตัวที่คอยประคองรับบอลจากแนวหลังก็มีแค่คนเดียวคือลูคัส ซึ่งก็พอแล้วสำหรับการจะเคาะหาที่ว่างในแดนหลัง

_______ ถ้าหวังจะวิ่งไล่ วิ่งหาช่อง เล่นบอลเร็วแบบนี้ ในมุมมองของผมเจอราร์ดยังเล่นได้ครับ แต่ต้องไปเล่นข้างหน้าโน่น แทนลัลลาน่าหรือคูตินโย่ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าฟิตไม่พอก็ต้องนั่ง ถ้าวิ่งแล้วหมดก็ต้องเปลี่ยนออก และถ้าลัลลาน่ากับคูตินโย่ยังมีแรงเล่น/เล่นได้อยู่ เจอราร์ดต่อให้ฟิตก็ควรต้องนั่งครับ นี่ยังไม่นับว่ามีมาร์โควิชอีกคนนะ

_______ การเปลี่ยนตัววันนี้เปลี่ยนตอนเกมขาดแล้วทั้งนั้นครับ หลักๆ ก็เปลี่ยนแบบให้โอกาสนั่นแหล่ะ เลยไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก

_______ นัดนี้เป็นนัดที่ร็อดเจอร์วางแทคติคและจัด 11 ตัวจริงได้น่าประทับใจครับ

_______ ทิ้งท้ายนิดๆ กับสวอนซี ดูแล้วคุ้นๆ มั้ยครับ โดนวิ่งไล่จนตั้งเกมไม่ขึ้น แถมจ่ายบอลในแดนตัวเองพลาดโดนคู่ต่อสู้ตัดไปลุ้นยิงได้บ่อยๆ ด้วย ที่สำคัญที่สุดสำหรับสวอนซี...เชลวี่ย์พลาดบ่อยไปนะครัช ทั้งตีศอกหวิดโดนไล่ออก(กรรมการบางคนไล่แน่), จ่ายพลาดให้โดนตัด จ่ายแถมเฝือก/แถมงานให้เพื่อน แถมโหม่งทำประตูอีกต่างหาก เอาเข้าไป
-------------------------------

นัดนี้เล่นดีทั้งทีม

มินโยเล่ - รักษาตำแหน่งใช้ได้ สวอนซีได้ยิงไม่มากนักและลูกที่มีน้ำหนักก็ไม่ค่อยจะตรงกรอบ ลูกที่เสียไปก็เผาขนซะไหม้เกรียมช่วยไม่ไหวแน่ เตะเปิดเกมได้น่าเกลียดมาก อยู่ในช่วงเรียกความมั่นใจ

ซาโก้ - จังหวะประกบและดักตัดบอลก่อนถึงกองหน้าทำได้ดี ในเกมรับจะมีพลาดก็จังหวะเสียประตูนั่นแหล่ะ ส่วนการผ่านบอล อันตรายตลอดเกม...อันตรายกับพวกเดียวกันนี่ล่ะ

สเคอเทล - ประกบได้ดี สกัดได้เด็ดขาด ลูกที่เสียประตูมีส่วนพลาดด้วยเหมือนกัน วันนี้ลูกตั้งเตะในเกมรุกหาจังหวะเข้าทำได้ดี เข้าถึงบอลหลายครั้งเสียดายที่ไม่เป็นประตู

ชาน - นิ่งขึ้นกว่านัดที่แล้วแต่ยังพอมีปัญหาอยู่บ้างในเรื่องการอ่านเกมและการเสี่ยงเก็บบอลไว้กับทีมมากไปในบางจังหวะ แต่ทำได้ดีในเรื่องการผ่านบอลขึ้นหน้าที่ทำได้หลากหลายทั้งบอลสั้นยาวและแตะบอลหลบตัวไล่

โมเรโน่ - ครึ่งแรกโดดเด่นมาก ประตูแรกเป็นทั้งคนเริ่มและคนจบสกอร์ ทั้งเกมวิ่งขึ้นลงได้ดี เกมรับลงทัน เกมรุกเติมถึงในเขตโทษอยู่ตลอด

มานกีโย่ - ได้บอลน้อยกว่าโมเรโน่ พาบอลไปเองและเปิดบอลเข้าทำไม่ดีนัก แต่วิ่งขึ้นลงได้ดี วิ่งไล่ได้ เกมรับไม่หลวม ช่วยเชื่อมเกมได้พอใช้

ลูคัส - วิ่งเข้าถึงบอลได้ดีในช่วงประมาณ 1 ชั่วโมงแรกของเกม ตัดบอลโต้กลับของคู่ต่อสู้ได้ก็ไม่น้อย แต่ช่วงครึ่งชั่วโมงหลังหมดแรงวิ่งอย่างเห็นได้ชัด และตลอดเกมลูคัสแม้จะขยันวิ่งแต่ก็ช้ากว่าแดนกลางคนอื่นพอควร รวมไปถึงเชื่อมบอลขึ้นหน้าได้ไม่ดีนัก(เชื่อมไปข้างๆ หรือเคาะคืนหลังได้อยู่)

เฮนเดอร์สัน - มีส่วนร่วมกับเกมเยอะโดยเฉพาะเกมรุก เปลี่ยนรับเป็นรุกได้ดี กล้าเล่น เติมขึ้นไปสูงถึงหน้า - ในเขตโทษได้ดีต่อเนื่อง ในเกมรับวิ่งไล่ช่วยแดนกลางได้เยอะ แต่ดูจะพะวงเกมรุกมากไปสักนิดนึง บางจังหวะไม่ต้องลอยสูงจนกลางหายแบบนั้นก็ได้

ลัลลาน่า - หาที่ว่างรับบอลได้ดีตลอดเกม เล่นง่ายไม่ฝืน ขยันวิ่งมากๆ ด้วย มีส่วนร่วมกับเกมรุกและประตูที่ทีมทำได้ในวันนี้เยอะมาก

คูตินโย่ - ยังคงเน้นเล่นสไตล์ เห็นประตูกูส่อง ต่อไป แต่วันนี้กดดันแนวรับได้ดีขึ้นและยังมีจังหวะที่จ่ายบอลให้เพื่อนเอาไปเล่นต่อดีๆ ง่ายๆ ได้เยอะอยู่ มีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะ และนัดนี้ขยันวิ่งไล่มากเป็นพิเศษ ทำได้ดีด้วย

สเตอลิ่ง - วิ่งทำทางและหาช่องได้ดีขึ้น ครึ่งแรกยังเอาชนะได้ไม่มากนักแต่ครึ่งหลังโดยเฉพาะหลังจาก 2-1 แล้ว มีพื้นที่ให้เล่นเยอะขึ้นและกดดันแนวรับได้ต่อเนื่อง ยังคงเล่นฝืนเกินไปเป็นส่วนใหญ่แต่โดยรวมมีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะกว่าไอ้สามนัดที่ยิงประตูได้เสียอีก และแน่นอนว่านัดนี้ช่วยวิ่งไล่ได้ดีเช่นกัน

มาโควิช - ได้ลงมาเล่นในตำแหน่งที่ควรสักที เล่นชิ่งง่ายๆ แต่สร้างโอกาสให้เพื่อนได้ยิงอยู่สองสามหน หาที่ว่างรับบอลได้ดี แต่เรื่องวิ่งไล่หรือการช่วยเกมรับสู้ลัลลาน่าไม่ได้โดยสิ้นเชิง(ซึ่งคงไม่มีใครซีเรียส)

บาโลเตลลี่ - มีเพื่อนช่วยปั้นก็ส่วนนึง แต่เจ้าตัวเองก็ขยับหาที่ว่างรับบอลได้ค่อนข้างดี แต่หาจังหวะยิงเองก็ใช้ได้ด้วย แต่ยิงไม่ค่อยจะดีนัก

บอรินี่ - เปลี่ยนกันแบบนี้(นาที 90) ปาสตั๊ดใส่หน้าเลยก็ได้ครัช สุภาพกว่า

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...อดัม ลัลลาน่า…เล่นง่ายๆ แต่ได้ประสิทธิภาพ แถมนัดนี้มีส่วนร่วมกับทุกประตูเลยด้วย
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น