วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เลสเตอร์ ซิตี้ 1-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)



...โดนจิ้งจอกฟัดซะน่วมเลย…แต่คนฟัดตายเองนะ
___________________________

ลิเวอร์พูลเริ่มด้วย 4-2-3-1

-----------------------แลมเบิร์ต-------------------------
-----สเตอลิ่ง---------เจอราร์ด---------ลัลลาน่า------
---------------ลูคัส--------เฮนเดอร์สัน-----------------
จอห์นสัน-------ตูเร่---------สเคอเทล-------มานกีโย่
------------------------มินโยเล่--------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเล่นพรีเมียร์ลีคนัดกลางสัปดาห์ ออกไปเยือนทีมท้ายตารางอย่างเลสเตอร์ ซิตี้ นัดนี้ร็อดเจอร์ใช้เจอราร์ดกลับมาเป็นตัวจริงพร้อมด้วยลัลลาน่า ในแผงหลังส่งมานกีโย่ลงมาแล้วโยกจอห์นสันไปเล่นทางฝั่งซ้าย
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมช่วง 15 นาทีแรกเป็นฝั่งเลสเตอร์ที่วิ่งไล่ในแดนหน้าและกลางได้ดี จังหวะได้บอลไม่ครองนานเน้นจ่ายขึ้นหน้าให้เร็วและเล่นจังหวะเดียวเป็นหลัก เกมริมเส้นทำได้ค่อนข้างดี ส่วนทางลิเวอร์พูลตั้งเกมไม่ได้ ครองบอลลำบาก และเอาบอลขึ้นหน้าแทบไม่ได้เลย

_______ ทางลิเวอร์พูลแผงกลางยืนกันสูงแต่ไม่ค่อยไล่และไล่ไม่ค่อยถึงบอล เป็นฝั่งเลสเตอร์ที่ทำได้ดีกว่าชัดเจนเมื่อเกมริมเส้นพาบอลมาถึงมุมธงได้บ่อย ประมาณนาที 19 ก็เกือบได้ประตูนำ มินโยเล่จ่ายขึ้นหน้าพลาดโดนคัมบิอัสโซ่ยิงสวนแบบปากประตูโล่งๆ ดีว่ายิงหลุดกรอบออกไป

_______ แต่ลิเวอร์พูลรอดไปได้ไม่นานนัก นาที 22 จอห์นสันเติมขึ้นไปเล่นเกมรุก พาบอลเลี้ยงจี้เข้าไปในแดนคู่ต่อสู้แล้วโดนตัดไปได้ เลสเตอร์โต้เร็วมาทางฝั่งนั้นและได้โอกาสยิงในเขตโทษ บอลเข้ากรอบ สเคอเทลที่เฝ้าเส้นโหม่งทิ้งได้แต่บอลไม่ออกนอกสนาม โดนคู่ต่อสู้ตักกลับเข้ามาแล้วยิงมุมแคบชนเสาเด้งออกมาโดนตัวมินโยเล่เข้าประตูไป 1-0

_______ หลังจากสกอร์ขยับ รูปเกมไม่ได้เปลี่ยนมากนักแต่ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอเร็ว นาที 27 จังหวะต่อเนื่องจากเตะมุม กองหลังสกัดมาเข้าทางลูคัสโยนบอลโด่งๆ ย้อยๆ กลับเข้าไปในเขตโทษ มอร์แกนพิงอยู่กับแลมเบิร์ตขึ้นโหม่งโดนบอลแต่บอลไม่ไปไหน ตกเข้าทางลัลลาน่าที่วิ่งตามเข้ามายิงเรียดสวนหายเข้าประตูไป 1-1

_______ หลังจากสกอร์กลับมาเสมอ เกมรุกของลิเวอร์พูลโดยเฉพาะฝั่งขวาทำท่าว่าจะดีขึ้นมาอยู่ราวๆ 5 นาที แต่เล่นไปเล่นมาก็ดับไปเหมือนเดิม บอลจังหวะสองแดนกลางก็เก็บบอลสู้เลสเตอร์ไม่ได้ไม่ว่าจะเกมรับหรือรุก แม้จะครองบอลพอๆ กันแต่เลสเตอร์คุมเกมได้ดีกว่าชัดเจน บอลมาใกล้เขตโทษมากกว่าและได้เปิดบอลเข้าทำมากกว่า แต่ไม่เด็ดขาดกันไปเอง

_______ ช่วงท้ายๆ ครึ่งแรก เล่นกันเป็นบอล อบต. โยนกันไปสกัดกันมา เก็บบอลไม่อยู่ เกมรุกไม่ต่อเนื่องทั้งสองฝ่าย จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-1

_______ เข้าครึ่งหลัง ทางลิเวอร์พูลเปลี่ยเอาโมเรโน่ลงแทนมานกีโย่ สลับเอาจอห์นสันไปเล่นขวาตามเดิม แต่พอกลับลงสนามกลายเป็นเลสเตอร์ที่คลั่งมาจากไหนไม่รู้ เร่งเกมรุกเข้าใส่มากขึ้นยิ่งกว่าในครึ่งแรกที่ยังบุกกันยั้งๆ อยู่บ้าง ทำให้ช่วงต้นเกมเลสเตอร์ได้ลุ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากบอลโยนเข้ากลางและลูกตั้งเตะ

_______ เลสเตอร์เป็นฝ่ายที่กดดันได้มากกว่าจริงๆ แต่การดันกันขึ้นมาเล่นเกมรุกของพวกเขาในครึ่งหลังก็ทำให้พื้นที่ในแดนตัวเองเริ่มเปิดมากขึ้น ลิเวอร์พูลเลยเริ่มหาพื้นที่เล่นเกมรุกได้ นาที 54 เจอราร์ดได้หน้าเขตโทษก่อนจะจ่ายออกริมขวาให้สเตอลิ่ง สเตอลิ่งจ่ายเรียดเข้ากลางติดปลายเท้ามอร์แกน กลายเป็นตั้งให้เจอราร์ดได้วิ่งตามเข้ามายิงสวนเข้าไปได้สำเร็จ 2-1

_______ พอลิเวอร์พูลขึ้นนำได้ เลสเตอร์ยิ่งวิ่งไล่บี้หนักเข้าไปกว่าเดิมจากที่วิ่งไล่หนักอยู่แล้ว และลิเวอร์พูลเองก็ยังคงคุมเกมไว้ไม่ค่อยอยู่ เลสเตอร์ยังคงได้เปิดบอลอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่แม่นยำนัก เกมมาเปลี่ยนในนาที 64 จังหวะที่ลิเวอร์พูลสกัดบอลสาดขึ้นหน้า แลมเบิร์ตเบียดอยู่กับมอร์แกนได้เหลี่ยมพลิกหลุดขึ้นหน้าไปได้ มอร์แกนเอามือไปรั้งจนแลมเบิร์ตล้ม โดนใบแดง ทำให้เลสเตอร์ที่ตามหลังอยู่ต้องเหลือแค่ 10 คน

_______ แม้จะเหลือ 10 คนแต่เลสเตอร์ไม่เปลี่ยนตัวรับลงมาช่วยและยังดาหน้าบุกต่อไป ทั้งยังได้ลุ้นประตูจากลูกตั้งเตะบ่อยมากๆ แดนกลางลิเวอร์พูลเสียฟาล์วหน้าเขตโทษถี่ยิบและโต้แทบไม่ขึ้น นาที 70 อัลเลนได้ลงแทนลัลลาน่า สลับเอาเฮนเดอร์สันไปเล่นทางขวาเหมือนเดิม

_______ เลสเตอร์ 10 คนยังคงไล่สูงเหมือนเดิม ลิเวอร์พูลนานๆ ได้โต้ทีก็ไม่เด็ดขาดเท่าไหร่ จังหวะที่ทำได้ดีที่เฮนเดอร์สันเปิดให้เจอราร์ดหลุดเดี่ยวไปโดนชไมเคิลกระแทกล้มในเขตโทษก็ไม่ได้จุดโทษ จะเก็บบอลครองบอลก็ทำไม่ได้เพราะโดนไล่และออกบอลหนีได้ไม่เร็วพอ ช่วงประมาณ 70-80 เป็นรูปเกมที่ทุลักทุเลพอสมควรและถ้าไม่บอกอาจจะนึกว่าลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเหลือ 10 คนด้วยซ้ำ

_______ แต่หลังจากโดนจิ้งจอกฟัดด้วยลูกตั้งเตะและวิ่งไล่อัดเร็วๆ มาพักใหญ่ๆ ในที่สุดลิเวอร์พูลก็มาได้ประตูหนีห่างจนได้ในนาที 84 แลมเบิร์ตได้บอลกลางสนามเปิดให้เจอราร์ดได้หลุดขึ้นไปทางซ้ายก่อนจะเปิดเรียดเข้ากลางให้สเตอลิ่ง สเตอลิ่งไม่มีจังหวะยิงและแตะบอลไปมุมแคบแล้ว แต่ตอกส้นกลับมาให้เฮนเดอร์สันได้เติมเข้าไปยิงโล่งๆ ไม่พลาด 3-1

_______ สกอร์ขยับห่างแล้วแต่เลสเตอร์ก็ยังมีใจจะบุกต่อไป ส่วนลิเวอร์พูลเล่นอุดสุดตัว ครองบอลไม่ค่อยได้ โต้เต้ออะไรก็ไม่เอาแล้ว ทิ้งเจอราร์ดไว้หน้าคนเดียวแลมเบิร์ตลงไปช่วยโหม่งในแนวรับเป็นส่วนใหญ่ เลสเตอร์ยังคงได้เปิดบอลเข้ามาวัดเข้ามาลุ้นในเขตโทษตลอดเวลา ได้ยิงไกลบ้างใกล้บ้างแต่ส่วนใหญ่ก็ยังติดบล็อคสลับหลุดกรอบ มินโยเล่ไม่ได้เซฟลูกยากสักลูก นาที 94 ลอฟเรนได้ลงมาแทนลิ่ง และลิเวอร์พูลช่วยกันสาดๆ ทิ้งไปข้างหน้าปิดเกมไปได้สำเร็จ 3-1
-----------------------------------------

_______ ชนะ 3-1 สกอร์ขาดที่สุดในรอบหลายนัด แต่รูปเกมถ้าใครได้ดู รับรองร้อง “อูยยย~” ครับ

_______ 11 ตัวจริงปรับเล็กน้อย ผมแปลกใจพอควร(แต่คนอื่นคงไม่แปลกใจด้วย 555+)กับการใช้สเตอลิ่งพร้อมลัลลาน่า เพราะทำให้แดนกลางขาดคนเล่นตัวรับไปคนนึง ถ้าดูจากโจทย์ว่าเกมนี้ควรได้ 3 แต้ม และต้องเน้นเกมรุก ผมยังเห็นด้วยครับที่เลือกใช้ทั้งคู่ลงพร้อมกัน แต่เล่นจริงนี่….

_______ ครึ่งแรกลิเวอร์พูลเล่นไม่ดีเลย เกมรุกยังกระจุกอยู่ตรงกลาง เกมริมเส้นดับสนิท เพราะแบ็คช่วยเกมรุกไม่ได้เลย แดนกลางเอาบอลขึ้นหน้าไม่ได้ เกมรับและการเก็บบอลสองก็มีปัญหากว่า 2-3 นัดก่อนเพราะลัลลาน่าช่วยเกมรับได้ไม่ดีเท่าเฮนเดอร์สัน(ที่ยืนริมขวา) และตัวเฮนเดอร์สันเองพอยืนต่ำแต่พยายามขึ้นสูงบ่อยๆ กลายเป็นลูคัสรับเละคนเดียวในเกมรับ แถมแลมเบิร์ตยังฟอร์มหลุดกระจาย ทั้งเชคไลน์ล้ำหน้าพลาดบ่อยและเก็บบอลไม่ได้ เจอราร์ดหายไปไหนไม่รู้ สเตอลิ่งก็เล่นสเต็ปเทพอยู่ ถ้าดูจากรูปเกมอย่างเดียวครึ่งแรกต้องโดนสัก 2-0 ครับ แต่กลายเป็นว่าเลสเตอร์จบไม่ลงและลิเวอร์พูลโชคดี(ที่มีคำว่าแต่พ่วงมาด้วย)ที่ตีเสมอได้เร็ว ครึ่งหลังเลยไม่เจองานยากมากนัก

_______ จุดเปลี่ยนมาอยู่ในครึ่งหลังนี่ละครับ

_______ เลสเตอร์ด้วยความที่อยู่ท้ายตาราง, เล่นในบ้าน แถมครึ่งแรกเกมก็เป็นต่อ พวกเขาเลือกจะกลับลงมาฟัดลิเวอร์พูลให้ตายคาเขี้ยว - ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เกือบตายเหมือนกัน - แต่ดันกันขึ้นมาเยอะจนมีพื้นที่ให้ลิเวอร์พูลเล่น เจอราร์ดเริ่มขึ้นกล้องและสเตอลิ่งแม้จะเล่นสเต็ปเดิมแต่น่ากลัวขึ้นตามพื้นที่ที่มีมากขึ้น ในที่สุดก็โต้กลับขึ้นนำไปได้ก่อน ถ้าเลสเตอร์บุกยั้งๆ แบบครึ่งแรกลิเวอร์พูลเหนื่อยอีกหลายตลบครับถ้าจะเอาชนะให้ได้เนี่ย เพราะตั้งเกมขึ้นไปเองตั้งแทบไม่ได้เลย

_______ เท่านั้นยังไม่พอ การมาเหลือ 10 คนเข้าไปอีกด้วยสาเหตุคล้ายเดิมคือเติมกันขึ้นไปหมดจนเหลือมอร์แกนดวลกับแลมเบิร์ตคนเดียว พลาดปุ๊ปก็แดงไป ถึงตรงนี้เลสเตอร์ก็ลำบากแล้วครับ จริงว่าพวกเขายังรุกได้และเล่นได้ลุ้น แต่นึกภาพดูว่าตอนมี 11 คนพวกเขายังทำไม่ได้ เหลือ 10 คนมันยิ่งยากกว่าเก่าอีก และการเลือกโหมเกมรุกต่อก็ทำให้พวกเขาโดนลูกที่ 3 ปิดกล่องในที่สุด

_______ ที่จริงนัดนี้เป็นนัดที่ลิเวอร์พูลเล่นไม่ดีเลยครับ ตามที่พูดถึงไว้ด้านบน แถมช่วงที่คู่ต่อสู้เหลือ 10 คนก่อนยังกล้าๆ โดนไล่อัดซะแทบแบนอยู่ในเขตโทษตัวเอง ได้แค่สกัดทิ้งออกไป แต่ยังดีที่วันนี้ได้ความเด็ดขาดในจังหวะจบสกอร์มาช่วยเอาไว้ได้ทัน ได้ยิงจะๆ 3 ครั้งก็เป็น 3 ประตูเลย ในขณะที่เลสเตอร์โยนจนขาแทบหัก โหม่งจนหัวแทบล้าน มินโยเล่ยังแทบไม่ได้เซฟ เลยกลายเป็นชนะ 3-1 ซะงั้น

_______ อย่างไรก็ตาม ความเด็ดขาดนี่มันตัดสินเกมครับ เหมือนกับที่เราโดนตัดสินมาหลายนัดแล้ว ดังนั้นถ้ามีโอกาสแล้วทำได้แบบนี้ก็ยังพอจะเอาตัวรอดได้อยู่หรอก

_______ ...เพียงแต่มันต้องพึ่งความห่วยของคู่ต่อสู้มากไปนิดนึง...
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันแค่พอใช้ได้ (ทำไมวันนี้ส่วนนี้มันยาวจังหว่า)

มินโยเล่ - ครึ่งแรกถวายพานใส่คัมบิอัสโซ่ไปลูกดีไม่โดน ลูกที่เสียประตูก็มีส่วนพลาดที่ปิดเสาแรกไม่มิด ทั้งๆ ที่หันกลับไปดูก่อนแล้ว เห็นแล้วว่ามีเพื่อนสองคนและไม่มีคู่ต่อสู้ ยังปิดเสาแรกไม่มิดอีก แต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไรให้เซฟ เก็บบอลที่คู่ต่อสู้เปิดล้นเข้ามาได้ค่อนข้างดี(ปกติไม่ค่อยออกมาเก็บ)

จอห์นสัน - ครั้งแรกที่พยายามจะขึ้นไปช่วยเกมรุกกลายเป็นจุดเริ่มที่ทำให้เสียประตูซะงั้น แต่จังหวะนั้นผมไม่คิดว่าจอห์นสันพลาดเท่าไหร่ จุดที่เสียบอลมันเลยเข้าไปในแดนคู่ต่อสู้เยอะมากแล้ว เพื่อนควรจะช่วยปิดพื้นที่ด้านหลังได้ดีกว่านีี้ และช่วงนั้นเกมรุกของทีมมันตายสนิทจริงๆ ถ้าแบ็คไม่ขึ้นบ้าง เกมมันก็ไปไหน ยังไงถ้าขึ้นได้ก็ต้องขึ้นครับ แต่ที่ทำงามไส้จริงๆ คือเกมรับโดยเฉพาะครึ่งหลังที่หุบเข้ากลางพร่ำเพรื่อ ตัดบอลได้น้อย หยุดเกมริมเส้นคู่ต่อสู้แทบไม่ได้เลย

ตูเร่ - ครึ่งแรกมีปัญหากับการประกบตัวมาก เก็บกองหน้าไม่ได้ เข้าไม่ค่อยถึงบอล แต่ครึ่งหลังก็ดูดีขึ้นในเรื่องการประกบตัว ดักโหม่งก่อนกองหน้าเก็บบอลเล่นได้มากขึ้น

สเคอเทล - ครึ่งแรกมีปัญหาสุดๆ ทั้งการประกบตัวและการเข้าสกัด สกัดบอลไม่ขาดหลายครั้ง ครึ่งหลังเริ่มดูดีขึ้น

มานกีโย่ - เกมรุกไม่ได้ช่วย เชื่อมเกมไม่ได้ เกมรับไม่โดนเผา ชะลอได้ แต่ตัดบอลกลับมาได้ไม่เท่าไหร่ แต่ฟอร์มก็ไม่ได้แย่จนดูไม่ได้ การเปลี่ยนตัวตอนพักครึ่งถ้าไม่ใช่ปัญหาบาดเจ็บ(ตอนพิมพ์ยังไม่ได้เช็คข่าว)ก็น่าจะเป็นเพราะร็อดเจอร์อยากให้แบ็คเล่นตรงฝั่งมากกว่าจะเป็นเพราะเห็นว่ามานกีโย่เล่นห่วยจนต้องเปลี่ยนออก

ลูคัส - วันนี้คนช่วยไล่น้อยลงและต้องเข้าสกัดเยอะมาก เข้าถึงบอลได้บ่อยดี สกัดเด็ดขาดดีด้วยหยุดเกมคู่ต่อสู้ได้เป็นระยะๆ ที่ไม่ค่อยดีนักคือเสียฟาล์วเยอะสุดๆ เยอะมากชนิดที่ชวนงงว่าจบเกมโดยไม่โดนเหลืองสักใบได้ยังไง

เฮนเดอร์สัน - ครึ่งแรกดับมาก เชื่อมเกมไม่ค่อยดี เหมือนพยายามจะเติมขึ้นไปช่วยเกมรุกแต่ขึ้นไปแล้วก็ไม่ค่อยได้เล่นเท่าไหร่ กลายเป็นเกมรับก็ลงมาช่วยได้น้อยเกินไป ครึ่งหลังกระเตื้องขึ้นนิดนึง มาเริ่มทำได้ดีจริงๆ ตอนโดนขยับไปเล่นทางขวามากขึ้น ยิงได้ 1 ลูกด้วย

ลัลลาน่า - ยิงประตูสำคัญได้ พยายามจะประสานงานกับเพื่อนอยู่ตลอด ให้ได้ก็ให้ไม่ฝืนมากนัก เกมรับช่วยได้น้อย แล้วก็โดนอัดร่วงอยู่เนืองๆ จนเล่นไม่ค่อยออกและโดนเปลี่ยนตัวในที่สุด

สเตอลิ่ง - มีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะ แต่หนักไปทาง จับบอล-กระชาก-โดนเบียด-ทิ้งตัวเอาฟาล์วพร้อมกับคว้าบอล เล่นได้แพทเทิร์นเดียวทั้งเกม ฝืนมากและเก็บอลไว้กับตัวนานเกินไป ทำเพื่อนเสียจังหวะตลอดเกม แต่ก็ต้องให้เครดิตเจ้าตัวเหมือนกันที่เรียกฟาล์วให้กับทีมได้ในเวลาที่เกมรุกมันไม่ไปไหน และเกมโต้กลับก็เป็นกำลังหลักที่ทำให้ทีมได้ 2 ประตูด้วยเหมือนกัน

เจอราร์ด - ครึ่งแรกขยับหาบอลไปทั่วแต่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกม ครึ่งหลังพอคู่ต่อสู้ขยับสูงก็เข้าทางเจอราร์ดที่เล่นบอลฉาบฉวยได้ดี มีส่วนเป็นอย่างมากกับ 2 ประตูในครึ่งหลัง และน่าจะเรียกจุดโทษได้อีกลูกด้วยซ้ำ

แลมเบิร์ต - ครึ่งแรกคือพัง คือดูไปกุมขมับไป แต่ครึ่งหลังเริ่มดีขึ้นบ้าง ส่วนร่วมกับเกมน้อยแต่กลายเป็นจังหวะสำคัญทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเบียดจนมอร์แกนโหม่งไม่ขาดจนลัลลาน่าได้ยิงลูกแรกหรือเรียกใบแดงให้มอร์แกน

ตัวสำรอง

โมเรโน่ - เกมรุกหรือเชื่อมเกมแทบไม่ได้เล่นเลย แต่เกมรับค่อนข้างน่าพอใจ ตัดบอลได้นิดหน่อยแต่ปิดทางโยนบอลได้ค่อนข้างดีทีเดียว

อัลเลน - ฟอร์มส่วนตัวไม่เด่นเท่าไหร่ แต่ทำให้แดนกลางเล่นเกมรับได้ดูดีขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้า

ลอฟเรน - ก็ได้ลงอ่ะนะ

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เวสต์ มอร์แกน… ถ้าดีสุดของลิเวอร์พูลก็คงต้องเจอราร์ด แต่มอร์แกนที่ตั้งให้ยิงตั้ง 2 ลูกแถมทำตัวเองโดนไล่ออกอีกนี่โดดเด่นกว่าเจอราร์ดเยอะครับ
------------------------------------------------------------

ป.ล. คิดไปเองรึปล่าวว่าลี เมสันเป่าเอียงเข้าทางเจ้าบ้านจัง

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น