วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

บอร์นมัท 4-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)



ขอโทษครับนาย ผมนึกว่ามันตายแล้ว
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-3

--------------------โอริกิ----------------------
---------เฟอมิโน่---------------มาเน่--------
---------ชาน-------------ไวนัลดุม----------
-----------------เฮนเดอร์สัน---------------
มิลเนอร์-----ลอฟเรน-----ลูคัส-----ไคลน์
-------------------คาริอุส--------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนบอร์นมัท เกมนี้คล็อปได้ลัลลาน่ากลับมาแล้วแต่ยังเป็นแค่ตัวสำรอง ส่วนเซ็นเตอร์ลูคัสได้ยืนคู่คาริอุส นอกนั้นยังเป็นตัวหลักชุดเดิม
-------------------------------------------------------

_______ ช่วง 10 นาทีแรก ลิเวอร์พูลเน้นบุกทางซ้าย ต่อบอลกันได้ไม่นานเท่าไหร่และตัดบอลคืนมาได้ค่อนข้างช้าแต่ยังเอาบอลไปใกล้เขตโทษได้ ส่วนบอร์นมัทมาต่อบอลสู้ไม่ได้เน้นรับ ต่อบอลใช้ได้แต่บอลมาไม่ถึงเขตโทษ

_______ พ้น 10 นาทีแรกไปลิเวอร์พูลเริ่มคุมเกมได้ดีขึ้น ได้เตะมุมรัวๆ แต่ยังทำอะไรไม่ได้ เริ่มตัดบอลกลับมาได้เร็วขึ้น บอร์นมัทเองก็ยังต่อบอลสู้ ดันขึ้นมาช่วยกันต่อบอลค่อนข้างสูง เลยโดนโต้ไส้แตก นาที 20 บอลยาวจากกลางสนามของชานเปิดข้ามหัวกองหลัง มาเน่โฉบเข้ามาถึงบอลก่อนโบรุคแตะบอลจิ้มผ่านตัวไปได้ 1-0

_______ เท่านั้นไม่พอ นาที 23 มาเน่ที่วันนี้ลงมาเชื่อมเกมและหุบเข้ากลางเยอะวิ่งโฉบมาตัดบอลได้ก่อนแปะให้เฮนโด้ได้จ่ายยาวทะลุช่องให้โอริกิตามไปเอาบอล โบรุคทะเล่อทะล่าออกมานอกกรอบแถมห่างบอลโคตรๆ โดนโอริกิแตะหนีไปมุมแคบแล้วยิงไกลจากนอกเขตโทษเข้าไปได้ 2-0

_______ ลิเวอร์พูลนำห่างแล้วผ่อนเกมลงไปบ้าง หันมาใช้บอลยาวเยอะขึ้นมาก รูปเกมยังดีกว่าแต่ไม่ค่อยได้บุกไปถึงพื้นที่สุดท้าย ส่วนบอร์นมัทยังคงแย่งบอลกลับได้ช้าและพาบอลมาไม่ถึงเขตโทษ

_______ นาที 34 ลิเวอร์พูลเกือบเสียจุดโทษจากจังหวะที่เฟอมิโน่ไปขวางเข่าอาเก้แต่ผู้ตัดสินไม่เป่า ลิเวอร์พูลเล่นประคองตัวสบายๆ จบครึ่งแรกแบบฟีลลิ่งวันเดอร์ฟูล  ทรูแฮปปี้เนสสสส 2-0

_______ เข้าครึ่งหลัง รูปเกมยังไม่เปลี่ยนจากเดิมมากนัก ลิเวอร์พูลยังเล่นผ่อนๆ อาศัยโยนยาวตามพื้นที่หลังบ้านของคู่ต่อสู้ บอร์นมัทต่อบอลอยู่แต่ยังไม่ได้กดดันอะไรนัก กระทั่งนาที 56 ความบันเทิงก็เริ่มต้นขึ้น...

_______ ลอฟเรนโหม่งสกัดบอลโด่งแถวๆ ริมเขตโทษ ไม่รู้ว่าตั้งใจจะโหม่งพักให้มิลเนอร์หรือโหม่งออกข้างแล้วแป็ก แต่เอาเป็นว่าบอลไปเข้าทางคู่ต่อสู้ที่วิ่งเติมขึ้นมา มิลเนอร์พยายามเข้าไปช่วยสกัดแต่ไปอัดเอาข้อเท้า เสียจุดโทษ ...2-1

_______  เกมโต้ของลิเวอร์พูลยังไม่ค่อยเด็ดขาดนักและบอลสั้นไม่ค่อยทำงาน นักเตะขยับรับบอลกันน้อยทำให้โดนไล่จนเล่นลำบาก แต่บอร์นมัทเองก็ยังขยับเกมรุกไม่ค่อยได้ แถมยังมาเสียประตูเพิ่มในนาที 64 มาเน่ขึ้นทางซ้ายเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนจ่ายแปะมาให้ชานได้ยิงจังหวะแรกจากนอกเขต บอลเลี้ยวเข้าประตูไปอย่างสวย 3-1 ชนะแน่ ชนะชัวร์ เย้เฮ

_______ นาที 69 ลัลลาน่าได้ลงแทนมาเน่ที่มีอาการเจ็บเล็กน้อย ลิเวอร์พูลหันมาเคาะครองบอล แต่กลายเป็นครองบอลกันได้ไม่เหนียวแน่นพอ ทางบอร์นมัทที่ทะยอยส่งตัวรุกมาเพิ่มกลายเป็นพาบอลมาถึงเขตโทษได้มากขึ้น โดยเฉพาะแดนกลางของลิเวอร์พูลตัดบอลได้น้อยลงชนิดไม่น่าเชื่อ บอลจากหลังมาหน้าของบอร์นมัททำได้เร็วขึ้นๆ

_______ นาที 76 จากจังหวะโอริกิจ่ายพลาดหน้าเขตโทษคู่ต่อสู้ บอร์นมัทเก็บได้แล้วโต้เร็วขึ้นมา ลิเวอร์พูลถลำขึ้นหน้ากันมาเยอะแถมไม่มีใครกล้าตัดฟาล์วคู่ต่อสู้ (เฮนโด้เหลืองไปแล้ว) กระทั่งบอลมาถึงในเขตโทษแล้วบอร์นมัทเปิดเรียดหักกลับ แนวรับลิเวอร์พูลได้แต่เหยียบขาแต่ไม่ถึงบอล โดนตัวเติมซัดหายกลายเป็น 3-2

_______ เท่านั้นนยังไม่พอ นาที 79 จากจังหวะต่อเนื่องฟรีคิก ลิเวอร์พูลสกัดไม่ขาด โดนยิงตีเสมอ 3-3 งามไส้

_______ ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูลเริ่มขยับเกมรุกมากขึ้นเพราะอยู่ไม่ได้แล้ว แต่จังหวะไม่มา ลัลลาน่าทำได้แค่เคาะบอลให้เพื่อน มิลเนอร์เติมขึ้นไปได้จริงแต่เปิดไม่ผ่าน ส่วนคนอื่นให้แล้วไม่ค่อยขยับ แม้จะบุกกดดันได้บ้างแต่ไม่ได้ลุ้น

_______ นาที 93 บอร์นมัทบรรจงถีบลิเวอร์พูลตกสวรรค์ ด้วยการยิงไกลจากนอกเขต แนวรับลิเวอร์พูลไม่มีใครเข้าไปขวางทาง ต่อด้วยคาริอุสที่เห็นบอลแล้วแต่รับกระฉอก โดนคู่ต่อสู้ตามเข้ามาซ้ำ 4-3

_______ ...เอวัง ด้วยประกาณ ฉะนี้...

-----------------------------------------

_______ เป็นวันที่เล่นไม่ค่อยดีนะครับ ตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว

_______ ลิเวอร์พูลอาศัยพื้นที่โล่งด้านหลังเล่นงานในครึ่งแรกจนได้สองประตูก็จริง แต่เกมบุกวันนี้ถือว่าธรรมดามาก พอเข้าครึ่งหลังก็เล่นผ่อนและติดประมาทอยู่นาน เพียงแต่คู่ต่อสู้ยังหาทางกลับไม่เจอเท่านั้น

_______ กระทั่งการเปลี่ยนมาเน่ออกถึงเป็นจุดเปลี่ยนของเกม วันนี้มาเน่เล่นได้ดีมากนะครับ ช่วยเชื่อมเกมได้เยอะ เล่นกับพื้นที่ได้ แถมเป็นคนวิ่งตัดบอลวิ่งรับบอลเยอะที่สุดในทีมด้วย พอมาเน่ถูกเปลี่ยนออก เกมโต้ลิเวอร์พูลไม่สามารถกดดันคู่ต่อสู้ได้อีกเลย การเชื่อมเกมแย่ลง และที่สำคัญคือการวิ่งตัดบอลก็แย่ลงไปด้วย ซึ่งอย่างหลังนี่เป็นจุดตายที่ทำให้ทีมพลิกแพ้ในวันนี้

_______ ฟอร์มส่วนตัวของเฮนโด้ยังทำได้ดี แต่พอเขาโดนเหลืองไปในช่วงกลางครึ่งหลัง จากนั้นแม้จะบีบได้แต่เขาไม่ค่อยเสี่ยงตัดบอลหนักเท่าไหร่ คู่ต่อสู้เลยเล่นง่าย ในขณะที่ไวนัลดุมกับชานก็ไม่ได้ค่อยช่วยงานเฮนโด้มากเท่าที่ควร ช่วงครึ่งชั่วโมงท้ายนี่ทีมเล่นเหมือนกลางสนามไม่มีใครเล่นเกมรับเลย

_______ บอร์นมัททำได้อย่างที่พูด คือจะเล่นเกมรุก แล้วเขาเล่นจริงๆ ชนะได้จริงๆ ก็ต้องให้เขาไปละครับ

_______ ส่วนลิเวอร์พูล มองกันในแง่ดี ยังดีว่าความผิดพลาดนี้มาเกิดเอาครึ่งฤดูกาลแรก ถ้าเป็นช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มเดือนท้ายๆ จะบรรลัยยิ่งกว่านี้  จะแก้ไข หรือหาใครมาช่วย ไม่ว่าจะซื้อใหม่หรือดันใครจากชุดเยาวชนก็น่าจะทำให้ทีมดีขึ้น อย่างนัดนี้ถ้าลิเวอร์พูลมีกลางรับสักคนให้เปลี่ยนแทนชานหรือไวนัลดุม เพื่อช่วยเฮนโด้ตอนที่เหลืองไปแล้ว หรือมีตัวรุกเร็วจัดๆ สักคนมากดแนวรับไม่ให้ขึ้นตอนที่ต้องเปลี่ยนมาเน่ออก ผมว่าเกมนี้เอาตัวรอดไม่ยากเลย
-----------------------------------------

นัดนี้ได้เล่น

คาริอุส - เปิดบอลดี ตำแหน่งการยืนและการเซฟโอเค แต่เซฟซองแตกและออกตัดบอลโด่งไม่เนียน

มิลเนอร์ - เกมรับทำได้ดี มีโดนเผาไปหนึ่งดอก แต่นอกนั้นก็ปิดพื้นที่ได้ ลูกเสียจุดโทษนี่โดนลอฟเรนหางานให้แท้ แต่กับเกมรุก วันนี้เชื่อมเกมแค่พอใช้ คือเติมไปรับบอลดีแล้วแต่เปิดบอลเข้ากรอบแย่ทุกลูก

ลอฟเรน - ตอนคู่ต่อสู้มีตัวรุกน้อยไม่มีปัญหา พอครึ่งหลังที่เจอคู่ต่อสู้โหมบุกใส่หนักๆ อาการออกทันที เริ่มตั้งแต่จังหวะเสียจุดโทษ หลังจากนั้นก็เหมือนสติหลุดไปเลย สกัดบอลหรือบล็อคใครแทบไม่ได้

ลูคัส - ครึ่งแรกเล่นอย่างหล่อ วิ่งขึ้นมาตัดบอลที่คู่ต่อสู้จ่ายขึ้นหน้าได้สวยๆ หลายครั้ง แต่ครึ่งหลังเหมือนเมคอัพเริ่มหลุดแล้วลืมเติมแป้ง หาบอลไม่เจอพอกับลอฟเรน บางครั้งขึ้นมาจากรอบจะช่วยตัดก็ไม่ถึงบอล จะรอในเขตโทษก็ดักบอลจ่ายเข้าทำได้ไม่ดี

ไคลน์ - เป็นแนวรับที่ดูมีสติคงเส้นคงวากว่าเพื่อน เกมรับดี เชื่อมเกมได้ แต่ดูมีปัญหานิดหน่อยจังหวะเล่นลูกตั้งเตะ ประกบไม่ค่อยดีนักแถมออกไปปิดพื้นที่หลังจากบอลถูกสกัดไปแล้วช้าไป

เฮนเดอร์สัน - ฟอร์มส่วนตัวจัดว่าดี มีแอสซิสต์ด้วย จนกระทั่งโดนใบเหลือง….

ไวนัลดุม -  ครึ่งแรกเล่นดีมาก เก็บบอลสองได้เยอะ บังบอลเก่ง ช่วยเชื่อมเกมดีด้วย แต่เข้าครึ่งหลังขยับน้อยลง ที่แย่สุดเห็นจะเป็นเกมรับที่ช่วยได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น

ชาน -  ทำได้ดีช่วงต้นเกม กระทั่งเปิดให้มาเน่ยิงลูกแรกแล้วไม่แน่ใจว่ามีอาการบาดเจ็บหรือยังไง คือหลังจากนั้นชานวิ่งน้อยลง การดักเก็บบอลหรือค้ำบอลรอเพื่อนว่างที่เคยทำได้ก็น้อยลง ถ้าไม่มีจังหวะที่ยิง 3-1 นี่ต้องเรียกว่าชานหายไปจากเกมเลยด้วยซ้ำ

มาเน่ - ฟอร์มสดดีมาก จังหวะตัวต่อตัวกระชากไปเปิดยังแย่อยู่ แต่ใช้ความเร็วเล่นงานคู่ต่อสู้ได้หลายครั้ง ที่ดีมากๆ สำหรับวันนี้คือการวิ่งโฉบเข้าไปตัดบอลที่ตัดได้เยอะ แถมขยับหาที่ว่างรับบอลได้เร็วด้วย ถ้าอยู่ในสนามได้จนจบเกมทีมชนะไปแล้ว

เฟอมิโน่ - ขยับถอยมาต่ำแล้วเล่นไม่ค่อยออก การวิ่งไล่ไม่ได้น้อยลงแต่ด้วยตำแหน่งที่เยื้องไปทางริมซ้ายทำให้ช่วยทีมได้ไม่มากนัก(ในเรื่องวิ่งไล่) เกมรุกเหมือนไม่มีคนเล่นด้วย ชิ่งหรือวิ่งเข้าพื้นที่สุดท้ายไม่ได้เลย

โอริกิ - ครึ่งแรกวิ่งหาช่องในเขตโทษได้ดีมาก ทำประตูได้ด้วย พักบอลได้โอเค แต่ครึ่งหลังเล่นเหมือนหมดแรง เก็บบอลไม่อยู่ สปีดไปเอาบอลก็ไม่ได้ แถมเล่นพลาดจนมีส่วนให้ทีมเสียสองประตูอีกต่างหาก (จ่ายพลาดจนโดนโต้+ขึ้นโหม่งไม่ระวังหน้ากรอบตัวเอง)

ตัวสำรอง

ลัลลาน่า - ลงมาเคาะบอลไปมา

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ซาดิโอ มาเน่… มาเจ็บอัลลัยตอนเนรรรรรรร๊
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น