วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 3-0 บียารีล (ยูโรป้า) (รวมสองนัดสกอร์รวม 3-1)


สงสัยเรือดำน้ำจะลืมเอาตอปิโดมาด้วย
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-2-1

-------------------สเตอริดจ์------------------
คูตินโย่-----------เฟอมิโน่---------ลัลลาน่า
---------------ชาน----------มิลเนอร์---------
โมเรโน่------ตูเร่-------ลอฟเรน------ไคลน์
--------------------มินโยเล่-------------------

_______ ลิเวอร์พูลเเปิดบ้านเล่นเกมยูโรป้ารอบรองนัดสองกับ “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียารีล นัดนี้ชานกลับมาเป็นตัวจริงได้ทันเวลาพอดี, ตูเร่ถูกเลือกก่อนสเคอเทล ส่วนตำแหน่งอื่นยังเหมือนเดิมหมด
-------------------------------------------------------

________ เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลซัดเกียร์ห้าทันทีแบบไม่มีหนึ่งสองสามสี่ ดันกันไปยืนสูงถึงวงกลม วิ่งไล่เหมือนทดเจ็บนาทีท้ายแล้วทีมตามอยู่ลูกเดียวยังไงยังงั้น เอาชานถอยไปเชื่อมเกมจากหลังไปหน้า แบ็คสองข้างลอยเล่นคล้ายวิงแบ็ค เน้นเกมรุกริมเส้นทั้งสองฝั่ง โดยฝั่งขวาดูจะลื่นไหลและได้เปิดบ่อยกว่า ในขณะเดียวกัน เกมรับค่อนข้างหลวม บียารีลบุกไม่กี่ครั้งเป็นได้ยิงเหมือนกัน

_______ ความพยายามออกดอกออกผลอย่างรวดเร็วเมื่อทีมขึ้นนำได้ตั้งแต่นาที 7 ชานเปิดบอลออกริมเส้นให้ไคลน์ที่เติมขึ้นไปรับบอล ไคลน์เปิดเข้าไปแฉลบ บอลทะลักไปเสาสอง เฟอมิโน่เปิดเรียดกลับเข้ากลาง สเตอริดจ์ชาร์จวืดแต่บอลไปโดนบรูโน่เข้าประตูตัวเองไปซะงั้น 1-0

_______ สกอร์ขยับ สถานการณ์กลับมาเท่ากัน แต่ลิเวอร์พูลยังเล่นเหมือนไม่เห็นสกอร์บอร์ด ยังไล่เร็วตั้้งแต่แดนหน้า ยืนสูงเกือบครึ่งสนาม เร่งเกมรุกหนักมาก นอกจากแบ็คสองข้างที่ขึ้นตลอดแล้ว มิลเนอร์ยังตามขึ้นไปช่วยเปิดบอลบ่อยครั้ง ส่วนทางด้านบียารีลเน้นวางโด่งมาให้โซลดาโด้พักเล่น ซึ่งเขาเล่นได้ดีมากแต่เพือนตามมาช่วยช้าไปหน่อย ทำให้เกมรุกไม่ต่อเนื่อง แต่ไอ้ไม่ต่อเนื่องที่ว่าน่ะยังอุตส่าห์ได้เปิดและได้จบอยู่บ้างเหมือนกัน เกมรับของลิเวอร์พูลสกัดไม่ค่อยเด็ดขาดนัก

_______ เกมครึ่งแรกดำเนินไปแบบนี้ ลิเวอร์พูลยังวิ่งไล่บ้าคลั่ง เปิดบอลจากเส้นข้างรัวๆ แล้วก็ยิงหลุด ติดบล็อค สลับได้เปิดเตะมุม เกมดีกว่าเยอะแต่ไม่ได้ประตู จนกระทั่งช่วงท้ายๆ ก็เริ่มผ่อนเกมลงไปเอง จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง นาทีแรกของเกมบียารีลก็พาบอลเข้ามาถึงในเขตโทษ กองหน้าสลัดหลุดตูเร่ไปได้แล้วแต่โดนลอฟเรนเข้ามาซ้อนไว้ได้  แต่หลังจากนั้นเป็นลิเวอร์พูลขึ้นไปยืนคุมพื้นที่สูงกว่าครึงแรก ด้วยความอนุเคราะห์ของบียารีลที่ไม่รู้นึกไง ถอยลงไปรับในแดนตัวเองมันซะงั้น เลือกแทคติครับ-โต้เล่นเหมือนอยากต่อเวลา

_______ ลิเวอร์พูลขยับทำทางและขยับหาบอลกันได้ช้ากว่าครึ่งแรกไปบ้าง แต่ที่อาการหนักกว่าคือบียารีลที่ไล่บอลน้อย ปล่อยให้ลิเวอร์พูลครองบอลง่าย แม้ว่าจะจ่ายขึ้นหน้าแล้วเสียบ้างแต่บียารีลยืนกันค่อนข้างต่ำ จะโต้เร็วก็ลำบาก วางยาวให้โซลดาโด้ก็โดนรุมกินโต๊ะ ทำให้เสียบอลคืนให้ลิเวอร์พูลค่อนข้างเร็ว

_______ ในที่สุดลิเวอร์พูลก็มาได้ประตูสำคัญก่อนที่ตัวเองจะหมดแรงไปซะก่อน นาที 63 เฟอมิโน่เก็บบอลสองได้หน้าเขตโทษคู่ต่อสู้แล้วดีดเร็วเข้าเขตโทษ บอลแฉลบไปเข้าทางสเตอริดจ์ที่อยู่ข้างในและไม่ล้ำหน้า ยิงผ่านผู้รักษาประตูไปชนทั้งเสาแรกเสาสองแต่สุดท้ายก็เข้าประตูไปจนได้ 2-0 จากสกอร์นี่้ลิเวอร์พูลเข้ารอบแล้ว แต่ถ้าโดนอีกลูกจะตกรอบด้วยกฎอเวย์โกลเช่นกัน

_______ สกอร์เข้าทางลิเวอร์พูล แต่บียารีลยังไม่ฟื้น เร่งไม่ได้ บุกไม่ขึ้น โดนลิเวอร์พูลบุกอัดเอาอย่างต่อเนื่อง ได้เปิดบอลจากริมเส้นเรื่อยๆ ซ้ำร้ายบียารีลยังมาเหลือสิบคนเข้าให้อีกในนาที 71 เมื่อรูอิสโดนใบเหลืองที่สองจากการย่ำลัลลาน่าเลยโดยไล่ออกไป

_______ กว่าบียารีลจะเริ่มตั้งสติบุกขึ้นมาได้เป็นชิ้นเป็นอันต้องรอจนประมาณนาที 75 ซึ่งเลือกบุกขึ้นมาทางโมเรโน่ พวกเขาขึ้นได้ถึงมุมธง แต่ยังเปิดบอลได้ยากและไม่กดดันนัก

_______ นาที 81 ลิเวอร์พูลปิดเกมนี้ได้เร็วแบบไม่ต้องลุ้นยันนาทีสุดท้าย เฟอมิโน่ได้บอลแถวริมเส้นซ้ายก่อนเลี้ยงจี้พลิกหนีเข้ามาได้ถึงเส้นหลังในเขตโทษ เปิดเรียดกลับเข้ามให้สเตอริดจ์จับลั่น แต่บอลไปเข้าทางลัลลาน่าหันข้างดีดบอลเข้าไปได้สำเร็จ 3-0 จบข่าว

_______ ยิงได้ปุ๊ป อัลเลนได้ลงแทนคูตินโย่ทันที แต่เวลาที่เหลือเกมไม่เป็นเกมแล้ว ลิเวอร์พูลยังได้โอกาสยิงอีกไม่น้อยแต่หนักไปทางหลุดกรอบ นาที 89 เบนเทเก้ได้ลงมา(ทำไม)แทนเฟอมิโน่ และนาที 90+2 ลูคัสแทนสเตอริดจ์ ก่อนจบเกมด้วยสกอร์ท่วมท้น 3-0

_______ ...ลิเวอร์พูลเข้าไปชิงกับเซบีย่า

-----------------------------------------

_______ เป็นเกมที่ต่างกับนัดแรกโดยสิ้นเชิง ลิเวอร์พูลรุกแบบม้วนเดียวจบ ส่วนบียารีลเล่นหงอมาก

_______ คล็อปเลือกเล่นเกมรุกเต็มตัว ที่โหดสัสคือทั้งครึ่งแรกครึ่งหลัง 1-0, 2-0 ก็ยังจะเล่นเกมรุกอยู่ตลอด ไม่มีช่วงไหนเลยที่ถอยไปรับ และตลอดทั้งเกมเก้าสิบนาที ลิเวอร์พูลไม่ได้เล่นเกมรับในแดนเลย (โดนโต้แล้วต้องมาไล่ก็อีกเรื่อง แต่ถอยลงไปคุมพื้นที่นี่ไม่เอาเลย) ใช้วิ่งไล่แดนบนเอาอย่างเดียว

_______ ด้วยความที่อเวย์โกลมันบีบก็ใช่อยู่ เพราะจบ 2-1 ก็ยังตกรอบ แต่ถึงอย่างนั้นก็เลือกเล่นเกมรุก และรุกได้ขนาดนี้นี่ไม่ธรรมดาเลย อันนี้ต้องให้เครดิตคล็อปไปเต็มๆ

_______ ส่วนทางด้านบียารีล ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เล่นเรียบร้อยขนาดนี้ คือไม่กล้าบุกเต็มตัวตอนเริ่มเกมยังพอเข้าใจ หรือครึ่งแรกยังไม่บุกก็ยังโอเค แต่ครึ่งหลังนี่ทำไมไม่บุก อันนี้ไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่ทั้งนัดก่อนและนัดนี้ พวกเขาก็น่าจะเห็นแล้วว่าถ้าเลือกบุกก็บุกได้ แต่ดันเลือกถอยไปรับ หรือว่าโดนกองเชียร์ข่มจนเล่นไม่ออก? ...อันหลังนี่ไม่รู้นะ พูดไปเรื่อยเฉยๆ

_______ นัดนี้ทั้งรูปเกมและสกอร์ชวนให้รู้สึกว่าเป็นเกมง่าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องบอกว่าลิเวอร์พูลมีโชคนิดๆ หน่อยๆ ตลอดเกมด้วย ทั้งการขึ้นนำเร็วทั้งๆ ที่สเตอริดจ์ชาร์จไม่โดนบอลไปแล้ว, ประตูที่สองที่ยิงชนสองเสากว่าจะเข้าก็มาได้ถูกเวลาเหลือเกิน เพราะปกตินาที 60+ เป็นช่วงที่ทีมจะยุบแล้วเริ่มโดนคู่ต่อสู้พลิกมาไล่ทุบเอาแล้ว, คู่ต่อสู้มาเหลือสิบคน, สุดท้ายยังได้ประตูที่สามตั้งกะ 81 ในจังหวะสเตอริดจ์ก็จับลั่นไปแล้ว ยังอุตส่าห์มีลัลลาน่ามาดีดให้อีก  ซึ่งทำให้ท้ายเกมไม่โดนกดดันอะไรเลย

_______ ถึงตรงนี้ ลิเวอร์พูลเข้าไปชิงกับ “ลาสบอส” อย่างเซบีย่าได้สำเร็จ ชนะได้มีรางวัลใหญ่อย่าง UCL รออยู่ แต่เซบีย่าเป็นขาใหญ่ถ้วยนี้อย่างแท้จริง รับประกันเลยว่าจะเป็นเกมที่ยากยิ่งกว่านัดชิงลีคคัพกับแมนฯซิตี้ หรือเลคสองกับดอร์ทมุนด์เสียอีก

_______ ...ในทางกลับกัน เซบีย่าก็คงไม่ค่อยอยากจะเจอกับทีมที่ชนะดอร์ทมุนด์มาได้สักเท่าไหร่หรอก

_______ ดูจากสไตล์และสถิติของทั้งคู่แล้ว ...นัดชิงน่าจะยิงกันยับอยู่ล่ะ
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นได้ดีตลอดเกม

มินโยเล่ - เซฟสำคัญสุดๆ ในช่วงต้นเกมเอาไว้ได้ แค่จังหวะนี้จังหวะเดียวก็หล่อแล้ว หลังจากนั้นงานไม่หนักนัก ยิ่งเข้าครึ่งหลังนี่แทบยืนหลับเลย

โมเรโน่ - แทคติคบีบให้ต้องบุกเยอะและต้องเสียตำแหน่งบ้างแน่ๆ แต่ที่โมเรโน่เล่นออกมาเนี่ยเรียกทิ้งไปเลยจะเห็นภาพกว่า ขนาดว่าคู่ต่อสู้เหลือสิบคน โมเรโน่ยังกล้าๆ หลุดพื้นที่ให้เค้าพาบอลมามุมธงได้เลย ในทางกลับกัน ขึ้นไปช่วยไล่แดนบนได้ดีมาก เฉพาะเรื่องนี้ดีกว่าไคลน์ด้วย เชื่อมเกมใช้ได้ ทำทางได้ไม่เลว

ตูเร่ - อ่านเกมได้ดี ช่วงครึ่งแรกมีปัญหากับการประกบโซลดาโด้อยู่บ้าง แต่ครึ่งหลังดูดีขึ้น ตลอดเกมชิงจังหวะบังบอลบล็อคบอลได้เยี่ยม และถือเป็นโชคดีของตูเร่ที่วันนี้ไม่ต้องดวลกับใครมากนัก ไม่ต้องวิ่งไล่หลังตามใครด้วย

ลอฟเรน - สกัดบอลที่เปิดเข้าเขตโทษได้เยอะกว่าตูเร่ แต่สกัดได้ไม่รู้เหนือใต้ ไร้หางเสือไร้เข็มทิศดีเหลือเกิน ถ้าเป็นจังหวะพุ่งสุดตัว เหยียดสุดขาแล้วคุมไม่ได้ก็จะเข้าใจ แต่หลายครั้งที่ยืนเกร็งคอโหม่งอยู่คนเดียว หรือง้างรอสาดสวน ยังกล้าๆ สกัดไม่ไปไหน, สกัดไปเข้าทางคู่ต่อสู้นี่อาร๊าย~ (เหมือนบ่นเยอะ แต่อย่าลืมว่างานหลักคือการสกัดเค้าทำได้ดีนะ)

ไคลน์ -  ยังเปิดบอลไม่เอาอ่าวเอาทะเลแต่ถือว่าแย่น้อยลง บอลยังเข้าไปในจุดบ้างแม้จะโดนดักสกัดง่าย แต่นอกเหนือจากเรื่องเปิดบอล ไคลน์เล่นได้สมบูรณ์แบบ ...แน่นอนว่าเป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของผมล่ะ แต่นับครั้งได้เลยนะที่ผมจะเลือกใช้คำนี้มาคอมเม้นท์การเล่นของนักเตะคนไหนสักคนเนี่ย

ชาน - รับบทบาทคล้ายเจอราร์ดในฤดูที่ได้ที่สอง คือถอยไปยืนต่ำใกล้คู่เซ็นเตอร์คอยเชื่อมเกมจากหลังไปหน้า ทำหน้าที่นี้ได้ดี ส่วนหนึ่งมาจากบียารีลไล่น้อยด้วย ในขณะที่เกมรับอ่านดี วิ่งทัน แต่ความแข็งแกร่งในการปะทะหรือบังบอลยังน้อยกว่าที่เคยทำได้

มิลเนอร์ - วิ่งไล่ได้โหดและเชื่อมเกมได้พอใช้ ครึ่งแรกเด่นในเรื่องขึ้นไปช่วยเปิดบอลด้วย ครึ่งหลังขึ้นไปเปิดน้อยลงบ้างแต่ยังวิ่งไล่บอลได้ดี ในขณะที่คูตินโย่หรือเฟอมิโน่เริ่มไล่น้อยลงแล้ว

คูตินโย่ - ช่วยวิ่งไล่บอลได้ตามแทคติค เชื่อมเกมดี บอลเข้าทำค่อนข้างน้อย การเล่นโดยรวมดูเหมือนมีปัญหาเรื่องความฟิต การเลี้ยงบอลออกบอลหรือกระทั่งการตัดสินใจเคยเด็ดขาดกว่านี้

ลัลลาน่า - วิ่งไล่บอลได้คลั่งไม่แพ้มิลเนอร์ เร็ว ฟาล์วน้อย ได้บอลแล้วไม่ฝืนด้วย การทำเกมรุกด้วยการจ่ายหรือหาโอกาสยิงเองไม่น่าประทับใจ แต่การวิ่งทำทางถือว่าดี ส่วนเรื่องทำประตู ยิงพลาดในครึ่งแรกแต่มาแก้ตัวได้ในครึ่งหลัง
 
เฟอมิโน่ - ช่วยไล่บอลได้ดีกว่าคูตินโย่แต่ยังดูด้อยกว่าพวกม้าคลั่งม้าดีดแบบลัลลาน่าหรือมิลเนอร์ ที่ดีคือการออกบอลเกมรุก ออกบอลโคตรฉลาด เลือกช็อตเล่นได้สร้างสรรมาก ทั้งสามประตูที่ทีมได้วันนี้เขาเป็นคนเปิดบอลทั้งนั้น แถมเป็นการเปิดแบบชนะแนวรับได้ทั้งสามลูกด้วย

สเตอริดจ์ - ยิงประตูสำคัญมากๆ ให้ทีมได้ ไม่ได้ลูกนั้นล่ะเครียดกันอีกนาน วิ่งไล่ได้ตามแทคติคตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม สร้างโอกาสในการยิงประตูด้วยตัวเองได้ระดับซัวเรส แต่ยิงได้ระดับเอ็นก็อก ยิงหลุดกรอบเยอะเกินรับได้ ถ้าเป็นวันที่ท็อปฟอร์ม อย่างน้อยนัดนี้ต้องแฮททริคจากการเปิดของเฟอมิโน่ไปแล้ว

ตัวสำรอง

อัลเลน - เกมขาด ไม่ได้ทำอะไรนอกจากวิ่งไล่วิ่งเชื่อมเกมไปตามจังหวะ

เบนเทเก้ - คล็อปส่งลงมาให้โอกาส หรือบอกว่าหมดโอกาส?

ลูคัส - วอร์มเหนื่อยกว่าเล่น

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...โรแบร์โต้ เฟอมิโน่…ตัวเลือกนัดนี้มีแค่สองคนเท่านั้น ไคลน์กับเฟอมิโน่ ถ้าไคลน์เปิดบอลได้ลุ้นกว่านี้ หรืออย่างน้อยมีสักแอสซิสต์จะเลือกเหมือนกันครับ ประทับใจฟอร์มเจ้าตัวมากๆ แต่พอไม่มีก็ต้องเลือกเฟอมิโน่ที่เสกประตูให้ทีมได้ตั้งสามลูกล่ะ
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น