วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เวสต์บรอมวิช 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


งานวันเด็ก
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-2-1

-------------------เบนเทเก้-----------------
โอโจ------------------------------------ไอบ์
---------------------อัลเลน------------------
---------สจ๊วต-----------บรานาแกน--------
สมิธ-----ลูคัส----สเคอเทล---ฟลานาแกน
-------------------บ็อกดาน-------------------

_______ ลิเวอร์พูลเล่นนัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีคฤดูกาลนี้ด้วยการส่งดาวรุ่งกับตัวสำรองลงกันเต็มตั้งแต่ตัวจริงยันม้านั่งสำรอง มีเซอร์ไพรส์เล็กน้อยเมื่ออิ้งค์กับเฮนเดอร์สันมีชื่อเป็นตัวสำรองด้วย
-------------------------------------------------------

________ เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลเคาะต่อบอลกันช้าๆ ไม่รีบ ครองบอลได้แต่เจาะไม่ได้ ซ้ายดับ กลางไปไม่ถึงเขตโทษ มีเกมรุกด้านขวาที่พอเอาบอลขึ้นไปถึงมุมธงได้บ้าง แต่เกมรุกยังไม่ได้กดดันอะไรนัก

_______ ทางด้าน WBA คุมพื้นที่สูงแต่เน้นไล่บอลในแดนตัวเองมากกว่า ตัดบอลแดนหน้าหรือกลางได้ก็เอามาบุกฉาบฉวยเอา แล้วก็ขึ้นนำได้ก่อนตั้งแต่นาที 13 อัลเลนพยายามจะโต้เร็วแต่กลายเป็นออกบอลพลาดหน้าเขตโทษตัวเอง เลโก้เก็บบอลได้ลากหนีแนวรับสามสี่คนเข้าไปถึงด้านในเขตโทษ ก่อนจ่ายบอลไปให้ลอนดอนได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ 1-0

_______ สกอร์ขยับแต่เกมไม่เปลี่ยน WBA ยังปล่อยให้ลิเวอร์พูลเคาะบอลกลางสนามเหมือนเดิม ส่วนทางลิเวอร์พูลเองคู่กลางอย่างสจ๊วตกับบรานาแกนเอาบอลขึ้นหน้าไม่ได้เลย อัลเลนต้องลงมาล้วงบอลบ่อย ทำให้ข้างหน้าก็พลอยไม่มีคนเข้าให้อีก ต้องรอจนกระทั่งไอบ์องค์ลงในนาที 23 จากริมเส้นฝั่งขวาในแดนตัวเอง ไอบ์ปล่อยบอลไหลแล้ววิ่งไปเล่นต่อเอง ลากยาวจากครึ่งสนามไปถึงเขตโทษ เบนเทเก้วิ่งทำทางดึงตัวประกบออกด้านนอก ให้ไอบ์ตัดเข้าในเข้าไปยิงได้สำเร็จ 1-1

_______ ยิ่งเล่น WBA ยิ่งรับต่ำ เข้าบอลหนักเป็นระยะ นานๆ ก็เอาบอลขึ้นมาเล่นฉาบฉวยสักที ลิเวอร์พูลครองบอลอยู่แทบจะฝ่ายเดียว ในวงเล็บบอลส่วนใหญ่วนๆ อยู่แถวงกลมกลางสนามนั่นแหล่ะ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-1

_______ เข้าครึ่งหลัง ทั้งสองทีมกลับลงมาเล่นเร็วเล่นดุขึ้นกว่าเดิม วิ่งไล่เข้าหาบอลกันเยอะขึ้น ลิเวอร์พูลดันแผงหลังสูงขึ้นและเน้นจ่ายบอลขึ้นหน้าเร็วกว่าเดิม ช่วงต้นเกมครึ่งหลังนี้พอเล่นเร็วต่อเร็วแล้วลิเวอร์พูลดูดีขึ้นและดูดีกว่าคู่ต่อสู้ แต่จังหวะสุดท้ายยังต่อกันไม่ติด เรื่องยิงไม่ต้องไปพูดถึง

_______ เล่นไปได้สักสิบนาทีลิเวอร์พูลก็เริ่มครองเกมไม่อยู่ บอลยังพยายามเอาขึ้นหน้าแต่ความผิดพลาดมากขึ้น กลับกันกับทาง WBA ที่ได้บอลแล้วกล้าเติมกันขึ้นมาเล่นมากขึ้นไม่เหมือนครึ่งแรกที่แทบไม่เติมขึ้นมาเลย ทำให้ WBA เริ่มได้บุกต่อเนื่องบ้าง บอลเข้าทำพวกเขาไม่ถึงกับดีนัก อาศัยว่าแนวรับลิเวอร์พูลสกัดกันไม่ค่อยขาดเลยพอได้ลุ้นประตูบ้างนิดๆ หน่อยๆ

_______ นาที 64 อิ้งค์กับเฮนเดอร์สันได้ลงแทนไอบ์กับอัลเลนตามตำแหน่ง จากตรงนี้ไปเกมของทั้งสองทีมไม่ค่อยไปไหน คือลิเวอร์พูลได้ครองบอลเยอะจริงแต่รุกไม่ได้ลุ้น ทำไม่ได้แม้แต่พาบอลเข้าไปประชิดเขตโทษ ส่วนทาง WBA เล่นไปเล่นมาก็ถอยไปรับ จังหวะได้บอลเลยเปลี่ยนรับเป็นรุกลำบาก จะโต้ยาวรวดเดียวก็ไม่ได้ผล บอลเลยไล่กันไปสกัดกันมาอยู่แถวกลางสนามเป็นส่วนใหญ่

_______ นาที 80 กายอสได้ลงแทนโอโจ้เป็นคนสุดท้าย เวลาที่เหลืออยู่ลิเวอร์พูลได้แต่เปิดบอลสะเปะสะปะเข้าไปลุ้นได้บ้างแต่รูปทรงองค์เอวอะไรไม่มีแล้ว เช่นเดียวกับ WBA ที่ได้ลุ้นประตูอยู่บ้างจากการสกัดบอลไม่ขาดของแนวรับแทนที่จะเป็นการทำเกมหรือเปิดบอลชนะแนวรับเข้าไปลุ้น ทำให้จบเกมเสมอกันไปแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น 1-1
-----------------------------------------

_______ เกมในสนามอาจไม่ดีนัก แต่ดาวรุ่งกับตัวสำรองถือว่าเล่นพอใช้ได้อยู่ การจัดทีมและเปลี่ยนตัวของคล็อปก็จัดมาเพื่อนการนี้โดยเฉพาะ ไม่ได้เน้นเกมในสนาม อย่างน้อยก็ได้เห็นว่าดาวรุ่งแต่ละคนยังมีอะไรที่ทำได้ดีและส่วนไหนที่ควรปรับปรุงอีกบ้าง

_______ นัดนี้ปัญหาใหญ่สุดของทีมน่าจะเป็นคู่กลาง สจ๊วตกับบรานาแกน นี่ล่ะ ในเกมรับพวกเขาเล่นไม่แย่ ไม่หลุดตำแหน่ง บอลจ่ายมาไม่ดีจริงก็ดักได้ แต่ทั้งคู่มีปัญหามากกับการเชื่อมเกม(ไปข้างหน้าไม่ได้เลย), เปลี่ยนรับเป็นรุก(ช้ามาก), ออกบอล/เติมเกมรุก(ไม่มีเลย)

_______ หลายจังหวะ ขอแค่กล้าส่งบอลขึ้นหน้าหรือแตะบอลขึ้นหน้า ทีมก็รุกพรวดถึงหน้าประตูคู่ต่อสู้ได้แล้ว และอีกหลายครั้งที่คู่ต่อสู้ไล่เข้ามาจริงแต่ยังห่างตัวอยู่หลายก้าว พวกเขากลับจ่ายหนีออกข้างอย่างเร็ว ยิ่งไปรวมเข้ากับการไม่สามารถออกบอลยาวหรือบอลเปลี่ยนแกนได้เลยยิ่งไปกันใหญ่ ถึงจะเล่นแทบไม่พลาดเลย จ่ายบอลแทบไม่เสียเลย แต่บอลมันก็วนอยู่แค่นั้นล่ะ

_______ ส่วนเกมรุกแดนหน้า เอ้อ...เบนเทเก้ยิ่งดูยิ่งน่างสาน สิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดในนัดนี้คือการค้ำกองหลัง จับบอลที่จ่ายยัดมาให้ที่ตัวแล้วแตะออกข้างให้ตัวเติมหรือชิ่งคืนให้เพื่อนได้เล่นต่อ แต่บอลที่เขาได้ส่วนใหญ่ในนัดนี้คือ...บอลตามช่อง

_______ บอลที่ให้ไปแล้วก็ไม่ได้คืน บอลเปิดจากริมเส้นที่มีไม่มากนัก เปิดมาแต่ละครั้งที่ก็อยากจะถามคนเปิดว่าพี่จะเปิดให้ไลน์แมนโหม่งกันเหรอครับ

_______ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวมีความมุ่งมั่น แต่ผมยังนึกไม่ออกว่าฤดูกาลหน้าเบนเทเก้จะอยู่ต่อโดยที่แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย คือคนเล่นได้ลงสนามด้วยและทีมได้ประโยชน์ด้วยนี่มันจะเป็นไปได้ยังไง

_______ นอกจากเรื่องการให้โอกาสดาวรุ่ง ซึ่งให้กันไปเต็มๆ แล้ว นัดนี้ยังมีการกลับมาของเฮนเดอร์สันที่ดูแล้วสภาพร่างกายพอเล่นได้อย่างน้อยๆ ครึ่งชั่วโมงสบายๆ ล่ะ ซึ่งเป็นผลดีกับเกมนัดชิงยูโรป้าแน่ๆ เพราะคล็อปจะมีทางเลือกมากขึ้น ซึ่งถ้าสภาพร่างกายของเฮนเดอร์สันพร้อมเล่นได้สักชั่วโมงนึง ผมว่าคล็อปอาจจะส่งลงเป็นตัวจริงเลยด้วยซ้ำ

_______ มารอลุ้น นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2015-2016 กันครับ ว่าจะเริ่มแบบไหน และจบแบบไหน

-----------------------------------------

นัดนี้เล่นไม่ดีนัก

บ็อกดาน - ออกบอลเร็วดี แม่นใช้ได้ แต่ลูกที่เสียไปนี่ใช้ไม่ได้ คือในฐานะผู้รักษาประตูเนี่ย เซฟลูกยิงไม่ได้ยังไม่เท่าไหร่ แต่ปิดเสาแรกหลวมแบบนี้ไม่ได้ มินโยเล่ในวันที่โดนยิงไส้แตกยังไม่ปิดเสาแรกหลวมขนาดนี้เลย

สมิธ - เกมรับพัฒนาขึ้นมาบ้างแล้ว รักษาพื้นที่ได้ดีขึ้น(แต่ไม่ใช่ดีแล้ว) เข้าบอลพรวดพราดไปแต่ถือว่าสกัดได้แม่นทีเดียว ที่ไม่ค่อยกระเตื้องคือการปิดบอลโยน ที่แย่กว่าการปิดบอลโยนคือการเชื่อมเกม...ที่ช่วยอะไรทีมไม่ได้เลย

ลูคัส - มีส่วนพลาดจังหวะเสียประตู พยายามช่วยเชื่อมบอลจากหลังไปหน้าก็ทำไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ ทำได้ดีในเรื่องการรักษาพื้นที่ตัวเองและการเข้าซ้อนสกัดหรือซ้อนเก็บบอลที่ทำได้ต่อเนื่อง

สเคอเทล - ครึ่งแรกยังเล่นไม่ดีนัก ประกบห่าง วิ่งถอยหลังแทนที่จะวิ่งหาบอล แต่ครึ่งหลังประกบกองหน้าได้ดีขึ้น เล่นลูกกลางอากาศพลาดอยู่บ้างแต่ถือว่าทำได้ดีสุดในแผงหลังแล้ว ที่ดูไม่จืดคือการเคลียร์บอล วันนี้เคลียร์ไม่ไปไหนหลายหนเกินไป

ฟลานาแกน -  เกมรับเข้าบอลได้ฟลานาแกนมาก คือผลลัพธ์มีแค่สองอย่างหนึ่งคือเสียทุ่มสองคือโดนใบเหลือง จะโหดไปไหน หลายจังหวะแค่ประคองไปก็เหลือแหล่แล้ว ส่วนการเชื่อมเกมทำดีกว่าสมิธ ที่จริงการอ่านเกมและการตัดสินใจในเรื่องเชื่อมเกม ฟลานาแกนอ่านเกมดีกว่าทั้ง สมิธ+ลูคัส+สจ๊วต+บรานาแกน เลยด้วย มีบอลจ่ายสวนตัวไล่, แตะหลบขึ้นหน้าพาหลุดทั้งยวง แต่เสียดายที่ความสามารถไม่ถึง ออกบอลพลาดเยอะ

สจ๊วต&บรานาแกน - อ่านด้านบนนู๊น~ ได้เลย

ไอบ์ - ต่อให้ไม่นับประตูที่ทำได้ เขาก็เล่นบอลเป็นประโยชน์กับทีมมากกว่าโอโจ้ชัดเจน หาที่ว่างรับบอลเก่งกว่า เก็บบอลดีกว่า ประตูที่ทำได้ก็จัดว่าทำได้ดีมากตั้งแต่จังหวะปล่อยบอลไหลแล้ว แต่ยิ่งเล่นยิ่งหายไปจากเกม ยังไม่นับว่าการไล่บอลทำได้ไม่ดีเลย ไม่ใช่ไม่ไล่ แต่ไล่ไม่เก่ง ไล่ไม่บีบให้คู่ต่อสู้ออกบอลยาก

โอโจ้ - เชื่อมเกมได้ประมาณนึง โดนแซะบอลง่ายไปนิด ประสิทธิภาพไม่ค่อยคงเส้นคงวา บางทีก็กระชากไปได้ บางทีก็ทำเสียง่ายๆ ไล่บอลได้ไม่ต่างกับไอบ์

อัลเลน - ยืนสูงกว่าสองดาวรุ่งนั่นก็จริงแต่ก็ไม่สูงเท่าเฟอมิโน่เวลาเล่นในแทคติคเดียวกันนี้ โดนเด็กถ่วงนั่นก็ส่วนนึง แต่อีกส่วน อัลเลนเองก็ไม่มีบอลยาวหรือการพาบอลไปเองด้วย เล่นได้แต่บอลชิ่งกับบอลให้แล้วไป พอเพื่อนชิ่งขึ้นหน้าไม่เป็นแบบนัดนี้ อัลเลนก็พลอยทำอะไรไม่ค่อยได้ไปด้วย

เบนเทเก้ - ….น้ำตาจะไหล อยากส่งเขาไปให้บิลิชปั้นเหลือเกิน ...เสียดายของ

ตัวสำรอง

อิ้งค์ - วิ่งได้คล่องตัว สปีดมี กล้าปั้มบอลด้วยไม่ค่อยแหยง แต่ประสิทธิภาพก็อย่าพึ่งไปหวังอะไรเลย

เฮนเดอร์สัน - ลงไปเหมือนเล่นเรียกจังหวะเฉยๆ ไม่ค่อยเสี่ยงทำอะไรยาก นับเฉพาะเกมนี้อย่างเดียวลงไปได้เสียของมาก ฟอร์มแย่กว่าอัลเลนอีก แต่ถ้าดูว่าเป้าหมายคือลงไปเรียกจังหวะเฉยๆ ก็ถือว่าโอเค จับบอล วิ่ง จ่ายเคาะต่อได้ไหลลื่น

กายอส - ได้ลงเป็นโบนัสเฉยๆ ไม่ได้เน้นอะไร ได้บอลน้อยมากด้วย

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...โจ อัลเลน…ในนัดที่หาคนเล่นเป็นสัปปะรดได้อย่างยิ่งแบบนี้ ขอยกเครดิตให้กับคนที่มีส่วนร่วมกับเกมมากที่สุดก็แล้วกัน อัลเลนช่วยทั้งรับทั้งรุกและแทบจะเป็นคนเดียวในแดนกลางที่เอาบอลขึ้นไปข้างหน้าให้กับทีมได้ ไอบ์ทำประตูได้ก็จริงแต่มีส่วนร่วมกับเกมน้อยกว่ากันมาก
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น