วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 1-1 รูบิน คาซาน (ยูโรป้า)

.

..โซโล่อย่างเดียว...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 4-3-3

---------------------------โอริกิ-------------------------
------------คูตินโย่-----------------ลัลลาน่า-----------
------------ชาน---------อัลเลน---------มิลเนอร์------
โมเรโน่---------ซาโก้---------สเคอเทล-------ไคลน์
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลได้เล่นเกมยูโรป้าในแอนฟิลด์ซึ่งถือเป็นเกมแรกในบ้านของคล็อปด้วย นัดนี้มีการเปลี่ยนแปลงแค่ตำแหน่งเดียวจากนัดก่อนคืออัลเลนได้ลงแทนลูคัส นอกนั้นยังใช้ชุดเดิมที่เพิ่มเติมเข้ามาคือเบนเทเก้กับฟีมีโน่มีรายชื่อในม้านั่งสำรองแล้ว
-------------------------------------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเน้นเกมรุกตั้งแต่ต้น เน้นรุกทางฝั่งขวาเต็มที่ ไล่บอลสูง ดันแผงกลางและหลังขึ้นสูง ส่วนทางคาซานเน้นคุมพื้นที่ในแดนกลางสลับไล่สูงเป็นบางครั้ง จังหวะได้บอลก็เติมกันขึ้นมาเล่นเกมรุกเหมือนกันไม่ได้เน้นรับเต็มตัว

________ เกมรุกทางฝั่งขวาของลิเวอร์พูลทำงานได้ไหลลื่น บอลไปสุดเส้นบ่อยและได้เปิดบอลเข้าทำด้วยแต่ยังไม่แม่น ส่วนทางคาซานที่รูปเกมเป็นรอง ครองบอลน้อยกว่ากลับมาได้ประตูนำก่อนซะอย่างนั้นในนาที 15 จากจังหวะตักบอลโด่งเข้าเขตโทษจากกลางสนาม แนวรับลิเวอร์พูลพลาด ไคลน์ที่หุบเข้ามาช่วยประกบกองหน้าไม่ดี ส่วนสเคอเทลที่ตามตำแหน่งเป็นพื้นที่ของเขาควรทำอะไรได้ดีกว่านั้นก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากยืนดู เดวิดเอาบอลลงได้นิ่มแล้วยิงเข้าไปไม่พลาด 1-0

_______ พอสกอร์ขยับ คาซานเล่นกันได้ดีขึ้นไปอีก ต่อบอลกันแม่น ถึงแม้จังหวะเข้าทำจะหาไม่ได้ เจาะไม่เข้า แต่จังหวะครองบอลก็เหนียวแน่นไม่เสียง่าย ทางด้านลิเวอร์พูลยังครองบอลเยอะอยู่ พาไปข้างหน้าได้เร็วอยู่ แต่จังหวะไหนพลาดโดนตัดหรือว่ากองหลังคาซานเก็บบอลได้ จะโดนคาซานโต้เร็วขึ้นมายันหน้าเขตโทษตัวเองตลอดเหมือนกัน

_______ เวลาผ่านไปจนถึงช่วงกลางครึ่งแรก เกมรุกของลิเวอร์พูลเร่ิ่มแผ่วลงบ้างแล้ว และคาซานเริ่มหาจังหวะเปิดบอลเข้าไปได้บ้าง แต่คาซานก็มาแจกของขวัญให้เจ้าบ้านด้วยการต่อให้คนนึง นาที 36 กุสมิน กองหลังของคาซานเข้าไปขวางชานที่พาบอลจี้ขึ้นหน้าในจังหวะรุกเร็วโดนใบเหลืองที่สอง (ใบแรกโดนเพราะเข้าบอลสไตล์คุเนโอะฟุตบอลใส่โมเรโน่) ทั้งๆ ในทีมคาซานมีกุสมินนี่แหล่ะที่ติดใบเหลืองอยู่คนเดียว ณ นาทีนั้น

_______ เท่านั้นยังไม่จุใจ ของขวัญต่อที่สอง จากฟรีคิกจังหวะนี้เอง คูตินโย่เปิดฟรีคิกเข้าไปเสาสองให้โอริกี้ขึ้นโหม่งผิด..เอ้ย...โหม่งชงย้อนกลับมาให้ชานได้ยิงชาร์จโล่งๆ สามสี่หลาที่เสาแรก คาซานไส้แตกกันไป 1-1

_______ คาซานโดนตีเสมอแล้ว ตัวเหลือน้อยกว่าแล้ว ถอยลงไปอุดทันทีไม่มีพิธีรีตรอง ส่วนลิเวอร์พูลก็เดินหน้าฆ่ามันใส่ทันทีแต่ยังทำอะไรไม่ได้ ครึ่งหลังค่อยมาว่ากันต่อ ครึ่งแรกจบที่ 1-1

_______ เข้าครึี่งหลัง ลูคัสได้ลงมาแทนอัลเลนทันที เกมรุกยังคงเน้นทางขวาต่อ ส่วนคาซานลงมาอุด อุดแบบเอาตัวรอดไปเป็นนาทีๆ ไปไม่ได้เหลือเผือใจไว้โต้ใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ลิเวอร์พูลที่ตั้งใจลงมารุกอยู่แล้วยิ่งครองบอลง่าย ดันสูงง่าย หลายจังหวะคู่เซ็นเตอร์ยืนล้ำเลยวงกลมกลางสนามของแดนคาซานเลยด้วยซ้ำ บุกกดดันได้อย่างต่อเนื่อง

_______ ...แต่ไม่มีประตู...

_______ คาซานเล่นเกมรับในพื้นที่สุดท้ายได้ดี ลิเวอร์พูลทำได้แค่เปิดเข้าไปลุ้นแต่เอาชนะแนวรับไม่ได้ แม้พยายามจะเล่นให้เร็ว - ครึ่งแรกก็เร็วโคตรๆ อยู่แล้วนะ - พยายามเปิดตั้งแต่จังหวะแรกไม่ยึกยักนานเวลาบอลไปใกล้เขตโทษแต่ก็ยังเจาะไม่ผ่านแนวรับอยู่ดี

_______ นาที 65 เบนเทเก้ได้ลงมาสนามมาแทนคูตินโย่ ลิเวอร์พูลโหมเกมรุกต่อ จังหวะหาช่องเข้าทำไม่ได้ก็โยนยัดใส่เบนเทเก้ไปเลยง่ายดีแต่กองหลังก็ประกบเบนเทเก้ได้เหนียวแน่นและการเปิดบอลเข้าทำทั้งจากไคลน์ โมเรโน่ มิลเนอร์ ก็ยังไม่ค่อยจะแม่นด้วย

_______ ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลเน้นการเปิดบอลจากด้านข้างเต็มที่เพราะเจาะตรงกลางไม่เข้า มิลเนอร์ไปโยนจากขวา ไคลน์ลอยสูงขึ้นมาคารอโยนอยู่กลางแดนคาซาน ลัลลาน่าสลับไปขึ้นซ้าย -แต่ไม่ค่อยโยนเอง จะปล่อยให้โมเรโน่โยนไปก็เคาะกลับเข้ากลาง- บอลเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา

_______ ...แต่ไม่มีประตู…

_______ นาที 74 ฟีมีโน่ได้ลงแทนโอริกิที่แฟนบอลแทบไม่รู้ว่าอยู่ในสนาม ลิเวอร์พูลดันสุดตัว ครับ...อ่านถึงตรงนี้ไม่ต้องงงๆ ว่ามันจะดันจะเร่งจะโหมอะไรกันได้บ่อยๆ ถ้าได้ดูจริงๆ จะเห็นว่าเร่งขึ้นจริง บอลไปข้างหน้าตลอด ถึงตรงนี้เล่นเหมือนนัดชิงบอลโลกเหลือนาทีสุดท้ายแล้วสกอร์ตามหลังอยู่ลูกเดียวอย่างไรอย่างนั้นเลย

_______ ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุมเยอะมาก ได้ยิงแถวสองเยอะมากทั้งจากการพาขึ้นมาเองและการเก็บตกจากลูกเตะมุม ยิงจนเหนื่อย เปิดจนล้า ถ้าความพยายามเปิดหรือยิงหนึ่งครั้งได้แสตมป์เซเว่นหนึ่งดวง จบเกมน่าจะแลกเก้าอี้โดเรม่อนได้สักตัวสองตัว แต่สุดท้ายก็ทำอะไรคาซานไม่ได้จริงๆ ดีที่สุดคือลูกยิงชนเสาของเบนเทเก้ในนาที 80

_______ ทางคาซานเองอุดมาได้ตลอดรอดฝั่ง ท้ายเกมมามีลุ้นนิดๆ จากลูกเตะมุมที่ได้โหม่งโล่งๆ แต่ดันหลุดกรอบไปเอง สุดท้ายเอาตัวรอดไปได้สำเร็จ 1-1

-----------------------------------------

_______ โอ้โห อะไรจะเร่งเกมกันขนาดนั้น~ ดูแล้วจะเป็นลมแทน

_______ 11 ตัวจริงผมชอบมากกับการเปลี่ยนทีมน้อย มันจำเป็นที่ทีมที่เริ่มสร้างกันใหม่ต้องเปลี่ยนให้น้อยเพื่อให้เล่นเข้ากันได้เร็วที่สุด อันที่จริงคล็อปไม่ได้ทำอะไรมากนักนอกจากส่งทุกคนลงเล่นตามตำแหน่งนั่นแหล่ะ แต่พอมองย้อนไปเทียบกับวอลโดมอร์แล้วเลยกลายเป็นเรื่องแปลกตาซะงั้นที่ทำอะไรแบบนี้

_______ การเปลี่ยนตัวนัดนี้ชวนให้งงอยู่พอควร อัลเลนเล่นไม่ดีเท่าไหร่ในครึ่งแรกแต่จะคาดหวังอะไรกับคนไม่ค่อยได้ลงสนามแล้วพึ่งได้เป็นตัวจริง สงสัยว่าจะเจ็บหรืออะไรยังไงหรือเปล่าเพราะเปลี่ยนเร็วมาก การส่งเบนเทเก้ลงมาแทนคูตินโย่คิดได้อย่างเดียวว่าเค้าเลือกซื้อโอริกิมากกว่าคูตินโย่ ในแง่ว่ามีกองหน้าคู่ผมันก็ดูดีนะ สะใจเลยแหล่ะ เพราะจังหวะได้เปรียบขนาดนี้จะมาเปลี่ยนกองหน้าตามตำแหน่งโกรธกันตาย แถมคูตินโย่ยิงบอลทิ้งขว้างรัวๆ ด้วย แต่ถ้ามองว่า เอ่อ.. เลือกโอริกิก่อนคูตินโย่...จริงดิ? แล้วสุดท้ายก็ต้องเอาออกอยู่ดี

_______ โดยภาพรวม ลิเวอร์พูลยังตั้งหลักกันไม่ค่อยได้กับแทคติคใหม่ 11 ตัวจริงชุดใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าอยู่ดีๆ มาเปลี่ยนผู้จัดการทีมกันกลางฤดูมันปรับตัวกันไม่ได้ง่ายๆ หรอก การเข้าไล่บีบเร็วที่ถือว่าเป็นอาวุธหลักของคล็อป ทีมยังวิ่งกันได้ดี ทำได้ดีกว่านัดก่อนในแง่ของการสลับตำแหน่งแทนเวลาไล่บอล และจังหวะที่ไม่ควรไล่มั่วก็มีให้เห็นน้อยลงมาก แต่การไล่เป็นทีมยังมีให้เห็นไม่มากนักเช่นเดียวกับนัดก่อน อันนี้่ต้องอาศัยเวลาอย่างเดียวเลยครับ ซ้อมแล้วก็ซ้อม จะไปหวังให้เข้าใจกันทันทีมันคงยาก ทีมเดิมจริงแต่วิธีเล่นเปลี่ยนเยอะนะ อย่าว่าแต่ทีมเดิมแต่ 11 ตัวจริงเปลี่ยน(จากตอนต้นฤดู)เยอะมากทีเดียว

_______ ในเกมรุก การเก็บบอลและหาช่องรับส่งต่อบอลจากหลังไปหน้าทำได้ดีทีเดียว ทำได้เร็ว ไปถึงเขตโทษ/สุดเส้น แต่ปัญหาใหญ่เลยคือทำประตูไม่ได้ คือไม่ใช่แค่ยิงไม่ได้แต่ถ้าใครได้ดูจะเห็นว่าหลายครั้งมันเป็นการยิงแบบไร้คุณภาพไปหน่อยถ้าเทียบกับโอกาสที่สร้างขึ้น เกมรุกเจาะตรงกลางดับสนิท ด้วยความที่เน้นเกมเร็วมันเป็นปกติอยู่ที่จะต้องเล่นบอลจังหวะเดียวให้มาก แต่ความเข้าใจซึ่งกันและกันของผู้เล่นถือว่าน้อยมาก ทำให้จังหวะเข้าทำที่มันต้องเป๊ะจริงๆ ถึงจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้มันไม่เกิดขึ้น

_______ ส่วนเกมรับ อันนี้ง่อย ง่อยมากครับ ระเบียบแนวรับช่วงนี้ถือว่าแย่มาก สเคอเทลดฟอร์มหลุดมาก และช่องระหว่างสเคอเทลกับไคลน์นี่มีปัญหาพอควรเลย ลูกที่เสียไปนี่เป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นทีมฟุตบอลระดับได้มาเล่นยูโรป้าเลยให้ตาย ส่วนไฮไลท์ความง่อยยังคงอยู่ที่ลูกตั้งเตะที่ช่องเยอะเหลือเกิน ประกบไม่ดีเลย

_______ ตลกร้ายตรงที่ลูกตั้งเตะของลิเวอร์พูลเองรู้สึกจะดูดีขึ้นเยอะ คือนอกจากประตูที่ได้แล้ว ถ้าใครได้ดูในเกม (หาดูไฮไลท์ก็น่าจะเห็นเยอะอยู่ นัดนี้ไฮไลท์น่าจะตัดจากจังหวะเตะมุมบ่อย) จะเห็นว่าทีมมีการเล่นเตะมุมลูกเรียดกับลูกสั้นบ่อยครั้งและกดดันได้จริง รวมไปถึงบอลแถวสองที่เก็บตกและยิงสวนแบบได้ลุ้นบ่อยอยู่

_______ ที่ผมชอบสำหรับนัดนี้อยู่ที่แดนกลางสามคนที่ทีมเปลี่ยนวิธีการเล่นไปแล้ว แต่ก่อนถ้าเล่นกลางสนามจะห้อยใครไว้ต่ำคนนึง อีกสองคนยืนสูง หรือถ้าจังหวะจะรับ/เจอเกมที่จะเน้นรับก็สลับสามเหลี่ยมเอาไปยืนต่ำสองคน แต่นัดนี้รวมถึงนัดก่อนกลางสามคนของทีมตอนนี้ยืนระนาบเดียวกันหมด ผลัดกันขึ้นลงแล้วแต่ว่าบอลขึ้นทางไหน ซึ่งดูจะเหมาะกับกองกลางพันธุ์เป็ด (ไม่ได้ด่านะ ตั้งใจจะหมายถึง All Round - ทำได้ทุกอย่างแต่ไม่เด่นสักอย่าง) ที่มีอยู่เต็มทีมไม่ว่าจะชาน มิลเนอร์ อัลเลน เฮนเดอร์สัน จะรวมลูคัสด้วยก็ยังได้ ซึ่งถ้าได้ตัวหลักชัดๆ แล้วเข้าขากันกว่านี้ ทีมคงจะบุกตรงกลางได้มีพลังขึ้นและสามารถจัดการเกมโต้กลับได้เป็นสัปปะรดกว่านี้

_______ เกมของคล็อปผ่านมาสองนัดมีแต่เร็วมากกับเร็วมากๆ ดูแล้วรู้สึกเหมือนฟังท่อนโซโล่ของเพลงเฮฟวี่ฯ ถามว่ามันมั้ย? มันมากครับ สะใจสัสๆ (ขออภัยต้องใช้คำนี้) ถ้าจุดประสงค์คือการเรียกศรัทธาแฟนบอลหรือกระตุ้นลูกทีมให้กลับมาสวมวิญญาณเพชรฆาตไล่ฉีกกระชากแนวรับเป็นริ้วๆ ไม่ใช่เล่นเป็นเป็ดติดไข้หวัดนกอยู่ในแดนตัวเองเหมือนต้นฤดูฯ ก็ถือว่าคล็อปมาถูกทางแล้วครับ

_______ ...แต่อีกนิดเดียวจากสะใจจะกลายเป็นหนวกหูแล้วเพราะไม่มีผ่อน ไม่มีเมโลดี้อื่นใดมาขั้นเลย ระยะยาวเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่เพราะนอกจากผู้เล่นจะเหนื่อยกายมากๆ แล้วจะเหนื่อยใจเอาด้วยที่พยายามขนาดนี้ยังไม่ชนะ ยังไงก็เอาใจช่วยให้ชนะประเดิมให้ได้ก่อนสักนัดแล้วเราคงได้เห็นจังหวะแบบอื่นกันบ้าง
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้

มินโยเล่ - แทบไม่ได้เล่น จังหวะโดนยิงก็โดนล่อเป้าซะขนาดนั้น นอกเหนือจากจังหวะนั้นก็ไม่มีอะไรให้เซฟเพราะคาซานดันเหลือ 10 คนไปซะก่อน

โมเรโน่ - ต้นเกมยังอยู่แค่ครึ่งสนามเชื่อมเกมไปตามจังหวะ แต่พอคู่ต่อสู้เหลือสิบคนก็เติมสูงบ่อยขึ้น เปิดบอลได้แค่ลุ้น คือบอลเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้ ไม่ติดไม่ออก แต่ก็ไม่แม่นด้วยเช่นกัน เกมรับทำดีกับการวิ่งเบียดวิ่งไล่

ซาโก้  - ยิ่งเล่นยิ่งหล่อ นอกจากจะสกัดตัดบอลได้ดีแล้วยังเป็นวันที่เขาเก็บบอลเล่นได้เหนือชั้นมาก บางลูกแค่สกัดก็ยากแล้วแต่เขาโหม่งชงให้เพื่อนหรือพักหนีตัวไล่เอามาเล่นต่อเฉยเลย

สเคอเทล - ยิ่งเล่นยิ่งหลอน เข้าใจว่าอยู่ดีๆ ต้องดันสูงมาวิ่งแถววงกลมกลางสนามมันชวนหลอนสำหรับเซ็นเตอร์สไตล์มูนวอล์คทิ้งตัวสกัด แต่สเคอเทลควรทำดีกว่านี้ นัดนี้อ่านเกมพลาดบ่อยมาก เข้าถึงบอลช้า ยังดีที่คู่ต่อสู้เหลือสิบคนก็ไม่ได้บุกแล้ว ไม่งั้นละงานเข้า

ไคลน์ - มีส่วนพลาดในจังหวะเสียประตู นอกนั้นเกมรับก็แทบไม่ได้เล่นเพราะคาซานพาบอลมาไม่ถึงมุมธงเลย ขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมเติมเกมรุกได้ถึงสุดเส้น เปิดบอลได้ในระดับเดียวกับโมเรโน่แต่ได้เปิดบ่อยกว่า

อัลเลน - เคลื่อนที่ได้ดีมากทั้งวิ่งทำทางรับส่งต่อบอลและวิ่งไปปิดพื้นที่คู่ต่อสู้ เรื่องเชื่อมเกมไม่ต้องห่วง แต่สำหรับเกมรับแม้บอลไปถึงไหนอัลเลนจะไปถึงนั่น เสียอย่างเดียวคือไปถึงแล้ว...ตัดกลับมาไม่ได้ โดนกระชากไปเปิดมั่ง โดนบอลลอดขามั่ง โดนไหล่เบียดแล้วจ่ายหนีมั่ง

ชาน - ยังคงเล่นดีต่อเนื่อง พาบอลขึ้นหน้าได้ดี เชื่อมเกมได้เร็วขึ้นไม่คิดนาน มีส่วนร่วมกับจังหวะสุดท้ายมากขึ้นทั้งยิงทั้งจ่ายแม้จะยังไม่เด็ดขาดพอ เป็นที่เด็ดในการเล่นลูกกลางอากาศตอนฟรีคิกด้วย ในขณะที่เกมรับก็ตัดบอลได้เยอะ ชะลอคู่ต่อสู้ได้พอควร ถ้ายังรักษาฟอร์มแบบนี้ไว้ได้ก็เป็นตัวจริงได้ยาวล่ะ

คูตินโย่ - ถูกลดบทบาทจริงๆ นะ ไม่ได้คิดไปเอง คือบอลถูกกระจายไปทางอื่นมากขึ้นโดยเฉพาะชานกับมิลเนอร์ที่ได้บอลไม่น้อยกว่าคูตินโย่เลย นัดนี้เขาเปลี่ยนรับเป็นรุกดี ครึ่งแรกพลิกบอลสวยๆ จนสร้างโอกาสให้ทีมเกือบได้ยิงหลายครั้ง และตลอดเวลาที่อยู่ในสนามหาโอกาสยิงเองได้เยอะ แต่ยิงได้น่าผิดหวังโคตรๆ 5-6 ครั้งก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกไปในนาที 63

มิลเนอร์ - วิ่งไล่ได้พอใช้ เด่นตรงเรื่องเชื่อมเกมรุกฝั่งขวาร่วมกับไคลน์และลัลลาน่าได้อร่อยมาก จากหลังไปถึงเขตโทษคู่ต่อสู้นี่แปปเดียวไม่ค่อยพลาดด้วย ชิ่งและทำทางจนไม่ใครก็ใครได้หลุดไปเปิดหรือตัดเข้ากลางไปยิงก็บ่อย แต่กับจังหวะเปิดหรือยิงจริงๆ ก็ได้แต่รำพึงว่า...เชื่อมเกมอย่างเดียวเถอะครับคุณพี่

ลัลลาน่า - บอลไปข้างหน้าตลอด ขยันวิ่งทำทางและออกบอลเร็ว พาบอลจากกลางไปหน้าได้ดี แต่จากหน้าไปหาประตูนี่พังมาก ลุกลี้ลุกลนในพื้นที่สุดท้าย จริงอยู่ว่าคู่ต่อสู้รับดีและเข้ามาเร่งเร็ว แต่เห็นลัลลาน่าเล่นในเขตโทษแล้วชวนให้รู้สึกถึงเวลาตั้งกระทะร้อนๆ แล้วเผลอทำน้ำหยดใส่ลงไปทำนองนั้นเลย
โอริกิ - เก็บบอลใช้ได้ ส่งบอลต่อให้เพื่อนได้โอเคเลย เร็วและพาบอลหนีไปที่ว่างได้น่าพอใจไม่ยืนเป็นเป้านิ่ง แต่วิ่งทำทางได้พินาศราบพนาสูญมาก ไม่วิ่งบ้าง ไม่พร้อมบ้าง วิ่งไปหาตำแหน่งที่ไม่รู้วิ่งไปทำไมบ้าง(วิ่งไปหามุมแคบ/ตัวประกบ) ไม่เห็นโอริกิวิ่งไปในตำแหน่งที่ได้เปรียบเลยในเกมนี้

ตัวสำรอง

ลูคัส - ออกบอลไปริมเส้นได้ดีหลายครั้ง เชื่อมเกมได้เร็วดีไม่ม้วนไม่วนออกข้าง

เบนเทเก้ - จังหวะการเล่นยังต้องเคาะกันอีกนิด จังหวะต้องวัดใจคนจ่ายเพื่อเอาชนะกองหลัง...ผิดทางตลอด หาโอกาสจบสกอร์แบบน่าได้ 2 ครั้ง ครั้งแรกข้ามคาน ครั้งที่สองชนเสา

ฟีมีโน่ - เก็บบอลได้ดี พลิกบอลได้บ่อย แต่เจาะแนวรับไม่สำเร็จไม่ว่าจะเลี้ยงจี้หรือจ่ายตามช่อง

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...มามาดู ซาโก้…สงสัยเก็บกดที่ต้องนั่งสำรองตอนต้นฤดูมั้ง ยิ่งเล่นยิ่งดี
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น