วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 1-0 บอร์นมัท (ลีคคัพ)



...เกือบไปแล้วมั้ยนั่น...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

---------------------------โอริกิ-------------------------
-----เทเซเร่า-----------เฟอมิโน่------------------ไอบ์
--------------อัลเลน------------บรานาแกน-----------
ไคลน์---------ลอฟเรน----------ตูเร่----------แรนเดล
-------------------------บ็อกดาน------------------------

_______ ลิเวอร์พูลได้เล่นในบ้านต่อเนื่องอีกหนึ่งนัดในศึกแคปปิตอล วัน คัพ นัดนี้คล็อปเปลี่ยนยกแผง มีเพียงโคตรศูนย์หน้าผ่าดวงอำมหิต ใครคิดจะแย่งเขาเป็นตัวจริงมีอันต้องล้มหมอนนอนเสื่อทุกรายไปอย่างโอริกิที่ยังเป็นตัวจริงต่อเนื่องคนเดียวเท่านั้น
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาบอร์นมัทบุกใส่ทันที ส่วนผู้เล่นวัยละอ่อนของลิเวอร์พูลยังดูตื่นสนามและเล่นกันไม่ละเอียด ปล่อยให้บอร์มมัททำเกมรุกทางริมเส้นได้ไหลลื่น แค่นาที 4 บ็อกดานก็ต้องโชว์เซฟในจังหวะคู่ต่อสู้ได้ยิงเต็มข้อในเขตโทษแล้ว

________ เวลาผ่านไป ผู้เล่นลิเวอร์พูลเริ่มตั้งสติได้ แต่โดยรวมแล้วเกมยังสูสี เกมรุกไม่ต่อเนื่องทั้งคู่โดยเป็นบอร์นมัทที่ได้เปิดเยอะกว่าหน่อย วันนี้คล็อปขยับเอาเฟอมิโน่มาเล่นเป็นตัวรุกหลังโอริกิและเกมเจาะตรงกลางดูดีกว่าเกมริมเส้น

_______ นาที 17 จากจังหวะสกัดบอลทิ้งขึ้นหน้าของตูเร่ โอริกิ(หรือไอบ์ไม่แน่ใจ แต่คาดว่าเป็นโอริกิ ใครชัวร์ช่วยยืนยันด้วยครับ) เก็บบอลลงได้ก่อนกระชากไปทางริมเส้น ปล่อยบอลให้เฟอมิโน่ที่อยู่หน้าเขตโทษ เฟอมิโน่จ่ายทะลุให้เทเซร่าที่วิ่งสอดเข้าไปพอดี เทเซร่าหลุดแล้วแต่จังหวะจับบอลไม่ค่อยดี ถึงจะได้ยิงแต่ไม่เต็มข้อ บอลโดนกองหลังสกัดออกจากเส้น แต่เป็นอัศวินขี่ม้าขาวอย่างไคลน์ที่วันนี้เล่นฝั่งซ้าย เติมขึ้นมาซ้ำได้พอดีไม่พลาด 1-0

_______ หลังสกอร์ขยับ ผู้เล่นลิเวอร์พูลเล่นกันได้มั่นใจขึ้น ส่วนทางบอร์นมัทเกมรุกเริ่มซาลงไปจากช่วงต้นเกมแล้ว นาที 30 ตูเร่เจ็บจนสเคอเทลได้ลงแทน

_______ ช่วงกลางจนถึงนาที 40 เกมของลิเวอร์พูลผ่อนลงไปบ้าง แต่จังหวะตั้งเกมบุกก็ยังวิ่งเติมกันอยู่ ในขณะที่บอร์นมัทเกมรุกเริ่มไม่ค่อยถึงหน้าเขตโทษ ก่อนที่บอร์นมัทจะมาเร่งเกมและเป็นฝ่ายครองบอลได้ในช่วงห้านาทีท้ายแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง เกมโดยรวมช้าลง บอร์นมัทแม้จะตามอยู่แต่ยังไม่ได้รีบเร่งเกม ส่วนลิเวอร์พูลเล่นในจังหวะปกติมนุษย์กับเค้าบ้างแล้ว เน้นจังหวะฉาบฉวยตัดได้ทำเร็วเป็นหลักแต่ไม่ได้โหมเติมเกมรุกเท่าไหร่แล้ว แนวรับอยู่ด้านหลังกันครบ

_______ ช่วงต้นจนถึงกลางครึ่งหลัง เกมรุกของบอร์นมัทดูดับสนิทไปเลย บอลมาไม่ค่อยถึงด้านหน้า เกมรุกริมเส้นที่พยายามจะเน้นขึ้นทางไคลน์อยู่ทางเดียวก็แทบไม่ได้เปิดบอลเพราะไคลน์ไม่ได้เติมขึ้นหน้า แถมยังมีอัลเลนคอยมาช่วยปิดพื้นที่อีกคนด้วย ส่วนทางลิเวอร์พูลเน้นบอลฉาบฉวยและไล่แซะบอลแดนกลางได้หน้าจนเก็บเอาไปลุ้นได้ถึงจังหวะเปิดบอลหลายครั้งแต่ยังทำเพิ่มไม่ได้

_______ นาที 65 ลูคัสแทนบรานาแกน ถึงตรงนี้เกมยังเป็นเหมือนย่อหน้าข้างบน แต่ลิเวอร์พูลเริ่มได้ครองบอลเยอะขึ้นเรื่อยๆ

_______ เข้าสิบห้านาทีสุดท้ายของเกม ลิเวอร์พูลหันมาเน้นครองบอล เคาะบอลในแดนตัวเองมากขึ้น เป็นฝ่ายคุมเกมเอาไว้ได้หมด นาที 87 ลัลลาน่าได้ลงแทนเฟอมิโน่ เกมทำท่าจะจบลงแบบไม่มีอะไรต้องลุ้นแล้ว แต่ทดเจ็บนาทีแรกบอร์นมัทยังอุตส่าห์พาบอลหลุดเข้ามาล่อเป้าในเขตโทษ ยังดีว่าได้พระเอกคนเดิมอย่างบ็อกดานเซฟเอาไว้ได้ ทำให้จบเกมลิเวอร์พูลเฉือนชนะไปได้ 1-0
-----------------------------------------

_______ ก่อนเกมเห็นข่าวเบนเทเก้เจ็บ แถมด้วยการใช้ผู้เล่นชุดเดียวชุดเดิมมาสามนัดติดแล้ว ก็ทำใจไว้บ้างว่าจะเห็นดาวรุ่งกับตัวสำรองลงมาให้รึ่ม ...แต่พอเห็น 11 ตัวจริงแล้วสตั๊นไปหลายวิอยู่ เอางี้เลยเหรอครับคล็อป

_______ ไม่รู้จะเรียกใจถึงดีหรือว่าประมาทดีกับการส่งเด็กลงมาเผ่นผ่านทั่วสนามซะขนาดนี้ แถมซีเนียร์ที่ได้ลงนี่ก็ตัวสำรองล้วนๆ โหดสัสที่สุดคือการโยกไคลน์ไปซ้ายแล้วเอาแรนเดลลงขวา คือกล้ามากครับ มากไปด้วยมั้งเนี่ย ทีมได้เล่นในบ้าน และบอร์นมัทอาจไม่ใช่ทีมแข็งแกร่งอะไรนัก แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ทีมลีคทูนะ

_______ เอาล่ะ แต่ถ้ามองในแง่ดี อาจจะด้วยความที่ไม่มีซีเนียร์มาเกะกะ ส่งผลให้เด็กทุกคน(ย้ำว่าทุกคน)กล้าเล่นมาก คือบางจังหวะก็กล้าแบบน่าตบกะโหลกแหล่ะครับถ้าจะว่ากันตรงๆ แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่น่าชื่นชมทั้งไอเดียและประสิทธิภาพ

_______ โชคดีมากๆ สำหรับเกมนี้ที่ทีมทำประตูได้เร็ว ไม่งั้นล่ะไม่อยากจะนึกภาพเลย แต่อย่างไรก็ตาม โชคไม่ได้เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้กองทัพดาวรุ่งเอาตัวรอดมาได้ ผมชอบไอเดียการเอาเฟอมิโน่ไปเล่นใกล้โอริกิมาก ในเกมโดยเฉพาะครึ่งแรกจะเห็นว่าเฟอมิโน่นี่แทบจะยืนเหยียบเงาโอริกิเอาไว้เลยครับ ส่วนครึ่งหลังนี่ลอยขึ้นไปแบบเรียกว่าเล่นหน้าคู่ก็ยังได้ ซึ่งมันส่งผลดีต่อโอริกิเองด้วยและที่สำคัญคือดีต่อทีมด้วย บอลในแดนหน้าเราตายยากขึ้นในนัดนี้
_______ ถัดมาก็เรื่องการปิดเกมคู่ต่อสู้ วันนี้ทำได้ดีกับการปิดเกมริมเส้นบอร์นมัทครับ อย่าว่าแต่จะเปิดบอลเข้ามาได้ลุ้นเลย เอาแค่เปิดบอลเข้ามาบอร์นมัทยังแทบไม่มีโอกาส ครึ่งแรกยังเห็นว่าบุกสองฝั่งแล้วแรนเดลก็ดูมีปัญหา แต่ครึ่งหลังไม่ค่อยเข้าใจที่บอร์นมัทเน้นเจาะแต่ฝั่งไคลน์ซึ่งมันไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่

_______ อย่างไรก็ตาม วันนี้บ็อกดานได้เซฟเยอะกว่าผู้รักษาประตูคู่ต่อสู้อีกนะ เกมรุกบอร์นมัทไม่ต่อเนื่องก็จริง ลิเวอร์พูลคุมเกมได้ดีกว่าก็จริง แต่จังหวะขาดเกินนิดหน่อยนี่มีเยอะทีเดียว จังหวะแบบแตะยาวไปนิด จ่ายพลาดไปหน่อย ที่ทำให้คู่ต่อสู้ได้มีโอกาสเก็บบอลมาลุ้นประตูได้เป็นระยะทั้งๆ ที่เกมเป็นรอง ถ้าไปเล่นไม่เนียนใส่ทีมที่แข็งกว่านี้มีไส้แตรกกก~ครับ แต่ก็นะ..คล็อปคงไม่ถึงขั้นใช้ทีมดาวรุ่งเป็นหลักหรอกมั้ง

_______ วันนี้นับหนึ่งได้แล้วกับชัยชนะครั้งแรกของผู้จัดการทีมใหม่ แต่ดูแล้วยังมีอุปสรรคขวากหนามอีกเยอะครับ โอริกินี่ถึงตรงนี้เราต้องลุ้นไปกับเค้าล่ะ แต่ปวดใจเหลือเกิน แบ็คขวาไคลน์อย่าได้เจ็บเลยทีเดียว และกองกลางนี่ต้องหาใหม่อย่างด่วน คือในความเห็นผม แม้แต่ในฟอร์มโอริกิตอนนี้ ทีมก็ยังควรหากองกลางคนใหม่มาเสริมก่อนอยู่ดีนั่นแหล่ะ

_______ แต่เอาน่ะ ชนะแล้ว เอาแค่นี้ก่อน เฮ้~
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้ ไม่เนียนแต่เร้าใจ

บ็อกดาน - น่าจะโดนสักสองลูกเป็นอย่างน้อยแต่เซฟได้หมดไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะในนาที 4 กับทดเจ็บนาทีแรก ถ้าลูกใดลูกหนึ่งเข้าไปนี่ไม่โทษแกเลยล่ะ

ไคลน์ - ยิงประตูชัยให้ทีมได้ซะงั้น ลูกนั้นเขาทำดีมากกับการที่วิ่งเติมไปจนสุดทางทั้งๆ ที่ไม่น่าได้บอลแล้ว (เทเซร่าได้ยิงโล่งๆ ในเขตโทษ เป็นบางคนไม่ตามแล้วนะ) หลังจากนั้นก็เลยไม่ค่อยขึ้นอีกเน้นเกมรับเป็นหลัก ปิดพื้นที่ได้เยี่ยม ไม่โดนตัดหลังไม่ปล่อยให้เปิดง่ายๆ แต่ดูมีปัญหากับการประสานงานกับลอฟเรนนิดหน่อย ช่องระหว่างแบ็คเซ็นเตอร์ดูหลวมไป

ลอฟเรน - อยู่ในฟอร์มที่ควรนั่งสำรองต่อไปก่อน คือเขาไม่ได้เล่นพลาดอะไร แต่ลูกโฉ่งฉ่างเยอะเหลือเกิน สกัดบอลไปไหนไม่รู้ในจังหวะที่ถ้าเป็นซาโก้คงพักอกเล่นไปแล้ว, โชว์ลื่นไปรอบแต่ไกลประตูและมีเพื่อนช่วย มีดีตรงความแข็งแกร่งในลูกกลางอากาศและสกัดเด็ดขาดดี

ตูเร่ - เล่นไม่ดีนัก ไม่รู้เป็นเพราะสภาพร่างกายด้วยรึเปล่า การเบียดปะทะดูไม่ดีเลยคือไม่สามารถชิงเหลี่ยมให้ได้เปรียบในจังหวะที่ควรทำได้ สุดท้ายก็อยู่ได้แค่ครึ่งชั่วโมง

แรนเดล - ฝีเท้าไม่ได้ครึ่งของหน้าตาแต่ความกล้าสิบเอ็ดเต็มสิบ ครึ่งแรกดูหวาดผวาและลนลาน แต่ก็ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป แน่นอนว่าขยันและพยายามแต่ยังมีข้อผิดพลาดเยอะ ทั้งในเรื่องการไล่บอลและออกบอล

อัลเลน - วิ่งไล่ปิดพื้นที่ได้ดี โชคดีของเขาที่บอร์นมัทไม่เน้นเกมปะทะหรือเลี้ยงจี้เข้าใส่ เจอตัวไล่ก็รีบออกบอลหนี เข้าทางอัลเลนสิครับเพราะแกวิ่งไปปิดทันได้เกือบหมด พยายามจะจ่ายบอลยากอยู่หลายครั้ง พลาดหมด เชื่อมเกมแค่พอใช้ไม่ถึงกับดี บอลหนีตัวไล่ได้จริงแต่มันไม่ค่อยไปไหน

บรานาแกน - ยังต้องเร่งฟอร์มอีกเยอะ เข้าบอลพรวดพราดไป ขยันวิ่งไล่ดีก็จริงแต่อ่านเกมไม่ดีเท่าอัลเลน แต่เรื่องใจนี่ต้องชมเลย กล้าเก็บบอลเล่น กล้าจ่ายสวนขึ้นหน้าเวลาเห็นคนทำทาง

เทเซร่า - บอลแรกเทพมาก จับ ดึง จ่าย เนียนตาทีเดียว อาจจะไม่หวือหวาในแบบฉบับที่เห็นได้จากคูตินโย่หรือเฟอมิโน่ แต่เทเซร่าเล่นบอลได้ฉลาดและทำให้ทีมได้เปรียบในหลายๆ จัังหวะ ถ้าถามว่าดาวรุ่งคนไหนเล่นดีที่สุดในวันนี้ก็ต้องเป็นเขานี่แหล่ะ

เฟอมิโน่ - เล่นด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันแต่รู้สึกได้เลยว่าวันนี้เขาเล่นแบบไม่เครียด เล่นแบบกล้าปล่อยของ เป็นตัวหลักในเกมรุก พลิกบอลได้ตลอด ให้บอลเพื่อนได้เปรียบ เล่นไม่ฝืน และมีลูกยิงไกลที่ได้ลุ้นมาก

ไอบ์ - ถ้าดูเฉพาะฟอร์มนัดนี้ก็ยังถือว่าแค่พอใช้ ไม่ได้ฉีกกระชากหายอะไรแค่พอหาจังหวะเปิดบอลเข้าไปลุ้นได้เท่านั้น แต่ถ้าเทียบกับต้นฤดูนี้คนละไอบ์เลยครับ (ตอนนั้นดูแล้วเติมไม้โทใส่ชื่อให้ตลอด) ตัวต่อตัวกล้าไป เก็บบอลอยู่ ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้เป็นชิ้นเป็นอัน

โอริกิ - แม้ว่านัดนี้ดูแล้วจะชวนสงสัยอยู่เป็นระยะๆ ว่าเราเล่น 4-2-2-1มีเฟอมิโน่เป็นหน้าเดี่ยวหรืออย่างไร แต่ก็ต้องชมว่าฟอร์มส่วนตัวดีขึ้น(แย่น้อยลง) นัดนี้เขาถอยลงไปเล่นต่ำเยอะขึ้นกว่านัดที่ผ่านมา มีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้น เก็บบอลได้ดีขึ้น ประสานงานกับเพื่อนได้บ้าง ประตูที่ได้มาก็เริ่มจากเขา

ตัวสำรอง

สเคอเทล - ไม่โดนกดดันอะไรเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เก็บกินบอลที่ทะลักเข้ามาเท่านั้น

ลูคัส - เกมรับงั้นๆ คือวิ่งปิดพื้นที่ไปเรื่อยไม่ได้เด่นอะไร แต่วันนี้เด่นกับการเชื่อมเกมมากแบบผิดหูผิดตา มีบอลเกมรุกด้วย! หรือว่าลูคัสสมัยเกรมิโอจะกลับมาเกิดใหม่อีกรอบกันล่ะนี่

ลัลลาน่า - ลงมาไล่บอลแดนหน้า

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...อดัม บ็อกดาน...นัดนี้นี่เก็บคลีนชีตได้เป็นผลงานบ็อกดานซะ 7-80% เลย ไอ้ลูกที่ทิ้งจอยรับสภาพแล้วยังอุตส่าห์เซฟได้ซะงั้น
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น