วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 1-0 เบซิคตัส(ยูโรป้า)

...แย่งซีนนี่ขอให้บอก(2)...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอริดจ์------------------------
-----------คูตินโย่------------------ลัลลาน่า-----------
โมเรโน่-------อัลเลน-------เฮนเดอร์สัน---------ไอบ์
--------ซาโก้----------สเคอเทล------------ชาน------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลลงเล่นยูโรป้าลีคในบ้านเจอเบซิคตัส นัดนี้มีเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวจากนัดก่อนคือไอบ์แทนมาโควิชที่ติดโทษแบนในเกมยุโรป
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาทางเบซิคตัสพยายามไล่สูงแต่ไล่ไม่ค่อยจน ลิเวอร์พูลตั้งเกมยากแค่ช่วงต้นๆ เกมแต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งพลิกบอลได้ดีขึ้นและจังหวะพลิกได้ก็ถึงเขตโทษตลอด ผ่านบอลจังหวะเดียวได้แม่น เป็นฝ่ายคุมเกมได้ตั้งแต่ต้น

________ เกมรุกฝั่งขวาของลิเวอร์พูลทำงานได้ลื่นไหลโดยเฉพาะการทำทางรับบอล - เลี้ยงจี้ของไอบ์ บอลถึงเขตโทษบ่อยมากแต่ยังได้เปิดบอลน้อย และจังหวะได้เปิดก็ยังไม่ดีเลย ส่วนในเกมรับ แผงกลางของลิเวอร์พูลถอยลงไปชิดกับแผงหลังมาก หยุดเกมของเบซิคตัสไม่ให้ไปถึงเขตโทษได้ดีมาก ตลอดครึ่งชั่วโมงแรกของเกม เบซิคตัสไปแทบไม่ถึงเขตโทษเลย ต้องไปลุ้นเอานิดๆ หน่อยๆ จากลูกตั้งเตะก็ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้ถนัดเรื่องนี้เท่าไหร่

_______ ลิเวอร์พูลบุกเพลินจนพลาดหนักครั้งแรกในนาที 35 ลอยสูงจนโดนเบซิคตัสโต้ขึ้นมาได้...เป็นครั้งแรกที่โต้ขึ้นมาถึงประตูด้วย บาหลุดไปได้ยิงหน้าเขตโทษแบบไม่มีใครขวาง (มีสเคอเทลเบียดอยู่ใกล้ๆ ด้านข้าง) โดนมินโยเล่เซฟเอาไว้ได้ หลังจากนั้นก็ยังไม่มีฝ่ายไหนได้ลุ้นเป็นชิ้นเป็นอันอีกจนจบครึ่งแรกที่ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง แนวรับลิเวอร์พูลดันสูงมากกว่าครึ่งแรก เน้นเกมรุกมากขึ้น กดดันได้ดีตั้งแต่ช่วงต้นเกม นาที 49 ก็เกือบได้ประตูนำจากจังหวะแนวรับไม่รู้กัน สกัดบอลพลาดมาเข้าทางลัลลาน่าแต่เจ้าตัวทำหมูหกตกโต๊ะอด...อย่างน่าเสียดาย

_______ ทางฝั่งเบซิคตัสมีพื้นที่ให้โต้มากกว่าครึ่งแรก เปลี่ยนรับเป็นรุกได้ดีกว่าครึ่งแรกทำให้ครองบอลได้นานขึ้น บอลมาถึงแดนลิเวอร์พูลเยอะขึ้น แต่พวกเขาเติมขึ้นมาเล่นเกมรุกกันช้าและขึ้นมาน้อยมาก ทำให้เกมรุกยังคงไปไม่ถึงเขตโทษสักเท่าไหร่ เกมส่วนใหญ่ยังหนักไปทางตั้งรับให้เหนียวแน่นเท่านั้น

_______ บุกกดได้ไม่นานเกมรุกลิเวอร์พูลก็เริ่มตันและตั้งเกมได้ช้าลง ไอบ์ได้บอลน้อยลงและเล่นผิดจังหวะบ่อยครั้งทำให้เกมฝั่งขวาหายไปเลย ใกล้ๆ 1 ชั่วโมงของเกมหลายคนเริ่มออกอาการหมดแรง

_______ นาที 63 ลอฟเรนกับบาโลเตลลี่ได้ลงมาแทนอัลเลนกับคูตินโย่ ชานถูกดันขึ้นมาเล่นกลางและลอฟเรนรับผิดชอบพื้นที่เซนเตอร์ขวาแทน พอปรับมาเป็น 3-5-2 เกมแดนกลางของลิเวอร์พูลดูมีปัญหากับการเชื่อมเกมมากกว่าช่วงก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด เอาบอลขึ้นหน้าได้ช้าลง แต่ในทางกลับกัน เกมเร็วและบอลตัด-โต้ทำได้น่ากลัวขึ้น แต่จังหวะเข้าทำยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ไม่ค่อยได้ลุ้นประตู

_______ นาที 76 สเตอลิ่งได้ลงแทนลัลลาน่าเป็นคนสุดท้าย ถึงตรงนี้เกมของลิเวอร์พูลยังดีกว่าแต่จังหวะเข้าทำเริ่มตันมากขึ้น บอลถึงหน้าเขตโทษได้ก็จริงแต่หาจังหวะยิงกันไม่ค่อยได้

_______ ลิเวอร์พูลยังตะบี้ตะบันเดินเกมรุกต่อ ไม่ได้ผ่อนเกมหรือเปลี่ยนไปเคาะครองบอล ในที่สุดก็ทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จ นาที 83 โอ้ไปแซะแย่งบอลมาได้กลางสนามก่อนจ่ายขึ้นหน้าให้ไอบ์ที่วิ่งทำทางขึ้นไปได้ดี ไอบ์ลากบอลจากริมเส้นเข้าไปถึงในเขตโทษก่อนโดนปะทะล้มลงจนได้จุดโทษ เฮนเดอร์สันถือลูกเหมือนจะยิงแต่บาโลเตลลี่เข้าไปขอ...หรือแย่งก็ไม่แน่ใจ...เอาไปยิงเองได้ไม่พลาด 1-0

_______ พอนำได้ เบซิคตัสหันมาเดินหน้าบุกทันที ส่วนทางลิเวอร์พูลก็ถอยทันทีเช่นกัน เวลาที่เหลืออยู่นี้ เบซิคตัสพาบอลขึ้นมาถึงเขตโทษได้ต่อเนื่อง ได้เปิดบอลเข้าทำพอควร และได้ยิงในกรอบอีกนิดหน่อยด้วยแต่ไม่ดีพอจะเป็นประตู มินโยเล่แทบไม่ต้องเซฟเพราะบอลติดแนวรับหมด ส่วนทางลิเวอร์พูลปิดเกมรุกคู่ต่อสู้ได้น้อย  แต่ยังโต้ได้บ้าง ไม่ได้โดนทุบแบนอยู่คาเขตโทษอย่างเดียว สุดท้ายทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ทั้งคู่ จบเกมลิเวอร์พูลเฉือนชนะได้ที่สกอร์ 1-0
-----------------------------------------

_______ เกมดีกว่าเยอะ แต่จังหวะเข้าทำไม่ได้ดีกว่าเลย

_______ มองทางฝั่งเบซิคตัสก่อน จะว่าไปแล้วเกมรุกพวกเขาต้องเรียกว่าเข้าทางโจร...เอ้อ ทางลิเวอร์พูลอยู่เหมือนกัน พวกเขาเล่นบอลตามช่องซึ่งเกมรับลิเวอร์พูลก็ถนัดปิดช่องไม่ถนัดปะทะ บอลโด่งบอลยาวก็ไม่ค่อยเล่น และที่สำคัญเลยคือลูกตั้งเตะสุดแสนจะธรรมดาสามัญม๊ากกกก~ ถ้าเกมหน้าพวกเขาไม่เปลี่ยนวิธีเล่น โดยเฉพาะวิธีเล่นเกมรุก ก็คงลุ้นกลับมาลำบากหน่อยล่ะ

_______ 11 ตัวจริงวันนี้ยังคงปรับเปลี่ยนน้อยและครึ่งแรกเล่นได้ดีกว่าเบซิคตัสมาก ถ้าให้เทียบกันเกมครึ่งแรกดูดีกว่าครึ่งหลังที่บุกได้มากกว่าด้วยซ้ำ แดนกลางเล่นดีมาก เอาชนะได้หมดทุกแนว ไม่ว่าจะผ่านบอลหนีตัวไล่, เอาบอลขึ้นหน้า, ไล่ปิดช่องไม่ให้โต้เร็ว, ดักตัดบอลและเก็บบอลสอง คุมได้หมดทุกอย่างแล้ว ถ้าบอลเข้าทำดีกว่านี้อีกนิดเดียวไม่ใช่แค่ประตูขึ้นนำ แต่น่าจะได้สองสามลูกเลยล่ะ บังเอิญเปิดบอลทีนึงลอยยันมุมธงอีกฝั่ง ไอ้เกมที่ว่าสวยๆ งามๆ สุดท้ายเลยไม่ได้ประตูตอบแทนอย่างน่าเสียดาย พอครึ่งหลังเล่นได้ไม่นานเริ่มหมดแรงวิ่ง และเกมรุกยังไม่ได้ประตูสักทีจนต้องดันสูงมากขึ้นด้วย เกมยังดีกว่าก็จริงแต่คุมเกมไม่ได้เหมือนครึ่งแรกแล้วครับ

_______ ผมเห็นด้วยกับการเปลี่ยนตัวสองคนแรก ดูจากสถานการณ์ที่ควรต้องบุกต่อ การดันชานขึ้นไปเล่นกลางแทนอัลเลนก็ดูเหมาะสมดีแล้ว และ ถ้ายังคิดจะเล่นทรง 3-5-2 เหมือนเดิมก็เหมือนต้องเลือกระหว่างคูตินโย่กับลัลลาน่า ซึ่งคูตินโย่เองเล่นไม่ออกอยู่แล้วแถมวิ่ง/ช่วยเกมรับได้น้อยกว่าลัลลาน่าด้วยก็ไม่น่าแปลกใจที่โดนถอดก่อน

_______ ส่วนการส่งสเตอลิ่งแทนลัลลาน่า บอกตรงๆ ว่านาทีนั้นผมคิดว่าควรส่งลงไปแทนไอบ์ที่หายไปจากเกมแล้วมากกว่า แต่กลายเป็นว่าเก็บไอบ์ไว้แล้วได้ประโยชน์ในท้ายที่สุด (ถ้าผมเป็นผู้จัดการทีมจริงๆ ป่านนี้เสมอไปแล้วครับ 555+ ไม่ได้หรอกลูกท่งลูกโทษ)

_______ เกมนี้จังหวะสำคัญเป็นลูกจุดโทษอย่างไม่ต้องสงสัย ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การได้จุดโทษ(เพราะควรได้แน่) หรือเป็นตัวตัดสินเกม(เพราะมันตัดสินอยู่แล้ว) แต่อยู่ที่คนยิง ไม่รู้ว่าร็อดเจอร์จัดตัวยิงไว้ยังไง คือโอ้มีประสบการณ์และสถิติในการยิงจุดโทษดีกว่าทุกคนในสนามแน่นอนครับ ผมก็เห็นด้วยว่านาทีนั้นควรเป็นโอ้ยิงนั่นแหล่ะ แต่ถ้าร็อดเจอร์จัดให้เฮนโด้เป็นคนยิง แล้วโอ้ไปแย่งแบบนั้นคงไม่สวยเท่าไหร่ ยังดีว่ายิงเสร็จก็เข้าไปดีใจด้วยกันก็ยังโอเค...แต่จะให้ดีรีบเคลียร์หลังไมค์ให้รู้เรื่องดีกว่าครับ ภาพแบบนี้ไม่น่ามีให้เห็นในสนาม

_______ ที่ดูมีปัญหาอยู่ในเกมนี้ ก็อย่างที่อ่านมาถึงตรงนี้คงเดาได้ว่าเรื่องเข้าทำแน่ๆ ล่ะ เกมทางขวาไอบ์เล่นได้แต่ประสานงานกับเพื่อนยังไม่ได้ และสเตอริดจ์ยังมีสนิทจับอยู่พอควรเลย ส่วนแดนกลางคนอื่นฟอร์มเกมรุกแผ่วลงไปตามๆ กัน ไม่ว่าจะคูตินโย่หรือลัลลาน่า

_______ นอกจากนั้นก็เรื่องสภาพร่างกายที่ดูจะทรุดโทรมไปตามนาทีลงเล่นที่แต่ละคนแทบไม่ได้พักเลย อย่างนัดนี้กลางครึ่งหลังนี่อาการออกหลายคน อัลเลนกับคูตินโย่ก่อนเปลี่ยนออกนี่วิ่งได้น้อยลงกว่าครึ่งแรกเยอะแล้ว ลัลลาน่ากับเฮนเดอร์สันเองก็ด้วย เรื่องนี้เรื่องใหญ่แต่ที่เห็นในสนามก็ไม่รู้จะให้เปลี่ยนอีท่าไหนเหมือนกัน นี่คือสาเหตุหลักที่ผมไม่อยากให้ทีมเข้ารอบลึกในยูโรป้า

_______ แต่เรื่องเหนื่อยเรื่องล้าว่ากันทีหลัง เรื่องชนะยังไงก็สำคัญกว่า มีโอกาสจะผ่านได้ก็ต้องผ่านให้ได้ละครับ คงไม่มีใครอยากเห็น/อยากเล่นให้ทีมตัวเองตกรอบหรอก
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ค่อนข้างดี

มินโยเล่ - เซฟลูกยิงของบาได้ในครึ่งแรก ลูกนี้ลูกเดียวก็หล่อสูสีกับโอ้แล้ว นอกจากนั้นไม่โดนกดดันมากนักเล่นไม่ผิดพลาด

ซาโก้ - ฟอร์มดีที่สุดในแผงหลัง เกมรับเหนียวแน่นเด็ดขาด ผ่านบอลคืนหลังเยอะไปนิดนึงแต่ถ้าดูที่ความแม่นยำ นัดนี้จ่ายบอลแทบไม่พลาดเลย ไม่แถมเฝือกเพื่อนด้วย กลายเป็นตัวหลักในการเอาบอลจากหลังไปกลางทีดี

สเคอเทล - ยังหลอนจากเกมที่แล้วไม่หายมั้ง มีจังหวะเข้าพรวด - พลาดกลางสนามหลายครั้ง เสียฟาล์วง่ายด้วย ง่ายมาก ที่ยังดีอยู่คือจังหวะสกัดในเขตโทษที่ไม่พลาดเลย

ชาน - เป็นเกมที่เล่นได้ไม่ดี ขยับขึ้นมาช่วยต่อบอลแดนกลางบ่อยๆ ลงไม่ทันหลายครั้ง อ่านเกมผิดพลาดในจังหวะสำคัญอีกนิดหน่อยด้วยดีว่าคู่ต่อสู้ขึ้นมาไม่เยอะและความสามารถเฉพาะตัวไม่ได้ดีมากเลยไม่โดนลงโทษ ที่น่าผิดหวังสุดคือการออกบอลที่เคยดีวันนี้ทำได้ธรรมดามากไม่ว่าจะตอนเล่นเซ็นเตอร์หรือกองกลาง มีพลาดให้เห็นเยอะกว่าซาโก้อีก

โมเรโน่ - เกมรุกเติมไม่ค่อยถึงสุดเส้น ขึ้นไปน้อยกว่าไอบ์มากแต่ขึ้นไปแล้วกดดันแนวรับได้ดีหลายครั้ง ในเกมรับช่วยวิ่งไล่ได้ดี รักษาพื้นที่ตัวเองในเกมรับได้ดีกว่าที่ผ่านมาด้วย

ไอบ์ - เกมรับมีให้เล่นน้อย ที่มีบ้างก็ไม่ลงมาช่วยเลย แต่เล่นเกมรุกได้ดี จังหวะ 1-1 ผ่านได้ตลอด ถ้าจะติดก็ติดตัวซ้อน ไม่ก็เปิดพลาดเอง ครึ่งหลังลงมาแล้วเล่นพลาดหลายจังหวะแต่ยังพอทำทางเชื่อมเกมได้อยู่บ้าง และเรียกจุดโทษสำคัญให้กับทีมได้ด้วย

อัลเลน - ครึ่งแรกเล่นได้ดีมาก บอลจังหวะเดียวแม่นและเร็ว ตัวไล่ไล่ไม่ทัน ขยับหาที่ว่างรับบอลดีด้วย เชื่อมเกมได้เด่นที่สุดในแดนกลาง เกมรับก็ทำได้ดีในจังหวะเข้าไปไล่เร็วไม่ให้คู่ต่อสู้โต้กลับ ครึ่งหลังยังเลนได้ดีอยู่แต่ฟอร์มแผ่วลงจากครึ่งแรกบ้างแล้ว และน่าจะถูกเปลี่ยนตามแทคติคมากกว่าฟอร์มหรือความฟิต (ปกติชานวางบอลยาว,ไปกับบอลดีกว่าอัลเลน ถ้าจะหวังช่วยเพิ่มมิติเกมรุกอัลเลนก็ต้องออก)

เฮนเดอร์สัน - ยังคงเป็นราชาลูกเฉี่ยวต่อไป พยายามออกบอลเกมรุกเยอะ ได้ยิงก็เยอะสุดในแผงกลาง แต่ทั้งยิงทั้งจ่ายก็หนักไปทาง “เกือบ” ดีแทบทุกลูก วิ่งไล่/วิ่งทำทางครึี่งแรกได้ดีมาก แต่ครึ่งหลังเริ่มวิ่งขึ้นวิ่งลงได้น้อยลง ขึ้นแล้วไม่ค่อยลง ลงแล้วไม่ค่อยขึ้น วันนี้เตะมุมไม่ดีเลยยยยยย ไม่ดีจนน่าใจหาย

คูตินโย่ - ฟอร์มแผ่วต่อเนื่อง ไม่รู้ยังเจ็บค้างอยู่หรือปล่าว ไล่บอลได้อยู่แต่ก็น้อยลง พลิกบอลขึ้นหน้าได้พอสมควรแต่น้อยกว่าช่วงที่ฟอร์มดีเยอะเลย การผ่านบอลหรือเลี้ยงจี้ก็ทำอะไรคู่ต่อสู้แทบไม่ได้

ลัลลาน่า - เล่นบอลจังหวะเดียวได้ดี เล่นง่ายใครว่างก็จ่าย ให้แล้วก็ไป แต่ทำเกมด้วยตัวเองได้น้อยไปหน่อย มีส่วนร่วมกับเกมไม่มากนัก กะปริบกะปรอยเหลือเกิน แถมทำหมูหกช่วงต้นครึ่งหลังอีกต่างหาก

สเตอริดจ์ - เก็บบอลไว้กับทีมได้ดี ช่ิ่งกลับหรือฝากบอลให้เพื่อนได้ตลอด แต่เก็บไว้กับตัวไม่ดี พลิกบอลไม่ได้เลย พาบอลเลี้ยงจี้โดนแซะทิ้งตลอด หาจังหวะยิงได้น้อยมาก

ตัวสำรอง

ลอฟเรน - เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือสเคอเทลยังมีลอฟเรน เล่นได้โอเคแต่เรื่องพรวดนี่แซงหน้าสเคอเทลแบบไม่เห็นฝุ่น

บาโลเตลลี่ - เล่นได้เข้าที่เข้าทางขึ้น เก็บบอลไว้กับตัวและค้ำแผงหลังได้ดีกว่าสเตอริดจ์มาก เรียกฟาล์วได้เยอะด้วย แต่เรื่องวิ่งทำทางไม่ดีเท่าไหร่และการประสานงานกับเพื่อนยังต้องดีกว่านี้อีกเยอะๆ นัดนี้มีส่วนสำคัญในการทำให้ทีมได้ประตูชัย ทั้งไปแซะมาเอง ทั้ง(แย่ง)ยิงเองด้วย

สเตอลิ่ง - ช่วยปรับความเร็วการเล่นเกมรุกของทีม เลี้ยงจี้กดดันคู่ต่อสู้ได้บ้าง วิ่งทำทางและหาที่ว่างรับบอลพอใช้ได้ อาศัยความสดบดความเหนื่อยคู่ต่อสู้ได้ดี

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...มาริโอ บาโลเตลลี่…นับฟอร์ม 90 นาทีผมประทับใจซาโก้ที่สุด แต่ถ้าพูดถึงความโดดเด่นยังคงให้โอ้มากกว่า คนอื่นเล่นแทบตาย อีโอ้นี่ลงมาแค่ 20 นาที ครีเอทให้ 1 ประตูชัยเลยทีเดียว และนอกจากประตูแล้วเขายังเก็บบอล เรียกฟาล์วในแดนหน้า ค้ำในแนวกองหลังแบบที่มนุษย์กองหน้าคนอื่นเค้าทำได้สักทีแล้วด้วย กองหน้าคนอื่นเล่นดีเมื่อทำสิ่งมหัศจรรย์ กองหน้าคนนี้เล่นดีเมื่อทำเหมือนชาวบ้านครัช :P
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น