วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เอฟเวอร์ตัน 0-0 ลิเวอร์พูล (พรีซีซั่น)


...เมอร์ซี่ไซด์ เฟรนด์ลี่แมทช์...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอลิ่ง-------------------------
-----------คูตินโย่-------------------เจอราร์ด----------
โมเรโน่-------ลูคัส-------เฮนเดอร์สัน------------ไอบ์
--------ซาโก้----------สเคอเทล------------ชาน------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเตะเกมดาร์บี้แมทช์ที่กูดิสันพาร์ค ร็อดเจอร์ปรับ 11 ตัวจริงตามสังขารผู้เล่นที่เจ็บมั่งไม่ฟิตมั่ง หน้าตาออกมาเป็นอย่างผังที่เห็น ส่วนทางเอฟเวอร์ตันยังวางลูกากูเป็นหน้าเป้า สนับสนุนเกมรุกโดยมิราลาส
-------------------------------------------------------

_______ ช่วงต้นเกมทางเอฟเวอร์ตันเน้นเล่นเร็ว วางยาว เอาบอลขึ้นหน้าทุกจังหวะไม่ครองบอล เจาะทางฝั่งซาโก้ทางเดียว เอาบอลขึ้นหน้าได้พอใช้แต่ยังไม่ค่อยได้เปิด แดนกลางช่วยกันไล่กันได้ดีตั้งแต่แถววงกลมกลางสนาม ส่วนลิเวอร์พูลเอาบอลขึ้นหน้าได้ช้า ต้องหนีไปขึ้นทางริมเส้นขวาเป็นส่วนใหญ่ ตรงกลางสนามต่อบอลไม่ได้ แต่เกมรับก็ยังจัดการเอฟเวอร์ตันได้ดีอยู่

________ เข้านาที 15 ลูคัสเจ็บเล่นต่อไม่ไหว อัลเลนได้ลงมาเล่นแทนตำแหน่ง ลิเวอร์พูลเน้นครองบอลมากขึ้นทำให้ได้บอลมากกว่า แต่บอลไม่ค่อยไปข้างหน้า เปลี่ยนรับเป็นรุกได้ช้า ตัวรุกยังเล่นกันไม่ออก เล่นกันในสไตล์ จับ-จ่าย-เจ๊ง ทางเอฟเวอร์ตันปิดเกมลิเวอร์พูลได้ ตั้งเกมขึ้นหน้าด้วยลูกโด่งได้ดี แต่เอาบอลไปเปิดแทบไม่ได้ รูปเกมออกมาสูสี

_______ ช่วงท้ายครึ่งแรก เอฟเวอร์ตันที่บุกไปแต่ไม่ได้จบเริ่มเบื่อๆ ตัวเองมั้ง ถอยลงไปรับลึกมากขึ้น ส่วนลิเวอร์พูลก็เน้นเก็บบอลไว้กับตัว มีการเลี้ยงจี้ของไอบ์เป็นอาวุธเพียงอย่างเดียวที่พอจะเกาๆ แนวรับเอฟเวอร์ตันให้พอรู้ตัวบ้างว่าโดนบุกอยู่ แต่สุดท้ายไอบ์ก็ไม่เข้าใจเพื่อน เพื่อนก็ไม่เข้าใจไอบ์ เปิดไม่ตรง วิ่งทับตำแหน่ง จ่ายไปข้างแต่วิ่งไปข้างหน้า ทำเกมพอได้ลุ้นแต่ไม่ถึงประตู จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง แนวรุกสามคน ลิ่ง-คู-เจิด สลับตำแหน่งกันไปมาบ่อยครั้งขึ้น เจอราร์ดดันสูงขึ้นกว่าครึ่งแรกที่ขยับออกห่างจากเขตโทษมากกว่านี้ เกมรุกลิเวอร์พูลเน้นเจาะตรงกลางให้แนวรุกสามคนเล่นมากขึ้น ไอบ์เริ่มไม่ได้บอล ส่วนทางเอฟเวอร์ตัน เปลี่ยนทางขึ้นเกมรุก ย้ายไปเจาะฝั่งชานแทนซาโก้ บุกไม่ขึ้นหนักกว่าเดิม

_______ นาที 55 สเตอริดจ์แทนคูตินโย่ที่ดูจะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลครองบอลไว้กับตัวได้นานมาก เก็บบอลจังหวะสองได้หมด ดันเกมรุกต่อเนื่อง แต่เจาะไม่เข้า หาโอกาสจบสกอร์แบบ “เฮ้ย ลูกนี่ต้องเข้า” ไม่ได้ ได้ยิงไกลมั่ง มุมแคบมั่ง เปิดยัดๆ เข้าไปลุ้นมั่ง ซึ่งยังไม่เป็นประตู เปอร์เซ็นต์ครองบอลกับโอกาสยิงพุ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ในรูปเกมจริงๆ ไม่ได้มีลุ้นมากไปกว่าเอฟเวอร์ตันที่ได้บอลได้โอกาสน้อยกว่า

_______ บรรยากาศบอลอุ่นเครื่องพรีซีซั่นยังอบอวลต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งราวๆ นาที 80 ไอบ์โดนเบสิคเข้าปะทะล้มลง แล้วเกิดฮึดฮัดกันเล็กน้อย แต่เฮนเดอร์สันที่พุ่งเข้าไปจะด่าดันไปมีเรื่องกับเนย์สมิธที่วิ่งตามมาทีหลังแทน โดนเหลืองกันไปทั้งคู่ แต่กลายเป็นว่าหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายเริ่มเข้าบอลกันหนักขึ้น และเหมือนทางฝั่งเอฟเวอร์ตันเริ่มนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นเกมดาร์บี้แมทช์ที่เล่นในบ้านตัวเอง เริ่มดันและเร่งเกมรุกต่อเนื่อง หลังจากเล่นไปหลับไปมา 80 นาที

_______ นาที 82 แลมเบิร์ตได้ลงมาแทนสเตอลิ่งและเจ้าตัวก็หาโอกาสยิงได้ติดๆ กันสองหนแบบยากๆ หน่อยและยังไม่เป็นประตู ช่วงประมาณ 10 นาทีท้ายนี้เป็นเอฟเวอร์ตันที่ได้ลุ้นจริงจังกว่าและน่าได้ประตูสุดๆ ในราวๆ นาที 87 ที่โคลแมนเติมขึ้นมาได้ยิงมุมแคบแบบไม่มีคนประกบ ดีว่ามินโยเล่เซฟเอาไว้ได้

_______ สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็ทำอะไรกันไม่ได้ จบกันไปแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย 0-0
-----------------------------------------

_______ ถ้าคืนก่อนนอนน้อย ดูเกมนี้มีหลับคาจอครับ

_______ ก่อนเกมเห็นข่าวผ่านๆ ตาอยู่ว่าร็อดเจอร์บอกว่าสภาพทีมฟิตกันดี แต่ที่เห็นในสนามดูแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ

_______ 11 ตัวจริงก็เป็นไปตามสารร่างของผู้เล่น ณ ปัจจุบัน ลัลลาน่าเจ็บไปเรียบร้อย มาโควิชกับมานกีโย่ก็ได้ยินคนพากย์บอกว่ามีอาการบาดเจ็บ สเตอริดจ์นี่ก็เห็นว่าไม่ฟิตเต็มร้อยอยู่แล้ว ตอนเล่นจริงลูคัสยังมาเจ็บเร็วตั้งแต่ต้นครึ่งแรก ต้นครึ่งหลังก็ยังต้องเสียคูตินโย่ไปอีก

_______ ฟอร์มการเล่นก็ดี แทคติคก็ดี วันนี้เป็นเรื่องรองไปเลยครับ สิ่งที่ทำให้เกมออกมาเป็นแบบนี้ทั้งรูปเกมและผลลัพธ์สาเหตุหลักมาจากสภาพความฟิตเลย

_______ ลิเวอร์พูลชุดนี้เน้นการวิ่งเป็นหลัก ทั้งในเกมรุกที่จะวิ่งทำทางให้กันตลอด และในเกมรับที่จะช่วยกันวิ่งเข้าไปบีบบอลเร็วกันเป็นกลุ่ม แต่ในวันนี้ทั้งสองอย่างนี้หายไปหมดเลย (ที่เห็นชัดๆ ว่าวิ่งได้น้อยลงก็มีสเตอลิ่ง คูตินโย่ เฮนเดอร์สัน) การวิ่งทำทางมีให้เห็นน้อยมาก ตั้งแต่ข้างบนที่ไม่ค่อยมีคนวิ่งขึ้นหน้า และตรงกลางที่ไม่ขยับหาที่ว่างรับบอลกันเท่าไหร่ เกมรับไม่ใช่ไม่ไล่ แต่ไล่กันเป็นคนๆ เป็นครั้งๆ ไม่ได้กรูกันเข้าไปบีบเป็นกลุ่มเหมือนที่เคยทำได้ การตัดบอลกลางสนามวันนี้ ถ้าไม่ใช่จังหวะที่เอฟเวอร์ตันพลาดเองก็ตัดกับมาได้ค่อนข้างช้า

_______ ยิ่งพอมาเจอกับเอฟเวอร์ตันที่ไม่ดันเกมรุกสู้ แบ็คไม่ขึ้นเลยจนกระทั่ง 10 นาทีสุดท้าย กลางไม่ดันขึ้นมาเก็บบอลจังหวะสอง ทำให้ลิเวอร์พูลยิ่งเอาบอลขึ้นหน้าได้ช้า จะโต้ก็ไม่มีพื้นที่เพราะเอฟเวอร์ตันยืนกันเต็มแดนไปหมด เลยกลายเป็นเกมที่เล่นได้ช้า เกมรุกไม่ทะลุทะลวง และหาโอกาสเข้าทำแบบมีคุณภาพได้น้อยมาก

_______ ก่อนเปิดฤดูกาล เราได้เห็นกันว่าทีมมีขนาดใหญ่ขึ้น มีตัวผู้เล่นที่ “น่าจะ” ทดแทนตัวจริงได้ทุกตำแหน่ง แต่เล่นไปเล่นมา คนที่ไว้ใจได้กลับเหลืออยู่ไม่กี่คน ทำให้ทีมชุดนี้เล่นกันติดๆ กันมาตลอด แทบไม่ได้เปลี่ยนใครเลยเพราะเปลี่ยนเมื่อไหร่เป็นได้เรื่อง
_______ ถ้าดูจากหน้างานก็ต้องบอกว่าน่าเห็นใจร็อดเจอร์ครับ เพราะจะโรเตชั่นก็ลำบาก พอมาเจอเกมเตะถี่ๆ แบบนี้อยากจะแก้ไขอะไรมันก็ลำบากแล้วเพราะผู้เล่นมีให้ใช้อยู่แบบนี้จริงๆ แต่ถ้าดูจากตลาดที่พึ่งปิดไปก็ต้องบอกว่าทีม(เน้นว่าทีม ไม่ใช่ร็อดเจอร์คนเดียว) จัดการการย้ายเข้าย้ายออกได้ไม่ดีเท่าไหร่ คนไม่ใช้ก็ปล่อยออกไปไม่ได้ ตำแหน่งที่ควรเสริมก็ไม่เสริม มันจริงที่ว่ารอคนที่มีอยู่คืนฟอร์มหรือฟิตสมบูรณ์ก็พอได้อยู่ แต่ช่วงที่ “ยัง” เนี่ย ทีมต้องทำแต้มหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย

_______ ถ้าได้พักกันบ้าง ความฟิตดีกว่านี้ทีมจะดีกว่านี้เยอะ  อย่างนัดนี้ถ้าฟิตเต็มที่ ป่านนี้เอฟเวอร์ตันเละเป็นโจ๊กไปแล้วเพราะเก็บบอลจังหวะสองเกมรับได้ไม่ดีเลย ผมเลยคิดว่าน่าเสียดายไปนิดนึงที่ไม่ได้ใช้ตลาดรอบสองให้เป็นประโยชน์เท่าที่ควร

_______ ยังต้องเตะถี่ๆ ไปอีกร่วมเดือน ช่วงนี้ยังไม่ต้องรุกจัดจ้านอะไรนักก็ได้ ขอแค่เกมรับทำได้ดีพอจะเก็บเกมรุกคู่แข่ง แบบที่ทำได้มาหลายนัด และเป็นสิ่งที่ทำได้ดีในนัดนี้ แบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็โอเคแล้วครับ อย่างน้อยก็ได้แต้มเรื่อยๆ ล่ะ หรือถ้าเป็นบอลถ้วยก็ไม่ตกรอบง่ายๆ

_______ ...ช่วงนี้ลุ้นฟอร์มแล้วต้องลุ้นสังขารผู้เล่นกันด้วยนะ...
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้ ค่อนไปทางไม่ดี

มินโยเล่ - ไม่ค่อยได้ทำอะไร แต่เซฟครั้งเดียวช่วงท้ายเกมก็หล่อโคตรๆ แล้ว นอกนั้นก็เป็นจังหวะออกมาเก็บบอลทะลักที่เริ่มทำได้ดีต่อเนื่อง

ซาโก้ - มีปัญหากับการปิดพื้นที่ริมเส้นที่ออกไปไม่ค่อยทัน ไหนจะโมเรโน่หายหัว ไหนจะคู่ต่อสู้เน้นเจาะ(ครึ่งแรก) รวมไปถึงการเก็บบอลไว้กับตัวนานจนโดนไล่กดดัน แต่ซาโก้ยังทำได้ดีในการเข้าสกัด ประกบ ปะทะ โหม่ง

สเคอเทล - เล่นลูกกลางอากาศได้ดี โหม่งถึงบอลโดนบอลเยอะที่สุดในทีมแล้วละมั้งวันนี้ จัดการบอลที่คู่ต่อสู้เปิดเข้ามาในเขตโทษได้เยี่ยม

ชาน - เล่นเกมรับได้ดีขึ้นไม่ว่าจะเรื่องอ่านเกมหรือดักตัดบอล แต่ยังมีปัญหากับการประกบคนไม่มีบอลอยู่เป็นระยะ รวมไปถึงเก็บบอลไว้กับตัวนานไปด้วย เอาบอลขึ้นหน้าได้ดูดีกว่าเซ็นเตอร์คนอื่น

โมเรโน่ - เกมรับลงมาช่วยน้อยเกินไป ไล่ก็ไม่ค่อยถึงบอล เชื่อมเกมพอใช้ไม่ถึงกับดี เกมรุกไม่ค่อยได้ขึ้น ไม่ถึงสุดเส้น  

ไอบ์ - ยังประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมไม่ได้ แต่ฟอร์มส่วนตัวใช้ได้ เกมรุกด้วยการเลี้ยงจี้ไปได้ดี กดดันได้ ได้เปิดด้วยแต่ไปกันละทางกับเพื่อน เกมรับไม่ถึงกับดีแต่ยังลงไปช่วยได้เยอะกว่าโมเรโน่อีก

ลูคัส - ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็เจ็บไปซะก่อน

เฮนเดอร์สัน - อ่านเกมและดักตัดบอลได้ดี แต่ขยับไล่บอลได้น้อยและเชื่อมเกมได้แย่ เล่นสูงกว่าอัลเลนแต่บอลเกมรุกก็ไม่มีเหมือนกัน ฟอร์มโดยรวมต่ำกว่าที่เคยทำได้

คูตินโย่ - เกมรุกเล่นไม่ออก ต้องลงมาล้วงบอลต่ำช่วยเชื่อมเกมบ่อย ทำได้แค่พอใช้ไม่ถึงกับดี เกมวิ่งไล่หรือวิ่งทำทางที่เคยทำได้ดีมากวันนี้หายหมด ครึ่งหลังยังดูมีอาการเจ็บจนถูกเปลี่ยนออกอีกด้วย

เจอราร์ด - ครึ่งแรกพยายามหาที่ว่างรับบอลแต่กลายเป็นถอยห่างจากเขตโทษมากไป ครึ่งหลังพยายามเล่นให้สูงขึ้นไม่ถอยลงมาบ่อยนักทำให้มีส่วนร่วมกับเกมแบบเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นแต่ก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ บอลทะลุกับบอลชิ่งวันนี้ทำไม่ได้เลย กลางๆ ครึ่งหลังเป็นต้นไปก็วิ่งเร่งความเร็วไม่ออกแล้ว

สเตอลิ่ง - วิ่งทำทางได้น้อยลง เก็บบอลไม่ค่อยอยู่ไม่ว่าจะเก็บไว้กับตัวหรือเก็บไว้กับทีม (คือชิ่งให้เพื่อน) จังหวะสปีดขึ้นไปเอาบอลหรือขึ้นไปยิงดูไม่เฉียบคมเท่าไหร่ เคยทำได้ดีกว่านี้ มีโอกาสเล่นในเขตโทษอยู่ 2-3 ครั้งในครึ่งแรกก็ทำได้ไม่ดีพอทั้งยิงทั้งจ่าย

ตัวสำรอง

อัลเลน - ลงมาเล่นพอใช้ได้ เชื่อมเกมดีกว่าเฮนเดอร์สัน ขยับทำทางรับบอลก็ดีกว่ากองกลางคนอื่น ในเกมรับอ่านเกมและเข้าดักตัดบอลดีมากด้วย แต่ปัญหาคือบังได้แล้วกลับโดนเบียดจนเสียบอลคืนง่ายไป จังหวะเข้าสกัดก็ไม่ค่อยเด็ดขาด ทั้งๆ ที่อ่านดีแล้ว ถึงบอลแล้ว แต่เข้าไปอัดแล้วหยุดคู่ต่อสู้ไม่ค่อยอยู่

สเตอริดจ์ - ถ้าบอลเป็นปืนคงตายกันหมดสนาม จับเป็นลั่น ลงมาเชื่อมเกมไกลจากเขตโทษได้บ้าง  จังหวะการเล่นในเขตโทษทำไม่ได้เลย หาช่องรับบอลแทบไม่ได้ หาจังหวะยิงก็ได้ครั้งเดียว แต่ตอนนี้ขออย่างเดียวไม่เจ็บซ้ำก็เอาแล้วครับ น้องยืนในสนามเฉยๆ พี่ก็ไม่ว่าครับ สองบรรทัดบนนั่นล้อเล่น

แลมเบิร์ต - ลงมาเก็บบอลโด่งเล่นได้ดีระดับนึง แต่เพื่อนไม่เติมขึ้นมาช่วย แถมยังประสานงานกับคนที่อยู่ใกล้ๆ อย่างสเตอริดจ์ไม่ได้อีก ทำได้ดีพอควรกับความพยายามหาจังหวะยิงเอง 2 ครั้ง ซึ่งไม่ได้ประตู

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ซิมง มินโยเล่…เป็นนัดที่เลือก MOM ยากโคตรๆ อีกนัดนึง ไม่มีใครเด่นเลย เกมรุกไม่ต้องพูดถึง ก็เลยต้องมาเลือกตัวรับ ซึ่งคนที่พลาดน้อยสุดก็มีให้เลือกแค่สเคอเทลกับมินโยเล่ จะว่าไปก็ไม่ค่อยมีอะไรทำทั้งสองคนนั้นแหล่ะ เลยขอเลือกมินโยเล่ที่เซฟสำคัญท้ายเกมเซฟแต้มให้ทีมก็แล้วกัน
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น