วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ลิเวอร์พูล 4 - 1 เวสต์แฮม (พรีเมียร์ลีค)


...พุ่งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

-------------------------ซัวเรส-------------------------
สเตอริ่ง----------------คูตินโย่-------------เฮนเดอร์สัน
---------------อัลเลน--------------เจอราร์ด------------
ฟลานาแกน-----ซาโก้---------สเคอเทล------จอห์นสัน
------------------------มินโยเล่-------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเล่นในบ้านต่อเนื่องอีก 1 นัด คราวนี้ผู้มาเยือนเป็นเวสต์แฮม ร็อดเจอร์ปรับทีมแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมนัดก่อนโดยซาโก้ได้ลงตัวจริงแทนแอก เกอร์ (ซึ่งได้ข่าวว่าป่วย) ลูคัสกับโมเสสยังคงต้องนั่งต่อไปอีก 1 นัด ส่วนทางเวสต์แฮมกำลังมีปัญหากับการขาดกองหน้า เลือกใช้ไมก้าเป็นหน้าเป้า ริมเส้นซ้ายขวาเป็นตัวถนัดโยนเข้ากลางทั้งยาวิสและดาวนิ่ง ชัดเจนดีว่าจะทำอะไร
-------------------------------------------------------

_______ เกมเร็วมากตั้งแต่เริ่ม เวสต์แฮมวิ่งไล่เต็มสนาม เกมรุกจะเน้นบอลโด่งโดยไปทางที่ว่างมุมธงสลับกับโยนใส่ตัวให้กองหน้าพักบอล ส่วนทางลิเวอร์พูลเน้นเกมรุกเต็มที่ แบ็คขึ้นทั้งสองฝั่ง พยายามออกบอลแดนกลางให้เร็วสลับกับออกบอลแนวลึกตั้งแต่แดนหลังเพื่อหนีการ วิ่งไล่ของเวสต์แฮม เกมเปิดแลกกันโดยเป็นลิเวอร์พูลที่พาบอลไปถึงเขตโทษได้มากกว่า แต่เวสต์แฮมเองก็วางบอลยาวไปมุมธงได้ผล แม้จะไม่ต่อเนื่องนักแต่ริมเส้นก็ได้ดวลตัวต่อตัวกับแบ็คอยู่หลายจังหวะ ได้ลุ้นเล็กๆ จากลูกจ่ายเข้าผ่านสเคอเทลไปแ้ล้วแต่ไมก้าชาร์จไม่ถึงบอลด้วย

_______ ผ่าน 15 นาทีแรกของเกมไป สเตอริ่งกับเฮนเดอร์สันสลับฝั่งกันเล่น โดยในจังหวะเล่นเกมรับสเตอริ่งจะไม่ไปไล่บอลริมเส้นแต่ยืนอยู่ตรงกลางเพื่อ รอรับบอลโต้กลับ ลิเวอร์พูเน้นโต้เร็วด้วยบอลยาวมากขึ้นซึ่งได้ผลไม่น้อย ทำให้เวสต์แฮมต้องถอยลงไปรับต่ำขึ้น รวมไปถึงทำให้ลิเวอร์พูลตัดบอลกลับคืนมาได้เร็วขึ้นด้วยเพราะเวสต์แฮมสกัดบอลออกมาได้ก็ไม่มีคนเก็บบอลในแดนหน้า ลิเวอร์พูลมีโอกาสมากกว่าแต่เป็นเวสต์แฮมที่เกือบขึ้นนำก่อนในนาที 21 ที่ได้โยนจากริมเส้นแล้วไมก้าขึ้นโหม่งเช็ดได้ไปติดเซฟมินโยเล่

_______ เวสต์แฮมยิ่งเล่นก็ยิ่งถอยไปรับแน่นในเขตโทษ ทำเกมของตัวเองไม่ได้ บอลยาวที่วางใส่กองหน้าก็โดนดักโหม่งหมดเก็บบอลไม่ได้ แต่ยังปิดพื้นที่สุดท้ายได้ดีพอสมควร ส่วนลิเวอร์พูลการดันแผงหลังสูง, แบ็คลอย, บอลทะลุของเจอราร์ดและการวิ่งทำทางของซัวเรสกับสเตอริ่งทำให้เกมรุกของลิ เวอร์พูลดีขึ้นเรื่อยๆ และหาโอกาสได้หลายครั้ง แต่คนที่มีโอกาสเยอะที่สุดอย่างสเตอริ่งเล่นจังหวะสุดท้ายไม่ได้เรื่องเลยจนทำให้ทีมยังไม่สามารถทำประตูได้

_______ เกมครึ่งแรกทำท่าจะจบที่สกอร์ 0-0 แต่แล้วนาที 42 จากจังหวะที่เวสต์แฮมจะตั้งเกมแต่โดนวิ่งไล่บอลเร็ว ซัวเรสไปแซะจนบอลกระดอนออกมาเข้าทางจอห์นสันโหม่งชงกลับไปให้ซัวเรส ก่อนพาบอลเข้าไปในเขตโทษกดยิงมุมแคบ ยัสเคไลเน่นเซฟได้แต่บอลกระดอนมาโดนเดเมลที่วิ่งลงมากลับเข้าประตูไป ลิเวอร์พูลขึ้นนำแบบโชคช่วยนิดๆ 1-0 นาที 44 ลิเวอร์พูลยังมีโอกาสดีอีกครั้งเมื่อสเตอริ่งปั้มบอลมาได้จนหลุดขึ้นไปพร้อม ซัวเรส สเตอริ่งไม่พาบอลไปเองแต่โหม่งชงให้ซัวเรสหลุดได้ยิงแต่บอลข้ามอัฒจันทร์ไป นิดเดียว จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ยังไม่ทันดูว่าอะไรเป็นอะไร นาที 47 ซัวเรสโดนทำฟาลว์ เจอราร์ดเปิดฟรีคิกลึกข้ามไปโคนเสาสอง ซาโก้เติมขึ้นไปยิงโดนไม่เต็มแต่บอลกระดอนสูงเข้ากรอบกำลังจะข้ามเส้นประตู คอลลินเตะสกัดโดนบอลแต่งัดไม่ออก ลิเวอร์พูลนำห่าง 2-0

_______ หลังจากถูกนำห่างเวสต์แฮมก็น็อคไปทันที อย่าว่าแต่ทำเกมรุกไม่ได้ แค่จะพาบอลขึ้นไปให้พ้นครึ่งสนามยังทำไม่ได้ แนวรับได้แต่สกัดไม่สามารถเก็บบอลหรือจ่ายขึ้นหน้าแบบมีทิศทาง บอลยาวบอลโด่งที่วางไปให้กองหน้าก็โดนคู่เซ็นเตอร์ดักโหม่งกินเรียบ ถึงตรงนี้เป็นลิเวอร์พูลที่พับสนามบุกใส่อยู่ข้างเดียว ตัดบอลกลับมาได้เร็วและหาโอกาสจบสกอร์ได้เรื่อยๆ แต่ยังไม่ดีพอจะเป็นประตู

_______ นาที 56 ลูคัสได้ลงมาแทนเจอราร์ดที่ขอเปลี่ยนตัวออกเพราะมีอาการเจ็บ ลิเวอร์พูลยังครองบอลและเล่นเกมรุกได้ต่อเนื่อง แบ็คสองฝั่งเติมขึ้นมาได้สบายเพราะเวสต์แฮมกองกันอยู่แถวเขตโทษหมด แต่จนแล้วจนรอดลิเวอร์พูลก็ยังทำสกอร์เพิ่มไม่ได้ ทั้งสเตอริ่งที่ยิงทิ้งยิงขว้างอยู่เรื่อย คูตินโย่ที่พอทีมนำสองลูกแ้ล้วเริ่มฝืนจะหาโอกาสยิงเองและทำได้ไม่ดีพอ ไม่หลุดกรอบก็ติดบล็อคแนวรับ

_______ ด้วยความที่บุกมากแล้วทำไม่ได้สักที แถมเกมรับเล่นกันไม่ค่อยระวัง นาที 66 เวสต์แฮมบุกขึ้นมาครั้งเดียว ได้โอกาสโยนบอลจากทางฝั่งขวา(ฟลานาแกน) ซึ่งโยนเร็วตั้งแต่หน้าเขตโทษ บอลลึกข้ามไปเสาสองมีตัวโหม่งชงกลับเข้ากลางแล้วเป็นสเคอเทลที่ยืนเท้าสกัด ถึงบอลแต่ผิดเหลี่ยมเข้าประตูไป เวสต์แฮมตีตื้นขึ้นมาได้ 2-1

_______ หลังจากสกอร์ขยับใกล้ขึ้นมา เกมเปลี่ยนทันที เวสต์แฮมกลับมามีฮึดอีกครั้งหลังจากเล่นแบบซังกะตายอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง ส่วนลิเวอร์พูลเริ่มออกอาการสะเปะสะปะ ลนลานและผิดพลาดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เวสต์แฮมเริ่มทำเกมกดดันได้อย่างต่อเนื่อง นาที 72 โมเสสลงมาแทนสเตอริ่งแต่ยังไม่มีอะไรดีขึ้น แถมเกมยังแย่ลงเข้าไปอีกเพราะสเตอริ่งพลาดแค่จังหวะสุดท้ายแต่การเชื่อมเกม และวิ่งทางทำได้ดีกว่าโมเสสเยอะ

_______ นาที 78 เคลลี่ได้ลงมาแทนฟลานาแกนในตำแหน่งแบ็คซ้าย นาที 81 เวสต์แฮมที่บุกอยู่ดีๆ เติมกันขึ้นมาไม่ระวังจนพลาด คูตินโย่วางบอลออกทางริมเส้นให้จอห์นสันที่วิ่งเติมขึ้นมารับบอลในแดนเวสต์ แฮมแบบว่างโล่งไร้คนประกบก่อนที่จะวางบอลยาวข้ามไปเสาสอง บอลข้ามหัวคอลลินและไปเข้าหัวซัวเรสพอดิบพอดีและซัวเรสก็โหม่งจ่อๆ ไม่พลาด 3-1

_______ พอสกอร์ขยับห่างอีกครั้ง เกมก็วนกลับไปเป็นเหมือนช่วง 2-0 เวสต์แฮมเกมดับอีกครั้ง สวนทางกับลิเวอร์พูลที่พอไม่กดดันแล้วความผิดพลาดก็น้อยลง กลับมาครองบอลและหาจังหวะจบสกอร์เป็นชุดๆ ได้เหมือนเดิม นาที 82 โนเบิลวิ่งมาย่ำน่องเฮนเดอร์สันเล่นจนตัวเองโดนไล่ออก เวสต์แฮมเหลือ 10 คน นาที 84 ลิเวอร์พูลมาได้อีกประตูเมื่อซัวเรสได้บอลหน้าเขตโทษ แตะบอลหาพื้นที่ยิงจนได้ บอลไปแฉลบโอไบรอันเข้าประตูไป 4-1 และปิดเกมไปได้ด้วยสกอร์ดังกล่าว
-----------------------------------------

_______ สกอร์ขาดแต่เกือบตายเหมือนกันครับ

_______ 11 ตัวจริงวันนี้ร็อดเจอร์ปรับตำแหน่งเดียวคือซาโก้แทนแอกเกอร์ แต่วิธีการเล่นปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อย ร็อดเจอร์เลือกวิธีการเล่นช่วงต้นเกมด้วยการเน้นบอลเร็วและหันมาแทงบอลลึก จากแดนหลังไปแดนหน้ามากขึ้นซึ่งตรงนี้ทำได้ดีเพราะหนีการไล่บอลเร็วของเวสต์ แฮมได้ยอดเยี่ยมมาก แต่การดันแผงหลังขึ้นสูงมันเสี่ยงมากเกินไป เพราะถึงจะบุกได้แต่เจาะพื้นที่สุดท้ายไม่ได้อยู่ดีแถมเกมรับยังมีปัญหากับ พื้นที่ริมเส้นที่โดนเวสต์แฮมวางยาวมาได้เป็นระยะ เกือบจะเสียประตูก่อนด้วยซ้ำดีว่ามินโยเล่ช่วยไว้ได้ ถ้าเวสต์แฮมนำก่อนละงานเข้าแน่ครับ

_______ มองเลยมาถึงครึ่งหลัง หลังจากนำ 2-0 แล้ว ลิเวอร์พูลทำเกมรุกได้ดุดันและสนุกมากก็จริงอยู่แต่เล่นกันแบบขาดวินัย โอกาสมากมายที่หาได้ก็ทำพลาดกันไปหมด บางจังหวะก็ฝืนจะทำเองเล่นเอง เพื่อนครองบอลอยู่ก็ไม่วิ่งเข้าไปช่วย แผงหลังที่ควรจะเติมขึ้นอย่างระวังกว่านั้นก็ลอยกันขึ้นไปหมด สุดท้ายนอกจะไม่ได้ประตูที่สามแล้วยังมาเสีย 2-1 ทำให้ตัวเองกดดันในที่สุด ซึ่งตรงนี้ร็อดเจอร์น่าจะช่วยเตือนลูกทีมได้แต่ก็ไม่

_______ การเปลี่ยนตัวลูคัสแทนเจอราร์ดนั้นเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว แต่ส่วนหนึ่งมาจากการใช้งานเจอราร์ดหนักไปหรือปล่าว? ส่วนการเปลี่ยนตัวอีกสองครั้งนั้นไม่ช่วยให้ทีมดูดีขึ้นเลย อีกทั้งในรายของโมเสสแทนสเตอริ่งนอกจากจะไม่ดีขึ้นแล้วยังแย่หนักเข้าไปอีก ถ้าเขาเปลี่ยนตอนนำ 2-0 จะเข้าใจได้ว่าให้โอกาสโมเสส แต่เปลี่ยนตอน 2-1 ทั้งที่สเตอริ่งจะเล่นได้(ห่วยเฉพาะจังหวะสุดท้าย)นี่มันไม่ควรจริงๆ

_______ สิ่งเดียวที่ร็อดเจอร์ทำได้ดีเอามากๆ คือการวางแท็คติคการเข้าทำ ในจังหวะเกมรับเขาไม่ให้สเตอริ่งลงมาไล่บอลเลยแต่ให้ไปยืนรอรับลูกยาวโต้ กลับซึ่งใช้ได้ผลหลายครั้งมากๆ ในเกมรุกดันเจอราร์ดขึ้นมาเกินครึ่งสนามช่วยออกบอลเกมรุกมากขึ้นกว่านัด ก่อนๆ ที่จะยืนต่ำกว่านี้ โอกาสยิง 30 กว่าครั้งในนัดนี้แทบทั้งหมดมาจากการเข้าทำแบบที่ว่า ซึ่งใช้งานได้ดีกับเวสต์แฮมที่คู่เซ็นเตอร์ช้าและไม่เน้นการต่อบอลแดนกลาง เท่าไหร่(เน้นวางข้ามไปข้างหน้าอย่างเดียว) เฉพาะส่วนนี้ร็อดเจอร์ทำการบ้านมาดีครับ

_______ จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมในวันนี้มีอยู่ 3 จุดคือลูก 2-0, การเสียเจอราร์ด, ลูก 2-1 และลูก 3-1 ซึ่งทำให้เกมพลิกกลับไปกลับมา การเสียเจอราร์ดทำให้บอลแทงลึกของทีมมันหายไปหมดได้แต่เคาะสั้นเชื่อมเกม ซึ่งบอลไปข้างหน้าช้ากว่า แถมไม่มีคนออกไปพื้นที่ว่างได้ดีเท่าเจอราร์ดทำให้เกมรุกตันขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ในช่วงเวลาที่ไม่มีเจอราร์ด คูตินโย่เองก็ทำดีมากๆ แค่ลูกที่จ่ายให้จอห์นสันที่นำมาซึ่งประตูที่ 3 ส่วนลูก 2-1 ทำให้เวสต์แฮมที่ตายสนิทแหงแก๋ไปแล้วฟื้นกลับขึ้นมากดดันได้อย่างไม่น่า เชื่อถ้าดูจากรูปเกมตั้งแต่ได้ 2-0 เป็นต้นมา เรื่องเล่นไม่ระวังหลังขึ้นนำได้นี่เห็นค่อนข้างบ่อยและควรรีบแก้โดยเร็วที่ สุด

_______ สำหรับชัยชนะวันนี้, ชนะขาด และเป็นจุดที่ตัดสินเกมหนีไม่พ้น หลุยส์ ซัวเรส ในช่วงเวลาที่ยากลำบากทั้งลูกยิงปลดล็อค 1-0, 3-1 และปิดกล่อง 4-1 ก็ฝีมือเขาทั้งนั้น นอกจากนั้นตลอดเกมเขายังมีส่วนร่วมกับเกมรุกค่อนข้างมาก การวิ่งหาพื้นที่ว่างช่วยให้แดนกลางจ่ายบอลให้ง่ายแถมยังช่วยดึงแนวรับออกมา จนสเตอริ่งมีโอกาสวิ่งทำทางขึ้นไปได้ยิงหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งถ้าสเตอริ่งจบสกอร์ดีกว่านี้ ลิเวอร์พูลชนะครึ่งโหลไปแล้วครับ (จะชอบไม่ชอบก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าซัวเรสแบกทีมอยู่ )

_______ ...ฟอร์มซัวเรสกำลังพุ่งกระฉูด หยุดไม่อยู่จริงๆ ครับ...

 -------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดีเป็นส่วนใหญ่

มินโยเล่ - เซฟลูกสำคัญและยากมากๆ เอาไว้ได้ในครึ่งแรกทำให้ทีมไม่ต้องตามหลัง ขว้างบอลเร็วจังหวะโต้กลับได้ดีครึ่งนึงทีมเกือบได้ประตู แต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไรให้ทำมาก การเปิดบอลยาวส่วนใหญ่ยังไม่ดีแต่บอลสั้นที่เล่นกับกองหลังทำได้ดีขึ้น เรื่อยๆ

ฟลานาแกน - เกมรับไม่ค่อยมีให้เล่น จังหวะที่มีก็เล่นได้ไม่ดีนัก อ่านเกมพลาดพอสมควร เกมรุกวันนี้ขึ้นเยอะที่สุดตั้งแต่เป็นตัวจริงมา ถ้าแค่เชื่อมเกมก็ถือว่าดีแต่ถ้าคิดจะเล่นจังหวะสุดท้าย...ไม่เล่นน่าจะดี กว่า...ไม่ว่าจะยิงหรือจ่าย

ซาโก้ - เล่นได้ดีมากจนงงว่าทำไมถึงต้องนั่งสำรองมา 3 นัดติด โดดเด่นกับการชิงโหม่งจังหวะคู่ต่อสู้โยนมาให้กองหน้าพักบอลที่ซาโก้ดักได้ แทบทุกลูก จังหวะเข้าสกัดหรือดักทางจ่ายบอลก็ทำได้ดีไม่ผิดพลาด การผ่านบอลสั้นตั้งเกมก็ไม่สยองขวัญแบบสเคอเทล

สเคอเทล - อ่านเกมและประกบพลาดนิดหน่อยแต่นิดหน่อยที่ว่านั่นเป็นจังหวะสำคัญทั้งนั้น สกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเองอีกต่างหาก แต่การผ่านบอลดีขึ้นกว่านัดก่อน ที่ทำได้ดีในนัดนี้คือการชิงจังหวะโหม่งก่อนกองหน้าพักบอลซึ่งทำได้ดีไม่แพ้ ซาโก้

จอห์นสัน - ขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมได้ดี จังหวะสุดท้ายกดดันคู่ต่อสู้ได้แต่ก็ไม่ถึงกับดีนัก มาดีมากๆ ก็จังหวะที่โยนเข้าไปให้ซัวเรสโหม่งที่น้ำหนักทิศทางสุดยอด ส่วนเกมรับทำดีในการวิ่งขึ้นลง มีจังหวะที่วิ่งตามหลังคู่ต่อสู้น้อยมาก แต่ห่วยสุดขีดกับการปิดทางการโยนบอลเข้ากลางที่บล็อคหรือบีบให้คู่ต่อสู้เปิดพลาดแทบไม่ได้เลย ... จังหวะที่เสียประตูก็มีส่วนพลาดด้วย

อัลเลน - เชื่อมเกมได้ดีมาก เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คูตินโย่กับเจอราร์ดแทบไม่ต้องลงมาล้วงบอลต่ำเลย ครองบอลได้ค่อนข้างดี มีพลาดบ้างโดนแซะไปได้พอสมควรแต่ไม่มากนัก(แต่มากกว่ากลางคนอื่น)

เจอราร์ด - ออกบอลได้ดีมาก ความแม่นยำก็เรื่องนึงวันนี้ไม่ค่อยพลาด แต่ที่เด่นมากๆ คือทางบอลที่มองได้ลึกและกว้าง ให้ไปในตำแหน่งที่เพื่อนได้เปรียบ ไม่ใช่จ่ายไปในจังหวะเพื่อนทำอะไรไม่ได้นอกจากเคาะคืนหลัง เปิดฟรีคิกได้ดีด้วย

เฮนเดอร์สัน - ยังวิ่งอยู่ ไล่มากที่สุดใน แดนกลางด้วยแต่ก็น้อยลงกว่านัดก่อนๆ แล้ว ... คงเหนื่อยบ้างอะไรบ้าง... เชื่อมเกมได้ดี ออกบอลได้เร็วขึ้น ขาดแต่การออกบอลจังหวะสุดยังทำไม่ได้เหมือนเดิม เช่นเดียวกับการจบสกอร์

สเตอริ่ง - วิ่งทำทางได้ดีและพาบอลไปเสียน้อย จะว่าไปทำได้ดีทุกอย่างยกเว้นจังหวะยิงประตูที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ถึงอย่างนั้นนี่เป็นวันที่สเตอริ่งเล่นดีที่สุดในฤดูกาลนี้

คูตินโย่ - ครึ่งแรกเล่นได้ดี การเคลื่อนที่, ผ่านบอลทำได้ต่อเนื่องและกดดันคู่ต่อสู้ได้ แต่ครึ่งหลังครองบอลนานเกินไป เน้นจะยิงเองจนทำให้ทีมเสียโอกาสหลายครั้ง มาแก้ตัวได้ในจังหวะลูก 3-1

ซัวเรส - ย้อนกลับไปอ่านด้านบน

ตัวสำรอง 

ลูคัส - ดักตัดบอลในเขตโทษได้ดี เชื่อมเกมใช้ได้แต่ไม่ดีเท่าอัลเลน เพื่อนโดนประกบบางทีก็จ่ายยัดไปให้

โมเสส - ถ้าไม่ขยับฟอร์มขึ้นมามากๆ น่าจะตามรอยซิสโซโก้ไปในไม่ช้า

เคลลี่ - ไม่ได้ทำอะไรมากนัก ไม่เห็นความต่างอะไรเทียบกับการใช้ฟลานาแกน

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...หลุยส์ ซัวเรส... ครับ! (ไม่ได้ตั้งใจก็อปนัดที่แล้ว แต่มันอดไม่ได้จริงๆ)

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น