วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ลิเวอร์พูล 1 - 1 นิวคาสเซิล (พรีเมียร์ลีค)

 ...เอื้อมไม่ถึง...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

---------------------ซัวเรส-----------------------
------สเตอริ่ง-------ซาฮิน---------ซูโซ่--------
------------อัลเลน---------เจอราร์ด-------------
เอนริเก้----แอกเกอร์-----สเคอเทล----วิสดอม
----------------------โจนส์-----------------------

               ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ติดต่อกันเป็นนัดที่สอง คราวนี้รับมือนิวคาสเซิลในเกมพรีเมียร์ลีค ร็อดเจอร์สปรับกลับมาใช้ทีมหลักชุดเดิมอีกครั้งขาดไปแค่จอห์นสันกับเรน่าที่ ยังไม่ฟิต เป็นโอกาสของโจนส์ต่อไป รวมไปถึงเอนริเก้ที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบคซ้ายอีกครั้ง ส่วนนิวคาสเซิลจัดมาทั้งบา,ซิสเซ่,อาร์ฟฟาลงตัวจริงอย่างพร้อมเพรียง ตัวหลักขาดไปเพียงแค่ติโยเต้ที่ติดโทษแบนอยู่เท่านั้น
-------------------------------------------------------

               เริ่มเกมมา 10 นาทีแรกเป็นเกมของลิเวอร์พูลอยู่ฝ่ายเดียว เล่นเร็วไล่บอลสูงกองหลังดันขึ้นมาครึ่งสนามเปิดเกมรุกเต็มที่ ครองบอลและกดดันได้อย่างต่อเนื่องแม้จะพอได้ลุ้นจบสกอร์บ้างแต่ยังเจาะเข้าพื้นที่สุดท้ายไม่ค่อยได้ แต่หลังจากผ่าน 10 นาทีไปแล้ว นิวคาสเซิลตั้งหลักเก็บบอลเอาไว้กับตัวได้ดีขึ้น ทำให้เกมของลิเวอร์พูลเริ่มช้าลงไปและบอลเริ่มถอยห่างออกจากเขตโทษของนิวคาส เซิล ส่วนนิวคาสเซิลแม้จะได้บอลมากขึ้นแต่ยังทำเกมรุกไม่ได้เลย

               ยิ่งเล่นเกมยิ่งเทกลับมาทางฝั่งนิวคาสเซิลมากขึ้นทีละน้อย เกมโดยรวมดูช้าลงและหาโอกาสเจาะเข้าเขตโทษกันแทบไม่ได้ มีเีพียงแค่จังหวะยิงไกลหรือไม่ก็บอลไปคนไม่ไป คนอยู่บอลไม่มา ลิเวอร์พูลยังคงครองเกมได้มากกว่าแต่รูปเกมไม่ได้เป็นต่อเหมือนในช่วงต้นเกม แล้ว ครึ่งแรกทำท่าจะจบที่สกอร์ 0-0 แต่แล้วนาที 43 อาร์ฟฟาขึ้นบอลทางริมเส้นขวา(ฝั่งซ้ายลิเวอร์พูล) สลัดหลุดผ่านสเตอริ่งกับเอนริเก้เข้าไปเปิดบอลข้ามไปเสาสอง คาบายเก็บบอลได้แล้วยิงแสกหน้าอัดเสยเพดานตาข่ายเข้าไปได้ให้ทีมเยือนนำ 1-0 และจบครึ่งแรกที่สกอร์ดังกล่าว

               เข้าครึ่งหลัง ร็อดเจอร์สยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมแต่มีการปรับวิธีเล่นเล็กน้อย ลิเวอร์พูลหันมาเร่งเกมให้เร็วขึ้น จ่ายบอลไปข้างหน้ามากขึ้นไม่เสียเวลาอยู่กับการเคาะหาช่องอยู่แถวกลางสนาม เหมือนท้ายครึ่งแรก ทำให้ลิเวอร์พูลมีเกมรุกที่ดุดันขึ้น บอลเข้าไปกดดันถึงหน้าเขตโทษบ่อยครั้งแลกมาด้วยการครอบครองบอลที่น้อยลง เพราะเสียบอลเร็วกว่าในครึ่งแรก

               ผ่าน 1 ชั่วโมงของเกมไป ลิเวอร์พูลยังหาช่องเจาะเข้าไปไม่ค่อยได้ ได้แต่ลุ้นนิดหน่อยกับการยิงไกลและลูกเตะมุม ซาฮินถูกถอยลงมาเล่นต่ำแล้วสลับเอาเจอราร์ดขึ้นไปเล่นสูงแต่ยังไม่ค่อยได้ผล นาที 66 ร็อดเจอร์สต้องส่งเชลวี่ย์ลงมาแทนซูโซ่ และนาทีถัดมาลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอในที่สุด จากจังหวะที่นิวคาสเซิลจ่ายบอลพลาด เอนริเก้เก็บบอลได้แถวๆ เกือบกลางสนามแล้ววางยาวลึกให้ซัวเรสทันที ซัวเรสเอาบอลลงและพลิกหลบครูลยิงเข้าไปได้อย่างเหนือชั้น 1-1

               หลังจากตีเสมอได้ เกมของลิเวอร์พูลดูคึกคักขึ้นมาทันตาเห็นทั้งจากกำลังใจที่เพิ่มขึ้นและการ เล่นแบบเดินหน้าฆ่ามันไม่แตะกลับหลังของเจอราร์ดกับเชลวี่ย์ ลิเวอร์พูลได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง แม้กองหลังนิวคาสเซิลยังคงเล่นได้ดีแต่ลิเวอร์พูลเริ่มเจาะเข้าไปลุ้นในเขตโทษได้มากขึ้น นาที 74 ดาวนิ่งได้ลงมาแทนซาฮินอีกคน สลับสเตอริ่งไปเล่นทางขวา ถึงตรงนี้เกมเปิดแลกกันเต็มที่และเป็นลิเวอร์พูลที่ทำได้ดีกว่า ได้ลุ้นเป็นระยะ ในขณะที่นิวคาสเซิลแม้จะโต้ขึ้นไปได้ลุ้นเกือบเป็นประตูอยู่บ้างแต่โดยรวม แล้วหาโอกาสได้น้อยและค่อยๆ ถูกดันให้ต้องถอยไปตั้งรับ พอถึงช่วง 10 นาทีสุดท้ายนิวคาสเซิลก็แทบจะเล่นเกมรับอย่างเดียวแล้ว

               นาที 84 โคลอชชินี่มาโดนใบแดงจากจังหวะเปิดปุ่มใส่ซัวเรส ลิเวอร์พูลบุกใส่เต็มที่และนิวคาสเซิลเตะทิ้งอย่างเดียว ลิเวอร์พูลหวุดหวิดจวนเจียนจะได้ประตูชัยหลายครั้งชนิดที่ได้ลุ้นจริงๆ ไม่ใช่แค่ได้ยิง แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ นิวคาสเซิล 10 บุกมาแบ่งแต้มกลับไปได้ด้วยสกอร์ 1-1
-----------------------------------------

               ร็อดเจอร์สจัด 11 ตัวจริงแบบไม่มีอะไรผิดคาดนักเมื่อดูจากการที่เรน่ากับจอห์นสันยังไม่ ฟิต(เขาว่าแบบนั้นนะ) แทคติคการเล่นก็เรียกว่ากล้าได้กล้าเสียทีเดียวเมื่อสั่งลุยตั้งแต่ต้นเกม แบคทั้งสองฝั่งเล่นเกมรุกเต็มที่ไม่ได้เล่นแบบกล้าๆ กลัวๆ คู่เซนเตอร์ดันกันขึ้นไปค่อนข้างสูงอยู่ตลอด ตรงนี้เป็นสิ่งที่ร็อดเจอร์สตัดสินใจได้ดีเพราะถึงแม้ว่าผลงานโดยรวมของทีม จะยังไม่ดีนัก รวมไปถึงเก็บแต้มในบ้านได้น้อยเหลือเกิน แต่การเจอกับทีมที่ไม่ใช่ทีมหัวตัวรางในบ้านตัวเองจะมาหน่อมแน้มติ๊ดชึ่งรอ คู่ต่อสู้พลาดมันก็ยังไงอยู่

               อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าการตัดสินใจเปลี่ยนตัวของร็อดเจอร์สวันนี้ ค่อนข้างช้า ซาฮินไม่น่าได้ลงสนามมาในครึ่งหลัง, เชลวี่ย์น่าจะได้ลงมาเร็วกว่านั้น รวมไปถึงตอนที่นิวคาสเซิลเหลือ 10 คน น่าจะส่งตัวรุกลงมาเพิ่มเพราะนิวคาสเซิลไม่คิดโต้แล้ว หรือถ้าบาเก็บบอลได้บ้างก็ไม่มีเพื่อนช่วย จริงอยู่ว่ามันเสี่ยงที่จะโดนโต้กลับเสียประตูแพ้ แต่ถ้าไม่เสี่ยงตอนเล่นในบ้าน, คู่ต่อสู้เหลือ 10 คน, รูปเกมดีกว่า, นักเตะกำลังคึก แล้วควรจะไปเสี่ยงตอนไหนล่ะ?

               นอกจากนั้น ฟอร์มการเล่นของนักเตะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้วันนี้ลิเวอร์พูลพลาด 3 แต้ม มันไม่ใช่ฟอร์มส่วนตัวที่เล่นไม่ดี แต่เป็นการประสานงานกันมากกว่า ในช่วง 1 ชั่วโมงแรกของเกมนั้น การประสานงานในเกมรุกระหว่างตัวรุก 4 คนทำได้ไม่ค่อยดีนัก พอรอก็ไม่วิ่งทำทาง พอว่างก็ไม่ให้ ซัวเรสออกริมเส้นไม่มีคนตัดเข้ากลาง พอแปะให้แล้ววิ่งไปก็ดันไม่ชิ่งกลับ อะไรทำนองนั้น ซึ่งทำให้ลิเวอร์พูลเสียเวลาเสียโอกาสไปมากทีเดียว รวมไปถึงจังหวะจบสกอร์ที่ขาดๆ เกินๆ ไม่ค่อยเด็ดขาด ทีมได้ยิงล่อเข้าไปร่วม 20 ครั้ง เตะมุมอีกเป็นสิบ แต่ทำได้แค่ประตูเดียวเท่านั้น

               สิ่งที่ดีในเกมนี้คือเกมรุกของลิเวอร์พูลยังดูดี แม้จะประสานงากันไปไม่น้อยแต่เล่นได้เต็มพื้นที่ดี จังหวะที่ทำกันได้ดีก็มีให้เห็นอยู่ จังหวะเร่งเร่งได้ดีไม่ใช่เร่งแล้วเหมือนเตะอัดกำแพง และแม้กระทั่งเกมรับที่เสียประตู(อีกแล้ว) โดยรวมก็ถือว่าทำได้ดีขึ้นเพราะปิดโอกาสการยิงของนิวคาสเซิลได้ดีเอามากๆ ลูกโต้กลับที่โดนบ่อยๆ วันนี้กองหลังยังวิ่งไปประคองทันเกือบหมด ทำให้วันนี้ชัยชนะนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม แค่เอื้อมแล้วจริงๆ แต่...

                ...เอื้อมไม่ถึงครับ...
----------------------------------

นัดนี้เล่นใช้ได้ บางคนดีทีเดียวล่ะ

โจนส์ - ฟอร์มดีต่อเนื่อง ยืนตำแหน่งดีมาก เซฟได้แบบแทบไม่ต้องพุ่งเลย ช่วยทีมไว้ในจังหวะคอขาดบาดตาย 2-3 ครั้ง นัดนี้เริ่มเล่นบอลสั้นมากขึ้นกว่านัดก่อนๆ

เอนริเก้ - เกมรับโดยรวมค่อนข้างดีเลย แต่พลาดจังหวะเสียประตูซึ่งจริงๆ ก็ชี้บอกให้สเตอริ่งไปซ้อนแล้วแต่สเตอริ่งดันวิ่งมาบี้อาร์ฟฟาอีกคน อย่างไรก็ตามจังหวะนั้นเอนริเก้น่าจะทำได้ดีกว่านั้น ส่วนเกมรุกขึ้นเยอะได้บอลเยอะทำได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แต่ดันมาทำดีเอาจังหวะได้ประตูที่คิดเร็วทำดีจ่ายให้ซัวเรสหลุด ซึ่งหลังจากนั้นพยายามวางลึกลักษณะเดียวกันอีกหลายลูก พลาดหมด สรุปคือเกมรับใช้ได้แต่พลาดหนักครั้งเดียวทำทีมเสียประตู เกมรุกไม่ได้เรื่องแต่ทำดีครั้งเดียวทีมได้ประตู เอาไงกับพี่แกดีล่ะ ร็อดเจอร์ส?

แอกเกอร์ - เล่นได้ดีมาก ยกเว้นจังหวะโหม่งสกัดที่โหม่งไม่ค่อยพ้นเขตอันตราย พาบอลและผ่านบอลขึ้นหน้าได้สุดยอด

สเคอเทล - ก๊อปแอกเกอร์มาเลย แต่เด่นกว่าในจังหวะเข้าสกัด

วิสดอม - เกมรับเหนียวแน่น เกมรุกเล่นได้ตามอัตภาพ

อัลเลน - แม้โดยรวมจะพูดได้เต็มปากว่าเล่นดี แต่ก็ออกบอลพลาดเยอะกว่าที่ผ่านมา มีจังหวะแย่งบอลสวยๆ ให้เห็นหลายครั้ง

เจอราร์ด - ชั่วโมงแรกของเกมยืนค่อนข้างต่ำ ช่วยทีมได้น้อย แต่พอทีมเข้าตาจนก็ต้องหันไปพึ่งเจอราร์ดอีก ดันขึ้นมาเล่นสูงได้ดี แม้จะเล่นพลาดเยอะแต่ก็บู๊ดุดันทำให้เกมเร็วและทะลุทะลวงแนวรับได้ดี

ซาฮิน - องค์ออก ฟอร์มช็อตไปดื้อๆ

สเตอริ่ง - โคตรโชคดีที่ไม่โดนเหลือง หรือแม้กระทั่งแดงในจังหวะที่ไปเสียบคู่ต่อสู้ในครึ่งแรก ฟอร์มโดยรวมทำได้ดีทีเดียวโดยเฉพาะช่วงหลังจากที่ได้ประตูตีเสมอแล้ว เรียกฟาลว์ได้เยอะ (จริงๆ ก็ไม่ได้เรียกหรอก แต่จับบอลเป็นโดนเตะ ไม่ทันได้ดีไซน์ท่าล้มแบบซัวเรสเลย) กดดันแนวรับได้ดีมาก

ซูโซ่ - 10 นาทีแรกเล่นได้สุดยอด 10 นาทีถัดมาเล่นได้ดี อีก 10 นาทีถัดมาไม่ค่อยได้บอล อีก 15 นาทีถัดมาหายไปเลย เข้าครึ่งหลังโผล่เข้าจอมาแว๊บๆ สองสามครั้งแล้วทีนี้หายสนิท

ซัวเรส - ครึ่งแรกก็ยังเล่นดื้อๆ ฝืนๆ ตามสไตล์ ส่วนหนึ่งมาจากเพื่อนก็ไม่ได้วิ่งทำทางให้แบบน่าจ่ายด้วย บางครั้งตัดออกข้างไปถึงเส้นหลังแล้วแต่ริมเส้นดันไปยืนอยู่มุมกรอบเขตโทษ ฝั่งนู๊น ส่วนกลางรุกยืนอยู่ห่างไกลโพ้นลับตา ครึ่งหลังพอเพื่อนวิ่งขึ้นมาช่วยมากขึ้นก็เล่นได้ดีขึ้น วันนี้เล่นงานโคลอชชินี่ล้มกลิ้งล้มหงายแถมโดนใบแดงอีกต่างหาก นอกจากนั้นจังหวะทำประตูยังจับบอลลง,แตะหลบทิม ครูลได้สุดยอดมาก

ตัวสำรอง

เชลวี่ย์ - ลงมาเล่นได้ดุดัน ขยับหาพื้นที่ว่างรับบอลได้ดีมาก เพื่อนจ่ายไปให้ได้ตลอด ดีหมดทุกอย่างยกเว้นจังหวะยิงประตูซึ่งพลาดลูกง่ายๆ 2-3 ครั้ง

ดาวนิ่ง - อยากเห็นซัวเรสบินได้...เอ่อ ก็เล่นดีแหล่ะ รับบอลไปเปิดเข้ากลางสวยๆ กดดันแนวรับได้ดีหลายลูก ช่วยถ่างแนวรับและกดดันให้นิวคาสเซิลต้องลงไปรับตามที่ลิเวอร์พูลต้องการ แต่เปิดอย่างเดียวจริงๆ และซัวเรสก็บินขึ้นไปโหม่งเหนือหัวโคลอชชินี่ไม่ไหว

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...โฮเซ่ เอนริเก้.... ถ้า MOM คือคนที่เล่นได้ดีที่สุดเอนริเก้คงไม่ใช่ มีหลายคนที่เล่นได้ดีกว่าและเลือกค่อนข้างยาก ขอเลือกคนที่ส่งผลต่อเกมมากที่สุดอย่างเอนริเก้ก็แล้วกัน ถ้าเอนริเก้ไม่พลาด ลิเวอร์พูลก็ไม่เสียประตู แต่ถ้าเอนริเก้ไม่พลาด(คือจังหวะปรกติพี่แกต้องจ่ายเสีย ลูกนั้นพลาดจ่ายสวย) ลิเวอร์พูลก็ไม่ได้ประตูเช่นกัน
 ------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น