วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ลิเวอร์พูล 3 - 0 วีแกน (พรีเมียร์ลีค)


R.I.B ... ดาวนิ่ง
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลปรับมาเล่น 4-4-1-1

----------------------ซัวเรส-----------------------
-----------------------ซูโซ่------------------------
เอนริเก้-----เจอราร์ด-----อัลเลน-------สเตอริ่ง
จอห์นสัน---แอกเกอร์----สเคอเทล----วิสดอม
-----------------------เรน่า------------------------

               ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับวีแกนในเกมพรีเมียร์ลีค ร็อดเจอร์ปรับแทคติคและตัวผู้เล่นค่อนข้างเยอะ เปลี่ยนมาเล่น 4-4-2(4-4-1-1) โดยผู้รักษาประตูเป็นเรน่าที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง จอห์นสันยังเล่นแบ็คซ้ายต่อไป ขวาเป็นวิสดอม แล้วดันเอาเอนริเก้ไปเป็นปีกซ้าย มีซูโซ่ยืนอยู่หลังซัวเรส
-------------------------------------------------------

               เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลก็ชวนทะเลาะทันทีด้วยการเร่งเกมบุกเข้าใส่และเข้าไล่ บอลเร็ว เน้นขึ้นทางฝั่งซ้่ายและทำเกมไปได้ถึงหน้าเขตโทษแต่ไปตกม้าตายจังหวะสุดท้าย ที่ไม่ค่อยให้บอลกันทำให้ยังไม่ค่อยได้ลุ้น ส่วนทางวีแกนพยายามขึ้นเกมริมเส้นเน้นเจาะทางฝั่งวิสดอมแต่ไม่ได้ผล บุกไม่ค่อยขึ้น แต่ครองบอลใช้ได้ ได้บอลแต่ละทีกว่าลิเวอร์พูลแย่งกลับมาได้ค่อนข้างช้า ทำให้เกมโดยรวมออกมาสูสี

               ยิ่งเล่นไปวีแกนยิ่งครองบอลและทำลายเกมรุกของลิเวอร์พูลได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เกมรุกของตัวเองยังไม่ได้พัฒนาไปไหน ทำให้เกมโดยรวมช้าลงและแทบไม่ได้ลุ้นอะไรทั้งสองฝ่าย นาที 36 ร็อดเจอร์ก็ตัดสินใจปรับเกมโดยถอดเอาซูโซ่ออกส่งเฮนเดอร์สันลงมา ดันตัวริมเส้นเล่นสูงขึ้นเหมือนทรงของ 4-2-3-1 แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ก่อนจะจบครึ่งแรกที่ 0-0 โดยที่แนวรับของทั้งสองฝั่งแทบไม่โดนกดดันอะไรเลย

               เข้าครึ่งหลัง ยังไม่ทันจะเห็นหน้ากันครบคนวีแกนก็มาพลาดให้ นาที 47 นักเตะวีแกนจ่ายบอลสั้นโดนสเตอริ่งตัดไปได้ก่อนที่จะลากเข้าเขตโทษจ่ายไม่ดีนักเหมือนจะย้อนหลังซัวเรสแล้วแต่คนยิงยิงไม่พลาด 1-0 หลังจากได้ประตูนำลิเวอร์พูลก็เน้นการครองบอลทันที ส่วนทางฝั่งวีแกนนั้นดูเก้ๆ กังๆ จะรุกไม่รุก จะรับไม่รับ เกมดูจะช็อตไป ทำให้ลิเวอร์พูลหาช่องเล่นได้ง่ายขึ้นและครองบอลทำเกมได้ดีขึ้นมากแบบผิดหู ผิดตา

               ในที่สุดลิเวอร์พูลก็ใช้ความได้เปรียบของรูปเกมให้เป็นประโยชน์ได้ นาที 58 จอห์นสันวิ่งทำทางไปริมเส้น เอนริเก้ได้โอกาสตัดเข้ากลางก่อนจะจ่ายทะลุให้ซัวเรสหลุดเดี่ยวไปยิงหนีผู้ รักษาประตูเข้าไปได้ 2-0 ถึงตรงนี้วีแกนยิ่งไปกันใหญ่  จ่ายบอลพลาด จะขึ้นริมเส้นไม่ผ่านแบ็ค จะวางยาวกองหน้าก็เก็บบอลไม่อยู่ เสียบอลเร็วมาก กลายเป็นเกมของลิเวอร์พูลโดยสิ้นเชิง เท่านั้นยังไม่พอ วีแกนยังมาซวยซ้ำให้ตายสนิทจากความผิดพลาดของผู้ตัดสิน นาที 64 กองหลังเตะบอลไปแฉลบหัวซัวเรสออกแต่ผู้ตัดสินให้ลิเวอร์พูลทุ่ม จากจังหวะนั้นสเตอริ่งทำชิ่งกับซัวเรสหลุดเข้าไปยิงมุมแคบ ผู้รักษาประตูเซฟได้แต่บอลปลิ้นไปเสาสองเข้าทางเอนริเก้ที่วิ่งมารออยู่แล้ว 3-0

               หลังจากโดยไป 3 ลูก วีแกนถึงตั้งสติกลับมาได้บ้าง เริ่มทำเกมรุกเป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้นแต่จังหวะสุดท้ายก็ได้แค่ยิงแต่ไม่ได้ ลุ้น กลับเป็นฝั่งลิเวอร์พูลที่ได้โอกาสโต้เร็ววางบอลไปที่ว่างได้ดีและได้ลุ้นประตูอีกหลายครั้งแต่บอลสุดท้ายพลาดกันไปเอง นาที 82 คาราเกอร์ได้ลงมาแทนแอกเกอร์และ นาที 87 เชลวี่ย์ลงแทนซัวเรส โอกาสเดียวที่วีแกนเกือบได้ประตูก็ยิงจ่อๆชนเสาซะอีกแถมโดนเป่าล้ำ หน้า(ทั้งๆ ที่ไม่ล้ำ) ช่วงท้ายเกมวีแกนก็ถอดใจก่อนที่ลิเวอร์พูลจะปิดเกมเก็บ 3 แต้มไปได้สำเร็จด้วยสกอร์ 3-0
-----------------------------------------

               วันนี้ร็อดเจอร์จัดทีมแปลกตาออกไป เลือกเอนริเก้ไปเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายซึ่ง ส่งผลให้จอห์นสันต้องเล่นแบ็คซ้ายต่อไป รวมไปถึงวิสดอมยังได้เป็นตัวจริงด้วย จะว่าผิดก็ไม่ผิด ต้องบอกว่าร็อดเจอร์แค่เลือกเอนริเก้ก่อนดาวนิ่งเท่านั้นเอง แต่การเปลี่ยนตัวเร็วตั้งแต่นาที 36 ที่ถอดซูโซ่ออกแล้วส่งเฮนเดอร์สันลงไปนั้นต้องถือว่าแปลกใจจริงๆ ดูด้วยตาเปล่าไม่เห็นว่าซูโซ่จะเจ็บอะไรก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องรีบเปลี่ยน เข้าใจเอาเองจากการยืนตำแหน่งหลังจากนั้นว่าร็อดเจอร์ต้องการปรับทีมจาก 4-4-2 กลับมาเล่น 4-2-3-1 มากกว่า (ปีกสองข้างยืนสูงขึ้น เน้นเกมริมเส้น ตรงกลางเน้นเกมรับกับเชื่อมเกม) ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากเปลี่ยนตัวจนกระทั่งได้ประตูแรก (นาที 37-47) ลิเวอร์พูลยังเล่นเกมรุกเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยนคือขึ้นซ้ายอย่างเดียวด้วย เอนริเก้ เฮนเดอร์สันไม่ได้ลงไปสร้างความแตกต่างในเกมใดๆ เลยจากช่วงก่อนหน้านั้น ก็ไม่รู้ว่าร็อดเจอร์จะปรับไปทำไม คิดได้อย่างเดียวว่าเขาพลาดในการวางแทคติคตอนเริ่มเกม อย่างไรก็ตาม ข้อสงสัยจะหมดไปทันทีหากซูโซ่เจ็บจริง

               จุดเปลี่ยนของเกมนี้อยู่ที่ประตูแรกที่ทำให้ทุกอย่างเข้าทางลิเวอร์พูลซึ่ง แน่นอนว่าไม่ได้เป็นผลมาจากรูปเกมหรือการทำเกมอะไรเพราะวีแกนพลาดให้เอง อีกทั้งสเตอริ่งยังดูจะพลาดด้วยซ้ำเมื่อจ่ายบอลย้อนหลังซัวเรสไปนิดหน่อย แต่ต้องชมความยอดเยี่ยมของซัวเรสเองที่ "รอเก้อ" จากสเตอริ่งมาหลายนัด คราวนี้ดูจะรู้ใจสเตอริ่งมากขึ้นถึงได้ไม่พรวดขึ้นหน้าอย่างที่เคยเป็นแต่ ปักหลักรอบอลรวมไปถึงยิงได้เด็ดขาดด้วย

               การปรับเกมของร็อดเจอร์มาส่งผลจริงๆ เอาหลังจากได้ประตูแรก (ไม่ได้ปรับแล้วส่งผลให้ได้ประตูแรก) เฮนเดอร์สันลงเล่นเกมรับได้ดุดัน เข้าหาบอลได้เร็วและช่วยเกมแดนกลางได้มาก อัลเลนที่ต้องเบียดปะทะเข้าไล่บอลอยู่คนเดียวก่อนหน้านั้นเล่นง่ายขึ้นเยอะ และส่งผลให้เกมแดนกลางลิเวอร์พูลเอาชนะได้สำเร็จ วีแกนเลยทำได้แค่วางยาวไปให้กองหน้า พอกองหน้าเอาชนะตัวประกบไม่ได้เลยทำให้เกมเป็นของลิเวอร์พูลฝ่ายเดียวและนำ มาซึ่งอีก 2 ประตูถัดมาด้วย จะมีผ่อนๆ ไปบ้างก็แค่ช่วงที่เกมขาด 3-0 แล้วที่วีแกนต่อบอลแดนกลางได้ ซึ่งไม่ได้ส่งผลอะไรกับเกมมากนัก

               อย่างไรก็ตาม ที่ลิเวอร์พูลชนะและยิงได้ถึง 3 ลูกวันนี้ไม่ใช่แค่เพราะโชคช่วย, วีแกนห่วย หรือกรรมการพลาด แต่มาจากความเด็ดขาดในการจบสกอร์ มีโอกาสแล้วทำได้ซึ่งเป็นสิ่งที่ลิเวอร์พูลพยายามตามหามานานตั้งแต่ฤดูกาลก่อน หวังว่าเมื่อหาเจอแล้วทีมจะสามารถเก็บรักษาเอาไว้ได้นานๆ

               สิ่งที่น่าสนใจจากเกมนัดนี้คือเอนริเก้เล่นปีกซ้ายได้ดีกว่าดาวนิ่งเล่นแบ็ค ซ้าย จากช่วงต้นฤดูกาลที่ดูเหมือนว่าดาวนิ่งจะเป็นมรดกชิ้นเดียวที่เหลือรอดมาได้ ในยุคร็อดเจอร์เพราะได้โอกาสก่อนถึงตรงนี้ต้องบอกว่าเอนริเก้ที่คิดว่าจะ "ไปแล้ว" อยู่ในสถานการณ์ที่ดูดีกว่ามาก เมื่อดูจากการที่ทีมยังมีอัสไซดี้รออยู่อีกคน คงไม่เร็วไปนักที่จะบอกว่า...

               Rest In Bench, Downing...
----------------------------------

นัดนี้พอได้ประตูนำแล้วเล่นดีมาก

เรน่า - โชคดีเล็กๆ ที่ร็อดเจอร์ให้โอกาส เพราะก่อนหน้านี้โจนส์ก็ไม่ได้ทำอะไรพลาด นัดนี้เล่นใช้ได้ ไม่มีลูกยากให้เซฟ เตะเปิดเกมได้ดีแม้จะพาเพื่อนเครียดไปในบ้างจังหวะ ยืนตำแหน่งใช้ได้ ที่ทำได้ดีมากคือคุมเกมช้า-เร็ว ไม่เอะเอะเปิดหรือดึงช้าไม่ดูตาม้าตาเรือ ...ลูกที่โคเน่ยิงชนเสาคงโทษเรน่าไม่ได้ เพราะบอลยิงอัดเข้ามา แกก็อุตส่าห์พุ่งไปแล้วด้วย

จอห์นสัน - เกมรับเหนียวแน่น ปล่อยให้คู่ต่อสู้ครอสบอลง่ายไปนิดแต่ก็ไม่ได้แย่อะไร เกมรุกเติมน้อยเพราะเอนริเก้ชอบตะบึงไปคนเดียวมากกว่า แต่ขึ้นไปแล้วตัดเข้ากลางได้ดีทีเดียว

แอกเกอร์ - เสียฟาลว์ง่ายไปนิดในช่วงครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังประกบกองหน้าได้ยอดมาก เก็บกินได้ทุกจังหวะ

สเคอเทล - เข้าสกัดได้เด็ดขาดและแม่นยำ เล่นลูกกลางอากาศในจังหวะตั้งรับลูกเตะมุมได้ดีด้วย

วิสดอม - หลังจากที่เกรียมไปในเกมก่อน นัดนี้กลับมาได้ดีมาก ถูกวีแกนมองว่าเป็นจุดอ่อนโดนเจาะอยู่ตลอด 1 ชั่วโมงแรกของเกมแต่วิสดอมไม่พลาด ไม่เข้าพรวด บังทางไม่ให้คู่ต่อสู้กระชากผ่านและเปิดบอลเข้ากลางได้ยาก

เอนริเก้ - เกมรับทำได้ดีในการวิ่งเข้าไปแซะบอลจากเท้าและวิ่งเบียด แต่ไม่ดีตรงเรื่องการวิ่งเข้าไปซ้อนแบ็ค เพราะเอนริเก้จะชี้ให้แบ็คซึ่งประจันหน้ากับคู่ต่อสู้อยู่วิ่งถอยลงไปซึ่ง มันเป็นไปไม่ได้ ปีกเองนั่นแหล่ะที่ต้องลงไปซ้อน มันจะกลับกันถ้าเจ้าตัวเล่นแบ็ค ตรงนี้คงต้องปรับวิธีเล่นอีกนิดหน่อยถ้าจะให้เล่นปีกต่อไป ส่วนเกมรุกเล่นแบบมุทะลุ ชอบเสี่ยงไม่ว่าจะพาบอลไปเองหรือจ่ายทะลุ เรียกว่าบอลอยู่เท้าเอนริเก้การครองบอลเป็นอันจบ ไม่เสียบอลก็จ่ายทะลุ, หลุดเดี่ยวไปเลย นัดนี้ถือว่าทำได้ดีเมื่อจ่ายให้เพื่อนหลุดได้หลายลูก ทั้งยังยิงได้อีกต่างหาก

เจอราร์ด - เป็นคนเปลี่ยนรับเป็นรุกให้ทีม รวมไปถึงคุมทิศทางการเล่นด้วย เล่นเกมรุกเบาลงไปเยอะ เติมไม่ทันบ้าง ไม่เติมบ้าง แต่ก็คุมเกมได้ดี

อัลเลน - ครึ่งแรกเหนื่อยเพราะแทบจะลุยกับคู่ต่อสู้อยู่คนเดียวแต่ทำได้ดีทีเดียว พอมีเฮนเดอร์สันมาช่วยก็เล่นง่ายเก็บกินเรียบ วันนี้ออกบอลแทบไม่พลาดเลย

สเตอริ่ง - ได้บอลน้อยเพราะเกมไปขึ้นซ้ายหมด แต่ทำได้ดีมากในจังหวะที่ทำให้ได้ประตูแรก รวมไปถึงหลังจากนั้นที่วีแกนเริ่มดันเกมสูงขึ้น สเตอริ่งเล่นกับพื้นที่ว่างได้ดี เก็บอลได้ดีมาก ออกบอลช้าไปบ้างในจังหวะโต้เร็วแต่โดยรวมถือว่าเป็นเกมที่เล่นได้ดีอีกเกม หนึ่ง

ซูโซ่ - หาตำแหน่งในเขตโทษเพื่อจบสกอร์ใช้ได้ แต่หาที่ว่างในจังหวะขึ้นเกมให้เพื่อนจ่ายบอลมาได้ไม่ค่อยดีนัก ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมเท่าไหร่

ซัวเรส - เลิกพุ่ง เลิกโวยวาย ยิงได้เด็ดขาด ทำได้ 2 ประตู เล่นได้สุดยอดจนกระทั่งถึงช่วงที่มีลุ้นแฮททริค เริ่มกลับมาเล่นฝืนมากขึ้นเพราะอยากยิงได้อีกสักประตู

ตัวสำรอง

เฮนเดอร์สัน - ลงมาเล่นแบบมุ่งมั่นเต็มที่ เล่นได้ดุเดือดมากขึ้น เข้าบอลได้เร็วและเล่นได้หนักหน่วง เกมรุกเคลื่อนที่เยอะมากขึ้น หาที่ว่างได้ดีขึ้น ที่ยังไม่เห็นคือการวางบอลสวยๆ มีโอกาสยิงก็ยิงทิ้งมันซะงั้น

คาราเกอร์ / เชลวี่ - ได้ลงสนาม

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...หลุยส์ ซัวเรส... การเล่นฝืนๆ เพราะอยากทำแฮททริคไม่ได้บดบังความสุดยอดในช่วงก่อนหน้านั้น ยิงได้เด็ดขาดมากทั้ง 2 ลูกจากที่เคยใช้โอกาสเปลือง

ป.ล. ถ้าเลือก MOM ได้สองคนคงไม่ต้องเดานะว่าจะให้ใคร ... เอนริเก้เล่นดีอีกแล้วครับท่าน!
 ------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น