วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เอฟเวอร์ตัน 0 - 2 ลิเวอร์พูล

ผู้ตัดสินชนะ....
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-4-2

--------------คาโรล------ซัวเรส---------------
ดาวนิ่ง--------อดัม---------ลูคัส---------เค้าท์
เอนริเก้----สเคอเทล-----คาราเกอร์-----เคลลี่
---------------------เรน่า-----------------------

          เมอซี่ไซด์ดาร์บี้แมทช์ โดยลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายไปเยือน ดัลกลิชเปลี่ยนนักเตะแค่คนเดียวจากนัดก่อน โดยให้เค้าท์ได้ลงเป็นตัวจริงแทนเฮนเดอร์สัน ส่วนทางด้านเอฟเวอร์ตันส่งซาฮาลงเป็นตัวจริงเป็นครั้งแรกของฤดูกาล

-------------------------------------------------------

          เริ่มเกมมาทั้งสองฝั่งวิ่งไล่บี้ใส่กันทันที โดยลิเวอร์พูลขึ้นเกมทางซ้ายด้วยการทำเกมของเอนริเก้กับดาวนิ่ง ส่วนทางเอฟเวอร์ตันใช้บอลยาวให้กองหน้าพักบอล เกมเร็วและเปิดแลกกันในช่วง 15 นาทีแรก มีโอกาสกันคนละสองสามครั้งแต่ยังไม่เป็นประตู

          ผ่าน 15 นาทีแรกของเกมไป เกมเริ่มผ่อนลง แต่เกิดจุดเปลี่ยนของเกมในนาที 23 แจ็ค รอดเวลเข้าเสียบซัวเรส กรรมการชักใบแดงให้ทันที เอฟเวอร์ตันที่ตัวน้อยกว่าถูกถอยให้ไปตั้งรับอยู่หน้าเขตโทษตัวเอง ในขณะที่ลิเวอร์พูลครองบอลได้มากขึ้นและได้บุกเข้าไปใกล้เขตโทษมากขึ้น แต่จังหวะสุดท้ายยังถูกบีบให้โยนจากริมเส้นเสียเป็นส่วนใหญ่และยังทำอะไรไม่ ได้

          นาที 43 เอฟเวอร์ตันยังมาพลาดอีก จากีลก้าเข้าสกัดซัวเรสแต่ไม่โดนบอล เสียจุดโทษ แต่เค้าท์ที่เคยยิงจุดโทษได้ดีมาตลอดกลับยิงได้ไม่ดีพอ โดนฮาเวิร์ดเซฟได้ ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย อดัมได้ยิงไกลแต่ก็ชนคานไปอีก ทำให้จบครึ่งแรก เกมยังอยู่ที่ 0-0

          เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลปรับเกมด้วยการหันมาเล่นเ้น้นครองบอล ส่วนทางเอฟเวอร์ตันลงไปตั้งรับต่ำ เน้นสกัดจังหวะเดียวให้ขาด โต้ด้วยบอลยาวและไม่ครองบอล นาที 50 ลูคัสไปเสียบซาฮาโดนใบเหลือง หลังจากนั้นเป็นเอฟเวอร์ตันที่ำทำได้ดีกว่าและหาโอกาสจบสกอร์จากลูกยิงไกล ได้บ้าง ส่วนลิเวอร์พูลขึ้นเกมช้าเกินไปและเริ่มบุกไม่ขึ้น

          ดัลกลิชตัดสินใจเปลี่ยนเกมในนาที 67 เปลี่ยนเจอราดกับเบลามี่ลงมาแทนอดัมและดาวนิ่ง ซึ่งส่งผลให้เกมรุกของลิเวอร์พูลเร็วขึ้นกว่าเดิม และใน 4 นาทีถัดมาก็ทำได้สำเร็จ เบลามี่พาบอลขึ้นทางด้านซ้าย ไหลบอลให้เอนริเก้ที่เติมขึ้นมา หักบอลเข้ากลาง เค้าท์ก้มหลบ ทำให้บอลไปเข้าทางคาโรลเอี้ยวตัววอยเล่ย์เข้าไปได้สำเร็จ 1-0

          หลังจากได้ประตูขึ้นนำ ลิเวอร์พูลเล่นเน้นครองบอลมากขึ้น และถอยกันลงไปตั้งรับค่อนข้างต่ำ หันมาใช้บอลยาวในการเล่นโต้กลับ เข้า 10 นาทีสุดท้าย เอฟเวอร์ตันส่งกองหน้าลงมาเพิ่มพยายามจะทำเกมรุกสู้ และหาโอกาสจบสกอร์ได้บ้างแต่ยังทำได้ดีไม่ดีพอ นาที 82 ยังมาโดนเข้าอีกลูก เมื่้อซัวเรสกระชากบอลเข้าไปในเขตโทษ เบห์นกับดิสแตงบังบอลกั๊กกันไปเอง จังหวะสุดท้ายเป็นดิสแดงที่สกัดบอลไปติดอกซัวเรส ทำให้ซัวเรสได้บอลยิงจ่อๆ เข้าไปเป็น 2-0

          หลังจากนั้นเกมก็ขาด ช่วงท้ายเกมนาที 88 เฮนเดอร์สันได้ลงมาแทนลูคัส ก่อนจะจบเกมไปด้วยสกอร์ 2-0
------------------------------------------

          การที่ดัลกลิชตัดสินใจส่งเค้าท์เป็นตัวจริงแทนเฮนเดอร์สัน ส่งผลต่อเกมโดยรวมของลิเวอร์พูลวันนี้มาก การวิ่งไล่ของเค้าท์ช่วยกดดันแผงกองหลังเอฟเวอร์ตันจนหลายจังหวะเกือบเป็น ประตู และหลายครั้งทำให้เอฟเวอร์ตันไม่สามารถครองบอลต่อได้ ในเกมรับก็ช่วยแบ่งเบาภาระของคู่กลาง อดัม-ลูคัส ที่วันนี้เล่นเกมรับได้ไม่ค่อยดีได้ด้วย

          แต่สิ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมในวันนี้คงหนีไม่พ้นกรรมการ การที่เอฟเวอร์ตันต้องเหลือ 10 คนตั้งแต่นาที 23 ทำให้งานของลิเวอร์พูลง่ายขึ้นมาก จังหวะนั้นแม้ รอดเวล จะเข้าบอลค่อนข้างดุ แต่ก็เข้าได้แม่นยำและโดนบอล ไม่น่าจะถึงขั้นใบแดง ซึ่งการตัดสินจังหวะนั้นทำให้เอฟเวอร์ตันตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรอง ตั้งแต่ต้นยันจบเกม

          นอกจากเรื่องใบแดงแล้ว การเปลี่ยนตัวของทั้งสองฝั่งก็ส่งกับเกมมาก ทางฝั่งลิเวอร์พูล ทั้งเจอราดและเบลามี่ลงมาแล้วทำให้เกมรุกดูวูบวาบมากขึ้นทันตาเห็น เบลามี่ลงมาขับเคลื่อนเกมรุกริมเส้นฝั่งซ้ายแทนดาวนิ่งที่เริ่มเล่นหมดมุข ในขณะที่เจอราดช่วยเร่งจังหวะเกมให้เร็วขึ้นมาได้ แต่มองไปยังฝั่งเอฟเวอร์ตัน ตัวสำรองของพวกเขานอกจากจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้นแล้วยังทำให้แย่ลงไปอีก โดยเฉพาะการเปลี่ยนเดรนเธ่ลงมาแทนโคลแมน โคลแมนแม้จะไม่สามารถผ่านแบคลิเวอร์พูลได้เลย แต่ยังพอจะทำเกมขึ้นไปถึงเขตโทษได้ แต่เดรนเธ่ที่ได้ลงมาแทนแม้จะไปกับบอลได้ดีแต่ไม่ค่อยประสานงานกับเพื่อน ร่วมทีมทำให้เกมโต้ของเอฟเวอร์ตันชะงักลงไป

          เรื่องที่น่าห่วงสำหรับลิเวอร์พูลมีสองเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกก็ยังคงเป็นเรื่องของคู่กลาง อดัม-ลูคัส ที่ดูจะมีปัญหาทั้งเกมรุกเกมรับและดูไม่ออกว่าจะแก้ไขยังไง เกมนี้ทั้งๆ ที่มีผู้เล่นมากกว่า แต่พื้นที่หน้าเขตโทษว่างโล่งปล่อยให้เอฟเวอร์ตันได้ล่อเป้าแถวๆ นั้นหลายครั้ง ส่วนในเกมรุกมีหลายครั้งที่ควรจะมีคนพุ่งเข้าไปเติมในเขตโทษแต่ลูคัสกับอดัม ไม่ค่อยเล่นในจังหวะแบบนี้เลย หนทางแก้มีอยู่แค่ 2 ทางคือใช้คู่นี้ต่อไปเรื่อยๆ แล้วหวังให้จูนกันติดและสลับหน้าที่ขึ้น-ลงกันได้ลงตัว หรือไม่ก็เปลี่ยนไปใช้คู่กลางคู่ือื่น โดยมีเจอราด-สเปียริ่ง-เฮนเดอร์สัน เป็นตัวเลือก  ต้องรอดูกันต่อไปว่าดัลกลิชจะตัดสินใจเลือกทางไหน?

          ส่วนเรื่องที่สอง คือการเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกที่ยังทำกันได้ค่อนข้างช้า กว่าจะตั้งหลักกันได้คู่ต่อสู้ลงไปแพคเกมกันได้หมดแล้ว ถ้ามีเจอราดคงไม่น่าห่วงเท่าไหร่ แต่ในสถานการณ์ที่เจอราดจะเล่น 90 นาทีทุกๆ สัปดาห์ไม่ค่อยจะไหวแบบนี้ อาจจะต้องมีคนมาคุมจังหวะเกมตรงนี้แทนบ้าง ซึ่งตอนนี้ยังไม่เห็นว่าใครจะทำได้

          ส่วนเรื่องที่ดีมาก นั่นก็คือเรื่องที่ทุกคนรออยู่ คู่ศูนย์หน้าทั้ง คาโรลและซัวเรส เริ่มทำสกอร์ได้แล้ว ในรายของคาโรลถือว่าเป็นการนับ 1 ในลีค ลดความกดดันลงไปได้มาก ส่วนซัวเรสถือว่าทำสกอร์และมีส่วนร่วมกับประตูของลิเวอร์พูลได้อย่างต่อ เนื่อง ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับแทคติค 4-4-2 ที่กองหน้าต้องเล่นให้ออก มีจังหวะต้องยิงให้ได้ หวังว่าทั้งคู่จะสามารถรักษาระดับและพัฒนาฟอร์มของตัวเองขึ้นไปได้เรื่อยๆ
----------------------------------

วันนี้เล่นกันค่อนข้างน่าพอใจ

เรน่า - บอลที่ยิงเข้ากรอบ เรน่ารับได้ไม่มีกระฉอก วันนี้ขึ้นเกมเร็วได้ดีมากๆ


เอนริเก้ - เจอปีกดาวรุ่ง เอนริเก้จัดการได้สบาย เติมเกมรุกไ้ด้น่าพอใจตลอดเกมด้วย


สเคอเทล - แย่งจังหวะโหม่งได้ดี ไม่เสียฟาลว์ด้วย


คาราเกอร์ - กองหน้าเอฟเวอร์ตันมาทีละคน ช่วยกันรุมกินโต๊ะกับสเคอเทลสบายไป


เคลลี่ - เกมรับทำผลงานใช้ได้ แต่ในเกมที่ได้เปรียบตัวผู้เล่น น่าจะหาโอกาสเติมได้ดีกว่านี้


ดาวนิ่ง - ช่วงต้นเกมทำได้ดีมาก แต่เล่นไปเล่นมาค่อยๆ จางหายไป


ลูคัส - มีช่วงที่เล่นได้ดีคือตอนต้นเกมกับท้ายเกม แต่หลังจากโดนใบเหลือง (นาที 50) จนถึงก่อนที่ทีมจะได้ประตูที่สอง (นาที 82) เล่นแบบกลัวโดนใบเหลืองมากไป ปล่อยให้เอฟเวอร์ตันเล่นกันได้สบายในจังหวะโต้กลับ


อดัม - ปักหลักอยู่ใกล้วงกลมกลางสนามมากเกินไป เกมรับก็ไม่ค่อยจะลงไปช่วยลูคัส เกมรุกก็เติมขึ้นไปไม่สุด น่าจะเคลื่อนทีไ่ด้ดีกว่านี้


เค้าท์ : ไม่บ่อยนักที่เค้าท์จะพลาดจุดโทษ แต่ในเกมก็เล่นได้ดี (ยกเว้นการเปิดบอล) จังหวะประตูแรกที่ก้มหลบก็ต้องชมว่าทำได้ดีจริงๆ


ซัวเรส -  ครึ่งแรกเป็นตัวทำเกมของทีม แต่ครึ่งหายไปจากเกมเลย โผล่มาอีกทีก็คือตอนทำประตูที่สอง


คาโรล - เห็นว่ามีความมุ่งมั่นตั้งใจ แม้โดยรวมแล้วยังเล่นได้ไม่ดี โหม่งชงไม่ค่อยตรงเพื่อน จ่ายบอลน้ำหนักก็พลาดเยอะ แต่จังหวะที่ยิงได้ก็ถือว่ายิงได้ดี


เจอราด - ออกบอลจังหวะเกมรุกได้เร็วกว่าลูคัสและอดัม แต่จะว่าไปก็ไม่ทันได้อะไรมากนักทีมก็ออกนำไปเสียก่อน


เบลามี่ - ลงมาทำให้เกมทางซ้ายกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง หลังจากเริ่มวูบดับไปตอนช่วงต้นครึ่งแรก มีส่วนร่วมกับประตูแรกด้วย


แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : มาร์ติน แอทคินสัน... พูดแบบยุติธรรมหน่อยก็ต้องบอกว่า ถ้าไม่นับจังหวะใบแดง เจ้าตัวก็เป่าได้เนียนดีทุกจังหวะนั่นแหล่ะ แต่ใบแดงใบนั้นมันก็เปลี่ยนเกมสุดๆ เลย

----------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น