วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ลิเวอร์พูล 1 - 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ชนะคะแนน...

--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลปรับมาเล่น 4-5-1

--------------------ซัวเรส-----------------------
ดาวนิ่ง-----อดัม----เจอราด----ลูคัส-----เค้าท์
เอนริเก้----สเคอเทล----คาราเกอร์-----เคลลี่
----------------------เรน่า-----------------------

          ดัลกลิชปรับมาเล่น 4-5-1 อีกครั้ง โดยดรอปคาโรลเป็นตัวสำรอง แล้วส่งเจอราดที่ฟิตสมบูรณ์ลงมายืนทำเกมกลางสนาม ขนาบข้างด้วยอดัมและลูคัส ในขณะที่แมนฯยูส่งกองกลาง 5 คน มีเซอร์ไพรส์เล็กน้อยด้วยการส่งโจนส์ลงมาเป็นกลางรับร่วมกับเพลชเชอร์แนวรุก คนสำคัญอย่างรูนี่กับนานี่เริ่มเกมบนม้านั่งสำรอง

-------------------------------------------------------

          เริ่มเกมมาเป็นลิเวอร์พูลที่บุกเข้าใส่ทันที เร่งเกมเร็วอยู่ตลอด พาบอลไปประชิดเขตโทษได้บ่อยครั้ง ในขณะที่แมนฯยูใช้บอลยาวและโต้กลับเร็วให้บอลไปที่ยังและเวลเบคเป็นหลัก แต่ไม่มีใครเติมขึ้นมาช่วยมากนักทำให้ยังทำอะไรแนวรับลิเวอร์พูลไม่ได้มาก

          ผ่าน 15 นาทีไปเกมเริ่มช้าลง แต่ลิเวอร์พูลยังบุกกดดันได้เรื่อยๆ บอลจังหวะสุดท้ายยังโดนกองหลังแมนฯ ยูสกัดทิ้งได้หมด นาที 31 ซัวเรสได้โอกาสยิงในเขตโทษก็ไปติดเซฟ เด เคอา ชวดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย


          เวลาที่เหลือ เกมสูสีอยู่ในแดนกลางที่เบียดเสียดอัดแน่นกันเป็นปลากระป๋อง ลิเวอร์พูลเจาะไม่ค่อยเข้า ส่วนแมนฯ ยู โต้ไม่ค่อยขึ้น ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0

          เข้าครึ่งหลัง รูปเกมยังไม่เปลี่ยน โดยเกมส่วนใหญ่เป็นของลิเวอร์พูล ในขณะที่ตัวความหวังของแมนฯยู อย่างยังและเวลเบคเริ่มหายไปจากเกม นาที 57 ดัลกลิชตัดสินใจส่งเฮนเดอร์สันลงมาแทนลูคัสที่โดนใบเหลืองมาในครึ่งแรก และเฮนเดอร์สันได้เล่นตรงกลางสนาม

          ผ่านชั่วโมงแรกของเกมไป แมนฯยู เริ่มหันมาเล่นช้าลง เลิกโยนยาว แล้วเคาะบอลในแดนกลางกันมากขึ้น รวมไปถึงเซอร์อเล็กเตรียมจะส่งรูนี่ย์กับนานี่ลงสนามแต่ยังไม่ทันได้ลงมา นาที 68 อดัมพาบอลเลี้ยงจี้เข้าไปหน้าเขตโทษ โดนเฟอร์ดินานตัดฟาลว์ ก่อนจะเป็นเจอราดยิงฟรีคิกทะลุกำแพงเข้าไปให้ทีมนนำ 1-0

          หลังจากเสียประตู รูนี่ย์กับนานี่ก็ได้ลงมาแทน ยังและพาร์ค ที่วันนี้เล่นไม่ออกทั้งคู่ รูนี่ย์ลงมายืนข้างหลังเวลเบค ส่วนนานี่เล่นริมเส้น ทางฝั่งลิเวอร์พูลเริ่มผ่อนเกมรุกลงไป แต่เกมของแมนฯ ยูก็ยังไม่ได้กระเตื้องขึ้นมามากนัก นาที 76 ชิชาริโต้ได้ลงมาแทนโจนส์อีกคน แล้วหลังจากนั้น 5 นาทีก็เป็นเรื่อง จากลูกเตะมุม เวลเบคได้โหม่งชงจากเสาแรก บอลไปเข้าทางชิชาริโต้ที่วิ่งหนีตัวประกบขึ้นมาโหม่งเข้าไปได้เป็น 1-1

          พอเกมกลับมาเสมอกัน ลิเวอร์พูลหันมาเน้นเกมรุกอีกครั้ง และทำได้ไม่เลว แต่จังหวะสุดท้ายบอลยังไม่เข้ากรอบ ขาดนิดเกินหน่อยอยู่ตลอด ส่วนแมนฯ ยู ก็เ้น้นเกมรับมากขึ้นไปอีก ก่อนจะจบเกมไปด้วยผลเสมอ 1-1

------------------------------------------

          แทคติค 4-5-1 ของดัลกลิชที่ทำให้เกมออกมาเป็นอย่างที่เห็น ลิเวอร์พูลเอาชนะแดนกลางของแมนฯยูได้ (ต้องยกความดีให้แมนฯยูด้วยที่ส่งตัวรับมาเยอะ)  ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ยัง 0-0 ขึ้นนำแล้ว หรือโดนตีเสมอ ลิเวอร์พูลครองเกมไว้ได้หมด ไม่มีช่วงไหนเลยที่แมนฯยู สามารถเปิดเกมรุกได้เป็นชิ้นเป็นอัน หรือครองบอลไว้กับตัวได้นานๆ แต่ได้อย่างก็เสียอย่าง การเล่น 4-5-1 จังหวะที่เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษตัวรุกมีน้อยทำให้เข้าไม่ค่อยถึงบอล มีอยู่หลายครั้งที่ถ้ามีกองหน้าอีกคนในกรอบคงจะยิงได้แล้ว

          ที่น่าประทับใจของเกมนี้คือการทำเกมรุก ลิเวอร์พูลขึ้นเกมได้หลากหลายมากและใช้พื้นที่ได้ทั่วสนาม ทางซ้ายเอนริเก้กับดาวนิ่งทำเกมได้ตลอด ตรงกลางทั้งเจอราด อดัมก็สลับกันขึ้นมารุกได้ดี ทางขวาแม้เคลลี่จะแทบไม่ขึ้น แต่เค้าท์กับเจอราดก็เล่นได้อยู่เป็นระยะๆ  โดยรวมแม้จะยังเห็นว่าเจอราดมีอิทธิพลต่อเกมอยู่ไม่น้อย แต่การที่กองกลางทุกคนสามารถทำเกมรุกได้ก็นับเป็นสิ่งที่ไม่ได้เห็นจากลิ เวอร์พูลนานแล้ว

          ส่วนทางด้านแมนฯยู เซอร์อเล็กนอกจากจะแพคกลางมาแน่น 5 คนแล้ว ยังส่งตัวรับมาซะเต็มทีม แบคขวาใช้คริส สมอลลิ่งก็ตัดเรื่องเติมเกมไปได้ ตรงกลางนอกจากจะใช้โจนส์ขึ้นมาเล่นกลางรับแล้ว ยังมีเพลชเชอร์ และพาร์คทางขวา ในขณะที่กิ๊กก็เล่นเป็นตัววางบอลอย่างเดียว ไม่ได้ทำเกมทะลุทะลวงอะไร กลายเป็นว่าตัวรุกมีแค่เวลเบคกับยังเล่นกันอยู่สองคนเท่านั้น และขึ้นเกมได้แต่เฉพาะทางขวา ซึ่งชัดเจนว่าไม่พอ อย่างไรก็ตาม จากสภาพทีมที่ค่อนข้างมีปัญหาและนักเตะฟอร์มแย่กันหลายคน แต่แมนฯยู ยังสามารถเก็บออกไปได้ 1 แต้ม ต้องขอชมจากใจว่าทำได้ดีมากจริงๆ

----------------------------------

วันนี้เล่นกันดีทุกคน

เรน่า - ไม่มีลูกยากให้เซฟ เป็นแดงเดือดที่งานน้อยแบบไม่น่าเชื่อ


เอนริเก้ - เติมเกมรุกอยู่ตลอด เปิดบอลเข้ากลางได้น่ากลัว มีพลาดโดนตัดบอลอยู่บ้างแต่ก็ไม่เสียหายอะไร


สเคอเทล - โชคดีหน่อยที่แมนฯยู ขึ้นมากันน้อย วันนี้ชิงจังหวะเข้าบอลก่อนถึงกองหน้าได้ดี


คาราเกอร์ - ซ้อนแบคและกองกลางได้ดี แมนฯยู แทบไม่มีโอกาสได้ง้างเท้ายิงหรือเปิดบอลในเขตโทษเลย


เคลลี่ - ไม่ค่อยได้ขึ้นมารุก ส่วนเกมรับสู้กับยังได้ดีกว่าที่คิด


ดาวนิ่ง - ได้บอลน้อยไปหน่อย แต่มีจังหวะครอสบอลสวยๆ หลายครั้ง


ลูคัส - กองกลางแมนฯ ยู ทำเกมรุกกันไม่ค่อยออกทำให้ลูคัสสบายไปด้วย ครึ่งแรกเล่นได้ดีพอใช้ แต่ครึ่งหลังโดนเปลี่ยนออกเพราะดัลกลิช " จะเอา "


อดัม - ได้เล่นสูงขึ้นค่อยดูเป็นตัวของตัวเองหน่อย เล่นกับเจอราดได้อย่างน่าดูทีเดียว


เจอราด - บางจังหวะก็เร่งมากเกินไปจนเสียบอล แต่โดยรวมแล้วคุมจังหวะเปลี่ยนรับเป็นรุกได้ดีเหมือนเดิม


เค้าท์ : เล่นได้เสมอตัว ไม่แย่ไม่เด่น จังหวะ 3 หลาวันนี้ยิงติดหมด


ซัวเรส -  เล่นได้ดีมากโดยเฉพาะจังหวะเก็บบอลไว้กับตัว เรียกฟาลว์ได้บ่อย แต่โดนประกบจนแทบไม่มีจังหวะได้ยิงเลย


เฮนเดอร์สัน - มาเด่นเอาตอนช่วงท้ายเกมที่มีโอกาสยิง 1 โหม่ง 1 แต่พลาดไปหมด


แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : หลุยส์ ซัวเรส แม้เจอราดจะเป็นคนทำประตู แต่หลุยส์ ซัวเรส โดยเฉพาะใน 1 ชั่วโมงแรกของเกมเก็บบอลได้ดีมากทำให้ลิเวอร์พูลได้ครองบอลอย่างต่อเนื่อง

----------------------------------------------------------------

ป.ล. บอลลีคนัดหน้าเจอนอริช...โลกที่ไร้ลูคัส (โดนแบน)

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น