วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ลิเวอร์พูล 1 - 1 นอริช ซิตี้


กรอบประตูมันเล็กไปหน่อย
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลกลับมาเล่น 4-4-2

--------------ซัวเรส-------เค้าท์----------------
เบลามี่-------อดัม--------เจอราด-------ดาวนิ่ง
เอนริเก้---สเคอเทล---คาราเกอร์----จอห์นสัน
----------------------เรน่า-----------------------

       ลิเวอร์พูลกลับมาเล่น 4-4-2  แต่มีการปรับบางตำแหน่ง เค้าท์ได้เล่นข้างหน้า ส่วนเบลามี่ได้ลงตัวจริงทางฝั่งซ้าย แล้วโยกเอาดาวนิ่งไปเล่นทางขวา แผงหลังได้จอห์นสันมายืนแบคขวาอีกครั้ง ส่วนนักเตะที่คาดว่าจะได้ลงอย่างเฮนเดอร์สันกับคาโรลได้เริ่มเกมบนม้าันั่งสำรอง
-------------------------------------------------------

       เริ่มเกมมานอริชเน้นเกมรับ รักษาพื้นที่ของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ในจังหวะเกมรุกขึ้นมากันน้อย ส่วนทางลิเวอร์พูลเร่งเกมตั้งแต่ต้นและได้โอกาสกดดันอยู่ตลอด 15 นาทีแรกเป็นเกมของลิเวอร์พูลฝ่ายเดียวแต่จังหวะจบสกอร์ัยังทำได้แค่ชนเสา ชนคาน 

       ผ่าน 15 นาทีไปแล้วนอริชพยายามเล่นให้ช้าลงและหันมาเ้น้นการดักล้ำหน้า จนสามารถลดทอนประสิทธิภาพเกมรุกของลิเวอร์พูลลงไปได้มาก แต่นอริชเองก็ยังไม่กล้าบุกขึ้นมา ทำให้เกมส่วนใหญ่สู้กันอยู่ที่กลางสนาม

       เกมครึ่งแรกทำท่าว่าจะจบแบบไร้ประตู แต่ในช่วงนาทีสุดท้าย เอนริเก้วางบอลยาวให้ซัวเรสโดนทำฟาลว์แต่ผู้ตัดสินให้เป็นลูกได้เปรียบ ทำให้เบลามี่ที่เก็บบอลได้ลากเข้าไปยิงให้ทีมขึ้นนำ 1-0

       เข้าครึ่งหลัง นอริชหันมาเปิดเกมรุกเต็มตัวและทำได้ดี เกมเปิดมากขึ้นเพราะลิเวอร์พูลก็มีพื้นที่เล่นมากขึ้นเช่นเดียวกัน แล้วก็เป็นลิเวอร์พูลที่ยังคงได้ลุ้นมากกว่าแต่ยังทำประตูเพิ่มไม่ได้

       นาที 57 นอริชปรับเกมด้วยการส่ง โฮลท์ ลงมาแทนเบนเนท แล้วหันมาเล่นบอลยาวเน้นการโจมตีด้วยลูกกลางอากาศของโฮลท์ ซึ่งได้ผลทันตาเห็น เพียงแค่ 3 นาทีถัดมาก็สามารถตีเสมอได้จากลูกครอสเข้าไปในเขตโทษแล้วโฮลท์สามารถโฉบโหม่งตัดหน้าคาราเกอร์และเรน่าเข้าไปได้ ทำให้เกมมาเสมอที่ 1-1

       หลังได้ประตูขึ้นนำนอริชแม้จะไม่โหมบุกหนักมากนักแต่ลูกกลางอากาศของโฮลท์ยังกดดันลิเวอร์พูลได้ต่อเนื่อง จนดัลกลิชต้องปรับเกมบ้าง นาที 69 ส่งเฮนเดอร์สันมาแทนเบลามี่ ให้เฮนเดอร์สันเล่นทางขวาแล้วโยกดาวนิ่งมาเล่นทางซ้าย แต่เกมรุกของลิเวอร์พูลยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่

       นาที 80 คาโรลได้ลงมาแทนดาวนิ่ง ลิเวอร์พูลเริ่มบุกไม่ค่อยขึ้นและขึ้นบอลเสียไปเองหลายครั้ง ทำให้นอริชพอได้ลุ้นบ้างจากลูกยิงไกลนอกเขตกับการครอสบอลไปลุ้นในเขตโทษแต่กองหลังลิเวอร์พูลยังไม่พลาด

       นาที 91 ดัลกลิชทิ้งไพ่ใบสุดท้ายด้วยการส่งแอกเกอร์ลงมาแทนเค้าท์ ปรับเล่นกองหลังสามคน ดันเอนริเก้ขึ้นไปเล่นปีก สามารถกดดันกองหลังนอริชได้มากขึ้น แต่จังหวะจบสกอร์ยังทำได้แค่เฉียดไปเฉียดมาเหมือนเดิม จบเกมจึงทำได้แค่เสมอกับนอริชไป 0-0
------------------------------------------

       การทำได้แค่เสมอกับนอริชในบ้านย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่ แต่ลิเวอร์พูลก็ไม่ได้เล่นแย่อะไร ไม่ว่าจะเป็นแผนการเล่นหรือฟอร์มของนักเตะเองก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว สิ่งที่ลิเวอร์พูลทำได้ดีในนัดนี้คือการทำเกมรุก สามารถขึ้นบอลได้หลากหลาย ใช้พื้นที่เต็มสนาม แบคสองข้างทำงานของตัวเองได้ดี ถ้าจังหวะจบสกอร์บอลมันเป็นใจกว่านี้อีกสักนิด คงชนะขาดไปได้ไม่ยาก

       ส่วนสิ่งที่ดูจะไม่ค่อยดีนักก็คงจะเป็นแดนกลางตรงกลาง เจอราดกับอดัมเล่นเกมรุกร่วมกันได้วูบวาบและเพลินตาดีเหลือเกินในครึ่งแรกที่ผลัดกันวางบอล ผลัดกันเติมได้ดีตลอด แต่พอเข้าครึ่งหลังที่นอริชหันมาบุกสู้มากขึ้น เจอราดกับอดัมปล่อยให้นอริชขึ้นเกมได้ง่ายไปหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิ่งตามแถวสองของนอริชที่เติมขึ้นมารับบอลจากโฮลท์นั้นทำได้ไม่ดีเอามากๆ 

       มองไปที่การเปลี่ยนตัวและการปรับแทคติคของดัลกลิช วันนี้มีเรื่องน่าแปลกใจอยู่อย่างเดียวคือจังหวะที่เปลี่ยนคาโรลลงแล้วถอดดาวนิ่งออก คือคาโรลในนาทีนั้นแ่น่นอนว่าส่งลงไปเพื่อเล่นลูกกลางอากาศและเข้าชาร์จในเขตโทษ แต่ดันเปลี่ยนคนที่ครอสบอลเข้าไปในเขตโทษได้ดีที่สุดในสนามอย่างดาวนิ่งออก นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจมากนัก
----------------------------------

วันนี้ส่วนใหญ่เล่นกันดี

เรน่า - ออกมาตัดบอลพลาดครั้งเดียวเป็นเรื่องเลย นอกนั้นก็ทำได้ีดีตลอดโดยเฉพาะการเซฟลูกโหม่งเผาขนได้ครั้งหนึ่ง

เอนริเก้ - ยังเล่นเกมรับได้ดีอยู่ ส่วนเกมรุกก็เติมขึ้นไปตลอดเพียงแต่วันนี้บอลที่ครอสเข้ากลางไม่ผ่านกองหลังเลย

สเคอเทล - เสียฟาลว์น้อย เล่นลูกกลางอากาศได้ดีพอใช้

คาราเกอร์ - ช้าลงและไม่แข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อน ถ้าย้อนไปสัก 2-3 ปี ลูกที่เสียประตู โฮลท์ไม่มีทางเข้าถึงบอลเด็ดขาด

จอห์นสัน - เกมรับทำได้ดี ส่วนเกมรุกมีจังหวะวูบวาบแค่ช่วงต้นเกม หลังจากนั้นก็หายไป 

ดาวนิ่ง - เลี้ยงบอลไม่ผ่านเลย การยิงก็ทำได้ไม่ดี แต่การครอสบอลเข้ากลางนี่ทำไ้ด้ดีสุดๆ บรรจงวางเข้าหัวซัวเรส เค้าท์ เบลามี่ไปคนละลูกสองลูก แต่คนโหม่งทำได้ดีไม่ดีพอกันไปเอง

อดัม - วางบอลได้ดีอยู่ แต่ช่วยเกมรับน้อยเกินไป และยืนสูงเกินไปสำหรับแทคติคแบบนี้ ถ้าเล่น 4-5-1 จะไม่เป็นปัญหาเลย

เจอราด - เล่นได้ดีอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นดูหมดแรงอย่างชัดเจน วิ่งเข้าไปถึงเขตโทษไม่ว่าจะเป็นฝั่งตัวเองหรือฝั่งตรงข้ามไม่ไหว

เบลามี่ : ครึ่งแรกพยายามทำเกมร่วมกับเอนริเก้แต่วันนี้ฝ่าด่านกองหลังไปไม่ค่อยได้ แต่มาทำได้ดีในจังหวะที่เป็นประตู 

เค้าท์ -  เล่นในฐานะหน้าต่ำได้ดีพอใช้ ขาดเพียงแค่ทีเด็ดทีขาดในการจ่ายบอลและยิงประตู...ซึ่งเค้าท์ก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว

ซัวเรส - ล้มง่ายไปหน่อย บางจังหวะถ้าฝืนไปอีกสักนิดน่าจะดีกว่า แต่การชิงจังหวะบอลกับกองหลังและการพลิกตัวหาจังหวะยิงถือว่าทำได้สุดยอด เสียดายที่วันนี้ยิงยังไงก็ไม่เข้ากรอบ

เฮนเดอร์สัน - แทบไม่มีบทบาททำอะไร

คาโรล - เกือบได้เป็นฮีโร่ หาโอกาสได้ดีแล้ว โหม่งพลาดไปแค่ไม่กี่ินิ้ว 

แอกเกอร์ - ลงมาเพื่อเปิดโอกาสให้เอนริเก้ได้ขึ้นไปข้างหน้า แค่นั้น

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : กรอบประตู...จะโหม่ง จะยิง จะแฉลบ มันเซฟได้หมด
----------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น