วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 1-1 แมนฯซิตี้(ดวลจุดโทษ 3-1)(แคปปิตอลวันคัพ)


...ลิ่งอยากยกให้ แต่ยาย่าไม่ยอม….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1
---------------------สเตอริดจ์--------------------
----คูตินโย่---------เฟอมิโน่--------มิลเนอร์----
-------------ชาน---------เฮนเดอร์สัน------------
โมเรโน่-------ซาโก้--------ลูคัส----------ไคลน์
----------------------มินโยเล่---------------------

_______ เกมนัดชิงแคปปิตอลวันคัพ ดวลกับแมน ฯซิตี้ คล็อปยังยืนหยัดใช้ตัวจริงชุดเดียวกับเมื่อนัดยูโรป้าเป๊ะ
-------------------------------------------------------

________ ต้นเกมลิเวอร์พูลเน้นเกมรุกเร็วแต่ไม่เป็นผล บอลไม่ค่อยทะลุไปข้างหน้า ซิตี้เก็บบอลเล่นดีกว่า เปลี่ยนรับเป็นรุกได้เนียนตาไม่กลัวการไล่บอล ขึ้นเกมรุกทางริมเส้นได้ดี

________ สิบนาทีผ่านไป ลิเวอร์พูลหันมาเก็บบอลเล่นมากขึ้น เล่นช้าลงบ้างแล้ว เกมสูสีและได้ลุ้นน้อยทั้งคู่ แต่เป็นซิตี้ที่พาบอลมาหน้าเขตโทษได้บ่อยกว่า

_______ นาที 23 กุนกระชากบอลหนีคู่เซ็นเตอร์หลุดไปยิงในเขตโทษแต่ติดเซฟมินโยเล่ และจากจังหวะนั้นทำให้คล็อปตัดสินใจเปลี่ยนตูเร่ลงมาแทนซาโก้ทันที เพราะซาโก้ออกอาการมึนจากการปะทะกับชานในช่วงก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด เล่นต่อท่าจะแย่ ที่โดนกุนกระชากไปง่ายๆ นั่นก็เพราะมึนด้วย

_______ เกมครึ่งแรกยังเล่นกันไปในทรงนี้ โอกาสได้ลุ้นประตูมีไม่มากทั้งคู่ แต่ซิตี้ดูดีกว่าชัดเมื่อสามารถปิดการเล่นของสเตอริดจ์กับคูตินโย่ได้สนิท ในขณะที่ลิเวอร์พูลหยุดกุนกับซิลบาได้ลำบากเหลือเกิน กว่าจะตัดบอลได้นี่รอบเขตโทษตัวเองทั้งนั้น ยังดีว่ายังทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรกที่ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ซิตี้กลับลงมาเน้นการวิ่งไล่ตั้งแต่แดนหน้าและทำได้ดีตั้งแต่ต้น ลิเวอร์พูลตั้งตัวไม่ทัน เอาบอลขึ้นหน้าไม่ได้ แค่นาที 49 ก็เสียประตู จากจังหวะที่กุนไหลให้เฟอนันดินโย่เติมขึ้นในกรอบเขตโทษฝั่งโมเรโน่ เฟอนันดินโย่ตัดสินใจยิงยัดเสาแรก มินโยเล่ล้มช้าบอลลอดตัวเข้าไปได้ 1-0

_______ หลังสกอร์ขยับ รูปเกมเปลี่ยนทันที ซิตี้ผ่อนเกมรุกหันมาเน้นเล่นรับแล้วโต้ ส่วนลิเวอร์พูลเปิดเกมรุกมากขึ้น แผงหลังโดนเฉพาะแบ็คดันสูง ถอยคูตินโย่ลงมาช่วยเชื่อมเกมจากหลังไปหน้าเต็มตัว เรื่องเอาบอลไปหน้าดูดีขึ้นจริง แต่เกมรับมีปัญหากับเกมโต้ของซิตี้ตลอดเวลา

_______ นาที 60 ซิตี้น่าจะปิดเกมได้ไปแล้วเมื่อสเตอลิ่งได้หลุดไปยิงในกรอบโล่งๆ ไม่มีคนประกบแต่พวกยิงหลุดกรอบไปเองซะงั้น นาที 62 ก็ยังน่าได้จุดโทษ จากจังหวะที่กุนเลี้ยงหลบโมเรโน่ในเขตโทษ โมเรโน่เล่นท่ายาก เหยียดเท้าไปด้านหลังไม่โดนบอลแต่ไปโดนขากุน แต่ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษ

_______ ลิเวอร์พูลมีปัญหากับพื้นที่ฝั่งโมเรโน่ตลอดเวลา คือตัวโมเรโน่เองอย่าเรียกว่าหลุดตำแหน่ง เรียกว่าช่างแ-่งจะตรงกว่า แต่ในขณะเดียวกัน ถ้ามองจากการที่ทีมต้องเปิดเกมรุก แบ็คต้องขึ้น เพื่อนร่วมทีมก็ควรจะมีส่วนมาช่วยปิดพื้นที่ตรงนี้ด้วย ซึ่งก็ไม่มีใครมาเลยเช่นกัน

_______ นาที 71 คล็อปแก้ปัญหานี้ด้วยการส่งลัลลาน่าลงแทนโมเรโน่ ดึงเอามิลเนอร์ไปยืนแบ็คซ้าย ลัลลาน่าไปยืนริมเส้นขวา นาที 80 โอริกิได้ลงแทนเฟอมิโน่อีกคน และตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ลิเวอร์พูลเปิดหน้าแลกเต็มที่ เจาะแนวรับไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ได้ลุ้นเปิดบอลเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นกว่าช่วงหนึ่งชั่วโมงแรกของเกม ส่วนซิตี้ก็ยังโต้ได้ลุ้นอยู่เรื่อย แต่จังหวะสุดท้ายถ้าไม่ติดเซฟก็ยิงหลุดกันไปเอง

_______ นาที 83 ลิเวอร์พูลตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะบอลเป็นใจ สเตอริดจ์เก็บบอลที่ซิตี้สกัดไม่ขาดได้ทางพื้นที่เขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวเปิดบอลเรียดลึกมาเสาสองให้ลัลลาน่าชาร์จไปชนเสา แต่บอลเด้งกลับมาตรงกลางเข้าทางคูตินโย่ยิงซ้ำเข้าไปได้ 1-1

_______ หลังจากโดนตีเสมอ ซิตี้เริ่มหันมาบุกมากขึ้นและมีโอกาสทั้่งยิงทั้งโหม่งในกรอบเขตโทษหลายครั้งมาก ส่วนใหญ่เป็นจังหวะชาร์จและซ้ำที่มีตัวเบียด ไม่มีพื้นที่และไม่มีเวลาให้เล็งอะไรมากนัก แต่ก็ถือว่าลิเวอร์พูลโชคดีมากที่ไม่เสียประตู

_______ จบเกม 90 นาทีต้องต่อเวลาพิเศษกันตามระเบียบ

_______ ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก ลิเวอร์พูลมีเซอร์ไพรส์เล็กๆ ด้วยการลงมาเน้นวิ่งไล่บอล ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน แต่เซอร์ไพรส์กว่าคือซิตี้พลิกหนีเอาตัวรอดได้ดีมาก ลิเวอร์พูลไล่ไม่จน เกมกลับมาสูสีเพราะซิตี้เร่งไม่ค่อยขึ้น ส่วนลิเวอร์พูลเร่งขึ้นแต่ยังเจาะไม่ได้ ซิตี้น่าได้ประตูสุดๆ ในนาที 15 ของการต่อเวลาที่หลุดไปยิงในกรอบอีกครั้ง แล้วก็ยังติดเซฟอีกครั้ง

_______  ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง ซิตี้เปลี่ยนมาคุมพื้นที่สูง และเป็นฝ่ายสร้างโอกาสลุ้นประตูได้มากกว่า ได้โหม่งได้ยิงในกรอบก็เยอะแต่ติดเซฟติดบล็อคหมด ขนาดนาทีสุดท้ายของเกมได้เตะมุม เปิดลึกเข้ากลางมาได้ขึ้นโหม่งกันสามคนเน้นๆ แบบไม่มีตัวลิเวอร์พูลขึ้นไปเบียด พวกยังโหม่งหลุดกรอบไปเองเฉย ต้องยิงจุดโทษจนได้

_______ ช่วงดวลจุดโทษ ลิเวอร์พูลได้ยิงก่อนและชานก็ยิงไม่พลาด คนแรกของซิตี้เฟอนันดินโย่ยิงชนเสา ถึงตรงนี้พล็อตเหมือนละครน้ำเน่า พระเอกโดนย่ำยีบีทาแต่ก็อดทนฝ่าอุปสรรคมาได้ตลอด 120 นาที น่าจะจบแฮปปี้เอนดิ้งในที่สุด แต่เปล๊า~

_______ พอคนต่อๆ มาเท่านั้นแหล่ะ พล็อตทวิสกลายเป็น Drag me to hell ไปเสียฉิบ ทั้งลูคัส คูตินโย่ ลัลลาน่า ยิงติดเซฟหมดทุกคน ส่วนทางซิตี้ แม้ว่ามินโยเล่จะพุ่งถูกทางทุกลูก แต่นาบาส กุน ยาย่าตูเร่ ยิงเบียดเสาเข้าหน้าต่างกันได้หมดทุกคน แซงกลับมาชนะในช่วงดวลจุดโทษได้ 3-1 แบบไม่ต้องพึ่งคนยิงคนสุดท้ายซะอย่างนั้น

_______ ลิเวอร์พูลพลาดได้แค่รองแชมป์ ด้วยสกอร์ 4-1 (ในเวลา 1-1, จุดโทษ 3-1) แชมป์แรกของคล็อปยังต้องรอต่อไป
-----------------------------------------

_______ ก็เสียใจ ก็บ่นนะ แต่ที่สุดแล้วยังคิดว่าทีมทำผลงานได้ดีในนัดนี้

_______ โปรแกรมแข่งกระชั้นกับนัดก่อน แต่สภาพความฟิตที่เห็นเล่นกันถือว่าดี ไม่ได้เป็นรองซิตี้มากนัก(เฉพาะในเรื่องความฟิต) มีช่วงที่ช่วยกันไล่เต็มสนามดีๆ อยู่บ้างด้วยซ้ำ

_______ ในส่วนของคล็อป ผมคิดว่าเขาทำได้ดีในเรื่องวางแทคติคที่เน้นเกมรับและไม่บ้าวิ่งไล่ตั้งแต่ต้นเกมแบบที่ชอบทำ การเปลี่ยนตัวทำได้ดีมาก แต่ดูจะแก้ปัญหาเรื่องแดนกลางไม่ตก

_______ นัดนี้เกมแดนกลางมีปัญหามากครับ ชานกับเฮนโด้เอาบอลขึ้นหน้าแย่มาก ช้า เพื่อนไม่ค่อยได้เปรียบ ในขณะที่เกมรับ พวกเขารักษาได้แค่ตำแหน่งของตัวเองคือกลางสนาม แต่กับตำแหน่งอื่นที่ต้องวิ่งตามไป ไม่ว่าจะพื้นที่ริมเส้นของแบ็ค(ที่ควรไปซ้อนบ้าง) การวิ่งตามตัววิ่งสอดเข้าเขตโทษ ทั้งคู่ทำได้ไม่ดีเลย

_______ อย่างไรก็ตาม ที่ผลออกมาแบบนี้ เราควรต้องให้เครดิตซิตี้ มากกว่าจะโทษว่าทีมเล่นไม่ดี นัดนี้ซิตี้เล่นดีมากครับ ยาย่าตูเร่คืนฟอร์มเล่นได้เหมือนช่วงพีคของเขาเมื่อหลายปีก่อน ซิลบา,  กุนจับบอลทีแทบอยากไล่ให้กลับไปเล่นคนเดียวที่บ้าน แย่งกลับแทบไม่ได้ ที่เจ๋งที่สุดของซิตี้อยู่ที่การพลิกบอลหนีตัวไล่ที่ทำได้เนียนทุกคน ไล่ไปเหอะ ไล่ไปเท่าไหร่ก็ไม่ได้บอล แถมมีบอลจ่ายสวนตัวไล่จนโต้กลับมาดีๆ หลายครั้ง ถ้าจบสกอร์เด็ดขาดกว่านี้ อย่าว่าแต่แพ้ในเวลาเลยครับ ถามว่าจะทนดูกันจนหมดเวลาไหวมั้ยจะดีกว่า

_______ สเตอลิ่งฟอร์มเทพมากกลับการยิงแบบยังไงก็ต้องเข้า 2 ครั้งหลุดมันทั้ง 2 ครั้ง ในขณะที่กุนยิงไม่แย่นะ แต่ดันมาเจอมินโยเล่ที่ฟอร์มกระฉูดแตก เซฟปลายมือได้ทุกลูก

_______ แต่ก็นั่นแหล่ะ สุดท้ายพวกเขาก็ชนะดวลจุดโทษได้อยู่ดี ดีใจกับเปเยฯ ด้วยครับที่ได้แชมป์ติดมือแน่ๆ แล้วอย่างน้อย 1 ถ้วยกับฤดูกาลสุดท้ายของเขากับทีมที่คิดได้ยังไงวะกับการประกาศตั้งผู้จัดการทีมใหม่ตอนคนเก่ายังทำงานอยู่เนี่ย

_______ ส่วนลิเวอร์พูล...ฤดูกาลที่เหลือก็ดูกันไปขำๆ แล้วกันครับ

-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ค่อนข้างดี

มินโยเล่ - ถ้าเล่นได้แบบนี้ทุกนัดก็ไม่ต้องซื้อใครใหม่แล้ว เซฟดีมาก ดวลจุดโทษพุ่งถูกทางทุกครั้ง จะมีแผลหน่อยก็อีตรงลูกเสียประตูที่ล้มช้าเอง เข้าใจว่าคงคิดไม่ถึงจะโดนยิงยัด แต่ฟอร์มโดยรวมก็ยังยืนประโยคได้ดีอยู่

โมเรโน่ - ขยันวิ่งดี ทำทางได้ดีมากและเชื่อมเกมได้โอเค แต่เกมครับ..เกมรัด...เกมราบ...เอ้อ สะกดไม่เป็นแฮะ ถึงขนาดต้องเปลี่ยนออกเพราะเรื่องฟอร์มล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับแทคติคก็คิดดูเถอะ

ซาโก้ - เจ็บเร็วไปนิด ช่วงก่อนหน้าก็ดูแข็งแกร่งในลูกกลางอากาศดี

ลูคัส - คุมพื้นที่แบบเซ็นเตอร์เป็นแล้ว ซ้อนแบ็คได้ตามเนื้อผ้าด้วย (พอดีเนื้อผ้ามันกว้างไปหน่อยเพราะโมเรโน่เหลือไว้ให้เยอะ) แต่มีปัญหากับการดวลกับกุนมาก คือมันก็ใช่ กองหลังหน้าไหนดวลกับกุนก็มีปัญหาทั้งนั้นแหล่ะ แต่ขนาดมองแบบนี้แล้วก็ยังรู้สึกว่าลูคัสปิดการเล่นของกุนได้ไม่ดีจริงๆ

ไคลน์ - เจอของหนักมีปัญหาให้เห็นเหมือนกัน ยังเอาตัวรอดได้อยู่ ไม่มีพลาดหนัก แต่ไม่ได้เด่นแบบนัดก่อนแล้ว

ชาน - เชื่อมเกมไม่ดี เอาบอลขึ้นหน้าแย่ แต่เก็บบอลไว้กับทีมดี มีจังหวะพลิกหนีที่ดีให้เห็นเป็นระยะ

เฮนเดอร์สัน - เอาบอลขึ้นหน้าแย่เช่นกัน แต่เชื่อมเกมดูดีกว่าชาน ขยับหาที่รับบอลดีกว่า ที่น่าประทับใจคือมีแรงวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพได้เต็มเกมเลย ยุบบ้างก็นิดหน่อย แต่ไม่มีเดินเล่น

คูตินโย่ - ครึ่งแรกโดนล็อคตาย ครึ่งหลังขยับลงมาช่วยเชื่อมเกมมากขึ้นและทำผลงานได้ดี (ดีกว่าชาน+เฮนโด้+เฟอมิโน่เยอะ) แต่พอลงต่ำมาช่วยก็กลายเป็นพื้นที่สุดท้ายไม่ค่อยได้เล่น ประตูตีเสมอเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขามีโอกาสได้เล่นบอลในเขตโทษ

เฟอมิโน่ - เล่นไม่ออก ครึ่งแรกได้บอลเยอะกว่าแนวรุกตัวอื่นก็ทำอะไรไม่ได้ ครึ่งหลังก็หายไปเลย แถมมีอาการหมดแรงเร็วกว่าคนอื่นด้วย

มิลเนอร์  - มีปอดสี่ข้างหรือยังไง ถามว่าเร็วมั้ยมิลเนอร์ไม่เร็วนะแต่โคตรอึด ในพื้นที่ของเขา ถ้าบอลมาเมื่อไหร่มิลเนอร์วิ่งทำทางรับบอลได้ทันที ช่วยเกมรับก็ได้ เชื่อมเกมใกล้ๆ ก็โอเค มีส่วนร่วมกับการต่อบอลแดนกลางมาก แต่อย่าให้เล่นอะไรยากๆ แบบจ่ายทะลุ ขวางสนาม โต้ยาว พลาดหมด

สเตอริดจ์ - โดนประกบติดแล้วเล่นไม่ค่อยออก พยายามจะฉีกออกมารับบอลนอกเขตแล้วแต่ก็เอาบอลไปทำอะไรต่อไม่ได้มากนัก  มีความฟิตและคล่องตัวพอจะกดดันคู่ต่อสู้ได้แค่ราวๆ ชั่วโมงเดียวเท่านั้นเอง ถ้ามีโควต้าเปลี่ยนตัวสี่คนรับรองว่าโดนเปลี่ยนออก แต่อย่าลืมว่าเขาเปิดบอลเรียดเข้ากลางได้ดีในจังหวะได้ประตูตีเสมอด้วยนะ

ตัวสำรอง

ตูเร่ - เห็นเล่นนัดนี้แล้วอยากปล่อยให้แกเลี้ยงหลานอยู่บ้านมากกว่า สภาพร่างกายไม่พร้อมปะทะ ไม่พร้อมสปีด เหลือแต่ทางบอลกับการตัดสินใจที่เด็ดขาดแค่นั้นเลย เรียกว่าบอลห่างตัวหน่อย หรือคู่ต่อสู้พลิกได้แล้วตูเร่ช่วยอะไรได้น้อยมาก

ลัลลาน่า - เอาความสดลงมาช่วยทีมได้นิดหน่อย คือในส่วนของเขาเองน่ะทำดีแล้ว ขยันไล่ ขยันทำทางรับบอล แต่ซิตี้วันนี้เอาตัวรอดจากการวิ่งไล่ได้ดีมากจริงๆ พื้นที่ในเขตโทษก็ยืนกันได้แน่น

โอริกิ - เก็บบอลได้ดี รักษาตำแหน่งค้ำกับแนวรับได้ดีด้วย แต่ไปกับบอลหรือจ่ายบอลให้เพื่อนก็งั้นๆ ไม่ได้มีอะไร

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ซิมง มินโยเล่…เล่นแบบนี้ทุกนัดได้มั้ย? ซัมเมอร์จะได้เอาเงินไปซื้อตำแหน่งอื่น
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น