วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 1-0 เอ๊าซ์บวร์ก (รวมสองนัด 1-0)(ยูโรป้า)



…สิบเบี้ยใกล้มือ….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1

---------------------สเตอริดจ์--------------------
----คูตินโย่---------เฟอมิโน่--------มิลเนอร์----
-------------ชาน---------เฮนเดอร์สัน------------
โมเรโน่-------ซาโก้--------ลูคัส----------ไคลน์
----------------------มินโยเล่---------------------

_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับมือเอ๊าซ์บวร์กในเกมยูโรป้านัดที่สอง หลังจากนัดแรกเสมอกันมา 0-0 แม้ว่าปลายสัปดาห์จะมีเกมสำคัญคือนัดชิงลีคคัพกับซิตี้รออยู่แต่คล็อปก็จัดเต็มชุดใหญ่ไม่ยั้งตามรายชื่อที่เห็น ...นี่ถ้าลอฟเรนหรือสเคอเทลลงได้ก็ไม่น่ามีชื่อลูคัสเป็นตัวจริงในตำแหน่งเซ็นเตอร์ด้วย
-------------------------------------------------------

________ เริ่มเกมมาทางเอ๊าซ์บวร์ก(หลังจากนี้ขอพิมพ์ว่าเอ้าบวก ขี้เกียจยกชิฟต์ละครับ) พยายามวิ่งไล่บอลให้เร็วตั้งแต่แถววงกลม แต่ลิเวอร์พูลขึ้นเกมได้เร็ว โดยเฉพาะเกมทางขวาที่ลื่นปรื้ดไปได้ตลอด แค่นาที 3 ได้เตะมุม เปิดเข้ากลางมาปั๊บคู่ต่อสู้ทำแฮนด์บอล มิลเนอร์รับหน้าที่ยิงเปรี้ยงหาย 1-0 ขึ้นนำเร็วแบบยังไม่พ้นย่อหน้าแรก

________ สกอร์ขยับ เกมเปิดและเล่นกันเร็ว เอ้าบวก... (พอพิมพ์จริงๆ อ่านแล้วขำ ยกชิฟต์ก็ได้วะ) เอ๊าซ์บวร์ก วิ่งไล่เต็มสนามได้ดี แต่ลิเวอร์พูลเอาตัวรอดได้ แถมจังหวะที่คู่ต่อสู้ตัดบอลกลับได้แล้วก็วิ่งไล่ต่อในแดนหน้าจนคู่ต่อสู้ขึ้นบอลไม่ได้ พ้นนาที 15 ไปกลายเป็นเกมที่ลิเวอร์พูลเอาชนะได้ในเรื่องการวิ่งไล่และตัดบอลกลับมาได้เร็วกว่าเยอะ

_______ เกมริมเส้นสองฝั่งของลิเวอร์พูลทำงานได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางขวา ไคลน์เติมขึ้นมาได้บ้าคลั่งมาก วิ่งยันธงตลอด ลิเวอร์พูลเอาบอลขึ้นหน้าได้เร็ว เปิดบอลเข้าทำได้ต่อเนื่อง ได้จบสกอร์บ้างแต่ยังไม่ดีพอจะเป็นประตู ส่วนเอ๊าซ์บวร์กโต้ไม่ขึ้น ตั้งเกมไม่ได้ อาศัยลูกฉาบฉวยชนิดบอลเด้งเข้าทางบ้าง ลิเวอร์พูลจ่ายบอลในแดนพลาดบ้าง เอามากดดันได้นิดหน่อย ที่น่าพูดถึงก็มีลูกยิงไกลตกพื้นแล้วมินโยเล่เซฟได้ในนาที 25 และลูกที่ลูคัสจ่ายคืนหลังเบาโดนฉกไปได้ แต่มินโยเล่ออกไปปิดมุมเร็ว คู่ต่อสู้กระชากหลบได้จริงแต่ไม่เหลือมุมยิง

_______ ลิเวอร์พูลเหนือกว่าหมดทุกอย่าง แต่ยังไม่ได้ประตูเพิ่ม จบครึ่งแรกที่ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังเล่นคล้ายเดิม ลิเวอร์พูลดูจะเน้นเก็บบอลมากขึ้นนิดนึง และเกมโดยรวมดูช้าลงนิดหน่อย แต่รูปเกมออกมาก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก นาที 48 ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูเร็วอีกรอบจากจังหวะที่ไปไล่บอลได้ในพื้นที่ใกล้เขตโทษ สเตอริดจ์ได้บอลดึงหลบจนได้ยิงโล่งๆ ในเขตโทษ ยิงหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย

_______ เกมผ่านไปราว 10 นาทีก็เริ่มเห็นความต่างจากครึ่งแรก ลิเวอร์พูลแม้จะเก็บบอล ปิดเกมรุกได้ แต่จังหวะเข้าทำมีน้อยลง ทำได้แย่ลง แถมยิ่งเล่นยิ่งเห็นว่าแดนหน้าและกลางเริ่มวิ่งได้น้อยลงด้วย ส่วนเอ๊าซ์บวร์กยังไม่ได้เปิดบอลเข้าไปลุ้นแต่เอาบอลขึ้นหน้าได้ดีขึ้น

_______ นาที 66 โอริกิได้ลงแทนสเตอริดจ์ นาที 70 มินโยเล่ได้โชว์เทพอีกครั้งด้วยการออกไปบล็อคลูกยิงบนเส้นเขตโทษได้เร็ว

_______ หลังจากเกมอืดและเข้าทำย่ำแย่อยู่พักใหญ่ พอพ้นนาที 70 ไปเกมของลิเวอร์พูลมี่ก๊อกสอง บุกกดดันยันเขตโทษได้ต่อเนื่อง บอลเปิดเข้าไปทั้งเรียดทั้งโด่งตลอดเวลา บอลสองเก็บได้ตลอด บดอยู่ร่วมสิบนาที แต่ดีที่สุดทำได้แค่เฮนเดอร์สันวิ่งเข้าไปชาร์ฺจจ่อๆ ไม่ถึงสิบหลาติดเซฟในนาที 77

_______ นาที 79 เทเซร่าได้ลงแทนคูตินโย่

_______ ช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูลก็ยังโต้ขึ้นไปได้บ้าง แต่กดดันไม่ต่อเนื่อง และบอลที่ไปถึงข้างหน้าแล้วก็ทำเสียของเรียบ ส่วนเอ๊าซ์บวร์กพยายามจะเร่งเกมรุก แต่ดูเหมือนเกมรุกที่ดีที่สุดของพวกเขาคือโยนให้มันโด่งๆ เข้าไว้แล้วพยายามล้มตัวเอาฟาล์วหน้าเขตโทษ สลับกับยิงไกลแบบไร้อนาคต

_______ เอ๊าซ์บวร์กได้ลุ้นที่สุดในนาที 89 จากฟรีคิกหน้าเขตแล้วมุมกล้องหลอกตา นึกว่าตาย-่าไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ที่จริงคือเลี้ยวหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว

_______ จบเกม ลิเวอร์พูลเอาตัวรอดไปได้ 1-0 ผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ

-----------------------------------------

_______ เป็นเกมที่ดูแล้วสนุกมากครับ บุกมัน เกมรับก็ไม่ต้องลุ้นเยอะ

_______ เห็นโปรแกรมมันใกล้กับนัดชิง ตอนแรกก็ยังสงสัยว่าคล็อปจะเอายังไง ถ้าเป็นผมผมทิ้งยูโรป้าไปแล้วครับ จัดเด็กลงทั้งแก๊งค์แน่นอน แต่คล็อปจัดเต็มทีมไม่มีกั๊ก แล้วผลลัพธ์ก็ออกมาดีด้วย เข้ารอบ ไม่ต้องต่อเวลา ไม่มีใครเจ็บเพิ่ม ได้ความมั่นใจ

_______ สำหรับเกมนี้ ทีมทำได้สุดยอดมากในเรื่องการวิ่งไล่บีบจังหวะที่คู่ต่อสู้ตัดบอลไปได้แล้ว คือบีบจนจ่ายขึ้นหน้าห่วยแล้วโดนตัดกลับอย่างรวดเร็วได้ตลอด ครึ่งแรกถ้ากองหน้าคมสักระดับซัวเรส ตอเรส เอ๊าซ์บวร์กคงไส้แตก ร้องขอชีวิต งอแงจะกลับเยอรมันตั้งกะพักครึ่งแล้วมั้ง แต่ที่มีอยู่ตอนนี้ผลลัพธ์ก็อย่างที่เห็น ...ได้ลูกเดียวจากลูกโทษ

_______ ที่แปลกหูแปลกตาก็เห็นจะมีเกมฝั่งขวา คือเกมฝั่งขวาลื่นนี่ยังเฉยๆ แต่ที่แปลกเพราะวันนี้ลื่นเพราะไคลน์ ปกติแกจะเติมแค่ราวๆ ครึ่งแดนคู่ต่อสู้ และไม่ค่อยจะทำทางล้ำขึ้นไปถึงแนวสุดท้าย แต่ครึ่งแรกวันนี้ไคลน์ไปสุดยันธง ขึ้นเร็ว ขึ้นตลอด พิสูจน์อีกครั้งว่าถ้าเค้าจะขึ้น เค้าขึ้นได้ โหดกว่าโมเรโน่ด้วย ...นัดอื่นๆ ทำไมไม่ขึ้นแบบนี้ล่ะ

_______ แต่ปัญหาไม่ใช่ไม่มี แดนกลางที่ไม่มีลูคัส ใช้เฮนโด้กับชานคู่กัน เปิดพื้นที่หน้าเขตโทษไว้เพียบ ขนาดเกมรุกง่อยๆ ของเอ๊าซ์บวร์กวันนี้ยังหาโอกาสยิงไกลหน้าเขตโทษได้บ่อยมาก (มากกว่าที่ควรจะเป็น) ทั้งชานทั้งเฮนโด้มีความฟิตในระดับที่ดี แรงปะทะไม่แย่ ขยันทั้งคู่ด้วย แต่กับการอ่านเกมรับก็ยังต้องยอมรับว่าทั้งคู่ยังห่างจากลูคัสเยอะอยู่จริงๆ

_______ ถ้าไปเจอกลางรุกที่เทคนิคดี ดึงบอลเล่นในพื้นที่แคบได้ ตายแน่ครับกลางคู่นี้

_______ ที่น่าหนักใจอีกเรื่อง แต่จะบอกว่าเป็นปัญหาคงไม่ใช่ บอกว่าเป็นอีกด้านของเหรียญก็แล้วกัน คือแดนหน้ากับกลางที่ยุบเร็ว หมดแรงวิ่งตั้งแต่ราวๆ นาที 60 อันนี้เป็นผลโดยตรงมาจากแทคติคเอาหน้ากลับกลางวิ่งไล่ในแดนหน้า (ก็เกเก้นเพรสซิ่งนั่นแหล่ะ) วิ่งกันไปขนาดนั้น หมดสิครับ ขนาดคุณพี่พลังม้าอย่างมิลเนอร์ หรือกัปตันมาราธอนอย่างเฮนโด้ยังออกอาการแข้งขาอ่อนเลย พวกมนุษย์ปอดปกติแบบเฟอมิโน่ สเตอริดจ์ คูตินโย่ จะไปเหลือเหรอ

_______ ยิงขาดได้ก็ดีไป (ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่) แต่พอไม่ขาด ช่วงกลางจนถึงท้ายครึ่งหลังนี่คู่ต่อสู้พลิกมาบี้เอาตายได้ง่ายๆ กับแทคติคแบบนี้ นัดนี้ท้ายเกมก็เห็นผลอยู่พอควร ดีว่าเอ๊าซ์บวร์กเองก็เกมรุกไม่ดุเท่าไหร่ด้วยเลยรอดมาได้แบบชิลๆ

_______ จากการจัดเต็มฟูลทีมนัดนี้ และกับแทคติคการเล่นแบบนี้ที่คาดว่าจะใช้ในนัดชิงลีคคัพกับซิตี้ บอกตรงๆ ว่าหลอนอยู่พอสมควรครับว่าจะคว้าแชมป์ไหวมั้ย แต่จะว่าไปซิตี้ตั้งแต่ประกาศว่าเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่ปีหน้า ฟอร์มก็แกว่งๆ เป๋ๆ อยู่ เกมที่่เจอกันในลีคก็ชนะมาแล้วด้วย...

_______ ...ขออีกนัดน่า

-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดี

มินโยเล่ - ออกมานอกเส้นได้เร็วหลายครั้ง หนึ่งในนั้นช่วยให้คู่ต่อสู้พลาดได้ยิงง่ายด้วย เซฟลูกยิงสำคัญได้สองหน ดูนัดนี้แล้วต้องขยี้ตากันเลยล่ะว่านี่มันใช่มินโยเล่ตัวจริงหรือใครปลอมตัวมา

โมเรโน่ - โดนไคลน์แย่งซีนหมด นัดนี้โมเรโน่เติมรุกได้ไม่มากนัก ขึ้นไปเปิดได้พอควรซึ่งเปิดไปติดเรียบ แต่เชื่อมเกมกลางสนามได้ดี ไม่ต้องเคาะกลับหลังบ่อยนัก และรักษาตำแหน่งตัวเองในเกมรับได้ดี

ซาโก้ - ไม่รู้ว่าอคติหรือยังไง ทั้งๆ ที่ซาโก้สกัดบอลได้เยอะมาก เยอะที่สุดในทีมด้วย ทั้งลูกกลางอากาศและการทิ้งตัวสกัดทิ้งก่อนคู่ต่อสู้ถึงบอล แต่กลับรู้สึกว่าเขาสกัดไม่ค่อยขาด บอลไม่ค่อยไปไหน ล้มในจังหวะที่น่าจะยืนบังได้ ทิ้งตัวสกัดในจังหวะที่น่าจะแค่วิ่งไปเตะทิ้งง่ายๆ ได้

ลูคัส - ออกมาดักบอลนอกเขตโทษได้สุดยอดมาก ครึ่งแรกจะเห็นได้หลายจังหวะเลย แย่งบอลเก่งมากเข้าไปแล้วได้บอลแทบทุกครั้ง ไม่เสียฟาล์วด้วย ตำแหน่งยืนก็ดีขึ้นไม่มั่วแบบนัดแรกๆ ที่ยืนเซ็นเตอร์ แต่ช่วงท้ายเกมที่เอ๊าซ์บวร์กเอาบอลมาป้วนเปี้ยนหน้าเขตโทษบ่อยๆ ก็เริ่มลนเริ่มได้แต่วิ่งตามกองหน้าเหมือนกัน

ไคลน์ - อย่างเดียวที่ทำได้ไม่ดีพอคือจังหวะสุดท้าย เปิดไม่คมเท่าไหร่ แต่นอกจากนั้นแล้ว ฟอร์มของไคลน์วันนี้คือการเล่นของแบ็คที่ครบเครื่องมาก รับแน่น เชื่อมเกมได้ วิ่งขึ้นลงเร็ว เติมเกมรุกสุดเส้น

ชาน - เล่นได้น่าพอใจ เก็บบอลสองได้ดีมาก เชื่อมเกมโอเคมีบอลขวางดีๆ ให้เห็นบ้างด้วย  มีปัญหากับจังหวะที่คู่ต่อสู้พลิกมาได้นิดหน่อย แต่ก็ยังวิ่งตามบอลไปได้เรื่อย ปิดพื้นที่หน้าเขตโทษหลวมไปนิด ทำได้ดีมากกับการไล่ผีเมสซี่กลับคัมป์นุไปได้ มันน่าพอใจก็ตรงนี้แหล่ะ

เฮนเดอร์สัน - ขึ้นมาเล่นเกมรุกเยอะกว่าชาน ทำได้ดีในเรื่องการเชื่อมเกมและเข้าไปเร่งบอลคู่ต่อสู้ที่กำลังจะพลิกขึ้นหน้าได้ถึงตัวตลอด แต่เรื่องการมีส่วนร่วมกับเกมรุก...ไม่ดีเลย จ่ายบอลเข้าทำไม่ได้ เติมขึ้นไปจะยิงยังยิงติดแล้วติดเล่าอีก

คูตินโย่ - พลิกบอลเล่นได้ต่อเนื่อง ประสานงานกับทั้งโมเรโน่และเฟอมิโน่ได้ลื่นไหล ออกบอลเข้าทำได้ลุ้นหลายครั้ง มีส่วนร่วมกับจังหวะสุดท้ายเยอะทั้งจ่ายให้ยิงและยิงเอง กดดันคู่ต่อสู้ได้ตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม

เฟอมิโน่ - เทพครึ่งแรก ขยับหาที่ว่างได้ตลอด เชื่อมเกมได้ดี เล่นในพื้นที่แคบก็ได้ ขยันไล่บอลทุกจังหวะ พอเข้าครึ่งหลังเริ่มหายไปจากเกม พอพ้นหนึ่งชั่วโมงไปแทบไม่เจอหน้าอีกเลย

มิลเนอร์  - เล่นได้ทื่อมะลื่อ แต่ช่วยทีมได้เยอะ ไล่บอลได้มาก เข้าถึงบอลเร็ว วิ่งทำทางรับบอลช่วยเชื่อมเกมได้ตลอด กับเกมรุกจังหวะที่ขยับไปรับบอลเล่นด้านข้างกดดันคู่ต่อสู้ได้ เพราะกระชากได้ เปิดบอลได้ เปิดติดบ้างพลาดบ้างก็ยังเอาบอลเข้าไปลุ้นในเขตโทษได้เรื่อย

สเตอริดจ์ - หาที่ว่างรับบอลและประสานงานกับเพื่อนได้ดี หายไปอย่างเดียวคือจังหวะทำประตูที่วันนี้ไม่เด็ดขาดเท่าไหร่

ตัวสำรอง

โอริกิ - เก็บบอลพอได้แต่จังหวะวิ่งทำทางเริ่มกลับมาแย่อีกแล้ว พาบอลไปเองได้ติดเท้าดี เปิดบอลเมื่อไหร่โกลคิกเมื่อนั้น

เทเซร่า - ลงมาช่วยเชื่อมเกมเฉยๆ พยายามจะช่วยเปลี่ยนรับเป็นรุกอยู่หลายครั้ง แต่ช่วยไม่ได้มาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอีโอ้มันไม่วิ่งรับบอลด้วย เฟอมิโน่ก็หมด

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เจมส์ มิลเนอร์… เอาเท่ต้องคูตินโย่ แต่ถ้าเอาส่วนร่วมกับเกมต้องมิลเนอร์ ลูกเท่ๆ ว้าวๆ ไม่มี แต่ช่วยได้หมดทั้งรุกทั้งรับและทั้งเกม 90 นาทีด้วย แถมได้เครดิตพิเศษจากลูกโทษที่กลายเป็นประตูชัยอีกต่างหาก
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น