วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เวสต์แฮม 2-1 ลิเวอร์พูล (1-1, ต่อเวลา 2-1)(เอฟเอคัพ)



…’จารย์ช่วยก็แล้ว เพื่อนปั้นก็แล้ว กองหลังก็พลาดให้แล้ว จะต้องถึงขั้นโกล์วิ่งหนีให้เลยมั้ยเพ่~….
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-2-3-1

-----------------------เบนเทเก้-----------------------
----คูตินโย่-------เทเซร่า---คิงลอร์ดก็อดไอบ์--
-------------สจ๊วต----------ชิริเบย่า---------------
สมิธ-------ลูคัส--------อิลอริ-------ฟลานาแกน
-----------------------มินโยเล่-----------------------

_______ ลิเวอร์พูลเล่นเกมที่ 40 ในฤดูกาล ออกไปรีเพลย์เอฟเอคัพกับเวสต์แฮม คล็อปที่หายเจ็บกลับมาแล้วยังคงใช้ผู้เล่นสำรองเป็นหลักตาม มีการปรับใหญ่อยู่ที่ลูคัสเล่นเซ็นเตอร์เต็มตัว
-------------------------------------------------------

________ เริ่มต้นเกม ทั้งสองฝ่ายเล่นคล้ายกันคือไล่บนและเน้นเกมรุก เกมออกมาสูสี เวสต์แฮมทำได้ดีกว่าในเรื่องการเอาบอลกลับมาได้เร็ว การพาบอลขึ้นหน้า แต่จังหวะได้ลุ้นยังพอๆ กัน

________ นาที 16 เวสต์แฮมได้ยิงชนเสาไปรอบ ส่วนลิเวอร์พูลที่เกมเป็นรองยังดีว่ามีเกมโต้เร็วทางซ้ายด้วยการเล่นของ คูตินโย่+เทเซร่า+สมิธมาช่วยกู้หน้าเป็นระยะ ทำให้ไม่โดนกดมิดไมล์นัก นาที 34 คูตินโย่ได้โอกาสยิงในกรอบไปชนเสาด้วย

_______ เกมโดยรวมยังเป็นเวสต์แฮมที่ดูดีกว่าโดยเฉพาะการไล่ไม่ให้ลิเวอร์พูลขึ้นเกมได้ และบอลทางริมเส้นพาไปใกล้ธงได้บ่อย นาที 37 จากฟรีคิกก็ยิงไปชนเสาอีกรอบ ต่อด้วยโหม่งซ้ำแล้วมินโยเล่ยังชกทัน

_______ จากย่อหน้าข้างบน ไอ้เราก็นึกว่าจะรอดตลอดครึ่งแรก เปล๊า~ นาที 45 แบ็คซ้ายเวสต์แฮมอย่างไอบ์ตัดบอลจากลิเวอร์พูลได้ ก่อนเวสต์แฮมเอามารุกเร็วจนได้เปิดจากทางฝั่งฟลานาแกน บอลข้ามหัวแนวรับ 5 คนไปเสาสองโดนอันโตนิโอวอลเล่ย์ย้อนทางไปเสียบเสาแรก 1-0 จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

_______ เข้าครึ่งหลัง ยังไม่ได้ทำอะไรกันมากนัก เบนเทเก้ก็มาเรียกฟรีคิกได้ในนาที 48 จุดตั้งเตะใกล้มากชิดเส้นเขตโทษ คูตินโย่หลอกยิงเรียดลอดกำแพงที่กระโดดเข้าไปได้อย่างเหนือ 1-1 แบบไม่ต้องเปลืองแรง

_______ พอสกอร์ขยับ เวสต์แฮมกลับมีฮึดเร่งเกมอีกครั้ง ในขณะที่ลิเวอร์พูลก็ยังมีจังหวะโต้ได้บ้าง แต่ให้ขึ้นเกมเองสู้ไม่ได้เลย เปลี่ยนรับเป็นรุกมีปัญหาตลอด และเกมรับก็สกัดบอลได้ภัตตาคารบ้านทุ่งมาก ขอแค่ให้โดนบอลพอ บอลไปไหนไม่แคร์

_______ นาที 59 คล็อปปรับทีมขนานใหญ่ โอริกิกับสเตอริดจ์ได้ลงแทนคูตินโย่กับเทเซร่า เข้าใจว่าคล็อปคงไม่เห็นว่าไอบ์ยังอยู่ในสนาม โอริกิลงไปยืนซ้าย สเตอริดจ์ยืนหลังเบนเทเก้ ส่วนไอบ์ยังปักหลักเล่นแบ็คซ้ายให้เวสต์แฮมต่อ

_______ ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลหันมาเล่นเกมโต้กลับเร็วเต็มตัว ไม่ตั้งเกมอีกแล้ว ซึ่งก็ได้ผลจริง คือครองบอลได้น้อยลง แต่จังหวะโต้ขึ้นไปได้ลุ้นมากขึ้น ส่วนทางเวสต์แฮมก็ไม่รู้เพราะเล่นในบ้านหรือยังไง ทีมยังไม่ได้เป็นรองแต่ดันสูงขึ้นมาเน้นเกมรุกมากขึ้น

_______ นาที 65 ไม่รู้ว่ากรรมการปราณีหรือตาถั่ว อิลอริดึงแขนตัวชาร์จในเขตโทษแต่ไม่โดนจุดโทษ นาที 75 คาโรลได้ลงสนามมาแล้วจากนั้นเวสต์แฮมก็หันมาโยนบอมบ์ขึ้นหน้าเต็มตัว กดดันแนวรับได้เยอะจริงเพราะแนวรับต้องถอยมารุมมารองบอลกันแน่น แต่กับจังหวะเปิดหรือยิงเวสต์แฮมยังหาแทบไม่ได้ ก่อนจบเกมที่สกอร์ 1-1

_______ ต่อเวลาครึ่งแรก เวสต์แฮมได้บุกเยอะกว่าแต่หาจังหวะไม่ได้ ลิเวอร์พูลได้โต้งามๆ หลายครั้ง ไฮไลท์อยู่ที่เบนเทเก้ได้วอลเล่ย์ในกรอบแบบไม่มีใครประกบ ต่อด้วยได้หลุดเดี่ยวไปดวลกับโกล์ ผลลัพธ์เป็นอย่างไรคงเดากันได้ และมิลเนอร์ได้ลงมาแทนชิริเบย่าในนาที 11 ขอการต่อเวลา นอกนั้นไม่มีอะไรน่าพูดถึง

_______ ต่อเวลาครึ่งหลัง เวสต์แฮมก็ยังบุกเยอะกว่าแต่ไม่ได้เปิดบอลเข้าทำเท่าไหร่ เกมทำท่าว่าจะจบ มินโยเล่น่าจะได้โชว์เทพเซฟลูกโทษอีกครั้ง แต่แล้วนาที 120+1 ลูคัสไปเสียฟาล์วกลางแดนตัวเอง เวสต์แฮมโยนลึกเข้ามาในเขตโทษ ลึกเข้ามาทางเสาสอง ลึกเข้าไปเข้าหัวอ็อกบอนนา ลึกเข้าประตูไป จบเกม ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบ 3 ปีหน้าได้สำเร็จ 2-1
-----------------------------------------

_______ ใช่ครับ...อึ้งแดร๊กกก~ (ก๊อปมาจากนัดก่อน แต่คิดว่ายังใช้ได้อยู่)

_______ คือ..กับเกมถี่โคตรๆ แบบนี้ ใช้ใครที่ยังมีแรงวิ่งได้ก็ส่งๆ ลงไปเถอะครับ ผมไม่มีปัญหากับ 11 ตัวจริง รายชื่อผู้เล่นอาจดูแย่มาก แต่เรื่องนี้ผมว่าเราควรเข้าใจคล็อปกันนิดนึง

_______ แท็คติควันนี้ คล็อปช่วยทีมได้เยอะครับ อย่างแรกที่เห็นผลจริงคือการถอยฟลานาแกนยืนต่ำแนวเดียวกับเซ็นเตอร์แทบตลอด แนวเดียวกันเลยนะ ไม่ใช่แค่แบ็คที่ไม่รุก แต่เหมือนเซ็นเตอร์คนที่สามมากกว่า ทำให้เวลาคู่ต่อสู้จะโยนบอล/เปิดบอลเข้าเขตโทษ แท็คติคนี้ช่วยขันเกมรับได้ดีมากๆ ครับ

_______ อย่างที่สองคือสจ๊วตกับชิริเบย่าที่ยืนต่ำมาก เน้นเกมรับเน้นเก็บบอลสองอย่างเดียว ไม่ค่อยมีบทบาทกับการเปลี่ยนรับเป็นรุกหรือเกมรุก ซึ่งช่วยให้เกมรับแน่นขึ้นแล้วพาทีมอยู่รอดปลอดภัยได้นานอยู่ แม้จะต้องแลกมาด้วยเกมรุกพังๆ ตั้งเกมเองไม่ได้ก็ถือว่าคุ้มอยู่ เพราะทีมแบบนี้จะไปตั้งเกมรุกสู้ทีมระดับเวสต์แฮม(ตอนนี้)น่าจะลุ้นยาก

_______ ฟอร์มของผู้เล่นบางคน โดยเฉพาะลูคัสก็ทำได้ดีมากด้วย

_______ เรื่องที่ผมไม่เห็นด้วยกับคล็อปมีอยู่เรื่องเดียว เรื่องใหญ่ด้วย คือการเก็บไอบ์ไว้ตลอดเกม นาที 59 ที่เปลี่ยนสองคนนั้น คูตินโย่ออกไม่แปลกเพราะไม่ฟิต แต่กลับเลือกเปลี่ยนเทเซร่าออกด้วยแทนที่จะเป็นไอบ์ กลายเป็นว่าทีมไม่มีคนพลิกบอล/ออกบอลเกมรุก แต่ดันมีตัววิ่งทำทางรับบอลเพิ่มอีกสอง บอลเกมรุกที่เล่นกันกลายเป็นว่าต้องออกจากเท้าเบนเทเก้หรือสเตอริดจ์ ซึ่งในรายแรกแค่เชื่อมเกมได้ก็บุญโขแล้ว ส่วนสเตอริดจ์ให้บอลเกมรุกได้บ้างแต่ถ้าให้เป็นตัวจ่ายบอลหลักคงไม่ใช่

_______ อันนี้ไม่เข้าใจคล็อปจริงๆ

_______ ส่วนเรื่องมิลเนอร์แทนชิริเบย่า คือนาทีนั้นเอาใครลงแทนชิริเบย่าก็ได้ทั้งนั้นครับ และคล็อปน่าจะมองถึงเรื่องยิงจุดโทษบ้างแล้วด้วย

_______ คนที่อยากพูดถึงเป็นพิเศษในนัดนี้คือ ลูคัส ในฐานะเซ็นเตอร์ก็ยังมองว่าตำแหน่งพอใช้ได้ไม่ถึงกับดี เรื่องของเรื่องคือมีคนช่วยทำให้พื้นที่รับผิดชอบแคบลง แต่ลูคัสมีดีในเรื่องการสกัดที่ช่วยทีมได้เยอะมาก ทั้งดักบอลจ่าย ทั้งซ้อนเพื่อน ทั้งเข้าปะทะ จ่ายบอลขึ้นหน้าก็ดีกว่าแนวรับคนอื่น(วันนี้) ที่สำคัญคือลูคัสเป็นผู้นำในสนามที่ดีมาก เขาคอยบอกเพื่อนตลอดเวลาว่าให้ดูใครประกบใคร พื้นที่ในยังว่าง ใครกำลังวิ่งสอดมา ซึ่งเรื่องนี้ตั้งแต่พ้นคาราเกอร์ไปไม่ค่อยมีใครทำ(ได้ดี)

_______ สำหรับสุดยอดนักเตะของเกมนี้อย่าง เบนเทเก้ อยากจะอุทิศเวลาให้แกเต็มๆ สักบทความนึงเลย แต่ไม่รู้จะมีเวลามั้ย ที่แน่ๆ คือโดยรวมนัดนี้เล่นดีนะ แต่จังหวะจบสกอร์นี่แน่นอนจริงๆ ไม่หลุดก็ติด ถ้ามีโอกาสระดับนี้แล้วยังยิงไม่ได้อีก ลงไปเล่นเซ็นเตอร์ดีมั้ย น่าจะเป็นประโยชน์กับทีมมากกว่า

_______ ...ดูดาวรุ่ง ดูการประสานงาน ดูคนน่าได้ไปต่อฤดูหน้ากันไปครับกับฤดูนี้ที่เหลืออยู่ จะดูเอาอันดับเอาประตูนี่คงไม่ไหว
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดีเป็นบางคน

มินโยเล่ - ความมั่นใจน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่พลาดระดับงามไส้แบบนัดก่อนแต่มีลูกลนๆ เหวอๆ ให้เห็นเป็นระยะ

สมิธ - เกมรุกวิ่งสอดขึ้นไปเปิดบอลได้ดีมากๆ หลายครั้ง ส่วนเกมรับหวานชื่น รื่นรมย์ กรอบเกรียว เคี้ยวสมิธ

ลูคัส - อ่านข้างบนเลย

อิลอริ - จังหวะการเล่นดีขึ้น มั่นใจมากขึ้น การเข้าสกัดหรือดักบอลก็ทำได้โอเค แต่เกือบทำทีมเสียจุดโทษ และฟอร์มโดยรวมยังสู้เซ็นเตอร์สมัครเล่นอย่างลูคัสไม่ได้

ฟลานาแกน - เล่นบอลแหยงๆ บอกไม่ถูก ยืนห่างคนครองบอลหลายครั้ง จังหวะเข้าก็ถอนรากถอนโคนไม่ค่อยมีเชิง รักษาพื้นที่ได้ดี ยกเว้นลูกที่พลาดให้คู่ต่อสู้เปิดง่ายจนทีมเสียลูก 1-0 นั่นแหล่ะ ส่วนการเติมเกม ขึ้นเมื่อไหร่พลาดเมื่อนั้น

สจ๊วต - คนละเรื่องกับนัดก่อน นัดนี้พลิกบอลได้น้อย เลี้ยงเป็นพลาด ทำได้แค่เคาะคืนหลังกับช่วยเก็บบอลสองในเกมรับ

ชิริเบย่า - ช่วยปิดพื้นที่หน้าเขตโทษกับเก็บบอลสองเกมรับ ทำหน้าที่ได้โอเคตามแท็คติค แต่ฟอร์มโดยรวมก็ไม่ได้ทิ้งสจ๊วตเท่าไหร่

คูตินโย่ - ความฟิตยังน้อย ไม่ค่อยเก็บบอลไว้กับตัว ไม่เลี้ยงบอล แต่กลายเป็นว่าเล่นง่ายแล้วช่วยทีมได้เยอะ บอลไหลให้ตัววิ่งทำทางทำได้ดีหลายครั้ง นัดนี้ยิงครั้งเดียวเสียวกว่ายิงเป็น 10 ในบางนัด

เทเซร่า - ประสานงานกับคูตินโย่ได้ดี พลิกบอลใช้ได้ บอลเกมรุกไม่เด็ดขาดเท่าคูตินโย่แต่ก็พอทำได้

ไอบ์  - เป็นข้อพิสูจน์ว่าการมี 11 คนในสนาม ไม่แน่ว่าจะดีกว่าการมี 10 คนเสมอไป

เบนเทเก้ - เล่นได้ดี โดยเฉพาะในหนึ่งชั่วโมงแรกของเกม ค้ำกองหลังได้ โหม่งชงหรือเอาบอลลงเก็บบอลสาดมั่วๆ ของกองหลังไว้ได้ เชื่อมเกมแดนหน้าได้โอเคด้วย แต่หลังจาก 60+ ไปแล้วช้าลงกว่าเดิม แรงเบียดน้อยลง อย่างไรก็ตาม ไฮไลท์ของเบนเทเก้อยูุ่ที่การจบสกอร์...ซึ่งไม่สามารถบรรยายได้โดยที่ไม่มีคำผรุสวาจาหลุดออกมาด้วย เอ่อ...หลายคำด้วย

ตัวสำรอง

โอริกิ - ดูยังไม่ฟิตสมบูรณ์ แต่พาบอลไปหาที่ว่างได้โอเคอยู่ หาจังหวะเปิดบอลได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้กดดันแนวรับอะไรนัก

สเตอริดจ์ - พลิกบอลดี เก็บบอลดีกว่า หาที่ว่างรับบอลดีที่สุด เสียดายต้องลงมารับบอลเชื่อมเกมต่ำ ทำให้มีเวลาและโอกาสในเขตโทษน้อยกว่าที่ควร

มิลเนอร์ - ไม่รู้ว่าคล็อปสั่งงานเยอะหรือไงไม่ทราบได้(คุยเยอะจริงๆ ก่อนลงสนาม) พอลงมามิลเนอร์เหมือนทำอะไรไม่ถูกเลย นอกจากขยับคุมพื้นที่ไปเรื่อยๆ

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ลูคัส เลว่า…แม้จะทำเสียฟรีคิกจนโดน 2-1 แต่ฟอร์มโดยรวมช่วยทีมได้เยอะมาก เด่นกว่าคนอืนมากจริงๆ
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น