วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558

นิวคาสเซิล 2-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...เอ๊า~ ใครบอกว่าอย่าประมาณ ได้ยินแว้บๆ...
___________________________

ลิเวอร์พูลเริ่มเกมในทรง 4-2-3-1

-------------------------เบนเทเก้-----------------------
มิลเนอร์----------------เฟอมิโน่------------------ไอบ์
--------------อัลเลน----------------ลูคัส---------------
โมเรโน่-------ลอฟเรน--------สเคอเทล-------ไคลน์
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ เกมพรีเมียร์ลีค ลิเวอร์พูลต้องเจอศึกหนักเมื่อต้องออกไปเยือนทีมหนีตกชั้นอย่างนิวคาสเซิล นัดนี้คล็อปเปลี่ยนทีมจากกลางสัปดาห์ค่อนข้างมากตามผังที่เห็นด้านบน
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาทั้งสองเปิดเกมรุกใส่กัน ลิเวอร์พูลเกมริมเส้นขวาลื่นปรื้ดต้นเกมได้เตะมุมรัว 3 ครั้งแต่ผลลัพธ์ไม่ต้องสืบ เก็บบอลเล่นได้มากกว่า ส่วนนิวคาสเซิลไล่แค่กลางสนามแต่เวลารุกก็เติมกันเล่นเยอะพอควร เกมเป็นรองแต่ยังมีรูสู้

________ ผ่าน 10 นาทีของเกมไปเริ่มเห็นทิศทางของเกมนี้ชัดขึ้น ทั้งสองทีมต่อบอลพลาดกันเองเยอะ โดยฝั่งนิวคาสเซิลพลาดมันทั้งสนาม หนักสุดคือตอนสาดขึ้นหน้าที่ไม่แน่ใจว่าพี่แกเล็งเปิดเพื่อนหรือเปิดให้เซ็นเตอร์ ส่วนลิเวอร์พูลต่อบอลบริเวณหน้าเขตโทษคู่ต่อสู้ไม่ได้เลย ไปกันคนละทางตลอด ลากไปเองก็กั๊กกัน

_______ ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกมไป นิวคาสเซิลที่ไม่ค่อยโดนกดดันเท่าไหร่เริ่มรู้สึกว่า “ก็สู้ได้นี่หว่า” เริ่มมีฮึดวิ่งไล่แล้วซึ่งก็ได้ผลทันตา ทั้งมหาเทพผู้ไม่ต้องเอ่ยนามกับอินเนียสต้าแห่งแอนฟิลด์เริ่มเชื่อมเกมไม่ได้ บอลไปข้างหน้าช้าลง ส่วนนุ้งไอบ์ใส่ไม้โทก็ท้าทายความเชื่อที่ว่าฟุตบอลเป็นกีฬาประเภททีมรัวๆ สรุปกลายเป็นนิวคาสเซิลที่เกมเริ่มดีขึ้นและดีกว่านิดๆ ก่อนจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ดูคล็อปจะยังไม่รู้ตัวว่าแถวนี้แม่งเถื่อน เพราะทั้งเบนเทเก้ เฟอมิโน่ ไอบ์ ยังได้กลับลงมากันครบ และทีมเล่นคล้ายเดิมมากไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป ในขณะที่แม็คลาเรนปรับเกมด้วยการดันแผงหลังสูง ถอยหน้าลงต่ำ เพื่อบีบให้กลางสนามแคบลงอย่างได้ผล

_______ เกมเทไปทางนิวคาสเซิลเรื่อยๆ เมื่อพวกเขาเริ่มตัดบอลได้เร็วขึ้น ต่อบอลได้มากขึ้น ส่วนลิเวอร์พูลกองกลางเริ่มเอาบอลขึ้นหน้าได้ลำบาก จังหวะที่เอาขึ้นได้บอลก็ตายตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดบอลเป็นส่วนใหญ่

_______ นาที 62 ลัลลาน่ากับสเตอริดจ์ได้ลงแทนเฟอมิโน่กับเบนเทเก้ ลิเวอร์พูลหันมาใช้บอลเร็วเต็มสูบ จ่ายกันไปถึง 3 ครั้งถึงเขตโทษคู่ต่อสู้ตลอด ...แต่ส่วนใหญ่จะไปได้แต่บอล

_______ ในที่สุดนิวคาสเซิลมาทำลายบรรยากาศยักแย่ยักยันได้ก่อน นาที 69 ไวนัลดุมรับบอลในเขตโทษโดยปราศจากกลางรับท่านใดมารบกวน, แตะหาทีว่างยิงมุมแคบ สเคอเทลเหยียดเท้าพยายามสกัดแต่ผลลัพธ์คือตำนาน เพราะบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูส่งให้เจ้าตัวถล่มประตูตัวเองในพรีเมียร์ลีคเทียบชั้นคาราเกอร์คือ 9 ประตูเข้าให้แล้ว นิวคาสเซิลนำ 1-0

_______ สกอร์ขยับปั๊บ สเตอริดจ์ได้บอลหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษด้วยการจ่ายงามหยดของลัลลาน่า...แต่บอลไปเข้าเหลี่ยมเท้าขวา สกอร์เลยยังอยู่ที่เดิม

_______ ลิเวอร์พูลดันกันเล่นสูงมากขึ้น แบ็คดันกันขึ้นมาได้สักที นาที 74 โอริกิได้ลงแทนไอบ์ ทีมปรับเล่น 4-3-3 ในรูปแบบเดียวกับนัดก่อน ลิเวอร์ูลเร่งเกมเร็วและดันสูง แต่เก็บบอลเล่นไม่ค่อยได้ ส่วนนิวคาสเซิลถอยต่ำรอโต้ แต่กองกลางยังวิ่งไล่อัดอยู่ เก็บบอลสองกันได้ดีขึ้น เลยทำให้ได้พักหายใจเป็นระยะและไม่ได้โดนกดจมเขตโทษตัวเองแต่อย่างใด

_______ นาที 80 มิลเนอร์โยนจากขวาข้ามไปซ้ายให้โมเรโน่เติมเข้ามากระโดดตักบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างสุดสวยชนิดยิงครั้งเดียวน่าให้สักสามประตู แต่ไม่ได้สักประตูเพราะไลน์แมนจับล้ำหน้าไปก่อนทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่ล้ำ (มีตัวล้ำอยู่ตรงกลางน่าจะเป็นโอริกิ)

_______ ท้ายเกม ลิเวอร์พูลเข้าตาจน ปรับมายืนหลัง 3 เอาสเคอเทลขึ้นไปช่วยเล่นลูกกลางอากาศ..ซึ่งไม่ได้ผล โคลอชชินี่เก็บกินได้หมด

_______ เกมทำท่าว่าจะจบลงที่ผล 1-0 แต่ในนาที 90+5 ซิสโซโก้เก็บบอลได้ริมเส้นกลางสนาม โมเรโน่เข้าไปปั้มแย่งบอลแต่เข้าหลวมแถมผิดเหลี่ยม โดนซิสโซโก้ขยับเอาบอลขึ้นหน้าได้ก่อนจ่ายยาวตามช่องขึ้นไปให้ไวนัลดุมได้เข้าไปยิงในเขตโทษตอกย้ำให้มันเจ็บช้ำกันไปกว่าเดิม 2-0 และจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว
-----------------------------------------

_______ ผังการเล่นในช่วงต้นเกมนั้นตอนเล่นจริงมีรายละเอียดกว่านั้นเล็กน้อยครับ ในจังหวะตั้งเกมรุกขึ้นไปเองจะเล่นกันตามผังนั้น แต่ในจังหวะรับมิลเนอร์จะถอยลงมาคุมพื้นที่ในแดนกลางด้วย ทำให้ในจังหวะโต้เร็วจะเห็นเฟอมิโน่ขยับไปรับบอลริมเส้นด้วย ส่วนไอบ์ที่อยู่อีกฝั่งยืนชิดเส้นตลอด

_______ 11 ตัวจริงกับแทคติคเริ่มเกม นี่ไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดและไม่ใช่รูปแบบการเล่นที่ดีทีสุดของทีม แต่ผมยังคิดว่าการลองครั้งนี้ตอนนี้มันโอเค รับได้ เพราะถือโอกาสหมุนเวียนผู้เล่นและให้โอกาสคนที่ฟอร์มยังไม่ดีไปด้วย

_______ แต่สิ่งที่ผลคิดว่าคล็อปพลาดจริงๆ อยู่การใช้เบนเทเก้เป็นหน้าเป้า แต่กลับไม่เล่นเกมรุกที่มุมธง คืออย่างที่เห็นๆ กันอยู่ว่าเบนเทเก้น่ากลัวสุดคือลูกกลางอากาศ แต่บอลที่โยนเข้ามามีน้อยและไม่ได้โยนจากสุดเส้น แบ็คทั้งสองข้างไม่ขึ้นเลย ในขณะที่ด้านขวา ไอบ์ไปสุดเส้นบ้างก็จริงแต่เน้นเปิดเรียดสลับกับตัดในยิงเอง ด้านซ้ายมิลเนอร์ในเกมรับถอยไปกลางสนาม ทำให้กว่าจะขยับมารับบอลริมเส้นนี่คู่ต่อสู้ก็กลับมากันหมดแล้ว
_______ การสลับฝั่งของตัวริมเส้นสองคนนี้ก็ไม่เกิดผลเท่าไหร่ เพราะแบ็คยังคงไม่ขึ้นอยู่ดี ทำให้บอลไปไม่ถึงสุดเส้นหลังมากเท่าที่ควร ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นการตัดเบนเทเก้ออกจากเกมด้วยตัวเองซะอย่างนั้น

_______ นอกจากนั้น จากสิ่งที่เกิดขึ้นในครึ่งแรก คล็อปกลับยังปล่อยให้ 3 ตัวรุกกลับลงมาครบหมด แม้ทีมจะยืนกันสูงขึ้น แบ็คดันมากขึ้นนิดหน่อย แต่วิธีการเล่นยังคล้ายเดิมจนนึกภาพไม่ออกว่าเกมจะพลิกกลับมาดีกว่าได้ยังไง ถ้าไม่มีลูกแบบผีจับยัดหรือนิวคาสเซิลพลาดหนักๆ ให้สักดอก

_______ คล็อปใจเย็นไปนิดนึงครับ ก่อนเกมพึ่งบอกลูกทีมไม่ให้ประมาท แต่แกดูจะประมาทซะเองนะ

_______ ส่วนการเปลี่ยนพร้อมกันสองคนและเอาเบนเทเก้ออก ผมเห็นด้วย เพราะเปลี่ยนมาแบบนี้เก็บเบนเทเก้ไว้ก็คงได้แต่ยืนมองบอลนั่นแหล่ะ คิดจะเปลี่ยนวิธีเล่นก็ต้องไปให้สุดนี่ดีแล้ว แต่ดันมาซวยเสียประตูไปก่อนงานเลยงอกเท่านั้นเอง ส่วนการเปลี่ยนโอริกิแทนไอบ์ ผมว่าไอบ์ได้อยู่ในสนามนานไป ในขณะที่ผมอยากให้เฮนโด้ลงมาแทนมากกว่า แต่จนใจที่ไม่รู้ว่าเฮนโด้ตอนนี้ฟิตแค่ไหน เพราะเห็นบ่นๆ เรื่องอาการบาดเจ็บอยู่เหมือนกัน จะเปลี่ยนโอริกิลงก็พอเข้าใจได้ครับ

______ จังหวะเสียประตูแรก กราฟฟิคภาพช้าขึ้นมาเหมือนจะโทษไคลน์ที่ไม่ตามไวนัลดุมแต่จังหวะนั้นผมคิดว่าเป็นความผิดพลาดของสเคอเทลกับกลางรับมากกว่า คือกลางรับไม่ถอยลงมาช่วย ในขณะที่เห็นแล้วกลางไม่ถอยลงมา สเคอเทลดันยืนห่างและขยับเข้าหาไวนัลดุมช้าอีก แต่สำหรับจังหวะสกัดเข้าประตูตัวเองนั่นแค่ซวยครับ บอลมาแบบนั้นคนสกัดคุมบอลไม่ได้หรอก จะปล่อยไปก็ไม่ได้ด้วย

_______ แพ้เกมนี้ก็ทำให้เราเห็น...จริงๆ แล้วน่าจะบอกว่าให้คล็อปเห็น เพราะเราเห็นกันนานแล้ว...ว่าการใช้ลูคัสคู่อัลเลนตรงกลางมันมีปัญหาเสมอถ้าคู่ต่อสู้วิ่งไล่ เพราะทั้งคู่เจอไล่แล้วมีมิติเดียวคือเคาะหนี เคาะไม่ทันเจ๊ง ในเกมที่ชานไม่พร้อมลง จะใช้ลูคัสคู่อัลเลนก็ได้หรอก แต่คงต้องเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้เล่นเต็มเกมแบบนี้

_______ รวมไปถึงการใช้เบนเทเก้ที่คล็อปต้องแก้ปัญหาต่อไป จะปรับเบนเทเก้มาเล่นเกมเร็วแบบให้ค้ำสลับโหม่งชงจนหน้าต่ำอย่างเฟอมิโน่พลิกบอลไปกดดันคู่ต่อสู้เนี่ย คล็อปให้เล่นแบบนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เบนเทเก้ได้ลงสนามแล้ว ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังทำแบบที่ว่าไม่ได้สักที ส่วนการเน้นโยนจากมุมธง+เส้นหลังที่น่าจะเหมาะกับเบนเทเก้มากกว่า คล็อปก็ดูจะไม่ชอบเท่าไหร่

______ พลาดแล้วก็พลาดไปเถอะ เอาจริงๆ ผลงานถึงตอนนี้ถือว่าดีกว่าที่คิดเยอะแล้วนะสำหรับคนที่เข้ามากลางฤดูแถมไม่มีตัวใหม่
-----------------------------------------

นัดนี้โดนวิ่งไล่แล้วเล่นไม่ออก

มินโยเล่ - ส่วนตัวไม่ได้ผิดพลาดอะไร เตะเปิดเกมหนีตัววิ่งไล่ดีแล้ว เล่นง่ายขึ้นไม่ออกบอลสั้นพาเพื่อนเครียดในจังหวะกำลังโดนไล่

โมเรโน่ - โดนเจาะทั้งเกมต้นยันจบ ช่วงครึ่งแรกยังรับมือได้ดีเพราะตัวเองไม่ได้เติมขึ้นสูง เข้าครึ่งหลังตอนที่ยังโดนนำก็ยังเอาอยู่ โดนโต้ไปในพื้นที่บ้างแต่ก็ยังตามลงมาบังได้บ้าง แต่พอท้ายเกมนี่ทิ้งไปเลย จังหวะที่ปั้มบอลพลาดจนเสีย 2-0 นั่นเป็นการเล่นที่ต้องปรับปรุง...ว่าแต่ไปทำบุญมั่งก็ดีนะ สองนัดยิงสองลูกแต่ไม่ได้เครดิตสักประตู

ลอฟเรน - ฟอร์มส่วนตัวใช้ได้ ซ้อนโมเรโน่ ปิดพื้นที่มุมธงได้ดี ยิ่งถ้ามองจากการที่นิวคาสเซิลบุกขึ้นมาแทบจะฝั่งนี้ฝั่งเดียวก็ต้องบอกว่าลอฟเรนช่วยทีมเอาไว้เยอะ มีจังหวะสกัดบอลไม่ไปไหนบ้างก็ช่างเถอะ ...แต่กับจังหวะ 1-0 ที่โดนไวนัลดุมแต่งหนีไปยิงนั่นหมูไปนิ๊ด~ ตามห่างไปเยอะเลย

สเคอเทล - ประกบกองหน้าได้ดีในจังหวะบอลวางยาว เก็บกินบอลโด่งที่วางมาจากแนวลึกได้น่าพอใจ แต่อ่านเกมไม่ดี คุมพื้นที่พลาด มีหลายครั้งในวันนี้ที่นิวคาสเซิลเก็บบอลเล่นในเขตโทษได้โดยที่สเคอเทลยืนห่าง ลูกที่เสียประตูนั่นก็ใช่

ไคลน์ - ครึ่งแรกเติมน้อย ครึ่งหลังขึ้นไปเยอะขึ้นแต่ทำอะไรได้น้อยมากไม่ว่าจะกระชากไปเองหรือเล่นร่วมกับเพื่อน การเชื่อมเกมวันนี้ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ บอลไม่ค่อยไปข้างหน้า ส่วนเกมรับแทบไม่ได้เล่น บอลนิวคาสเซิลไม่ขึ้นฝั่งนี้

ลูคัส - ครึ่งชั่วโมงแรกเล่นได้ดี และจริงๆ แล้วต่อให้มองทั้งเกมลูคัสยังคงตัดบอลได้เยอะมากๆ และหยุดเกมของคู่ต่อสู้ได้ดีหลายต่อหลายครั้ง แต่หลังจากครึ่งชั่วโมงแรกแล้ว เจ้าตัวเชื่อมเกมได้แย่มาก ครั้งที่จ่ายไปเสียเห็นๆ เลยก็เยอะ ครั้งที่จ่ายไปแล้วเพื่อนได้บอลจริงแต่เสียเปรียบอีกไม่รู้เท่าไหร่

อัลเลน - คล้ายๆ ลูคัส ในเวอร์ชั่นที่เกมรับแย่กว่าอีกเพราะตัดบอลได้น้อยกว่า เชื่อมเกมได้สยองขวัญพอกัน แต่อัลเลนมีดีกว่าลูคัสนิดหน่อยในเรื่องขยับรับบอล เพื่อนให้ได้ง่ายกว่า

มิลเนอร์ - ต้องเล่นสองบทบาทและทำให้ต้องวิ่งเยอะขึ้นแบบได้ประโยชน์น้อยลง ได้โอกาสเปิดบอลน้อยเพราะกว่าจะไปถึงตำแหน่ง บอลก็ตายไปแล้ว และในเกมรับก็ไม่ได้ถอยลงมาช่วยตรงกลางมากเท่าที่ควรเพราะลงไม่ทัน จังหวะนิวคาสเซิลโต้เร็วยังไงก็ต้องปล่อยให้ลูคัสกับอัลเลนลุยถั่วกันไป ซึ่งถ้าเขายืนกลางแล้วทีมเล่นเป็นกลาง 3 เต็มตัวแต่แรก ทีมน่าจะเก็บบอลสองและหยุดเกมโต้คู่ต่อสู้ในครึ่งหลังได้ดีกว่านี้

ไอบ์ - วิ่งทำทางรับบอลได้ดีมาก พาบอลไปเองก็เลี้ยงติดเท้าและไม่โดนตัดกลับ อย่างน้อยก็จะยังได้เปิดหรือยิงในจังหวะสุดท้ายเกือบทุกครั้ง ...แต่ ...แต่ ...แต่ การตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายแย่มาก เก็บบอลไว้กับตัวนาน นานนน นานนนนนน ทุกครั้ง มีเพื่อนทำทางจนว่างแล้ว/วิ่งหลุดไปแล้วไอบ์ไม่ให้หลายครั้งมาก

เฟอมิโน่ - ยังเชื่อมเกมได้บ้างแต่อีกนิดก็เรียกว่าไร้ประโยชน์แล้ว จ่ายบอลง่ายๆ ให้เพื่อนแล้ววิ่งทำทางรอต่อบอลได้ดีหลายครั้งมากๆ ...ซึ่งเพื่อนไม่จ่ายกลับมาดีๆ เลย ไอบ์นี่ไม่ให้กลับถ้าพื้นที่ไม่หมดจริงๆ เบนเทเก้ให้ตลอดแต่ไม่เคยตรง มิลเนอร์+ลูคัส+อัลเลนให้บอลมาแต่ละครั้งเฟอมิโน่ถ้าไม่หลังหัก(เพราะตัดหลังเยอะ)ก็ขาแทบหัก(เพราะคู่ต่อสู้ยังประกบอยู่ดันจ่ายยัดมา) น่าสงสารเจ้าตัวอยู่เหมือนกันแต่ถ้าไม่มีคูตี้แล้วจะหาทางเล่นให้เป็นประโยชน์กับทีมไม่ได้เลยแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ

เบนเทเก้ - ดูไร้ประโยชน์ ดูเป็นลูกแกะหลงทาง ดูผิดที่ผิดทาง ดูเป็นกลองตะโพนชั้นดีที่ดันโผล่มาเล่นในวงร็อคที่เน้นโซโล่กีต้าร์ หลายครั้งที่เอาชนะโคลอชชินี่เก็บบอลได้เอาบอลลงได้ (โคลอชินี่นะครับ!...กองหน้านับหัวได้เลยที่เอาชนะโคลอชชินี่ได้กลางอากาศน่ะ) แต่เพื่อนกลับไม่โยนให้โหม่งทำประตู

ตัวสำรอง

ลัลลาน่า - ลงมาแล้วหาที่รับบอลเชื่อมเกมดี วันนี้มาแปลกด้วยการเปิดบอลเข้าทำได้ดีหลายครั้ง ในขณะที่บอลชิ่งหรือการวิ่งทำทางเข้าไปเล่นในพื้นที่สุดท้ายหายเรียบ

สเตอริดจ์ - รับบอลได้ เชื่อมเกมพอได้ เก็บบอลโอเค แต่ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับจังหวะสำคัญของทีม จังหวะที่ได้ยิงเข้าเท้าข้างไม่ถนัดแต่ก็น่าจะทำได้ดีกว่านั้น แต่พูดก็พูดเถอะ นี่คือฟอร์มที่ดูปกติมากๆ สำหรับคนร้างสนามไปนานและยังไม่ฟิตสมบูรณ์ นัดก่อนนั่นแหล่ะที่ดีเว่อร์ไป

โอริกิ - โอริกิคนเดิมกลับมาแบ้ว~

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...อดัม ลัลลาน่า…เลือกยากโคตรๆ ครับนัดนี้เล่นกันไม่ค่อยออก ขอเลือกลัลลาน่าเพราะสร้างสรรเกมได้เยอะกว่าเพื่อนก็แล้วกัน
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น