วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 2-1 แมนฯซิตี้(พรีเมียร์ลีค)


...ตกรอบยูโรป้าไม่เสียเที่ยว...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

-------------------------สเตอลิ่ง-----------------------
--------------คูตินโย่-------------ลัลลาน่า------------
โมเรโน่-------อัลเลน-------เฮนเดอร์สัน----มาโควิช
-------ลอฟเรน-------สเคอเทล------------ชาน-------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเจอกับเกมใหญ่กับซิตี้แต่ยังดีที่ได้เล่นในแอนฟิลด์ นัดนี้คูตินโย่กับเฮนเดอร์สันที่ได้พักในเกมยูโรป้าได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ชานก็ได้กลับไปที่(ผจก.)ชอบอีกครั้ง ด้านหน้าร็อดเจอร์เลือกใช้สเตอลิ่งก่อน ส่วนกองหน้าของทีมเอาไปจับดองใส่ม้านั่งสำรองกันเป็นตับครบทั้ง 4 คน
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาก็กลายเป็นเกมของซิตี้ทันที เปิดเกมรุกเข้าใส่ พาบอลมาได้ถึงหน้าเขตโทษตลอด จังหวะเสียบอลในเกมรุกก็กรูกันเข้ามาไล่ปิดทางได้เร็วจนลิเวอร์พูลโต้ไม่ได้ ส่วนทางลิเวอร์พูลเองก็เน้นรับต่ำ เกมรุกพยายามจะขึ้นทางซ้ายก็ยังทำไม่ค่อยได้ โต้เร็วก็ไม่มีช่อง ครองบอลไม่อยู่ตั้งเกมไม่ได้ อาศัยเล่นจังหวะฉาบฉวยเอา

________ ซิตี้ครองบอลและทำเกมรุกได้ดีและต่อเนื่องกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่แนวรับของพวกเขาเล่นกันผิดพลาดหลายครั้งโดนเฉพาะกับการผ่านบอลขึ้นหน้าที่ไม่ค่อยระวัง สุดท้ายก็พลาดจนถึงขั้นเสียประตู นาที 11 คูตินโย่วิ่งเข้าไปเร่งได้ถึงตัวคอมพานีก่อนบล็อคบอลเอามาได้ ผ่านไปให้สเตอลิ่ง สเตอลิ่งจ่ายออกทางซ้ายให้เฮนเดอร์สันแต่งบอลหาที่ว่างก่อนยิงไกลหน้าเขตโทษหนีมือฮาร์ทม้วนใส่สามเหลี่ยมเสาไกลเข้าไปได้สวยงาม 1-0

_______ หลังได้ประตูขึ้นนำลิเวอร์พูลเล่นกันได้อย่างมั่นใจขึ้น จังหวะออกบอลหนีตัววิ่งไล่ทำได้เนียนตากว่าช่วง 10 นาทีแรกที่ออกแนวตาหูเหลือกรีบเตะไปไกลๆ ตัว รวมไปถึงเกมฉาบฉวยยังทำกันได้น่าพอใจ แต่เกมโดยรวมยังคงเป็นของซิตี้อยู่ดี เกมรุกฝั่งขวาของพวกเขาบุกเจาะได้ต่อเนื่อง ซึ่งเจาะได้มาตั้งแต่ต้นเกม ช่องระหว่างลอฟเรน-โมเรโน่, ลอฟเรน-สเคอเทลปิดกันได้ไม่ดีพอ

_______ ในที่สุดซิตี้ก็เจาะพื้นที่นั้นได้สำเร็จ นาที 26 กุนได้บอลแถวมุมเขตโทษแล้วลากตัดเข้ากลาง แนวรับลิเวอร์พูลพะวงกับตัววิ่งทำทาง ทั้งทางมุมธงและทางเสาสอง ทำให้กุนลากไปถึงกลางประตูก่อนจะจ่ายหักข้อให้เซโก้ในเขตโทษ แนวรับสลับตำแหน่งกันไม่ดีไม่มีใครตามเซโก้ไป ทำให้เซโก้ได้พลิกยิงโล่งๆ ไม่มีคนประกบ ในตำแหน่งกลางประตูระยะขนไหม้ ซึ่งก็ไม่พลาด 1-1

_______ สกอร์กลับมาเสมอแล้วแต่รูปเกมไม่มีอะไรเปลี่ยนมากนัก ซิตี้ยังดูดีกว่า ลิเวอร์พูลยังได้ลุ้นบ้างจากบอลฉาบฉวย ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนไปก็คงเป็นการขึ้นเกมของลิเวอร์พูลที่ย้ายไปขึ้นทางฝั่งขวาบ่อยขึ้น ลัลลาน่าเริ่มหาที่ว่างเล่นได้และมาโควิชเติมขึ้นมาถึงสุดเส้นได้บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็ยังทำได้ไม่ดีพอจะเป็นประตูทั้งคู่ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-1

_______ เข้าครึ่งหลัง ซิตี้ลงมาเร่งเกมรุกได้น่ากลัวอยู่ราวๆ 5 นาที แต่หลังจากนั้นกลายเป็นผ่อนเกม - เล่นไม่ออก - หมดมุขกันไปเอง ส่วนทางลิเวอร์พูลโดนกดดันหนักมากแปบเดียวก็กลายเป็นว่าหลังนาที 50 ไปแล้วรูปเกมของพวกเขาดีขึ้น ครองบอลได้นานกว่าครึ่งแรก กล้าเติมขึ้นไปเล่นเกมรุกกันมากขึ้นด้วย กว่าจะถึงนาที 60 ก็กลายเป็นลิเวอร์พูลที่พลิกกลับมาทำได้ดีกว่าแล้ว

_______ ช่วง 60-75 เป็นช่วงที่ลิเวอร์พูลเล่นได้ดีที่สุดในเกมนี้ ตัดบอลกลางสนามได้บ่อย เกมรับที่เคยเปิดช่องไว้ที่ฝั่งซ้ายกับหน้าเขตโทษก็ปิดกันได้ดีขึ้น บอลยาวก็เก็บกินได้กุนได้เล่นบอลน้อย เกมรุกทั้งสองฝั่งก็ขึ้นได้หมด ได้เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษบ่อยมากแม้จะติดเป็นส่วนใหญ่แต่ก็ยังดีกว่าโดนตัดกลับไปก่อนจะได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน รวมไปถึงหาโอกาสได้ลุ้นประตูอยู่เป็นระยะด้วย

_______ นาที 75 คูตินโย่เลียนแบบประตูแรกที่เฮนเดอร์สันยิงได้แทบจะเหมือนเป๊ะ ได้บอลแถวมุมเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะแตะตัดเข้ากลางวางเท้ายิงไกลจากหน้าเขตโทษ บอลหนีมือฮาร์ทเสียบโคนเสาสองเข้าไปให้ทีมพลิกขึ้นนำ 2-1

_______ สกอร์ขยับปุ๊บสเตอริดจ์ถูกส่งลงมาแทนมาโควิชทันที ไม่แน่ใจว่าเพราะตั้งใจจะเปลี่ยนอยู่แล้วหรือปล่าว แต่เอาเป็นว่าสเตอริดจ์ลงมายืนหน้าเป้า สเตอลิ่งถอยไปเล่นแทนลัลลาน่า ส่วนลัลลาน่าถอยไปเล่นวิงขวา ลิเวอร์พูลเปลี่ยนมาเน้นเล่นรับ - โต้เต็มตัว ไม่ค่อยขยับขึ้นไปเล่นเกมรุกเยอะเหมือนช่วงก่อนหน้าแล้ว

_______ ทางซิตี้ส่งโบนี่ลงมาช่วยเกมรับของลิเวอร์พูลในนาที 78 ซิตี้ดันเกมรุกสูง แบ็คลอยกระฉูด ยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้มากนักแต่เกมริมเส้นฝั่งขวา(ฝั่งลอฟเรน)เริ่มมาถึงเขตโทษได้ต่อเนื่องเหมือนที่เคยทำได้ในครึ่งแรกแล้ว ส่วนลิเวอร์พูลยังโต้ได้ถึงเขตโทษอยู่ตลอด

_______ นาที 82 ตูเร่ได้ลงแทนโมเรโน่(เดาว่าเจ็บ) ลัลลาน่าโดนขยับเปลี่ยนไปเล่นวิงซ้าย ชานขยับไปเล่นวิงขวา ตูเร่ยืนเซ็นเตอร์ฝั่งขวา ประมาณ 10 นาทีสุดท้ายของเกมนี้ลิเวอร์พูลยังคงโต้ได้ดี หาโอกาสยิงได้บ้างแต่ไม่ดีพอจะเป็นประตู ส่วนเกมรับทำได้ดีตั้งแต่แดนหน้าที่วิ่งไล่กันอยู่ตลอดจนซิตี้เองขึ้นบอลพลาด - ช้าหลายจังหวะ ส่วนทางซิตี้อาศัยจังหวะแนวรับลิเวอร์พูลพลาดเล็กๆ น้อยๆ หาโอกาสยิงได้บ้าง แต่การเจาะเข้าไปในเขตโทษทำได้น้อยมากและพื้นที่หน้าเขตโทษที่เคยเล่นงานได้เยอะในครึ่งแรกก็ไม่มีพื้นที่ให้เล่นแล้ว สุดท้ายก็ไล่ตีเสมอไม่สำเร็จ ลิเวอร์พูลเอาเฉือนชนะไปได้ 2-1
-----------------------------------------

_______ ครึ่งหลังเล่นดีกว่ามาก ไม่มีอาการยุบแย๊บอะไรให้เห็น กลายเป็นซิตี้ที่พักมากกว่าดูจะวิ่งได้น้อยกว่าอีก

_______ มองทางซิตี้ก่อน แทคติคพวกเขาอาจจะเน้นรุกมากไปหน่อยในช่วงที่ยังเสมอ 0-0 หรือ 1-1 แผงหลัง-กลางยืนสูงจนเปิดพื้นที่ให้เล่นเยอะไป ดันกันขึ้นมาซะจนนึกว่าพวกพี่แกเตะอยู่กับเบิร์นลี่ย์ แต่โดยรวมๆ แล้วผู้เล่นพวกเขาเล่นผิดฟอร์มไปมากหลายคน นาสรี่หายจากเกมไปเลย เฟอร์นันโด, ยาย่า ตูเร่ วิ่งตามแดนกลางลิเวอร์พูลไม่ค่อยทันซะงั้น และแนวหลังทั้งแผงจ่ายบอลขึ้นหน้าได้อร่อย(ฝั่งตรงข้าม)มาก ส่วนนึงมาจากลิเวอร์พูลวิ่งไล่ได้ดีก็ใช่ครับ แต่พวกเขาเองก็เคยเล่นกันดีกว่านี้เยอะ

_______ ไม่นับเรื่องฟอร์มก็เห็นจะเป็นการเปลี่ยนเซโก้ออกเพราะเจ้าตัวค้ำแนวรับได้ดีกว่าช่วงที่กุนยืนข้างหน้าคนเดียวเยอะ และทำได้ดีกว่าโบนี่ที่ลงตามหลังจากนั้นไม่นานแบบไม่ต้องเทียบกันให้เสียเวลา ถ้าเซโก้ได้อยู่ในสนามนานกว่านี้แนวรับลิเวอร์พูลคงได้เหนื่อยกันอีกหลายตลบกว่าจะจบเกม

_______ ทางด้านลิเวอร์พูล 11 ตัวจริงผมแปลกใจเล็กน้อยที่ไม่เห็นสเตอริดจ์เพราะกะว่าร็อดเจอร์ใช้แน่ รวมไปถึงตำแหน่งวิงขวาที่นึกว่าจะได้เห็นมานกีโย่หรือไอบ์ได้ลงแต่สุดท้ายกลายเป็นมาโควิช แต่ที่ทำให้ตกใจจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่ตัวจริงแต่อยู่ที่ตัวสำรองครับ

_______ กองหน้า 4 ตัวเรียงหน้ากันสลอนเลย เหลือที่อีก 2 ให้กับตูเร่,วิลเลี่ยมเท่านั้นเอง

_______ เอิ่ม จะเจ็บเยอะพักแยะก็เรื่องนึงครับ แต่จะใส่ชื่อคนที่ไม่ใช้แน่ๆ มาทำไม กองหน้า 4 คนไม่มีทางได้ใช้ครบแน่ๆ เอาโควต้าไปใส่แบ็คหรือกองกลางเพิ่ม - ต่อให้ต้องใช้เด็กเยาวชน - จะไม่ดีกว่าหรือ

_______ แต่สำหรับแทคติคเริ่มเกมผมเห็นด้วยกับร็อดเจอร์มากๆ กับการเล่นรับต่ำเน้นชัวร์ไว้ก่อน คือเปิดหน้าแลกกันมีแต่ตายกับตายครับ ตัวรุกจบกสอร์ได้ผิดกันเยอะ ดังนั้นการเน้นให้ไม่โดนไว้ก่อนดีกว่า จะรุกไม่ได้ โต้ไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ

_______ ส่วนประตูที่ได้และรูปเกมที่ไม่ได้เป็นรองมากนัก(ในครึ่งแรก) ผมว่าฟอร์มส่วนตัวของผู้เล่นสองฝั่งมีผลมากกว่าเรื่องแทคติค แผงหลังซิตี้่เล่นแบบไม่ค่อยมีสมาธิไปหลายจังหวะโดยเฉพาะการออกบอลขึ้นมาหน้า ไม่ใช่แค่ลูกที่เสียประตูเท่านั้น ยังมีอีกหลายครั้งที่จ่ายขึ้นหน้ามาโดนตัดง่ายๆ, จ่ายยัดใส่ตัวที่ยังโดนประกบติดอยู่ ทำให้เกมของลิเวอร์พูลที่จริงๆ ตั้งเกมไม่ค่อยได้ กลายเป็นมีโอกาสได้ทำเกมรุกกดดันเข้าใส่หลายครั้ง หรือถ้ามองทางฝั่งลิเวอร์พูลก็เป็นวันที่ตัวรุกและกองกลางวิ่งไล่ - ทำทางกันได้ดีตลอด ถ้าเป็นวันที่วิ่งไม่ได้ขนาดนี้ ครึ่งแรกน่าจะแบนแต๊ดแต๋คาเขตโทษตัวเองยิ่งกว่านี้ครับเพราะแทคติค(ของทั้งสองทีม)มันมาแบบนั้น

_______ และอย่างที่เราเห็นกันมาหลายครั้ง วันที่ลิเวอร์พูลวิ่งได้ - อย่างเช่นวันนี้ - ลิเวอร์พูลทำเกมได้ดีกว่าคู่ต่อสู้ทั้งเกมรุกเกมรับ วันนี้ครึ่งหลังที่ซิตี้เริ่มวิ่งน้อยลง ในขณะที่ลิเวอร์พูลไม่ได้วิ่งน้อยลงเลยยิ่งทำให้เกมเป็นของลิเวอร์พูลมากขึ้นๆ

_______ สิ่งเดียวที่ทำให้ซิตี้มีลุ้นยันท้ายเกมคือความเฉียบคมในการจบสกอร์ ทั้งในมุมว่าซิตี้จบได้ดี ใช้โอกาสไม่เปลือง แม้แต่ครั้งที่ยิงหลุดกรอบก็ต้องบอกว่าหลุดชนิดกระชากใจกองเชียร์ทั้งสองทีมตามไปด้วยแทบจะทุกครั้ง ทำให้กดดันได้ตลอด ส่วนลิเวอร์พูลก็ใช้โอกาสได้สิ้นเปลืองมาก ถ้าจบดีกว่านี้ ซิตี้ก็สิ้นใจไปนานแล้วตั้งแต่ท้ายครึ่งแรกต้นครึ่งหลังนั่นล่ะ

_______ นัดนี้ร็อดเจอร์ได้รับดอกผลที่ตัวเองหว่านไว้ในนัดกลางสัปดาห์ คนที่พักไว้อย่างคูตี้+เฮนโด้วิ่งได้คลั่งมากทั้งเกม ทำได้คนละประตูด้วย รวมไปถึงลัลลาน่าที่วันนี้มีส่วนร่วมกับเกมเยอะนัดก่อนก็เล่นแค่ 30 นาที ทั้ง 3 คนนี้มีส่วนเป็นอย่างมากกับเกม ทั้งกับรูปเกม ทั้งกับผลลัพธ์

_______ ตกรอบยูโรป้ามาคราวนี้คุ้มจริงๆ นอกจากจะลดจำนวนเกมแล้วยังได้แต้มเพิ่มด้วย ถ้า 3 คนที่ว่ามาวิ่งไม่ได้ขนาดนี้ดูแล้วได้ถึง 3 แต้มลำบากครับ ดีไม่ดีจะไม่ได้สักแต้มด้วยซ้ำ
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดีทุกคน ดีมากดีน้อยก็ว่ากันไป

มินโยเล่ - ช่วง 30 นาทีแรกของเกม ตำแหน่งยืนไม่ค่อยดี ออกมาแบบกล้าๆ กลัวๆ 2-3 ครั้งเกือบทำเสียประตูด้วย แต่หลังจากนั้นก็เล่นได้มั่นใจขึ้น ตัดสินใจเด็ดขาดขึ้น และทำได้ดีกับการปิด-เช็คมุม

ลอฟเรน - โดนกดดันเยอะที่สุดในแนวรับเพราะซิตี้ดื้อด้านเจาะมันแต่ตรงนี้ ฟอร์มส่วนตัวถือว่าดีขึ้นกว่าช่วงออกทะเลเยอะมาก ต้นเกมมีอ่านเกมผิดนิดๆ หน่อยๆ แต่ยิ่งเล่นยิ่งดีขึ้น และทั้งเกมเข้าสกัดบอลได้เด็ดขาดดี การออกบอลขึ้นหน้าวันนี้พลาดเยอะไปหน่อยแต่ดีว่าไม่ถูกแซะ

สเคอเทล - ยังคงเล่นได้ดีกับการเป็นตัวสุดท้าย ตัดบอลเปิดเข้ากลางได้ดีตลอด เข้าไปซ้อน-ขวางทางยิงช้าไปหน่อย

ชาน - รักษาพื้นที่ได้ดี คู่ต่อสู้ไม่ค่อยเจาะฝั่งนี้แต่จังหวะขึ้นมาบ้างชานก็บังทางไป บังเหลี่ยมเปิดได้ตลอด รวมไปถึงจังหวะเก็บบอลเล่นและผ่านบอลขึ้นหน้าวันนี้ชานทำได้ดีกว่าแนวรับคนอื่น

โมเรโน่ - วิ่งไล่ถึงบอลได้เร็วดี เล่นเกมรับมุมธงพอใช้ได้ ตัวต่อตัวชะลอได้ ปิดทางไปต่อได้ แต่พอเจอตัวซ้อนขยับตามช้าไปนิด เชื่อมเกมใช้ได้โดยเฉพาะการขยับหาที่รับบอล

มาโควิช  - วิ่งไล่บอลได้โอเค ไม่เร็วและดุเดือดเท่าโมเรโน่แต่ก็วิ่งตลอด ช่วยคุมพื้นที่ได้ดีและขยับเติมขึ้นไปช่วยรับบอลเชื่อมเกมเล่นเกมรุกพอใช้ได้ ไม่ทะลุทะลวงเท่าไหร่แต่ขึ้นไปได้สูงกว่า - ดีกว่าโมเรโน่

อัลเลน - 30 นาทีแรกถอยต่ำมากไปนิด เปิดพื้นที่หน้าเขตโทษไว้ให้คู่ต่อสู้เล่นเยอะไป แต่หลังจากนั้นดูดีขึ้นในเรื่องนี้ ขยับเข้าหาบอลมากขึ้น เร่งให้คู่ต่อสู้ต้องออกบอล วันนี้เชื่อมเกมได้ดี มีพลาดพอสมควรแต่ที่เรียกว่าดีเพราะมีบอลเกมรุกให้เห็นเป็นระยะด้วย ไม่ใช่พินบอลอยู่ในแดนตัวเองอย่างเดียว

เฮนเดอร์สัน - วิ่งพล่านได้ทั่วสนามดี ขึ้นเร็วลงเร็วขึ้นสุดลงสุดด้วย เชื่อมเกมด้วยการวิ่งทำทางรับบอลได้ดี สำหรับประตูแรกอาจจะเป็นการยิงที่สวยมากก็จริงอยู่ แต่การวิ่งเติมขึ้นไปรับบอลได้ถึงตรงนั้นแสดงให้เห็นถึงความฟิตและความมุ่งมั่นเต็มพิกัด ซึ่งเขาทำให้เห็นตลอดทั้งเกม เดี๋ยวๆ ไปไล่คอมพานี เห็นอีกทีมาวิ่งไล่กุนเฉยเลย

คูตินโย่ - ช่วยได้มากทั้งเกมรุกเกมรับ วิ่งไล่บอลได้ดีไม่พรวดไม่เสียฟาล์วบีบให้คู่ต่อสู้เล่นยาก พลิกบอลขึ้นหน้าได้ดีกว่าคนอื่น มีจังหวะออกบอลยากๆ … ยากไป จนเสียบอลหลายครั้งอยู่ แต่ในพื้นที่หน้าเขตโทษคู่ต่อสู้เขาออกบอลให้เพื่อนได้ดีกว่าตัวรุกคนอื่นเยอะเลย ยิงประตูสำคัญ(อีกแล้ว)ด้วย

ลัลลาน่า - เป็นนัดที่เล่นได้ดีมากของเจ้าตัว เรื่องวิ่งไล่/ทำทางไม่ด้อยกว่าคูตินโย่ หาพื้นที่เล่นได้ตลอด ทั้งเชื่อมเกม ทั้งวิ่งทะลุเข้าไปในเขตโทษ ยิงได้ 2 ครั้งด้วยซ้ำแต่ดันโดนจับก่อนล้ำหน้าทั้งสองครั้ง โดนร็อดเจอร์พาทัวร์จากตัวรุกมาวิงขวาไปวิงซ้ายก็ไม่ทำให้ผลงานดรอปลง วิ่งไล่/วิ่งทำทางตามตำแหน่งได้ดีต่อเนื่องจนจบเกม

สเตอลิ่ง - เก็บบอลได้ไม่มากนัก ทำได้ดีพอควรกับการเรียกฟาล์วจากคู่ต่อสู้ ทำได้ดีกับการวิ่งทำทางให้เพื่อนจ่ายได้ / จ่ายง่ายขึ้น ขยันวิ่งไล่ดีแต่ก็ไม่ค่อยถึงบอลเท่าไหร่ จังหวะจบสกอร์ก็...เหมือนเดิม

ตัวสำรอง

สเตอริดจ์ - วิ่งทำทางและหาพื้นที่เล่นในเขตโทษได้พอใช้ แต่จังหวะการเล่นไม่ว่าจะกระชาก, ผ่านบอลหรือยิง ยังขาดๆ เกินๆ อยู่

ตูเร่ - ไม่โดนกดดันเท่าไหร่ ไม่มีข้อผิดพลาด

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...จอลิเป้ อดัม เฮนลาโย่…ใครใคร่เลือกก็เลือกเอาสักคนจาก 1 ใน 3 นั้นเถอะครับ ผมเลือกไม่ถูกจริงๆ นัดนี้
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น