วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 2-0 เบิร์นลี่ย์ (พรีเมียร์ลีค)


...ปลอกแขนกัปตันทีมช่วยเสริมพลังสินะ...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอริดจ์-----------------------
--------------คูตินโย่-------------ลัลลาน่า------------
โมเรโน่-------อัลเลน-------เฮนเดอร์สัน----สเตอลิ่ง
-------ลอฟเรน-------สเคอเทล------------ชาน-------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลได้เล่นในบ้านต่ออีกนัด คราวนี้รับมือทีมหนีตกชั้นอย่างเบิร์นลี่ย์ 11 ตัวจริงมีเปลี่ยนแค่คนเดียวคือสเตอริดจ์แทนมาโควิช แต่คนเล่นวิงขวากลายเป็นสเตอลิ่งไป นอกนั้นก็ยืนกันตามตำแหน่งเดิม
-------------------------------------------------------

_______ 10 นาทีแรกของเกมลิเวอร์พูลบี้เบิร์นลี่ย์ซะไส้แทบทะลัก วิงเติมสูงทั้งสองข้าง เกมริมเส้นขึ้นได้หมด กองกลางพลิกบอลผ่านบอลขึ้นหน้าได้อย่างกับไม่มีคนพยายามขวาง เปิดบอลเข้าทำได้ ได้ลุ้นประตูบ้าง แต่ยังทำประตูไม่สำเร็จ

________ ผ่าน 10 นาทีแรกไป เบิร์นลี่ย์เริ่มหายมึนตั้งสติได้บ้าง หันมาไล่สูงมากขึ้นและทำได้ดีต่อเนื่อง ทำให้ลิเวอร์พูลเริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ยากขึ้นกว่าเดิมมาก ส่วนในเกมรุกเบิร์นลี่ย์เน้นการโยนจากริมเส้นเข้ามา กดดันได้พอควร รวมไปถึงหาจังหวะยิงไกลหน้าเขตโทษได้บ้าง

_______ อย่างไรก็ตาม แม้เบิร์นลี่ย์จะขยับเกมของตัวเองขึ้นมาได้ดีกว่าในช่วง 10 นาทีแรก เกมโดยรวมก็ยังเป็นลิเวอร์พูลที่ดูดีกว่าอยู่ดี โดนไล่จนขึ้นบอลช้าไปบ้างแต่ก็ขึ้นไปถึงเขตโทษคคู่ต่อสู้ได้อยู่ และจังหวะที่ทำเร็วได้เบิร์นลี่ย์ก็เปิดพื้นที่ในแดนตัวเองไว้ให้เล่นเพียบเพราะใช้คนขึ้นมาไล่ข้างหน้าเยอะ

_______ ในที่สุดลิเวอร์พูลก็ทำได้สำเร็จ นาที 29 คูตินโย่ผ่านบอลฝาไปให้ลัลลาน่าก่อนคืนกลับไปให้คูตินโย่แถวมุมเขตโทษฝั่งซ้าย คูตินโย่ลากตัดเข้ามายิงตรงกลางประตูติดบล็อค บอลเด้งมาเข้าทางเฮนเดอร์สันที่เติมขึ้นวอลเล่ย์สวนตูมเดียวจากหน้าเขตโทษตรงกลาง บอลไซร้เสียบโคนเสาสองเข้าไปได้อย่างสะใจทั้งคนยิงคนเชียร์ 1-0

_______ ตกเป็นฝ่ายตามหลังแล้วแต่เบิร์นลี่ย์ยังวิ่งไล่ต่อได้ดี เพียงแต่ยังตัดบอลกลับมาได้ไม่เร็วและไม่มากนักเพราะลิเวอร์พูลผ่านบอลหนีตัวไล่กันได้ดีกว่า กล้าเคาะบอลแดนหลังมากกว่าช่วงก่อนได้ประตูด้วย ส่วนเกมรุกของลิเวอร์พูลเองก็ยังทำได้ดีต่อเนื่อง ไม่ได้ถอยไปรับ ทั้งเกมริมเส้นทั้งบอลยาวแนวลึกทำได้หมด หาจังหวะยิงได้พอควรแต่ทำประตูเพิ่มไม่ได้สักที

_______ ช่วงท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเริ่มผ่อนเกมรุกลงไปบ้างแต่เบิร์นลี่ย์ก็เร่งเกมของตัวเองไม่ขึ้น จบครึ่งแรกที่สกอร์ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง เบิร์นลี่ย์ไล่สูงหนักยิ่งกว่าครึ่งแรกอีก เร่งเกมรุกได้ดีพอควรและได้เปิดบอลเข้าไปกดดันในเขตโทษบ้าง แต่ลิเวอร์พูลก็ยังปิดพื้นที่เขตโทษของตัวเองได้ดี รวมไปถึงยังเก็บบอลเล่นได้เหมือนเดิม

_______ เท่านั้นยังไม่พอ ลิเวอร์พูลมาได้ประตูหนีห่างอย่างรวดเร็ว นาที 51 ลัลลาน่าได้บอลแถวมุมเขตโทษฝั่งขวา ม้วนรอคนเติมอยู่อึดใจก่อนจะมีเฮนเดอร์สันวิ่งมารับบอล เฮนเดอร์สันได้บอลแล้วเงยหน้ามองก่อนตักบอลเข้าเขตโทษให้สเตอริดจ์ได้โหม่งเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกเข้าไปได้ 2-0 (หลังจากครึ่งแรกโอกาสเพียบแต่ทำไม่สำเร็จ)

_______ หลังสกอร์ขยับอีกครั้ง ลิเวอร์พูลรับมากขึ้นนิดหน่อยแต่ไม่ได้ถอยมารับลึก อาศัยวิ่งไล่บอลแดนกลางเป็นหลัก ส่วนเบิร์นลี่ย์เปลี่ยนตัววอลเลซลงมาแทนไคลี่ย์ทันที เร่งเกมรุกต่อแต่ผลลัพธ์ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ คือเกมรุกไม่ต่อเนื่อง เกมริมเส้นเปิดได้บ้างแต่ไปไม่สุดเส้น และไม่ได้จบสกอร์จะๆ เลย

_______ ลิเวอร์พูลไม่ได้เร่งอะไรมาก แค่โจมตีพื้นที่ที่เบิร์นลี่ย์เปิดไว้ก็เหลือแหล่ ยิ่งเล่นเกมฝั่งขวาก็ยิ่งลื่น บอลไปถึงเขตโทษได้เร็วและต่อเนื่อง โอกาสยิงก็มีมาเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่จะแจ้งนัก มุมแคบบ้าง โดนเร่งบ้าง ยังทำประตูที่สามไม่สำเร็จ

_______ นาที 72 การเดินทางของสเตอลิ่งก็เริ่มต้นขึ้น ตูเร่ได้ลงมาแทนโมเรโน่ โดยเอาตูเร่เล่นเซ็นเตอร์ขวา ชานขยับไปเล่นวิงขวา สเตอลิ่งถูกโยกไปเล่นวิงซ้าย แล้วกลายเป็นว่าเกมรุกของทีมก็ยังคงขึ้นทางขวาได้ดีต่อเนื่อง ชานทำได้ดีกว่าสเตอลิ่งช่วงก่อนหน้าเสียอีก

_______ ทางด้านเบิร์นลี่ย์ยิ่งเล่นยิ่งฝ่อ เกมรุกไม่คืบ ครองบอลก็ไม่ต่อเนื่อง การวิ่งไล่ในแดนหน้ากดดันได้มากกว่าเกมรุกเสียอีก ได้ลุ้นแบบลมๆ แล้งๆ บ้างในจังหวะเตะมุมแต่ก็ไม่ได้มีอะไร

_______ นาที 83 จอห์นสันได้ลงแทนสเตอริดจ์อีกคน และแน่นอนว่าสเตอลิ่งก็โดนโยกอีกครั้ง ขึ้นไปเป็นหน้าเป้า จอห์นสันยืนวิงซ้าย ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลก็เล่นไปตามจังหวะเฉยๆ ไม่ได้เร่งไม่ได้อุด แต่โดยรวมแล้วก็ยังมีโอกาสยิงมากกว่าเบิร์นลี่ย์อยู่ดี ส่วนทางเบิร์นลี่ย์เริ่มเล่นสไตล์ “กรูอยากกลับบ้าน” แล้ว

_______ นาที 90 สเตอลิ่งชีพจรลงเท้าอีกครั้ง แต่คราวนี้สบายหน่อยตรงที่ถูกเปลี่ยนตัวออกเลย แลมเบิร์ตได้ลงมาทำไมตอนนี้ เจ้าตัวคงอยากถาม ก่อนจะจบเกมที่สกอร์ 2-0
-----------------------------------------

_______ ครึ่งแรกโอกาสยิงเพียบครับ แต่ผมชอบครึ่งหลังที่คุมเกมได้มากกว่า

_______ นัดนี้เบิร์นลี่ย์...ซวยครัช ดันมาเจอลิเวอร์พูล+ที่แอนฟิลด์+มีแรงวิ่ง+มีกำลังใจ แพ้ 2-0 นี่ถือว่าโชคดีมากแล้วด้วยซ้ำ แทคติคพวกเขาก็ทำได้ดีที่สุดเท่านี้ จะบอกว่าพวกเขาไล่บนมากไปจนกลางโล่งก็ไม่ใช่ เพราะ 10 นาทีแรกของเกมแสดงให้เห็นแล้วว่า ถ้าถอยไปรับในแดนหรือรับต่ำไม่ไล่บนได้กลายเป็นโจ๊กคนอร์อิ่มอร่อยรับอรุณตอนจบเกมแน่ จะบอกว่าพวกเขาเล่นเกมรุกซ้ำซากก็ถูกครึ่งเดียว ก็ตัวมันมีแบบนี้นี่หว่า คือมีตัวเปิดบอลริมเส้น กับตัวชาร์จบอลดี จะให้เล่นบอลสั้นเจาะกลางเหรอ สุดท้ายก็เลยเป็นอย่างที่เห็นทั้งรูปเกม ทั้งผลลัพธ์

_______ ทางด้านลิเวอร์พูล 11 ตัวจริงดีสุดเท่าที่จัดได้ เห็นว่าซาโก้กับไอบ์ยังเจ็บอยู่ ส่วนในรายมานกีโย่ใครเห็นข่าวช่วยบอกด้วยครับ สำหรับตัวจริงนั้นตอนเห็นรายชื่อผมยังคิดว่าลัลลาน่าจะเล่นวิงขวาแต่กลายเป็นสเตอลิ่งก็แปลกใจนิดหน่อย ไม่คิดว่าร็อดเจอร์จะถอยสเตอลิ่งห่างจากประตูแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ ฟอร์มลัลลาน่าในตำแหน่งตัวรุกกำลังดี แค่แปลกใจแต่ไม่รู้สึกว่าร็อดเจอร์พลาดอะไรกับการจัดตำแหน่งแบบนี้

_______ สำหรับแทคติคเริ่มเกม มันไม่มีทางอื่นให้เลือกอยู่แล้วครับกับการเล่นในบ้านเจอทีมหนีตกชั้น จะยังไงก็ต้องลุยใส่ล่ะ ร็อดเจอร์ก็จัดให้ตามนั้นคือวิงนี่ลอยสูงกระพือกันพั่บๆๆ ทั้งสองฝั่ง นัดนี้เป็นนัดที่เกมรุกริมเส้นทำผลงานได้ดีมากครับโดยเฉพาะเกมฝั่งขวา

_______ อย่างไรก็ตาม ถ้าดูเฉพาะเกมรุกล้วนๆ ร็อดเจอร์ไม่ได้ทำอะไรมากครับ ที่ทำคือผู้เล่นมากกว่าที่ฟอร์มกระฉูดไปตามๆ กัน คูตินโย่ เฮนเดอร์สัน ลัลลาน่า ฟอร์มไม่ตกลงจากนัดก่อนเลย ในขณะที่สเตอริดจ์จังหวะการเล่นดีขึ้นเยอะมาก(ยกเว้นตอนยิง) ส่วนอัลเลนก็มีบอลเกมรุกที่ดีเพิ่มมากกว่านัดก่อนอีก

_______ ผลคือได้ล่อเป้ารัวๆ ร่วม 20 ครั้งเห็นจะได้ ถ้าสเตอริดจ์สนิมไม่กินและจบคมกว่านี้มีสี่ส๊าห้าศูนย์โน่นล่ะ

_______ ที่ผมให้เครดิตร็อดเจอร์มากกว่าคือเกมรับ ผมคิดว่าวันนี้ทีมเล่นเกมรับได้ดีมาก แน่นอนว่าความขยันวิ่งไล่ และวิ่งกันได้เป็นทีมก็ช่วยเอาไว้เยอะล่ะ แต่ที่ว่าร็อดเจอร์ทำได้ดีคือแกไม่เอาวิงลงมาเล่นรับมุมธงสักเท่าไหร่แต่เอาไปวิ่งไล่ในแดนกลางมากกว่า ถ่างเอาเซ็นเตอร์ตัวริมไปจับตัวริมเส้นแทน ด้วยความที่ตัวริมเส้นเบิร์นลี่ย์ไม่ได้เร็วหรือคล่องมากนัก(ไม่ช้าครับ แต่ไม่ใช่ระดับนาบาสหรือซานเชสแน่) รวมไปถึงตัวเติมก็ไม่ค่อยขึ้น/ขึ้นมาช้า จึงทำให้เห็นภาพตัวริมเส้นเบิร์นลี่ย์ได้บอลปุ๊บโดนแซะปั๊บ เล่นต่อไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง นัดนี้เบิร์นลี่ย์ไม่ได้เปิดบอลจากตำแหน่งที่ดีเลย ไปไม่ถึงมุมธง และแทบไม่ได้เปิดจากสุดเส้นหลัง

_______ เกมรุกเบิร์นลี่ย์ทีเด็ดอยู่ที่ลูกเปิดจากด้านข้าง เปิดไม่ได้ก็ไม่เหลืออะไรมาบุกแล้วครับ ซึ่งเรื่องนี้ผมว่าร็อดเจอร์เตรียมทีมมารับมือได้ดีมากทีเดียว

_______ อย่างไรก็ตาม ผมไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนตัวแบบพาลูกทีมออกธุดงค์ทั่วสนามของร็อดเจอร์เลย คือหลายนัดแกก็เปลี่ยนแบบนี้ล่ะ ไม่ใชเรื่องแปลกตา แต่ยังไง๊ยังไงก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี กับการเปลี่ยนตูเร่แทนโมเรโน่ ถ้าโมเรโน่ไม่เจ็บนี่ไม่รู้จะเปลี่ยนทำไมเพราะทำให้ต้องเปลี่ยนตำแหน่งผู้เล่นในสนามรวดเดียว 3 คน

_______ ในรายโมเรโน่นี่ขอตั้งขอสังเกตนิดนึงครับ คือโมเรโน่ไม่ฟิตหรือปล่าว? วันนี้จังหวะวิ่ง, ออกตัว, จับบอลมันดูทะแม่งๆ ชอบกล เพียงแต่ว่าวิงซ้ายไม่มีตัว(ควร)เลือกแล้ว เลยเอาโมเรโน่ที่ไม่ฟิตแต่พอเล่นได้ลงเล่นไปก่อน? นำห่างเลยรีบเอาออก หรือผมเพ้อเจ้อเองฟระ?

_______ การเปลี่ยนจอห์นสันลงนี่ก็เหมือนกัน คือถ้าจะให้สัมผัสเกมบ้างก็เข้าใจ แต่ประเด็นคือทำไมต้องเปลี่ยนแบบต้องปรับตำแหน่งอะไรกันให้วุ่นขนาดนั้น ไหนจะสเตอลิ่งต้องเปลี่ยนตำแหน่งเป็นครั้งที่สอง ตัวจอห์นสันเองก็ดันลงมายืนซ้าย จริงอยู่ว่าเบิร์นลี่ย์ตอนนั้นบุกไม่ขึ้นแล้ว แต่ 2-0 กับเวลาเกือบ 10 นาทีนี้เกมยังไม่ขาดนะครับ พลาดโดนผีจับยัดเข้าไปสักลูกละเป็นเรื่อง ซึ่ง ณ จุดนั้นจะกลายเป็นว่าเรามีทั้ง จอห์นสัน ที่พึ่งฟิตไม่นานอยู่ขวา ตูเร่ที่ได้เล่นไม่มากนักในช่วงหลังอยู่ซ้าย ข้างหน้าสเตอลิ่งก็เออเร่อไปเรียบร้อยแล้วเพราะจับจังหวะอะไรไม่ได้เลยทั้งเกมแถมเหนื่อยด้วย มันดูเป็นการเปลี่ยนตัวที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ครับ

_______ แต่ย้ำอีกครั้งจะได้ไม่เข้าใจผิดกัน โดยรวมผมยังคิดว่านัดนี้ร็อดเจอร์ทำได้ดีมากนะ

_______ ทีมกำลังฟอร์มดีต่อเนื่อง และผู้เล่นหลายคนที่ฟอร์มต้นฤดูเรียกมัน ตอนนี้ต้องเรียกท่านกันไปตามๆ กันแล้ว ถ้าจะมีอะไรที่ไม่เข้าตาอยู่บ้างก็เห็นจะเป็นพื้นที่หน้าเขตโทษของทีมครับ ต่อให้เป็นวันที่เล่นได้ดีแค่ไหน พื้นที่ตรงนั้นก็มีปัญหาให้เห็นอยู่ได้เรื่อยๆ มันไม่แปลกที่จะโดนยิงไกลหรือจ่ายทะลุจากตรงนั้น ทีมไหนมันก็โดนทั้งนั้นแหล่ะ แต่ประเด็นคือมันมีหลายครั้งเลยที่ “ไม่มีคนเบียด” หรือ “ไม่มีใครขวาง” และบางครั้งฝั่งตรงข้ามวิ่งอยู่ได้ตั้งนานสองนานในพื้นที่นั้น...ก็ยังไม่มีใครเข้าบอล

_______ ในฐานะคนที่ชอบวิจารณ์ ผมเชื่อว่าเราหาข้อดีข้อด้อยได้เรื่อยละครับ ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเห็นมันดีไปหมดหรือมันแย่ไปหมด ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเราเองนั่นล่ะที่พลาดอะไรไปสักอย่าง แต่ถ้าในฐานะ “เด็กหงส์” อย่างเดียว ขอบอกเลยว่า...

_______ ...กลางรับช่างมัน~ วิงแบ็คช่างแหม่ม~ เปลี่ยนตัวยังไงตามใจพี่เลย แค่ชนะ 2-0 , เก็บคลีนชีตได้, ชนะสี่นัดติดในลีค ไม่แพ้ใครมา 12 นัดในลีค โคตรแฮปปี้ครัชชชช
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดีเกือบทุกคน

มินโยเล่ - เล่นได้ดี ออกนอกเส้นได้เร็ว ตัดบอลครอสได้เยี่ยม โดนเพื่อนจ่ายคืนจังหวะไม่ควรคืนบ่อยก็เอาตัวรอดได้ดีระดับนึง ฟอร์มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ลอฟเรน - เกมรับเล่นได้ดีมาก อ่านเกมดี ที่เจ๋งคือจังหวะแซะบอลที่เข้าเมื่อไหร่ตัดได้ตลอด ที่เจ๊งคือ...จะคืนหลังกันไปถึงไหนครัชชชช จ่ายขวาง-จ่ายคืนบ่อยไป แถมจังหวะจ่ายขึ้นหน้าก็ใช่ว่าจะดีด้วย

สเคอเทล - ยังตัดบอลได้ดีอยู่โดยเฉพาะลูกกลางอากาศ แต่โดยรวมแล้ววันนี้เป็นวันที่สเคอเทล เล่นไม่ค่อยดี แม้จะไม่เห็นความผิดพลาดแบบคอขาดบาดตาย แต่มีจังหวะพลาดเล็กๆ น้อยๆ เยอะมากกกกก สื่อสารกับเพื่อนไม่ดีบ้างล่ะ ปล่อยบอลตกบ้างล่ะ บังคู่ต่อสู้ไม่มิดบ้างล่ะ สกัดไม่ขาดก็นิดหน่อย

ชาน - เป็นวันที่เราพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าชานเล่นเกมรับได้ดี คุมพื้นที่ เบียด ปะทะ ดักตัดบอล น่าพอใจทั้งหมด รวมไปถึงฟอร์มช่วงที่เล่นวิงขวาก็ทำได้ดีกว่าสเตอลิ่งช่วงก่อนหน้าด้วย

โมเรโน่ - มันต้องมีอะไรสักอย่างกับน้องโมครัช ผมสัมผัสได้ คือถ้าไม่ใช่อาการบาดเจ็บเล่นงานก็ต้องมีปัญหาอย่างอื่นล่ะ สมาธิไม่ค่อยอยู่กับเกม เล่นเหมือน ping 300+ms (จะมีใครเก็ตมุขนี้มั้ยนี่)

สเตอลิ่ง  - เริ่มเกมด้วยตำแหน่งที่ไม่ค่อยได้เล่นอย่างวิงแบ็คก็ไปไม่ค่อยเป็นแล้ว ทำได้แค่วิ่งทำทางไปรับบอลแล้วเชื่อมเกม แต่เกมรุกด้วยตัวเองไม่มีเลย ไม่ว่าจะเลี้ยงจี้หรือจ่ายให้เพื่อน ยิ่งพอออนทัวร์ย้ายตำแหน่งไปมาในช่วง 20 นาทีสุดท้ายก็ยิ่งไปกันใหญ่ คราวนี้แม้แต่เชื่อมเกมหรือเก็บบอลก็ทำไม่ได้แล้ว

อัลเลน - เชื่อมเกมได้ดี ส่วนตัวแล้วผมชอบมากกับการเห็นอัลเลนออกบอลเกมรุกมากขึ้น ซึ่งช่วยทำให้บอลไปข้างหน้าได้ดีขึ้นไม่ต้องไปพึ่งคูตินโย่มากนัก แต่เกมรับอัลเลนก็ยังคงเป็นอัลเลน อ่านเกมดี ถึงบอลบ่อย (มีหลุดๆ พื้นที่หน้าเขตโทษไปบ้าง แต่เรื่องนี้เค้าไม่ได้ผิดคนเดียว) แต่หยุดคู่ต่อสู้ไม่ค่อยได้ คือมาแต่บอลเสร็จกรู คนมาด้วยเสร็จมัน บางทีก็ยังสงสัย ไม่ต้องนักเตะหุ่นแบบอิ้งค์หรือกุนหรอก เอาแค่หุ่นสักชนาธิปนี่อัลเลนมันจะเบียดชนะได้มั้ย ถามจริง ถ้าเล่นแบบนี้แต่ยืนสูงกว่านี้จะถือโอเคเข้าขั้นดีเลยล่ะ แต่ประเด็นคือเค้ายืนต่ำกว่าเฮนเดอร์สัน ต้องเล่นเกมรับเยอะกว่าไง

เฮนเดอร์สัน - ฟอร์มยังดีต่อเนื่อง นัดนี้ดีกว่านัดก่อนด้วยซ้ำเมื่อมีบอลยาวดีๆ หลายลูก ทั้งไปที่ว่างมุมธง ทั้งบอลแนวลึกทะลุช่องหรือข้ามกองหลัง ยิง 1 จ่าย 1 ด้วย

คูตินโย่ - วิ่งไล่วิ่งทำทางได้ดี นัดนี้ไม่มีภาระต้องเชื่อมเกมมากนักเพราะเพื่อนช่วยเชื่อมจากหลังมาให้ได้ดี ตำแหน่งรับบอลของคูตินโย่ก็เลยดีไปด้วย เหมือนมีส่วนร่วมกับเกมน้อยลงแต่การออกบอลเรียกได้ว่าโหดสัส ทะลุช่องรัวๆ ดีทั้งทิศทางทั้งน้ำหนัก การยิงไกลก็ใกล้เคียงมากๆ ทุกลูก

ลัลลาน่า - มีส่วนร่วมกับเกมเยอะและทำได้ดี วิ่งทำทางรับบอลได้โดดเด่น นับเฉพาะเรื่องนี้เป็นรองแค่สเตอริดจ์คนเดียวเท่านั้น ผ่านบอลง่ายๆ ไม่ฝืน

สเตอริดจ์ - สนิมหลุดไปบ้างเมื่อจังหวะการเล่นกลับมาเข้าที่เข้าทางมากขึ้น การวิ่งทำทางทำได้ใกล้เคียงกับช่วงพีคแล้ว การจับบอลครองบอลก็ดีขึ้นมาด้วย เหลือจังหวะยิงที่ยังแย่อยู่ ครึ่งแรกมีโอกาสยิงในกรอบถึง 3 ครั้ง 1 ในนั้นเป็นลูกหลุดเดี่ยวด้วยกลับยิงไม่ได้สักลูก ยังดีว่าครึ่งหลังมาโหม่งได้ลูกนึง

ตัวสำรอง

ตูเร่ - ก็ยังคงไม่โดนกดดันอะไร ไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็น ...เอาจริงๆ หน้าก็แทบไม่เห็น

จอห์นสัน - ลงมาในช่วงที่เกมไม่มีอะไรเท่าไหร่แล้ว

แลมเบิร์ต - เปลี่ยนกันแบบนี้ พี่ขายผมเถอะครัช
แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...จอร์แดน เฮนเดอร์สัน…เด่นมากทั้งฟอร์มในสนาม ทั้งมีส่วนร่วมกับประตู ยิง 1 จ่าย 1 นัดนี้น่าจะมติเอกฉันท์สำหรับ MOM
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น