วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เวสต์บรอมวิชฯ 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...ก็เล่นไม่ออกบ้าง อะไรบ้าง...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-3-3

------สเตอริดจ์---------ซัวเรส--------สเตอริ่ง---------
---------------เฮนเดอร์สัน----------คูตินโย่------------
------------------------เจอราร์ด------------------------
ซิสโซโก้--------ตูเร่----------สเคอเทล----ฟลานาแกน
------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนเวสต์บรอมวิช นัดนี้ร็อดเจอร์ยังคงใช้ผู้เล่น 11 ตัวจริงชุดเดิมจากนัดก่อน(มีใครให้เปลี่ยนเหรอ)
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาเป็นเวสต์บรอมวิชที่วิ่งเข้าใส่ ไล่บอลเต็มสนามตั้งแต่แดนหน้า บีบแดนกลางให้แคบและเข้าบอลทั้งหนักและเร็ว เกมรุกเน้นขึ้นทางริมเส้น ส่วนลิเวอร์พูลตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ ครองบอลได้ไม่นาน บอลไปไม่ถึงข้างหน้า แต่เกมรับยังเล่นได้รัดกุม เวสต์บรอมฯ อย่าว่าแต่จะได้ลุ้นยิงประตู แค่เปิดบอลเข้าทำยังทำไม่ได้

_______ ผ่าน 20 นาทีของเกมไป ลิเวอร์พูลยังทำเกมรุกได้ไม่ปะติดปะต่อ แต่เวสต์บรอมฯ เองก็ทำเกมกดดันอะไรไม่ได้และเสียฟาล์วกลางสนามบ่อย ถึงนาที 24 หนึ่งในไม่กี่จังหวะตั้งแต่เริ่มเกมมาที่ลิเวอร์พูลพาบอลไปถึงข้างหน้าได้ก็ นำมาซึ่งประตูทันที คูตินโย่จ่ายตัดแบ็คให้สเตอริ่งได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษด้านข้างก่อนจะผ่าน ให้ซัวเรสที่อยู่ใกล้ๆ ซัวเรสตักบอลผ่านแนวรับ 2 ตัวข้ามมาเสาสองให้สเตอริดจ์ชาร์จง่ายๆ แค่ 1 หลาเข้าไปได้สำเร็จ 1-0

_______ หลังจากขึ้นนำได้ รูปเกมของลิเวอร์พูลเริ่มดูดีขึ้นในแง่การเก็บบอลจังหวะสองในเกมรับและการ ครองบอล ปิดเกมรุกของเวสต์บรอมฯ ได้เด็ดขาด แต่เกมรุกของตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้ หันมาใช้การวางบอลยาวข้ามแนวรับบ่อยขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้ผลมากนัก ครึ่งแรกจบที่สกอร์ 1-0

_______ เข้าครึ่งหลัง เวสต์บรอมฯ ลงมาเ่ร่งได้ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังแทบไม่ได้ลุ้นเหมือนเดิม ส่วนทางลิเวอร์พูลกลับลงมาแล้วถอยต่ำลงไปมากกว่าครึ่งแรกแบบเห็นได้ชัด เล่นเหมือนคนพึ่งตื่นอยู่ร่วม 10 นาที เก็บบอลเล่นแทบไม่ได้ โต้กลับก็ไม่ดีนัก พาบอลถึงเขตโทษได้น้อยมาก

_______ ผ่าน 10 นาทีของเกมไปวิญญาณถึงเริ่มกลับเข้าร่าง ครองบอลได้มากขึ้นแต่เกมโดยรวมก็ยังเป็นเหมือนช่วงท้ายครึ่งแรก ต่างฝ่ายต่างทำเกมรุกจังหวะสุดท้ายไม่ดี อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลเกือบจะขึ้นนำห่างเป็น 2-0 ประมาณนาที 59 จากจังหวะที่ตูเร่หวดยาวตูมเดียวจากแดนหลัง กองหลังปล่อยบอลตกไปเข้าทางซัวเรส ซึ่งซัวเรสก็เอาบอลลงและหลบกองหลังได้แล้วแต่ยิงไม่ดีพอเลยติดเซฟ ชวดได้ประตูนำห่างอย่างน่าเสียดาย

_______ แนวรุกของลิเวอร์พูลยังคงเล่นไม่ค่อยออก แต่เกมรับยังทำได้ดีโดยเฉพาะเจอราร์ดที่ทำหน้าที่ตัวรับได้สมบูรณ์แบบมาก ตั้งแต่ต้นเกม เวสต์บรอมฯ เองก็ไม่มีปัญญาทำอะไรให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น จังหวะเข้าทำตั้งแต่ต้นเกมเป็นยังไงก็ยังทำได้แค่นั้น แต่แล้ว... นาที 67 ตูเร่ก็ทำพลาดมหันต์ จ่ายบอลหน้าเขตโทษตัวเองพลาด บอลไปเข้าเท้าอานิเชบี้ที่ยืนอยู่เฉยๆ ได้ยิงโล่งๆ จากแถวหน้าเขตโทษเข้าไปได้สำเร็จ 1-1

_______ หลังจากเสียประตู ลิเวอร์พูลเล่นพลาดกันมากขึ้น แนวรับเริ่มเก็บบอลได้น้อยลง ออกแนวสาดทิ้งซะเยอะ ส่วนแดนกลางกับหน้าก็ออกบอลพลาดบ่อย ส่วนทางเวสต์บรอมฯ ก็เหมือนได้ใจ เร่งเกมได้ดีขึ้นในแง่ที่ว่าสามารถพาบอลไปถึงด้านหน้าได้เยอะขึ้น แต่บอลเข้าทำยังด้อยพัฒนาตามเดิม

_______ นาที 74 อัลเลนกับเคลลี่ได้ลงมาแทนคูตินโย่กับฟลานาแกน กองกลางสามคนขยับมายืนระนาบเดียวกัน ลิเวอร์พูลหันมาไล่บอลเร็วในแดนกลางและหน้าได้ดีขึ้นได้ในระยะเวลาสั้นๆ เป็นช่วงที่เกมมีสีสรรมากที่สุดในนัดนี้ เพราะเกมเปิดแลกกัน แต่โอกาสลุ้นจริงๆ จังๆ ก็แทบไม่มีทั้งคู่

_______ ช่วงสิบนาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูลพยายามจะเร่งเกมรุกมากขึ้นแต่ยิ่งเร่งก็ยิ่งพลาด ส่วนเวสต์บรอมฯ การครองบอลดูดีกว่า พาบอลมาถึงข้างหน้าได้ดีกว่า แต่บอลเข้าทำก็ยังไม่ได้กระเตื้อง มีลุ้นบ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ ส่วนโอกาสที่ดีที่สุึดของลิเวอร์พูลคือจังหวะที่สเตอริดจ์หลุดเข้าไปในเขต โทษแต่ยิงติดผู้รักษาประตูที่ออกมาปิดมุมเร็ว ทำให้จบเกมเสมอกันไปแบบจืดๆ 1-1
-----------------------------------------

_______ ถึงจะเป็นวันที่เกมรุกดับสนิท แต่ก็น่าเสียดายมากที่ได้แค่ 1 แต้มถ้าดูจากโอกาสและรูปเกมครับ

_______ ลิเวอร์พูลปรับวิธีการเล่นเล็กน้อย วันนี้แนวรุกไม่ได้วิ่งไล่คู่ต่อสู้เหมือนนัดก่อน แต่ปล่อยให้ครองบอลในแดนกลางค่อนข้างมาก อาศัยแผงหลัง 4 คนกับเจอราร์ดคอยสกัดบอลเข้าทำเอา ซึ่งได้ผลตลอดเกม เวสต์บรอมฯ ทำอะไรแทบไม่ได้เลย สร้างโอกาสด้วยตัวเองได้แค่ 2-3 ครั้งเท่านั้น เกมรุกก็ปล่อยให้ตัวรุกเล่นกันไป ซึ่ง(เคย)ได้ผลมาตลอด ทางด้านแท็คติคผม คิดว่าไม่มีอะไรผิดพลาดเลยสำหรับนัดนี้ สิ่งที่ผิดพลาดคือฟอร์มการเล่นของผู้เล่นแนวรุกและการกระตุ้นลูกทีมของ ร็อดเจอร์ที่ทำได้ไม่ดีพอมากกว่า

_______ ผู้เล่นแนวรุกในวันนี้เล่นกันผิดฟอร์มมากครับ โดยเฉพาะซัวเรส, สเตอริดจ์, คูตินโย่ แน่นอนส่วนหนึ่งก็ต้องชม คู่ต่อสู้ด้วยว่าเข้าถึงตัวได้เร็ว แต่ถึงอย่างนั้นนี่เป็นวันที่แนวรุกนัดกันฟอร์มตกจริงๆ บอลไม่เชื่องเท้า, ผ่านบอลไม่แม่นยำ, จบสกอร์(ที่ไม่ค่อยมีโอกาสมากนัก)ก็ไม่เด็ดขาด ส่วนการกระตุ้นลูกทีมของร็อดเจอร์วันนี้ก็ไม่มีให้เห็น ทั้งในช่วงต้นครึ่งหลังที่เล่นเหมือนคนละเมออยู่ราว 10 นาที ช่วงหลังจากโดนตีเสมอแล้วก็ยังไม่ค่อยจะกระฉับกระเฉงกันเท่าไหร่ เร่งไม่ขึ้น และทำให้รูปเกมเป็นอย่างที่เห็นกัน

_______ อย่างไรก็ตาม แม้รูปเกมจะไม่ได้เหนือกว่ามากนักแต่ก็สามารถควบคุมเกมไว้ได้ น่าจะเก็บสามแต้มได้สำเร็จ แต่สิ่งที่ตัดสินเกมทำให้ทีมพลาดสามแต้มเต็มอย่างน่าเสียดายหนีไม่พ้นความ ผิดพลาดส่วนบุคคลของตูเร่ที่จ่ายพลาดแบบไม่ได้ใกล้เพื่อนเลย เข้าเท้าคู่ต่อสู้เต็มๆ แบบไม่ต้องพยายาม

_______ การแก้เกมในลักษณะการปรับแทคติคหรือการเปลี่ยนตัวไม่มีอะไรน่าพูดถึงครับ เพราะลิเวอร์พูลไม่มีทางเลือกในม้านั่งสำรองและวิธีเล่นแบบอื่นที่เคยใช้ไม่ ว่าจะหลัง 3 หรือหน้าคู่แบบ 4-2-2-2 ก็ไม่ชวนให้คิดว่าจะทำอะไรให้ดีขึ้นในวันที่ตัวรุก(โดยเฉพาะคู่หน้า)เล่นไม่ ออกแบบนี้ เพราะทุกแทคติคที่เคยเล่นเคยใช้ได้ผลมาหวังพึ่งความสามารถของกองหน้าสองคน นี้ในการวิ่งทำทางและจบสกอร์ทั้งนั้นครับ

_______ เราต้องนั่งภาวนาให้ตัวรุกโดยเฉพาะคู่กองหน้าไม่มีใครบาดเจ็บและเล่นได้ใน ฟอร์มที่ดีได้บ่อยที่สุด ในวันที่พวกเขาเล่นออกลิเวอร์พูลชนะได้ทุกทีม, ทุกสนาม และทีมก็จะจบใน Top4 ได้สำเร็จ ถ้าพวกเขาเล่นไม่ได้..เช่นวันนี้เป็นต้น...ตัวเลือกในม้านั่งสำรองหรือแม้ กระทั่งตัวเลือกในการปรับเปลี่ยนแท็คติคหรือ 11 ตัวจริงได้บ้างเพื่อปรับให้เข้ากับสถานการณ์จะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

_______ ...ลิเวอร์พูลไม่มีสิ่งนั้นครับ...
-------------------------------

นัดนี้เล่นพอใช้ได้ หนักไปทางไม่ค่อยดี

มินโยเล่ - เตะเปิดเกมได้สยองขวัญยิ่งกว่าเดอะริงส์สิบภาครวมกัน แต่งานหลักในเรื่องการเซฟวันนี้ทำได้ดีมากๆ เซฟลูกสำคัญได้สองสามครั้ง โดยเฉพาะจังหวะที่ใช้มือเดียวปัดลูกยิงระยะประชิดได้นี่เข้าตาจริงๆ

ซิสโซโก้ - เกมรับทำได้ดีโดยเฉพาะการปิดลูกเปิดเข้ากลางซึ่งนัดนี้เขาทำได้ดีที่สุด ตั้งแต่ดูแบ็คลิเวอร์พูลทุกคนเล่นมาในฤดูกาลนี้...เน้นว่าเฉพาะการปิดลูก เปิดเข้ากลางนะ ช่วงครึ่งแรกเติมขึ้นไปเล่นเกมรุกและพาบอลไปเองได้ดีมากๆ 2-3 ครั้ง เปิดพลาดเรียบ แต่จุดสลบจริงๆ ยังคงอยู่ที่การเชื่อมเกมที่พอเจอการไล่เร็วเข้าไปแล้วต้องเคาะคืนหลังอย่าง เดียว

ตูเร่ - เล่นผิดฟอร์มไปมาก โดยเฉพาะการผ่านบอลขึ้นหน้าที่เคยทำได้ดีกว่านี้เยอะ เลี้ยงบอลขึ้นมาเอง 2-3 ครั้งก็ทำพลาดหมด การเข้าบล็อคลูกยิงไกลหรือการประกบก็ไม่ถึงกับดี อีกทั้งจังหวะที่ทำพลาดจนทีมเสียประตูนี่...ถ้าอยู่เมืองไทยคงโดนกองเชียร์ หิ้วไปสาบานที่วัดพระแก้วว่าไม่ได้ล้มบอลแล้วครับ

สเคอเทล - ก่อนเสียประตูเล่นได้ดีมาก จัดการได้หมดทุกจังหวะไม่ว่าจะบนพื้นหรือกลางอากาศ แต่พอทีมโดยตีเสมอเริ่มออกอาการลนให้เห็น เคลียร์ทิ้งแบบไม่มีหางเสือ เข้าบอลเริ่มไม่แม่น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่พลาดนะ

ฟลานาแกน - เกมรับยัง ทำได้ค่อนข้างดี จังหวะดวลตัวต่อตัวไม่มีปัญหา แต่การผ่านบอลเชื่อมเกมทำได้ไม่ดีเลย พลาดจนทีมเกือบพังอยู่หนสองหน นอกนั้นก็ใช่ว่าจะดี จ่ายพาเพื่อนเครียดบ้าง จ่ายขึ้นหน้าไม่ได้บ้าง

เจอราร์ด - เป็นวันที่เล่นในฐานะกลางรับได้ดีที่สุดตั้งแต่เล่นมา อ่านเกมได้ดีเข้าสกัดได้เด็ดขาด แย่งบอลตัดบอลได้เยอะมาก โดยเฉพาะครึ่งแรกนี่เก็บเรียบจนกองหลังแทบไม่ต้องทำอะไรเลย ครึ่งหลังไม่เด่นเท่าครึ่งแรกแต่ก็ยังอยู่ในฟอร์มที่ดี

เฮนเดอร์สัน - ช่วยไล่บอลกลางสนามและคุมพื้นที่ช่วยเจอราร์ดในเกมรับได้ดี มีปัญหาพอสมควรกับการโดนไล่เร็วทำให้เชื่อมเกมและพลิกบอลขึ้นหน้าได้ด้อยกว่านัดก่อนๆ เกมรุกแทบไม่มีส่วนร่วม

คูตินโย่ - โดนวิ่งไล่จนไปไม่เป็น ยังพาบอลหนีได้ค่อนข้างดีแต่จ่ายบอลดีๆ ไม่ค่อยได้ เชื่อมเกมได้ไม่ดีนัก และเหตุผลที่เขาโดนเปลียนตัวออกก็คงเป็นเพราะช่วยเกมรับได้ไม่เท่าเฮนเดอร์ สัน ในขณะที่เกมรุกก็ไม่ได้ดูดีกว่าเท่าไหร่

สเตอริ่ง - เล่นพอใช้ได้ ทำได้ดีในการเบียดกับคู่ต่อสู้ไม่ค่อยโดยแซะบอลไปง่ายๆ แล้ว พาบอลไปเองไม่ถึงกับสุดยอดแต่ก็กดดันพอให้คู่ต่อสู้ต้องทำฟาล์วได้เป็นระยะ จ่ายบอลเชื่อมเกมพอใช้ได้แต่บอลเกมรุกไม่ค่อยมีเหมือนกัน

สเตอริดจ์ - ยิงประตูได้ในครึ่งแรก และเกือบยิงได้ในครึ่งหลัง นอกจากสองจังหวะนี้แล้วแทบไม่รู้ว่าเจ้าตัวอยู่ในสนาม

ซัวเรส - ผิดฟอร์มไปเยอะมาก จับบอลไม่ค่อยดีนัก พาบอลไปก็ไม่ทะลุทะลวง การวิ่งทำทางหรือการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมก็มีน้อยกว่าทุกวัน ทำได้ดีมากๆ แค่จังหวะเดียวที่เปิดให้สเตอริดจ์ยิงได้ประตู แล้วก็เกือบดีมากในจังหวะที่วิ่งตามบอลไปแตะหลบกองหลังได้สวยแต่ตกม้าตายตอน ยิง นอกจากนั้นก็ไม่ค่อยได้กดดันคู่ต่อสู้เท่าไหร่

ตัวสำรอง 

อัลเลน - ช่วยเล่นเกมรับได้ดีกว่าคูตินโย่เล็กน้อย แต่นอกนั้นก็แทบไม่ต่างกัน

เคลลี่ - เกมรับออกแนวลนลาน บอลมาเตะทิ้งอย่างเดียว ไม่ได้รั่วอะไรแต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความแตกต่างเช่นกัน

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...สตีเว่น เจอราร์ด... เล่นเกมรับได้เด่นเด้งมาก หยุดเกมรุกของคู่ต่อสู้ได้หลายต่อหลายครั้ง
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น