วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ฟูแล่ม 2-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...นัดที่ควรชนะ ไม่เคยชนะกันได้ง่ายๆ...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-3-3

------ซัวเรส----------สเตอริดจ์---------สเตอลิ่ง-------
---------------เฮนเดอร์สัน----------คูตินโย่------------
------------------------เจอราร์ด------------------------
ซิสโซโก้--------ตูเร่----------สเคอเทล----ฟลานาแกน
------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนทีมบ๊วยของตารางอย่างฟูแล่มที่พึ่งฮึดเสมอแมนฯยูถึงโอ ลแทรฟฟอร์ดมาได้ในนัดก่อน วันนี้ร็อดเจอร์ปรับทีมขนานใหญ่ด้วยการ...สลับเอาซัวเรสไปอยู่ทางซ้าย สเตอลิ่งอยู่ทางขวา ในม้านั่งสำรองก็มีดาวรุ่งติดมาด้วยมากมายมหาศาลถึง...1 คน คือเตยเซยร่า(ขอถอดเสียงตาม FB ทางการแล้วกัน) ส่วนทางฟูแล่มนัดนี้หันกลับมาใช้หน้าเป้าตัวเก๋าอย่างดาเรน เบนท์หลังจากนัดก่อนใช้เด็กลงหน้าเป้าแล้วไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาทางฟูแล่มรับแน่นในแดนตัวเอง เริ่มไล่เร็วเมื่อบอลถึงครึ่งสนาม สลับกับบีบสูงบ้างเป็นระยะ เกมรุกใช้บอลโด่งโยนให้เบนท์พักบอลเล่น สลับกับวางไปทางริมเส้นฝั่งฟลานาแกน ได้ลุ้นตั้งแต่ต้นเกม ส่วนลิเวอร์พูลรุกเร็วตามถนัดไม่ได้เพราะด้านหน้าไม่มีช่อง ตั้งเกมได้ค่อนข้างช้า ดันแผงหลังขึ้นมาช่วยต่อเกมแดนกลางค่อนข้างสูง โดยเฉพาะฟลานาแกนที่ลอยละลิ่วขึ้นไปสูงถึงเกือบกลางแดนฟูแล่ม ยังหาช่องเจาะไม่ได้เท่าไหร่

_______ แค่นาที 8 ฟูแล่มก็ได้ประตูนำก่อน จากจังหวะที่วางบอลยาวออกริมเส้น ฟลานาแกนลงไม่ทัน สเคอเทลพยายามเข้าไปซ้อนบังทางแต่ริชาร์ดสันยังเปิดเรียดเข้ากลางแถวกลาง ประตูได้ บอลมาไม่แรงนักและย้อนหลังเบนท์ไปแล้ว แต่ตูเร่กะจังหวะบอลพลาด หรือเด้งพื้นสนามที่ไม่เรียบ หรือดีไซน์ท่าสกัดไม่ถูกก็ไม่ทราบได้ แต่เอาเป็นว่าเตะผิดเหลี่ยมบอลลอยข้ามตัวเองไปเข้าเสาสอง 1-0

_______ หลังจากสกอร์ขยับ ลิเวอร์พูลที่เกมไม่ได้ดีอยู่แล้วยิ่งดูแย่ลงไปอีก ครองบอลไม่ได้ต่อเนื่อง รุกเร็วไม่ถนัด ทำเกมรุกไม่ได้มากนัก เน้นขึ้นทางขวาพึ่งการเล่นของคูตินโย่, สเตอริ่ง, ฟลานาแกน เป็นส่วนใหญ่แต่ยังหาโอกาสจบสกอร์ได้ลำบาก สลับกับทางฟูแล่มที่วันนี้ออกบอลแม่นและทำเกมโต้ด้วยบอลยาวได้ดี แถมเล่นบอลจังหวะสองได้ดีกว่าด้วย ทำให้รูปเกมดูดีกว่าพอสมควร

_______ ข้อดีของลิเวอร์พูลเพียงอย่างเดียวที่เห็นในครึ่งแรกคือความพยายามที่จะไม่ โยนบอลโด่งเข้ากลาง อดทนรอจังหวะแทงบอลทะลุช่องเพื่อเข้าทำ แม้โอกาสจะน้อยแต่ยังดูประเทืองปัญญากว่าการโยนเข้าไปใส่เซนเตอร์ที่สูงที่ สุดในลีค ส่วนฟูแล่มเองพาบอลไปถึงหน้าเขตโทษได้ดีกว่าแต่ในจังหวะเข้าทำก็เปิดบอลได้ไม่ค่อยดีนัก มีโอกาสลุ้นบ้างแต่ไม่มากเช่นกัน

_______ ในที่สุดความอดทนของลิเวอร์พูลก็สำเร็จ นาที 41 จังหวะที่ฟูแล่มจะโต้แต่จ่ายบอลขวางสนามพลาด เจอราร์ดเก็บบอลได้ก่อนเปิดเร็วทันที บอลโด่งข้ามแนวรับให้สเตอริดจ์สปีดไปเอาบอลได้เข้าไปหลุดเดี่ยวกับผู้รักษา ประตู ยิงชนเสาเด้งเข้าไปได้ไม่พลาด 1-1 และจบครึ่งแรกที่สกอร์ดังกล่าว

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลปรับเกมด้วยการใช้เจอราร์ดขึ้นมาเติมเกมรุกมากขึ้นแล้วให้เฮ นเดอร์สันสลับลงไปยืนต่ำแทนในบางจังหวะ ตัวรุก 3S ลงมาต่ำกว่าเดิมเล็กน้อยค่อยรับบอลเชื่อมจากแดนกลาง ไม่เหมือนครึ่งแรกที่หนักไปทางฝังตัวอยู่กับแนวรับเพื่อวิ่งหาช่องเป็นหลัก แดนกลางและหน้าบีบเข้าหาบอลเร็วขึ้นกว่าครึ่งแรกเล็กน้อย ไล่บอลจังหวะที่ทำเสียไปแล้วซึ่งกดดันให้ฟูแล่มออกบอลโต้ได้ลำบากขึ้นบ้าง ทำให้ฟูแล่มต้องคอยๆ ถอยไปรับต่ำมากขึ้นและโต้ได้น้อยลง

_______ ลิเวอร์พูลครองบอลได้ต่อเนื่องขึ้นเรื่อยๆ ในเกมรับแม้จะหยุดบอลยาวโต้กลับได้ไม่สนิทนักแต่ทำได้ดีกว่าครึ่งแรกเยอะ ส่วนเกมรุกพอตัวรุกทั้ง 3 คนในแดนหน้าถอยออกห่างจากแนวรับก็เริ่มมีช่องให้ชิ่งและจ่ายทะลุช่องมากขึ้น หาจังหวะจบสกอร์ได้ดีกว่าในครึ่งแรก อะไรๆ ดูจะเข้าทางเป็นใจไปหมดแล้วแต่แนวรับก็ดันมาพลาดอีกจนได้ นาที 63 จากลูกเปิดเข้ากลางจากริมเส้นฝั่งซิสโซโก้ สเคอเทลถึงบอลก่อนแต่สกัดไม่ดีกลายเป็นตั้งให้ริชาร์ดสันได้ชาร์จจ่อๆ ไม่พลาด 2-1

_______ หลังเสียประตู เกมของลิเวอร์พูลที่ดูดีขึ้นสะดุดไปเล็กน้อย ส่วนฟูแล่มถอยลงไปรับต่ำเข้าไปอีก ช่องให้จ่ายบอลในพื้นที่สุดท้ายแทบไม่มีเหลือ แต่ลิเวอร์พูลยังไงก็ไม่ยอมโยน พยายามทำชิ่งและเล่นบอลทะลุช่องต่อไป นาที 71 มิวเลนสตีนตัดสินใจพลาดมากที่สุดของวันด้วยการถอดริชาร์ดสันออกแล้วส่งคาซา นิคลิชลงมาแทน(ไว้อธิบายทีหลัง) นาทีถัดมาลิเวอร์พูลตีเสมอได้สำเร็จ คูตินโย่รับบอลแถวมุมเขตโทษด้านขวาก่อนพาบอลเข้ากลางแล้วยิงไกลจากหน้าเขต โทษ บอลแฉลบกองหลังนิดๆ เข้าประตูไปได้ 2-2

_______ หลัีงตีเสมอได้สำเร็จ กลายเป็นทางฝั่งฟูแล่มที่โต้ได้ลำบากหนักกว่าเดิมเพราะขาดตัวที่วิ่งเข้าไป เล่นกับเบนท์, วิ่งหาที่ว่างรับบอลได้ดีแบบริชาร์ดสัน แม้เบนท์จะยังเก็บบอลได้บ้างแต่คนช่วยไม่มีแล้วก็ทำอะไรต่อลำบาก ขณะที่ลิเวอร์พูลยังเน้นการเล่นบอลบนพื้นทำชิ่งหาช่องจ่ายทะลุกันต่อไป ซึ่งพอหาได้บ้างแต่ยังจบไม่ลง

_______ นาที 82 เตยเซยร่าได้ลงแทนสเตอลิ่งที่ทำอะไรไม่ค่อยได้นัดนี้ ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลเองก็ยังพยายามช่องตามช่องอยู่ แนวรับลอยขึ้นมาเกินครึ่งสนามแล้ว กองกลางก็ขึ้นมาช่วยต่อบอลกันหมดแล้ว แบ็คสองข้างวิ่งสอดทุกจังหวะที่บอลไปทางริมเส้น จนแล้วจนรอดทำอะไรไม่ได้ ส่วนฟูแล่มเองยังคงได้ลุ้นนิดหน่อยจากบอลยาวและลูกตั้งเตะเป็นระยะแต่ไม่ได้ กดดันอะไรมากนัก เกมทำท่าจะจบที่ผลเสมอ แต่นาทีสุดท้ายก่อนทดเจ็บ สเตอริดจ์วิ่งทำทางขึ้นไปรับบอลทะลุช่องได้แถวริมเขตโทษด้านซ้าย รีเทอร์สกัดผิดจังหวะไปเสียบเอาสเตอริดจ์เข้า ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษทันที เจอราร์ดรับหน้าที่ยิงไม่พลาด ลิเวอร์พูลแซงนำได้อย่างดราม่า 3-2 ซึ่งหลังจากนั้นร็อดเจอร์ส่งแอกเกอร์ลงแทนคูตินโย่ทันที เอามาทำอะไรคงไม่ต้องอธิบาย

_______ เวลาในช่วงทดเจ็บราว 4 นาที ฟูแล่มบอมบ์เข้าใส่เขตโทษอย่างบ้าคลั่งแต่แนวรับก็สกัดไว้ได้หมด ลิเวอร์พูลเองมีโอกาสโต้กลับดีๆ 4-5 ครั้งแต่เกือบทั้งหมดพลาดอีตอนจังหวะจ่ายขึ้นหน้า ไม่ได้ประตูเพิ่มแต่ก็ปิดเกมได้สำเร็จ เฉือนชนะเก็บสามแต้มเต็มไปได้ที่สกอร์ 3-2
-----------------------------------------

_______ ถ้ากองหลังไม่พลาด เกมนี้จะง่ายกว่านี้อีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

_______ ลิเวอร์พูลวันนี้เตรียมตัวมาค่อนข้างดี ในช่วงเริ่มเกม ลิเวอร์พูลทำได้ดีแล้วกับการเลือกที่จะเข้าทำด้วยบอลสั้นทั้งชิ่งและทะลุ ช่องซึ่งแม้จะมีพื้นที่ไม่มากนักแต่ก็ยังพอหาโอกาสได้ รวมไปถึงการดันแบ็คขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมค่อนข้างสูงเพราะถ้าแดนกลางตัวน้อยจะ เอาชนะการวิ่งไล่ในแดนกลางได้ลำบาก แต่ฟูแล่มกลับทำได้ดีกว่า โอเคการไล่บอลแดนกลางเร็วและเน้นปิดพื้นที่ในแดนตัวเองแน่นเป็นสิ่งที่ต้อง ทำอยู่แล้ว(ซึ่งดันทำได้ดีมากด้วย) แต่การเน้นโต้ด้วยบอลยาวไปที่เบนท์ สลับกับการวางบอลย้อนไปทางริมเส้นฝั่งฟลานาแกนที่ลอยสูงได้ผลดีเอามากๆ นอกจากจะทำเอาลิเวอร์พูลครองบอลลำบาก, พะวงกับเกมรับแล้วยังสามารถทำประตูแรกขึ้นนำก่อนได้ด้วย

_______ อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกตอนต้น ลิเวอร์พูลเลือกวิธีการเข้าทำได้ดี และเป็นสาเหตุหลักเลยที่ทำให้ทีมอุตส่าห์แซงชนะกลับมาได้ ถ้าเลือกสาดยาวมั่วซั่วคงบรรลัยกันไปตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว แต่นี่ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่ตามหลังหรือยังเสมออยู่, เวลาเหลือน้อยลิเวอร์พูลยังไงๆ ก็เลือกที่จะไม่โยน อดทนกับการเล่นบอลสั้นทะลุช่องในพื้นที่แคบๆ กันต่อไป ค่อยๆ ตีเสมอและแซงนำจนได้ นี่เป็นเรื่องที่น่าประทับใจอย่างแท้จริงสำหรับนัดนี้ครับ

_______ จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมอยู่ที่นาที 71-72 ครับ มิวเลนสตีนไม่รู้คิดยังไงกับการถอดริชาร์ดสันออก ทั้งๆ ที่วันนี้เขาเป็นผู้เล่นฟูแล่มที่เล่นได้ดีมาก ทั้งแอสซิสลูกแรกและยิงลูกที่สอง ทั้งยังเป็นตัวหลักในเกมโต้กลับ ซึ่งหลังจากนั้นเกมโต้ของฟูแล่มแม้ยังโต้ได้อยู่แต่ก็ลดความอันตรายไปเยอะ เลย ในขณะเดียวกัน นาทีถัดมาการตีเสมอของคูตินโย่ก็สำคัญกับเกมไม่แพ้กัน เพราะถ้าเขายิงไม่ได้ แล้วเวลาไหลไปถึง 10 นาทีท้าย ความกดดันน่าจะหนักกว่านี้ไม่ต้องพูดถึงแซงชนะ เอาแค่เสมอยังยาก แต่พอสองจังหวะนี้เกิดขึ้น (เปลี่ยนริชาร์ดสันออก - คูตินโย่ยิงได้) เลยส่งผลไปกลับทำให้ลิเวอร์พูลทั้งเล่นง่ายขึ้นและฟูแล่มเล่นยากขึ้นนั่นเอง

_______ นัดนี้ร็อดเจอร์ทำได้ดีกับการวางแท็คติคและปรับเกมครับ การเข้าทำก็อย่างที่พูดถึงไปแล้ว และช่วงพักครึ่งการตัดสินใจดันเจอราร์ดมาเล่นเกมรุกมากขึ้น ถอยตัวรุกลงมาต่ำกว่าเดิมหน่อยช่วยให้เกมรุกดูดีขึ้นกว่าครึ่งแรกพอสมควร รวมไปถึงการส่งเตยเซยร่าลงมาแทนสเตอลิ่งก็ช่วยได้บ้างเพราะสเตอลิ่งที่ไม่มี พื้นที่เล่นนี่ไม่ได้ต่างอะไรกับการเอายูเซน โบลไปเล่นหมากรุกเลย หาประโยชน์แทบไม่ได้ เตยเซยร่าใช่ว่าจะลงมาแล้วพลิกเกมหรือทำอะไรมหัศจรรย์ได้ แต่อย่างน้อยสุดเขาเชื่อมเกมและผ่านบอลสั้นได้ดีกว่าที่สเตอลิ่งทำอยู่ก่อน หน้านั้นเยอะ ส่วนเรื่องการส่งแอกเกอร์มาแทนคูตินโย่ท้ายเกม จะชมก็คงไม่เต็มปากเพราะถ้าไม่ทำสิแปลก โควต้ายังเหลือ, เวลาจะหมด, นำแล้ว ไม่ว่าใครก็คงต้องเปลี่ยนกองหลังมาช่วยทั้งนั้น

_______ อ้อ...ไม่ใช่ว่าร็อดเจอร์คนเดียวจะทำให้ทีมชนะได้ ต้องชมผู้เล่นด้วยว่าอดทนได้ดีมาก ไม่สติขาดไปซะก่อน โดยเฉพาะพวกของขึ้นง่ายอย่างซัวเรส, พวกเห็นเพื่อนทำไม่ได้แล้วชอบฝืนจะทำเองอย่างสเตอริดจ์, เจอราร์ด ยังไงก็ต้องให้เครดิตคนเล่นด้วยเช่นกันครับ

_______ ถ้าจะมีอะไรให้หนักใจอยู่บ้างก็หนีไม่พ้นกองหลังนี่ล่ะครับ เล่นไปเล่นมาฟอร์มยิ่งค่อยๆ ดรอปลง โดยเฉพาะคู่เซ็นเตอร์ นัดนี้ถ้าเซนเตอร์ไม่สกัดพลาดแบบไม่น่าพลาดกันคนละครั้ง เกมนี้่จะง่ายขึ้นอีกเยอะเลยครับ ลูกแรกดูยังไงๆ ตูเร่ก็ไม่ควรพลาดได้ขนาดนั้น ส่วนลูกที่สองสเคอเทลเองน่าจะจับจังหวะบอลได้ดีกว่านั้นอีกมากๆ เพราะเจ้าตัวไม่ได้มีใครวิ่งเบียดอยู่ ส่วนฟลานาแกนเองแม้จะถูกสั่งให้ขึ้นสูงก็เถอะ (มั่นใจมากว่าถูกสั่งมาครับ ปกติคุณน้องเธอไม่ได้ลอยสูงขนาดนี้) แต่ควรอ่านเกมให้ดีกว่านี้สักหน่อยและขยันวิ่งลงให้มากกว่านี้(โดยเฉพาะ ครึ่งแรก ครึ่งหลังดีขึ้นหน่อย) ยังดีตอนนี้แอกเกอร์กลับมาได้แล้ว และแบ็คตัวจริงทั้งสองฝั่งก็ร่ำๆ จะกลับมาเช่นกัน น่าจะทำให้แนวรับมีทางเลือกมากขึ้น และคนที่เล่นอยู่เ่ร่งฟอร์มได้ดีขึ้นด้วย

_______ ยังกังวลอยู่นิดๆ กับการต้องใช้ 11 ตัวจริงชุดเดิมติดๆ กันแบบนี้ แต่เมื่อไม่มีทางเลือกก็ไม่รู้จะบ่นไปทำไม หวังว่าจะไม่กรอบเป็นข้าวเกรียบพึ่งขึ้นจากกระทะกันไปซะก่อน ถ้านัดไหนจะหมดแรงวิ่ง ฟอร์มช็อตไปดื้อๆ ก็จะเข้าใจล่ะ ทำใจล่วงหน้าแล้ว

_______ ...ตอนนี้มีความสุขกับชัยชนะกันไปก่อนแล้วกัน...
-------------------------------

นัดนี้เล่นพอใช้ได้

มินโยเล่ - สองลูกที่โดนไม่ต้องสืบครับ ช่วยอะไรไม่ได้แน่ แต่ลูกที่พอเซฟได้ก็เซฟได้อยู่ รักษาตำแหน่งและสมาธิดี โดยเฉพาะลูกลักไก่ยิงไกลแบบเข้ากรอบของซิลเวลด์ที่มินโยเล่ยังถอยไปทัน แต่จังหวะที่เคืองมากๆ อยู่ที่ท้ายครึ่งแรก บอลลอยโด่งแบบไร้น้ำหนักเข้ามาลึกถึงเขต 6 หลา ไม่มีกองหน้ากดดัน พี่แกดันไม่กระโดดคว้า ปล่อยบอลตกพื้นมันซะงั้น

ซิสโซโก้ - เกมรับทำ ได้ตามเนื้อผ้า โชคดีที่ฟูแล่มไม่ค่อยขึ้นทางนั้นด้วย เชื่อมแดนกลางพอใช้ได้ แต่พอขึ้นไปสูงถึงพื้นที่สุดทำอะไรไม่ได้ ช่วยทะลุทะลวงอะไรไม่ได้เลย

ตูเร่ - พลาดอีกแล้ว หลังจากนั้นก็เล่นแบบเสียความมั่นใจไปเลย บอลที่เคยกล้าเก็บวันนี้เตะทิ้งตลอด มีปัญหาไม่น้อยกับการรับมือเบนท์ แต่ยังดีว่าการเข้าสกัดยังไม่ได้หลอนตามไปด้วย และท้ายเกมที่โดนบอมบ์ก็ช่วยสกัดได้ดี

สเคอ เทล - ครึ่งแรกจัดการเบนท์แทบไม่ได้ คู่ต่อสู้พักบอล, โหม่งชงได้ตลอด ครึ่งหลังดีขึ้นพอสมควรแต่ก็ดันมาพลาดทำเสียประตูเข้าไปอีก ฟอร์มโดยรวมเอาจริงๆ ก็ไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร

ฟลานาแกน - ผีจอห์นสันเข้าสิง วันนี้เชื่อมเกมค่อนข้างดี พลาดบ้างแต่ไม่มากนัก วิ่งสอดขึ้นหน้าได้ดีหลายครั้ง แต่เกมรับมีปัญหา แน่นอนส่วนนึงเป็นเพราะต้องเติมสูงทำให้ลงไม่ค่อยทัน แต่จังหวะที่ควรจะลงทันก็ดันไม่ลง เข้าพรวดโดนแตะหลบไปก็หลายครั้งอีกต่างหาก

เจอราร์ด - ช่วงครึ่งแรกเก็บบอลจังหวะสองได้ไม่ค่อยดีนัก แต่มาโชว์ทีเด็ดกับการเล่นฉาบฉวยให้ทีมตีเสมอได้ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ครึ่งหลังต้องขึ้นไปเล่นสูงมากขึ้นทำได้ดีขึ้น รองบอลที่ไปต่อไม่ได้แล้วกระจายบอลได้ดี สุดท้ายยิงจุดโทษได้เด็ดขาดช่วยทีมชนะอีกต่างหาก

เฮ นเดอร์สัน - มีปัญหากับการโดนวิ่งไล่มาก พลิกบอลได้ช้าและทำได้แค่เชื่อมเกมเท่านั้น เกมรับก็ช่วยได้ไม่มากเท่าไหร่เพราะฟูแล่มเล่นโยนเอาอย่างเดียว เฮนเดอร์สันจะเหาะจากแดนฟูแล่มมาเก็บบอลจังหวะสองหน้าเขตโทษตัวเองคงไม่ไหว แถมการวิ่งไล่บอลพอเจอพวกคล่องๆ แล้วเอาไม่อยู่ ครึ่งหลังพอปรับมาคอยสลับกับเจอราร์ด มีหน้าที่แค่เชื่อมเกมเป็นหลักและทำได้ตามหน้าที่ ที่สำคัญคือเขาออกบอลพลาดค่อนข้างน้อย

คูตินโย่ - เจอเกมลำบากสุดๆ โดนวิ่งไล่เร็วตลอดเวลาและทำอะไรไม่ได้มาก เพียรจะจ่ายบอลทะลุช่องอยู่ตลอดตั้งแต่ต้นเกม แต่ไม่ดีพอจะเอาชนะการคุมพื้นที่ที่แน่นสุดๆ ของฟูแล่ม อาจจะเอาชนะได้น้อยก็จริงแต่ยังดีที่ยังกดดันได้ (เกือบถึงๆ อยู่หลายครั้ง) แต่อย่างน้อยนัดนี้ก็ยิงตีัเสมอ 2-2 ให้กับทีมได้ในเวลาที่เหมาะเจาะจริงๆ

สเตอลิ่ง - ไม่มีพื้นที่เล่น ดับสนิท ยังรักษาการครองบอลได้ค่อนข้างดี แต่ประสิทธิภาพในการทำเกมแทบไม่มีเลย

สเตอริดจ์ - มีส่วนร่วมกับการเชื่อมเกมเยอะกว่าหลายนัดที่เล่นมา ทำได้ค่อนข้างดีแม้ว่าจะช่วยทำเกมรุกอะไรไม่ได้มากนัก แต่อาวุธหลักอย่างการวิ่งทำทางและการจบสกอร์ยังทำได้ดีไม่ผิดพลาด ทั้งลูกที่ยิงได้ ทั้งการเรียกจุดโทษได้ในนาทีสุดท้าย มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในชัยชนะวันนี้

ซัวเรส - เป็นตัวหลักในการเชื่อมเกมและเก็บบอล คอยวิ่งหาพื้นที่ว่างรับบอลอยู่ตลอดไม่ว่าจะตอนอยู่ซ้ายหรือขวา ช่วยให้ทีมพาบอลไปถึงข้างหน้าได้ดีกว่าทุกคน เสียดายจังหวะสุดท้ายไม่ค่อยมีพื้นที่ให้เล่นไม่ว่าจะยิงหรือจ่าย โดนเร่งและประกบติดในพื้นที่สุดท้ายอยู่ตลอด อุตส่าห์หาช่องยิงได้บ้างก็เฉี่ยวเสากับชนเสา

ตัวสำรอง 

เตย เซยร่า - เล่นได้ตามเนื้อผ้า ออกบอลสวยๆ ที่เป็นมากกว่าบอลเชื่อมเกมได้บ้าง ไม่ถึงกับหวือหวามากนักแต่ก็สร้างประโยชน์ได้มากกว่าสเตอลิ่งในช่วงก่อนหน้า ช่วงทดเจ็บที่ทีมนำแล้วจ่ายบอลโต้พลาดบ่อยไปหน่อย

แอกเกอร์ - ลงมาได้โหม่งอยู่ 3-4 ที ... เยอะอยู่นะสำหรับเวลาแค่ 3-4 นาที

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...แบรนดอน ร็อดเจอร์... เอาจริงๆ คงหนีไม่พ้นเจอราร์ดกับไหวพริบในลูกแรก และจุดโทษสุดกดดัน, สเตอริดจ์กับความคมและการวิ่งทำทางที่ทำให้ได้ลูกแรกและลูกสุดท้าย แต่ที่ขอเลือกร็อดเจอร์เพราะการเลือกการเข้าทำที่ตะบี้ตะบันเจาะทะลุช่องและ บอลบนพื้น อดทนจนได้มาทีละลูกๆ ...เรื่องของเรื่องคือซึ้งที่มีผู้จัดการทีมมีกึ๋นพอที่จะไม่บ้าโยนเข้าไป 81 ครั้งให้กองหลังที่สูงพอๆ กับปีเตอร์ เคร้าช์โหม่งทิ้ง ไม่ว่าเวลาหรือสถานการณ์จะบีบแค่ไหนก็ตาม
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น