วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ลิเวอร์พูล 5-1 อาร์เซนอล (พรีเมียร์ลีค)


...ไม่ต้องกูนเนอร์หรอก ลิเวอร์พัลเลี่ยนก็ช็อค...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-3-3

------สเตอริ่ง----------สเตอริดจ์---------ซัวเรส-------
---------------เฮนเดอร์สัน----------คูตินโย่------------
------------------------เจอราร์ด------------------------
ซิสโซโก้--------ตูเร่----------สเคอเทล----ฟลานาแกน
------------------------มินโยเล่------------------------

_______ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับมืออาร์เซนอล 11 ตัวจริงไม่ต้องถามถึงกันแล้ว ส่วนอาร์เซนอลมีผู้เล่นบาดเจ็บบ้างแต่ 11 ตัวจริงก็ดูไม่ขี้เหร่อะไร ชิรูด์ โอซิล วิลเชียร์ อาเตต้า มาครบ เชมเบอร์เลนที่พึ่งได้กลับมาเป็นตัวจริงไม่นานก็อยู่ในช่วงฟอร์มดี
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาก็ได้ประตูเลยครับ วินาที 53 ซัวเรสได้บอลทางฝั่งซ้ายแล้วเรียกฟาล์วได้ เจอราร์ดเปิดบอลลึกเข้าไปในเขตหกหลา สเคอเทลชาร์จถึงบอล 1-0 หลังจากนั้นก็ยังเป็นลิเวอร์พูลที่วิ่งไล่บอลกลางสนามได้เร็วมาก ตัดบอลได้เร็วและหยุดเกมของอาร์เซนอลได้หมด เมื่อตัดบอลได้ก็เร่งเข้าทำเร็วและหาโอกาสได้ต่อเนื่อง แค่นาที 10 ก็ทำได้อีกครั้ง จากลูกเตะมุม เจอราร์ดเปิดเข้ามาให้สเคอเทลวิ่งโฉบโหม่ง บอลย้อยเข้าเสาสองข้ามหัวตัวคุมเสาเข้าไปได้ 2-0

_______ อาร์เซนอลยังคงตั้งตัวไม่ได้ อย่าว่าแต่จะทำเกมรุกแค่ครองบอลยังทำไม่ได้ ชิรูด์แทบไม่ได้บอล แดนกลางโดนไล่แซะบอลอยู่ตลอด แนวรับก็เล่นเหมือนลืมพกสติมาจากบ้าน ลิเวอร์พูลตัดบอลได้เร่งทำเร็วด้วยบอลทะลุช่องได้ตลอด นาที 17 ก็มานำห่างเข้าไปอีก เฮนเดอร์สันแซะบอลจากโอซิลมาได้ ก่อนที่จะเป็นซัวเรสที่พาบอลลากเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาแล้ว จ่ายข้ามไปเสาสองให้สเตอริ่งชาร์จง่ายๆ 3-0 เท่านั้นยังไม่พอ นาที 20 หนังม้วนเดิม ลิเวอร์พูลตัดบอลได้กลางสนามแล้วเป็นคูตินโย่จ่ายทะลุให้สเตอริดจ์ได้หลุด เข้าไปยิง 4-0 เรียกว่า 20 นาทีแรกนี่อาร์เซนอลแทบไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากโดนอัดอยู่ฝ่ายเดียว

_______ หลังจากสกอร์ 4-0 ไปแล้วเกมถึงเริ่มช้าลง อาร์เซนอลครองบอลได้มากขึ้นแต่พาบอลมาไม่ค่อยถึงหน้าเขตโทษ หาโอกาสยิงไม่ได้เลย ทั้งยังไล่บอลน้อยและช้า เล่นเหมือนรอกลับเข้าไปห้องแต่งตัวอย่างเดียว ส่วนทางลิเวอร์พูลเองก็หันมาเคาะบอลกันมากขึ้น มีช่องก็ค่อยลองจ่ายบอลเข้าทำบ้าง ครองบอลน้อยกว่าเล็กน้อยแต่คุมเกมได้หมดแล้ว ก่อนจะจบครึ่งแรกที่สกอร์ 4-0

_______เข้าครึ่งหลัง อาร์เซนอลลงมาแบบกระตือรือร้นมากกว่าท้ายครึ่งแรก ไล่บอลมากขึ้นและเร็วขึ้นตั้งแต่แดนหน้า จังหวะตั้งเกมบุกก็เน้นการพาบอลเลี้ยงจี้มากกว่าในครึ่งแรก และเน้นขึ้นเกมบุกทางฝั่งซิสโซโก้ค่อนข้างมาก เกมดีขึ้นพอสมควรและเริ่มหาโอกาสยิงได้บ้าง แม้จะไม่กดดันมินโยเล่มากนักแต่ก็พอได้ยิงบ้าง ไม่เหมือนครึ่งแรกที่ได้ลุ้นอยู่แค่ 1 หรือ 2 ครั้ง

_______ ลิเวอร์พูลยังเล่นในจังหวะเดิมคล้ายท้ายครึ่งแรก แต่เกมโต้กลับและการวางบอลยาววันนี้ทำได้ดี อาร์เซนอลยังไม่ทันจะกดดันได้เท่าไหร่ก็มาโดนบอลยาวเล่นงาน นาที 52 ตูเร่เลี้ยงบอลหนีตัวไล่ไปจนถึงกลางสนามแถวสุดเส้นข้างก่อนจะตักบอลข้ามแนว รับให้สเตอริ่งหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในเขตโทษ จังหวะแรกติดเซฟเชสนี่แต่บอลเด้งกลับมาให้ซ้ำได้อีกไม่พลาด 5-0

_______ ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลตั้งเกมน้อยลงแล้วหันไปเน้นการวางบอลยาวมากขึ้น แดนกลางและหน้ายังไล่บอลอยู่บ้างแต่น้อยลงกว่าช่วงครึ่งแรกเยอะ แดนกลางถอยลงมายืนคุมพื้นที่หน้าเขตโทษตัวเองกันเป็นแผง ทำให้อาร์เซนอลได้ครองบอลกลางสนามง่ายขึ้น การเลี้ยงบอลจี้ก็ทำให้พวกเขาพาบอลมาถึงหน้าเขตโทษ, ได้จังหวะยิงมากขึ้นแต่ยังเจาะแนวรับลิเวอร์พูลได้ลำบากและกดดันไม่ได้มาก นัก

_______ ยิ่งเล่นลิเวอร์พูลก็ยิ่งเสียบอลกลับให้คู่ต่อสู้เร็วขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากแดนกลางเติมขึ้นไปช่วยกองหน้าได้น้อยลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพอมีจังหวะที่โต้จนบอลไปถึงเขตโทษอาร์เซนอลได้เป็นระยะ ในเกมรับเริ่มไม่มีแรงวิ่งตามนักเตะอาร์เซนอลจังหวะที่เร่งฝีเท้าไปแล้ว อาศัยการคุมพื้นที่หน้าเขตโทษอย่างแน่นหนาเป็นหลักในการหยุดการโจมตีของอาร์ เซอลซึ่งยังทำได้ค่อนข้างดี นาที 66 อัลเลนได้ลงแทนสเตอริดจ์ เฮนเดอร์สันต้องรับผิดชอบพื้นที่ทางฝั่งขวามากขึ้น

_______ นาที 68 อาร์เซนอลที่โดนไป 5 ลูกแล้วแต่ยังพยายามอยู่ก็ได้รางวัลปลอบใจ เชมเบอร์เลนพาบอลหลุดเข้าไปแถวริมเส้นเขตโทษ เจอราร์ดพุ่งเข้ามาสกัดแต่ช้าไปหนึ่งจังหวะทำให้ไม่โดนบอล อาร์เซนอลได้จุดโทษ อาร์เตต้ารับหน้าที่ยิงไม่พลาด 5-1

_______ หลัีงจากนั้นอาร์เซนอลยังได้ครองบอลต่อเนื่องแต่เจาะแนวรับไม่สำเร็จ เกมริมเส้นยังหาโอกาสเปิดบอลได้ลำบาก เกมรุกหน้าเขตโทษก็หาพื้นที่ว่างไม่ได้เพราะกลางลิเวอร์พูลยืนปิดพื้่นที่ ได้หมด ยิงไกลก็ติดบล็อค นาที 76 ไอบ์ลงแทนเจอราร์ด ถอยอัลเลนลงมายืนต่ำสุด เวลาที่เหลือรูปเกมไม่ได้ต่างจากเดิมมากนัก อาร์เซนอลยังบุกเป็นส่วนใหญ่แต่ก็หาโอกาสได้ไม่มากนัก ลิเวอร์พูลเองหนักไปทางรับแต่ยังมีลูกโต้ยาวที่ดีอยู่เรื่อยๆ กลายเป็นฝ่ายที่ได้ลุ้นประตูมากกว่าเสียอีก แต่ก็ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ นาที 85 อัสปาสได้ลงมาแทนซัวเรสอีกคนแต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน จบเกมด้วยสกอร์ 5-1
-----------------------------------------

_______ จบตั้งแต่ 20 นาทีแรกแล้วครับ ดูแล้วสงสารเชสนี่ย์เลยทีเดียว

_______ ลิเวอร์พูลวันนี้เล่นคล้ายกับวันทีเ่จอเอฟเวอร์ตัน คือวิ่งไล่เร็วพร้อมๆ กัน ไล่เป็นกลุ่มไม่ได้เข้าทีละคน ซึ่งก็ไม่ได้น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะถ้าถอยลงมารับชะตากรรมก็คงไม่พ้นเป็นแบบ นัดแรกที่เจอกันซึ่งลิเวอร์พูลหาบอลแทบไม่เจอแล้วก็โดนบี้ไปทีละลูก ดังนั้นยังไงลิเวอร์พูลก็ต้องเล่นแบบนี้ แต่มีสาเหตุหลายอย่างที่ำทำให้เกมมันออกมาขาดได้แบบไม่น่าเชื่อ

_______ ประการแรกเลยคือการเปิดแผล 2 ลูกแรกซึ่งได้มาเร็วและทำให้เกมของอาร์เซนอลเสียศูนย์ไปเลย ทั้ง 2 ลูกได้มากจากลูกตั้งเตะ ทั้งฟรีคิกและเตะมุม คนเปิดคนยิงก็เป็นคนเดิมทั้งสองครั้ง ฤดูนี้ลิเวอร์พูลขัดเกลาลูกตั้งเตะมาได้ดีขึ้นกว่าหลายฤดูที่ผ่านมาและได้ ประตูจากลูกตั้งเตะเยอะทีเดียวครับ ตั้งเกือบครึ่งจากทั้งหมดที่ำทำได้ ซึ่งนับเฉพาะราวๆ 10 นาทีแรก ลิเวอร์พูลรุกได้ดีอยู่ก็จริง แต่ถ้าไม่มีลูกตั้งเตะที่มีประสิทธิภาพแบบนั้นกว่าจะได้ลูกแรกคงต้องเหนื่อย อีกสักพัก แต่พอได้แถมได้ถึง 2 ลูก ทำให้เกมมันเปลี่ยนไปหมดตั้งแต่ต้นเกมเลย

_______ ประการต่อมาคือการตัดสินของผู้ตัดสิน ไมเคิล โอลิเวอร์...พูล โอเค ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่าผู้ตัดสินเข้าข้างหรอก  ยิ่งถ้าดูทั้งเกมยิ่งไม่รู้สึกแบบนั้น แต่จังหวะสำคัญๆ ในช่วงต้นเกม มีหลายครั้งที่มันหวุดหวิดจะล้ำหน้า ยืนไลน์เดียวกันเป๊ะ หวุดหวิดจะฟาล์ว แต่หลายจังหวะเหล่านั้นผู้ตัดสินเป่า(และไม่เป่า)แล้วลิเวอร์พูลได้ประโยชน์ หมด ซึ่งหลายจังหวะเหล่านั้น ในบางวันมันต้องมีบางครั้งที่ลิเวอร์พูลน่าจะเสียประโยชน์มากกว่านี้ พอเป็นแบบที่เกิดขึ้นมันเลยยิ่งไปกันใหญ่

_______ ประการที่สาม ผู้เล่นอาร์เซนอล พวกเขาเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานมากโดยเฉพาะในช่วง 20 นาทีแรก จริงอยู่ว่าลิเวอร์พูลเข้าไล่บอลได้เร็วแล้วเข้ากันไปเป็นฝู...เอ้ย แผง เก่งกว่านี้ก็รอดยาก แต่พวกเขาก็เอาตัวรอดได้แย่กว่าที่เคยไปมาก กองหน้าเก็บบอลไม่ได้ กองกลางอย่าว่าแต่จะพลิกบอล แค่ผ่านบอลเชื่อมเกมยังหนีไม่พ้นการวิ่งไล่ หนักสุดอยู่แนวรับที่ช่วง 20 นาทีแรก คุมพื้นที่ได้เข้าขั้นห่วยแตก เรียกว่าผู้เล่นลิเวอร์พูลไม่ว่าใครจ่ายบอลทะลุเมื่อไหร่เป็นหลุด แนวรับดักบอลแทบไม่ได้เลย สองลูกแรกก่อนจะได้ฟรีคิกก็เป็นเพราะบอลทะลุช่องที่กองหลังคุมไม่ดีนี่ล่ะ ลูก 3-4 นี่ยิ่งชัดว่าเปิดช่องไว้เยอะมาก เละสิครับ

_______ ประการสุดท้ายซึ่งสำคัญที่สุด ฟอร์มส่วนตัวของผู้เล่นลิเวอร์พูลเอง โดยเฉพาะ 20 นาทีแรก ทุกคนทำหน้าที่ตัวเองได้ดี นอกจากจะไม่ผิดพลาดแล้วยังสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ด้วย เพราะถ้าพวกเขาทำพลาดมากกว่านี้สักหน่อย ต่อให้อาร์เซนอลเล่นหลุดฟอร์มแค่ไหนมันก็ยากที่จะได้ถึง 4 ประตูภายใน 20 นาที

_______ ในช่วงครึ่งหลัง แม้ลิเวอร์พูลจะิเริ่มหมดแรงให้เห็นแล้ว แต่ด้วยสกอร์ที่ขาดกระจายก็ทำให้ไม่มีความกดดันใดๆ ทั้งสิ้น อันที่จริงต้องชมอาร์เซนอลด้วยซ้ำที่โดยไป 4 ลูกแต่กลับลงมาครึ่งหลังยังมีแรงฮึด การปรับเกมรุกเน้นเลี้ยงจี้มากขึ้นได้ผลพอสมควรเลย แต่ก็ด้วยเหตุผลเดิมคือสกอร์ขาดเลยทำให้กดดันไม่ได้ ถ้าถูกนำอยู่แค่ 1 หรือ 2 ลูก อาร์เซนอลน่าจะทำได้ดีกว่านี้ในช่วงครึ่งหลังครับ

_______ นัดนี้มีความสุขกับการเปลี่ยนตัวครับ เพราะเป็นครั้งแรกเลยมั้งถ้าจำไม่ผิด ที่ร็อดเจอร์ถอดเจอราร์ดไปพัก เท่านั้นยังไม่พอ ยังถอดออกหมดทั้งสเตอริดจ์, ซัวเรส ซึ่งก็ควรจะเป็นแบบนั้นเพราะทีมชุดนี้เล่นกันได้บ้าพลังมากครับ 11 ตัวจริงถ้าไม่เจ็บก็ไม่เปลี่ยนเลย แถมแต่ละนัดๆ ก็ไม่ค่อยจะถอดใครมาพักด้วย แต่อย่างว่าแหล่ะครับ เกมมันขาดกระจายร็อดเจอร์เลยกล้าเปลี่ยน ถ้านำแค่ 2 ลูกหรือแม้กระทั่ง 3 ผมว่าทั้งสามคนอาจจะได้เล่นยันจบเกมนั่นแหล่ะ

_______ นี่เป็นอย่างเดียวที่ห่วงครับ อยากให้ตัวหลักได้พักบ้าง จะตะบี้ตะบันใช้งานกัน 90 นาทีเต็ม อาทิตย์ชนอาทิตย์แบบนี้ไม่ไหวหรอก
-------------------------------

นัดนี้เล่นได้ดีจริงๆ

มินโยเล่ - ครึ่งแรกไม่รู้ว่าอยู่ในสนามมั้ย ส่วนครึ่งหลังมีลูกยากให้เซฟอยู่ครั้งสองครั้งซึ่งทำได้ดี นอกนั้นก็มีแต่ลูกง่ายๆ ทั้งนั้น เตะเปิดเกมดีกว่าเกมที่แล้วพอสมควร

ซิสโซโก้ - เกมรับทำได้ค่อนข้างดี แย่งบอลกลับมาได้น้อยไปหน่อยแต่เข้าสกัดได้มาก หยุดเกมรุกได้ดี คู่ต่อสู้เปิดบอลเข้ากลางลำบาก เชื่อมเกมนัดนี้ใช้ได้ มีปัญหาหน่อยก็ช่วงครึ่งหลังที่มีจังหวะที่หลุดตำแหน่งคุมพื้นที่หลวมให้เห็นบ้างเหมือนกัน

ตูเร่ - กลับมาเล่นในฟอร์มที่ดีมากอีกครั้ง จัดการบอลที่เปิดเข้ามาในเขตโทษได้ตลอดเกม ผ่านบอลเชื่อมเกมก็ค่อนข้างดี แถมมีทีเด็ดในการวางบอลยาวให้สเตอริ่งได้หลุดเดี่ยวไปยิงลูกที่ 5 ด้วย นับเป็นกองหลังที่เล่นเกมรับได้ดีที่สุดของวันนี้

สเคอเทล - ทำได้ถึงสองประตูในช่วงต้นเกม ประกบกองหน้าได้ดีโดยเฉพาะการชิงจังหวะเล่นลูกโ่ด่ง

ฟลานาแกน - อ่านเกมและตัดสินใจได้ดีขึ้น มีหลายจังหวะที่หุบเข้ากลางมาช่วยหยุดคู่ต่อสู้ได้ เข้าบอลหนักขึ้น ดีตรงที่หยุดคู่ต่อสู้ได้ดีกว่าเดิมแต่บางจังหวะก็โฉ่งฉ่างไปหน่อย วันนี้ไม่ค่อยได้ช่วยเชื่อมเกม แต่จังหวะที่ได้เล่นก็ผ่านบอลได้ดี

เจอราร์ด - ครึ่งแรกไม่มีปัญหาอะไร เพราะบอลอาร์เซนอลตายตั้งแต่วงกลมกลางสนามแล้ว ครึ่งหลังที่โดนเลี้ยงจี้บ่อยขึ้นเริ่มมีปัญหาให้เห็นเล็กน้อยกับการพลิกตัว แล้ววิ่งตามซึ่งวิ่งไม่ค่อยทัน จังหวะเสียจุดโทษเพื่อนพลาดก็ใช่แต่เจ้าตัวก็ช้าไปจังหวะนึงเช่นกัน จังหวะเข้าสกัดส่วนใหญ่ยังใช้ได้ และวันนี้เก็บบอลจังหวะสองในเกมรับได้ดี

เฮนเดอร์สัน - ครึ่งแรกเด่นมากกับการวิ่งไล่, แย่งบอลกลับมาและออกบอลเร็ว ครึ่งหลังวิ่งน้อยลงแต่ก็ยังนับว่าเป็นแดนกลางที่วิ่งเยอะกว่าชาวบ้านอยู่ดี และยังคงออกบอลได้เร็วและค่อนข้างแม่น เป็นวันที่เจ้าตัวเล่นได้ดีมากอีกนัดหนึ่ง

คูตินโย่ - กลับมาเป็นคูตินโย่คนเดิมแบบเต็มตัวแล้ว เล่นง่ายไม่ฝืน แตะบอลหนีตัวไล่ได้ดี เชื่อมเกมได้ลื่นไหล จ่ายบอลทะลุช่องน้อยลงแต่สวนทางกับคุณภาพที่มีมากขึ้น ช่วงครึ่งหลังได้บอลน้อยลงเพราะทีมเปลี่ยนวิธีเล่นแล้ว ไล่บอลไม่ดีเท่านัดเอฟเวอร์ตันแต่ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว

สเตอริ่ง - กล้าไปเองมากขึ้น เล่นบอลจังหวะแรกได้ดีขึ้นโดยเฉพาะจังหวะการแตะบอลไปข้างหน้าแล้วสปีดตามไป เอาบอล การจบสกอร์ยังดูมีปัญหาอยู่บ้าง และการจ่ายบอลก็ไม่กับดี แต่สิ่งที่สเตอริ่งทำได้ดีมากๆ ในวันนี้คือการตัดสินใจ ในเกมรับก็ช่วยทีมได้พอสมควร ซึ่งดีกว่าช่วงก่อนที่จะกลับมาเป็นตัวจริงที่เจ้าตัวช่วยอะไรเกมรับไม่ได้เลย

สเตอริดจ์ - วิ่งทำทางและจับบอลได้ดี จังหวะจบสกอร์มีไม่มากนักแต่ก็ทำได้ดี วันนี้เคลื่อนที่ในจังหวะไม่มีบอลได้ดีมาก

ซัวเรส - ได้บอลน้อยลงไป (บอลไปที่สเตอริ่งมากขึ้น) ยิงไม่ได้แต่การจบสกอร์ที่จริงไม่ได้แย่เลย มีทั้งยิงชนเสาและยิงเกือบเสียบสามเหลี่ยมแต่โดนเซฟ จ่ายบอลเข้าทำในจังหวะที่ได้ลูก 2 ได้ดีั ที่ทำได้ดีสำหรับวันนี้อยู่ที่การเก็บบอลและการเชื่อมเกม

ตัวสำรอง 

อัลเลน - อ่านเกมได้ค่อนข้างดี แต่ขาดลูกหนักแบบที่เจอราร์ดมี บางจังหวะเบียดได้แล้วแต่เอาไม่ค่อยอยู่

ไอบ์ - ไม่ได้ทำอะไรมากนัก

อัสปาส - ได้โอกาสแต่ไม่ได้บอล

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ :
...ราฮีม สเตอริ่ง... นัดนี้เลือกได้หลายคนเลย แต่ขอเลือกสเตอริ่งเพราะ "การตัดสินใจ" ที่ทำได้น่าประทับใจขึ้นมาก ไอ้ลูกงึกๆ งักๆ ได้บอลแล้วไม่รู้จะทำอะไรโดนเค้าแซะไปดื้อๆ นี่แทบไม่เห็นแล้ว แถมยิงได้ 2 ลูกอีกต่างหาก
------------------------------------------------------------


Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น