วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ลิเวอร์พูล 3 - 1 เซนิต (ยูโรป้าลีค)


ได้แค่เกือบอีกหนึ่งนัด
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-1-4-1

----------------------ซัวเรส------------------------
เฮนเดอร์สัน----อัลเลน------เจอราร์ด--------ดาวนิ่ง
-----------------------ลูคัส-------------------------
เอนริเก้-----แอกเกอร์------คาราเกอร์-----จอห์นสัน
-----------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับเซนิตในเกมยูโรป้าที่ไปแพ้มาก่อนในนัดแรก นัดนี้สเคอเทลเจ็บ รวมไปถึงสเตอริดจ์กับคูตินโย่ที่ลงสนามไม่ได้ ร็อดเจอร์เลือกใช้อัลเลนลงตัวจริง นอกนั้นยังเป็นชุดหลักที่เล่นด้วยกันมาตลอด
-------------------------------------------------------

                เปิดเกมมาทั้งสองฝ่ายพยายามเข้าไล่บอลเร็ว เร่งไม่ให้คู่ต่อสู้ตั้งเกมได้ถนัด ลิเวอร์พูลพยายามใช้บอลยาวข้ามกองหลังให้ซัวเรสวิ่งไล่บ่อยครั้งและได้ผลพอ สมควร ส่วนเซนิตแม้จะมีความได้เปรียบอยู่สองประตูแต่ไม่ได้มาเล่นอุด ไล่บอลตั้งแต่แดนหน้าและตั้งเกมสู้ตามจังหวะ ช่วงต้นเกมค่อนข้างเปิดแต่ยังทำอะไรกันไม่ได้ถัด

               ผ่าน 15 นาทีไปลิเวอร์พูลเริ่มไล่สูงน้อยลง หันมาเน้นไล่ในแดนตัวเอง แต่ในเกมรุกยังดันกันขึ้นสูงต่อไป ในขณะที่เซนิตก็ไม่ได้เร่งเกมมากนัก พยายามเน้นคุมพื้นที่ แต่แล้วลิเวอร์พูลมาก่อนในนาที 19 คาราเกอร์จ่ายบอลคืนหลังพลาดโดนฮัคฉกไปดวลเดี่ยวกับเรน่าและยิงได้สำเร็จ 1-0

               หลังจากเสียประตู ลิเวอร์พูลยังเดินเกมรุกต่อไปแม้จะพาบอลไปถึงแดนหน้าได้ต่อเนื่องแต่ยังเปิด บอลเจาะแนวรับไม่สำเร็จ โอกาสได้ยิงยังค่อนข้างน้อย ส่วนเซนิตที่เน้นเกมสวนกลับมาขึ้นยังผ่านบอลทะลุไม่ถึงเขตโทษเช่นกัน ในที่สุดแม้ลิเวอร์พูลจะเจาะไม่ได้ในเกมเปิดแต่ยังมาทำได้จากฟรีคิก นาที 28 จากจังหวะที่แอกเกอร์พาบอลทำชิ่งเติมขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษและเรียกฟาลว์ได้ ซัวเรสยิงทะลุึกำแพงเข้าไปได้สำเร็จ 1-1

               เกมยังคงเล่นกันไปตามจังหวะเดิม ลิเวอร์พูลได้ลุ้นเป็นระยะแต่ไม่ค่อยได้ยิง ส่วนเซนิตอาศัยความผิดพลาดของลิเวอร์พูลพอได้ลุ้นประตูเช่นกัน ลิเวอร์พูลมามีความหวังเพิ่มขึ้นในนาที 43 เอนริเก้ทำชิ่งหลุดไปถึงเส้นหลักก่อนหักเข้ากลางแฉลบกองหลังไปเข้าทางอัลเลน ซ้ำเข้าไปได้ 2-1 และจบครึ่งแรกที่สกอร์ดังกล่าว

               เข้าครึ่งหลัง เซนิตลงมารับต่ำกว่าเดิม ในขณะที่ลิเวอร์พูลเร่งหนักขึ้นไปอีก แบ็คสองข้างขึ้นสุดตลอด แผงกลางแม้แต่ลูคัสยังหาจังหวะดันขึ้นไปสูงเกือบถึงเขตโทษ แอกเกอร์กับคาราเกอร์ถ้าตัดบอลได้ก็วิ่งเติมขึ้นหน้าเช่นกัน ทำให้เกมในช่วงต้นครึ่งหลังเป็นลิเวอร์พูลกดดันแนวรับได้อย่างต่อเนื่อง

               นาที 59 ลิเวอร์พูลมาทำได้ดีจากฟรีคิกอีกครั้ง เมื่อซัวเรสเรียกฟาลว์ได้หน้าเขตโทษก่อนจะเป็นคนปั่นเสียบเสาเข้าไปเองเป็น 3-1 หลังจากได้ประตู ร็อดเจอร์ส่งเชลวี่ย์กับอัสไซดี้ลงมาแทนอัลเลนกับเฮนเดอร์สันทันที และยังเร่งเกมอย่างต่อเนื่อง ส่วนทางเซนิตปรับแทคติคเล็กน้อย เริ่มรับลึกน้อยลง ไล่บอลมากขึ้นและพยายามครองบอลมากขึ้น ไม่โต้ด้วยบอลยาวมากนัก ทำให้ลิเวอร์พูลเริ่มตั้งเกมรุกได้ลำบากกว่าช่วงต้นครึ่งหลัง

               เมื่้อเซนิตไล่สูงบ่อยขึ้นและตั้งเกมรุกมากขึ้นทำให้เกมกลับมาเปิดแลกกันอีก ครั้ง เซนิตไล่สูงจนลิเวอร์พูลตั้งเกมไม่ถนัดและหลายจังหวะตัดบอลได้เกือบถึงขั้น ได้ประตู ส่วนลิเวอร์พูลแม้เกมจะกดดันได้ดีและได้ลุ้นตลอดแต่ยังหาโอกาสยิงได้ไม่มาก นัก เข้าช่วง 10 นาทีท้ายผู้เล่นลิเวอร์พูลหลายคนออกอาการหมดแรงทำให้มีปัญหาจากการโดนวิ่ง ไล่หนักเข้าไปอีก

               นาที 84 สเตอริ่งได้ลงมาแทนดาวนิ่ง ลิเวอร์พูลบุกได้เท่าที่สังขารจะอำนวย ได้ลุ้นแต่ไม่ได้ประตูก่อนจะจบเกมไปด้วยชัยชนะ 3-1 ...แต่ตกรอบ (ผลรวม 3-3 แต่ตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือน)
 -----------------------------------------

               11 ตัวจริงในวันนี้แปลกใจเล็กน้อยที่ร็อดเจอร์เลือกอัลเลนก่อนปีกแ้ท้ๆ อย่างอัสไซดี้กับสเตอริ่ง ส่วนเรื่องแทคติคถึงแม้จะเปิดหน้าแลกและดันสูงตามสถานการณ์บังคับ แต่มีรายละเอียดเล็กน้อยที่น่าสนใจ ช่วงครึ่งแรกลิเวอร์พูลใช้บอลยาวข้ามกองหลังให้ซัวเรสบ่อยครั้งซึ่งอันที่ จริงก็ค่อนข้างได้ผล เพียงแต่ซัวเรสจับบอลพลาดไปนิดๆ หน่อยๆ ไม่งั้นประตูแรกอาจไม่ใช่ของเซนิต ส่วนต้นครึ่งหลังที่เซนิตถอยลงไปต่ำ ลิเวอร์พูลดันแผงกลางขึ้นสูงทันที หันมาเน้นบอลสั้นในการเข้าทำมากขึ้นและตลอดเกมหลีกเลี่ยงการโยนบอลโด่งอย่าง ชัดเจน ดูเฉพาะเกมนี้ร็อดเจอร์เลือกแผนมาได้ไม่เลวทีเดียว

               อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตัดสินเกมนี้คือเซนิต นอกจากจะได้เปรียบสองประตูก่อนเกมเริ่มแล้ว พวกเขายังเล่นกันละเอียดมาก อาศัยความได้เปรียบที่ได้พักมากกว่าร่างกายสดกว่ากดดันน้อยกว่า ใช้พละกำลังวิ่งไล่บอลในแดนหน้าอย่างได้ผล นอกจากจะได้มา 1 ประตู(ซึ่งทำให้เข้ารอบด้วย) ยังสร้างโอกาสจนเกือบเป็นประตูอยู่อีก 2-3 ครั้ง และอย่างน้อยที่สุดก็ชลอเกมรุกของลิเวอร์พูลได้เป็นช่วงๆ โดยเฉพาะ 10 นาทีสุดท้ายที่ลิเวอร์พูลหมดแรงกันแล้วยิ่งเห็นได้ชัด

                เซนิตไม่ได้ทำอะไรงี่เง่าอย่างการมาเล่นเกมนี้แบบตั้งหน้าตั้งอุด ช่วงต้นครึ่งหลังที่ลงมารับลึกหน่อยจนโดนกดดันอยู่พักใหญ่พอโดนเข้าไปลูกแทน ที่จะเสียสติถอยกันลงไปรับ กลับปรับเกมของตัวเองมาวิ่งไล่และยืนสูงขึ้นจนลิเวอร์พูลตั้งเกมกลางสนาม ลำบาก ที่สำคัญที่สุดคือจังหวะเคลียร์บอลที่แนวรับเซนิตเคลียร์ได้ดี บอลส่วนใหญ่ไปทางเดียวกับฮัคที่รออยู่ ซึ่งแม้ลิเวอร์พูลจะตัดกลับมาได้เป็นส่วนใหญ่แต่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร

               การเสียเปรียบสองประตู แถมยังมาโดนก่อนในนัดนี้ ลิเวอร์พูลยังอุตส่าห์ฮึดยิงได้ถึง 3 ลูกและทำให้ทีมมีหวังเข้ารอบจนถึงนาทีสุดท้ายถือว่าทำได้ดีและน่าประทับใจ เอามากๆ... แต่

               ...เซนิตสมควรเข้ารอบแล้วครับ...
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ค่อนข้างดี

เรน่า - เปิดบอลไม่ค่อยดี พาหลอนอยู่หลายจังหวะ ส่วนประตูที่เสียไปก็คงโทษเขาลำบากเพราะเป็นจังหวะตัวต่อตัว

จอห์นสัน - เชื่อมเกมและเติมเกมรุกได้ดุดัน ทำบอลเสียน้อย เกมรับลงทันบ้างไม่ทันบ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นเสียหาย

แอกเกอร์ - พาบอลขึ้นหน้าได้ดีหลายครั้ง ผ่านบอลในแดนหลังหนีการวิ่งไล่พอใช้ได้ หลายครั้งหวาดเสียวไปหน่อยและมีพลาดให้เห็นบ้าง ส่วนเกมรับวิ่งเบียดได้ค่อนข้างดี

คาราเกอร์ - พลาดหนักจนทำให้ทีมเสียประตูสำคัญ แต่โดยรวมคาราเกอร์เล่นได้ดีเอามากๆ เด่นกว่าแนวรับทุกคน ดักตัดบอลก่อนถึงกองหน้าได้ดีหลายครั้งและเข้าสกัดได้แม่นยำ

เอนริเก้ - เล่นเกมรับมากกว่าจอห์นสันรวมไปถึงเล่นได้หวาดเสียวกว่าด้วย เก็บบอลไว้กับตัวนานจนเกือบพลาด(และพลาด)ให้เห็นเป็นระยะ ส่วนเกมรุกเชื่อมเกมพอใช้ได้และเล่นจังหวะสุดท้ายได้ค่อนข้างดี

ลูคัส - เกมนี้เล่นได้ค่อนข้างง่ายเพราะเซนิตไม่ดันแผงกลางขึ้นมามากนัก ซึ่งลูคัสก็เล่น ได้ดีมาก อ่านเกมและดักตัดบอลได้บ่อย ไม่แปะบอลให้เพื่อนแบบไร้สาระ ถ้าข้างหน้ามีพื้นที่หรือมีตัวเลือกดีกว่าก็พร้อมจะไปข้างหน้า

เจอราร์ด - เล่นทั้งเกมรุกเกมรับ วางบอลยาวได้ดีและเติมขึ้นไปเล่นแถวหน้าเขตโทษค่อนข้างดี แม้จะพาบอลตะลุยผ่านไปไม่ได้แต่ออกบอลไปพื้นที่ว่างได้ดีตลอด ช่วงกลางครึ่งหลังเริ่มหมดแรง กระโดดไม่ขึ้น เร่งสปีดไม่ไหว

อัลเลน - ออกบอลในเกมรุกได้ไม่ดีเลย หนักไปทางเชื่อมเกมมากกว่าทำให้ภาระหนักไปตกอยู่กับซัวเรส แม้จะพลาดน้อยแต่จากตำแหน่งที่เล่นอยู่ทีมต้องการบอลในเกมรุกจากเขามากกว่า นี้ อย่างไรก็ตาม วันนี้เติมเข้าเขตโทษไปทำประตูได้อยู่เหมือนกัน

เฮนเดอร์สัน - เล่นได้ตามแทคติค ไม่ครองบอลกับตัวนานและเล่นเร็วในพื้นที่หน้าเขตโทษ แม้จะดูเร่งๆ ขัดกับธรรมชาติเจ้าตัวอยู่สักหน่อยและผลงานส่วนตัวก็ไม่ถึงกับดีนัก แต่โดยรวมก็ถือว่าช่วยทีมได้ดีกว่าทั้งอัลเลน,เชลวี่ย์,สเตอริ่ง)

ดาวนิ่ง - เชื่อมเกมแดนกลางได้สุดยอดมาก ไม่ได้ยืนรออยู่ที่ริมเส้นอย่างเดียว แต่จังหวะเพื่อนโดนบีบจะวิ่งหาที่ว่างคอยรับบอลอยู่ตลอด ช่วยให้ทีมตั้งเกมจากหลังไปหน้าได้ดี กระชากบอลไปเปิดได้พอสมควร แต่ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่คือจังหวะสุดท้ายกดดันแนวรับไม่ค่อยได้ จะตัดเข้ากลางมายิงก็ไม่มี เปิดก็ไม่ค่อยตรงเพื่อน จะเติมไปยิงก็หาที่ว่างในเขตโทษไม่ได้

ซัวเรส - ยิงฟรีคิกได้ดีถึง 2 ครั้งเป็น 2 ประตู มีส่วนร่วมกับเกมมาก ถ้าไม่มีซัวเรสเกมของลิเวอร์พูลวันนี้บุกไม่ขึ้นแน่ ต้องลงมาล้วงบอลเพื่อทำเกมเองอยู่เกือบทั้งเกมเลยไม่หาจังหวะยิงเองไม่ค่อย ได้เท่าไหร่

ตัวสำรอง

เชลวี่ย์ - เข้าบอลโฉ่งฉ่าง สร้างโอกาสให้ทีมได้น้อย ได้ยิงลูกส้มหล่นดันหลุดกรอบอีกต่างหาก

อัสไซดี้ - กดดันแนวรับได้พอสมควร พาบอลเลี้ยงจี้คู่ต่อสู้ได้ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ถึงกับลงมาเปลี่ยนเกมได้

สเตอริ่ง - แทบไม่ได้บอล

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...หลุยส์ ซัวเรส... นอกจากสองประตูที่ทำได้แล้ว วันนี้ซัวเรสทำทุกอย่างให้กับทีม ทั้งปั้นเกม เรียกฟาลว์ จ่ายให้เพื่อนเข้าทำ เล่นชิ่ง เลี้ยงจี้ เรียกเตะมุม ฯลฯ ...เห็นแล้วก็เหนื่อยแทน
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น