วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ลิเวอร์พูล 0 - 2 เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน (พรีเมียร์ลีค)


รูปเกมคุ้นๆ มั้ย?
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

----------------------ซัวเรส------------------------
เฮนเดอร์สัน----------เชลวี่ย์-----------------ดาวนิ่ง
-------------ลูคัส---------------เจอราร์ด------------
เอนริเก้-----แอกเกอร์----คาราเกอร์-------จอห์นสัน
-----------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์รับมือเวสต์บรอมวิช นัดนี้ร็อดเจอร์ปรับเพียงแค่คนเดียวคือเชลวี่ย์ได้ลงมาแทนสเตอริดจ์ที่ไม่ ฟิต โดยดันซัวเรสกลับไปเป็นหน้าเป้า เชลวี่ย์ยืนหน้าต่ำ นอกนั้นเหมือนเดิมจากนัดแมนฯ ซิตี้
-------------------------------------------------------

                เปิดเกมมาก็วิ่งไล่ใส่กัน เร่งและเล่นกันเร็วทั้งสองฝ่าย บอลถึงเขตโทษทั้งคู่แต่ยังหาจังหวะยิงกันได้ลำบาก ลิเวอร์พูลขึ้นเกมรุกกันได้ไม่ถนัดนักเพราะโดนไล่เยอะ แต่ใช้เกมวิ่งไล่เร็วปิดเกมคู่ต่อสู้ได้ดี ส่วน WBA เองอาศัยบอลเร็วฉาบฉวยแต่เกมไม่ต่อเนื่อง ผ่าน 10 นาทีแรกของไปแล้วเกมถึงได้เริ่มช้าลง

               ยิ่งเล่นลิเวอร์พูลยิ่งเป็นฝ่ายได้เปรียบมากขึ้นจากผลของการเอาชนะได้ใน แดนกลาง เก็บบอลจังหวะสองได้ดีทั้งรุกและรับ ทาง WBA ไม่สามารถพาบอลไปได้ถึงแดนหน้าและเกมรับทำได้แค่ชะลอเกมรุกแต่หยุดไม่อยู่ บอลยังมาป้วนเปี้ยนถึงเขตโทษตัวเองอยู่เรื่อยๆ ที่ยังทำได้ดีขึ้นพื้นที่สุดท้ายที่ลิเวอร์พูลเปิดบอลเข้าไปลุ้นทำประตูได้ ยากลำบาก ได้ลุ้นแต่ไม่ค่อยได้ยิง

               ลิเวอร์พูลยังเดินหน้าบุกต่อไป ขยับเข้าพื้นที่สุดท้ายได้บ้างเป็นระยะ และได้จบสกอร์พอสมควร แต่แผงหลังโดยเฉพาะคู่เซนเตอร์และผู้รักษาประตูของ WBA เล่นได้สุดยอด ช่วยกันสกัดจังหวะสำคัญและเซฟได้ดีหลายครั้ง จนกระทั่งเข้าช่วงท้ายครึ่งแรกเกมรุกของลิเวอร์พูลถึงได้ดูเพลาลงไปก่อนที่ จะจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

               เข้าครึ่งหลัง WBA กลับลงมาเร่งเกม เล่นเร็วในจังหวะรุกมากขึ้น บอลมาถึงหน้าเขตโทษลิเวอร์พูลได้อยู่ราวๆ 5 นาทีแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก่อนที่เกมจะกลับเป็นของลิเวอร์พูลเหมือนเดิม แต่บุกเท่าไหร่ๆ ก็ทำประตูขึ้นนำไม่ได้ กว่าจะเจาะเข้าไปจนมีโอกาสได้จบก็แทบแย่ พอมีโอกาสได้ยิงก็ขาดนิดขาดหน่อยไม่คมพอจะเป็นประตู

               ถึงนาที 60 บอรินี่กับสเตอริ่งได้ลงมาแทนเชลวี่ย์กับเฮนเดอร์สัน บอรินี่ได้ยืนหน้าเป้า ถอยซัวเรสลงมาหน้าต่ำและสเตอริ่งยืนทางซ้าย ถึงตรงนี้ลิเวอร์พูลโหมเกมรุกเต็มที่ แผงหลังดันสูงและแบ็คเติมขึ้นไปเล่นเกมรุกและยืนสูงเชื่อมเกมด้านหน้าตลอด WBA ต้องถอยลงไปรับกันอยู่ในพื้นที่สุดท้ายอย่างเดียว เก็บบอลไม่ได้ โต้ไม่ขึ้น ได้แต่ช่วยกันสกัดและพยายามดึงเกมช้าทุกจังหวะที่ทำได้ พอเอาตัวรอดไปได้เรื่อยๆ

               ลิเวอร์พูลมาได้โอกาสดีที่สุดที่จะขึ้นนำในนาที 76 เอนริเก้วางยาวเข้าเขตโทษให้ซัวเรส ซัวเรสวิ่งเบียดกับกองหลังแล้วล้มลงได้จุดโทษ เจอราร์ดรับหน้าที่ยิงแต่ยิงไปติดเซฟเบน ฟอสเตอร์ ชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย ร็อดเจอร์ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่งคูตินโย่ลงมาแทนดาวนิ่งทันที

               แต่แล้วจากการที่พื้นที่แดนกลางเริ่มว่างมากขึ้นเพราะขาดตัวไล่ทั้งเฮนเดอร์ สันและเชลวี่ย์ รวมไปถึงการดันขึ้นไปเล่นเกมรุกกันเต็มตัว ทำให้ WBA หาโอกาสโต้กลับขึ้นมาได้บ้าง นาที 80 มูลุมบูได้โอกาสพาบอลมาถึงหน้าเขตโทษและยิงไกลไปติดเซฟเรน่า จากจังหวะต่อเนื่องที่ได้ลูกเตะมุม คราวนี้เป็นเซนเตอร์อย่างแมคคัลลี่ที่สลัดหนีตัวประกบโฉบโหม่งเข้าไปได้สำเร็จ 1-0

               หลังได้ประตูนำ เกมของ WBA ดูดีขึ้นทันตาเห็น เก็บบอลได้มากขึ้นและเป็นฝ่ายคุมเกมได้ดีกว่า ลิเวอร์พูลยิ่งเล่นยิ่งลน และมีออกบอลผิดพลาดกันอยู่ตลอด โอกาสลุ้นประตูยิ่งยากมากขึ้นไปอีก เวลาที่เหลือแม้ลิเวอร์พูลจะยังพยายามโหมเกมรุกแต่กลับไม่ได้ลุ้นมากนัก เท่านั้นยังไม่พอ ช่วงท้ายเกมนาที 90.00 พอดีเป๊ะ WBA ยังใช้ลูกโต้กลับเล่นงานได้อีก ลูกากูพลิกบอลหลบแอกเกอร์ก่อนจะหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ บอลลอดตัวเรน่าเข้าไปได้ 2-0 เป็นประตูตอกฝาโลง ปิดเกมไปได้อย่างเด็ดขาดด้วยสกอร์ดังกล่าว
 -----------------------------------------

               ถ้าไม่ได้ดูเกมจริง อาจจะไม่เห็นภาพ แต่ลองนึกดูว่า ก่อนได้ประตูแรก WBA ไม่ได้ยิงเลยสักครั้ง ลูกที่มูลุมบูยิงไกลให้เรน่าเซฟนั่นเป็นลูกแรก และประตู 1-0 เป็นครั้งที่สองที่ได้ยิง รวมไปถึงโอกาสทำประตูของลิเวอร์พูล ระดับประมาณ 25 ครั้ง น่าจะพอให้เห็นภาพได้ดีขึ้นครับ

               เกมวันนี้ร็อดเจอร์เองก็เน้นเต็มที่ ไม่ได้พะวงอะไรกับเกมยูโรป้ามากนักเพราะ 11 ตัวจริงก็จัดมาเต็มที่ไม่น่ามีอะไรดีกว่านี้แล้ว ดูจากแทคติคอย่างเดียว นัดนี้ร็อดเจอร์กับคล๊ากเสมอกัน ฝั่งร็อดเจอร์นั้นเตรียมตัวมาดีกับการปิดเกมรุกของ WBA จากนัดแรกที่เจอกันตายสนิทเพราะโดนโต้ มานัดนี้อัดกองกลางตัวที่ถนัดเกมรับ(แบบวิ่งไล่)อย่างเฮนเดอร์สันกับเชลวี่ย์ลงมา ช่วยกันไล่ตั้งแต่แดนหน้า ทำเอา WBA โต้ไม่ขึ้นและแดนกลางแพ้ขาด กลายเป็นเกมของลิเวอร์พูลอยู่เกือบทั้งเกม ส่วนทางฝั่งคล๊าก วางแผนตีหัวเข้าบ้านเต็มรูปแบบ เร่งเกมช่วงต้นครึ่งแรกกับต้นครึ่งหลัง ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ลงไปรับ แม้รูปเกมจะเป็นรองสุดๆ แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาตามแผนที่วางไว้ได้

               การเปลี่ยนตัวเปลี่ยนแทคติคกลางเกมก็ทำได้ดีพอๆ กัน ฝั่งร็อดเจอร์ปรับก่อนนาที 60 ตัดสินใจส่งตัวรุกอย่างบอรินี่กับสเตอริ่งลงมาเพราะเป็นจังหวะที่ต้องเสี่ยง แล้ว เกมได้เปรียบแต่ไม่ได้ประตูยังไงก็ต้องเสี่ยง แม้ส่วนตัวผมจะรู้สึกว่าปรับเยอะไป ควรจะเปลี่ยนแค่คนใดคนหนึ่งออกก็ตาม แต่ยังพอเข้าใจได้ และ 20 นาทีหลังจากเปลี่ยนตัว(รวมไปถึงการดันแผงหลังขึ้นมาเล่นเกมรุก) ลิเวอร์พูลก็เร่งเกมรุกได้ดีขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้าจริงๆ แต่ผลลัพธ์ยังเหมือนเดิม

               ส่วนทางฝั่งคล๊ากเปลี่ยนทีหลัง เอาลูกากูลงมานาที 74 ซึ่งเป็นช่วงที่แดนกลางของลิเวอร์พูลเริ่มมีพื้นที่แล้ว ณ ตอนนั้นเป็นเกมวัดใจว่าใครจะพลาดก่อนระหว่างลิเวอร์พูลที่โหมหนักกับ WBA ที่รอจังหวะ ลิเวอร์พูลได้โอกาสก่อนด้วยซ้ำจากจุดโทษแต่ทำไม่สำเร็จ (ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดในนัดนี้ด้วย) เลยกลายเป็น WBA ใช้พื้นที่ว่างกลางสนามมาเล่นงานได้ จนต่อยอดไปถึงประตูในที่สุด ส่วนลูกที่สองก็ไม่มีอะไรต้องพูดถึงแล้ว

               สิ่งที่ตัดสินเกมในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องของความเด็ดขาด มันไม่ใช่ว่าลิเวอร์พูลมีโอกาสแล้วทำไม่ได้เพียงอย่างเดียว เพราะโอกาสแต่ละครั้งโดนเร่งโดนบีบตลอด ส่วน WBA ประตูที่ได้ จังหวะยิงค่อนข้างสะดวกทีเดียว ในความเห็นผม สิ่งที่ตัดสินเกมวันนี้อยู่ที่สภาพจิตใจมากกว่า ผู้เล่นลิเวอร์พูลรับมือกับสถานการณ์ลำบากได้ไม่ดีนัก ยิงเท่าไหร่ๆ ก็ไม่เข้า ความลนลาน เร่งจนเสียปรากฏให้เห็นตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งวินาทีที่พลาดลูกโทษ แต่ละคนหน้าเรื่องสองนิ้ว เล่นพลาดไปกันหมด ในขณะที่ผู้เล่น WBA ที่โดนกดดันอยู่นานนนนนนนนนน มาก รับมือกับสถานการณ์ได้ดีกว่า (แม้จะมองได้ว่ายังไม่เสียประตูเลยยังไม่กดดันมากก็เถอะ) ทั้งยังคว้าโอกาสที่โผล่เข้ามาในที่สุดได้ดีด้วย ดังนั้น...

               ลิเวอร์พูลก็คงต้องโทษตัวเองกันต่อไป
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ค่อนข้างดี

เรน่า - ทำได้ดีทั้งเกม เซฟลูกยิงไกลของมูลุมบูได้ดีมาก เตะเปิดเกมสั้นยาวค่อนข้างดี ลูกที่สองปิดมุมได้ดีแล้วแต่อ่านจังหวะบอลพลาดไปนิด

จอห์นสัน -เกมรับพอใช้ได้ บังบอล วิ่งเบียดได้ดี ปิดลูกเปิดเข้ากลางหลวมไปนิดหน่อย เกมรุกขึ้นไปช่วยตั้งแต่ต้นเกม เชื่อมเกมและถ่างแนวรับได้ดี แต่การเปิดบอลและพาบอลไปเองทำได้ไม่ดีนัก

แอกเกอร์ - เล่นได้ดีมาตลอด ขึ้นไปเล่นลูกตั้งเตะได้ลุ้นอยู่ 2-3 ครั้งด้วย แต่พอลูกากูลงมาก็บรรลัยทันที โดนพลิกหนีไปได้หลายครั้ง

คาราเกอร์ - ฟอร์มส่วนตัวทำได้ดี ลูกกลางอากาศไม่พลาด จังหวะปะกบปะทะคู่ต่อสู้ก็เหนียวแน่น ผ่านบอลได้ดีด้วย

เอนริเก้ - ชั่วโมงแรกของเกมเล่นแบบยั้งๆ ยังไงไม่รู้ ไม่ค่อยกระชากบอลไปเองเหมือนที่เคย จนกระทั่งครึ่งชั่วโมงท้ายถึงได้เล่นเกมรุกมากขึ้น เกมรับเล่นได้ดีกว่าจอห์นสันพอสมควร แต่ออกบอลพลาดมากกว่าเยอะ รวมถึงเชื่อมเกมได้ไม่ดีนัก

เฮนเดอร์สัน - วิ่งไล่บอลแดนกลางได้ดีมาก ช่วยเก็บบอลและเชื่อมเกมได้เยี่ยม เปิดบอลในเกมรุกได้น้อยไปหน่อย และทำเกมรุกกดดันคู่ต่อสู้ได้ไม่มากนัก หาจังหวะเติมขึ้นในเขตโทษได้พอสมควร แต่ไม่ค่อยถึงบอล

ลูคัส - มีปัญหากับการเคลื่อนที่พอสมควร ช่วงที่เฮนเดอร์สันกับเชลวี่ย์อยู่ในสนามยังไม่มีปัญหา แต่พอทีมต้องพึ่งลูคัสมากขึ้นในการหยุดคู่ต่อสู้ เจ้าตัวเข้าไม่ค่อยถึงบอล ชะลอเกมแทบไม่ได้

เจอราร์ด - มีบอลยาวคอยช่วยทำเกมรุกได้ดีตลอด ออกบอลได้ค่อนข้างดีและการเข้าปะทะวันนี้ทำได้เด็ดขาด แย่งบอลมาได้หลายครั้ง หรืออย่างน้อยก็หยุดคู่ต่อสู้อยู่ สอดขึ้นไปถึงหน้าเขตโทษได้พอสมควร ลูกจุดโทษยิงได้มุมดี แต่น้ำหนักน้อยไปนิดและดูจะเน้นจนโดนอ่านทางได้ง่ายไปหน่อย

เชลวี่ย์ - หายไปนานจนจับจังหวะของเกมได้ไม่ดีนัก ทำบอลพันแข้งพันขาให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่ช่วยวิ่งไล่บอลได้ดีแม้จะดูโฉ่งฉ่างไปนิด และการออกบอลเร็วไปที่ว่างก็ยังทำได้ดี พยายามหาที่ว่างรอยิงในเขตโทษพอใช้ได้ แต่ไม่ดีพอจะได้ยิง หลายครั้งขยับตัวช้าและหลายครั้งสลัดตัวประกบไม่ได้

ดาวนิ่ง - เกมรุกแม้จะไม่ถึงขั้นเผาแบ็คฝั่งตรงข้าม แต่กระชากหาพื้นที่เปิดบอลได้ดี และเปิดบอลไม่เลวด้วยได้ลุ้นพอสมควรเลย เชื่อมเกมและช่วยวิ่งไล่ได้ยอดเยี่ยม ขาดอย่างเดียวคือจังหวะสุดท้ายที่คลำหาไม่เจอ

ซัวเรส - ขาดคนทำทางที่เข้าใจกันแบบสเตอริดจ์ไปคน(ไม่น่าเชื่อว่าคนที่พึ่งมาจะเข้าใจ พี่แกได้มากกว่าคนที่อยู่ด้วยกันมาเป็นปี) ซัวเรสกลับมาฟอร์มเดิมอีกแล้ว เก็บบอลไว้กับตัวนานจนเพื่อนจับจังหวะจ่ายไม่ถูก ยิงไปไหนไม่รู้ ลูกโทษที่เรียกมาได้ก็ดูจะล้มง่ายไปหน่อย แต่ที่ไม่หายไปไหนเลยคือความพยายาม วิ่งตลอดและทำทุกอย่างเพื่อทีม

ตัวสำรอง

บอรินี่ - วิ่งทำทางไม่ดีเท่าไหร่ สลัดตัวประกบไม่หลุดเลย หาจังหวะยิงเองได้ดีครั้งนึง ยิงใช้ได้ด้วยแต่ไม่ดีพอจะเป็นประตู

สเตอริ่ง - กดดันแนวรับได้ดีกว่าเฮนเดอร์สัน แต่ก็ช่วยเกมรับได้ไม่ดีเท่าด้วยเช่นกัน ฟอร์มส่วนตัวถือว่าเล่นได้ตามแทคติค ไม่พลาดแต่ไม่เด่นนัก

คูตินโย่ :ไม่ได้ทำอะไรมากนัก ที่เห็นคือครองบอลดี ตัดสินใจเด็ดขาด ไปเป็นไป ยิงเป็นยิง ไม่เงอะงะ แต่ตัวบางงงงงง โคตร รู้อยู่ก่อนว่าตัวเล็ก แต่ไม่คิดว่าจะบางขนาดนี้ ไม่รู้จะฝ่าดง...คู่ต่อสู้ในอังกฤษได้หรือปล่าว
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น