วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ลิเวอร์พูล 5 - 0 สวอนซี (พรีเมียร์ลีค)


เก็บกดใช่มั้ยเนี่ย
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

---------------------สเตอริดจ์----------------------
คูตินโย่---------------ซัวเรส-----------------ดาวนิ่ง
---------------ลูคัส-------------เจอราร์ด-----------
เอนริเก้-----แอกเกอร์------คาราเกอร์-----จอห์นสัน
-----------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลที่พึ่งแพ้เซนิตมาเมื่อสองวันก่อนกลับมาเล่นเกมพรีเมียร์ลีค เปิดบ้านรับมือสวอนซีที่รอจะชิงแชมป์ลีคคัพอยู่ ทางด้านลิเวอร์พูล ร็อดเจอร์ปรับทีมเล็กน้อยด้วยการส่งสเตอริดจ์กลับมายืนหน้าเป้า ส่งคูตินโย่ลงตัวจริงเป็นนัดแรกให้ยืนทางซ้าย ถอยซัวเรสมาเล่นหน้าต่ำ รวมไปถึงลูคัสกับแอกเกอร์ที่ได้ลงเป็นตัวจริงเช่นกัน ส่วนสวอนซีเก็บตัวหลักไว้เกือบครึ่งทีมด้วยเหตุผลที่บอกไปตอนต้น
-------------------------------------------------------

                เปิดเกมมาลิเวอร์พูลพยายามไล่บอลเร็วและเร่งจังหวะเข้าทำ ส่วนทางสวอนซีเน้นเกมเร็วด้วยบอลยาวขึ้นทางด้านขวา(เอนริเก้)เป็นหลัก ตอนต้นเกมลิเวอร์พูลดูจะเร่งจนพลาดอยู่พอสมควร แต่ยิ่งเล่นก็เริ่มมีความแม่นยำมากขึ้น สวนทางกับทางสวอนซีที่ยิ่งเล่นบอลยิ่งไปไม่ค่อยถึงด้านหน้า

               เกมค่อยๆ เป็นของลิเวอร์พูลมากขึ้น ได้โอกาสลุ้นประตูอยู่ตลอด สวอนซีบุกได้น้อยลง นานๆ ได้บุกทีได้ลุ้นไม่มากนัก นาที 25 สเตอริดจ์โดนสกัดล้มในเขตโทษ แต่เวปป์ไม่เป่าให้ อาจเป็นเพราะว่าคูตินโย่ใช้โอกาสยิงไปแล้ว แต่พอมาถึงนาที 33 ลิเวอร์พูลกลับมาได้จุดโทษจากจังหวะต่อเนื่องจากเตะมุม ซัวเรสโดนปะทะที่เส้นหลังล้มลงไป เจอราร์ดรับหน้าที่ยิงไม่พลาด 1-0

               ได้ประตูแล้วกลายเป็นลิเวอร์พูลที่โหมเกมรุกต่อได้ทันที เกือบได้ประตูนำห่างอีกหลายครั้งแต่ทำไม่สำเร็จ สวอนซีตั้งรับได้ไม่เหนียวแน่นนักมีช่องพอให้เจาะได้อยู่ตลอด ส่วนเกมรุกก็ตั้งเกมของตัวเองไม่ค่อยได้ เป็นรองอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่ง 5 นาทีสุดท้ายลิเวอร์พูลถึงได้เพลาเกมบุกลงให้สวอนซีพอได้ครองบอลขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้เอามาใช้เป็นประโยชน์ได้สักเท่าไหร่ก่อนจบครึ่งแรกที่ 1-0

               เข้าครึ่งหลัง ไม่กี่วินาทีจากการเขี่ยบอล คูตินโย่รับบอลจากซัวเรสลากไปยิงแถวหน้าเส้นเขตโทษเข้าไปได้ 2-0 ถึงตรงนี้เกมก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว สวอนซีรุกไม่ขึ้น โดยพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียวและเกมรับก็เล่นกันได้ไม่ดีนัก กลายเป็นเกมที่ลิเวอร์พูลได้ล่อเป้ายิงเป็นระยะๆ

               นาที 50 จากจังหวะทำชิ่งกันเข้ามาจากริมเส้นฝั่งซ้าย จังหวะสุดท้ายเป็นเอนริเก้ได้จบเป็น 2-0 นาที 56 ซัวเรสได้บอลจากดาวนิ่งก่อนพลิกหลบเข้าไปยิงในเขตโทษ 3-0 ส่วนทางสวอนซียิ่งเล่นยิ่งออกทะเลไปเรื่อยๆ ไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาได้

               นาที 60 เฮนเดอร์สันได้ลงแทนคูตินโย่ ขยับซัวเรสไปเล่นริมเส้นซ้ายมากขึ้น ใช้เฮนเดอร์สันตรงกลาง ลิเวอร์พูลเล่นไปตามจังหวะ สวอนซีก็ไม่ได้เร่งอะไรมากนัก ทั้งเกมรับที่ก็ไม่ได้ไล่มากและเกมรุกที่ไม่ได้พยายามตั้งเกมขึ้นมาเท่าไหร่ ลิเวอร์พูลยังมีโอกาสยิงอยู่เรื่อยๆ และเรื่อยๆ จนมาได้เพิ่มอีกครั้งจากจุดโทษในนาที 71 ที่เร้าท์เรดจ์ทำแฮนบอล สเตอริดจ์รับหน้าที่ยิงไม่พลาด 5-0

               ถึงตรงนี้ทั้งสองฝ่ายก็เล่นกันแบบรอเกมจบ ลิเวอร์พูลถ้าเห็นช่องยังพอจะลุ้นทำประตูกันบ้างแต่ฝ่ายสวอนซีนี่จบสนิท จริงๆ นาที 72 อัลเลนลงมาแทนลูคัส นาที 78 บอรินี่แทนซัวเรส ก่อนที่นาที 86 บอรินี่จะเจ็บเล่นต่อไม่ไหวทำให้ลิเวอร์พูลเหลือ 10 คน แต่รูปเกมไม่มีอะไรเปลี่ยน จบเกมไปที่ 5-0
 -----------------------------------------

               11 ตัวจริงวันนี้ต่างกับนัดเซนิตอยู่เล็กน้อย ที่สำคัญคือการกลับมาของสเตอริดจ์ รวมไปถึงลูคัส แต่ที่ต่างกันมากๆ คือแทคติคที่ใช้ นัดนี้แม้จะไม่ได้ถึงขั้นดันสูงเปิดหน้าแลก แต่ก็เน้นการเล่นเกมรุกอย่างเต็มตัว เจอราร์ดดันขึ้นไปสูงตลอดเมื่อมีโอกาส แบ็คสองข้างสลับกันขึ้นทุกครั้งที่บอลขึ้นทางฝั่งตัวเอง เบ็ดเสร็จกว่าจะจบเกมได้โอกาสยิงล่อเข้าไปร่วม 40 ครั้ง

               สาเหตุหลักที่ทำให้เกมออกมาเป็นแบบนี้มาจากทางฝั่งสวอนซี อันเนื่องมาจากพวกเขามีเกมสำคัญรออยู่ นัดนี้เลยพักตัวหลักกว่าครึ่งทีมตั้งแต่หลังยันหน้า สวอนซีเองก็ไม่ใช่ทีมใหญ่มีตัวทดแทนไม่มากนักและตัวสำรองยังห่างไกลจากตัว จริงลิบลับไม่เห็นฝุ่น แถมบางคนก็ไม่ค่อยได้ลงมาสัมผัสเกมอีกต่างหาก ก็เลยแพ้ไปตามสภาพ

               อย่างไรก็ตาม นัดนี้มีจุดเปลี่ยนสำคัญ 2 ครั้งที่กำหนดทิศทางของเกมทั้งหมด ครั้งแรกคือการได้จุดโทษลูกแรก ลิเวอร์พูลนั้นบุกได้ดีโอกาสเพียบก็จริงแต่ยังไม่ได้ประตู ถ้าไม่ได้จุดโทษมาช่วยก็ไม่รู้ว่าจะกดดันตัวเองจนพลาดเหมือนนัด WBA หรือปล่าว และจุดโทษลูกนี้จะว่าไปก็ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ด้วยเพราะกองหลังไม่ได้อัดซัวเรส แรงนักและบอลจะหลุดเส้นอยู่แล้ว จังหวะที่สเตอริดจ์โดนสกัดในนาที 25 ยังดูน่าเป่ามากกว่าเสียอีก

               ส่วนจุดเปลี่ยนที่สองก็ลูกที่สองนั่นแหล่ะ เริ่มเกมมายังไม่ผ่านนาทีแรกแต่ได้ลูกที่สอง ด้วยรูปเกมที่เป็นรองอยู่แล้วในครึ่งแรกและสภาพทีมครึ่งๆ กลางๆ ของสวอนซีทำให้เกมนี้จบลงไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

                เกมนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของหน้าเป้าอย่างสเตอริดจ์ว่าทำให้เกมมันลื่น กว่าการใช้ซัวเรสเป็นหน้าเป้าแบบหน้ามือเป็นหลังมือ มันไม่ใช่แค่สเตอริดจ์ทำได้ดี แต่มันหมายถึงการที่ซัวเรสมีโอกาสได้บอลมากขึ้นและเป็นตัวทำเกมในพื้นที่สุด ท้ายซึ่งเจ้าตัวทำได้ดีกว่าเฮนเดอร์สันหรือเชลวี่ย์ด้วย ไม่ใช่ว่าซัวเรสไม่ควรกลับไปเป็นหน้าเป้าอีกแล้ว แต่ถ้าจะดันซัวเรสกลับไปที่เดิม (ไม่ว่าจะด้วยสถานการณ์บังคับแบบสเตอริดจ์ติดคัพไทหรือบาดเจ็บ) ก็คงต้องแก้ปัญหาเรื่องคนทำเกมในพื้นที่สุดท้ายว่าจะหาใครทำได้ใกล้เคียงซัว เรสได้มั้ยอีกด้วย

               วันนี้ก็เฮกันไปดังๆ ก่อนครับ นัดหน้าเหนื่อยแน่
 -------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดี

เรน่า - เหงาท่ามกลางคนหมู่มาก

จอห์นสัน - เป็นเกมที่เล่นได้สุดยอดมาก เกมรับเหนียวแน่น นอกจากจะสกัดได้ยังเก็บบอลไว้ได้บ่อยครั้งด้วย ขยับหาที่ว่างคอยรับบอลตลอด เชื่อมเกมได้ดี เกมรุกขยันเติมบ่อย ทำพลาดน้อยและเล่นจังหวะสุดท้าย(ในฐานะแบ็คที่จะทำอะไรก็ต้องรีบทำเดี๋ยวลง ไม่ทัน)ได้ดีทีเดียว

แอกเกอร์ - ว่างจัดจนวิ่งเติมขึ้นหน้าให้เห็นบ่อยกว่าปรกติ เกมรับแทบไม่ต้องทำอะไร พอจังหวะที่ต้องทำอะไรบ้างเลยดูเหมือนยืนผิดตำแหน่งไปนิดหน่อย โดยรวมก็พอใช้ได้

คาราเกอร์ - เป็นอีกคนที่เล่นได้ดีมาก ในครึ่งแรกมีัจังหวะที่สวอนซีพาบอลมาได้ถึงสุดเส้นหลังแล้ว 2 ครั้งแต่หักเข้ากลางมาติดคาราเกอร์ทั้งสองลูก อ่านเกมได้ดีมาก ไม่ก่อความผิดพลาดใดๆ และผ่านบอลตั้งเกมได้ดีไม่มีสาดทิ้ง

เอนริเก้ - เติมเกมน้อยกว่าจอห์นสันแต่ก็ถือว่าเติมขึ้นมาบ่อยกว่าหลายๆ นัดที่ผ่านมา เกมรับมีหลุดตำแหน่งให้เห็นบ้างในช่วงครึ่งแรก เชื่อมเกมได้ดี จังหวะสุดท้ายไม่ค่อยมีส่วนร่วมเท่าไหร่เพราะขึ้นไปไม่ค่อยสุดเส้น แต่ก็มีจังหวะที่เติมขึ้นไปจนทำประตูได้สำเร็จ

ลูคัส - ไม่ค่อยมีงานมากนักเพราะสวอนซีอย่าว่าแต่จะบุก แค่เก็บบอลให้ได้ก็แทบแย่แล้ว วันนี้ลูคัสเล่นสบาย เข้าไปเร่งคู่ต่อสู้ได้ดี เก็บบอลจังหวะสองได้เยอะ และผ่านบอลหนีตัวที่เข้ามาเร่งได้ตลอด

เจอราร์ด - ไม่ต้องห่วงเกมรับก็ยืนหล่อรอบอลแล้วก็จ่ายไปรอบๆ บอลสั้นบอลยาวบอลชิ่งมาครบและทำได้ดีทีเดียว เคลื่อนที่ไปช่วยเชื่อมเกมได้ดีทั้งสนาม มีส่วนสำคัญที่ทำให้วันนี้ตั้งเกมกันขึ้นมาได้ค่อนข้างง่าย

ซัวเรส - มีส่วนร่วมกับเกมเยอะมาก และส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่สำคัญแถวๆ เขตโทษด้วย ดึงกองหลังได้เยอะและจ่ายบอลให้เพื่อนเล่นได้ดี มีจังหวะฝืนเล่นยากให้เห็นบ้างพอสมควร แม้จะยิงได้ 1 ลูกแต่ดูเหมือนยังต้องกลับไปจูนเรดาร์กันต่อ หนักไปทางยิงไปไหนไม่รู้

คูตินโย่ - ยังเล่นไม่ค่อยเข้าขากับเพื่อน เชื่อมเกมได้ไม่ค่อยดีพลาดบ่อยพอสมควร แต่ให้บอลในเกมรุกได้ดีอยู่หลายครั้ง ทำประตูได้ด้วย และเอาตัวรอดจากการโดนเร่งได้น่าพอใจ

ดาวนิ่ง - เป็นอีกเกมที่เล่นได้ดีแต่สงสัยจะไม่ค่อยได้เครดิตเท่าไหร่เพราะไม่ค่อยมี ส่วนร่วมกับจังหวะสุดท้ายมากนัก เชื่อมเกมและลงไปช่วยแทนตำแหน่งตอนจอห์นสันขึ้นไปแล้วได้ดี ขยับหาที่ว่างตลอด จังหวะต้องดวลตัวต่อตัวสามารถสลัดตัวประกบได้บ่อยครั้ง โยนบอลเข้ากลางได้ไม่มากนักแต่โยนเข้าไปได้น่าพอใจ หาโอกาสยิงไกลได้ดีขึ้นแต่ยิงพลาดหมด

สเตอริดจ์ - วิ่งทำทางและเอาบอลลงได้สุดยอด รับบอลยาวจากกลางสนามเอามาทำเกมรุกเร็วได้ดีหลายครั้ง มีส่วนร่วมกับเกมเยอะพอๆ กับซัวเรส ฝืนเล่นยากให้เห็นพอสมควรและยิงไม่ค่อยดีนักทั้งๆ ที่มีโอกาสเพียบ

ตัวสำรอง

เฮนเดอร์สัน - ลงมาจ่ายบอลในเกมรุกสวยๆ ให้เห็นหลายครั้ง เล่นได้ดีกว่าคูตินโย่ในช่วงก่อนหน้าเสียอีก (แต่คูตินโย่ยิงได้นะจ๊ะ)

อัลเลน - เกมขาดไปแล้วเลยแค่ลงมาเคาะ แล้วก็เคาะไ้ด้ดีด้วย สวอนซีไล่ไม่จน (ถึงจะไม่ค่อยไล่ก็เถอะ)

บอรินี่ - สงสัยจะไหล่หลุด

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เกล็น จอห์นสัน... นัดนี้เลือกเถอะครับ ตามใจฝันเลย จะคาราเกอร์ เจอราร์ด ซัวเรส สเตอริดจ์ ฮาเวิร์ด เวปป์(สำหรับจุดโทษ) ไมเคิล เลาดรูป(สำหรับการจัดตัว) หรือ มิชู(เพราะไม่ได้ลงมายิง) ก็ได้ทั้งนั้น แต่ส่วนตัวขอเลือกแบ็คขวาที่เล่นได้ยอดเยี่ยมตลอด 90 นาที ช่วยทีมได้ตั้งแต่หลังยันหน้าคนนี้ก็แล้วกัน
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น