วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

อูดิเนเซ่ 0 - 1 ลิเวอร์พูล


เอ่อ...มันต้องชนะแล้วล่ะ
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

----------------------ซัวเรส-----------------------
ดาวนิ่ง------------เฮนเดอร์สัน--------------ซูโซ่
-----------อัลเลน---------------ซาฮิน------------
เอนริเก้----สเคอเทล----คาราเกอร์----จอห์นสัน
-----------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลออกไปเยือนอูดิเนเซ่ที่อิตาลีในเกมยูโรป้าลีครอบแบ่งกลุ่มนัดสุด ท้าย ลิเวอร์พูลถ้าชนะได้จะเข้ารอบแน่นอนแบบไม่ต้องรอดูผลอีกคู่ นัดนี้ร็อดเจอร์ใช้ผู้เล่นตัวหลักเยอะกว่าที่ผ่านมา แดนหลังมีคาราเกอร์ลงมาแทนแอกเกอร์นอกนั้นก็เป็นตัวหลักทั้งหมด แดนกลางไม่มีลูคัสกับเจอราร์ดเป็นโอกาสของซาฮินกับเฮนเดอร์สัน โดยมีอัลเลนกลับมาเล่นตำแหน่งถนัด ตัวริมเส้นซูโซ่กับดาวนิ่งได้ลงก่อนสเตอริ่ง และซัวเรสยืนเป็นหน้าเป้าแบบไม่ต้องคิดอะไรมากเพราะนัดต่อไปถูกแบนเล่นไม่ ได้ ส่วนทางฝั่งอูดิเนเซ่ที่ตกรอบแหงแก๋ไปเรียบร้อยส่งตัวสำรองลงมาพอสมควร เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดินาตาเล่ที่ได้แค่รออยู่ข้างสนามเท่านั้น
-------------------------------------------------------

               เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลดันกันขึ้นมาสูงพยายามจะเปิดเกมรุกใส่ตั้งแต่ต้นแต่ ผ่านบอลกันได้ไม่ดีพอเลยครองบอลได้ไม่ต่อเนื่องนัก ส่วนอูดิเนเซ่เล่นกันไปตามจังหวะ ขึ้นบอลค่อนข้างสะเปะสะปะ ตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ แต่วิ่งไล่บอลได้ค่อนข้างดี รวมไปถึงเข้าบอลหนักหยุดเกมของลิเวอร์พูลได้พอใช้ ทำให้เกมโดยรวมเล่นกันค่อนข้างช้าและไม่ค่อยได้ลุ้นทั้งคู่ นาที 12 ซาฮินที่อุตส่าห์ได้เป็นตัวจริงเกิดอาการบาดเจ็บกลายเป็นเชลวี่ย์ได้ลงสนาม มาแทน โดยเชลวี่ย์ลงมายืนถอยเอาเฮนเดอร์สันลงไปเชื่อมเกมตรงกลางแทน

               ผ่าน 15 นาทีของเกมทั้งสองฝ่ายเริ่มหาโอกาสเจาะเข้าไปในเขตโทษได้บ้างแต่ยังได้ลุ้น ไม่มากนัก โดยเป็นลิเวอร์พูลที่ดูดีกว่าเล็กน้อย และในที่สุดก็มาได้ประตูขึ้นนำในนาที 23 จากจังหวะลูกเตะมุม ซัวเรสขึ้นโหม่งไปเสาสอง บอลเข้าทางซูโซ่แตะกลับมาให้เฮนเดอร์สันยิงเข้าไปได้ 1-0 หลังจากสกอร์ขยับรูปเกมก็ยังไม่เปลี่ยน อูดิเนเซ่ไม่ได้เร่งขึ้นมาและลิเวอร์พูลเองก็ไม่ได้เน้นจะเก็บบอลอะไรมากนัก

               เข้า 10 นาทีท้ายของครึ่งแรก ลิเวอร์พูลยังคงเจาะได้เป็นระยะ ได้ลุ้นนิดหน่อย ส่วนอูดิเนเซ่พยายามเน้นเกมริมเส้นเปิดเข้ากลางไปลุ้นในเขตโทษแต่ก็ไม่ได้กด ดันอะไร ก่อนจะจบครึ่งแรกไปแบบอืดๆ 1-0

               เข้าครึ่งหลัง อูดิเนเซ่ลงมาวิ่งไล่มากขึ้น เข้าถึงบอลได้เร็วขึ้น ทำให้ต้นเกมเป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่ได้มากกว่า แต่จังหวะเข้าทำยังเจาะแนวรับไม่ค่อยได้ บอลที่เปิดเข้ามาจากริมเส้นก็ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ลิเวอร์พูลที่ได้บอลน้อยลงก็ไม่ถึงกับโดนกดดันมากนัก ยังสามารถทำเกมรุกขึ้นไปถึงเขตโทษได้อยู่และได้ลุ้นประตูมากกว่าด้วย แต่เกมโดยรวมยิ่งเล่นยิ่งอืด อูดิเนเซ่ขึ้นบอลพลาดเยอะ ส่วนลิเวอร์พูลก็ยิ่งเล่นยิ่งช้า

               นาที 71 สเตอริ่งได้ลงมาแทนซูโซ่ รูปเกมยังคงไม่เปลี่ยนแต่อูดิเนเซ่มาพลาดเองอีกครั้งในนาที 79 ปาสควาเร่เข้าถึงบอลช้าไปสอยเอาข้อเท้าของสเตอริ่งที่บังไำว้ได้ดี ทำให้ปาสควาเร่โดนเหลืองที่สองและอูดิเนเซ่เหลือแค่ 10 คน อย่างไรก็ตาม แม้ตัวผู้เล่นจะมากกว่าแต่ลิเวอร์พูลไม่ได้เร่งเกมขึ้นมามากนักแต่เลือกที่ จะเล่นช้าลงและเน้นครองบอลเอาไว้กับตัวมากกว่า ยิ่งเวลาเหลือน้อยลิเวอร์พูลก็เล่นไปเกร็งไป ออกบอลพลาดบ้าง ครองบอลไว้กับตัวพลาดบ้าง โอกาสได้ลุ้นประตูที่มีมาเป็นระยะก็พลาดหมด แต่อูดิเนเซ่ก็ไม่สามารถทำเกมกดดันอะไรได้มากนัก

               ช่วงท้ายเกมอูดิเนเซ่เปลี่ยนเอาดินาตาเล่ลงมาแล้วก็เป็นดินาตาเล่ที่เกือบทำ เอาแฟนบอลลิเวอร์พูลกริบกันทั้งยวง ที่นาทีสุดท้ายของช่วงทดเจ็บสามารถพลิกบอลเข้าไปในเขตโทษมีโอกาสสับไกยิงแบบ ไม่มีคนขวางแต่บอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว ทำให้ลิเวอร์พูลเอาตัวรอดมาได้ สำเร็จ 1-0 แถมได้เป็นแชมป์กลุ่มแบบงงๆ เมื่อผลอีกคู่ยังบอยส์เปิดบ้านอัดอันจิไป 3-1 ทำให้ลิเวอร์พูลกับอันจิมี 10 แต้มเท่ากัน เฮดทูเฮดเท่ากัน (ชนะในบ้าน 1-0 ทั้งคู่) และประตูได้เสีย +2 เท่ากัน แต่ลิเวอร์พูลยิงได้มากกว่า (ได้ 11เสีย9, อันจิได้ 7เสีย5)
-----------------------------------------

               11 ตัวจริงวันนี้ดูแล้วร็อดเจอร์ก็ไม่ถึงกับไม่ได้สนใจถ้วยนี้เสียทีเดียวเมื่อ จัดตัวหลักลงเกือบครบทีม (ถ้ามีเจอราร์ดกับสเตอริ่งลงมาก็ครบแล้ว) ประกอบกับโชคดีในโชคร้ายที่ซัวเรสโดนแบนในเกมลีคอยู่แล้วเลยมีซัวเรสแถมมา ด้วยอีกต่างหาก สวนทางกับฝั่งอูดิเนเซ่ที่จัดเต็มทั้งส่งตัวสำรองลงประปราย, เล่นแบบไม่ค่อยมีแรงฮึด, แฟนบอลก็ไม่ค่อยเข้ามาเชียร์ ทำให้ลิเวอร์พูลที่เล่นกันไม่ถึงกับดีนักสามารถควบคุมเกมอยู่ในมือได้ตลอด ตั้งแต่ต้นยันจบเกม

               วันนี้เกมรุกลิเวอร์พูลดูตะกุกตะกัก เกมริมเส้นที่ดีมาตลอดในช่วงหลังแทบดับสนิท ผ่านบอลขึ้นหน้าก็ช้าและพลาดบ่อย แต่ทั้งอย่างนั้นด้วยความที่แนวรับอูดิเนเซ่คุมพื้นที่ได้ไม่ดีเอามากๆ ทำให้ลิเวอร์พูลก็หาช่องเจาะขึ้นไปลุ้นประตูได้บ่อยโดยเฉพาะการวิ่งสอดจาก แถวสองเกือบจะทำประตู 2-0 ปิดเกมไปได้ไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้งแต่การจบสกอร์ยังคงเป็นปัญหาอยู่ต่อไป ส่วนเกมรับลิเวอร์พูลเองก็ทำได้แค่พอใช้ไม่ได้เหนียวแน่นอะไรมากนักแต่อูดิ เนเซ่ทำเกมรุกไม่ดีพอเอง ไม่มีเกมเจาะตรงกลางหรือยิงไกล เน้นขึ้นที่ริมเส้นเป็นหลักแต่พอได้โอกาสก็เปิดบอลเข้ากลางแทบไม่ได้ลุ้น ทั้งยังขึ้นบอลพลาดเองเยอะ เข้าบอลไม่ระวังจนเหลือ 10 คนอีกต่างหาก เยอะครับ อูดิเนเซ่เยอะมากครับนัดนี้

                ...อูดิเนเซ่จัดให้ขนาดนี้ ไม่ชนะอีกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ...
----------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้

เรน่า - ไม่ได้เซฟลูกอันตรายสักลูก จังหวะที่ได้ลุ้นแบบจริงๆ จังๆ ของอูดิเนซ่พี่แกยิงหลุดกรอบกันเองหมด เอาตัวรอดในจังหวะโดนไล่ได้ดี แต่วันนี้เตะเปิดเกมได้แย่

เอนริเก้ - เกมรับก็ลงไปรับ เกมรุกก็ขึ้นไปรุก วิ่งขึ้นวิ่งลงตลอด จ่ายบอลได้เสียแบบมีลุ้นได้บ้างแต่ไม่ค่อยผ่านแนวรับ ครองบอลจังหวะรุกไม่ค่อยเหนียวแน่นเท่าไหร่ เกมรับไม่ผิดพลาดอะไร

คาราเกอร์ - ช้าไปบ้างแต่อ่านเกมได้ดี ตัดฟาลว์กลางสนามไม่ให้คู่ต่อสู้สวนกลับได้ดีหลายครั้ง (ถ้าเร็วกว่านี้คงไม่ฟาลว์แล้วล่ะ) ท้ายเกมเสียท่าโดนดินาตาเล่พลิกหลบไปได้ดีว่าทีมไม่เสียประตู

สเคอเทล - เสียฟาลว์บ่อยในจังหวะเข้าบอลตัดหน้าคู่ต่อสู้ รู้ว่ากรรมการนกหวีดเบาก็ไม่เปลี่ยนวิธีเข้าบอล แต่นอกนั้นก็ถือว่าเล่นได้ดี เข้าสกัดได้เด็ดขาดแม่นยำ ลูกกลางอากาศไม่มีพลาดให้เห็น

จอห์นสัน - ประกบตัวรุกพลาดโดนพลิกบอลไปได้หลายครั้งเหมือนกัน ปิดเกมริมเส้นทางแคบไม่ค่อยดีนัก เกมรุกพยายามเติมขึ้นไปบ่อยครั้งแต่ไม่ค่อยได้บอล

อัลเลน - มีปัญหากับการโดนวิ่งไล่ รวมไปถึงการผ่านบอลที่แม้จะพลาดไม่มากนัก แต่ทำได้ช้าลงกว่าที่ผ่านมา ทำให้บอลไปข้างหน้าช้า

ซาฮิน - ซวย

เฮนเดอร์สัน - วันนี้วิ่งทำทางเข้าไปในเขตโทษได้ดีหลายครั้ง นอกจากยิงประตูชัยได้แล้ว ยังได้ลุ้นอีกครั้งสองครั้ง และอีกหลายครั้งที่อยู่ในตำแหน่งแล้วแต่บอลมาไม่ถึง ส่วนจังหวะที่ลงไปช่วยเชื่อมเกมกลางสนาม ผนึกกำลังกับอัลเลนในการเคาะบอลอยู่กลางสนามเหมือนแข่งกันว่าใครเบื่อก่อนค่อยให้คนนั้นส่งบอลขึ้นมาข้างหน้า

ดาวนิ่ง - แปะบอลไปมา เกมรุกกลายเป็นเอนริเก้ที่ทำได้เป็นชิ้นเป็นอันกว่า เกมรับก็เป็นเอนริเก้ที่ลงไปเล่นไปไล่มากกว่า นอกจากทำให้ทีมมีครบ 11 คนแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดาวนิ่งลงไปทำอะไรในเกมนี้

ซูโซ่ - โดนเข้าบอลหนักอยู่ตลอด ครองบอลไม่ค่อยอยู่และไม่มีเวลาให้คิดมากนัก เล่นไม่ค่อยออกเท่าไหร่แต่ก็ยังอุตส่าห์วิ่งเข้าไปหาจังหวะจบได้ดี(แต่จบไม่ ดี) 2 ครั้ง และเป็นคนเปิดกลับมาให้เฮนเดอร์สันยิงประตูสำคัญด้วย

ซัวเรส - มีเหนี่ยวมีดึงอยู่ตลอดในจังหวะวิ่งเข้าไปหาบอล วิ่งทำทางและกดดันแนวรับได้ดี ดึงตัวประกบให้เพื่อนเติมได้ตลอด เก็บบอลได้ค่อนข้างดีและหาช่องยิงเองได้พอสมควร แต่พลาดเองหมดเช่นเคย

ตัวสำรอง

เชลวี่ย์ - เล่นได้ดีในครึ่งแรกที่เรียกฟาลว์ได้บ่อย วิ่งทำทางและหาที่ว่างดี มีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะ พอเข้าครึ่งหลังก็หายไปจากเกม หนักไปทางวิ่งไล่บอลคุมพื้นที่เป็นส่วนใหญ่

สเตอริ่ง - ลงไปเล่นตามแทคติคเมื่อสามารถดึงดูดสตั๊ดได้ตลอดเวลา นอกจากจะทำให้คู่ต่อสู้โดนไล่ออกไปคนแล้วยังสามารถเรียกฟาลว์และกดดันให้คู่ต่อสู้ต้องสกัดทิ้งได้หลายครั้ง แต่นอกนั้นก็ไม่ได้มีโอกาสทำอะไรมากนัก

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่... ขอบคุณที่ยิงหลุดกรอบฮะ :)
 ------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น