วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เวสต์แฮม 2 - 3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


ใจสู้หรือปล่าว?
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-1-4-1

----------------------เชลวี่ย์------------------------
ดาวนิ่ง------อัลเลน------เจอราร์ด-------สเตอริ่ง
-----------------------ลูคัส-------------------------
เอนริเก้----แอกเกอร์-----สเคอเทล----จอห์นสัน
-----------------------เรน่า-------------------------

               ลิเวอร์พูลเล่นเกมเยือนอีกหนึ่งนัด คราวนี้ออกไปเยือนเวสต์แฮมในเกมพรีเมียร์ลีค โดยมีปัญหาเพียงแค่ตำแหน่งเดียว(แต่สำคัญมาก)คือซัวเรสติดโทษแบนจากการสะสม ใบเหลืองครบ 5 ใบ ร็อดเจอร์เลือกใช้เชลวี่ย์ลงมายืนแทนส่วนตำแหน่งอื่นๆ หน้าเก่าเจ้าประจำยังอยู่กันครบ ส่วนเวสต์แฮมไม่มีคาโรลและวาสเต แต่ยังมีนักเตะคนสำคัญอย่างโคล, ยาวิส, ดิยาเม่รอรับมืออยู่พร้อมหน้า
-------------------------------------------------------

               เริ่มเกมมาทั้งสองทีมพยายามเร่งเกมเร็วใส่กัน เวสต์แฮมเน้นขึ้นทางซ้ายด้วยยาวิสแล้ว เปิดบอลเข้ากลางเป็นหลัก ส่วนทางลิเวอร์พูลเน้นเกมริมเส้นเต็มที่โดยเฉพาะฝั่งขวาที่จอห์นสันเติมขึ้น มาทุกจังหวะ โดยเวสต์แฮมดูดีกว่าเล็กน้อยเมื่อยังได้โยนเข้าเขตโทษอยู่บ้างแม้บอลจะไม่ ค่อยถึงตัวโหม่ง ส่วนลิเวอร์พูลพาบอลขึ้นไปได้ถึงเกือบสุดเส้นแต่หาโอกาสเปิดบอลเข้าทำไ้ด้น ้อยกว่า

               จนกระทั่งถึงนาที 11 จอห์นสันเติมขึ้นไปรับบอลทางริมเส้นก่อนจะ ตัดเข้ากลางมีดาวนิ่งวิ่งทำทางดึงตัวประกบไปให้ จอห์นสันเลยยิงไกลหน้าเขตโทษเอาดื้อๆ บอลพุ่งเสียเสาสองให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 และหลังจากนั้นลิเวอร์พูลก็เริ่มบุกกดดันได้ต่อเนื่อง บอลทะลุทะลวงไปถึงเส้นหลังมากขึ้นและหาโอกาสเิปิดบอลเข้ากลางได้ดีขึ้นแต่ ยังจบสกอร์เพิ่มไม่ได้ พอเลย 20 นาทีแรกไปแล้วกลายเป็นเวสต์แฮมที่กลับมาตั้งเกมของตัวเองได้ดีขึ้นทีละน้อย

               นาที 27 โจ โคลลงไปแทนเอนริเก้ที่(น่าจะ)มีอาการบาดเจ็บ ถอยดาวนิ่งลงไปเป็นแบ็คแทน ใช้โคลเล่นฝั่งขวาแล้วโยกสเตอริ่งไปซ้าย ถึงตรงนี้เวสต์แฮมเริ่มใช้บอลยาวให้คาร์ตัน โคลพักบอลเป็นอาวุธหลักเล่นงานลิเวอร์พูลได้ต่อเนื่อง รวมไปถึงยาวิสที่หาช่องเปิดบอลเข้ากลางได้ดีอยู่ตลอด และเวสต์แฮมเข้าบอลได้เร็วจนลิเวอร์พูลเก็บบอลได้น้อยลง กลายเป็นฝ่ายตั้งรับมากขึ้น ใช้เวลากดดันอยู่พักใหญ่ สุดท้ายนาที 36 จากจังหวะที่กองหลังลิเวอร์พูลโหม่งสกัดบอลตกแถวหน้าเขตโทษเวสต์แฮมยิงสวน กลับเข้าไปโดนมืออัลเลนกลายเป็นจุดโทษ โนเบิลยิงไม่พลาดตีเสมอได้ 1-1

               ลิเวอร์พูลพยายามประคับประคองเกมของตัวเองด้วยการพยายามเล่นให้ช้าลง เน้นความแน่นอนมากขึ้นแต่สถานการณ์ไม่ได้ดูดีขึ้นสักเท่าไหร่ เวสต์แฮมยังคงบุกใส่ด้วยพละกำลัง จนผู้เล่นลิเวอร์พูลแทบจะแบนคาเขตโทษตัวเอง สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว นาที 43 เวสต์แฮมได้โอกาสครอสบอลจากฝั่งซ้าย เจอราร์ดเบียดขึ้นถึงบอลได้แต่ทรงตัวคุมทางบอลไม่อยู่โหม่งเข้าประตูตัวเอง ไปให้เวสต์แฮมพลิกนำ 2-1 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

               เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลสลับฝั่งโคลกับสเตอริ่ง ยังคงพยายามเล่นให้ช้่าลงและสามารถครองบอลได้ดีขึ้น ส่วนเวสต์แฮมเริ่มเน้นคุมพื้นที่แนวรับมากขึ้นอาศัยจังหวะตัดบอลได้เข้าทำ เร็ว แม้ลิเวอร์พูลจะครองบอลได้มากกว่าแต่หาทางเจาะแนวรับได้ยากลำบากมาก หาโอกาสจบสกอร์แทบไม่ได้ ส่วนเวสต์แฮมที่เพลาเกมลงไปบ้างยังคงโต้กลับมากดดันได้เป็นระยะ นาที 71 ร็อดเจอร์ตัดสินใจปรับเกมด้วยการส่งเฮนเดอร์สันลงมาแทนลูคัสแล้วถอยอัลเลนลง ไปเล่นต่ำ ส่วนเวสต์แฮมเสียดิยาเม่ไปเพราะอาการบาดเจ็บทำให้เวสต์แฮมเริ่มโต้กลับมาได้ น้อยลงและลิเวอร์พูลบุกได้ลึกขึ้นจนหาช่องได้สำเร็จ นาที 76 สเตอริ่งทำชิ่งกับเชลวี่ย์ก่อนจะจ่ายทะลุช่องให้โคลหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ ได้สำเร็จ 2-2

               หลังจากตีเสมอได้แล้วลิเวอร์พูลยังเดินหน้าลุยต่อ ส่วนเวสต์แฮมยังกั๊กๆ จะบุกไม่บุก จะรับไม่รับ เลยเป็นโอกาสของลิเวอร์พูลที่กดดันได้ต่อเนื่องและไม่นานนักก็แซงนำได้ สำเร็จ นาที 79 เฮนเดอร์สันหาพื้นที่ว่างแถวริมเส้นขวาได้ก่อนจะเปิดเข้ากลางมาให้เชลวี่ย์ เข้าชาร์จ สุดท้ายเป็นตัวประกบอย่างคอลลินที่สกัดผิดเหลี่ยม(อีท่าไหนไม่รู้)บอลเด้ง ข้ามหัวยัสเคไลเน่นเข้าไปให้ลิเวอร์พูลนำ 3-2

               พอโดนแซงนำเวสต์แฮมก็เลิกคิดมากพยายามเปิดเกมรุกทันทีแต่ความแม่นยำลดลงจาก ช่วงครึ่งแรก พละกำลังในการวิ่งไล่หรือเข้าบอลเร็วลดลงอย่างฮวบฮาบทำให้ต่อเกมขาดๆ เกินๆ และการเปิดเกมรุกของเวต์แฮมทำให้กองกลางลิเวอร์พูลเริ่มมีพื้นที่เล่นมาก ขึ้่น มีเวลามากขึ้น สามารถบุกโต้กลับไปได้ดีและเกือบได้ประตูเพิ่มอยู่หลายครั้งแต่ทำไม่สำเร็จ นาที 86 โคอาเตสได้ลงแทนอัลเลนโดยรับหน้าที่ประกบโคลโดยเฉพาะ ลิเวอร์พูลเริ่มหันมาเล่นปิดเกมและเน้นเกมรับเหนียวแน่น ส่วนทางเวสต์แฮมเปิดเกมบอบม์ใส่เขตโทษเต็มที่แต่ความแม่นยำและพละกำลังไม่ เอื้ออำนวยแล้ว สุดท้ายลิเวอร์พูลเลยปิดเกมเอาชนะไปได้สำเร็จ 3-2
-----------------------------------------

               เกมวันนี้ประเด็นสำคัญคงหนีไม่พ้นเรื่องที่ลิเวอร์พูลไม่มีซัวเรส เพราะต่อให้หลับตาดูก็รู้ว่าซัวเรสสำคัญกับเกมรุกของลิเวอร์พูลมากขนาดไหน รวมไปถึงการทำประตูที่คนอื่นๆ ช่วยยิงได้จำกัดจำเขี่ยเหลือเกินในฤดูนี้ ในเรื่องของคนที่จะลงมาเล่นแทนตำแหน่งซัวเรส ร็อดเจอร์ตัดสินใจส่งเชลวี่ย์ลงมาเล่นในตำแหน่งดังกล่าว แต่เชลวี่ย์เองก็เล่นได้ไม่ค่อยดีนักเมื่อเก็บบอลไม่ได้และช่วยทำเกมรุกได้ น้อย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการทำเกมรุกโดยไม่มีซัวเรส ลิเวอร์พูลทำได้น่าประทับใจทีเดียวเมื่อสามารถหาช่องเจาะเข้าทำได้ีแม้่ใน ช่วงที่คู่ต่อสู้ปิดพื้นที่แน่น และยังอุตส่าห์จบสกอร์ได้ถึง 3 ประตูอีกด้วย

               เรื่องแทคติคในสนามวันนี้ก็ดูสนุกดี เมื่อทั้งสองทีมสู้กันด้วยแทคติคอย่างแท้จริง ผลัดกันแก้เกมแก้ทางกันอยู่ตลอดตั้งแต่ต้นยันจบเกม ลิเวอร์พูลกองหน้าเก็บบอลไม่ได้ก็ไม่ฝืน เล่นเน้นแต่ริมเส้นเข้าว่ากองหน้าช่างหัวมันเลยได้ขึ้นนำก่อน เวสต์แฮมเห็นลิเวอร์พูลพึ่งไปเล่นยูโรป้ามาเลยวิ่งไล่กระทืบเสียตั้งแต่ ครึ่งแรก อัดเอาๆ จนนำได้สำเร็จก่อนจบครึ่งแรก พอเข้าครึ่งหลังจะเร่งต่อก็หัวใจวายตายกันพอดี หันมาผ่อนเกมปิดพื้นที่โต้ยาวตามสูตรตีหัวเข้าบ้าน  ทำได้ดีแล้วด้วยเพราะลิเวอร์พูลเจาะไม่เข้า ลิเวอร์พูลเห็นเวสต์แฮมเลิกไล่อัดเลยถอดตัวเคาะออกไปหนึ่ง ส่งตัวเคาะ(แต่หลังๆ ฟอร์มเริ่มกระเตื้อง)ที่เล่นเกมรุกดีกว่าลงมาแทนสุดท้ายเจาะเข้าแซงนำ เวสต์แฮมเข้าตาจนก็ปูพรมบอมใส่ซะ ลิเวอร์พูลเลยส่งเสาโทรเลขมาค้ำอีกต้นจบเกมรอดตัว ดูเฉพาะแทคติคนั่นสูสีและทันกันดีทีเดียวครับวันนี้ ถ้าดิยาเม่ไม่เจ็บซะก่อน หรือสเตอริ่งจ่ายทะลุลูกนั้นไม่สำเร็จ เกมนี้ก็จะจบอีกแบบแล้ว ผู้จัดการทีมทำได้ดีทั้งสองคนครับ

               สิ่งที่น่าสนใจในเกมนี้คือลิเวอร์พูลดูจะได้กุศลผลบุญจากการผจญกรรมในการ เล่นบอลถ้วย(โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมยูโรป้า)มาไม่น้อย ตำแหน่งกองหน้าในวันที่ไม่มีซัวเรส ร็อดเจอร์ใช้เกมยูโรป้าลองมาหมดแล้วก่อนจะมาลงตัว(หมายถึงดูแย่น้อยสุด)กับ การใช้เชลวี่ย์เป็นหน้าเป้าแล้วเล่นบอลทรงเดิม ไม่ต้องใช้หน้าคู่ไม่ว่าจะ 4-4-2 หรือ 3-5-2 ตำแหน่งแบ็คซ้ายดาวนิ่งก็ได้ลองมาเต็มๆ หลายครั้งแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็พอจะรักษาตำแหน่งตัวเองได้ รวมไปถึงโคลที่ได้ลงมาเคาะสนิมเป็นระยะในยูโรป้าเลยพอจะทำอะไรได้บ้างในนัด นี้ด้วย

               กระนั้นก็ตาม หากพูดถึงเรื่องในสนามล้วนๆ นัดนี้ต้องบอกว่าสิ่งที่ทำให้ลิเวอร์พูลพลิกกับมาได้ในที่สุดเป็นเรื่องของ ใจ ในช่วงที่โดนแซงนำลิเวอร์พูลยังพอประคับประคองตัวเองได้ในเกมรับ ไม่เหมือนช่วงต้นฤดูกาลที่ยิ่งโดนยิ่งรั่ว และเกมรุกในช่วงที่สถานการณ์บีบแบบนี้ก็อดทนและเล่นในเกมของตัวเองได้ดีพอ ไม่เหมือนช่วงก่อนที่ยิ่งเร่งยิ่งมั่ว เมื่อสติยังดีและใจสู้พอ สุดท้ายโชคก็ตามมาเมื่อดิยาเม่ร่วงไปก่อนเพื่อน, คาร์ตัน โคลหมดแรง ปิดท้ายด้วยคอลลินสกัดเข้าประตูตัวเอง

               ถ้าท้อไปก่อนก็คงได้โทษกรรมการ ทำไมผู้เล่นเวสต์แฮมถีบยอดอกสเตอริ่งแล้วได้แค่เหลือง ทำไมเสียจุดโทษจังหวะอัลเลนทั้งๆ ที่น่าจะเป็นจังหวะบอลทูแฮนด์ ทำไมเชลวี่ย์โดนขัดขาไม่ได้จุดโทษ ทำไมโน่น ทำไมนี่ แต่สุดท้ายแพ้...ไม่กลับมาชนะได้อย่างนี้หรอก

               ไม่สู้ก็ไม่มีโชคหรอกครับ
----------------------------------

นัดนี้เล่นกันค่อนไปทางดี

เรน่า - เล่นบอลกับเท้าได้ดีมาก ช่วยรักษาการครองบอลได้เยอะ ตัดลูกกลางอากาศได้ดีเกือบตลอดเกม จะมีช่วงท้ายๆ ที่เริ่มจั่วลมก็พอเข้าใจได้ ลูกยากไม่มีให้เซฟ 2 ลูกที่โดนก็ทำได้เต็มที่แล้ว

เอนริเก้ - เจ็บก่อนจะได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

แอกเกอร์ - มีปัญหากับโคลตลอด เอาไม่ค่อยอยู่ ทำได้แค่ประคองไม่ให้คู่ต่อสู้พลิกได้ ลูกกลางอากาศทำได้แค่ประคองตัวโหม่งได้แต่โหม่งไม่ค่อยขาด ช่วงกลางครึ่งหลังดันขึ้นไปช่วยเชื่อมเกมถึงกลางสนามได้ดีมาก

สเคอเทล - เอาโคลไม่อยู่เหมือนกัน (โคลคนเดียวเล่นงานคู่เซนเตอร์อ่วมเลย) ซ้อนแบ็คได้ช้ามาก แต่ยังสกัดจังหวะสุดท้ายได้แบบหวุดหวิดหลายครั้ง ลูกกลางอากาศแค่พอใช้ไม่ถึงกับดี

จอห์นสัน - ครึ่งแรกเติมเกมได้ดี โดยเฉพาะการพาบอลตัดเข้ากลางที่ทำได้ดีหลายครั้ง ทำประตูได้ด้วย ครึ่งหลังก็ยังขึ้นไปช่วยได้บ้างแต่น้อยลง อย่างไรก็ตาม เกมรับเล่นได้ไม่ดี ปิดทางการเปิดบอลเข้ากลางของยาวิสได้เข้าขั้นอนาถบาดใจมาก

อัลเลน - ขึ้นไปเล่นข้างหน้ามากขึ้นอีกหนึ่งนัด ทำได้ดีกว่านัดก่อนแต่ยังไม่ใกล้เคียงกับคำว่า "ดีแล้ว" หาช่องพาบอลขึ้นไปเองได้ดีแล้วแต่ทำบอลเสียบ่อยในแดนหน้า

ลูคัส - ความฟิตยังไม่สมบูรณ์ ความเด็ดขาดในการเข้าสกัดยังมีไม่มากเท่าช่วงก่อนเจ็บยาว แต่ยังพอหยุดเกมรุกคู่ต่อสู้ได้บ้าง ปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้ดีทีเดียว

เจอราร์ด - วางบอลไปที่ว่างได้ดี เป็นคนทำให้จอห์นสันเล่นได้โดดเด่นในครึ่งแรก และทั้งเกมจ่ายบอลขึ้นหน้าได้ดีที่สุดในทีม แต่พาบอลไปเองไม่ไหว การเลี้ยงลุยขึ้นไปเองหรือวิ่งทำทางไปรับบอลข้างหน้ากดดันคู่ต่อสู้ไม่ได้ แล้ว

ดาวนิ่ง - ตอนเล่นปีกไม่โดดเด่น ตอนเล่นแบ็คก็พอประคองตัวไปได้ในเกมรับ (เวสต์แฮมไม่ค่อยขึ้นทางขวา) รักษาตำแหน่งได้ดีขึ้น เก็บบอลจังหวะสองไม่ค่อยได้ เปลี่ยนรับเป็นรุกไม่ได้ แต่ยังเคลียร์บอลได้อยู่ แอบเติมขึ้นไปเปิดบอลเข้ากลางสวยๆ ได้บ้างนิดหน่อย

สเตอริ่ง - กลายเป็นตัวรุกคนสำคัญ ถูกโยกไปโยกมาอยู่ตลอด เดี๋ยวซ้ายเดี๋ยวขวาเดี๋ยวกลาง โดนอัดยับตั้งแต่ต้นเกม ครองบอลแทบไม่อยู่ แต่พอผู้เล่นเวสต์แฮมเริ่มล้า สเตอริ่งค่อยๆ ทำได้ดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งเปิดให้โคลยิงตีเสมอได้ พอเวสต์แฮมเปิดพื้นที่ให้เล่นมากขึ้น สเตอริ่งเป็นตัวหลักในการทำเกมโต้กลับซึ่งทำได้ดีหลายครั้ง

เชลวี่ย์ - เก็บบอลไม่ได้ มีส่วนร่วมกับเกมน้อย หาช่องแทบไม่เจอ แต่ยังขยันวิ่งไปวิ่งมาทั้งทำทางทั้งพยายามขึ้นโหม่งและจ่ายบอลเร็ว ในฐานะกองหน้าเล่นได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ในฐานะกองกลางที่โดนดันขึ้นไปเล่นข้างหน้าแบบสถานการณ์บังคับก็ถือว่าพอ ใช้ได้ เมื่อดูจากการมีส่วนร่วมกับ 2 ประตูหลัง

ตัวสำรอง

โคล - ทำเกมรุกได้ไม่ค่อยดีนัก ประสานงานกับเพื่อนผิดพลาดบ่อย(น้อยลงแล้ว) ที่ทำได้ดีคือความนิ่งในการเล่นในกรอบเขตโทษ ไม่ลนลานและไม่มั่ว จบสกอร์ให้ทีมตีเสมอได้ดี

เฮนเดอร์สัน - พยายามเล่นเกมรุกมากขึ้นและทำได้ดีเมื่อหาช่องรับบอลและเปิดบอลให้ทีมแซงนำได้สำเร็จ วันนี้จ่ายบอลไปข้างหน้าได้มากขึ้น

โคอาเตส - โหม่งน่ะโหม่งได้ แต่เสียฟาลว์ง่ายไปนิดนึง โดยรวมพอใช้ได้

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ราฮีม สเตอริ่ง... ต้นเกมดูไม่จืด แต่ยิ่งเล่นยิ่งดีขึ้น ใจสู้ัและสมาธิอยู่กับเกมดี
 ------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น