วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

ยัง บอยส์ เบิร์น 3 - 5 ลิเวอร์พูล (ยูโรป้า)


...ทีมสำรอง...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-3-3

-----อัสไซดี้--------ปาเชโก้--------ดาวนิ่ง-----

---------ซูโซ่-------ซาฮิน-----เฮนเดอร์สัน----

เอนริเก้----คาราเกอร์---โคอาเตส-----วิสดอม

----------------------โจนส์-----------------------

               ลิเวอร์พูลเล่นเกมยูโรป้ารอบแบ่งกลุ่มนัดแรกออกไปเยือนยังบอยที่สวิตซ์ อาจเป็นเพราะเกมแดงเดือดในช่วงปลายสัปดาห์ทำให้ร็อดเจอร์สเปลี่ยนตัวนักเตะแบบยกทีมจากนัดก่อน มีดาวรุ่งผสมตัวสำรองผสมผู้เล่นหน้าใหม่ลงมาครบทุกตำแหน่ง เล่น 4-3-3 มีปาเชโก้เป็นหน้าเป้า
-------------------------------------------------------

               เริ่มเกมมายังบอยวิ่งไล่เต็มสนามตั้งแต่แดนหน้า ส่วนลิเวอร์พูลดันแบคขึ้นสูงถึงกลางสนามผ่านบอลสั้นบนพื้นตามสไตล์ ยังไม่ทันไรแค่นาทีที่ 4 ดาวนิ่งได้โอกาสครอสเข้ากลาง กองหลังยังบอยที่ไม่ได้โดนใครกดดันดันขึ้นโหม่งบอลมาชนหน้าเพื่อนเด้งเข้าประตูไป 1-0

               เสียประตูเร็วแต่ยังบอยยังไม่รวนพยายามตั้งเกมของตัวเองเปิดเกมรุกสู้ ทำได้ดีในการผ่านบอลไปมาแต่ไม่มีทีเด็ดทีขาดที่จะเจาะแนวรับเข้าไปลุ้นประตู ส่วนลิเวอร์พูลที่ได้เปรียบแล้วเล่นไปตามจังหวะไม่ได้เร่งมากนัก เอาตัวรอดจากการโดนไล่เพรซซิ่งได้ค่อนข้างดี รูปเกมโดยรวมลิเวอร์พูลเริ่มดูดีกว่าและเกมค่อนข้างช้า ตลอดครึ่งแรกเกมไม่ค่อยมีอะไรมากนัก

               จนกระทั่งนาที 38 จากบอลที่ไม่น่าจะมีอะไรแต่เอนริเก้กับโจนส์สื่อสารกันไม่ดีสุดท้ายบอลทะลักไปเข้าทางคู่ต่อสู้ได้ยิงง่ายๆ ตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 อย่างไรก็ตาม นาทีถัดมากองหลังยังบอยสกัดบอลผิดเหลี่ยมออกหลัง ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุมแล้วเป็นวิสดอมที่ขึ้นโหม่งเข้าไปได้สำเร็จ ลิเวอร์พูลขึ้นนำอีกครั้งอย่างรวดเร็ว 2-1 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

               เข้าครึ่งหลัง ยังบอยลงมาบุกใส่ดันสูงเปิดเกมรุกเต็มที่มากกว่าครึ่งแรกและทำได้ดี กดดันจนลิเวอร์พูลต้องเป็นฝ่ายตั้งรับมากกว่า จนในนาที 53 ก็ตีเสมอสำเร็จจากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม บอลครอสเข้าเขตโทษแล้วโอยาล่า(คนที่ทำเข้าประตูตัวเอง)ขึ้นโหม่งเข้าไปได้ 2-2 หลังจากได้นั้นยังบอยยังไม่หยุด ยังคงเดินหน้าบุกเข้าใส่ต่อไป ส่วนทางลิเวอร์พูลรูปเกมเริ่มตกเป็นรอง โดนไล่จนออกบอลกันผิดพลาดมากขึ้น และเกมไปไม่ค่อยถึงด้านหน้า

               นาที 62 บอรินี่ได้ลงมาแทนปาเชโก้ที่แทบไม่เจอบอลเลยในวันนี้ นาทีถัดมายังบอยได้โต้กลับบอลหลุดทะลุมาถึงหน้าเขตโทษ โจนส์ออกมาปิดมุมไม่ดีโดนยิงย้อนเข้าไป 3-2 หลังจากแซงนำได้สำเร็จยังบอยก็เริ่มผ่อนเกมลงไป รวมไปถึงเริ่มเปลี่ยนตัวรุกออกไปทีละคนด้วย นาที 66 เชลวี่ย์ได้ลงแทนอัสไซดี้และนาทีถัดมาลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุมโคอาเตสขึ้นโหม่ง บอรินี่วิ่งเข้าไปชาร์จไม่โดนบอลแต่ทำให้กองหลังกับผู้รักษาประตูเสียจังหวะ บอลเลยไหลเข้าประตูไปได้ 3-3

               หลังจากกลับมาเสมอ ลิเวอร์พูลเปิดเกมรุกมากขึ้น เริ่มครองบอลและกดดันได้แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์ได้ไม่ถนัดนัก ส่วนยังบอยถอยไปรับมากขึ้น ครองบอลได้น้อยลงและหันมาเน้นจังหวะโต้กลับ เสียเปรียบเรื่องรูปเกมแต่โดยรวมก็ไม่ถึงกับถูกกดดันมากนัก จนกระทั่งนาที 76 ยังบอยออกบอลกันพลาดในแดนตัวเองโดนบอรินี่ฉกไปได้ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็นเชลวี่ย์ได้ยิงจากแถวๆ จุดโทษเข้าไปให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำอีกรอบ 4-3 และร็อดเจอร์สส่งสเตอริ่งลงมาแทนดาวนิ่งทันทีก่อนการเขี่ยบอล

               ยังบอยตามหลังอีกครั้งเลยพยายามกลับมาบุกต่อ กดดันได้ดีพอใช้ ส่วนลิเวอร์พูลเริ่มหันมาเน้นโต้กลับแต่ทำได้ไม่ค่อยถนัดนัก ยังบอยหาโอกาสจบสกอร์ได้น้อยและไล่ตีเสมอไม่สำเร็จ กลายเป็นลิเวอร์พูลที่มายิงได้อีกลูกในนาที 88 เชลวี่ย์พาบอลมาถึงหน้าเขตโทษ บอรินี่วิ่งดึงกองหลังให้เชลวี่ย์ได้กดจากหน้าเขตโทษเข้าไปเป็น 5-3 ปิดเกมไปได้อย่างเด็ดขาด
-----------------------------------------

               แม้ว่ายังบอยซึ่งดูไม่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่หนักหนาอะไรนัก แต่จากรายชื่อ 11 ตัวจริง ที่ลิเวอร์พูลใช้ผู้เล่นสำรองเกือบยกทีมทำให้ต้องเจองานยากกว่าจะบดเอาชนะไปได้อย่างหวุดหวิด มองในแง่การเก็บตัวหลักไว้สู้กับแมนฯ ยูในช่วงสุดสัปดาห์ก็ต้องถือว่าร็อดเจอร์สเลือกเสี่ยงได้ถูกต้องเพราะได้ผลที่ต้องการด้วย ได้เก็บตัวหลักด้วย ส่วนเกมในวันนี้น่าจะเป็นเรื่องของการพยายามทำให้นักเตะที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสลงสนามได้ลงมาทำความคุ้นเคยกับแทคติคและเพื่อนร่วมทีมเสียมากกว่า

               ดูจาก 11 ตัวจริง ทุกคนก็ได้เล่นตามตำแหน่งของตัวเองหมด แทคติคก็เหมือนที่ใช้กับทีมหลัก จะมีช่องโหว่อยู่นิดหน่อยก็ตรงแดนกลางที่ไม่มีตัวรับแท้ๆ เลยสักคน ซึ่งตรงนี้เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ยังบอยเปิดเกมรุกได้ค่อนข้างดีในช่วงครึ่งหลังเพราะลิเวอร์พูลขาดคนเข้าปะทะในแดนกลาง คู่ต่อสู้บุกมาเมื่อไหร่เป็นถึงแผงหลังแทบทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม เหตุผลหลักที่ทำให้ลิเวอร์พูลเสียถึงสามประตูและต้องดิ้นรนไม่้น้อยกว่าจะเอาตัวรอดได้คือแผงหลังเองนั่นแหล่ะ ในช่วงครึ่งแรกที่ไม่โดนกดดันมากนักก็ยังอุตส่าห์ผิดพลาดง่ายๆ ให้เสียประตู ยิ่งเข้าครึ่งหลังที่โดนกดดันหนักขึ้น แผงหลังชุดนี้ยิ่งออกอาการหนักเข้าไปใหญ่ ยังดีว่าหลังยังบอยอาการหนักกว่าและผู้จัดการทีมเกิดพอใจกับผลเสมอขึ้นมาเลยทำให้ทีมรอดมาได้

               แต่ไม่ใช่ว่าลิเวอร์พูลจะยิ่งได้ 5 ลูกเพราะกองหลังคู่ต่อสู้ห่วยแตกเพียงอย่างเดียว ร็อดเจอร์สนั้นเปลี่ยนตัวสำรองได้เร็วและแก้เกมง่ายๆ ได้ถูกจุด ลูกเซตพีซที่ไม่ค่อยจะมีประสิทธิภาพมาหลายต่อหลายฤดู มาถึงตอนนี้กลายเป็นหวังพึ่งได้ (นัดนี้ได้จากเตะมุมมาอีก 2 ลูก) นอกจากนั้นเกมนี้ยังได้เห็นว่านักเตะสำรองบางคนดูดีมีความหวัง ไม่ว่าจะซูโซ่ อัสไซดี้ หรือแม้กระทั่งความหวังเก่าอย่างเฮนเดอร์สันที่ดูจะเล่นได้แบบมีความหวังอีกครั้ง โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นนัดที่น่าพอใจในหลายๆ ความหมายทีเดียว

               ...นัดหน้ามารอดูทีม "ตัวจริง" กันบ้างครับ...
----------------------------------

นัดนี้เล่นกันใช้ได้

โจนส์ - ครึ่งแรกที่ไม่โดนกดดันมากนัก ยืนตำแหน่งได้ดี ตัดสินใจได้เด็ดขาด แต่หลังจากเสียประตูและเข้าครึ่งหลังที่โดนกดดันมากขึ้น โจนส์ออกอาการงึกๆ งักๆ เก้ๆ กังๆ ลังเลจะออกไม่ออกอยู่หลายจังหวะ โดยรวมไม่เลวร้ายแต่ก็ไม่ใช่ฟอร์มที่ดีนัก เตะเปิดเกมได้เข้าขั้นแย่มาก

เอนริเก้ - น่าจะเป็นคนที่ได้บอลมากเป็นอันดับต้นๆ ของเกมในวันนี้ ขึ้นมาช่วยเกมแดนกลางได้ดีระดับนึง เพื่อนไม่รู้จะส่งใครหันมาต้องเจอเอนริเก้ อย่างไรก็ตาม เอนริเก้เล่นผิดพลาดเยอะมากจนน่าใจหาย ทำให้ทีมเสียประตูไป 1 ครั้ง และเกือบทำให้เสียประตูอีกหลายครั้ง ส่วนเกมรุกก็แทบไม่เกี่ยวอะไรกับ 5 ประตูของทีมเลย

คาราเกอร์ - ลูกดึงลูกเบียดหวุดหวิดจะฟาลว์ของคาราเกอร์ยังทำได้ดีอยู่ ช่วยทีมไว้ได้หลายครั้ง แต่ความช้าเป็นปัญหาใหญ่และเบียดสู้กับคู่ต่อสู้ไม่ค่อยชนะ มีส่วนร่วมกับประตูที่เสียไปอยู่ไม่น้อย

โคอาเตส - ครึ่งแรกดูดีไม่มีปัญหา ครึ่งหลังพอโดนกดดันมากๆ เข้าเริ่มออกอากาศ อ่านจังหวะขึ้นโหม่งบอลพลาด 2-3 ครั้ง และออกอาการลนลานให้เห็นเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม โคอาเตสมีมุมมองการจ่ายบอลวางยาวให้กองหน้าที่ใช้การได้ รวมไปถึงการเล่นลูกเซตพีซที่ดูดีทีเดียว

วิสดอม - เกมรุกไม่ค่อยได้ช่วยขึ้นไปเติมเท่าไหร่ แต่เกมรับทำได้ค่อนข้างน่าพอใจ รับมือเกมริมเส้นได้ดี มีปัญหาเล็กน้อยกับการหุบเข้าไปช่วยตรงกลาง

ซูโซ่ - เล่นเกมรับไม่ได้เรื่อง แต่เกมรุกเวลาบอลอยู่กับเท้าทำได้ดีมาก เสียบอลยากและดึงบอลหลบคู่ต่อสู้ได้ดี พาบอลไปกับตัวได้ดี

ซาฮิน - ไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก เกมรับช่วยปิดพื้นที่ได้บ้างแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เกมรุกส่วนใหญ่จะเป็นคนกระจายบอลให้เพื่อน ไม่ค่อยได้ขึ้นไปเล่นสูงนักและไม่มีจังหวะทีเด็ดทีขาดอะไรให้เห็น แต่จ่ายบอลได้ดี เร็ว ผิดพลาดน้อย และเพื่อนไม่ค่อยเสียเปรียบ

เฮนเดอร์สัน - เล่นเกมรับได้ดีที่สุดในแดนกลาง เข้าถึงบอลได้เร็ว อ่านเกมใช้ได้และปิดพื้่นที่ได้ค่อนข้างดี เคลื่อนที่ไปรับบอลได้ดีมาก จ่ายบอลผิดพลาดน้อย เล่นได้เด่นที่สุดในแดนกลาง

อัสไซดี้ - ยังประสานงานกับเพื่อนร่วมได้ไม่ดีนัก หลายจังหวะเห็นเอนริเก้เป็นเดเนี่ยล อัลเวส และบางจังหวะเห็นปาเชโก้เป็นกุน พลิกบอลได้ดีหลายครั้งและพาบอลไปกับตัวได้ค่อนข้างดี โดยรวมยังต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักพัก

ดาวนิ่ง - เล่นได้ดีในช่วงต้นเกม ครอสบอลได้ไม่ค่อยจะตรงเพื่อนแต่ก็กดดันคู่ต่อสู้ได้ระดับนึง กระชากบอลไม่ค่อยผ่านก่อนจะค่อยๆ หายไปจากเกม

ปาเชโก้ - คงต้องรับสภาพกองหน้าลำดับที่ 4 ต่อไป

ตัวสำรอง

บอรินี่  - ลงมาหาโอกาสจบสกอร์ได้ดี วิ่งทำทางและหาตำแหน่งได้ดีที่แคบๆ ก็ยังอุตส่าห์หาช่องเล็ดลอดไปยิงได้และบอลเข้าตรงกรอบดีด้วย แต่เก็บบอลไม่ได้ บอลมาถึงตัวเมื่อไหร่ถ้ายิงไม่ได้คือโดนตัดบอล

เชลวี่ย์ - เล่นได้นิ่ง ไม่ลนลาน หาช่องยิงได้ดีและยิงได้ดีมากด้วย บอลไม่หนีผู้รักษาประตูเท่าไหร่แต่อาศัยยิงเร็วและยิงแรง

สเตอริ่ง : ไม่ได้ทำอะไรมากนัก จุดประสงค์หลังคือลงมากดแนวรับคู่ต่อสู้ไม่ให้ขึ้นไปมากกว่า

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ...จอนโจ้ เชลวี่ย์... ถ้าตัดเรื่องการทำประตูออกไป ดูเฉพาะรูปเกมล้วนๆ นัดนี้ต้องเป็นเฮนเดอร์สัน แต่ฟุตบอลตัดสินที่ประตู ไม่ได้เชลวี่ย์นัดนี้อาจได้แค่เสมอ 3-3 ...ขอโทษนะ เฮนเดอร์สัน!
------------------------------------------------------------
Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น