วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

ลิเวอร์พูล 2 - 1 สโต๊ค ซิตี้


...ฤดูกาลนี้ยังไม่จบ...
--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลเล่น 4-4-2

-------------คาโรล-------ซัวเรส--------------

มักซี่-------สเปียริ่ง-------เจอราด-----ดาวนิ่ง

เอนริเก้---สเคอเทล----คาราเกอร์-----เคลลี่

---------------------เรน่า-----------------------

               เกม FA ที่ลิเวอร์พูลต้องเปิดบ้านรับทีมที่เตะกันมาจนเบื่อแล้วในฤดูนี้อย่างสโต๊ค ดัลกลิชจัด 4-4-2 เหมือนเดิมแต่เปลี่ยนแปลงผู้เล่นริมเส้นเล็กน้อยด้วยการส่งมักซี่ลงเป็นตัวจริงทางซ้าย แล้วโยกดาวนิ่งไปอยู่ขวา นอกนั้นก็ยังเป็นชุดเดิม
-------------------------------------------------------

               ช่วงเริ่มเกมเล่นกันค่อนข้างอืด ฟาลว์บ่อยและลูกตายบ่อย เกมไม่ค่อยปะติดปะต่อทั้งสองฝั่ง สโต๊คเล่นบอลไดเรกต์เต็มที่โยนยาวไปให้เคร้าช์เล่นเป็นหลัก โยนไปเรื่อยเปื่อยทำประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้ส่วนทางลิเวอร์พูลยังเน้นเล่นบอลกับพื้นและขึ้นเกมด้วยการเติมขึ้นไปของแบคทั้งสองฝั่ง จังหวะเข้าทำเน้นการเล่นบอลจังหวะเดียวและการทำชิ่งก็ทำพลาดกันไปเองเกือบหมด ทำให้ 20 นาทีแรกของเกมยังทำอะไรกันแทบไม่ได้

               นาที 23 บอลจังหวะเดียวของลิเวอร์พูลก็มีจังหวะลงตัว(สักที) ซัวเรสทำชิ่งกับมักซี่จนได้จังหวะยิงไกลจากแถวๆ เส้นเขตโทษให้ทีมขึ้นนำได้สำเร็จ 1-0 แต่เพียงแค่ 4 นาทีถัดมาก็ถูกตีเสมอจากจังหวะที่สโต๊คได้ลูกเตะมุม(ที่ไม่ควรจะได้เพราะบอลโดนสโต๊คออก) เรน่าโดนขวางทำให้ขึ้นไม่ถึงบอล เคร้าช์ได้โหม่งเต็มๆ จากระยะแค่ 4-5 หลา สกอร์ขยับเป็น 1-1

               พอโดนตีเสมอกลายเป็นลิเวอร์พูลเร่งเกมกันขึ้นมาได้มากขึ้น เกมเปิดแลกกันมากขึ้น แบคทั้งสองฝั่งทำผลงานกันได้ดีจนลิเวอร์พูลเริ่มมีเกมรุกที่ต่อเนื่องกว่าช่วงต้นเกมแต่ยังหาจังหวะจบสกอร์กันแทบไม่เจอ  ก่อนที่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเกมจะกลับไปช้าอีกครั้ง แล้วจบครึ่งแรกไปแบบจืดชืดเล็กน้อย 1-1

               เข้าครึ่งหลังรูปเกมยังคล้ายครึ่งแรกแต่ลิเวอร์พูลดูเร่งเกมและเข้าหาบอลกันเร็วมากขึ้น ส่วนทางสโต๊คโต้ไม่ค่อยขึ้นและครองบอลได้ไม่นาน ทำให้ลิเวอร์พูลกดดันแนวรับได้มากขึ้นกว่าครึ่งแรกเล็กน้อยก่อนจะมาทำได้สำเร็จในนาที 57 ดาวนิ่งได้บอลแถวมุมเขตโทษด้านขวาจ่ายให้เจอราด ซึ่งเจอราดไม่รู้ว่าตั้งใจชิ่งหรือจับบอลพลาดทำให้บอลปลิ้นมาข้างหลังเล็กน้อยแล้วเป็นดาวนิ่งที่วิ่งต่อเข้าไปเอาบอลแตะหลบกองหลังก่อนจะยิงย้อนทางเข้าไปได้ให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำอีกครั้ง 2-1

               แม้จะตามหลังอีกครั้งแต่สโต๊คก็ยังตั้งเกมของตัวเองไม่ค่อยจะได้ โทนี่ พูลิส ต้องตัดสินใจแ้ก้เกมด้วยการเอาชัตตันออกแล้วส่งแพนเน้นท์ลงมาทำเกมริมเส้นฝั่งขวา ในนาทีเดียวกันดัลกลิชก็ถอดมักซี่ที่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมออกแล้วส่งเค้าท์ลงไปแทน โยกดาวนิ่งกลับมาด้านซ้ายอีกครั้ง

               สโต๊คยังคงก้มหน้าก้มตาโยนทิ้งโยนขว้างต่อไป เกมริมเส้นขึ้นไม่ค่อยได้ ทำให้บอลอยู่กับลิเวอร์พูลมากขึ้นแต่ลิเวอร์พูลเองก็ยังพลาดกับบอลจังหวะเดียวตอนเข้าทำเป็นส่วนใหญ่เช่นเดิม นาที 72 พูลิส พยายามเปลี่ยนเกมอีกครั้งเอาเจอโรมลงมาแทนเอทเทอริงตันที่เล่นไม่ออก รวมไปถึงดีแลปลงมาแทนไวท์เฮดหวังพึ่งลูกทุ่มไกล ถึงตรงนี้สโต๊คเริ่มหันมาเน้นการขึ้นบอลทางขวาด้วยเพนแนนท์มากขึ้นและทำเกมได้ดีกว่าการโยนบอลเข้าไปตรงกลาง แต่ก็ไม่ถึงกับกดดันอะไรได้มากนัก

               10 นาทีสุดท้ายของเกมลิเวอร์พูลเน้นครองบอลมากขึ้น ส่วนสโต๊คได้ลุ้นแค่จากลูกครอสแนวลึกเพราะขึ้นบอลไม่ถึงสุดเส้นและแทบไม่ได้ลุ้นประตูเลย นาที 89 โคอาเตสกับเฮนเดอร์สันได้ลงแทนเคลลี่และซัวเรสที่มีอาการบาดเจ็บ ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะปิดเกมเอาชนะไปได้ 2-1
------------------------------------------

               แม้จะเล่นด้วยแทคติคเดียวกับ 2-3 นัดล่าสุด แต่ดูเหมือนการเลือกตัวผู้เล่นลงสนามของดัลกลิชในวันนี้ส่งผลต่อรูปเกมมากทีเดียว วันนี้เกมรุกของลิเวอร์พูลไม่ดุดันเท่าไหร่ และกดดันสโต๊คได้ไม่มากนักเพราะริมเส้นทั้งสองฝั่งทำเกมไม่ได้และมีส่วนร่วมกับเกมค่อนข้างน้อย มักซี่แทบจะหายจากเกมไปเลย ในขณะที่ดาวนิ่งก็หนักไปทางเคาะบอลเชื่อมเกมมากกว่าจะสร้างสรรค์เกมรุก

               อย่างไรก็ตาม ก็ด้วยแทคติคนี่เองที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลได้ชัยชนะในนัดนี้ คาโรลแม้จะเล่นได้ไม่ดีนัก แต่มีประโยชน์มากในการรับมือลูกตั้งเตะ และที่สำคัญคือทำให้ซัวเรสได้มีโอกาสหนีตัวประกบไปทำเกมมากขึ้น จนมีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตู ลูกแรกยิง ลูกที่สองก็เป็นคนเริ่มต้นผ่านบอลและทำทางให้ รวมไปถึงจังหวะอันตรายและได้ลุ้นส่วนใหญ่ก็มาจากการเล่นของซัวเรสที่ฉีกหนีตัวประกบไม่ต้องยืนค้ำในแดนหน้าทั้งสิ้น นอกจากนั้นการเน้นให้แบคเติมเกมสูงทั้งสองฝั่งอยู่ตลอดเกมก็เป็นการปิดเกมรุกของสโต๊คได้ดีเอามากๆ ริมเส้นของสโต๊คแทนที่จะได้ไปรอบอลโต้กลับหรือรับบอลแถวกลางสนามแล้วกระชากขึ้นไป กลับต้องคอยตามลงแบคลงมา ทำให้สโต๊คถูกบีบให้ต้องโยนบอลไปให้เคร้าช์ซึ่งก็แทบจะโดดเดี่ยวอยู่ในแดนหน้า ทำให้งานของสเคอเทลง่ายขึ้นตามไปด้วย

               นอกจากนั้นยังน่าประหลาดใจเล็กน้อยที่ 2 ประตูที่ได้มา ริมเส้นทั้งสองฝั่งที่เล่นไม่ออกนั่นแหล่ะที่มีส่วนร่วมด้วย ลูกแรกมักซี่เป็นคนชิ่งให้ซัวเรส(ถ้าดูไม่ผิดนะ เห็นผมดำๆ ตัวเล็กๆ คงไม่ใช่คาโรล และเอนริเก้คงเติมไปไม่ถึงในจังหวะนั้น) ลูกที่สองก็เป็นดาวนิ่งยิง พูดถึงดาวนิ่ง คงต้องบอกว่านี่เป็นอีกครั้งที่ถูกโยกไปเล่นทางขวาที่เจ้าตัวบอกว่าถนัดกว่าแต่กลับทำผลงานได้ไม่ดีเท่าตอนอยู่ฝั่งซ้าย อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรก(ถ้าจำไม่ผิด) ที่ดาวนิ่งอยู่ฝั่งขวา - ตัดเข้ากลาง - ยิงด้วยซ้าย แล้วเป็นประตูได้สักที รอกันมาเกือบทั้งฤดู แต่พูดก็พูดเถอะนัดหน้า...

               ...ช่วยเอาดาวนิ่งไปยืนทางซ้ายเถอะครับ...
 ----------------------------------

นัดนี้เล่นพอใช้ได้

เรน่า - พลาดเล็กน้อยที่ไม่เรียกใครมาช่วยเบียดเปิดทางให้ในจังหวะที่เสียประตู แต่นอกนั้นก็ไม่มีอะไรให้ต้องเซฟ ขยันออกบอลเร็วอยู่ตลอด ดีบ้างไม่ดีบ้าง

เอนริเก้ - เติมเกมสูงตลอด ออกบอลพลาดน้อย ถึงจะพลาดหลุดตำแหน่งจนโดนโต้มาบ้างแต่ก็พอเอาตัวรอดไปได้

คาราเกอร์
- ไม่มีบอลเรียดกลิ้งเข้ามาในเขตโทษ คาราเกอร์ก็ไม่มีข้อผิดพลาดอะไร อันที่จริงนัดก็แค่คอยซ้อนเพื่อนเท่านั้นเอง

สเคอเทล - ดวลกับเคร้าช์อยู่ตลอดเกม ชนะบ้างไม่ชนะบ้างเสียฟาลว์บ้างแต่ก็ทำให้เคร้าช์เล่นยาก ทำผลงานพอใช้ได้

เคลลี่ - เช่นเดียวกับเอนริเก้ ที่ทำได้ดีกว่าคือทำอีท่าไหนไม่รู้แต่หาจังหวะหลุดเข้าเกือบได้ยิงในเขตโทษอีกแล้ว แต่ก็ยิงไม่สำเร็จอีกแล้วเช่นกัน รับมือกับเอทเทอริงตันได้ดีกว่าที่คิด

มักซี่ - รักษาฟอร์มมาตรฐานไว้ได้เหนียวแน่น...

สเปียริ่ง - เป็นวันที่เล่นเกมรุกเยอะ ทั้งการออกบอลเร็ว, วางบอลยาวและเติมขึ้นสูง จ่ายบอลพลาดเยอะ แต่ก็มีความขยันและกล้าได้กล้าเสียดี เกมรับงานเบาเพราะกลางสโต๊คไม่ค่อยดันกันขึ้นมาเท่าไหร่ เล่นไม่ถึงขึ้นยอดเยี่ยมแต่ก็นับว่าเป็นฟอร์มขาขึ้น

เจอราด - ทำงานหนักจริงๆ เนื่องจากสเปียริ่งในฐานะกลางรับเติมขึ้นมาค่อนข้างบ่อย รวมไปถึงแบคที่เติมสูงจนบางครั้งหลุดตำแหน่ง ทำให้หลายครั้งเจอราดต้องวิ่งถอยลงไปปิดพื้นที่ เกมรุกก็ต้องคอยสร้างสรรค์เกม ทั้งทำชิ่งกับเพื่อน, คอยหาช่องจ่ายทะลุและโยนบอลเข้าเขตโทษ ผลงานอาจไม่หวือหวา แต่นัดนี้ไม่มีเจอราดคาดว่าต้องเหนื่อยกว่านี้อีกหลายเท่า

ดาวนิ่ง - ตอนยืนฝั่งขวาทำได้แค่เชื่อมเกม ทำเกมด้วยตัวเองได้น้อยมาก มาฝั่งซ้ายดีขึ้นนิดหน่อยกับจังหวะกระชากบอลขึ้นไปเองแต่ก็ไม่ถึงกับเข้าตานัก ยังดีว่าทำประตูได้และเป็นประตูชัยด้วย

คาโรล - เป็นวันที่เล่นได้ไม่ค่อยดี แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นกุมขมับเหมือนช่วงต้นฤดูกาลแต่ก็ไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ ออกห่างจากเขตโทษมากเหลือเกิน หาพื้นที่และเคลื่อนที่ได้ไม่ดี ลูกกลางอากาศถ้ามองจากมุมว่าโดนเซนเตอร์ที่เด่นลูกกลางอากาศเป็นอับดับต้นๆ ของลีคคอยประกบ ทำผลงานได้เท่านี้ (โหม่งชงได้บ้างนิดหน่อย) อาจพอรับได้ แต่ถ้ามองจากมุมว่านี่คือกองหน้าตัวหลักของทีมที่หวังจะอยู่ใน Top4 หรือถึงลุ้นแชมป์ จุดเด่นที่สุดของตัวเองควรต้องทำได้ดีกว่านี้ ไม่ว่าคนประกบจะเป็นใครก็ตาม

ซัวเรส - ยิงลูกแรกได้ดี แต่หลังจากนั้นก็หนักไปทางหลุดกรอบ แม้จะทำบอลเสียบ่อยแต่จังหวะได้ลุ้นประตูก็ได้มาจากการเล่นของเขาแทบทุกลูก มีส่วนร่วมและเป็นส่วนสำคัญในเกมรุกของทีม

ตัวสำรอง

เค้าท์ - ทำผลงานแทบไม่ต่างกับมักซี่

โคอาเตส - ได้ลง 2 นาที โดยได้สกัด 2 ครั้ง หมดเวลาแล้ว

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : มาร์ติน เคลลี่ ... เจอราดกับซัวเรสมีความสำคัญกับทีมอย่างยิ่งยวด ดาวนิ่งยิงประตูชัย แค่เคลลี่เล่นได้โดดเด่นมากทั้งในเกมรับที่เก็บเอทเทอริงตันอยู่ และเกมรุกที่เติมได้น่ากลัวและเติมได้ตลอดเกม

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น