วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ฟูแล่ม 1 - 0 ลิเวอร์พูล



ยิงไม่เข้า...แล้วจะเอาอะไรไปชนะ

--------------------------------------------------------

ลิเวอร์พูลปรับมาเล่น 4-3-3


------ซัวเรส-------คาโรล------เบลามี่----------
-------อดัม-----สเปียริ่ง-----เฮนเดอร์สัน-------
เอนริเก้---แอกเกอร์----สเคอเทล----จอห์นสัน
-----------------------เรน่า-----------------------

          ลิเวอร์พูลลงเล่นมันเดย์ไนท์ออกไปเยือนฟูแล่มโดยไม่มีลูคัสที่เจ็บยาวไปเรียบร้อย ปรับมาเล่น 4-3-3 ส่งทั้งซัวเรส,คาโรล และเบลามี่ลงพร้อมกัน ในแดนกลางเป็นอดัม,สเีปียริ่งและเฮนเดอร์สัน ส่วนแผงหลังยังใช้ชุึดหลักชุดเดิม

-------------------------------------------------------

          เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายเล่นกันค่อนข้างระวังตัว ทางฝั่งลิเวอร์พูลเล่นช้าเน้นความแน่นอนเคาะหาช่องไปเรื่อยๆ ส่วนฟูแล่มเน้นเกมรับยืนปิดพื้นที่กันแ่น่น คอยหาจังหวะสวนกลับเร็ว ต้นเกมเป็นลิเวอร์พูลที่เปิดเกมรุกเต็มที่มีแบคสองฝั่งเติมสูงและแดนหน้ามีทางเลือกมากได้โอกาสผ่านบอลไปถึงพื้่นที่สุดท้ายเป็นระยะ แต่จังหวะยิงยังไม่ดีพอที่จะผ่านกองหลัง ชวาเซอร์และเสาประตูได้ทำให้ยังไม่สามารถทำประตูขึ้นนำ

          เกมเป็นของลิเวอร์พูลราว 15 นาที ฟูแล่มก็ปิดพื้นที่กันได้ดียิ่งขึ้นทำให้ลิเวอร์พูลเริ่มโดนดันถอยห่างจากเขตโทษ ในขณะที่ฟูแล่มตอบโต้ด้วยการยิงไกลจากนอกกรอบทุกครั้งที่มีโอกาสและทำกันได้ดีระดับหนึ่งแต่ยังไม่ผ่านมือเรน่า เวลายิ่งผ่านไปลิเวอร์พูลแม้จะยังหาจังหวะพาบอลเข้าไปถึงเขตโทษได้บ้างแต่ก็น้อยลงเรื่อยๆ กลับกันกับฟูแล่มที่มาป้วนเปี้ยนแถวหน้าเขตโทษลิเวอร์พูลได้มากขึ้น แต่สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

          เข้าครึ่งหลังรูปเกมยังคงเหมือนครึ่งแรก ลิเวอร์พูลโหมบุกตั้งแต่ต้นและกดดันได้อย่างหนักจากลูกเตะมุมติดต่อกันแต่ยังทำประตูไม่ได้ ส่วนฟูแล่มเริ่มครองบอลได้มากขึ้นแต่ยังเล่นอย่างระวัง ไม่ได้ดันกันขึ้นมาทั้งแผง ใช้ตัวผู้เล่นน้อยเน้นจังหวะทำเร็วฉาบฉวย เกมเปิดมากขึ้นแต่ค่อนข้างสูสีไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ

          แต่แล้วนาที 72 เกมก็เปลี่ยน สเปียริ่งเข้าสกัดบอลแต่ไปเสียบเอาเ้ดมเบเล่ไปด้วย ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกทันทีทำให้ลิเวอร์พูลเหลือแค่ 10 คน ฟูแล่มได้ครองบอลมากขึ้น นาที 77 ดัลกลิชตัดสินใจเปลี่ยนเอาคาโรลกับเบลามี่ออกแล้วส่งเค้าท์กับดาวนิ่งลงไป แทน ฟูแล่มเปิดเกมรุกมากขึ้นและกดดันอยู่แถวหน้าเขตโทษลิเวอร์พูลได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนลิเวอร์พูลยังพยายามบุกตอบโต้ขึ้นไปบ้างแต่จังหวะสุดท้ายยังทำกันได้ไม่ดีพอจะเป็นประตู

          ฟูแล่มมาทำสำเร็จในนาที 85 เรน่ารับลูกยิงไกลแถวริมเส้นเขตโทษกระฉอก โดนเดมซี่ปรี่เข้ามาซ้ำให้ฟูแล่มนำ 1-0 หลังจากนั้นฟูแล่มก็เคาะครองบอลดึงเวลาและปิดเกมไปได้สำเร็จ 1-0

------------------------------------------

          ดัลกลิชตัดสินใจเ้ปิดหน้าแลกเต็มที่ด้วยการส่งกองหน้าลงมา 3 คน รวมไปถึงแบคสองฝั่งที่เติมขึ้นสูงตลอด หวังจะใช้เกมรุกบดเอาชนะฟูแล่มให้ได้ ซึ่งถ้าดูจากรูปเกมในช่วงก่อนจะเหลือ 10 คนแล้ว ดัลกลิชตัดสินใจได้ถูกต้อง แม้รูปเกมจะไม่ได้จับฟูแล่มขึงพืดอยู่ครึ่งสนาม แต่ลิเวอร์พูลสามารถสร้างโอกาสในการยิงประตูได้เยอะ กองหน้าทั้ง 3 คนต่างมีโอกาสยิงคนละ 2-3 ครั้ง (รวมกันก็เป็น 10 แล้วนะเนี่ย) แต่กลับทำไม่ได้กันไปเอง แม้กระทั่งตอนที่เหลือ 10 คนแล้ว การเปลี่ยนตัวของดัลกลิชก็ยังลุ้นที่จะประตูไม่ได้เน้นเปลี่ยนมาเพื่อเน้นอุดเอาผลเสมอ เกือบจะทำได้ด้วยทั้งจากดาวนิ่งและอดัมแต่ก็ไม่สำเร็จ


          จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมคงหนีไม่พ้นการโดนใบแดงของสเปียริ่ง จังหวะนั้นสเปียริ่งสกัดโดนบอลก่อนก็จริงแต่เป็นการเข้าทั้งตัวอัดทั้งคน ทั้งบอล ทั้งๆ ที่เพียงแค่หยุดไม่ให้ฟูแล่มสามารถเล่นต่อ, จ่ายบอลเร็ว หรือพลิกบอลไปได้ก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเข้าหนักขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าดูจากเจตนาการเข้าบอล รวมไปถึงการสกัดโดนบอลก่อน จังหวะนี้ให้เพียงใบเหลืองก็น่าจะได้ ถึงอย่างนั้นแทนที่จะโทษกรรมการ ก็ควรจะโทษสเปียริ่งเองด้วยที่เล่นจังหวะนี้ได้ไม่เนียนพอ


          สิ่งที่ลิเวอร์พูลควรแก้ไข ไม่น่าจะใช่ไปซื้อกองหน้ามาเพิ่ม แต่ควรจะเป็นการปรับปรุงการจบสกอร์ของกองหน้าให้ดีกว่านี้ ดูในแผงกลาง ทั้งอดัม ดาวนิ่ง เฮนเดอร์สันยังจบสกอร์ได้ดีกว่า, ใกล้เคียงกว่ากองหน้าซะอีก คาโรลนั้นควรจะอยู่ใกล้เขตโทษกว่านี้ เรียนวิชาหาพื้นที่จบสกอร์จากมักซี่บ้าง รวมไปถึงการปรับการยิงจังหวะแรกให้เข้าเป้ากว่านี้ ส่วนซัวเรสคงไม่มีอะไรมากไปกว่าช่วยยิงลูกง่ายๆ ให้ได้บ้างก็จะดี รู้สึกว่าถ้าไม่ได้แตะลอดขา ล๊อคหลบโกล ยิงมุมแคบ หรือกระดกบอลข้ามหัวใคร ซัวเรสจะยิงแทบไม่เข้ากรอบเลย สำหรับเบลามี่ก็ปล่อยลุงแกไปเถอะ เพราะดูเหมือนหน้าที่หลักจะเป็นการพาบอลขึ้นมาและเปิดป้อนมากกว่า


          นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ต่อให้มีปืนกลกับกระสุน 10 ตับ ก็สู้หนังสติ๊กกับลูกหินนัดเดียวที่ดีดเข้าเป้าไม่ได้

----------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดีบ้างไม่ดีบ้าง

เรน่า - ทำดีมาตลอดเกม เซฟลูกยิงไกลยากๆ ได้เหมือนเป็นเรื่องง่ายทุกลูก แต่มาพลาดเอาจังหวะเสียประตูที่เสียดายบอล คิดจะรับเพื่อครองบอลไว้กับตัวจนบอลกระฉอก ถ้าเรน่าคิดจะปัดแต่แรกมั่นใจว่าเขาสามารถปัดบอลลูกนี้ออกหลังได้


เอนริเก้ - ฟอร์มส่วนตัวยังดีอยู่ ที่ดูดรอปลงไปนิดหน่อยคือการเปิดบอลจังหวะสุดท้ายที่ขาดๆ เกินๆ


แอกเกอร์ - นัดนี้มีจังหวะที่ปล่อยให้ฟูแล่มง้างเท้ายิงในกรอบให้เห็นไม่น้อย แต่จังหวะที่เบียดปะทะและเข้าสกัดยังทำได้เด็ดขาด


สเคอเทล - ประกบหน้าเป้าของฟูแล่มไ้ด้ดี แต่จังหวะเข้าไปซ้อนแบคน่าจะทำได้ดีกว่านี้อีกสักหน่อย


จอห์นสัน - ทำได้ดีระดับนึงทั้งเกมรุกและรับ แต่ยังมีปัญหากับการปิดจังหวะที่คู่ต่อสู้จะพลิกบอลไปเปิดหรือยิง ซึ่งยังทำได้ไม่ดีพอ ถ้าไปเทียบกับเอนริเก้ที่แทบไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้ได้ส่งบอลผ่านเข้ามาในกรอบ ได้ง่ายๆ จะเห็นได้ชัดมาก


อดัม - กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในแดนกลางตามสถานการณ์พาไป ทำได้ดีในการแจกจ่ายบอลให้เพื่อนเอาไปทำเกมต่อ และหาโอกาสสอดขึ้นมาทำประตูได้บ้าง ส่วนเกมรับยังแค่พอใช้เพราะปล่อยให้คู่ต่อสู้พลิกบอลเลี้ยงจี้เข้าไปถึงแผงหลังบ่อยครั้ง


สเปียริ่ง - ยังคงอาศัยความขยันหากิน ทำได้ดีกับการเข้าไปเร่งให้คู่ต่อสู้ต้องรีบออกบอล แต่การปิดพื้นที่หน้าเขตโทษและเก็บบอลจังหวะสองยังไม่ดีพอ ส่วนการเข้าสกัดทำได้ดีมากและอาจจะดีไปจนกระทั่งโดนไล่ออกเลย


เฮนเดอร์สัน - หุบเข้ามาเล่นกลางอีก 1 นัด ทำผลงานในเกมรุกได้ไม่แพ้อดัม ทั้งยังต้องฉีกออกมาเล่นริมเส้นบ่อยครั้งด้วย ทำผลงานได้ดี แต่เกมรับที่มีพื้นที่ต้องดูแลกว้างขนาดนั้นยังช่วยอดัมกับสเปียริ่งได้น้อยไปหน่อย


ซัวเรส - โดนอัดหนักตลอดเกมและทำให้เสียสมาธิไม่น้อย หลายครั้งที่พยายามเรียกเอาฟาลว์มากเกินไป แต่ในเกมก็ยังทำได้ดี บังบอลได้ดีกว่าคาโรล จังหวะพลิกบอลก็ยังกดดันกองหลังได้


เบลามี่ - เป็นกองหน้าที่ลงมาล้วงบอลบ่อยกว่าอีก 2 คน แต่เมื่อเจอโซนรับที่แน่นและแทบไม่เหลือพื้นที่ให้เล่น เบลามี่ทำเกมได้น้อยกว่านัดก่อนที่เจอเชลซี


คาโรล - โดนประกบติดจนทำอะไรแทบไม่ได้ ลูกกลางอากาศเอาชนะกองหลังฟูแ่ล่มไม่ได้เลย และมักจะถอยห่างออกจากเขตโทษบ่อยเกินไป ทั้งๆ ที่ตัวคาโรลเองถ้าอยู่ห่างเขตโทษแทบจะทำอะไรไม่ได้


ตัวสำรอง

เค้าท์ - ลงมารับบท 2 in 1 ทั้งกองกลางที่วิ่งไล่บอล และกองหน้าที่เข้าปะทะ ทำได้ดีทีเดียว ช่วยเปิดทางให้เพื่อนได้เปิดบอลหรือยิงได้ด้วย


ดาวนิ่ง - จำเป็นต้องไปคนเดียวแทบทุกจังหวะและทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทำได้ดีทุกอย่างยกเว้นจังหวะครอสบอลที่ไม่แม่นเลย


---------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น