วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ลิเวอร์พูล 6-1 วัตฟอร์ด (พรีเมียร์ลีค)


ยิงเยี่ยงสัตว์ป่า  ยิงจนต้องร้องขอชีวิต
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-3

-------------------เฟอมิโน่-------------------
---------คูตินโย่-------------มาเน่-----------
---------ชาน-------------ลัลลาน่า-----------
-----------------เฮนเดอร์สัน-----------------
มิลเนอร์------ลูคัส-------มาติป-------ไคลน์
--------------------คาริอุส--------------------

_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับวัตฟอร์ดที่กำลังฟอร์มดีไม่แพ้ใครมาสี่นัด เกมนี้ลิเวอร์พูลไม่มีลอฟเรนที่ป่วย คล็อปตัดสินใจส่งลูคัสลงแทน  ส่วนแดนกลางชานยังยึดตำแหน่งตัวจริงไว้ได้ปล่อยให้ไวนัลดุมต้องนั่งต่อไป ส่วนตำแหน่งอื่นยังเหมือนเดิม
-------------------------------------------------------

________ วัตฟอร์ดเริ่มต้นเกมด้วยการเล่นเหมือนลิเวอร์พูลเป๊ะ ไล่เร็ว ถึงตัวอัด ได้บอลแทงสวนขึ้นหน้าไม่ครองบอล ช่วง 7-8 นาทีแรกเกมยังสูสี วัตฟอร์ดแม้จะไม่ค่อยมาถึงเขตโทษแต่ยังเห็นว่าสู้ได้

_______ แต่ยิ่งเล่นเกมยิ่งเป็นของลิเวอร์พูล ตั้งแต่ประมาณนาที 10 เป็นต้นไป ลิเวอร์พูลทำเกมรุกทะลุทะลวงได้ดีขึ้นโดยเฉพาะเกมตรงกลางและทางซ้าย เปิดบอลเข้าเขตโทษได้เรื่อยๆ การขึ้นเกมรุกแทบไม่มีขวางสนามแต่จ่ายขึ้นหน้าตรงๆ บ่อยครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายยังโดนกองหลังเบียดให้ยิงยาก และโกลก็ยืนตำแหน่งดี ทำให้ยังไม่ได้ประตู

_______ ...แต่ก็เท่านั้น  สุดท้ายวัตฟอร์ดก็ต้านไม่อยู่  เริ่มด้วยประตูแรกจากจังหวะเตะมุมสั้นในนาที 27 คูตินโย่เปิดเข้ามาทางเสาแรก มาเน่วิ่งโฉบมาโหม่งเช็ดกลับหลังเข้าเสาสองชนิดที่ต้องถามว่า “โหม่งแบบนั้นได้ยังไง” 1-0

_______ ถัดจากนั้นสามนาที จังหวะวัตฟอร์ดเติมขึ้นไปจะเล่นเกมรุกเร็วแต่โดนตัด สุดท้ายเฟอมิโน่จ่ายยัดให้คูตินโย่ได้บอลแถวหน้าเขตโทษ  คูตินโย่แต่งก่อนยิงเรียดแรงลอดขากองหลังเข้าเสาแรก 2-0 แถมจากจังหวะนี้ โกเมสโกลของวัตฟอร์ดดันมาเจ็บเองต้องเปลี่ยนตัวออกอีก (น่าจะเข่าพลิก ไม่ได้มีใครไปปะทะ)

_______ หลังจากนั้นก็เป็นลิเวอร์พูลที่บุกเข้าใส่อย่างโหดร้าย วัตฟอร์ดพยายามจะเล่นในจังหวะเดิมคือวิ่งไล่ตัดได้ทำเร็ว แต่วิ่งตามไม่ค่อยทันบอลสั้นจังหวะเดียว จะทำเร็วก็แม่นไม่พอกลายเป็นเสียบอลคืนแถมโดนโต้กลับเองอีก จนกระทั่งนาที 43 ลัลลาน่าได้บอลทางขวาเปิดเข้ากลางให้ชานวิ่งสอดขึ้นมาโหม่งส่งวัตฟอร์ดไปตั้งสติช่วงพักครึ่งด้วยสกอร์ 3-0

_______ เข้าใจว่าคล็อปคงมองสกอร์บอดร์ผิดข้าง พอกลับลงสนามในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลยังคงเดินหน้าวิ่งไล่บอลเอามาบุกต่อ วัตฟอร์ดน้อยผู้น่าสงสารพยายามจะบุกแต่ครองบอลแทบไม่เคยเกินสามจังหวะ ไม่นานก็โดนเพิ่ม นาที 56 จากจังหวะต่อเนื่องจากฟรีคิก ลัลลาน่าสอดขึ้นไปรับบอลทางซ้ายก่อนเปิดเรียดให้เฟอมิโน่ชาร์จ 4-0

_______ วัตฟอร์ดเองก็เล่นแบบขอแค่ได้ยิง แต่ก่อนจะได้ยิงมาโดนเพิ่มซะก่อน นาที 60 ลิเวอร์พูลตัดได้กลางสนามเฮนโด้แทงยาวรวดเดียวให้เฟอมิโน่ควบเข้าไปรับบอลในเขตโทษ เฟอมิโน่ดึงรอจังหวะก่อนเปิดเรียดเข้ากลางผ่านตัวบล็อคสองชั้นให้มาเน่สอดขึ้นมาชาร์จ 5-0

_______ พอได้ 5 ลูก ก็นึกว่าคล็อปจะพอใจแล้วเพราะจัดการเปลี่ยนตัวทันที เก็บมาเน่ส่งไวนัลดุมลงมาแทน แต่ก็เปล่า ทั้งทีมยังคงพร้อมใจกันดันขึ้นสูง ดาหน้าเข้าไปจะตัดบอลให้ได้ ลูค๊งลูคัสพรวดเข้าไปปั๊มบอลตั้งแต่วงกลม ทำให้หลายจังหวะโดนวัตฟอร์ดสวนขึ้นมาได้บ้างเพราะพื้นที่ข้างหลังเหลือเพียบ เกมเปิดหน้าแลกกันสนุก

_______ นาที 70 สเตอริดจืได้ลงแทนลัลาน่า ช่วงประมาณนาที 65-75 นี้เป็นช่วงที่วัตฟอร์ดได้พาบอลเข้าาใกล้เขตโทษลิเวอร์พูลมากที่สุดเพราะแดนกลางแดนหลังลิเวอร์พูลพรวดขึ้นมาปั้มบอลกันหมด วัตฟอร์ดหาโอกาสยิงได้บ้างด้วยแต่คาริอุสเซฟได้ดีหลายครั้ง ส่วนลิเวอร์พูลเองยังเปิดบอลเข้าทำได้ดีตลอด ได้ลุ้นเป็นระยะๆ

_______ วัตฟอร์ดได้รางวัลแห่งความพยายามในนาที 75 จากจังหวะขึ้นทางซ้าย มิลเนอร์เบียดกับคู่ต่อสู้แล้วล้มแต่ไม่ได้ฟาล์ว ทำให้พื้นที่แถวมุมเขตโทษเปิด สุดท้ายเป็นยันมาร์ทวิ่งเข้ามารับบอลก่อนยิงผ่านคาริอุสเข้าไปได้ 5-1

_______ หลังจากนั้นเป็นสเตอริดจ์ที่หาโอกาสยิงได้เยอะเหลือเกิน เพื่อนก็พยายามปั้นให้ แต่ยิงชนเสา เข้าหน้าต่าง ติดปลายมืออยู่ตลอด นาที 86 อีจาเรียได้ลงแทนคูตินโย่ เกมทำท่าว่าจะจบแล้วแต่วัตฟอร์ดยังม่เสียประตู “ครึ่งโหล” ในนาที 90+1 จังหวะเตะมุมเล่นเร็ว (ลูกยังไม่นิ่งด้วยนะ)  สุดท้ายเป็นสเตอริดจ์ได้ยิงในเขตโทษติดบล็อคโกล์ ไวนัลดุมตามไปยิงซ้ำ 6-1 จบเกมด้วยความดีใจของวัตฟอร์ดที่ได้กลับบ้านสักที ส่วนลิเวอร์พูลเองขึ้นนำจ่าฝูงเป็นที่เรียบร้อย
-----------------------------------------

_______ รายละเอียดไม่ค่อยมี คือเดินหน้าฆ่ามันอย่างเดียว

_______ เข้าใจว่าวัตฟอร์ดคงเน้นจะตีหัวเข้าบ้านถึงได้เลือกเล่นแบบเร่งเกมในช่วงต้น แล้วก็ถือว่าทำได้ดีด้วย แต่พอลิเวอร์พูลยิงได้ก่อนก็จบข่าว แต่ถึงอย่างนั้น ความพยายามจะเร่งเกมในจังหวะเดิมทั้งๆ ที่ตามหลัง ทำให้ลิเวอร์พูลมีช่องบุกต่อ ผลลัพธ์ก็เลยเละเทะอย่างที่เห็น

_______ ทางด้านลิเวอร์พูล วันนี้แทบไม่ได้เล่นเกมรับเลย เล่นจริงๆ จังๆ อยู่สักสิบนาทีเองมั้ง ที่เหลือคือวิ่งไล่เอาบอลคืนแล้วจ่ายขึ้นหน้าแล้วก็จ่ายเข้าเขตโทษ ยิงไปทีละลูกๆ จนได้หกลูกนั่นแหล่ะ ที่จริงถ้าสเตอริดจ์อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดของเขา เผลอๆ สกอร์จะมีเลขสองหลักเอา

_______ ไอ้ที่บอกว่าโหดร้ายป่าเถื่อนไม่ใช่จำนวนประตู แต่เป็นวิธีการเล่น คือสองลูกก็แล้ว ผ่านพักครึ่งก็แล้ว ทีมไม่มีทีท่าจะผ่อนแถมยังดันสูงหนักเข้าให้อีก การยิงลูกปิดกล่องทดเจ็บไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ถ้าใครได้ดูจะเห็นว่าทีมก็บุกมาตลอดๆๆ แค่ยิงแล้วมันติดบล็อคติดเสาแค่นั้นเอง

_______ อย่างไรก็ตาม มีเรื่องน่าสังเกตอยู่อย่างนึงในนัดนี้ ...สเตอริดจ์

_______ ฟอร์มส่วนตัวสเตอริดจ์ไม่แย่นะครับ แต่ชัดเจนเลยว่าสไตล์การเล่นของเขามันแปลกแยกจากเพื่อน เขาจับบอลนานกว่าเพื่อนอยู่นิดนึง รวมถึงการวิ่งหาตำแหน่ง ตัวรุกคนอื่นจะวิ่งไปหาช่องที่ว่างแล้วจ่ายให้คนที่เข้าไปในตำแหน่งสุดท้าย แต่สเตอริดจ์วิ่งเข้าช่องยิงอย่างเดียว มันทำให้จังหวะเกมรุกเร็วด้วยบอลจังหวะเดียวของทีมที่โหดสัสสลัดผักในช่วงก่อนหน้านั้นมันรวนไปเหมือนกัน

_______ ไม่น่านานครับสเตอริดจ์ ไม่น่านาน

_______ สุดท้าย ในบรรดาหกประตูที่ทำได้ในวันนี้ ผมประทับใจลูกที่ 5 มากที่สุด การจ่ายเร็ว การดึงจังหวะ การวิ่งสอด จังหวะมันเป๊ะมาก ต้องซ้อมกันกี่ชั่วโมงถึงออกมาเป็นแบบนี้ได้
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นเกมรุกได้ดีมาก

คาริอุส - เปิดยาวได้เหียกมาก แต่วันนี้ยืนตำแหน่งได้สุดยอด เซฟช่วยได้หลายครั้ง ไม่มีกระฉอกให้โดนซ้ำด้วย จังหวะน่าเกลียดโคตรๆ มีครั้งเดียวคือการออกมาโหม่งนอกเขตประตู คือโค้ชไม่สอนเหรอออออออ  ออกมาแบบนั้นโหม่งทิ้งออกข้างไว้ก่อนสิเฟร้ยยยย

มิลเนอร์ - ครึ่งชั่วโมงแรกเติมขึ้นมาช่วยเชื่อมเกมรุกได้ดีมาก เพื่อนหันมาเป็นเจอ เกมรับวันนี้คุมพื้นที่หลวมไปหน่อย เน้นจะไปดักจังหวะแรกมากไป ทำให้คู่ต่อสู้ที่พลิกไปได้บางครั้งเอาบอลไปกดดันในเขตโทษได้เลย

ลูคัส - ได้โอกาสโหม่งหนึ่งยิงหนึ่งแบบน่าได้แต่ก็พลาด  เกมรับก็แทบไม่ค่อยได้เล่น ทำได้ดีในจังหวะดันสูงขึ้นมาตัดบอลโต้ของวัตฟอร์ดได้หลายครั้ง

มาติป - โหม่งบอลโด่งจากแดนหลังของวัตฟอร์ดได้หมด กองหน้าเก็บเล่นไม่ได้ ทำให้ทีมกลับมาครอบครองบอลได้เร็ว

ไคลน์ - วันนี้เติมขึ้นไปในแดนคู่ต่อสู้บ่อย เชื่อมเกมได้ดี เปิดเข้ากลางน้อยครั้งแต่เปิดได้ดี

เฮนเดอร์สัน - หล่อแล้ว

ชาน -  เก็บบอลไว้กับตัวนานไปในบางจังหวะ แต่เกมรุกดีขึ้น และดูรวมๆ แล้วมีสเน่ห์เหลือเกิน

ลัลลาน่า - เรียกเทพม้วนไม่ได้แล้วนะครับ วิ่งสอดแนวรับอย่างเทพ บอลจ่ายให้เพื่อนยิงก็นิ่งดีเหลือเกิน

มาเน่ - โดนล็อคตายมาหลายนัด วันนี้มีพื้นที่เล่น มาเน่มีพื้นที่เล่นคู่ต่อสู้ก็บรรลัย

คูตินโย่ - ครึ่งแรกเล่นได้สุดยอด ครึ่งหลังดรอปลงมาหน่อยเหลือแค่ดีเฉยๆ

เฟอมิโน่ - เล่นเพื่อทีมได้ดีเหลือเกิน ไม่หยุดวิ่ง ทั้งเรื่องวิ่งไล่และทั้งไม่เสียดายโอกาสยิง คือมีช่องให้วิ่งดึงตัวประกบก็ทำทันที ใครจะเข้าไปยิงก็เข้าไป ทำให้แนวรับคุมพื้นที่ยาก

ตัวสำรอง

ไวนัลดุม - เกมรุกดูหงอยๆ แต่การเก็บบอลสองกับเชื่อมเกมก็โอเคนะ

สเตอริดจ์ - ตามด้านบนนู๊นเลย

อีจาเรีย - ได้เล่นน้อยไปหน่อย

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...เจอเก้น คล็อป…พี่ซ้อมยังไงลูกทีมเล่นได้แบบนี้ครับ ทั้งเรื่องทัศนคติแบบ “เอาให้ตาย” ทั้งเรื่องทีมเวิร์คที่ลงตัว
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น