วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

คริสตัล พาเลซ 2-4 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)



“แบบนี้ก็ได้เหรอ” - มินโยเล่,คลาวาน,มิลเนอร์คงนึกในใจ
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่นด้วย 4-3-3

-------------------เฟอมิโน่-------------------
---------ชาน-------------ลัลลาน่า-----------
-----------------เฮนเดอร์สัน-----------------
โมเรโน่-----ลอฟเรน------มาติป-----ไคลน์
--------------------คาริอุส--------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนพาเลซ คล็อปปรับทีมใช้ผู้เล่นตัวหลักครบครัน ไม่ว่าจะเป็น “โกลล์มือหนึ่ง” คาริอุส, “แบ็คซ้ายมืออาชีพ” โมเรโน่, เซ็นเตอร์ตัว(ปัก)หลัก” ลอฟเรน
-------------------------------------------------------

________ ช่วงต้นเกมพาเลซรับแน่นในแดนเป็นหลัก เก็บบอลจังหวะสองในเกมรับได้ดี แผงกลางไม่ได้ถอยต่ำไปยืนหน้าเขตโทษแต่เน้นวิ่งไล่ตั้งแต่แถวกลางแดนตัวเอง ลิเวอร์พูลครองบอลได้มากกว่าก็จริงแต่คุมเกมไม่ได้ ต่อบอลในแดนคู่ต่อสู้ลำบากและเกมรุกยังกดดันได้น้อย

_______ อย่างไรก็ตาม นาที 16 ลิเวอร์พูลมาออกนำได้ก่อนจากจังหวะเล่นเร็ว บอลขึ้นมาทางซ้ายด้วยการเติมของโมเรโน่ ย้อนบอลมาหน้าเขตโทษ เฮนโด้(ใช่มั้งนะ) แปะบอลให้คูตินโย่ตักจังหวะเดียวให้โมเรโน่ที่วิ่งสอดขึ้นไป เปิดเข้ากลางในจังหวะเดียวเช่นกัน สุดท้ายเป็นชานที่เติมเข้ามายิงไม่พลาด 1-0 นับเป็นจังหวะการเข้าทำที่เร็วและไม่มีใครจับบอลเลย

_______ หลังจากบรรยายความงามตอนยิงล่อไปสี่บรรทัด สองนาทีต่อมา มาติปโหม่งแปะให้ลอฟเรนเคลียร์ในระยะประชิด ลอฟเรนไม่ทำให้เสียของด้วยการเตะผิดเหลี่ยมบอลลอยโด่ง คาริอุสผวาออกมาช่วยลอฟเรนไม่ให้ขายหน้าคนเดียว โดนแม่งอาเธอร์ เอ้ย แมคอาเธอร์โหม่งสวนตัวเข้าไป 1-1

_______ ยิงมายิงกลับไม่โกง สามนาทีถัดมาลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุม คูตินโย่เปิดบอลโด่งเข้ามาบนเส้นหกหลา ลอฟเรนขึ้นโหม่งเต็มหัว 2-1 แก้ตัวได้สำเร็จ

_______ หลังจากนั้นเป็นลิเวอร์พูลที่เล่นได้ดีขึ้น บอลมาถึงเขตโทษบ่อย บอลจังหวะเดียวหน้าเขตโทษทำได้ดี โดยเฉพาะคูตินโย่ที่จ่ายบอลได้ช่องได้น้ำหนักตลอด โมเรโน่เติมขึ้นมาได้เปิดรัวๆ และเปิดกดดันได้ดีด้วย

_______ แต่แล้วนาที 33 พาเลซก็มาตีเสมอได้อีกแล้ว จากจังหวะสกัดที่บอลไปเข้าเท้าซาฮา โมเรโน่ที่สับสนว่าตัวเองเล่นแบ็คซ้ายหรือแมวมอง ปล่อยให้ซาฮาได้เปิดง่าย ลอฟเรนกลัวโมเรโน่จะอายคนเดียว เลยยืนปักหลักรอโหม่งโดนแมคอาเธอร์วิ่งปาดหน้าโหม่งเข้าไป ก 2-2

_______ พาเลซได้ใจเน้นบุกทางโมเรโน่รัวๆ โมเรโน่เองก็ไม่ทำให้กองเชียร์ฝ่ายตรงข้ามผิดหวังด้วยการหมุนไปหมุนมา เปิดไปโดนตัดและคุมพื้นที่ได้ไม่ดีพอ ยังดีว่าเพื่อนยังเข้ามาช่วยซ้อนได้ เกมครึ่งแรกทำท่าว่าจะจบที่ผลเสมอ แต่นาที 44 จากลูกเตะมุม คูตินโย่เปิดไปแถวเส้นหกหลา คราวนี้เป็นมาติปขึ้นโหม่งเต็มหัวให้ทีมกลับไปโดนคล็อปด่า(น้อยลง)ในห้องแต่งตัวด้วยสกอร์ 3-2

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลปรับเกมด้วยการเอาแผงกลางถอยไปยืนในแดนมากขึ้น แดนหน้าปล่อยให้สามตัวรุกไล่พอเป็นพิธี พื้นที่มุมธงตัวเองมีกองกลางช่วยซ้อนแบ็คตลอด แม้จะไม่โดนส่องล่อเป้าอะไรนัก แต่เป็นพาเลซที่เก็บบอลสองได้ดีขึ้น หาโอกาสมาป้วนเปี้ยนแถวๆ หน้า-ในเส้นเขตโทษได้ต่อเนื่อง

_______ ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เฮนโด้กับชานเก็บบอลได้น้อยลง ลัลลาน่าหาช่องรับบอลไม่ได้ ก็ยังมารีเนอร์มาช่วยเอาไว้ ลูก 50/50 ไม่ต้องสืบ พวกเป่าให้ลิเวอร์พูลหมดชนิดที่มาเป่าแบบนี้ในไทยลีคคงต้องนั่งรถถังกลับบ้านถึงจะปลอดภัย รวมไปถึงแนวรับลิเวอร์พูลเองที่หยุดคู่ต่อสู้ในพื้นที่สุดท้ายได้ประมาณนึงด้วย ทำให้พอถู่ลู่ถูกังรักษาประตูนำไว้ได้เรื่อยๆ

_______ จนกระทั่งนาที 71 ขณะที่พาเลซกำลังวิ่งไล่บี้แดนกลางเพลินๆ พ่อกัปตันของเราก็ตาไวใจถึงพึ่งได้ ฉวยโอกาสแทงบอลขึ้นหน้าตรงๆ เซ็นเตอร์พาเลซไม่ทันระวังยืนกันห่าง โดนเฟอมิโน่ที่วิ่งทำทางได้หลุดไปดวลกับผู้รักษาประตูก่อนเฟอมิโน่ชิพเข้าไปง่ายๆ 4-2

_______ พอสกอร์ห่างอีกครั้งเกมแทบจบแบบไม่เป็นทางการ พาเลซจังหวะการเล่นสะดุดไปเยอะ ในขณะที่ลิเวอร์พูลเองก็เล่นสไตล์ปิดเกมได้น่าพอใจ ทั้งยังทยอยส่งตัวสำรองลงมาเพื่อการนั้นอีกเพียบ นาที 76 ไวนัลดุมแทนลัลลาน่า นาที 89 โอริกิแทนคูตินโย่ นาที 90+2 คลาวานลงแทนมาเน่ สุดท้ายลิเวอร์พูลปิดเกมได้อย่างไม่ยากเย็น (หมายถึงหลังจาก 4-2 อ่ะนะ) เอาชนะไปได้ 4-2
-----------------------------------------

_______ ไม่ได้ตามข่าว ไม่รู้ว่าทำไมโมเรโน่ถึงได้ลงก่อนมิลเนอร์

_______ เกมนี้ยังคงสไตล์คล็อปที่เราคุ้นเคยไม่ต้องพูดอะไรกันเยอะล่ะ ไม่แน่ใจว่าอะไรมันง่ายกว่ากันระหว่างลดการเสียประตูกับการเพิ่มประตู อัลลัยคือยิงได้ถึงสามลูกแต่ต้องมานั่งเครียดว่าจะได้สามแต้มมั้ย? ในขณะที่การลุ้นให้ได้ประตูที่ 4 ดูมีความหวังกว่าการไม่เสียประตูตีเสมอซะงั้น

_______ ทีมทำได้ดีในเรื่องการไม่เสียลูกตั้งเตะหรือเตะมุมพร่ำเพรื่อ แนวรับไม่ต้องโดนกดดันบ่อยนัก เบนเทเก้ที่ถือเป็นอาวุธหลักและอาวุธหนักของคู่ต่อสู้ก็หาจังหวะจบแทบไม่ได้ ส่วนการตั้งรับแน่นของคู่ต่อสู้ทีมก็มีวิธีเจาะได้อยู่เรื่อยๆ อันนี้ถือว่าพัฒนาขึ้นมามากทีเดียว

_______ เรื่องดีคือทีมได้สามแต้มเต็มแต่ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าทีมต้องปรับอะไรอีกพอสมควรล่ะ

_______ ส่วนเรื่องที่อยากพูดถึง...อังเดร มารีเนอร์ เน่อ เน่อ แหม เป่าซะผมเขินเลยครับ ถามว่ามันน่าเกลียดมั้ยกับหลายๆ จังหวะที่เขาเป่าให้ ถ้าดูเป็นจังหวะๆ ไปผมว่าไม่นะ มัน 50/50 แต่พอดูรวมๆ แล้วมีสเน่ห์เหลือเกิน (ทีมอื่นคงเรียกเสนียด) นึกภาพว่าปั่นเหรียญหัวก้อยน่ะ ครั้งเดียวออกหัว สองครั้งออกหัวมันไม่อะไร แต่ปั่นสิบครั้งออกหัวเก้าครั้งนี่ก็….นะ

_______ ส่วนเรื่องโคตรนักเตะไปว่ากันต่อด้านล่างครับ
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นเกมรุกได้ดี

คาริอุส - เฝ้าเส้นมากไป ปฏิกิริยาแย่ คือสองลูกที่เสียไปเนี่ยเพื่อนก็พลาดมา จังหวะก็ล่อเป้าจะโดนยิงน่ะโอเค แต่การออกไปช้า+บังไม่ดีในลูกแรก กับการยืนขาตายสนิทในลูกสองนี่รับไม่ได้จริงๆ อ่อ..แต่อย่าลืมให้เครดิตการเซฟจังหวะสำคัญสองสามหนของเขาล่ะ

โมเรโน่ - ครึ่งแรกเล่นเกมรุกได้มันมาก แล้วก็มาพังเพราะยืนดูคู่ต่อสู้เปิดบอลซะงั้น แล้วพอรู้ตัวว่าทำพลาดยิ่งลนทำให้พลาดซ้ำในเรื่องคุมพื้นที่อีกหลายครั้ง ครึ่งหลังน่าจะโดนกำชับมาว่าไม่ต้องขึ้น ทำให้เล่นเกมรับได้ดีขึ้นนิดหน่อย

ลอฟเรน - ไม่รู้โดนโมเรโน่กดดันหรือยังไง วันนี้เล่นผิดฟอร์มพอสมควร ปักหลักโหม่งจนโดนคู่ต่อสู้แย่งโหม่งได้บ่อยอยู่

มาติป - เบียดโหม่งกับเบนเทเก้ได้ดี ลูกสาดขึ้นหน้าของคู่ต่อสู้ก็ช่วยเคลียร์ได้หลายครั้ง แต่โหม่งไม่ไปไหนก็เยอะอยู่ แทบมีจังหวะปล่อยให้คู่ต่อสู้เก็บบอลได้ก็ไม่น้อย เล่นดีนะแต่เคยดีกว่านี้

ไคลน์ - ช่วยเชื่อมเกมได้เยอะอยู่ จังหวะบุกไม่ค่อยขึ้นมุมธงแต่จะหุบเข้าเหมือนเป็นกองกลางตัวต่ำคู่กับเฮนโด้(เล่นงี้มาทุกนัดแหล่ะ) เชื่อมเกมไปข้างหน้าไม่ค่อยโอ แต่เก็บบอลไว้กับทีมดี ในขณะที่เกมรับลงรักษาพื้นที่ทันตลอด ...ดูเพื่อนแกเล่นนหน่อยสิเว้ยโม

เฮนเดอร์สัน - ครึ่งแรกเล่นได้ดี เก็บบอลได้ เชื่อมเกมได้ ครึ่งหลังมีปัญหาหาบอลไม่เจอ ทั้งเกมมีปัญหากับลูกกลางอากาศ คือโหม่งได้อยู่นะแต่คุมบอลไม่ได้เลย โดนคู่ต่อสู้เก็บบอลสองได้บ่อยเกินไป ...แต่ลูก 4 นี่ฝืมือพ่อกัปตันล้วนๆ นะ

ชาน -  ความฟิตดีขึ้นมาก ออกบอลเร็วขึ้น โหม่งบอลดีกว่าเฮนโด้ แต่ถึงครึ่งหลังที่พาเลซขึ้นมาเยอะขึ้นผลงานไม่ต่างกับเฮนโด้เท่าไหร่ มีดีที่จังหวะดึงเร็วดึงช้าที่เนียนกว่าคนอื่น

ลัลลาน่า - ฟอร์มดรอปไปพอควร ครึ่งแรกยังวิ่งเชื่อมเกมได้แต่มีส่วนร่วมกับจังหวะเข้าทำน้อยกว่าที่เคย ครึ่งหลังไม่ใช่หมดแรงแต่หาที่วิ่งได้ไม่ค่อยดี ไล่ไม่ค่อยถึงบอล วิ่งรอรับบอลก็หาช่องได้น้อยไป

มาเน่ - โดนล็อคจนเล่นไม่ค่อยออก ไม่ค่อยได้สร้างเกมรุกเข้าทำสักเท่าไหร่ มีโอกาสเหน่งๆ ก็ยิงข้ามคานอีก แต่ยังมีดีที่การเก็บบอลและความเร็วในการวิ่งทำทางไปพื้นที่ว่าง

คูตินโย่ - ครึ่งแรกหล่อมาก ครึ่งหลังหล่อน้อยลงไปเยอะ แต่ยังสร้างโอกาสได้บ้าง

เฟอมิโน่ - ต้องโหม่งบอลเยอะมากเพราะคาริอุสขยันสาดมาให้โหม่งเหลือเกิน ขยันวิ่งดีรับบอลได้ทั่วสนาม ประสานงานกับคูตินโย่ในครึ่งแรกได้ดีหลายครั้ง ครึ่งหลังเพื่อนไม่ค่อยขึ้นมาช่วยก็ยังพอชิ่งพอวิ่งทำทางได้ลุ้น จนสุดท้ายมามีทีเด็ดยิงปิดกล่อง

ตัวสำรอง

ไวนัลดุม - ลงมาเน้นเล่นคุมเกมมากไป (คล็อปน่าจะสั่งมาเป็นพิเศษ) เรื่องเก็บบอลไว้กับทีมน่ะดี แต่จังหวะโต้หลายครั้งทำเสียจังหวะ มีไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้งที่ถ้าแทงขึ้นหน้าทันทีเลยเพื่อนได้ลากไปเปิดหรือยิงแล้ว

โอริกิ - ช่วยเก็บบอลได้นิดหน่อย

คลาวาน - ได้ลงก็เอาวะ

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...ฟิลิปเป้ คูตินโย่… ่บอกกงๆ อยากเลือกมารีเนอร์นะ แต่โดยรวมพี่แกยังไม่ถึงขั้นตัดสินเกม(ดีแล้วล่ะ 555+) แต่คูตินโย่เนี่ยชัวร์ ทั้งเปิดเตะมุมเป็น 2 แอสซิส, ลูกแรกก็เป็นคนสร้างโอกาสให้โมเรโน่เปิด นอกจากนั้นยังมีอีกหลายครั้งที่บอลจังหวะเดียวแถวหน้าเขตโทษกดดันแนวรับจนล้มกลิ้มล้มหงาย
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น