วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

รูบิน คาซาน 0-1 ลิเวอร์พูล (ยูโรป้า)



...ยิงแทบตายกว่าจะได้แต่ละลูก...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

-------------------------เบนเทเก้------------------------
มิลเนอร์----------------เฟอมิโน่-------------------ไอบ์
----------------อัลเลน-------------ชาน-----------------
โมเรโน่--------ซาโก้----------ลอฟเรน----------ไคลน์
-------------------------บ็อกดาน------------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเล่นเกมยูโรป้าเจอกับรูบิน คาซานที่รัสเซีย นัดนี้คล็อปปรับทีมพอสมควร แต่หน้าเป้าได้เบนเทเก้ลงยืนเป็นตัวจริง
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาทางคาซานวิ่งไล่สูงได้กดดันดี แต่ตัดบอลกลับมาไม่ค่อยได้ ส่วนทางลิเวอร์พูลเน้นเล่นตามจังหวะ ไม่ได้เร่งเกมเร็วและแบ็คไม่ขึ้นสูง เกมรุกเน้นทางขวาตลอด แค่นาที 6 มิลเนอร์ก็ได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษแล้วแต่บอลเช็ดคานออกไป

________ ลิเวอร์พูลเริ่มจับจังหวะเกมได้ดีขึ้นเรื่อยๆ รับส่งบอลกันแม่นมากจนคาซานไล่ไม่จน พอพ้น 15 นาทีแรกของเกมไปคาซานก็ถอยลงไปรับเต็มตัวเป็นที่เรียบร้อย แถมจังหวะที่ลิเวอร์พูลเสียบอลในแดนหน้าก็ตามกันเข้าไปเร่งจนตัดบอลกลับมาได้ดี เกมเลยกลายเป็นของลิเวอร์พูลอยู่ฝ่ายเดียว

_______ ลิเวอร์พูลพาบอลขึ้นหน้าได้ต่อเนื่อง ได้เปิดบอลสลับยิงไกลแทบจะทุกสามนาที (นึกภาพว่านาที 27 ได้โอกาสซัดไป 9 ครั้ง คาซานยังไม่ได้ยิงสักลูก) แต่ไม่มีจังหวะไหนเลยที่เอาชนะแนวรับได้จริงๆ และยังทำประตูเพิ่มไม่ได้

_______ ครึ่งแรกเป็นของลิเวอร์พูลฝ่ายเดียว ชนะทุกแนว ได้เปรียบทุกอย่าง คาซานไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากอุดประตูไปเรื่อยๆ เก็บบอลไม่ได้ โต้ไม่ขึ้น ช่วงทดเจ็บลิเวอร์พูลน่าได้ประตูมากๆ ได้ยิงแถวหน้าเขตโทษบอลแฉลบจะลอยเข้าประตูอยู่แล้วแต่ผู้รักษาประตูยังปัดออกไปได้ จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลยังบุกต่อแต่พิเศษใส่ไข่ตรงที่คราวนี้แบ็คลอยขึ้นไปชูมือขอบอลทั้งสองฝั่ง รูปเกมยังเหมือนเดิมหมดทุกอย่าง รวมไปถึงจังหวะเข้าทำที่ยังเอาชนะแนวรับไม่ได้ด้วย

_______ แต่สุดท้ายความพยายามของลิเวอร์พูลก็ประสบผล นาที 52 จากจังหวะทำเร็ว ซาโก้เก็บบอลลงได้แล้วจ่ายให้เฟอมิโน่ชิ่งจังหวะเดียวให้ไอบ์เติมทะลุขึ้นไปในช่องที่เซ็นเตอร์คู่ต่อสู้ลงไม่ทัน ไอบ์หลุดเข้าไปได้ยิงในเขตโทษ บอลไม่แรงแต่ทิศทางอร่อยมาก เช็ดโคนเสาสองเข้าไปเลย ทีมนำ 1-0

_______ หลังจากสกอร์ขยับ คาซานเติมกันขึ้นมาเล่นเกมรุกมากขึ้นแต่ลิเวอร์พูลเองก็ไม่ได้ถอยไปรับ ได้บอลก็ยังบุกต่อเพียงแต่แบ็คไม่ลอยรอบอลแบบเดิมแล้วแค่เติมตามจังหวะ ทางคาซานเริ่มเข้าปะทะบ่อย+หนัก+เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

_______ นาที 60 ลัลลาน่าได้ลงแทนมิลเนอร์ ถึงตรงนี้เกมของลิเวอร์พูลยังดูดีกว่า เก็บบอลได้ โต้ได้ลุ้น (ช่วงตั้งแต่ 60 เป็นต้นไปจนจบเกมนี่มีจังหวะโต้จนน่าได้ประตูอีกหลายครั้ง แต่ไม่ต่อเนื่องนัก)และปิดเกมรุกคู่ต่อสู้ได้ แต่ไม่ได้เป็นฝ่ายครองบอลหมดจดแบบในหนึ่งชั่วโมงแรกของเกมแล้ว

_______ นาที 70+ เกมของลิเวอร์พูลเริ่มแผ่วลงไป โดยเฉพาะการวิ่งไล่ที่เริ่มทำไม่ได้ วิ่งไม่ค่อยออก ทำให้คาซานเริ่มได้บอลมากขึ้นและพาบอลมาแดนหน้าได้มากขึ้นแล้ว แต่ยังหาจังหวะยิงไม่ได้

_______ พอสัก 75+ ก็งานเข้าละครับ แดนกลางของลิเวอร์พูลเริ่มไล่ได้น้อยลง คาซานพาบอลมาใกล้มุมธงได้ต่อเนื่อง ได้เปิดบอลจากด้านข้างตลอดแต่ยังไม่ได้ลุ้นอะไรทั้งสิ้น

_______ นาที 81 ลูคัสได้ลงแทนเฟอมิโน ลิเวอร์พูลหันมาเคาะบอลเน้นแน่นอนมากขึ้น แต่ทำดีที่สุดได้แค่ชะลอเกมของคาซานไม่ให้ต่อเนื่องเกินไป เกมของตัวเองนี่ไม่เหลือแล้ว เป็นรองอย่างชัดเจน

_______ อย่างไรก็ตาม เกมรับในพื้นที่สุดท้ายของลิเวอร์พูลวันนี้ทำกันได้ดีมาก คาซานไม่สามารถเอาชนะแนวรับได้เลย ดีที่สุดคือการได้ยิงในเขตโทษชนิดที่โดนประกบแบบแทบจะสิงร่างและมีตัวขวางอยู่เป็นพรืด แถมทำได้แค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น ส่วนลิเวอร์พูลเองแม้จะคุมเกมไม่อยู่แล้วแต่ไม่ได้บี้แบนอยู่ในเขตโทษ ยังพอจะเอาบอลออกไปเล่นกลางสนามหรือในแดนคาซานได้เป็นระยะ เลยเอาตัวรอดไปได้เรื่อยๆ แบบไม่ได้ลำบากอะไรนัก

_______ นาที90+1 สเคอเทลได้ลงมาแทนชานอีกคน ลิเวอร์พูลเอาตัวรอดไปได้สำเร็จ 1-0
-----------------------------------------

_______ เห็นข่าวตอนแรกคล็อปว่าจะโรเทชั่น แต่ 11 ตัวจริงออกมาถือว่าเปลี่ยนน้อยกว่าที่คิดครับ แถมตัวสำรองนี่หนีบตัวหลักมาอีกเพียบ ผมชอบการจัดตัวสำรองมากกว่าตัวจริงซะอีก คือเผื่อเหลือเผื่อขาดดี ส่วนตัวจริงผมไม่ค่อยชอบการเอามิลเนอร์ไปเล่นซ้ายเลย

_______ นัดนี้เป็นการเยือนรัสเซียที่ทีมทำผลงานได้ดีกว่าที่ผมคาดเอาไว้มาก คือปกติไปรัสเซียเมืื่อไหร่มีเหนื่อยทุกที(นัดนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่เหนื่อย) แต่นัดนี้ไปแล้วบุกไล่อัดเค้าได้ตั้ง 1 ชั่วโมงเต็มๆ แถมครึ่งชั่วโมงหลังก็ยังมีเกมรับที่ดี โต้ได้ลุ้นเป็นระยะ จะมีก็แค่ช่วงประมาณ 70 - 85 เท่านั้นที่ผมคิดว่าเกมเป็นรองมากจริงๆ แถมสุดท้ายยังรักษาตัวรอดเก็บสามแต้มกลับมาได้ด้วย โดยสรุปแล้วนี่เป็นนัดที่ผลงานดีมากครับ ทั้งรูปเกมและผลลัพธ์

_______ การวิ่งไล่เร็วของคล็อปนี่ไม่เสียทีที่เป็นอาวุธสร้างชื่อของเค้าจริงๆ ทีมมีวิธีการวิ่งไล่บีบเร็วได้ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด จากสองนัดแรกที่วิ่งเหมือนกระทิงขวิดผ้าแดง ไม่ได้เล็ง ไม่ได้แม่นอะไร เน้นคลั่งอย่างเดียว มาสองนัดล่าสุดนี่ แม้ว่าจะมีการปรับตัวผู้เล่นบ้างแล้ว ทั้งตัวคนเล่น ทั้งตำแหน่งการยืน แต่การวิ่งไล่มีทิศทางดีมาก คนนึงบีบอีกคนซ้อน พลิกพ้นคนนึง อีกคนถึงบอลได้ตลอด

_______ ที่สุดยอดมากๆ คือจังหวะเสียบอลในแดนหน้าแล้วตามไปไล่เร็ว นัดนี้หนึ่งชั่วโมงแรกทีมตัดบอลกลับมาได้เร็วมาก และหลายครั้งที่เสียบอลไปแล้วแต่กลายเป็นว่าตัดกลับมาแล้วเอาไปบุกต่อได้ลุ้นกว่าจังหวะแรกที่ทำบอลเสียด้วยซ้ำ
_______ นอกจากเรื่องวิ่งไล่ ครึ่งแรกผมคิดว่าคล็อปตัดสินใจดีแล้วที่ไม่ได้เร่งเกม คือแค่เล่นไปตามจังหวะ จะไปเร็วก็อีตอนบอลเข้าไปกลางแดนคู่ต่อสู้แล้ว ถ้าเป็นจังหวะตั้งบอลในแดนหลังหรือวงกลมกลางสนามทีมจะไม่เร่งเลย แล้วค่อยไปเร่งเอาครึ่งหลังที่คราวนี้กลับลงมาเอาบอลขึ้นหน้าเร็วมากแถมแบ็คลอยตลอด จนได้ประตูมาจริงๆ

_______ ส่วนหนึ่งก็ต้องบอกว่าคุณภาพผู้เล่นของคาซานเองดีไม่พอด้วย ตัวเปลี่ยนรับเป็นรุกกับกองหน้าของพวกเขาเล่นไม่ออกเลย ตัวเปลี่ยนรับเป็นรุกเจอไล่ตัวเดียวก็ไปไม่ได้แล้ว สองตัวเสียบอลทันที ในขณะที่กองหน้าเก็บบอลไม่ได้เลย ไม่แม้แต่จะกดดันให้กองหลังตัวประกบต้องตัดสินเคลียร์บอลทิ้ง ซึ่งมีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ลิเวอร์พูลครองเกมเอาไว้ได้ตลอดหนึ่งชัวโมงแรก

_______ หลายครั้งผู้เล่นลิเวอร์พูลก็วิ่งถลำขึ้นไปกันหมด ขอแค่คาซานพลิกบอลได้จังหวะเดียวข้างหน้านี่ว่างหมดเลยทั้งซ้ายขวากลาง แต่พวกเขาพลิกไม่ได้ หรือพลิกได้แล้วก็จ่ายบอลกันพลาดไปอีก บอลที่จ่ายยัดใส่ตัวหรือสกัดไปเข้าทางกองหน้าก็เก็บเล่นไม่ได้เลย ถ้าพวกเขามีคนพลิกบอลดีๆ อย่างเฟอมิโน่ และมีกองหน้าที่เก็บบอลต่อ+ชิ่งคืนเพื่อนได้แบบเบนเทเก้ ผมกล้าพูดเลยว่าทีมเจ๊งไปแล้วครับ

_______ แต่เฟอมิโน่กับเบนเทเก้อยู่กับเรา แฮ่~

_______ การเปลี่ยนตัวนัดนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย ในรายของมิลเนอร์บอกตรงๆ ว่าผมไม่รู้ว่าเปลี่ยนทำไม มิลเนอร์ยังมีแรงวิ่ง ไม่รู้ว่าเพราะเจ็บหรือเปล่าหรือตั้งใจเอาออกมาพัก แต่สำหรับการเปลี่ยนลูคัสแทนเฟอมิโน่ผมคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีมาก ช่วงนั้นทีมกำลังแย่มากแล้ว ชานเริ่มไม่วิ่ง อัลเลนก็ได้แต่ถอยมาปิดพื้นที่หน้าเขตโทษ ถ้ายังใช้เฟอมิโน่ต่อเกรงว่าก่อนจะโต้จนได้ลูกที่สองจะโดนตีเสมอไปซะก่อน  

_______ จังหวะเข้าทำยังดูไม่จืดนักแต่อันนี้คงทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้เข้าขากันกว่านี้ ซึ่งนัดนี้ก็ดูว่าดีขึ้นมากโดยเฉพาะการเล่นบอลจังหวะเดียวที่ทำได้ดีขึ้น นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องสภาพความฟิตนี่ล่ะครับ คือนอกจากแทคติคที่ทีมจะต้องวิ่งเยอะแล้ว ต้องไม่ลืมว่าความถี่และจำนวนเกมก็มีเยอะ นัดนี้นี่ยุบตั้งแต่นาที 60 ถือว่าเร็วมากนะครับสำหรับทีมที่ในสนามไม่มีคนอายุขึ้นเลข 3 เลยสักคน (ก่อนมีการเปลี่ยนตัว)

_______ สักพัก(อาจจะนัดต่อไปนี่ล่ะ) อาจจะต้องโรเทชั่นกันรัวๆ ครับ

_______ เรื่องนั้นค่อยว่ากันต่อนัดหน้า แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้...ชนะสามนัดติดแล้วนะเอ้อ~
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดี

มินโยเล่ - ไม่โดนกดดันเลย ไม่มีลูกยากให้เซฟ ลูกธรรมดายังแทบไม่มี เตะบอลยาวไม่แม่นแต่ออกมาเล่นบอลสั้น/ออกมานอกเขตรับบอลล้นได้ดี ...ผลบุญจากสมัยร็อดเจอร์เลยนะเนี่ย

ไคลน์ - เกมรับรับผิดชอบพื้นที่ตัวเองได้เยี่ยม ไม่เคยหลุดตำแหน่ง แถมเติมเกมได้ฉลาดดี ขึ้นมุมธงน้อยไปหน่อยแต่ทำได้ดีกับการตัดเข้าในในบางจังหวะ มีการเล่นที่หลากหลาย คู่ต่อสู้จับยาก(กว่าโมเรโน่) ที่ไม่ดีคือการเปิดบอลที่เร่งทุกจังหวะ และเปิดไปแต่ละครั้งนี่คงต้องให้เบนเทเก้ขี่คอปีเตอร์ เคร้าช์นั่นล่ะถึงจะโหม่งถึงบอล

ลอฟเรน - ดูมั่นใจขึ้น พลาดน้อยมากและสกัดบอลได้เด็ดขาดดีโดยเฉพาะลูกกลางอากาศ

ซาโก้ - ยังอยู่ในฟอร์มที่ดี มีจังหวะฝืนจ่ายบอลขึ้นหน้าพลาดให้เห็นอยู่บ้างแต่จังหวะที่เก็บบอล-จ่ายเร็วให้เพื่อนได้ดีมีมากกว่าเยอะ เล่นลูกกลางอากาศจังหวะที่ประกบกองหน้าได้ดี

โมเรโน่ - อ่านเกมไม่ค่อยดีนัก บางทีเติมขึ้นไปในจังหวะที่บอลมันไปถึงยาก(บอลอยู่อีกฝาก/เค้าจะยิงกันตายในเขตโทษแล้ว) ทำให้หลุดตำแหน่งบ่อย ยังคงทำได้ดีในการช่วยวิ่งไล่ในจังหวะทีมเสียบอล ขยันและเร็วไม่ว่าจะไล่ไปข้างหน้าหรือวิ่งตามบอลลงมา สำหรับการเปิดบอลเข้าเขตโทษดูไม่เร่งเท่าไคลน์ แต่เปิดมาแล้วถ้าไม่ผิดไปเยอะก็ผิดไม่น้อย

เชิง - คือเล่นเอาเชิงอย่างเดียว อ่านเกมดีแล้ว เก็บบอลสองก็เทพ วิ่งหาที่รับบอลดีกว่าอัลเลนด้วยซ้ำ แต่บอลอยู่กับเท้าเมื่อไหร่นึกว่าตัวเองเป็นบัลลัค/มัทเธอุสหรือไงไม่ทราบได้ ครองบอลนานไป เรียกฟาล์วได้...เอ่อ..เรียกงอแงดีกว่าครับ แล้วก็ไม่เข้าใจว่าในขณะที่บอลเปลี่ยนแกน บอลไปทีว่าง เชิงทำได้ดีมากๆ แต่บอลขึ้นหน้าพลาดเยอะ พอๆ กับการยิงไกลที่ทำได้ดี...คือบอลไปไกลๆ ดี

อัลเลน - เป็นนัดที่ดันขึ้นมาเล่นสูงกว่าน้องเชิงบ่อยครั้ง เชื่อมเกมได้ธรรมดาไปหน่อยถ้าเทียบกับมาตรฐานของตัวเขาเอง มีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะ แต่ไม่ค่อยได้ทำเกมอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหนักไปทางรับบอลตันแล้วส่งไปทางอื่น ที่ทำได้ดีมากในนัดนี้คืออ่านเกมและเก็บบอลสอง ทั้งในเกมรุกและรับ

ไอบ์ - เล่นฝั่งขวา เก็บบอลเล่นได้ดีทีเดียว คือโดนตัดกลับไปน้อยมาก อย่างแย่ก็ยังได้ลูกทุ่ม และมีหลายจังหวะที่จ่ายหนีตัวไล่ได้ดี เล่นกับพื้นที่ได้ดีทุกครั้ง(แต่ไม่ค่อยมีพื้นที่ให้เล่นบ่อยนัก) จังหวะทำประตูชัยต้องถือว่าการวิ่งทำทางของไอบ์เป็นสาเหตุหลักเลย แต่หลังจากยิงได้แล้ว...การยิงและการจ่ายบอลเข้าทำนี่ต้องใส่ไม้โทตอนเรียกชื่อกันรัวๆ -_-

มิลเนอร์ - โดนโยกไปฝั่งซ้ายเลยทำให้ได้เปิดบอลน้อยลงมาก ว่ิ่ิงเยอะ ไล่บอลก็ว่าดีแล้ว(ส่วนตัวคิดว่าเค้าไล่บอลได้ดีที่สุดในทีมวันนี้) แต่ที่่ดีกว่าคือว่ิ่งหาที่รับบอล มิลเนอร์ฉลาดพอที่จะวิ่งหาที่ที่เพื่อนจ่ายง่าย ไม่ได้ปักหลังอยู่ตามตำแหน่งอย่างเดียว แถมยังพร้อมเล่นบอลตลอดเวลา แม้แต่จังหวะที่แดนกลางพึ่งบีบได้บอลมาสดๆ ร้อนๆ เงยหน้ามามิลเนอร์ออกตัวรอแล้ว

เฟอมิโน่ - พลิกบอลขึ้นหน้าได้สุดยอด เก็บบอลดี เลี้ยงบอลได้ติดเท้า ที่สำคัญคือประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้ดีขึ้นมาก บอลจังหวะเดียวเริ่มมีให้เห็นมากขึ้น เสียอยู่อย่างคือดูจะอยากได้บอลมากไปนิด ถอยลงไปต่ำบ่อยกว่าที่ควรจะเป็น บางจังหวะมีทั้งเชิงทั้งอัลเลนอยู่แล้วก็ยังจะถอยลงไปเอาบอลเองอีก

เบนเทเก้ - เล่นเป็นหน้าเป้าได้ สุด ยอด มาก คือไม่ค่อยได้พลิกบอลเล่นเองเท่าไหร่หรอก หาโอกาสยิงได้น้อยมากด้วย แต่ชิ่งบอลให้เพื่อนได้ตลอด จังหวะเบียดไหล่ต่อไหล่เอาชนะตัวประกบได้เยอะ บอลยัดใส่ตัวเบนเทเก้แล้วบอลไม่ตาย รวมไปถึงเข้าไปรอในเขตโทษได้เร็ว เพื่อนไม่ต้องวนรอ เสียดายก็แต่ถ้าจังหวะเข้าทำรู้ใจกันกว่านี้เบนเทเก้คงหาสกอร์เจอบ้าง แต่ที่เปิดๆ มาตะละลูกนัดนี้นี่...เจ้าตัวคงอยากให้คนเปิดมันตามไปโหม่งเอง

ตัวสำรอง

ลัลลาน่า - ขยันวิ่งไล่ ช่วยคู่กลางได้เยอะโดยเฉพาะในช่วงที่สองคนนั่นเริ่มวิ่งไม่ไหว แต่เก็บบอลเล่นได้น้อยไปหน่อย และทำเกมรุก/เกมโต้ได้ไม่น่าประทับใจนัก

ลูคัส - ลงมาช่วยปิดพื้นที่ในแดนกลางและหน้าเขตโทษได้ดี ตัดบอลกลับมาได้น้อยไปหน่อยแต่หยุดเกมรุกตรงกลางได้(บอลต้องหนีไปริมเส้น) เก็บบอลสองได้ก็ถือว่าดีแล้ว

สเคอเทล - ลงมาเล่นตรงไหนยังไม่รู้เลย หมดเวลาก่อน

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...คริสเตียน เบนเทเก้...เป็นนัดที่ถ้าคะแนนเต็มสิบไม่มีใครได้เก้าแต่เจ็ดกับแปดมีหลายคน ขอยกให้เบนเทเก้ที่เล่นหน้าเป้าสไตล์ค้ำกองหลังได้เด็ดขาดเหลือเกินก็แล้วกัน เขามีส่วนช่วยให้บอลในแดนหน้าอยู่กับทีมนานขึ้น เปิดพื้นที่ให้มิลเนอร์ เฟอมิโน่ ไอบ์ ได้มีโอกาสเล่นเกมรุกในพื้นที่สุดท้ายได้เยอะเลย
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น