วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แมนฯซิตี้ 1-4 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...คูตี้&เฟอมิโน่...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

-------------------------เฟอมิโน่-------------------------
คูตินโย่-----------------ลัลลาน่า--------------มิลเนอร์
----------------ลูคัส----------------ชาน-----------------
โมเรโน่--------ลอฟเรน--------สเคอเทล-------ไคลน์
--------------------------มินโยเล่------------------------

_______ หลังกลับมาจากเกมทีมชาติ นัดนี้ลิเวอร์พูลออกไปเยือนแมนฯซิตี้โดยหน้าเป้ายังเป็นเฟอมิโนได้ลงก่อนทั้งสเตอริดจ์ที่พึ่งหายเจ็บและเบนเทเก้ที่พึ่งฟิต ส่วนแดนหลังซาโก้ยังเจ็บอยู่เลยเป็นโอกาสของลอฟเรนไป
-------------------------------------------------------

_______ ช่วงต้นเกม ลิเวอร์พูลพยายามวิ่งไล่แต่เก็บบอลเล่นเองไม่ค่อยได้ ส่วนทางซิตี้เน้นเกมริมเส้น มีเกมเลี้ยงจี้ที่ดี ทำให้รูปเกมดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด บอลไปถึงข้างหน้าได้ต่อเนื่องและเกมรับก็ยังไม่ได้โดนกดดันอะไรนัก จนกระทั่ง...

________ นาที 7 คูตินโย่ไปปั้มบอลมาได้จากซานญ่า ก่อนที่จะจ่ายให้เฟอมิโน่ไปเอาบอลที่สุดเส้นหลัง หักเรียดกลับเข้ากลาง มองกาล่าเข้าชาร์..เอ้อ สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป 1-0

_______ หลังสกอร์ขยับ รูปเกมยังไม่เปลี่ยน ซิตี้ยังเป็นฝ่ายเก็บบอลเล่นได้มากกว่าและยังไม่เร่งเกม บอลยังไปถึงข้างหน้าได้แน่ยังเจาะแนวรับลิเวอร์พูลไม่ได้ ส่วนลิเวอร์พูลเองเก็บบอลเล่นได้ดี การตั้งเกมบุกอาจยังไม่ดีเท่าไหร่ แต่ทำได้ดีกับการไล่บอลแดนหน้าที่ตัดเอามาเล่นเร็วฉาบฉวยได้ดีหลายครั้ง

_______ ใกล้นาที 20 ซิตี้ค่อยๆ นวดจนลิเวอร์พูลเริ่มแบนติดเขตโทษตัวเองแล้ว แต่คู่หูต่างวัย เดมิสเคลิสกับมองกาล่าที่มีปัญหาตั้งแต่ช่วงต้นเกมก็มาแผลงฤทธิ์อีกครั้ง นาที 23 จากจังหวะที่ลิเวอร์พูลโต้เร็วขึ้นมา บอลเข้าทางกองหลังแล้วแท้ๆ แต่ปล่อยให้เฟอมิโน่เก็บบอลเล่นได้ก่อนจะจ่ายตัดแผงหลังมาให้คูตินโย่ที่อยู่อีกฝากได้ยิงโล่งๆ ในเขตโทษ 2-0

_______สกอร์ขยับห่าง คราวนี้ซิตี้เริ่มออกอาการ จ่ายบอลกันผิดพลาดมากขึ้น บอลไปถึงข้างหน้าน้อยลง แต่ในทางกลับกันแนวรับโดยเฉพาะคู่เซ็นเตอร์เริ่มโชว์ฟอร์มต่อเนื่องขึ้นเรื่อยๆ เหมาะแก่การถ่ายคลิปเก็บเอาไว้เปิดคอร์ส “อะไรไม่ควรทำยามคุณเล่นเซ็นเตอร์” เป็นที่ยิ่ง สุดท้ายก็มาโดนเพิ่มจนได้ในนาที 32 คูตินโย่พลิกหาช่องยิงไกลได้แบบไม่มีตัวมาไล่ ฮาร์ทปัดได้ แต่ลิเวอร์พูลเก็บบอลได้ แล้วเป็นชานที่ได้บอลอยู่หน้าเขตโทษ ตอกส้นย้อนกลับเข้าไปให้คูตินโย่ได้บอลมุมแคบ เปิดเข้าในให้เฟอมิโน่รับบอลโล่งๆ และมีเวลาคิดว่าจะยิงดีหรือจะเลี้ยงเข้าดี เข้าแล้วจะดีใจแบบไหนดี ก่อนจะยิงเข้าไปง่ายๆ 3-0

_______ หลังจากสกอร์ขยับอีกครั้ง ซิตี้ก็เลิกเล่นสโลว์ไลฟ์สักที เร่งเกมเป็นจริงเป็นจังขึ้น แต่ผลลัพธ์ออกมากลายเป็นโดนโต้จนเกือบเสียประตูลูกที่สี่อีกหลายครั้ง แต่ยังดีที่ฮาร์ทช่วยเซฟเอาไว้ได้ ส่วนลิเวอร์พูลที่วิ่งไล่เอาบอลกลับไปยำซิตี้กันเพลินๆ มาพลาดเอาช่วงท้ายเกมนาที 44 สเคอเทลโดนบีบแล้วเปิดบอลหนีขึ้นหน้าไม่ดีติดคู่ต่อสู้ บอลย้อนกลับมาเข้าทางกุนได้บอลพลิกขึ้นหน้า แตะหนีลูกคัสก่อนยิงจากหน้าเขตโทษตูมเดียวหายช่วยให้ซิตี้ไล่มา 3-1 จบครึ่งแรกแบบเกมยังไม่ขาดได้สำเร็จ

_______ เข้าครึ่งหลัง เปเยกรินี่เปลี่ยนสองตัวและปรับแทคติคขนานใหญ่ ส่งแฟร์นันดินโย่กับเดล์ฟลงมาแทนตูเร่กับนาบาส เน้นให้ลูกทีมเข้าบอลเร็วขึ้น ปะทะให้หนักขึ้น ซึ่งได้ผล ลิเวอร์พูลมีปัญหาหนักมากในช่วงต้น เสียฟาล์วกันรัวๆ และโดนกดดันอยู่พักใหญ่

_______อย่างไรก็ตาม แม้เกมของซิตี้จะดีขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือ บอลมาถึงเขตโทษได้บ่อยขึ้นกว่าท้ายครึ่งแรก แต่ก็ยังเป็นลิเวอร์พูลที่ได้ลุ้นประตูมากกว่า ด้วยการเล่นเกมโต้กลับของคูตินโย่กับเฟอมิโน่ที่เข้าขารู้ใจกันสุดๆ ขึ้นไปแต่ละครั้งนี่ได้ลุ้นประตูตลอด แต่ยังติดนิดติดหน่อย ล้ำหน้าบ้าง เลยยังหนีห่างออกไปไม่ได้

_______ จังหวะควรโดนที่สุดของลิเวอร์พูลวันนี้อยู่ในนาที 62 มิลเนอร์จ่ายย้อนกลับหลังโดนตัดได้ แต่บอลอยู่ที่สเตอลิ่งแล้วเจ้าตัวคิดนานไปหน่อยจนพลาดโอกาสทอง แทบนาที 66 กุนยังเล่นต่อไม่ไหวต้องส่งดาวรุ่งอย่างอีเฮนาโช่ลงมาแทน

_______ นาที 68 ทางลิเวอร์พูลก็ต้องเปลี่ยนบ้าง ไอบ์แทนคูตินโย่ที่มีอาการเจ็บ นาที 76 เบนเทเก้แทนเฟอมิโน่ ซึ่งต้องบอกว่าทางซิตี้ตั้งแต่กุนถูกเปลี่ยนออก เกมรุกของซิตี้ออกมาในแนว บอลมาถึงเส้นข้าง/สุดเส้น เปิดเข้าไปลุ้น ชาร์จเกือบโดน หรือยิงแบบโดนเร่ง โอ้ว~เฉียดเสา อ้าว~ติดเซฟ โอ้โหแหม่เข้าถึงบอลช้าไปนิดเดียว อะไรแบบนั้น ไอ้โอกาสประเภท”ฉิบหายไม่รอดแน่”แบบตอนกุนง้างเท้ายิงไม่มีแล้ว

_______ ส่วนทางลิเวอร์พูล เปลี่ยนคูตินโย่ออกไป เกมโต้ก็เริ่มด้อยลงบ้างแล้วแต่ยังพอทำได้ พอเปลี่ยนเฟอมิโน่ออกไปอีกคนเกมโต้ก็ไม่น่ากลัวแล้ว แต่อาศัยลูกวิ่งไล่ตัดบอลกลางสนามมาเล่นฉาบฉวยกดดันได้บ้าง นาที 81 เบนเทเก้ได้หลุดเดี่ยวแต่เลี้ยงบอลช้าจนในที่สุดโดนบีบให้ยิงยากติดเซฟออกไป แต่จากจังหวะเตะมุมนั้นเอง บอลโยนโด่งมากลางประตูแล้วตกในเขตโทษ สเคอเทลเอี้ยวตัววอลเล่ย์เต็มข้อ บอลตรงกรอบกลางประตูแต่แรงมากจนฮาร์ทปัดไม่ทัน 4-1 ปิดกล่องที่จริงๆ ก็สนิทอยู่แล้ว(ตั้งแต่กุนออก)ให้แน่นหนากว่าเก่าลมไม่ต้องเข้าออกกันไปเลย

_______ เวลาที่เหลือรูปเกมก็ยังคงออกแนวสองย่อหน้าข้างบน นาที 90 ตูเร่ได้ลงมาแทนลัลลาน่า และจบเกมไปด้วยสกอร์ 4-1
-----------------------------------------

_______ เกมนี้ทีมเล่นกันได้ดีมากครับ คือแทคติคคล็อปก็มีส่วนใหญ่เยอะแหล่ะ แต่ฟอร์มการเล่นของผู้เล่นส่งผลมากกว่า

_______ แน่นอนว่าการวิ่งไล่ในแดนหน้ามีส่วนช่วยให้ได้มาถึงสามประตู และการได้ประตูเร็วก็ทำให้งานง่ายขึ้น แต่ทีเด็ดที่สุดของนัดดนี้ยังคงเป็นการประสานงานของคูตินโย่กับเฟอมิโน่ที่สุดยอด เข้าขาลงตัวมาก ถ้าเฟอมิโน่จบสกอร์ได้เนียนตากว่านี้ รวมไปถึงทั้งคู่รักษาไลน์ไม่ให้ล้ำหน้าได้ดีกว่านี้ อาจได้เห็น “ครึ่งโหล” ไปแล้วครับ หวังให้ดูโอ้บราซิลเลี่ยนคู่นี้ประสานกันได้แบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วกันครับ

_______ ส่วนทางซิตี้ ไม่รู้ว่าเปเยกรินี่ประมาทการวิ่งไล่ของลิเวอร์พูลมากไป หรือสภาพความฟิตของผู้เล่นทีมตัวเองมันบังคับกันแน่ แม้ว่าเขาจะปรับเกมตอนพักครึ่งได้ดีมากๆ ตรงจุด และทำให้เกมดีขึ้นได้จริง แต่กับการที่เล่นเหมือนไม่มีกองกลางตัวรับ, เล่นรับแบบเอาเชิง ไม่เข้าอัด(ในครึ่งแรก), คู่เซ็นเตอร์ที่แทบไม่ได้เล่นด้วยกันมาเลยในฤดูนี้ ก็ส่งผลให้โดนนำห่าง 3-1 ตั้งแต่ครึ่งแรก ถ้าส่งเฟอนันดินโย่ลงตั้งแต่ครึ่งแรกชีวิตเขาน่าจะดีกว่านี้เยอะ

_______ เรื่องแทคติค ผมว่าคล็อปทำได้ดีกว่าเปเยกรินี่ครับ

_______ สำหรับลิเวอร์พูลแล้ว เกมนี้เป็นเกมที่เล่นกันได้ยอดมาก แต่ถ้าดูกันจากโจทย์ก็ต้องบอกว่าบอลมันเข้าทางด้วย ซิตี้ทั้งเล่นในบ้าน ทั้งต้องการแต้มยังไงก็ต้องบุก ซึ่งทำให้หลังจากลิเวอร์พูลวิ่งไล่จนตัดบอลมาได้ ข้างหน้ามีคู่ต่อสู้แค่ไม่กี่คน บางจังหวะก็มีแค่คู่เซ็นเตอร์นั่นแหล่ะ แถมพื้นที่อีกเพียบ แต่กับเกมอื่นที่แม้จะวิ่งตัดมาได้แล้ว แต่แนวรับยังอยู่กันเยอะ แถมพื้นที่ไม่มีให้ไปต่อ ก็คงยากที่จะเล่นกันได้สนุก ลุ้นประตูเป็นกอบเป็นกำได้แบบนัดนี้ ดังนั้นจะให้มองว่าถล่มซิตี้คาบ้าน 4-1 แปลว่าทีมลงตัวแล้ว พร้อมลุยหัวตารางแล้ว อาจจะเร็วไปนิดครับ

_______ ขอเล่นกับซิตี้ทุกอาทิตย์ได้มั้ย?...จะได้ไม่ต้องเจอพาเลซ 555+
-----------------------------------------

นัดนี้มีแค่ดีกับดีมาก ไม่มีใครฟอร์มแผ่วเลย

มินโยเล่ - เซฟช่วยทีมจังหวะสำคัญได้ ช่วยทำให้ทีมไม่ต้องกดดันมากนัก ปิดมุมยิงได้ดี ที่สำคัญคือนัดนี้ออกมาเล่นนอกเขตได้ดีหลายครั้ง

โมเรโน่ - ทีมนำเร็วและทำให้เกมนี้เขาไม่ต้องขึ้นไปเล่นเกมรุก นัดนี้ช่วยเชื่อมเกมแดนกลางได้ดี ยังห่วงจะไล่บอลกลางสนามเยอะไปนิด แต่โดยรวมเกมรับพอไม่ต้องพะวงกับการวิ่งขึ้นหน้าก็เล่นได้ดีขึ้นเยอะ

ลอฟเรน - ลงมาเล่นดีเฉยเลย สกัดบอลได้เด็ดขาดโดยเฉพาะลูกกลางอากาศขึ้นถึงบอลหมด ออกไปซ้อนแบ็คได้เร็วมากและไม่พรวด ยังเก็บบอลเล่นไม่ดีนักแต่ถ้าสกัดได้แบบนี้ก็ช่างมันเถอะ เป็นวันที่เล่นได้ดีที่สุดในแผงหลัง

สเคอเทล - เข้าสกัดและบีบคู่ต่อสู้ให้ไปทางแคบได้ดี ลูกกลางอากาศกับการประกบก็ไม่มีพลาด แต่วันนี้ออกไปซ้อนแบ็คช้าเหลือเกิน ครึ่งแรกช่องหลังไคลน์เหลือเพียบ (เทียบกับครึ่งหลังช่องหลังโมเรโน่ลอฟเรนเก็บได้หมด) รวมไปถึงการดันออกไปปิดพื้นที่หน้าเขตโทษจังหวะกลางรับโดนพลิกได้แล้วก็ช้าด้วย โดยรวมยังเป็นเกมที่ดีแค่ดีไม่เท่าลอฟเรน ..ส่วนประตู 4-1 นี่ยิงครั้งเดียวน่าให้สักสองประตู

ไคลน์ - 20 กว่านาทีแรกขึ้นไปรับบอลในแดนหน้าได้สุดยอด แต่เปิดบอลได้สุดแย่ เหมือนมีอาการเกร็งๆ ยังไงบอกไม่ถูก บอลตามช่องง่ายๆ ยังพลาด แต่หลังจาก 2-0 แล้วก็ไม่ค่อยขึ้นอีก เกมรับฟอร์มส่วนตัวรับมือกับการเลี้ยงจี้ของสเตอลิ่งในครึ่งแรกได้ดี ปิดพื้นที่มุมธงได้ดีตามสภาพถ้ามองว่าโดนรุมจากทั้งโคลารอฟและสเตอลิ่ง

ลูคัส -ไม่มีจังหวะที่ทีมโดนโต้ ลูคัสก็กลายร่างเทพทันที แซะบอลทำลายจังหวะได้เยอะ ปิดพื้นที่หน้าเขตโทษได้ดี จะมีก็ช่วงสักประมาณ 15 นาทีท้ายที่เริ่มขาตายไม่ค่อยพลิกวิ่งตาม วันนี้เสียใบเหลืองได้คุ้มค่ามากในนาที 38 ที่ดึงกุน ไม่งั้นจบครึ่งแรกอาจเป็น 3-2 แล้ว นอกจากนั้นลูคัสคนเดิม มีเพิ่มเติมแล้ว คือการเชื่อมเกมของเขาดูดีต่อเนื่อง ไม่ใช่ลูกอีช่างแปะแบบแต่ก่อน

ชาน - ประมาณ 20 นาทีแรกเล่นพลาดเยอะ ผีบัลลัค(ตัวจริงยังไม่ตายนะ)เริ่มจะเข้าสิง ทั้งเก็บบอลนาน ทั้งพาบอลไปตาย เป็นระยะ แต่พอนาที 32 กับจังหวะตอกส้นที่นำไปสู่ประตูที่สามก็ทำให้เราลืมความผิดพลาดก่อนหน้านั้นไปเลย แถมหลังจากนั้นชานไม่เก็บบอลนานอีก ไม่ทำบอลเสียและเล่นวิ่งไล่ปิดพื้นที่ได้น่าพอใจจนจบเกม

มิลเนอร์ - อาจไม่เด่นเท่าดูโอ้บราซิล แต่วันนี้มิลเนอร์ช่วยทีมไว้ได้เยอะไม่แพ้กัน มีการอ่านเกมที่ดี สามารถสละตำแหน่งตัวเองไปไล่หรือรับบอลได้ถูกจังหวะ (ช่วยไปสอนโมเรโน่มั่งได้มั้ย) เป็นสิ่งที่มิลเนอร์ทำได้ดีกว่าคนอื่นในทีมซึ่งช่วยทีมได้มากทั้งในเกมรุกและเกมรับ พิเศษใส่ไข่คือนัดนี้ไม่มีการเข้าบอลแบบอยากสะสมใบเหลืองให้เห็นเลย …ไม่น่าเชื่อ ดูเองยังแทบไม่เชื่อตาตัวเองเลย

ลัลลาน่า - ทำได้คล้ายมิลเนอร์ อ่านเกมไม่ดีเท่า แต่มีบอลจังหวะเดียวที่ดีกว่ามาทดแทน มีส่วนช่วยให้คูตี้กับเฟอมิโน่ได้เล่นง่าย คือได้เล่นในจังหวะทำเกมรุกไม่ต้องมาพะวงกับการเชื่อมบอลหรือวิ่งดึงตัวประกบ แม้จะไม่มีจังหวะได้ยิงเองหรือจ่ายบอลทะลุแบบได้ขึ้นหน้าหนึ่งแบบสองคนนั่น แต่ฟอร์มนัดนี้ของเจ้าตัวดูดีกว่านัดที่ยิงได้อีก

คูตินโย่ - มีคนรู้ใจ อะไรมันก็ง่ายขึ้น บอลตามช่องสไตล์วัดใจ 50/50 ที่ไม่ค่อยได้จ่ายมานานแล้ว...เพราะจ่ายไปก็ไม่มีใครไปรับ มาวันนี้ได้เห็นกันรัวๆ ประสานกับเฟอมิโน่ได้โดดเด่นมาก (ส่วนนึงเพราะคู่ต่อสู้ง่าวด้วย) จังหวะจบสกอร์ก็นิ่ง จังหวะพลิกบอลหนีตัวไล่นี่อย่างกับเอามือจับ

เฟอมิโน่ - เป็นนัดที่เล่นได้ดีสุดตั้งแต่ย้ายมา ประสานงานกับคูตินโย่ได้ดี กล้าเล่น การหาพื้นที่จบสกอร์เด่นกว่าคูตินโย่อย่างเห็นได้ชัด หาโอกาสได้เยอะกว่าและเป็นโอกาสชนิดควรใส่สกอร์ก็หลายครั้ง แต่จังหวะยิงจริงๆ ยังต้องปรับปรุงเพราะไม่เด็ดขาดพอ รวมไปถึงช่วงที่คูตินโย่ไม่อยู่ในสนาม ความอันตรายลดลงไปเยอะมาก

ตัวสำรอง

ไอบ์ - ได้บอลน้อยกว่าที่ควร พลิกบอลเล่นเองแทบไม่ได้ แต่หาช่องรับบอลใช้ได้ และจังหวะที่ได้บอลก็ทำได้ดี เก็บบอลได้ เลี้ยงจี้ได้ จ่ายตามช่องให้เบนเทเก้หลุดเดี่ยวไปได้อย่างสวยด้วย

เบนเทเก้ - รักษาตำแหน่งของตัวเองได้ดีอยู่ แต่จังหวะการเล่นผิดไปหมด เก็บบอลได้น้อย ฝากบอลให้เพื่อนก็ไม่ดี ซ้ำร้ายจังหวะหลุดเดี่ยวนี่พลาดไม่น่าเชื่อ

ตูเร่ - ลงมาได้โชว์ตัดบอลเปิดเข้ากลางสวยๆ ได้นิดหน่อย

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...การประสานงานของคูตี้กับเฟอมิโน่… คือมันไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเพราะทั้งคู่เล่นด้วยกันนั่นแหล่ะถึงได้ผลลัพธ์แบบนี้ ด้วยรูปเกมแบบนี้
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น