วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ลิเวอร์พูล 1-2 คริสตัล พาเลซ (พรีเมียร์ลีค)


...การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาก่อนตัดสินใจ...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

-------------------------เบนเทเก้------------------------
คูตินโย่-----------------ลัลลาน่า-------------------ไอบ์
----------------ลูคัส----------------ชาน-----------------
โมเรโน่--------ซาโก้---------สเคอเทล---------ไคลน์
--------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลบินกลับจากรัสเซียมาเปิดบ้านรับมือพาเลซในเกมลีค นัดนี้คล็อปเปลี่ยน 11 ตัวจริงจากเกมที่แล้วเล็กน้อย แต่ไม่มีตำแหน่งไหนน่าแปลกใจ
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาพาเลซดันกันขึ้นมาไล่สูงมาก ทั้งมินโยเล่ ทั้งซาโก้พลาดกันคนละทีจนเกือบทำให้ทีมพังตั้งแต่นาทีแรกแต่ยังเอาตัวรอดกันไปได้

________ ช่วง 10 นาทีแรกเป็นเกมของพาเลซแทบทั้งหมด เน้นใช้บอลโด่งจากแดนหลังวางไปให้กองหน้าเล่น ตัวไล่ลิเวอร์พูลที่เคยกดดันทีมอื่นได้ มาเจอไม้นี้ก็เข้าไม่ถึงบอล แถมกองหน้าพาเลซยังเล่นลูกกลางอากาศได้ดี รวมถึงมีเพื่อนอยู่ใกล้ตลอด ทำให้เก็บบอลลงเล่นกดดันลิเวอร์พูลได้

_______ ลิเวอร์พูลพยายามเล่นให้ช้าลง ผ่าน 10 นาทีแรกไปได้ก็เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้บ้าง ครองบอลได้นานขึ้น รวมไปถึงมีจังหวะโต้กลับทำเร็วจากทางด้านขวาด้วยการเล่นของไอบ์อยู่บ้าง แต่เกมก็ยังเป็นรองอยู่พอควร

_______ นาที 21 พาเลซที่เล่นได้ดีกว่ามาทำประตูสำเร็จจากจังหวะที่แนวรับลิเวอร์พูลสกัดกันไม่ขาด ตั้งแต่หน้าเขตโทษ จนไปริมเส้นและพาเลซได้เปิดบอลเรียดย้อนเข้ามาตรงกลาง จังหวะสุดท้ายชานก็ถึงบอลก่อนแล้วแต่ดันสกัดไม่ไปไหน เข้าทางโบลาซี่แตะหนีก่อนยิงไม่พลาด 1-0

_______ หลังจากได้ประตูนำ พาเลซก็คอยๆ ถอยลงไปรับกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ลิเวอร์พูลตั้งเกมจากหลังมาหน้าได้สะดวกขึ้น เก็บบอลเล่นได้ดีขึ้น นาที 40 ซาโก้เจ็บจนต้องเปลี่ยนออกลอฟเรนได้ลงแทน

_______ ลิเวอร์พูลพยายามอยู่นาน ได้ครองบอลและบุกใส่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเจาะตรงกลางสลับขวากดดันคู่ต่อสู้ได้ตลอด จนมาตีเสมอได้สำเร็จในนาที 42 ไอบ์เก็บบอลได้ก่อนดึงจังหวะรอไคลน์เติมแล้วจ่ายตัดหลังแนวรับ ไคลน์เอาไปเปิดเรียดกลับเข้ามา ลัลลาน่าไขว้บอลจนเบนเทเก้เข้าไม่ถึงบอล แต่บอลไปเข้าทางคูตินโย่เติมเข้ามายิงในเขตโทษ 1-1

_______ เวลาที่เหลืออยู่เล็กน้อยลิเวอร์พูลก็ยังบุกกดดันจนได้ลุ้นประตูเพิ่มอีกแต่ยังทำไม่สำเร็จ จบครึ่งแรกที่ 1-1

_______ เข้าครึ่งหลัง พาเลซกลับลงมาบุกสู้ ไม่ถอยไปรับแล้ว ส่วนลิเวอร์พูลก็ยังเดินหน้าบุกต่อ ทำให้เกมเปิดแลกกันตั้งแต่ต้น ทางด้านพาเลซนั้นรับมือกับไอบ์ได้ดีขึ้นมาก ส่วนลิเวอร์พูลเองก็เก็บบอลสองจังหวะรุกได้ดีกว่าครึ่งแรก เกมออกมาสูสีและบอลไปเร็วมาก

_______ นาที 61-62 ทั้งสองทีมโชว์วืดกันไปคนละดอก ซาฮาได้บอลเลี้ยงจี้ขึ้นหน้ามาแนวรับสามตัวของลิเวอร์พูลเบียดไม่อยู่ ซาฮาจ่ายเรียดเข้ามาถึงซาโก้(กองหน้าพาเลซ)ได้ยิงโล่งแล้วแต่ไปเข้าหน้าต่าง ส่วนลิเวอร์พูลเองโต้กลับมาจนโมเรโน่ได้ตักบอลจากสุดเส้นข้ามไปเสาสอง เบนเทเก้ขึ้นโหม่งคนเดียวแต่ดันผิดจังหวะ กดบอลไม่ลงเหิรข้ามคานไป

_______ นาที 65 คล็อปก็แสดงเจตนาชัดเจน ถอดชานออกส่งเฟอมิโน่ลงมา เดินเกมรุกต่อเต็มตัว จากตรงนี้ทำให้พาเลซบุกด้วยบอลโด่งสลับกับบอลเลี้ยงจี้ได้ดีขึ้นเพราะตัวปิดพื้นที่มีน้อยลง แต่ในทางตรงกันข้ามลิเวอร์พูลเองก็ทำเกมเจาะตรงกลางหน้าเขตโทษพาเลซได้ดีขึ้น ได้เปิดเข้าไปลุ้น สลับกับดึงตัวรับมาจนแทงบอลให้แบ็คขึ้นมาเปิดบอลที่สุดเส้นได้รัวๆ

_______ จนแล้วจนรอด ลิเวอร์พูลก็ทำประตูขึ้นนำไม่ได้ โดยเฉพาะเบนเทเก้ที่วันนี้จังหวะสุดท้ายเข้าถึงบอลได้ไม่ดีและยิงพลาดหมด ส่วนพาเลซเองพาบอลมาถึงเขตโทษได้โคตรน่ากลัวแต่การเข้าทำยังขาดๆ เกินๆ อยู่

_______ จนกระทั่ง

_______ นาที 82 พาเลซได้เตะมุม บอลเปิดมาเข้าหัวสก็อต แดนโหม่งอัดใส่มินโยเล่ปัดได้ แต่ปัดบอลไม่ไปไหนโดนแดนตามมาโหม่งซ้ำเข้าไปขึ้นนำอีกรอบ 2-1

_______ สกอร์ขยับอีกครั้งแต่รูปเกมไม่ได้ขยับตาม เกมยังคล้ายเดิม พาเลซยังไม่ได้ถอยไปอุด ยังเอาบอลขึ้นหน้าได้ดีโดยเฉพาะตัวรุกอย่างซาฮา โบลาซี่เก็บบอลได้เหนียวแน่นดี ในขณะที่ลิเวอร์พูลก็พาบอลไปวนๆ รอบเขตโทษคู่ต่อสู้ได้ ได้เปิดได้ยิงแบบได้ลุ้นบ้างแต่เอาชนะแนวรับไม่ได้

_______ นาที 87 โอริกิได้ลงมาแทนไอบ์ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จบเกม คล็อปพ่ายเป็นนัดแรกแถมพ่ายคาแอนฟิลด์ซะด้วย 2-1
-----------------------------------------

_______ ในช่วงที่เตะถี่แบบนี้ 11 ตัวจริงก็พูดยากครับว่าใครควรลงควรพัก ต้องดูสภาพความฟิตเอาอย่างเดียวเลย ซึ่งรายชื่อตัวจริงก็ดูดีแล้วล่ะ ถึงจะไม่ค่อยปลื้มกับชานเท่าไหร่ในช่วงหลัง แต่หันไปเจออัลเลนก็...เอาชานเล่นก็ดีแล้ว

_______ วันนี้การขาดมิลเนอร์ รวมไปถึงการที่ได้พักน้อยแถมเดินทางไกลส่งผลต่อทีมเยอะครับ สำหรับมิลเนอร์นั้น คือทั้งคูตินโย่และไอบ์ก็วิ่งไล่นะ ไม่ใช่ไม่ไล่ แต่ถ้าเทียบกับมิลเนอร์แล้วยังคนละเรื่องอยู่ ทำให้การไล่บอลแถววงกลมลดความน่ากลัวไปพอสควร และสภาพความฟิตของทั้งทีม ถ้าใครได้ดูทีมตั้งแต่คล็อปเข้ามาคุมคงเห็นว่านัดนี้เป็นนัดที่วิ่งน้อยกว่านัดอื่น จังหวะออกตัวของผู้เล่นดูช้าไปนิดนึง และกลาง-ท้ายครึ่งหลังเห็นชัดเลยว่ายุบแล้ว ขาอ่อน วิ่งได้แต่ไม่เหลือแรงปะทะเท่าไหร่แล้ว

_______ แต่ที่ส่งผลต่อเกมที่สุด ผมคิดว่าเป็นแทคติคของพาดิวครับ เขาเลือกโจมตีจุดอ่อนและปิดจุดแข็งลิเวอร์พูลได้ดีมาก ตอนขึ้นเกมก็โยนปิ้วว~ ข้ามไปฝั่งตรงข้ามเลย ไม่มาเคาะบอลอะไรมาก ลิเวอร์พูลไล่แดนหน้าไม่ทันเลย แถมการขยับขึ้นไปจะไล่บีบบอลที่เปิดขึ้นมาก็ทำได้ลำบาก เพราะบอลมันข้ามไปข้างหลังแล้ว พื้นที่หลังแบ็คทั้งซ้ายขวาเป็นจุดที่โดนโจมตีเยอะสุดในครึ่งชั่วโมงแรก จนกระทั่งเสียประตูในที่สุด ต้องถือว่าในช่วงเริ่มจนถึงได้ประตูนำพาดิววางแผนมาดีและดีกว่าคล็อปครับ

_______ แต่พอนำแล้วผมคิดว่าพาดิวพลาดเพราะพาเลซดันถอยไปรับ ซึ่งจริงๆ ไม่จำเป็นเลย เพราะตัวรุกของเขายังเก็บบอลได้อยู่ เลยทำให้ลิเวอร์พูลกลับมาได้ เสียดายที่ประตูตีเสมอมาช้า รวมไปถึงความไม่เด็ดขาดในการจบสกอร์ ทำให้ลิเวอร์พูลจบครึี่งแรกได้แค่เสมอ ทั้งๆ ที่น่าจะพอลุ้นแซงนำได้ด้วยซ้ำ
_______ ถึงอย่างนั้นพอเข้าครึ่งหลัง ก็เป็นพาดิวที่ทำได้ดีกว่า การสั่งลูกทีมให้เล่นเกมรุกแลกแบบไม่กลัว, การเน้นบอลโด่งสลับการเลี้ยงจี้ ทำให้ครึ่งหลังแม้ว่าลิเวอร์พูลจะเก็บบอลได้ บุกได้ แต่เกมพาเลซไม่เป็นรองเท่าไหร่ แถมยังมาได้ประตูชัยเป็นโบนัสอีกต่างหาก ถ้าดูจากผลงานพาดิวแล้วพวกเขาก็ควรเก็บสามแต้มไปได้จริงๆ นั่นแหล่ะ

_______ มองย้อนกลับมาคล็อป ผมไม่ได้คิดว่าเขาแพ้เพราะวางแผนสู้พาดิวไม่ได้แต่คิดว่าเป็นเพราะโจทย์แกยากกว่าพาดิวเยอะ เอาแค่พึ่งเล่นยูโรป้ามานี่ก็งานหินแล้วเพราะได้พักน้อยกว่าพวก UCL แถมดันแจ๊คพ็อตต้องไปไกลถึงรัสเซียอีก ถ้าได้เล่นในบ้านหรือได้เยือนใกล้ๆ ก็ว่าไปอย่าง

_______ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลือกในการหมุนเวียนนักเตะก็ดี ในม้านั่งสำรองก็ดี คล็อปยังมีให้เลือกใช้อย่างจำกัดมาก นักเตะที่เหมาะจะใช้งานตามแทคติคก็ดันมาเจ็บไปอีก ผมมั่นใจมากว่าถ้าเขามีทางเลือกมากกว่านี้ ชานอาจไม่ได้ลงสนามตั้งแต่ต้น และเบนเทเก้หรือไอบ์หรือทั้งสองคนจะโดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาที 50-60

_______ มองเฉพาะเกมนี้ล้วนๆ คล็อปดูกล้าหาญชาญชัยมากไปนิดครับกับการเลือกถอดชานออกแล้วส่งเฟอมิโน่ลงไป ตามเหตุผลด้านบนการเลือกเล่นเซฟตัวเองอาจจะดูสมเหตุสมผลกว่าเพราะท้ายเกมไม่น่าเร่งขึ้นแล้ว แถมคนที่อยู่ในสนามก็เริ่มขาลาก ขยับช้ากันไปทีละคน

_______ แต่ก็นั่นแหล่ะ...เราจะไปหวังให้คนที่แค่นั่งข้างสนามยังทำไม่ค่อยได้ ลุกขึ้นมายืนลุ้นบ่อยๆ, คนที่วางแผนให้ทุกคนวิ่งไล่ตั้งแต่แดนหน้า, คนที่เน้นให้ทีมแย่งบอลกลับมาให้เร็วที่สุด ฯลฯ เลือก “เพลย์เซฟ” ด้วยการเก็บตัวรับไว้ ในสถานการณ์ที่ตัวยังเท่ากัน เกมยังได้เปรียบ เล่นในบ้าน กับทีมระดับกลางๆ และสกอร์ยังเสมอ?

_______ ยากครับ

_______ เสี่ยงรุกต่อแล้วพลาด ผลลัพธ์อาจไม่ได้ดั่งใจ แต่เกมก็สนุกมากจริงๆ และระยะยาวน่าจะทำให้ทีมกล้าเล่นเกมรุกมากขึ้นด้วย ...ถ้าไม่เสี่ยงแล้วเจ๊งแบบนี้บ่อยๆ อ่ะนะ
-----------------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ดีบ้างไม่ดีบ้าง

มินโยเล่ - โดนกดดันเยอะทีเดียว เรื่องต้องเซฟยังไม่เท่าไหร่ เซฟไม่พลาด แต่โดนวิ่งจี้เยอะมากและรับมือได้ไม่น่าปลื้มนัก เปิดเกมพลาดเยอะและการปัดบอลนัดนี้ทำได้ไม่ดี บอลไม่ไปไหน ทั้งลูก 2-1 ด้วย จังหวะอื่นๆ ก็ด้วย

โมเรโน่ - เปิดพื้นที่ริมเส้นเอาไว้เยอะไป แม้จะต้องเติมขึ้นไปช่วยเกมรุกตามแทคติคก็เถอะแต่ถือว่าหลายครั้งเค้าก็ลอยมากไปจริงๆ ยังทำได้ดีกับการวิ่งไล่บอลจากคู่ต่อสู้ และเติมขึ้นไปเปิดบอลได้เยอะมาก มีลูกที่ดีอยู่พอควรด้วย

ซาโก้ - มีปัญหากับการประกบกองหน้าเล่นลูกกลางอากาศพอสมควร ไม่ถึงขั้นยับแต่หยุดได้น้อยเกินไป ทั้งยังมาเจ็บจนต้องเปลี่ยนออกอีกต่างหาก

สเคอเทล - มีปัญหากับการประกบกองหน้าเช่นกัน เก็บบอลเล่นไม่ได้แถมโดนวิ่งไล่จี้จนออกอาการเตะบอลสาดทิ้งเยอะเลย ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังทำได้ดีกับการทิ้งตัวกวาดบอลที่ทำได้บ่อยมากและสกัดบอลที่เปิดเข้าเขตโทษ

ไคลน์ - รับศึกหนักกับตัวรุกพาเลซโดยเฉพาะโบลาซี่อยู่แทบทั้งเกม หยุดได้บ้างไม่ได้บ้างแต่อย่างแย่เค้าก็ยังชะลอคู่ต่อสู้ได้ ไม่มีไคลน์คอยชะลอไว้ทีมน่าจะโดนโต้ไส้แตกแหกอีกหลายลูกเลยทีเดียว ในขณะที่เกมรุกไคลน์เติมขึ้นไปรับบอลได้ดีสุดๆ จังหวะวิ่งตีคู่ไปกับไอบ์นี่ถือว่าเป็นจังหวะทีเด็ดของทีมวันนี้เลย เปิดบอลเรียดเข้ากลางได้ลุ้นหลายครั้งด้วย

ลูคัส - เก็บบอลสองได้ไม่ดีนัก จังหวะต้องวิ่งเบียดกับตัวเลี้ยงจี้นี่พังพินาศมาก เบียดไม่ค่อยอยู่ วิ่งได้น้อย ยิ่งจังหวะที่เป็นเกมที่คู่ต่อสู้โต้เร็วขึ้นมาลูคัสนี่อารมณ์เพื่อนสนิททันที คือได้แต่ห่วงใยอยู่ห่างๆ แต่ถ้าพาเลซช้าหรือบอลวนเมื่อไหร่ ลูคัสเก่งทันที ส่วนในเกมรุก ลูคัสทำได้ดีขึ้นมากๆ ในการเชื่อมเกม โดยเฉพาะการย้อนบอลเร็วไปข้างหน้าที่ทำได้ชนิดชานต้องอาย คูตินโย่กับเฟอมิโน่ต้องขยี้ตาดูอีกรอบเลย

ชาน - เล่นได้ดีขึ้นกว่านัดที่แล้ว เก็บบอลกับตัวน้อยลง ออกบอลเร็วขึ้น ไม่งอแงเรียกฟาล์วพร่ำเพรื่อแล้ว เกมรับวิ่งปิดพื้นที่ได้ดีกว่าลูคัสในจังหวะโดนโต้ ทำได้ดีในการหาพื้นที่รับบอลเล่นด้วย แต่โอ้อนิจจา ไฮไลท์ของชานวันนี้กลายเป็นจังหวะเสียประตูแรกที่แกจับบอลชงให้โบลาซี่ลากไปยิงอย่างน่ิ่ม T_T

คูตินโย่ - เรามาถึงจุดที่...คูตินโย่มีส่วนร่วมกับเกมรุกน้อยกว่าไอบ์ได้ยังไงครับ? ฟอร์มส่วนตัวคูตินโย่ถือว่าดีนะ ไม่ฝืนเล่นและพยายามจ่ายให้ตัวที่วิ่งทำทางอยู่ตลอด ทำประตูได้ด้วย แต่สำหรับการสร้างโอกาสแบบจ่ายแล้วใส่สกอร์ได้เลย หรือการแตะบอลหนีเพื่อดึงตัวประกบหรือเอาชนะแนวรับยังไม่ค่อยเห็น

ไอบ์ - ครึ่งแรกเล่นอย่างเทพ ใครจับก็ไม่อยู่ พลิกบอลเลี้ยงหนีหาที่ว่างได้ตลอด แม้จะเล่นหลายจังหวะไปหน่อย แต่คุณภาพบอลที่ออกจากเท้าแต่ละลูกนี่ต้องร้องถามว่านี่ไอบ์ตัวจริงหรือใครเข้าสิงเธอว์ แต่พอครึ่งหลังโดนตามติดเท่านั้นแหล่ะ...ไอบ์คนเดิม เพิ่มเติมไม้โทกลับมาเต็มจอเบยย~ ต้องพัฒนาแคลเซียมกันต่อไปฮะ...แต่ยืนยันว่าอนาคตของไอบ์ภายใต้การนำของคล็อปนี่มันจ้าซะเหลือเกิน

ลัลลาน่า - ครึ่งแรกแม้จังหวะที่ได้บอลจะทำได้ดีเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีส่วนร่วมกับเกมน้อยไปหน่อย ยิ่งถ้าดูจากตำแหน่งที่เล่นยิ่งสะเทือนใจว่าทำไมน้อยขนาดนั้น ถึงอย่างนั้นก็มีส่วนกับประตูแรกนะ แถมพอครึ่งหลังกลับลงมานี่กลายเป็นคนละคนเลย วิ่งหาที่รับบอลส่งต่อในแดนหน้าและพื้นที่สุดท้ายได้ดีต่อเนื่อง ก่อนที่ช่วง 10 -15 นาทีท้ายจะเริ่มหมดแรงลงไป

เบนเทเก้ - เทพครึี่งก้าว … คืออีกครึ่งก้าวก็จะเทพแล้ว จะแฮททริคเอาได้ง่ายๆ เลย แต่กลับขยับช้าไปครึ่งก้าวตลอด จังหวะยิงหาได้เยอะแล้วแต่พอจะยิงโดนแซะโดนบีบตลอดทั้งๆ ที่ขยับถึงบอลเร็วกว่านั้นใส่สกอร์แน่นอน รวมไปถึงลูกโหม่ง 5 หลาข้ามคานนาที 62 นั่นก็ด้วย ถอยได้อีกแค่ครึ่งก้าวก็กดได้เต็มหัวหายไปแล้ว

ตัวสำรอง

ลอฟเรน - โดนกดดันน้อยกว่าสเคอเทลแต่เล่นออกมาได้พอกัน คือเล่นไม่พลาดนะ ไม่โดนเผา(ทีเดียวไม่นับแล้วกัน) แต่เตะทิ้งเรี่ยราดไปหน่อย และพิเศษกว่าสเคอเทลตรงที่ตัวตั้งขนาดนี้แต่เบียดไหล่ต่อไหล่ไม่ได้เปรียบกองหน้าซะงั้น

เฟอมิโน่ - ลงมาในสนามแล้วช่วยทำเกมแถวหน้าเขตโทษได้ดีมาก...อยู่ราว 5 นาที ...ก่อนจะจางหายไปราวกับหมอกควัน ...ประหนึ่งการส่งลงสนามเป็นเพียงความฝัน

โอริกิ - ลงมาพิสูจน์ตัวเองว่าทำไมเขาถึงเหมาะกับการเป็นกำลังหลักในม้านั่งสำรอง

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...นาธาเนียล ไคลน์ .. ถ้าเล่นกันแค่ครึ่งแรก ไอบ์จะได้ MOM ประมาณสามครั้งจากเกมนัดเดียวครับ แต่พอดูตลอดเกมแล้ว ไคลน์เป็นคนที่ผลงานคงเส้นคงวาสุด เล่นฉลาด ความฟิตมีพอ ไม่รู้ว่าอะไรเด่นกว่ากันระหว่างช่วยรับมือพวกตัวเลี้ยงจี้จังหวะโต้กลับ หรือการวิ่งเติมขึ้นไปรับบอลแล้วเปิดต่อได้ดีทั้งเกม
------------------------------------------------------------
เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น