วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2558

อาร์เซนอล 4-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)


...อวสานหงส์แดง...
___________________________

ลิเวอร์พูลเล่น 3-4-2-1

------------------------สเตอลิ่ง------------------------
--------------คูตินโย่-------------มาโควิช-------------
โมเรโน่-------อัลเลน-------ลูคัส--------เฮนเดอร์สัน
--------ซาโก้-------------ตูเร่-------------ชาน---------
-------------------------มินโยเล่------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเจอเกมหนักต่ออีกหนึ่งนัด คราวนี้ต้องไปเยือนอาร์เซนอลที่เอมิเรตสเตเดี้ยม จากผลพวงนัดแดงเดือดทำให้มีการปรับทีมหลายตำแหน่ง ทั้งตูเร่และลูคัสที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง สเตอลิ่ง มาโควิช เฮนเดอร์สันก็โดนปรับตำแหน่งการเล่นอีกด้วย
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาเป็นอาร์เซนอลที่ทำได้ดีกว่าชัดเจน ดันขึ้นมาคุมพื้นที่กันในแดนลิเวอร์พูล เข้าไล่บอลเร็วและตัดบอลจังหวะสองได้หมดจด ลิเวอร์พูลเก็บบอลเล่นไม่ได้ ตั้งเกมไม่ได้ แถมจังหวะผ่านบอลขึ้นหน้ายังโดนแซะโดนตัดอยู่ตลอด อาร์เซนอลแซะบอลเอามาลุ้นยิงประตูได้ 2-3 ครั้งยังดีว่ามินโยเล่ช่วยเซฟไว้ได้หมด

________ ลิเวอร์พูลแบนแต๊ดแต๋คาเขตโทษตัวเองอยู่เกือบ 20 นาทีถึงจะเริ่มลืมตาอ้าปากได้ ผู้เล่นที่พึ่งกลับมาเป็นตัวจริงอย่างตูเร่กับลูคัสเริ่มจับจังหวะเกม จับจังหวะบอลได้ดีขึ้น รวมไปถึงคูตินโย่ที่ถอยลงมาช่วยรับบอลก็เริ่มหาพื้นที่เล่นได้บ้างแล้ว การออกบอลเร็วฉาบฉวยของทีมเริ่ม
สร้างโอกาสได้ ทั้งจากลูกหลุดเดี่ยวของมาโควิชที่ได้บอลในเขตโทษแล้วตัดสินใจไม่ยิงเอง แตะต่อให้สเตอลิ่งแต่ดันเข้าไม่ถึงบอล และจังหวะสเตอลิ่งตักบอลข้ามฝั่งให้เฮนเดอร์สันที่วิ่งตามเข้ามาแต่จังหวะไม่พอดีกัน ช่วงประมาณนาที 18-35 นี้เป็นช่วงที่ลิเวอร์พูลเล่นได้ดีที่สุดของเกม

_______ อย่างไรก็ตาม ปัญหาในแนวรับของลิเวอร์พูลยังไม่ได้หายไปไหน สุดท้ายก็เป็นฝ่ายพลาดก่อนในนาที 37 เบเยรินเติมขึ้นมารับบอลแถวมุมเขตโทษฝั่งขวาก่อนลากตัดเข้ากลาง กระชากหนีโมเรโน่ที่บังทางอยู่และเซ็นเตอร์เข้ามาซ้อนไม่ทัน เบเยรินได้ยิงปั่นไปเสียบเสาสอง อาร์เซนอลขึ้นนำ 1-0

_______ หลังจากเสียประตูแรก ลิเวอร์พูลยังพยายามจะเร่งรุกต่อ แต่กลายเป็นอาร์เซนอลที่ตัดบอลกลางสนามและทำเกมเร็วบุกขึ้นมาได้น่ากลัวกว่า แค่นาที 39 ก็มาหนีห่างได้จากจังหวะที่ซาโก้อัดชิรูด์ร่วงได้ฟรีคิก โอซิลรับหน้าที่ยิงปั่นไปเสาสอง(อีกแล้ว) เข้าไปได้อย่างสวยงาม 2-0

_______ พอได้สองประตูติดๆ กัน รูปเกมในช่วง 15 นาทีแรกของเกมก็กลับมา อาร์เซนอลต่อบอลได้ไหลลื่นและตัดเกมกลางสนามได้ดีอีกครั้ง ลิเวอร์พูลนอกจากจะรุกขึ้นไปไม่ขึ้นแล้วยังต้องมาพะวงเกมรับอีก เท่านั้นยังไม่พอ นาที 45 จากจังหวะที่อาร์เซนอลทำเกมเร็วขึ้นมา ซานเชสได้บอลทางมุมเขตโทษฝั่งซ้าย ตูเร่เข้าพรวดโดนแตะหลบก่อนที่ซานเชสจะหวดเต็มข้อผ่านมือมินโยเล่เข้าไปได้อีกเป็น 3-0  และจบครึ่งแรกที่สกอร์ดังกล่าว

_______ เข้าครึ่งหลัง ร็อดเจอร์ปรับทีมทันที เปลี่ยนสเตอริดจ์ลงมาแทนมาโควิช ปรับมาเล่น 4-3-3 ให้ชานยืนแบ็คขวา สเตอลิ่งไปทำเกมด้านซ้าย ส่วนอาร์เซนอลกลับลงมาเล่นแบบชิลๆ ผ่อนเกมไปพอสมควร เล่นไปตามจังหวะ ไม่ได้อุดอะไรมากนัก มีช่องให้โต้ก็โต้ ลิเวอร์พูลเอาบอลขึ้นหน้าได้เร็วขึ้น บอลไปถึงมุมธงบ่อยขึ้น แต่จังหวะเปิดเข้าไปยังหาดีไม่ได้

_______ อาร์เซนอลเปิดพื้นที่แดนกลางให้ลิเวอร์พูลเล่นง่ายพอสมควร สเตอริดจ์เก็บบอลใช้ได้และเกมรุกทางซ้ายของสเตอลิ่งทำได้วูบวาบ แต่เจาะพื้นที่สุดท้ายไม่ได้เลย หนักไปทางเปิดวัดดวง ยิงวัดใจ ซึ่งไปไหนไม่รู้หมด

_______ ผ่านหนึ่งชั่วโมงของเกมไป ลิเวอร์พูลยังพยายามเร่งเกมรุกต่อและเปิดพื้นที่ในแดนตัวเองไว้เยอะขึ้นๆ อาร์เซนอลเองก็โต้ได้ตามจังหวะทำให้เกมเปิดแลกกันเต็มที่ ลิเวอร์พูลมาไล่ตีตื้นได้สำเร็จในนาที 75 จากจังหวะที่เบเยรินไปเสียบสเตอลิ่งล้มในเขตโทษ เฮนเดอร์สันรับหน้าที่ิยิงจุดโทษไม่พลาด 3-1

_______ พอไล่ขึ้นมาได้ลูกนึง ลิเวอร์พูลขยับเร่งเกมรุกขึ้นมาได้ดีขึ้นเล็กน้อย บอลมาข้างหน้าเร็วขึ้น เก็บบอลสองดีขึ้น และอย่างน้อยที่สุดยังได้จบด้วยการเปิดบอลเข้าไปลุ้นถี่ขึ้น แต่ผลลัพธ์ยังเหมือนเดิมคือเจาะพื้นที่สุดท้ายไม่ได้ ลิเวอร์พูลไม่สามารถเข้าไปเล่นบอลในกรอบเขตโทษอาร์เซนอลได้เลย

_______ นาที 84 ความหวังทั้งมวลก็ดับสลาย เวลเบคเก็บบอลได้แล้วชานพยายามจะเข้าไปเร่ง แต่ดันพลาดลื่นกลายเป็นไปเข้าปะทะเวลเบคจากทางด้านหลัง โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงออกจากสนามไป

_______ เวลาที่เหลืออยู่ก็ไม่มีอะไรให้ต้องพื้นถึงอีกแล้ว นอกจากจังหวะปิดกล่องในนาที 91 ชิรูด์ได้บอลหน้าเขตโทษแตะหลบตูเร่(เจ้าเก่า)ที่เข้าพรวดก่อนยิงไกลเต็มข้อหนีมือมินโยเล่เข้าไปได้อีกเป็น 4-1 จบเกมด้วยสกอร์ท่วมท้น
-----------------------------------------

_______ ครึ่งแรกเล่นดีอยู่ 15 นาที แต่โดยรวมเป็นรองเยอะ ครึ่งหลังสกอร์ขาดก็เร่งไม่ขึ้นแล้ว

_______ 11 ตัวจริงวันนี้ร็อดเจอร์ปรับทีมเยอะมาก ถ้าดูจากอาการบาดเจ็บและโทษแบนของสเตอริดจ์กับสเคอเทลก็ต้องถือว่าร็อดเจอร์เจอโจทย์ยาก การใส่ลูคัสลงมาช่วยเกมแดนกลางผมก็ยังคิดว่าโอเค แต่ที่ไม่เห็นด้วยมากๆ เลยคือตำแหน่งของเฮนเดอร์สันครับ

_______ ทำไมร็อดเจอร์เอาเฮนเดอร์สันไปเล่นวิงขวา?

_______ จาก 11 ตัวจริงที่ออกมา โอเคล่ะว่าจะเน้นเกมรับ เอาลูคัสลงมาช่วย แต่พอขยับเฮนเดอร์สันออกมาด้านข้างกลายเป็นว่าเกมแดนกลางก็ไม่ได้มีเกมรับที่ดีขึ้น ทั้งยังทำให้การตั้งเกมขึ้นหน้าทำไม่ได้อีกต่างหาก

_______ จริงๆ แล้วร็อดเจอร์มีทางเลือกเยอะเลยทีเดียวที่จะให้เฮนเดอร์สันได้เล่นตรงกลางตามเดิมโดยที่ยังมีลูคัสกับอัลเลนอยู่ในสนามด้วย แต่ร็อดเจอร์ดันมาเลือกทางนี้ซะงั้น

_______ ส่วนเรื่องการเลือกตูเร่ก่อนลอฟเรน ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ คือเท่าที่เห็นเล่นมาลอฟเรนช่วงหลังดีขึ้นก็จริง แต่ถ้าจะบอกว่าควรลงก่อนตูเร่แน่ๆ ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ฟอร์มต้นฤดูกาลยังหลอนไม่หายเลยครับ อันนี้ไม่รู้สึกว่าร็อดเจอร์เลือกผิด

_______ นอกจาก 11 ตัวจริงและตำแหน่งการเล่น ผมไม่เห็นด้วยกับร็อดเจอร์ในเรื่องแทคติคเริ่มเกมที่ถอยกองกลางลงไปต่ำขนาดนั้น ลูคัสกับอัลเลนนี่ยืนชิดติดเซ็นเตอร์มากและมันไม่ช่วยให้เกมรับของทีมดีขึ้นเลย กองกลางคู่ต่อสู้เล่นง่าย ที่สำคัญคือเก็บบอลจังหวะสองได้ง่ายมาก ต่อให้ไม่มีความผิดพลาดของแนวรับให้เห็นเลย ทีมก็ต้องโดนอาร์เซนอลกดดันหนักไปยันจบเกมอยู่ดี

_______ ...ก็ไม่รู้ว่าจะให้ถอยทำไม

_______ ผมยังชอบการแก้เกมพักครึ่งที่เสี่ยงส่งสเตอริดจ์ลงมา และเอาสเตอลิ่งไปเล่นทางริมเส้น ซึ่งทำให้เกมทำเกมรุกพึ่งพาคูตินโย่น้อยลง แต่ก็นั่นแหล่ะ เกมขาดไปแล้วก็เลยไม่ได้ลุ้นอะไรมากนัก

_______ จุดสลบของทีมวันนี้อยู่ที่...ตูเร่ครับ มันไม่ใช่ว่าตูเร่พลาดคนเดียว แต่บังเอิ๊ญบังเอิญตูเร่ดันเป็นยอดบนสุดของภูเขาน้ำแข็งพอดี ทั้งเกมเขามีปัญหากับการประกบคู่ต่อสู้ ช้า พรวดพราด จ่ายบอลพาเพื่อนเครียดก็อีกหลายครั้ง เพื่อนร่วมทีมเองก็หางานให้เขาไม่ใช่ว่าจะน้อยแต่แทนที่ตูเร่จะช่วยให้มันเบาบางลง แกทำให้มันหนักขึ้นซะอย่างนั้น

_______ จบเกมนี้สเคอเทลดูหล่อขึ้นอีกหลายขีดเบยยย~

-------------------------------

นัดนี้เล่นกันได้ไม่ดีนัก

มินโยเล่ - ต้นเกมเซฟช่วยทีมเอาไว้ได้ แต่โดนส่องเอาๆ สุดท้ายก็ไม่ไหว โดนไป 4 ทั้งๆ ที่ฟอร์มส่วนตัวถือว่าดีเลย นอกจากลูกเซฟแล้วการเล่นบอลกับพื้นถือว่าเอาตัวรอดได้ดี

ซาโก้ - ช่วงครึ่งแรกมีปัญหาหนัก เอาบอลขึ้นหน้าไม่ดี จ่ายบอลกดดันเพื่อน ประกบก็ไม่เหนียวแน่น ครึ่งหลังพออาร์เซนอลไม่บุกมากนักก็เอาตัวรอดได้

ตูเร่ - เอ่อ...ตามนั้น

ชาน - รับมือซานเชสได้ค่อนข้างดี จังหวะพาบอลขึ้นหน้าเองทำได้ดีพอควร ขึ้นมาได้หลายครั้ง จังหวะเก็บบอลเล่นวันนี้ก็ทำได้ดีกว่าทั้งซาโก้และตูเร่ เกมรับไม่ได้ถึงขั้นสุดยอดแต่วันนี้เล่นดีกว่าตูเร่ ดวงซวยกับการโดนสองใบเหลือง

โมเรโน่ - ช่วงครึ่งแรกมีปัญหากับการช่วยเกมรับ คือวิ่งไล่ก็จริงอยู่แต่โดนสลัดหลุดง่ายไปและบังทางใครไม่ได้ค่อยได้ (นี่ไม่ได้พูดถึงแค่จังหวะของเบเยริน) แต่ครึ่งหลังที่ทีมดันขึ้นสูงทำผลงานได้ดีขึ้นมาก อ่านเกมดีละใช้ความเร็วช่วยตัดบอลก่อนถึงตัวทำทางได้หลายครั้ง

อัลเลน - ช่วงกลางๆ ครึ่งแรก พลิกบอลขึ้นหน้าได้ดีอยู่ ครึ่งหลังที่อาร์เซนอลผ่อนเกม อัลเลนก็เชื่อมเกมและรองบอลได้ดี แต่ช่วงต้นครึ่งแรกและท้ายครึ่งแรกที่อาร์เซนอลกดดันได้ดีและทำได้สามประตูนั้น อัลเลนช่วยอะไรทีมไม่ได้เลย เข้าไม่ถึงบอล เก็บบอลไม่อยู่

ลูคัส - ช้าไปมาก วิ่งไล่ได้น้อย จนไม่แน่ใจว่าอ่านเกมไม่ดีหรือสังขารมันไม่เอื้อ เป็นวันที่ช่วยทีมได้น้อยเหลือเกิน

เฮนเดอร์สัน - ฟอร์มส่วนตัวพอใช้ได้ ทำเกมริมเส้นด้วยการวิ่งทำทางและทำชิ่งได้พอประมาณ เปิดบอลไปที่ว่างด้านข้างได้ดี แต่เปิดบอลเข้าทำเอาชนะแนวรับไม่ได้เลย ครึ่งแรกช่วยเกมรับริมเส้นได้ดีกว่าโมเรโน่

คูตินโย่ - ฟอร์มส่วนตัวถือว่าดี ครึ่งแรกทีมเกือบได้ประตูก็มาจากการเปิดบอลเข้าทำของคูตินโย่ เก็บบอลดี หาพื้นที่และหาช่องจ่ายบอลได้น่ากลัว แต่ได้บอลค่อนข้างน้อย ยิ่งครึ่งหลังยิ่งได้น้อยเข้าไปอีกเพราะบอลไปขึ้นทางสเตอลิ่งหมด

มาโควิช - วิ่งทำทางได้ดี มีความเร็ว แต่เกมรับช่วยได้น้อยมากกกกก และจังหวะเปลี่ยนรับเป็นรุกเก็บบอลไม่อยู่

สเตอลิ่ง - ตอนเล่นหน้าเป้าผลงานไม่ดีนัก เรียกฟาล์วได้นิดหน่อยนอกนั้นก็แทบไม่ได้ทำอะไร หลายครั้งเก็บบอลไว้กับตัวนานไปด้วย แต่ครึ่งหลังที่ขยับไปเล่นริมเส้น กดดันคู่ต่อสู้ได้ดี ไปถึงสุดเส้น ได้เปิดบอลเข้าไปลุ้นก็บ่อยอยู่ เรียกจุดโทษได้ด้วย

ตัวสำรอง

สเตอริดจ์ - เก็บบอลได้ดีกว่าสเตอลิ่ง แต่วันนี้การวิ่งทำทางก็ไม่ดีนัก หาพื้นที่ในเขตโทษไม่ได้เลย สภาพไม่สมบูรณ์อย่างแรง
------------------------------------------------------------

เครดิตภาพจากเวปทางการ

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น