วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ลิเวอร์พูล 2-1 เวสต์บรอมวิช (พรีเมียร์ลีค)



...กลับมาลุ้นแชมป์เต็มตัวแล้วครับ...
__________________

ลิเวอร์พูลเล่น 4-2-3-1

--------------------แลมเบิร์ต----------------------
ลัลลาน่า---------เฮนเดอร์สัน-----------สเตอลิ่ง
----------คูตินโย่-------เจอราร์ด------------
โมเรโน่-----ลอฟเรน-----สเคอเทล----มานกีโย่
---------------------มินโยเล่-----------------------

_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับ WBA นัดนี้ร็อดเจอร์พักบาโลเตลี่กับมาโควิช เลือกใช้แลมเบิร์ตเป็นตัวจริง ที่น่าสนใจอยู่ทีแดนกลางที่วันนี้คูตินโย่กับเฮนเดอร์สันสลับตำแหน่งกันเล่น โดยเฮนเดอร์สันได้ยืนสูงทำเกมรุกเต็มตัว
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมาทั้งสองฝ่ายก็เล่นกันได้อย่างสูสี ผลัดกันพลาดและครองเกมกันไม่ต่อเนื่องทั้งคู่ ลิเวอร์พูลดูดีกว่าเล็กน้อยเมื่อาสามารถพาบอลมาถึงเขตโทษได้บ่อยกว่าและได้ลุ้นเปิดมากกว่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้กดดันหรือคุมเกมได้แต่อย่างใด

_______ ผ่าน 15 นาทีแรกของเกมไป ลิเวอร์พูลเริ่มบุกได้น้อยลง กลายเป็น WBA เริ่มครองบอลได้ต่อเนื่องขึ้น โดยเฉพาะการเก็บบอลเล่นและเลี้ยงจี้ของซัสซิยงและเบราฮิโน่ที่แนวรับลิเวอร์พูลหยุดพวกเขาในจังหวะแรกไม่ค่อยได้ ทำให้ WBA ได้ลุ้นเปิดบอลเข้าทำมากขึ้นกว่า 15 นาทีแรก แต่ก็ไม่ได้กดดันได้มากกว่า และเกมของลิเวอร์พูลก็ไม่ได้ถึงกับช็อต บุกได้น้อยลงแต่ยังบุกได้อยู่ ได้ลุ้นถึงยิงบ้างด้วย

______ ตลอดเวลาที่เหลืออยู่ของครึ่งแรกเกมเป็นไปในทรงนี้ แบ็คลิเวอร์พูลเติมลำบากเพราะต้องคอยพะวงกับเกมรุกริมเส้นของ WBA และตรงกลางก็เจาะไม่ค่อยได้ เกมส่วนใหญ่หวังพึ่งลัลลาน่าเป็นหลัก ส่วนทาง WBA ก็เน้นวางบอลให้ 2 คนนั้นเล่นแล้วหาจังหวะโยนเข้าไปลุ้นในกรอบเอา เกมออกมาสูสี

_______ ครึ่งแรกทำท่าจะจบแบบ 0-0 แต่ในที่สุดลัลลาน่าก็ได้รางวัลตอบแทนฟอร์มการเล่นที่เป็นผู้เป็นคนที่สุดในทีม นาที 45 เจ้าตัวได้บอลแถวหน้าเขตโทษแล้วทำชิ่งกับเฮนเดอร์สันจนหลุดเข้าไปในกรอบ ยิงผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปทางเสาสองได้สำเร็จ 1-0 และจบครึ่งแรกที่สกอร์ดังกล่าว

_______ เข้าครึ่งหลัง WBA ลงมาเน้นตั้งเกมรุกกว่าเดิมพอสมควร แผงหลังดันขึ้นและแบ็คเติมมากขึ้น ทางลิเวอร์พูลกลับมาลงวิ่งเข้าหาบอลในแดนตัวเองกันได้เร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ถึงอย่างนั้นก็หยุดเกมของ WBA ไม่ค่อยดีนัก คู่ต่อสู้ยังมีโอกาสได้ลุ้นเปิดลุ้นยิงแถวๆ รอบเขตโทษได้เป็นระยะ

_______ ไม่นานนักแนวรับของลิเวอร์พูล(และกรรมการ)ก็มาพลาด นาที 55 จากจังหวะที่ตั้งเกมขึ้นไปเองแต่มานกีโย่จ่ายบอลกลางสนามพลาดโดน WBA ตัดบอลโต้กลับทางริมเส้นนั้นเองก่อนจะจ่ายเข้าไปตรงกลางให้เบราฮิโน่วิ่งโฉบมาเอาบอล ลอฟเรนทิ้งตัวสกัดจังหวะแรกไม่โดนบอล ตำแหน่งที่สกัดอยู่นอกเขตแต่กรรมการเป่าให้จุดโทษแล้วเบราฮิโน่ก็ยิงไม่พลาดตีเสมอเป็น 1-1

_______ สกอร์กลับมาเสมอแต่ WBA ยังไม่ได้ถอยลงไปรับ ในขณะที่ลิเวอร์พูลเองก็ยังพอพาบอลไปถึงเขตโทษคู่ต่อสู้ได้เช่นกัน ทำให้เกมออกมาสูสีไม่ได้มีใครครองเกม แล้วก็เป็นลิเวอร์พูลที่ออกนำอีกครั้งได้เร็วในนาที 61 เจอราร์ด(คิดว่าใช่นะ) วางบอลไปทางมุมธงให้มานกีโย่ที่วิ่งเติมขึ้นมาแตะบอลให้สเตอลิ่งได้หลุดเข้าไปในเขตโทษแล้วโดนกดล้มลงไป ผู้เล่นในสนามก็ชะงักฝั่งนึงประท้วงให้เป่าอีกฝั่งก็เงยดูกรรมการแต่สเตอลิ่งไม่ชะงักด้วย รีบลุกขึ้นมาแล้วจ่ายบอลย้อนออกมาให้เฮนเดอร์สันวิ่งเข้าไปยิงเรียดไปทางเสาสอง ผ่านตัวบล็อคและผู้รักษาประตูเข้าไปได้ 2-1

_______ หลังสกอร์ขยับร็อดเจอร์ก็ปรับตัวผู้เล่น นาที 64 เอาบาโลเตลี่กับจอห์นสันลงมาแทนแลมเบิร์ตกับมานกีโย่ตามตำแหน่ง ถึงตรงนี้ทาง WBA ดันกันขึ้นมาสูงเกือบถึงครึ่งสนามแล้วและเกมเปิดสู้กันสนุก โดย WBA ก็ยังได้เปิดเข้าไปลุ้นแต่เข้าไม่ถึงบอลเป็นส่วนใหญ่ ส่วนลิเวอร์พูลก็มีจังหวะโต้หลายครั้งแต่บอลส่วนใหญ่ไม่ถึงเขตโทษ เล่นกันได้สูสีดี

_______ นาที 75 ร็อดเจอร์ปรับเกมอีกครั้ง คราวนี้ปรับแบบลองของ เอาลูคัสลงมาแทนคูตินโย่แล้วถอยเฮนเดอร์สันลงต่ำ ดันเจอราร์ดขึ้นไปเล่นสูงเต็มตัว ถึงตรงนี้เกมก็ยังเปิดแลกสู้กันได้สนุก บอลไม่ได้เร็วมากแต่ทั้งสองฝ่ายก็พาบอลไปถึงเขตโทษทั้งคู่ ทาง WBA ขึ้นไปได้ไม่บ่อยแต่เกมริมเส้นพวกเขาได้โยนต่อเนื่อง ได้เตะมุมก็พอสมควร ส่วนลิเวอร์พูลพอใช้เจอราร์ดยืนสูงก็ได้ลุ้นมากขึ้นทั้งการจบสกอร์จากหน้าเขตโทษ และการเปิดบอลตามช่องเข้าไปลุ้นในเขตโทษ ซึ่งจบที่ได้แค่ลุ้น แต่ก็ยังดีพอที่รักษาสกอร์ไว้ได้ เอาชนะได้สำเร็จ 2-1
-----------------------------------------

_______ ไอ้ที่จั่วหัวนั่นดักนะ ใครลั่นก็จะได้รู้ว่าคอมเม้นท์แบบไม่อ่าน 555+

_______ 11 ตัวจริงวันนี้ปรับไม่มาก แต่มีการปรับรายละเอียดการเล่นมากทีเดียว เห็นความพยายามในการดิ้นรนแก้ปัญหาของร็อดเจอร์ชัดเจนเลยทีเดียว...ดีใจที่แกยังพยายามแก้ปัญหาละครับ

_______ จุดใหญ่ใจความคงอยู่การเริ่มเกมด้วยการเอาคูตินโย่มาเล่นเป็นตัวเชื่อมเกม กับอีกครั้งคือการปรับเกมในนาที 75 ที่เอาเจอราร์ดขึ้นไปยืนสูงเต็มตัว สำหรับประเด็นแรก ผลลัพธ์แบบเป็นรูปธรรมไม่ชัดเจนเท่าไหร่ว่ามันดีขึ้น แต่อย่างน้อยก็ได้อย่างเสียอย่างเพราะคูตินโย่อยู่ข้างหลังช่วยเกมรับไม่ได้ ทำให้เกมรับแดนกลางแย่หนักเข้าไปอีก แต่กลับกันในด้านเกมรุก เฮนเดอร์สันเล่นบอลจังหวะเดียวในพื้นที่หน้าเขตโทษได้ดีกว่าคูตินโย่ พอเล่นกับพวกวิ่งทำทางอย่างลัลลาน่าและสเตอลิ่งมันทำให้กดดันแนวรับได้ดีกว่าตอนใช้คูตินโย่ที่ชอบจับบอลก่อนจ่ายทำเอาตัววิ่งหัวทิ่ม

_______ นัดนี้ 2 ประตูที่ได้นี่ก็มาจากการเล่นจังหวะแรกของเฮนเดอร์สันครับ ถ้าเจ้าตัวเลือกไปจับไปแต่งแบบที่คูตินโย่ทำดีไม่ดีก็ไม่ได้สักลูกล่ะ

_______ ส่วนการลองเอาเจอราร์ดไปเล่นรุกเต็มตัวในช่วง 15 นาทีท้ายก็เป็นความพยายามที่จะลองอะไรใหม่ๆ (ที่จริงต้องบอกเก่า 555+) ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเลยกับตอนที่ใช้คนอื่นในตำแหน่งนี้คือ เจอราร์ดมีไอเดียในการเล่นเกมรุกครับ เขาคิดเองได้ว่าจะออกริมเส้นตอนไหน จะแตะหาที่ว่างยิงไกลตอนไหน จะจ่ายทะลุตอนไหน ถ้าดูเทียบกับเฮนเดอร์สันจะเห็นว่ารายนั้นไม่ได้เป็นคนสร้างสรรค์ครับ หนักไปทางเล่นตามคนอื่น เจ้าตัวแค่ช่วยสนับสนุน อย่าง 2 ลูกที่ในวันนี้นี่ก็ใช่ ส่วนคูตินโย่ก็ออกแนวเล่นในแบบที่ตัวเองถนัดอย่างเดียว คนอื่นจะถนัดด้วยมั้ยไม่รู้

_______ แต่ปัญหาของการใช้เจอราร์ดเล่นแบบนี้ก็อย่างที่เห็นกันเต็มตานั่นแหล่ะครับ ...เจอราร์ดวิ่งไม่ได้ไหวแล้ว อย่างนัดนี้เขาก็เดินตั้งแต่ต้นครึ่งหลังด้วยซ้ำ และช่วง 15 นาทีท้ายคือเขาก็สปีดหาที่ว่างอะไรแทบไม่ได้แล้ว แค่รอบอลแล้วเอามาเล่นเป็นส่วนใหญ่ ถ้าจะเอาเจอราร์ดมาเล่นแบบนี้ คาดว่าต้องให้เจ้าตัวนั่งข้างสนามครับแล้วค่อยเปลี่ยนลงมาเล่นสักครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเป็นอย่างมาก ไม่งั้นไม่ไหวแน่

_______ ก็ดีที่ร็อดเจอร์ลองครับ ทุกปัญหามีทางออก อย่างวันนี้ก็ได้ทางออกใหม่ๆ ในเกมรุก 2 อย่างนี่เหมือนกัน แต่ทุกทางออกก็มีปัญหาตามมาอย่างที่ว่า ก็รอดูกันต่อไปว่าร็อดเจอร์จะเลือกยังไงต่อครับ

_______ ย้อนกลับมาที่เกมในสนาม อันที่จริงก็อย่างที่ดักไว้ล่ะครับ คือทีมเล่นออกมาสูสีกับ WBA ไม่ได้เหนือกว่าเลย แล้วนี่คือ WBA นะครับไม่ใช่เชลซีที่การทำได้สูสีหมายถึงเราโอเคแล้ว ในเกมรุกลิเวอร์พูลดีกว่านัดที่แล้วกับบาเซิลมากๆ โดยได้ฟอร์มของลัลลาน่าและการเล่นจังหวะสุดท้ายของเฮนเดอร์สันช่วยไว้ แต่ถ้าดูในเกมจะเห็นเลยว่าเกมรุกยังมีปัญหา สร้างโอกาสได้ไม่มากและการจบสกอร์ไม่ดีเลย

_______ ในเกมรับ แดนกลางนี่แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย แทบไม่ชะลอ, ไม่หยุดใดๆ ทั้งสิ้น การหยุดเกมรุกคู่ต่อสู้กลายเป็นภาระของแผงหลัง 4 คนแทบจะทุกจังหวะ แล้วแผงหลังเองก็มีปัญหาด้วย โดยเฉพาะคู่เซ็นเตอร์ที่เอาตัวรุกไม่อยู่, อ่านบอลโยนผิดพลาดหลายครั้ง จุดโทษแม้ว่าจะกรรมการจะพลาดเพราะควรจะฟรีคิกนอกเขต แต่กับโอกาสที่ WBA ได้ลุ้นในเกมนี้ ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้มได้ก็โชคดีนิดๆ แล้วเหมือนกันนะ

_______  ส่วนทาง WBA เกมนี้เองก็เล่นได้แค่เกือบดีครับ จุดที่ดีคือตัวรุกทั้งเซสสิยงกับเบราฮิโน่(คนนี้ดีกว่า)เก็บบอลเล่นดีมาก สร้างปัญหาให้แนวรับตลอด กดให้แบ็คสองฝั่งของลิเวอร์พูลไม่กล้าเติมสูงได้ดีตลอดเกม และเปิดทางให้เพื่อนได้มีโอกาสเติมขึ้นมาเปิดบอลเข้าไปลุ้นบ่อยมากๆ ถ้าตัวเข้าทำถึงบอลได้เร็วกว่านี้ลิเวอร์พูลจุกแน่ครับ

_______ แต่ที่ทำได้ไม่ดี และน่าจะเป็นเหตุผลหลักเลยที่ทำให้พวกเขาแพ้คือการไล่บอลที่ทำได้ไม่ดีเลย แดนหน้าวิ่งไม่มากและถ้าโดนพลิกหนีได้ตัวที่สองก็ไม่ตามแล้ว ในแดนกลางก็เข้าถึงบอลค่อนข้างช้า ทำให้นัดนี้เป็นนัดที่ลิเวอร์พูลตั้งเกมจากหลังขึ้นไปได้ง่ายที่สุดในรอบหลายนัด ตัวรุกสามคนข้างหน้าได้บอลต่อเนื่องเลยตั้งแต่ครึ่งแรก ไม่ใช่หายไปจากจอแบบที่ผ่านมา เลยทำให้ลิเวอร์พูลพลอยได้โอกาสเข้าทำมากขึ้นไปด้วย แล้วก็ใช้ปริมาณเข้าทดแทนคุณภาพจนได้มาสองประตู พอเอาชนะไปได้นั่นแหล่ะครับ

_______ ...นัดหน้าถ้า QPR ไม่วิ่งไล่มากนักแบบนี้ก็จะดี...
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้

มินโยเล่ - ไม่มีข้อผิดพลาดอะไร ลูกไม่ยากเซฟได้หมด ลูกไม่ยากไม่มีให้เซฟ ตัดบอลกลางอากาศพอได้ คือรับไม่ค่อยเข้ามือหรอกแต่ยังขึ้นถึงบอล

โมเรโน่ - ครึ่งแรกหลงตำแหน่งโดนเปิดตัดหลังบ่อยมาก ครึ่งหลังรักษาตำแหน่งได้ดีขึ้นแต่ก็ยังมีปัญหากับการรับมือลูกโยนพอควร และเกมนี้หาโอกาสเติมขึ้นไปช่วยเกมรุกได้น้อยมาก

ลอฟเรน - อ่านบอลโยนพลาดหลายครั้ง จังหวะประกบก็ทำได้ไม่ดีนัก ตัวรุกเก็บบอลเล่นได้ตลอดเกม

สเคอเทล - เหมือนลอฟเรน วันนี้ฟอร์มไม่ดีกว่า

มานกีโย่ - ครึ่งแรกเติมขึ้นไปเปิดบอลเข้ากลางเยอะพอควร แต่ไม่ตรงเพื่อนเลยสักลูก ครึ่งหลังเติมน้อยลง เกมรับมุมธงดูดีกว่าโมเรโน่เล็กน้อยเพราะวิ่งขึ้นลงรักษาพื้นที่ตัวเองได้ดีกว่า

เจอราร์ด  - 75 นาทีแรกไม่ได้ทำอะไรมากนักนอกจากเชื่อมเกมไปรอบๆ ซึ่งก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ที่แย่เลยคือเกมรับยังเหมือนไม่ได้เล่นอีกต่างหาก แต่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายที่หมดแรงไปแล้วก็ยังสร้างสรรค์เกมรุกกดดันคู่ต่อสู้ได้ดีพอสมควร

คูตินโย่ - เชื่อมเกมได้แย่กว่าเจอราร์ดแถมเล่นเกมรับได้แย่พอกันอีกต่างหาก ยังตามหาฝั่งต่อไป

เฮนเดอร์สัน - ไม่ค่อยเก็บบอลไว้กับตัว แต่เล่นบอลจังหวะเดียวได้ดี  มีส่วนร่วมกับเกมรุกพอสมควร โดยเฉพาะ 2 ประตูที่ได้มาเขายิง 1 จ่าย 1

ลัลลาน่า - ครึ่งแรกเล่นเป็นพระเอกอยู่คนเดียว ครึ่งหลังหายๆ ไปจากเกมรุกแต่เกมรับก็ยังช่วยได้ดีตลอด วิ่งทำทางและเลี้ยงจี้ได้ดี ยิงประตูได้ด้วย

สเตอลิ่ง - ฟอร์มครึ่งแรกห่วยแตกมาก ทำเสียบอลเกือบทุกจังหวะ ครึ่งหลังดีขึ้นมาหน่อยเหลือแค่ห่วยเฉยๆ ดีที่สุดคือจังหวะที่ทำให้ทีมได้ 2-1 ซึ่งนั่นเป็นแค่ 1 ในจำนวน 2-3 ครั้งเท่านั้นที่เจ้าตัวไม่ทำบอลเสีย

แลมเบิร์ต - เก็บบอลคืินให้เพื่อนได้ดีพอควร ที่ทำได้ดีคือการหาพื้นที่ว่างและหาจังหวะยิงในเขตโทษที่เจ้าตัวทำได้ดีมาก เพราะทั้งๆ ที่ช้าและวิ่งได้ไม่มากนักแต่ก็ยังได้ยิงในเขตโทษหลายครั้ง เพียงแต่ยิงไม่คมพอจะเป็นประตู

ตัวสำรอง

บาโลเตลี่ - การเก็บบอล, ความเร็ว, การให้บอลจังหวะเดียวดีกว่าแลมเบิร์ตประมาณ 17.65 เท่าเห็นจะได้ ฟอร์มส่วนตัวเล่นได้ดีกว่าแต่ดันเป็นศูนย์หน้ากลัวเขตโทษ ไม่ชอบวิ่งเข้าไปในนั้น หาจังหวะยิงได้น้อยกว่าแลมเบิร์ตและเกือบทั้งหมดอยู่นอกเขตโทษ เล่นตามแทคติคได้ไม่ดีเท่าแลมเบิร์ต

จอห์นสัน - มีตัววิ่งไล่ -แตะหลบ - บอลยาวไปหน่อย -โดนเข้าปั้มบอลเด้งออกข้าง - หันไปยักไหล่บ่นใส่กรรมการ...จอห์นสันที่เรารักกลับมาแล้วครับ

ลูคัส - นึกถึงคืนวันเก่าๆ สมัยเบนิเตสมากครับ

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...จอร์แดน เฮนเดอร์สัน... นัดนี้มีตัวเลือกแค่ลัลลาน่ากับเฮนเดอร์สันครับ แต่ขอเลือกเฮนเดอร์สันที่ิยิง 1 จ่าย 1 และมีส่วนร่วมกับเกมมากกว่าลัลลาน่าที่ครึ่งหลังหายไปก็แล้วกัน
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น