วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

เวสต์แฮม 3-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีค)



ค้อนทุบเพชรแตก...แหลกไม่ต้องซ่อม
__________________

ลิเวอร์พูลเริ่มด้วย 4-4-2 ไดมอนด์

-----------บาโลเตลี่------------บอรินี่------------
---------------------สเตอลิ่ง----------------------
---------เฮนเดอร์สัน-------------ลูคัส-----------
---------------------เจอราร์ด----------------------
โมเรโน่-----ลอฟเรน------สเคอเทล---มานกีโย่
---------------------มินโยเล่-----------------------

_______ ลิเวอร์พูลออกไปเยือนเวสต์แฮม นัดนี้ร็อดเจอร์เลือกใช้บอรินี่เล่นเป็นหน้าคู่กับบาโลเตลี่ เอาลูคัสกับเฮนเดอร์สันเล่นเป็นเหลี่ยมข้างของไดมอนด์
-------------------------------------------------------

_______ เริ่มเกมมานาที 2 เวสต์แฮมได้ฟรีคิกตรงเส้นข้าง เลือกเปิดโด่งลึกข้ามมาสุดเสาสองแล้วโหม่งชงกลับเข้ากลาง เป็นรีดที่ได้โหม่งจ่อๆ โล่งๆ เข้าไปได้สำเร็จ 1-0 เท่านั้นยังไม่พอ นาที 7 เวสต์แฮมบุกเข้ามาทางริมเส้น ซาโก้(ของเวสต์แฮม) ชิพข้ามหัวมินโยเล่(หรือตั้งใจเปิดแต่ผิดเหลี่ยมก็ไม่รู้)เข้าไปได้อีกให้เวสต์แฮมนำ 2-0

_______ ลิเวอร์พูลโดนเร็วสองประตูและรูปเกมตั้งแต่เริ่มเขี่ยบอลสู้ไม่ได้เลยโดยสิ้นเชิง เกมบุกไม่ต้องพูดถึง แค่ตั้งเกมยังทำไม่ได้และเกมรับโดยเฉพาะริมเส้นหลวมมาก กลายเป็นเกมของเวสต์แฮมอยู่ฝั่งเดียว วิ่งไล่ตัดบอลแดนกลางแล้วเน้นขึ้นเกมทางริมเส้น กดดันแนวรับลิเวอร์พูลได้ตลอด

_______ นาที 22 ร็อดเจอร์รีบปรับเกมทันทีโดยส่งเอาซาโก้ลงแทนมานกีโย่ เปลี่ยนมาเล่นทรง 3-5-2 ยืนกันตามนี้

-----------บาโลเตลี่------------บอรินี่------------
--------------------เฮนเดอร์สัน-------------------
โมเรโน่-----ลูคัส--------เจอราร์ด-------สเตอลิ่ง
-------ซาโก้--------ลอฟเรน-------สเคอเทล----
---------------------มินโยเล่-----------------------

_______ พอปรับเกมแล้วรูปเกมลิเวอร์พูลดูดีขึ้นเล็กน้อย เกมริมเส้นเริ่มขึ้นได้ และมาได้ประตูคืนมาเร็วในนาที 26 จากจังหวะที่เฮนเดอร์สันโยนเข้ากลางแล้วบาโลเตลลี่เอาบอลลงอย่างเทพ พลิกยิงติดแต่บอลเด้งไปเข้าทางสเตอลิ่งที่ตามเข้ามายิงซ้ำเร็วเข้าไปได้ 2-1

_______ หลังจากสกอร์ขยับ ลิเวอร์พูลเริ่มทำเกมรุกริมเส้นกดดันคู่ต่อสู้ได้ต่อเนื่อง แต่โอกาสลุ้นประตูยังมีไม่มากนัก ส่วนเกมกลางสนามยังไม่ได้เปรียบ รวมไปถึงเกมรับทำได้ไม่ดี หยุดเกมคู่ต่อสู้ไม่ค่อยได้และเวสต์แฮมได้เปิดบอลจากริมเส้นค่อนข้างบ่อย ก่อนจะจบครึ่งแรกที่สกอร์ 2-1

_______ เข้าครึ่งหลัง ลัลลาน่าได้ลงมาแทนลูคัสโดยยืนสูง เฮนเดอร์สันถอยมายืนต่ำ เกมโดยรวมลิเวอร์พูลทำได้ดีกว่าปลายครึ่งแรกเล็กน้อย เกมริมเส้นยังทำได้ต่อเนื่องและมีลัลลาน่าที่คอยวิ่งหาที่ว่างคอยเชื่อมข้างหน้าได้ดีพอควร รวมไปถึงบอรินี่ที่กลับมาลงสนามแล้ว(ครึ่งแรกแทบไม่รู้ว่าอยู่ในสนาม) เจาะเข้าพื้นที่สุดท้ายและได้โอกาสเปิดบอลเข้าทำมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถตีเสมอได้

_______ ส่วนทางเวสต์แฮมยังตั้งรับกันได้ดี แม้จะโดนเจาะเข้ามาในเขตโทษบ้างแล้วแต่บอลเข้าทำสุดท้ายยังช่วยกันสกัดได้หมด รวมไปถึงเกมโต้กลับที่เล่นใช้ได้ หลายจังหวะไปถึงเขตโทษด้วย ทำให้เกมช่วง 45-75 เป็นช่วงที่เกมเปิดแลกใส่กันสนุก

_______ เกมมาเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือในนาที 75 ร็อดเจอร์ส่งแลมเบิร์ตมาแทนบอรินี่ ส่วนอัลลาไดซ์ส่งคอลลินลงมาแทนวาเลนเซียแล้วปรับมาเล่นหลัง 5 ซึ่งทำให้ลิเวอร์พูลหาช่องเจาะไม่ได้อีกเลย อย่าว่าแต่ลุ้นประตู เอาแค่ได้เปิดบอลเข้าทำยังนับครั้งได้ แม้จะดันเจอราร์ดขึ้นมาเล่นเกมรุกมากขึ้นก็ไม่ช่วยอะไร ยิ่งเล่นเกมของลิเวอร์พูลยิ่งตัน ทั้งการเจาะตรงกลางและริมเส้น ได้แต่เคาะกันไปมาอยู่แถวกลางสนาม

_______ เกมทำท่าจะจบแบบเจ็บๆ อีกหนึ่งนัดสำหรับลิเวอร์พูล แต่คาดว่าจะเจ็บไม่พอ นาที 88 ซาโก้(ของลิเวอร์พูลนี่ล่ะ) เลยโหม่งบอลจังหวะไม่มีอะไรไปเข้าทางดาวนิ่งดื้อๆ แล้วดาวนิ่งก็เลยจ่ายทะลุช่องให้อัลมาฟิตาโน่หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษไม่พลาดเป็น 3-1 จบข่าว
-----------------------------------------

_______ นัดนี้แพ้หมดทั้งแทคติคทั้งฟอร์มผู้เล่นครับ

_______ 11 ตัวจริงนั้นแม้จะมีชื่อของบอรินี่กับลูคัส แต่ที่น่าสนใจจริงๆ อยู่ที่ร็อดเจอร์เลือกเล่นไดมอนด์ โดยมีเจอราร์ดยืนต่ำ เฮนเดอร์สันกับลูคัสประกบซ้ายขวา ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะให้ลูคัสยืนเท่าเจอราร์ดเล่นทรงแบบ 4-2-2-2 รึปล่าว (ต่างกันกับไดมอนด์เยอะนะ) แต่ก็ไม่ ไดมอนด์แท้ๆ เลยละครับแล้วผลคือ...

_______ ...เละ

_______ ลูคัสกับเฮนเดอร์สันเล่นเหลี่ยมข้างในแผนไดมอนด์ไม่ได้เลยครับ เกมรุกไม่ต้องพูดถึง เอาแค่เชื่อมเกมยังทำไม่ได้ เกมรับก็ช่วยอะไรไม่ได้เจอราร์ดรับเละคนเดียว แล้วตัวเจอราร์ดเองก็มีปัญหาทำให้เล่นไม่ได้ด้วย(อ่านย่อหน้าเวสต์แฮมประกอบ) ทำให้เกมตลอด 22 นาทีแรกที่เล่นไดมอนด์ เป็นรูปเกมที่แย่ที่สุดอีกนัดนึงในยุคของร็อดเจอร์เลย ดีว่ารีบเปลี่ยนแทคติคซะก่อน ไม่งั้นเกมนี้มีสิทธิโดนไม่ต่ำกว่าครึ่งโหล

_______  การปรับมาเล่น 3-5-2 ตั้งแต่นาที 22 เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าร็อดเจอร์ตัดสินใจได้ดีที่สุดในนัดนี้แล้วครับ คือเกมก็ไม่ได้ถึงกับพลิกมาเป็นต่อ เกมรับก็แย่เหมือนเดิม แต่บอลมันเป็นทรงขึ้น รุกได้บ้างโดยเฉพาะริมเส้น ได้มา 1 ประตูก็เพราะเกมริมเส้นนี่ล่ะ แล้วหลังจากนั้นก็พอลุ้นประตูได้บ้างเป็นระยะด้วย

_______ ที่เปลี่ยนซาโก้ลงมาส่วนหนึ่งคงเพราะต้องการรับมือลูกกลางอากาศให้มากขึ้น และการเลือกโมเรโน่แทนที่จะเป็นบอรินี่ คือเอาสเตอลิ่งไปคู่บาโลเตลลี่ข้างหน้า แล้วเอามานกีโย่เล่นวิงแบ็คตามตำแหน่ง น่าจะเป็นเพราะต้องการให้โอกาสบอรินี่ คือสถานการณ์ของบอรินี่ตอนนี้เนี่ย โอกาสอยู่ในทีมแทบไม่มีแล้ว ถ้าได้ลงตัวจริงแล้วยังจะเปลี่ยนออกทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดตั้งแต่นาที 22 เนี่ย...เอาสตั๊ดลูบหน้ายังสุภาพกว่าครับ ประเด็นการเปลี่ยนตัวเข้าออกตรงนั้นผมเลยคิดว่าร็อดเจอร์เลือกได้ดีแล้ว

_______ ที่พูดถึงไดมอนด์ๆ อยู่นี่ ผมไม่ได้คิดว่าแทคติคนี้มันแย่ ไม่ควรเล่นนะครับ แต่ผมคิดว่าการเล่นแบบนี้ โดยใช้เจอราร์ดยืนต่ำ, ใช้ลูคัสกับเฮนเดอร์สันประกบตอนนี้มันไม่เวิร์คเลย และ 3-5-2 อย่างนัดนี้ใช้แก้สถานการณ์เฉพาะหน้าได้ แต่ให้เล่นคงไม่ดีแน่ เกมรับริมเส้นลิเวอร์พูล “เน่า” มากครับใน 3-5-2 แบ็คสองข้างรุกอย่างเดียวไม่เล่นเกมรับ ตอนที่ลงมาก็เล่นเกมรับไม่ดีเพราะมัวแต่พะวงว่าจะเอาบอลขึ้นไปเล่นต่อยังไง ทำให้พื้นที่มุมธงโดนโจมตีได้ง่ายมาก ถูกโยนเข้ามากดดันบ่อยๆ  ส่วนเกมกลางสนามก็หยุดเกมคู่ต่อสู้ไม่ได้ กว่าจะตัดบอลได้คือหน้าเขตโทษตัวเองแทบทั้งนั้น

_______ ถ้าไม่มีแบ็คที่เล่นได้สมดุลย์ทั้งรุกและรับและอ่านเกมได้ดีระดับนึงว่าตอนไหนควรทำอะไร ให้ตายยังไงก็เล่น 3-5-2 ออกมาให้ดีไม่ได้ครับ ซึ่งทั้งทีมผมคิดว่ามีเอนริเก้คนเดียวที่เล่นวิงแบ็คได้ (แค่เล่นได้ด้วย ไม่ใช่เล่นดี) เพราะฉะนั้นหวังว่าร็อดเจอร์คงไม่บ้าจี้เอา 3-5-2 มาเล่นเป็นแทคติคหลักในนัดต่อไปนะ

_______ ส่วนจุดเปลี่ยนในนาที 75 ที่ทั้งสองฝั่งเปลี่ยนตัวนั้นทำให้เกมของลิเวอร์พูลดับสนิท แม้ผมจะไม่ถูกใจ(ส่วนตัวอยากให้ส่งมาโควิชแทนเฮนเดอร์สันหรือเจอราร์ดคนใดคนหนึ่ง)แต่ไม่คิดว่าร็อดเจอร์คิดผิด เพราะบอรินี่วิ่งมาชั่วโมงนึงแล้ว พอเล่นได้แต่ก็ไม่ถึงกับดี จะเอาแลมเบิร์ตลงไปลุ้นแทนพอเข้าใจได้ ที่เกมมันดับไปเลยเป็นเพราะทางเวสต์แฮมมากกว่า

_______ มองทางฝั่งเวสต์แฮม นัดนี้อัลลาไดซ์วางแผนมาดีมาก ที่สำคัญที่สุดอยู่ตรงที่การให้กองหน้าและกลางวิ่งไล่ในแดนหน้าเร็ว โดยเฉพาะเน้นไปที่เจอราร์ดที่จะมีคนวิ่งไล่ตามประกบแม้แต่จังหวะที่ไม่มีบอลอยู่ตลอดเวลา (ส่วนใหญ่เป็นดาวนิ่ง) เจอราร์ดแทบไม่มีเวลาให้เงยหน้ามองใครเลยและตั้งเกมไม่ได้ ส่วนเพื่อนคนอื่นก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ตอนเล่นไดมอนด์ไม่ต้องพูดถึง แต่แม้กระทั่งตอนเล่น 3-5-2 แผงกลางโดยเฉพาะเจอราร์ดก็ยังโดนไล่บี้จนตั้งเกมไม่ได้ ส่วนในเกมรุก เวสต์แฮมก็ไม่คิดมากคือเล่นเน้นโยนจากริมเส้นเข้ามาซึ่งก็กดดันได้ตลอดเช่นกัน

_______ ทีเด็ดอีกอย่างคืออัลลาไดซ์ปรับมาเล่นหลัง 5 ตอนนาที 75 ทำให้ปิดเกมรุกลิเวอร์พูลได้สนิท แถมยังเปลี่ยนเอาอัลมาฟิตาโน่มาแทนซง(คนนี้เปลี่ยนนาที 68) ซึ่งสุดท้ายแล้วทำประตูได้ และเกมช่วง 15 นาทีท้ายเวสต์แฮมรับค่อนข้างต่ำ ความจำเป็นในการใช้ซงไปวิ่งไล่ก็น้อยลงไปด้วย จริงที่ว่าจังหวะเกมมันเป็นใจเพราะทีมนำอยู่ แต่ก็ต้องให้เครดิตอัลลาไดซ์ด้วยครับที่ละเอียด

_______ ...เลยชนะขาดไปทั้งรูปเกมทั้งสกอร์เลย
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันแย่...ต้องโทษแทคติคด้วย

มินโยเล่ - เริ่มขาดความมั่นใจ ยังเซฟลูกยิงไกลได้หมด แต่ตำแหน่งยืนผิดพลาดหลายครั้ง มีส่วนร่วมกับทุกประตูที่เสียไป หนักสุดคือลูกสอง เบาสุดคือลูกสามซึ่งแม้จะโดนล่อเป้าและไม่น่าจะช่วยเซฟได้ แต่ก็ควรจะยืนและปิดมุมได้ดีกว่านั้น

โมเรโน่ - แทบไม่เล่นเกมรับเลย อ่านเกมไม่ดีนัก จับบอลแรกพลาดบ่อยและเรียกฟาล์วเก้อทั้งเกม แต่เกมรุกพอใช้ได้โดยเฉพาะการเปิดบอลเข้าเขตโทษ

ลอฟเรน - อ่านเกมไม่ดีเป็นฝ่ายต้องวิ่งไล่ตามบ่อยครั้ง เล่นลูกตั้งเตะไม่ดีด้วย มีดีอยู่ตรงการสกัดที่ทำได้เด็ดขาด

สเคอเทล - ทิ้งตัวสกัดช่วยทีมไว้ได้พอสมควร อ่านเกมดีกว่าลอฟเรนและซาโก้...นิดนึง

มานกีโย่ - ซวย

เจอราร์ด - เป็นเกมที่แย่ที่สุดของเจ้าตัวในรอบหลายเดือน จริงที่ว่าโดนกดดันหนัก แต่เจอราร์ดเองก็ทำอะไรไม่ได้เลยด้วย หนีการโดนวิ่งไล่ไม่ได้ ตั้งเกมไม่ได้ เกมรับก็ช่วยได้น้อยไม่ว่าจะเรื่องวิ่งไปปิดพื้่นที่หรือการวิ่งตัดบอล ช่วงท้ายเกมที่ขึ้นไปเล่นเกมรุก ก็ช่วยทีมไม่ได้

ลูคัส - ในไดมอนด์ไม่ต้องพูดถึง ใน 3-5-2 ก็ยังช่วยเจอราร์ดได้น้อยไปในเรื่องของการเชื่อมเกม ยังดีว่าช่วยปิดพื้นที่ในเกมรับได้บ้าง

เฮนเดอร์สัน - เป็นวันที่ดับสนิทในทุกแทคติคและทุกด้าน  แม้แต่จังหวะที่เปิดเข้าไป(ดูตามตำแหน่งน่าจะใช่ครับ แต่ตอนพิมพ์ยังไม่ได้ดูไฮไลท์ ถ้าผิดทักได้ครับ) ให้บาโลเตลลี่ จนนำมาซึ่งประตูจริงๆ แล้วก็เปิดแรงและย้อนหลังด้วยซ้ำ แต่บาโลเตลลี่เก่งเองที่เอาลงได้สุดยอด

สเตอลิ่ง - เป็นคนที่เล่นได้ดีที่สุดของทีมในวันนี้ เลี้ยงจี้กดดันคู่ต่อสู้ได้ดีตลอดเกม ยิงได้ด้วย ถ้าวันนี้ไม่มีสเตอลิ่งจะยิ่งสยดสยองยิ่งกว่านี้อีก ส่วนเกมรับตอนที่ลงไปเล่นวิงแบ็คก็ลืมๆ ไปดีกว่า

บอรินี่ - ครึ่งแรก...อยู่ไหน ออกจอครั้งเดียวคือจังหวะหลุดทะลุเข้าไปยิงในเขตโทษ...พลาด ครึ่งหลังหาช่องได้ดีขึ้น เรียกฟาล์วได้ค่อนข้างดี ประโยชน์ของบอรินี่ที่เห็นชัดสุดคือทำให้บาโลเตลลี่มีอิสระในการถอยมาเชื่อมเกมกับเพื่อนได้สะดวกขึ้น...แค่นั้น….เขียนเองเศร้าเองครับ บอกเลย

บาโลเตลลี่ - พอเล่นหน้าคู่แล้วผลงานดีขึ้น เก็บบอลได้บ้างแต่ทำได้ดีในจังหวะให้บอลเร็ว ไม่ว่าจะชิ่งหรือให้ตามช่อง รวมไปถึงการลงมาช่วยเกมรับที่ลงน้อยแต่ลงมาแล้วช่วยได้จริงและการเชื่อมเกมแดนกลางได้พอสมควร

ตัวสำรอง

ซาโก้  - พึ่งบ่นไปนัดที่แล้วว่าโหม่งไปไหนไม่รู้...นัดนี้(นาที 88) รู้เลยครัช~ และทั้งเกมเล่นกดดันทีมตัวเองตลอด จ่ายบอลยัดใส่ตัวเพื่อนระยะประชิดในเขตโทษบ้าง เก็บบอลไว้นานเกินจนเสียจังหวะตั้งเกมบ้าง บังบอลไม่อยู่จนต้องเตะทิ้ง+โดนแย่งไปบ้าง

ลัลลาน่า - ช่วงนาที 45-75 เคลื่อนที่ได้ดี แม้จะทำเกมทะลุทะลวงไม่ได้แต่วิ่งส่ายหาที่ว่างช่วยทำชิ่งได้ดีหลายครั้ง มีส่วนทำให้เพื่อนได้เปิดบอลเข้าทำได้เป็นระยะ แต่ 15 นาทีสุดท้ายก็จมหายไปในแผงหลัง 5 คนของคู่ต่อสู้

แลมเบิร์ต - จมหายไปในแผงหลัง 5 คน

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...แซม อัลลาไดซ์... ลิเวอร์พูลแพ้เพราะเค้าครับ
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น