วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

ลิเวอร์พูล 2-1 ลูโดโกเรต (UCL)


นัดแรกก็ดราม่าซะแล้ว
__________________

ลิเวอร์พูลเล่นทรง 4-2-3-1 (หรือ 4-1-4-1, เฮนเดอร์สันยืนสูงเท่าๆ คูตินโย่)

---------------------บาโลเตลี่---------------------
สเตอลิ่ง------------คูตินโย่-------------ลัลลาน่า
---------เจอราร์ด-------------เฮนเดอร์สัน-------
โมเรโน่------ซาโก้------ลอฟเรน-------มานกีโย่
---------------------มินโยเล่-----------------------

_______ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับมือลูโดโกเรตจากบัลแกเรียในเกม UCL (โอย...พิมพ์แล้วน้ำตาจะไหล) นัดนี้ร็อดเจอร์ปรับทีมแค่ตำแหน่งเดียวคือสเตอลิ่งได้กลับมาเป็นตัวจริงและได้เล่นทางฝั่งซ้าย ย้ายลัลลาน่ากลับไปทางขวา นอกนั้นยังใช้ชุดเดิมจากนัดก่อน
-------------------------------------------------------

_______ ลิเวอร์พูลเริ่มต้นเกมได้อย่างบ้าคลั่งด้วยการวิ่งไล่บีบเร็ว เร่งเกมเร็วเต็มที่ตั้งแต่ต้น เปิดบอลขึ้นหน้าอยู่ตลอด แบ็คลอยสูงทั้งสองข้าง ส่วนทางทีมเยือนเองก็พยายามบุกสู้ทำให้เกมออกมาเร็วและเสียฟาล์วกันค่อนข้างบ่อยทั้งคู่ โดยเป็นลิเวอร์พูลที่ดูดีกว่าพอสมควรเพราะได้โอกาสเปิดบอลเข้าไปลุ้นในเขตโทษบ้างแต่ยังทำประตูไม่ได้

_______ ผ่าน 20 นาทีแรกของเกมไปเกมของลิเวอร์พูลถึงเริ่มแผ่วลง เกมริมเส้นไปไม่ถึงมุมธงและบอลเจาะตรงกลางก็เริ่มไปไม่ค่อยถึงเขตโทษ ครองบอลและบุกได้ไม่ค่อยต่อเนื่องนัก กลายเป็นลูโดโกเรตที่เริ่มครองบอลได้บ้าง โดยอาศัยการขึ้นเกมริมเส้นในพื้นที่ที่แบ็คของลิเวอร์พูลลอยขึ้นไปสูงเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้กดดันอะไรแนวรับมากนัก

_______ เกมโดยรวมเล่นกันช้าลง ลิเวอร์พูลมาเร่งและกดดันได้ดีอีกครั้งในช่วงท้ายๆ ครึ่งแรกแต่ก็ยังทำประตูไม่ได้ สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0

_______ เข้าครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลลงมาเร่งเกมได้ดีอีกครั้ง เน้นการเลี้ยงจี้เข้าหาคู่ต่อสู้มากขึ้น ยิงไกลและเปิดบอลเข้าทำให้เร็วขึ้น แผงหลังจากที่ยืนกันสูงอยู่แล้วยิ่งสูงขึ้นไปอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งแบ็คสองข้างแทบจะขึ้นไปยืนกอดมุมธงอยู่แล้ว โดยรวมทำให้ทีมกดดันแนวรับได้ดีขึ้น มีโอกาสยิงเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นแต่ยังทำประตูไม่ได้ ส่วนลูโดโกเรตเน้นคุมพื้นที่และโต้กลับไปทางริมเส้นเป็นระยะแต่ไม่ได้กดดันมากนัก

_______ หลังจากโหมบุกอยู่นาน พยายามทั้งยิงไกลและใช้แบ็คสองฝั่งเปิดบอลเข้าไปในเขตโทษอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่ได้ประตู ร็อดเจอร์ก็ตัดสินใจปรับทีม นาที 67 ส่งบอรินี่กับลูคัสลงมาแทนลัลลาน่ากับคูตินโย่ เปลี่ยนไปเล่นหน้าคู่ไดมอนด์ โดยสเตอลิ่งยืนหลังคู่หน้า ลูคัสกับเฮนเดอร์สันประกบซ้ายขวา

_______ ลิเวอร์พูลเน้นเจาะตรงกลางอย่างเต็มที่ เกมริมเส้นเล่นแค่จ่ายออกไปให้แบ็คโยนกลับเข้ามาเท่านั้น โดยรวมทำให้เกมดูดีขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะการวิ่งทำทางและเรียกฟาล์วของบอรินี่ที่สร้างโอกาสให้ทีมได้เป็นระยะ แต่กว่าจะมาได้ประตูขึ้นนำต้องรอถึงนาที 82 จากจังหวะที่โมเรโน่เปิดบอลเข้ากลาง กองหลังสกัดไม่ขาดบอลเข้าทางบาโลเตลลี่ได้พลิกยิงเข้าไปสำเร็จ 1-0

_______ พอขึ้นนำได้ ลิเวอร์พูลก็เล่นปิดเกมทันที เคาะบอลกันอยู่แดนหลังและดึงเกมให้ช้าลง ส่วนทางลูโดโกเรตเปลี่ยนกองหน้าลงมาสู้ เกมทำท่าว่าจะจบแล้วแต่ในช่วงทดเจ็บนาทีแรก ลิเวอร์พูลที่เติมกันขึ้นไปเล่นเกมรุกเพลิน โดยตัดบอลไปได้แล้วลูโดโกเรตโต้เร็วขึ้นมารวดเดียวถึงหน้าเขตโทษแบบไม่มีใครชะลอเกม, มินโยเล่ออกไปช้าจังหวะไม่ดีและลอฟเรนที่พยายามกวาดสกัดบอลก็ทำไม่สำเร็จ กลายเป็นอบาโล่กองหน้าของลูโดโกเรตแตะบอลหลบทุกสิ่งอย่างไปได้แล้วยิงตีเสมอได้สำเร็จ 1-1

_______ หลังจากถูกตีเสมอและเวลาแทบไม่เหลือแล้ว แต่แค่นาทีถัดมา ทีมกลับมาได้แบบเหลือเชื่อเมื่อกองหลังลูโดโกรเตพลาด เตะคืนผู้รักษาประตูในจังหวะที่เฮนเดอร์สันวิ่งชาร์จตามเข้าไป ผู้รักษาประตูไม่เตะบอลทิ้งพยายามแตะหนี แต่บอลไปเข้าทางเฮนเดอร์สันฉกไปได้กลายเป็นผู้รักษาประตูเสียบสกัดผิดจังหวะเสียจุดโทษ….

_______ ...เจอราร์ดยิงไม่พลาด 2-1 และจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว ชนิดทีช็อคแฟนบอลทั้งสองฝั่งไปพอๆ กัน
-----------------------------------------

_______ นัดนี้ฟอร์มไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ความมุ่งมั่นเต็มร้อย

_______ 11 ตัวจริงแทบไม่เปลี่ยนจากนัดก่อน แต่นัดนี้ลิเวอร์พูลเล่นก้าวร้าวดุดันขึ้นเยอะ วิ่งไล่บอลมากขึ้น เล่นเกมรุกเร็วขึ้น คิดน้อยลง(นี่ชมนะ) ซึ่งทำได้เกือบตลอด 90 นาทีเลยด้วย ก็เร่งจนพลาดไปเยอะเหมือนกันแต่ก็ดีกว่าเคาะกันไปมาแดนหลังแล้วไม่ได้ลุ้นอะไรเลยนี่นะ

_______ ปัญหาหนักสุดของเกมนี้ยังอยู่ที่เรื่องทีมเวิร์คที่ยังต้องจูนกันต่อไป บอลไปทางคนไปทางยังมีให้เห็นเต็มไปหมด ซึ่งพอเร่งเกมรุกเร็วๆ แบบนี้ต้องอาศัยความเข้าใจกันเยอะกว่าปกติยิ่งพลาดไปกันใหญ่ อันนี้คงทำอะไรไม่ได้นอกจากรอเวลาแล้วหวังว่าจะไม่นานนัก

_______ ปัญหาถัดมาผมคิดว่าอยู่ที่แผงหลัง การประสานงานไม่ดีนั้นเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่โดยรวมแล้วผมคิดว่าแผงหลัง 4 คนชุดนี้อ่านเกมไม่ค่อยดีนัก แบ็คสองข้างค่อนข้างอ่อนประสบการณ์ แม้จะเป็นสถานการณ์ที่ถูกสั่งให้เติมสูง แต่หลายครั้งพวกเขาควรจะตามลงมาให้มากกว่านั้น ส่วนคู่เซ็นเตอร์ไม่ใช่ดาวรุ่งแล้วแต่ก็ยังอ่านเกมพลาด ยืนตำแหน่งผิดให้เห็นเป็นระยะ แผงหลัง 4 คนนี้มีดีตรงความฟิตความเร็วและการเข้าสกัดที่ยอดเยี่ยม แต่ถ้าพวกเขาจะหวังใช้เรื่องนี้มาทดแทนการอ่านเกมผิดพลาด(บ่อยๆ)อยู่ตลอดก็ไม่ไหวนะครับ ดูแล้วสเคอเทลกับเอนริเก้ยังน่าจะมีโอกาสลงสนามอยู่พอสมควรเลย

_______ ทางด้านแทคติค 4-3-3 กับบาโลเตลลี่หน้าเดี่ยววันนี้ไม่เวิร์คเลยครับ ก็ไม่เวิร์คมาตั้งแต่นัดแรกของเจ้าตัวนั่นแหล่ะ เสียบอลแดนหน้าเร็วมากและเจาะคู่ต่อสู้ไม่ค่อยเข้า ในขณะที่ 4-4-2 ไดมอนด์นัดนี้ อาจทำให้กดดันพื้นที่สุดท้ายได้ดีขึ้นมาก แต่ทำให้เกมรับเข้าขั้นบรรลัยจักร ก็เล่นดันแบ็คขึ้นสูงแล้วปล่อยให้คนอายุเฉียด 35 ต้องวิ่งคุมพื้นที่เกือบครึ่งสนามนี่ครับ
_______ เรื่องนี้คงต้องปล่อยให้ร็อดเจอร์เลือกเอาเองละครับว่าจะเอายังไง จะเลือกทางไหนมันก็ได้อย่างเสียอย่างทั้งนั้น แต่ที่แน่ๆ จะใช้มันทั้งสองอย่างทุกเกมๆ แบบนี้ไม่น่าจะเวิร์ค

_______ ถ้าดูเฉพาะนัดนี้ การเปลี่ยนมาเล่นไดมอนด์ตอนนาที 67 ผมเห็นด้วยครับเพราะมันเข้าตาจนแล้ว ลองดีกว่าไม่ลอง แต่ช็อคและไม่เห็นด้วยเอามากๆ กับการเปลี่ยนตัวในรายของลูคัสที่ลงมาเล่นในตำแหน่งนั้น คือลูคัสลืมวิธีเล่นเกมรุกไปนานแล้วแต่ต้องขึ้นไปเล่นสูง แน่นอนว่าช่วยอะไรเกมรุกไม่ได้ ในขณะที่เจอราร์ดตอนนั้นก็เริ่มออกอาการหมดแรงวิ่งบ้างแล้วแต่ก็ดันต้องอยู่ต่อแถมยืนต่ำคนเดียวอีกต่างหาก ก็ไม่เข้าใจว่าถ้าจะเล่นไดมอนด์ตอนนั้น ทำไมไม่เปลี่ยนเจอราร์ดออกแล้วเอาลูคัสยืนต่ำ เก็บลัลลาน่าหรือคูตินโย่ไว้สักคน ซึ่งเกมรับหลังจากนั้นจนจบเกมก็มีปัญหามากจริงๆ

_______ ส่วนในรายบอรินี่ลงมาแล้วทำหน้าที่ตัวเองได้ดีครับ

_______ อย่างไรก็ตาม นัดแรกในรอบ 5 ปี กับการลงเล่น UCL เก็บชัยชนะได้ เป็นเรื่องดีแน่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลอีกคู่มาดริดบอบม์บาเซิลซะเละเทะขนาดนั้นยิ่งเข้าทาง นัดต่อไปค่อยว่ากันใหม่แล้วกันครับ
-------------------------------

นัดนี้เล่นกันพอใช้ได้

มินโยเล่ - ไม่ค่อยมีลูกยากให้เซฟ ตัดบอลกลางอากาศและบอลที่ทะลักเข้าเขตโทษได้ดี แต่จังหวะเสียประตูมีส่วนพลาดเยอะเลย คืออกไปช้าไปได้แค่ครึ่งทาง ถ้าจะไปได้แค่นั้นสู้ยืนคุมเส้นซะยังดีกว่า

โมเรโน่ - แทบไม่ได้เล่นเกมรับ ขึ้นแล้วไม่ค่อยลง รู้ว่าผู้จัดการทีมสั่งล่ะ แต่หลายๆ จังหวะ ควรตามลงมาให้ได้เร็วกว่านั้น สำหรับเกมรุกวิ่งทำทางและเชื่อมเกมได้ดี แค่ต้องปรับปรุงการเปิดบอลอีกสักหน่อย

ลอฟเรน - เร็วและเข้าสกัดได้ดี เบียดปะทะได้แข็งแกร่งด้วย แต่อ่านเกมไม่ดีเลย ต้องรอบอลไปก่อนถึงขยับได้แทบจะทุกครั้ง

ซาโก้ - มีปัญหากับลูกกลางอากาศพอสมควร คือโหม่งไม่ค่อยไปไหนสลับกับโหม่งไปไหนไม่รู้ โดยรวมทำได้ดีกับการอ่านเกมและเข้าสกัด แต่บทจะพลาดขึ้นมานี่พลาดหนักจริงๆ อย่างในนาที 71 ที่ยืนผิดตำแหน่งแบบไม่น่าเชื่อจนคู่ต่อสู้ได้หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษได้ง่ายๆ

มานกีโย่ - คล้ายโมเรโน่ แต่วิ่งทำทางไม่ดีเท่า บางจังหวะไปหยุดรอบอลแทนที่จะวิ่งขึ้นหน้า เปิดบอลได้ดูดีกว่าโมเรโน่เล็กน้อย แย่หน่อยตรงที่เพื่อนไม่ค่อยรักเท่าโมเรโน่ ได้บอลน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

เจอราร์ด - ไม่มีพื้นที่ให้วางบอลยาวเท่าไหร่แต่วันนี้เชื่อมเกมได้ดี ช่วง 60 นาทีแรกของเกมเล่นได้ไม่ผิดพลาดทั้งเกมรุกเกมรับ แต่พอผ่าน 60 นาทีไปแล้วเริ่มออกอาการหมดแรง ยิ่งพอทีมเล่นไดมอนด์ เจอราร์ดเล่นพลาดบ่อยขึ้น โดยเฉพาะเกมรับที่วิ่งปิดพื้นที่ไม่ทันเลย ส่วนลูกจุดโทษท้ายเกมยังคงยิงได้นิ่งสมเป็นมือ 1 ของทีมต่อไป

คูตินโย่ - ครึ่งแรกถอยต่ำมาช่วยเชื่อมเกมเยอะ ทำได้ดีในเรื่องนั้น ส่วนการทำเกมรุกพื้นที่สุดท้ายเห็นความพยายามจะผ่านบอลแล้วแต่เอาชนะแนวรับไม่ได้ ครึ่งหลังแทบไม่รู้ว่าอยู่ในสนาม

เฮนเดอร์สัน - ช่วยวิ่งคุมพื้นที่ได้ดีตลอดเกม เชื่อมเกมใช้ได้ เกมรุกยังไม่มีอะไรโดดเด่นเท่าไหร่ทั้งๆ ที่วันนี้ได้เล่นสูงกว่าปกติตั้งแต่เริ่มเกม แต่มาทำได้ดีมากๆ มากชนิดที่น่าจับไปแห่รอบเมืองด้วยการวิ่งเข้าไปฉกบอลและทำให้ทีมได้จุดโทษนำชัย

ลัลลาน่า - ขยันวิ่งไล่ดีแม้จะพรวดพราดไปนิด หาพื้นที่เล่นพอใช้ได้ไม่หายไปจากเกม ข่าวดีคือฟอร์มกระเตื้องขึ้นมาจากนัดก่อน ข่าวร้ายคือกระเตื้องขึ้นมาแค่นิดเดียว

สเตอลิ่ง - ครองบอลเลี้ยงจี้ได้ดีทั้งเกม ครึ่งแรกใช้ความเร็วความคล่องกดดันคู่ต่อสู้ได้ดี แม้จะเปิดบอลไม่ค่อยได้ลุ้นและหาจังหวะยิงเองไม่ได้เลยก็ตาม ครึ่งหลังดูล้าและกดดันได้น้อยลงไปพอสมควร

บาโลเตลลี่ - วิ่งน้อยกว่าคนอื่น ถอยห่างออกจากเขตโทษบ่อยเกินไปสำหรับแทคติคหน้าเดี่ยว เริ่มออกอาการหงุดหงิดให้เห็นบ้างแล้วซึ่งก็น่าเห็นใจเพราะหลายครั้งไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีมากแล้ว...เพื่อนไม่ให้บอล ยังดีว่าวันนี้ทำประตูแรกได้สำเร็จ

ตัวสำรอง

ลูคัส  - นอกจากเสียฟาล์วหน้าเขตโทษให้คู่ต่อสู้ได้ลุ้นฟรีคิกพื้นที่อันตรายแล้วก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลย

บอรินี่ - ขยันวิ่งหาช่องและเรียกฟาล์วได้ดี

แมน ออฟ เดอะ แมทช์ : ...จอร์แดน เฮนเดอร์สัน...ฟอร์มไม่ได้โดดเด่นเปรี้ยงปร้าง เทียบกับสเตอลิ่งและเจอราร์ด(เฉพาะ 60 นาทีแรก) ยังดูด้อยกว่าด้วยซ้ำ แต่เฮนเดอร์สันมีดีตรงที่เล่นได้คงเส้นคงว่าตลอด 90 นาที(...ในหลายๆ ความหมาย) แถมยังมีความขยันจนเรียกจุดโทษท้ายเกมได้ด้วย
------------------------------------------------------------

Everyone has their own opinion, feel free to leave your comments.

EDIT: เนื่องจากความผิดพลาดเรื่องคนเรียกจุดโทษท้ายเกม แก้ไขตามนี้นะครับ (ขอคงอันเดิมที่พลาดไว้ด้วย เพื่อท่านอื่นมาอ่านต่อจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น)

1 มานกีโย่เป็นคนวิ่งเข้าไปฉกบอลและเรียกจุดโทษ ไม่ใช่เฮนเดอร์สัน
2 ในส่วนคอมเม้นต์ของเฮนเดอร์สัน ตัดเรื่องที่เกี่ยวกับการได้จุดโทษออกไปได้เลย
3 MOM ต้องเปลี่ยนจากเฮนเดอร์สันเป็นสเตอลิ่งครับ แบ็คสองข้างเล่นเกมรุกดีแต่ทิ้งเกมรับไปเลย ดังนั้นขอเลือกเป็นสเตอลิ่งที่เลี้ยงจี้พาบอลไปได้ดีทั้งเกมดีกว่าครับ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น